ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จินตนาการนัยความมืด1
Imagine in the Shadow จินตนาการในความมืดมิด #1
Imagine in the Shadow จินตนาการในความมืดมิด #1
...’เอาล่ะ! นักเรียนคะ จำเอาไว้นะคะว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้ในโลกของคนประเภทเรานั้น คือ ความพยายามและความอดทน... พอแค่นี้ได้ค่ะ เจอกันชั่วโมงหน้านะคะ...’...
...ประสาทหูของผมสัมผัสได้ถึงเสียงเลื่อนเก้าอี้ไม้หลายตัวซึ่งส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเพื่อให้คนนั่งลุกขึ้นยืนได้ เสียงพูดคุยจ้อกแจ้กของเหล่านักเรียนที่คุยกันก่อนจะแยกย้ายกันกลับ เสียงฝีเท้าของคนหลายคนที่ค่อย ค่อยออกก้าวเดินไปพร้อม พร้อมกับเสียงของแข็งซึ่งคาดว่าจะเป็นสันของท่อนไม้กระทบพื้นดังกึก กึก...
...ผมสูดลมหายใจเข้าลึก ลึก 2 3 ที ก่อนจะปิดหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งคาดว่าคนปกติคงจะอ่านไม่ออก เก็บสัมภาระลงกระเป๋าสะพายข้าง เอื้อมมือไปหยิบไม้ด้ามยาวประจำตัว แล้วค่อย ค่อยออกก้าวเดินช้า ช้าผ่านพ้นประตูออกมาสู่ทางเดินนอกห้อง...
...’ว่าไงจ๊ะ เด็กดี....บิงโกของแม่ เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านเรากันแล้วนะ รอแป๊บนึง’ ผมค่อย ค่อยนั่งลงยอง ยองกับพื้นข้าง ข้าง เพื่อปลดปมเชือกซึ่งผูกไว้กับลูกบิดประตูห้องให้กับสุนัขเพศเมียพันธ์ลาบลาดอร์ รีทรีฟเวอร์ เพื่อนคู่กายที่อยู่ด้วยกันมากว่า 5 ปี ก็ได้บิงโกและไม้เท้านี่ล่ะ ที่เป็นเพื่อนแท้ที่ร่วมทางไปกับผมในขณะก้าวเดินบนท้องถนนปะปนกับผู้คนมากมาย....
...ผมเป็นอาจารย์พิเศษรับเชิญเดือนละประมาณ 2 ครั้งให้กับโรงเรียนสอนคนตาบอดแห่งนี้ งานประจำของผมคือการถ่ายทอดจินตนาการที่ผมมีอยู่ถึงโลกมนุษย์ในมุมมองอันมืดมิดให้ออกมาเป็นอักษรเบรลล์เพื่อให้คนประเภทอย่างเราสามารถสัมผัสรับรู้มันได้....
...ตั้งแต่ผมอายุได้ 20 ปี แม่ก็จากไปด้วยโรคมะเร็ง โรคร้ายที่มาคร่าชีวิตแม่ไปจากผม ผมจึงต้องยืนหยัดอยู่ด้วยตนเองมาโดยตลอดเป็นเวลา 5 ปีแล้ว ชีวิตของผมก่อนหน้านี้มีแต่แม่เพียงคนเดียว ซึ่งแม่ก็ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกขาดความอบอุ่นเลยสักครั้ง แม่ทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ในคราวเดียวกัน แม่เข้มแข็ง แต่ทว่าอ่อนโยน แม่มีใจที่เด็ดเดียวและอดทน ผมยังจำคำสอนของแม่ได้เป็นอย่างดี ที่ผมยึดไว้เป็นคติเตือนใจตัวเองเสมอมา...
...’ความพยายามและความอดทน คือ สิ่งสำคัญในการเรียนรู้...’
...
...’ให้ฉันช่วยนะคะ...’ เสียงผู้หญิงคนหนึ่ง เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพอ่อนโยนขณะที่ผมกำลังรอข้ามถนน...
...’อ๋อ...เอ่อ...ขอบคุณค่ะ...’ รู้สึกปะหลาดใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่นาน นานที จะมีคนใจดีที่มีน้ำใจเอื้ออารีแก่คนประเภทอย่างเราในสังคมปัจจุบันนี้...
...คนประเภทอย่างเรานั้นไม่ต้องการความสงสารหรือเห็นใจ เพียงแต่ขอโอกาสให้พวกเรามีส่วนร่วมในสังคมบ้างก็เท่านั้นเอง...
...
