⚠️Warning⚠️
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องแต่งหรือจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวอนิเมะหลักอย่างMy hero Academiaแต่อย่างใด และไม่ได้มีความตั้งใจทำให้ตัวละครหรืออนิเมะดังกล่าวเกิดความเสื่อมเสีย หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้
นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาที่ค่อนข้างรุนแรงในบางส่วน อาจไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า ผู้อ่านควรมีอายุ 15 ปีขึ้นไปและควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
ตัวละครมีความรักต่างวัยที่ค่อนข้างมาก บิดเบี้ยว ยึดติดมากจนเกินพอดีและผิดศีลธรรม มีความคิดที่อยากจะครอบครอง ทำร้าย หรือกักขังหน่วงเหนี่ยว
มีการใช้ความรุนแรงทั้งทางกายและใจ มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวทารุณกรรมเด็กและสัตว์ มีการกล่าวถึงการคุกคามทางด้านเพศ รวมถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอื่นๆที่ไม่ควรลอกเลียนแบบ
ตัวเอกมีทัศนคติและจิตใจที่ไม่ปกติ อ่อนไหวง่ายในบางเรื่อง มีความยึดติดกับสิ่งๆหนึ่งมากเกินพอดี มีปัญหาทางครอบครัว การปลูกฝังความคิดและความเชื่อแบบผิดๆ และมีการกล่าวถึงการฆ่าตัวตายอยู่ซ้ำๆ
มีเรื่องเหนือธรรมชาติที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ และการทดลองที่ผิดจริยธรรม
มีเลือดและการบรรยายถึงการฆ่า
มีการกล่าวถึงการตายของตัวละคร หรือตัวละครที่ตายไปแล้ว
มีการอ้างอิงเนื้อหาและกล่าวถึงสปอยล์บางส่วนมาจากอนิเมะเรื่อง My Hero Academia หรือ Boku no Hero Academia
และมีการหลุดคาแร็กเตอร์หรือOOCของตัวละครบางตัว
.
.
.
** ข้อควรระวัง : โปรดอย่าหลงคารมไปกับตัวละครเอก **
===============
.
.
.
" มิริริ เป็นเด็กดีใช่ไหม? "
เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้าหงึกหงัก ปีกคู่ใหญ่ที่หลังขยับไปมาอย่างขันแข็ง
" เด็กดี เด็กดี "
มือใหญ่ลูกกลุ่มผมสีบลอนด์ทองนุ่มนิ่ม สัมผัสอันเย็บเยียบแต่สำหรับเธอผู้โหยหามันมาตลอดแล้วนั้นช่างอบอุ่น มิริริรู้สึกเสียดายอยู่เล็กๆยามสัมผัสนั้นผละออกไปเร็วกว่าที่คิด
ก่อนจะเริ่มกิจวัตรประจำวัน
พ่อบอกว่ามันคือการตรวจร่างกาย
เพราะร่างกายของมิริรินั้นไม่เหมือนคนปกติทั่วไป พ่อเลยต้องตรวจสอบและปรับแต่งมันอยู่ทุกครั้ง
ครั้งนี้เองก็เช่นกัน
สายรัดที่แขนขาแน่นเสียจนเริ่มมีรอยแดงปรากฏบนผิวขาวเนียน อึดอัดนิดหน่อยแต่เธอทนได้
" อาจจะเจ็บนิดหน่อยนะ "
สายระโยงระยางกับเครื่องมือแปลกๆที่เริ่มเจาะผ่านเข้ามาในร่างกาย ความเจ็บแปล๊บที่ราวกับทั่วทั้งร่างกำลังแตกสลาย
เธอร้องทรมานอย่างคนสิ้นสติ
ดวงตาปริ่มน้ำมองรอยยิ้มน่าขนลุกของพ่อบังเกิดเกล้าอย่างเว้าวอน
ช่างน่าเศร้าที่เขาไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด
รอยยิ้มแสยะและน้ำเสียงน่าขนลุกยังดังก้องอยู่ในหัวทุกครั้งที่หลับตา
" จำไว้นะมิริริ "
" ทุกอย่างนี้ก็เพื่อมะม๊า "
แล้วสติเธอก็ดับไปเช่นทุกครั้ง
" ทำภารกิจ? เหมือนของพี่สาวน่ะหรอ? "
" ใช่แล้วเหมือนกับของมิรุรุ แต่ว่าครั้งนี้มีของบางอย่างที่ต้องให้มิริริช่วยหามาให้ด้วย ทำได้ใช่ไหม? "
เด็กน้อยฉีกยิ้มกว้าง ทุบอกตัวเองด้วยความมั่นใจ
" อื้ม! มิริริจะตั้งใจหานะ! "
" เด็กดี เด็กดี "
เอนหัวทุยไปซบกับฝ่ามือใหญ่แต่ก็ได้เพียงแค่แปปเดียว เป็นเวลาสั้นๆที่เธอจะได้รับความอบอุ่นนั้นถึงแม้มันจะน้อยนิดมากก็ตามที
" มิริริ "
" อื้อ? "
สัมผัสหนักๆบนไหล่ทั้งสองข้างทำแผ่นหลังเล็กของเธอเกร็งขึ้นเสียไม่ได้ ลมหายใจที่เริ่มหนักและถี่กระชั้นทำมิริริรู้สึกอึดอัดแปลกๆ
" อย่าทำพลาดเด็ดขาด เข้าใจใช่ไหม? "
นัยน์ตาสีเหลืองทองสั่นระริกด้วยความกลัวต่อให้เธอฝืนยิ้มกลบเกลื่อนไปยังไง สุดท้ายคนตรงหน้าก็เห็นมันอยู่ดี
ไม่มีเรื่องไหนที่เธอปิดบังเขาได้
รอยยิ้มที่ดูพิลึกพิลั่นวาดผ่านใบหน้าเด็กหญิง เธอพยักหน้าหงึกหงัก
" มิริริจะไม่ทำพลาด "
ไม่เด็ดขาด
ไม่งั้นเธอตายแน่
เมื่อได้คำตอบที่พึงพอใจชายหนุ่มก็ผลิยิ้มอ่อนโยน แต่ดวงตาของเขามันไม่ได้อ่อนโยนตามรอยยิ้มไปด้วยเลยสักนิด
