ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด

    ลำดับตอนที่ #3 : ภาษาญี่ปุ่น

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 49



    ภาษาญี่ปุ่น

    ภาษาญี่ปุ่น (日本語, ) เป็นภาษาราชการ ในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันมีผู้ใช้ภาษาญี่ปุ่นทั่วโลกราว 130 ล้านคน นอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว รัฐอังกาอูร์ สาธารณรัฐปาเลา ได้กำหนดให้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาราชการภาษาหนึ่ง นอกจากนี้ภาษาญี่ปุ่นยังถูกใช้ในหมู่ชาวญี่ปุ่นที่ย้ายไปอยู่นอกประเทศ นักวิจัยญี่ปุ่น และนักธุรกิจต่าง ๆ

    ตัวอักษร

    ตัวอักษรในภาษาญี่ปุ่นสามารถจำแนกออกเป็นสองกลุ่ม คือ ตัวอักษรที่ใช้แทนเสียง ซี่งได้แก่ ฮิระงะนะ และ คะตะคะนะกับ ตัวอักษรที่แสดงความหมาย ที่เรียกว่า คันจิ โดยใช้ร่วมกับตัวเลขอารบิก และตัวอักษรโรมัน ซึ่งจะมีความหลากหลายมากกว่าภาษาที่ใช้ในประเทศใกล้เคียง เช่น ภาษาจีนซึ่งใช้ตัวอักษรจีน เป็นหลัก ส่วนภาษาเกาหลีก็จะใช้อักษรฮันกุลเป็นหลัก

    อย่างไรก็ดี เนื่องจากตัวคันจิซึ่งญี่ปุ่นรับมาจากภาษาจีนนั้นมีจำนวนมาก และบางครั้งมีการใช้ตัวอักษรที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดมาตรฐานของตัวคันจิ ซึ่งเรียกว่า โจโยคันจิ ประกอบด้วยตัวอักษร 1,945 ตัว เป็นตัวคันจิที่คนญี่ปุ่นทั่วไปรู้จัก โดยไม่จำเป็นต้องเขียนคำอ่านกำกับ

     

    ไวยากรณ์

    โครงสร้างประโยคในภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานประกอบด้วย ประธาน + กรรม + กริยา โดยแต่ละส่วนจะมีคำช่วยที่ใช้เชื่อมแต่ละส่วนเข้าด้วยกัน ดังจะได้เห็นจากไวยากรณ์พื้นฐานดังต่อไปนี้

    รูปประโยคบอกเล่าพื้นฐาน

    คำนาม 1 + は + คำนาม 2 + です。

    มีความหมายว่าคำนาม 1 นั้นคือ คำนาม 2 ตัวอย่างเช่น

    わたしは ソムチャイです。 ฉันชื่อสมชาย
    わたしは タイ人(じん)です。 ฉันเป็นคนไทย

    ในโครงสร้างประโยคนี้ใช้ は เป็นคำช่วยใช้ชี้หัวข้อเรื่องที่กำลังจะพูด ในที่นี้คือ "ฉัน" ประโยคบอกเล่าสามารถเปลี่ยนให้เป็นประโยคคำถามเพื่อถามว่าใช่หรือไม่ โดยการเติม か ลงท้ายประโยค เวลาพูดให้ออกเสียงสูงท้ายประโยค ตัวอย่างเช่น

    あなたは 日本人(にほんじん)ですか? คุณเป็นคนญี่ปุ่นใช่หรือไม่
    - いいえ、中国人(ちゅうごくじん)です。 ไม่ใช่, เป็นคนจีน

    คำศัพท์

    わたし ฉัน
    あなた คุณ
    タイ人 คนไทย
    日本人 คนญี่ปุ่น
    アメリカ人 คนอเมริกัน
    中国人 คนจีน
    はい ใช่
    いいえ ไม่ใช่


    ประธาน + は + กรรม + を+ กริยา

    มีความหมายว่า ประธานกระทำกริยากับกรรม ตัวอย่างเช่น

    わたしは ごはんを 食(た)べます。 ฉันกินข้าว
    かれは 本(ほん)を 読(よ)みます。 เขาอ่านหนังสือ

    ในโครงสร้างประโยคนี้ จะเห็นว่าเราใช้คำช่วย を ต่อท้ายคำที่ทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค

    คำศัพท์

    ごはん ข้าว
    หนังสือ
    食べます กิน
    読みます อ่าน
    かれ เขา(ผู้ชาย)
    かのじょ เขา(ผู้หญิง)

    กริยารูปอดีต และปฏิเสธ

    ในภาษาญี่ปุ่นนั้นจะมีการผันรูปของกริยา ไปตามเวลาเช่นเดียวกับภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นในประโยคปฏิเสธจะมีการผันกริยาเพื่อแสดงความหมายว่า "ไม่" อีกด้วย หลักการผันกริยามีดังนี้