...ผมสูญเสียการมองเห็นไปตั้งแต่ 5 ขวบ เมื่ออุบัติเหตุทางรถยนต์ในคราวนั้น ซึ่งนั่นก็เป็นช่วงเวลาสุดท้ายในการเรียนรู้โลกกว้างด้วยการมองเห็น และที่สำคัญเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่มีความทรงจำร่วมกันกับพ่อ...
...หลังจากที่หมอเคยบอกกับแม่ไว้ว่าผมมีโอกาสที่จะหาย แต่นั่นก็ต้องอาศัยเงินทุนมากมายมหาศาล แม่เฝ้าเพียรพยายามหาหนทางเพื่อจะให้ผมได้กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง มาเป็นระยะเวลานับ 10 ปี และแล้วความพยายามของแม่ก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อองค์กรจากต่างประเทศตอบรับที่จะให้ผมได้รับโอกาสเข้ารับการผ่าตัดดวงตา...
...
...’อ้าว!...กิม วันนี้กลับแต่หัววันเชียวนะจ๊ะ...’ ป้าสุขผู้ใจดี เจ้าของบ้านเช่ากล่าวทักทายผมอย่างคุ้นเคย...
...’จ้า...ป้าสุข พอดีวันนี้หนูมีสอนพิเศษที่โรงเรียนน่ะ เลยเลิกเร็วหน่อย....’ ผมยิ้มตอบรับป้าและพยายามจะเอื้อมมือไปคว้ามือป้ามาจับเอาไว้...
..
...หลังจากจัดการกับข้าวกล่องและกาแฟเย็นหน้าปากซอย พร้อม พร้อมกับที่บิงโกกินอาหารเม็ดในจานของมันเสร็จแล้ว เราทั้งสองก็พากันมาพักผ่อนที่โซฟาตัวเก่าที่ป้าสุขยกให้ผมเมื่อปีก่อน...
....’บิงโก...ก็มีแต่แกนี่ล่ะนะ ที่อยู่เคียงข้างชั้นเสมอมา นี่...รู้มั๊ย? ชั้นอาจจะมีโอกาสได้มองเห็นอีกครั้งแล้วนะ ดีใจมั๊ย?...’ ผมยิ้มอย่างมีความสุขขณะที่กำลังลูบหัวบิงโกที่ใช้หัวหนุนบนตักของผมอย่างรักใคร่ และดูเหมือนว่าบิงโกจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด มันจึงลุกขึ้นมาเลียที่แก้มผมเบา เบา....
...’อ๋า...รู้แล้ว...บิงโก ว่าแกดีใจกับชั้น...แต่ขอฟังข่าวก่อนนะ’ ผมตบที่หลังของมันเบา เบา 2 3 ทีแล้วลุกขึ้นและก้าวเพียง 2-3 ก้าวด้วยความเคยชินก็ถึงวิทยุเครื่องเล็กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะใหญ่กลางห้อง...
...
...รุ่งเช้า ผมรู้สึกตัวตื่น เมื่อรู้สึกว่าชื้นเปียกที่ใบหน้า บิงโกนั่นเองที่ปลุกผม นี่ผมเผลอเอนหลับบนโซฟากับบิงโกไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย ผมยังคงรู้สึกงัวเงีย แต่ก็ยังลุกไปปิดวิทยุที่มีเพียงเสียงซ่าเพราะสถานีปิดไปนานแล้ว ไก่ตัวผู้ที่อยู่แถว แถวบ้านพักผลัดกันขันเป็นช่วง ช่วง...
...ผมลุกขึ้นจัดแจงอาหารเช้าอย่างง่าย ง่ายเท่าที่จะทำได้ให้กับตัวเองและบิงโก ไม่นานนักเสียงโทรศัพท์ประจำห้องก็ดังขึ้น...
...’คุณกิมครับ ทางองค์กรของเราได้รับการตอบรับจากทางองค์กรใหญ่ที่ต่างประเทศว่าคุณได้รับเลือกให้เป็นกรณีศึกษาในการผ่าตัดเลนส์กระจกตาครับ...’
...’หมายความว่า... ดิฉันมีโอกาสจะได้กลับไปมองเห็นอีกครั้งหนึ่ง ยังงั้นรึคะ?’
...’ใช่แล้วครับ แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพดวงตาของคุณด้วย...’
...หลังจากวางหูโทรศัพท์ไปผมก็รู้สึกว่าหัวใจเต้นระรัวไปด้วยความรู้สึก ทั้งตื่นเต้นดีใจและเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง... แม่คะ หนูดีใจจัง ความพยายามที่แม่เฝ้าเพียรพยายามเพื่อหนูเสมอมาประสบผลสำเร็จได้ครึ่งทางแล้วนะคะแม่ ถึงแม้ในวันนี้ แม่อาจจะไม่ได้มีโอกาสอยู่ร่วมแสดงความยินดีกับหนูในวันนี้ แต่หนูเชื่อค่ะ ว่าแม่รับรู้ได้...ใช่ไหมคะ?...