" ดีมาก มิริริเป็นเด็กฉลาดนี่นา ต้องทำได้อยู่แล้ว "
คำพูดที่ดูเหมือนเชื่อมั่นในตัวเด็กหญิงแต่เปล่าเลย
มิริริรู้ดี
นั่นน่ะคำขู่ชัดๆ
" มิริริจะรีบกลับนะ! จะไม่ทำให้พ่อกับมะม๊าต้องรอนาน "
ชายหนุ่มหัวเราะขบขัน ก่อนจะยื่นกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กให้กับลูกสาว
" ไม่เป็นไร ขอแค่สำเร็จก็พอแล้วล่ะ "
" ไปลามะม๊าเร็วเข้าสิ มะม๊าจะต้องเหงามากแน่เลย "
มิริริพยักหน้า วิ่งเตาะแตะไปหาหลอดทดลองอันใหญ่ใจกลางห้อง
ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวหน้าตาสละสลวยกำลังนอนหลับไม่ได้สติอยู่ในนั้น ตั้งแต่เกิดมามิริริก็ไม่เคยคุยกับเธอเลยสักครั้งแม้แต่สบตากันก็ไม่เคย มีเพียงแต่คำบอกเล่าจากปากผู้เป็นพ่อและพี่สาวเท่านั้นที่มิริริรู้
พ่อบอกว่ามะม๊าป่วยเลยต้องนอนอยู่แต่ในหลอดแก้วเย็นๆนั่น เป็นเพราะมิริริเกิดมามะม๊าเลยต้องอยู่แต่ในนั้น
เธอเศร้ามากที่ได้รู้เรื่องนั้น และรู้สึกแย่ที่เธอเกิดมาทำให้มะม๊าป่วย
แต่พ่อบอกว่าถ้ารักษามะม๊าได้สำเร็จมิริริจะได้คุยกับมะม๊าด้วย เพราะงั้นมิริริจะตั้งใจทำงาน เพื่อสักวันหนึ่งเธอจะได้พูดและกอดมะม๊าเหมือนกับที่พ่อเคยทำ
มือเล็กวางแปะลงบนแผ่นแก้วเบาๆ สัมผัสเย็นแผ่ซ่านสู่ปลายนิ้วมือจนเธอรู้สึกขนลุกซู่ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้เอามือออกแต่อย่างใดมิหนำซ้ำยังแนบแก้มไปด้วยอีกต่างหาก
" รอมิริรินะ มิริริจะรีบเอาของมาให้พ่อ พ่อจะได้รักษามะม๊าให้หาย " แล้วมิริริจะได้กอดมะม๊าสักที
" มิริริ " เสียงกดต่ำเร่งให้เธอรีบผละออก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงอ่อนโยนตามเดิม
" มิรุรุน่าจะรอลูกนานแล้ว รีบไปหาพี่เขาสิ "
เธอพยักหน้า โบกมือลาผู้เป็นพ่อแล้ววิ่งเตาะแตะออกจากห้องไป
เสี้ยววินาทีก่อนที่บานประตูจะปิดลง นัยน์ตาสีเหลืองทองเหลือบไปมองร่างในหลอดทดลองอีกครั้งหนึ่ง
" จะรีบกลับมานะ "
" ไม่ได้ลืมอะไรนะ? "
" อื้ม! มิริริเอามาครบทุกอย่างแล้ว! "
เด็กสาวพยักหน้าก่อนจะเดินนำเธอไปยังประตูวาร์ปเกท
" อย่าเดินตามคนแปลกหน้าหรือเอาอะไรแปลกๆเข้าปากล่ะ "
" มิริริไม่ได้โง่นะ! "
แต่ถึงกระนั้นผู้เป็นพี่ก็หาสนใจไม่ เธอยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆมือก็รัวพิมพ์ข้อมูลลงแป้นโฮโลแกรมอย่างตื่อเนื่อง
" อย่าเหม่อด้วย เธอน่ะชอบเหม่อตลอดเลย "
" มะ มิริริเปล่านะ " แอบหลบสายตาที่จ้องมาแม้ว่ามันจะไร้ประโยชน์ก็ตามที
จู่ๆมิรุรุก็หยุดเดินขึ้นมากระทันหัน ทำมิริริที่เดินตามหลังมาชนเข้าดังปั่ก
" มิริริ ... จำไว้ให้ดีล่ะ อย่าเชื่อใจใครง่ายๆ ไม่ว่าจะฉัน ผู้ชายคนนั้น หรือใครก็ตาม "
เด็กน้อยเอียงคอมองพี่สาวคนโต ดวงตากลมใสแจ๋วฉายแววสับสนระคนไม่เข้าใจเด่นชัด
มิรุรุทำเพียงแค่ขยี้กลุ่มผมสีเดียวกันอย่างเอ็นดู
" เธอต้องมีชีวิตรอดนะ มิริริ "
ในตอนนั้นเธอไม่รู้เลยว่ามิรุรุกำลังพยายามจะสื่ออะไรกันแน่
สิ่งที่เธอทำไปในตอนนั้นก็มีเพียงแค่พยักหน้า แล้วฉีกยิ้มสดใสให้ก็เท่านั้น
เหมือนกับที่ผ่านมา ที่เคยทำมาตลอด
ไม่ต้องเข้าใจก็ได้ แค่ฉีกยิ้มแล้วทำเหมือนเข้าใจทุกอย่างก็พอแล้ว
" พี่สาวก็ด้วยนะ! ต้องอยู่ถึงวันที่มะม๊าฟื้นด้วยกันนะ! สัญญา! "
" อ่า ... สัญญา "
" เกี่ยวก้อยสัญญา คนผิดสัญญาต้องกลืนเข็มพันเล่มเลย~! "
" พันเล่ม? โห้ว เธอทนได้ด้วยหรอ? "
" ง่ะ งั้น แค่หนึ่งร้อยเล่ม! "
เสียงหัวเราะหลุดดังพรืดออกมาทันทีที่เห็นท่าทางของผู้เป็นน้องสาว อะไรกันน่ะสายตาล่อกแล่กนั่น
" หนึ่งร้อยก็หนึ่งร้อย "
นิ้วก้อยคนละขนาดเกี่ยวพันกันก่อนจะเขย่าเบาๆ พร้อมกันกับประตูวาร์ปเกทที่ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าคนทั้งสองพอดิบพอดี
เป็นเพียงแค่น้องสาวผู้สดใส และลูกสาวผู้โง่เขลาแบบนั้นต่อไปนั่นแหละ
ดีแล้วล่ะ
.
.
.
ภารกิจที่ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อคนหนึ่งๆ
ทุกๆอย่างนั้นก็เพื่อครอบครัวสุดที่รัก
เอาล่ะ จุดเริ่มต้นแห่งความชิบหายกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
คราวนี้จะGood End หรือBad Endกันนะ?
:)
===============