    รูปปัจจุบัน บอกเล่า รูปอดีต บอกเล่า รูปปัจจุบัน ปฏิเสธ รูปอดีต ปฏิเสธ
    ーます ーました ーません ーませんでした
    食(た)べます 食べました 食べません 食べませんでした
    飲(の)みます 飲みました 飲みません 飲みませんでした
    見(み)ます 見ました 見ません 見ませんでした
    きょう テレビを 見ます。 วันนี้จะดูโทรทัศน์
    きのう テレビを 見ました。 เมื่อวานดูโทรทัศน์
    きょう テレビを 見ません。 วันนี้จะไม่ดูโทรทัศน์
    きのう テレビを 見ませんでした。 เมื่อวานไม่ได้ดูโทรทัศน์

    คำศัพท์

    見ます ดู
    テレビ โทรทัศน์
    きょう วันนี้
    きのう เมื่อวาน
    さって วันมะรืน


    การเขียนคำทับศัพท์ภาษาญี่ปุ่น

    หน้านี้อธิบายการเขียนคำทับศัพท์ตามโรมาจิ (ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ใช้แทนเสียงภาษาญี่ปุ่น) โดยโรมาจิในปัจจุบันมีอยู่ 3 ระบบในการเขียนได้แก่ นิฮงชิกิ (日本式) แบบดั้งเดิม, คุนเรชิกิ (訓令式) แบบที่ดัดแปลงจากนิโฮนชิคิ และ เฮ็ปเบิร์น (เฮะบนชิคิ, ヘボン式) แบบปรับปรุงพัฒนาตามการออกเสียงจริง ซึ่งเป็นที่นิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน

    ระบบต่างๆของโรมะจิ

    ความหมาย ภาษาญี่ปุ่น คะนะ โรมาจิ
    เฮปเบิร์น คุนเรชิกิ นิฮงชิกิ
    โรมาจิ ローマ字 ローマじ rōmaji rômazi rōmazi
    ภูเขาฟูจิ 富士山 ふじさん Fujisan Huzisan Huzisan
    ชา お茶 おちゃ ocha otya otya
    รัฐบาล 知事 ちじ chiji tizi tizi
    ย่อขนาด 縮む ちぢむ chijimu tizimu tidimu
    (ตอน)ต่อไป 続く つづく tsuzuku tuzuku tuduku

    เสียงตามระบบเฮ็ปเบิร์นเป็นเสียงที่ใกล้เคียงกับการออกเสียงภาษาอังกฤษมากที่สุด โดยในปัจจุบันมีการใช้กันมากที่สุด สำหรับในหนังสือหรือแหล่งอ้างอิงในบางแหล่งอาจจะมีการใช้โรมาจิแบบเก่า ซึ่งเมื่อถอดเสียงต่อมาเป็นภาษาไทย จะทำให้เกิดเสียงเพี้ยนได้ ซึ่งการถอดเสียงภาษาไทย ควรจะอ้างอิงจากตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นเอง เช่นคำว่า ภูเขาูฟูจิ ในตารางด้านบน รูปแบบของเฮ็ปเบิร์นจะใช้ตัวอย่าง ā แทน aa และō แทน oo

    วิธีการถอดเสียงภาษาไทยจากโรมาจิ

    การแยกพยางค์

    แยกพยางค์ก่อน เพราะคำในภาษาญี่ปุ่นประกอบด้วย สระ และ/หรือพยางค์ต้น โดยไม่มีพยางค์ท้ายทุกคำเหมือนภาษาไทยยกเว้น ตัว ん (ออกเสียง ง,น,ม) โดยสระที่อยู่ติดแยกคำอ่าน ยกเว้น aa, ei, ou ถือเป็นพยางค์เดียว

    • chijimu แยก chi-ji-mu อ่าน ชิจิมุ
    • aoi แยก a-o-i อ่าน อะโอะอิ
    • nihongo แยก ni-hon-go อ่าน นิโฮนโงะ
    • toori, tōri แยก too-ri tō-ri อ่าน โทริ
    • Tōkyō แยก Tō-kyō อ่าน โท-เคียว
    • fujieda แยก fu-ji-e-da อ่าน ฟุจิเอะดะ
    • sensei แยก sen-sei อ่าน เซ็นเซ
    • sai แยก sa-i อ่าน ซะอิ

    ตารางเทียบเสียงสระภาษาญี่ปุ่น

    โรมาจิ ตัวอักษรญี่ปุ่น การทับศัพท์ ตัวอย่าง หมายเหตุ
    a อะ yama = ยะมะ  
    aa, ā ああ อา okaasan, okāsan = โอะกาซัง  
    e เอะ ike = อิเกะ  
    ee, ē,ei ええ, えい เอ sensei = เซ็นเซ  
    i อิ hashi = ฮะชิ  
    ii, ī いい อี oniisan, onīsan = โอะนีซัง  
    o โอะ ocha = โอะชะ  
    oo, ō おう หรือ おお โอ sayoonara, sayōnara = ซะโยนะระ  
    u อุ shinbun = ชิมบุง  
    uu, ū うう อู juuyoo, jūyoo = จูโย  
    ya เอียะ kyaku = เคียะกุ  
    yaa, yā ゃあ เอีย nyaanyaa, nn = เนียเนีย  
    yo เอียว ryokoo = เรียวโก  
    yoo, yō ょお เอียว byooin, bin = เบียวอิง  
    yu อิว kyu = คิว  
    yuu, yū ゅう อีว kyuukoo, kkoo = คีวโก  

    ตารางเทียบเสียงพยัญชนะภาษาญี่ปุ่น

    โรมาจิ ตัวอักษรญี่ปุ่น การทับศัพท์ ตัวอย่าง หมายเหตุ
    b ば び ぶ べ ぼ obi = โอะบิ  
    ch chiisai = ชีซะอิ ระบบโรมาจิแบบเก่า จะเขียน t แทนที่ ch
    d だ で ど denwa = เด็งวะ
    Yamada = ยะมะดะ
     
    f Fujisan = ฟุจิซัง
    fune = ฟุเนะ
     
    g (พยางค์แรก) が ぎ ぐ げ ご ginkoo = กิงโก  
    g (พยางค์อื่น ๆ) が ぎ ぐ げ ご arigatoo = อะริงะโต หมายเหตุ: เสียงพยัญชนะ g ในพยางค์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่พยางค์แรก จะออกเสียงใกล้เคียงกับเสียง ง ในภาษาไทย จึงกำหนดให้ใช้
    h は ひ へ ほ hashi = ฮะชิ  
    j じ ぢ kaji = คะจิ  
    k (พยางค์แรก) か き く け こ kao = คะโอะ  
    k (พยางค์อื่น ๆ) か き く け こ niku = นิกุ  
    kk   gakkoo = กักโก หมายเหตุ: เสียงพยัญชนะ k ในพยางค์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่พยางค์แรก จะออกเสียงใกล้เคียงกับเสียง ก ในภาษาไทย จึงกำหนดให้ใช้
    m ま み む め も mado = มะโดะ  
    n な に ぬ ね の Nagoya = นะโงะยะ  
    n ง,น,ม   ดูหมายเหตุท้ายตาราง
    p (พยางค์แรก) ぱ ぴ ぷ ぺ ぽ pen = เพ็ง  
    p (พยางค์อื่น) ぱ ぴ ぷ ぺ ぽ tenpura = เท็มปุระ  
    p (ตัวสะกด)   Nippon = นิปปง หมายเหตุ: เสียงพยัญชนะ p ในพยางค์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่พยางค์แรกจะออกเสียงใกล้เคียงกับเสียง ป ในภาษาไทย จึงกำหนดให้ใช้
    r ら り る れ ろ ringo = ริงโงะ  
    s さ す せ そ sakana = ซะกะนะ  
    s (ตัวสะกด)   kissaten = คิสซะเต็ง  
    sh sashimi = ซะชิมิ ในโรมาจิแบบเก่าอาจเขียน sh เป็น s
    t (พยางค์แรก) た つ て と te = เทะ  
    t (พยางค์อื่น ๆ) た つ て と migite = มิงิเตะ  
    t (ตัวสะกด)   mittsu = มิตสึ  
    tsu สึ tsukue = สึกุเอะ  
    w わ, は watashi = วะตะชิ は ถ้าใช้สำหรับเชื่อมประโยค ออกเสียง วะ นอกนั้นออกเสียง ฮะ ยกเว้น こんにちは อ่าน konnichiwa
    y や ゆ よ yama = ยะมะ  
    z ざ じ ず ぜ ぞ づ mizu = มิซุ  

    หมายเหตุเพิ่มเติม

    • “y” เป็นเสียงกึ่งสระเมื่อตามหลังพยัญชนะจึงกำหนดให้เป็นเสียงสระเพื่อความสะดวกในการออกเสียง

    สำหรับ n ที่เป็นตัวสะกด

    n เมื่อเป็นตัวสะกดจะออกเสียงได้หลายอย่าง จึงกำหนดไว้ดังนี้

    • เมื่อตามด้วยพยัญชนะ b m และ p ให้ถอดเป็น เช่น
      • shinbun = ชิมบุง
      • sanma = ซัมมะ
      • enpitsu = เอ็มปิสึ
    • เมื่อตามด้วยพยัญชนะ g h k และ w ให้ถอดเป็น เช่น
      • ringo = ริงโงะ
      • ginkoo = กิงโก
      • denwa = เด็งวะ
    • เมื่ออยู่ท้ายสุดของคำ ให้ถอดเป็น เช่น
      • hon = ฮง
      • san = ซัง
    • ในกรณีอื่น ๆ นอกจากที่กำหนดไว้ในข้อ 1, 2 และ 3 ให้ถอดเป็น เช่น
      • gunjin = กุนจิง
      • hontoo = ฮนโต
      • undoo = อุนโด
      • chichimenchoo= ชิชิเม็นโช
      • densha = เด็นชะ
      • onna = อนนะ
      • kanri = คันริ
      • dansei = ดันเซ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×