" Someday I'll spread my wings and fly far away. "
" สักวันหนึ่งฉันจะกางปีกแล้วโผบินออกไปให้ไกลแสนไกล "
" Far enough away that no one or any cage will hold me back. "
" ไกลมากพอที่จะไม่มีใครหรือกรงที่ไหนจะมาจับขังฉันอีก "
-Miriri-
==============

Miriri (???)
" ถ้ามิริริเป็นเด็กดี พ่อจะรักมิริริบ้างไหมนะ? "

Shigaraki Tomura (19)
(Shimura Tenko)
" เหม็นสาป เหม็นสาปพวกฮีโร่ ทำไมเธอถึงได้ชอบไปคลุกคลีกับพวกมันนักล่ะ เธออยู่ข้างฉันนี่ ถึงฉันจะย่อยพวกมันทิ้งไปก็คงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม? ไม่ว่ายังไงเธอก็จะอยู่กับฉันใช่ไหมล่ะ? "

Dabi (23)
(Todoroki Toya)
" อะไรกัน? ได้ใหม่แล้วลืมเก่าเรอะ? --- ใจร้ายจังนะ ไหนบอกว่าฉันเป็นของเธอไง รับผิดชอบซะสิ "

Hawks (22)
(Takami Keigo)
" เธอนี่หน้าตาคุ้นๆแฮะ --- พวกเราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า? "
===============
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ปีใหม่ปีนี้ก็หนีมาเปิดไหดองอันใหม่ซะแล้วล่ะค่ะ แฮะ
กว่าจะได้เปิดตอน คงยาวนานน่าดู (จริงๆนะ)
อ่ะ ถึงคำเตือนจะบอก 15 ปีขึ้นไป แต่ตอนไหนเรทเกินเดะแปะบอกอีกทีค่ะ (คิดว่านะ)
แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะดราม่าถึงขนาดนั้นไหมนะ แต่ความดาร์คนี่มีแน่ๆค่ะ ฮา
ไรท์เป็นพวกไหลไปตามอารมณ์ซะด้วยสิ
ปล.ระหว่างนี้ก็จะแวะมาแก้บทนำบ่อยๆจนกว่าจะพอใจค่ะ ฮา