....
...1 สัปดาห์ต่อมาที่ผมคิดว่ามันช่างดูยาวนานสำหรับการรอคอยเหลือเกิน ทางองค์กรก็ส่งรถมารับผมยังบ้านพัก...
...’นี่...บิงโก เด็กดีของแม่ ชั้นจะไม่อยู่หลายสัปดาห์ บางทีอาจจะเป็นเดือน เป็นเด็กดีล่ะ..รู้ไหม?’ ผมนั่งลงกอดจูบหมาลาบลาดอร์เพศเมียเพื่อนรักของผมด้วยความอาลัยอาวรณ์ และดูเหมือนว่ามันจะรู้เรื่องกับสิ่งที่ผมบอก จึงส่งเสียงครางงื๊ด งื๊ดเป็นการใหญ่...
...’ป้าสุข หนูฝากบิงโกด้วยนะคะป้า นี่เป็นเงินค่าดูแลบิงโกค่ะ...’
...’จ้า...กิม ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ป้าจะดูแลบิงโกของกิมให้ดีที่สุดนะจ๊ะ...’
...’หนูกับบิงโกคงคิดถึงกันแย่เลย...’ ผมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าและโน้มตัวลงมาลูบหัวบิงโกอีกครั้งหนึ่ง...
...’เอาน่ะ กิม คงไม่เคยแยกกันกับบิงโกสินะ เอายังงี้ ถ้าวันไหนป้ามีเวลา ป้าจะพาบิงโกไปเยี่ยมกิมที่โรงพยาบาลแล้วกันจ้ะ...’ ป้าบีบที่บ่าของผมแน่นเป็นการให้กำลังใจ...
...ป้าสุขกับผมคุ้นเคยกันมานาน เพราะตั้งแต่พ่อจากไป แม่ก็พาผมย้ายจากบ้านหลังเก่ามาอยู่ที่บ้านเช่าหลังเล็ก เล็กที่แม่พอจะหาน้ำพักน้ำแรงมาจ่ายค่าเช่าและเลี้ยงดูผมได้อย่างสบาย สบายอย่างมีความสุข...
...
...ที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่พาผมเข้ามายังห้องหนึ่งซึ่งผมสัมผัสได้ว่ามีคนอยู่จำนวนกลุ่มหนึ่ง ทั้งคนไทย และคนต่างชาติ สังเกตได้จากภาษาที่พวกเค้าใช้พูดคุยสื่อสารกัน...
....คุณหมอชาวอเมริกันเล่าผ่านล่ามถึงเรื่องโครงการนี้ให้ฟัง ผมตั้งใจฟังด้วยหัวใจที่เต้นระรัวอย่างมีความหวัง...
...’คุณกิมคะ คุณมีโอกาสที่จะกลับมามองเห็นได้ถึง 90 % แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโครงการนี้ยังอยู่ในขั้นทดสอบ ทางเราจะไม่รับประกันหากเกิดข้อผิดพลาดใด ใดทั้งสิ้น ตอนนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณแล้วล่ะค่ะว่าจะยอมรับข้อเสนอจากทางเราหรือไม่?’
...’ค่ะ ดิฉันยอมรับข้อเสนอ ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะอย่างน้อยดิฉันก็สามารถทำความฝันของแม่ให้เป็นจริงแล้วล่ะค่ะ...’ ถ้าดวงตาของผมเป็นปกติ คงจะฉายแววส่องประกายอย่างแน่แท้...
...’ช่วงก่อนการผ่าตัด 2 สัปดาห์ และหลังการผ่าตัดอย่างน้อย 4 สัปดาห์ คุณจะต้องพักอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ก่อนนะคะ เพื่อที่คุณหมอจะได้ดูแลคุณอย่างใกล้ชิด ทางเราจะจัดพยาบาลประจำตัวเอาไว้เพื่อดูแลคุณโดยเฉพาะ....’
...
...หลังจากเจ้าหน้าที่พาผมมาส่งยังห้องพักพิเศษของทางโรงพยาบาลเพื่อความเป็นส่วนตัว ภายในห้องเย็นฉ่ำไปด้วยไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศ เจ้าหน้าที่จึงขอตัวออกไป ปล่อยให้ผมซึ่งไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำอะไรก่อนดี จึงได้แต่นั่งอยู่ที่เตียงแต่ลำพังผู้เดียว...
...ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศลอยมาสัมผัสใบหน้าของผมอย่างแผ่วเบา ผมค่อย ค่อยสูดลมหายใจเข้าไปลึก ลึกจนเต็มสองปอด แล้วจึงค่อย ค่อยผ่อนมันออกมาอย่างช้า ช้า...
...’ก๊อก ก๊อก’ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เรียกให้ผมต้องหันหน้าไปทางต้นเสียงนั้น....
...’เชิญค่ะ...ประตูไม่ได้ล็อก...’
...เสียงฝีเท้าจากส้นสูงกระทบกันเป็นจังหวะจากการก้าวเดินของใครคนนึง เธอคงเป็นผู้หญิง เพราะมีกลิ่นกายที่ชื้นเหงื่อเพียงเล็กน้อยเคล้าคลอกับกลิ่นน้ำหอมแบบที่ผู้หญิงใช้กันแบบอ่อน อ่อน...ผมรู้สึกปะหลาดใจเล็กน้อยกับความรู้สึกลึก ลึกของตัวเองที่สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างจากเธอคนนี้...
...’สวัสดีค่ะ คุณกิม ดิฉันชื่อ หมวย เป็นพยาบาลประจำห้องพิเศษของตึกฝั่ง B นี้ ซึ่งจะมาดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ’
...’อ๋อ...ค่ะ สวัสดีนะคะหมวย ว่าแต่ 24 ชั่วโมงเลยหรือ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากนะคะ ช่วยตัวเองได้’ ผมรู้สึกได้ว่าเธอมายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว...
...’ก็คุณเป็นคนพิ... อุ๊ย...ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่สมควรพูด...หมวยไม่ได้ตั้งใจนะคะ’
...’ไม่เป็นไรหรอกค่ะ กิมทราบดี กิมชินแล้วล่ะ... กับคำว่าพิการน่ะ...’
...’หมวยเสียใจค่ะกิม คือหมวยหมายถึงคุณยังไม่ชินที่ชินทางน่ะค่ะ แต่ตอนนี้คุณกิมกำลังจะกลับมามองเห็นได้อีกครั้งแล้วนะคะ’ น้ำเสียงของเธอฟังดูรู้สึกผิดอย่างเห็นได้ชัด แต่เธอก็คว้ามือผมข้างหนึ่งและบีบไว้ด้วยสองมือนุ่มที่อบอุ่นของเธอไว้เสียแน่น...
...
...1 สัปดาห์ผ่านไปกับการใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องแคบ แคบที่ไม่คุ้นเคย ผมคิดถึงการสอนนักเรียนที่ผมต้องลางานมา ผมคิดถึงงานที่ผมรัก และคิดถึงบิงโกเหลือเกิน...
...’เฮ้อ.............................’ ผมทอดถอนลมหายใจให้ปลิวไปกับสายลมที่โชยพัดผ่านมากับบรรยากาศที่เงียบเหงา ขณะที่กำลังยืนเกาะขอบระเบียงห้องพักอยู่...
...ได้ยินเสียงประตู้ห้องเปิดออกและเสียงวางของบนโต๊ะซึ่งคาดว่าจะเป็นถาดอาหารที่ตามมาติด ติด...
...’เป็นอะไรไปคะ กิม...’ พยาบาลหมวยนี่เองที่เดินมาสมทบจากทางด้านหลัง...
...’เหงา เหงานิดหน่อยอ่ะค่ะหมวย คิดถึงบิงโกน่ะ...’ น้ำเสียงของผมสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด...
...’ค่ะ หมวยเข้าใจค่ะ กิม อดทนซักหน่อยน่ะคะ เดี๋ยวก็ได้เจอกับบิงโกแล้วนะคะ’ เธอวางฝ่ามือลงที่บ่าผมเพื่อเป็นกำลังใจ...
...’ค่ะ! เอ่อ...หมวยคะ ว่าแต่ห้องพักของกิมเนี่ย อยู่ชั้นไหนหรือ ลืมถามหมวยทุกทีเลยสิน่ะ’ เธอทำให้ผมผ่อนคลาย หายกังวลใจลงไปได้มากเลยทีเดียว...
...’ชั้น 10 ค่ะกิม ทำไมหรอคะ?’ น้ำเสียงพยาบาลหมวยคนนี้ฟังดูสงสัยอยู่ในที...
...’โอ้โห! ตั้งชั้น 10 ถ้ากิมพลัดตกลงไปล่ะก็ แย่เลยนะเนี่ย’
...’นั่นน่ะสิคะ กิม หมวยก็กลัวว่าคุณจะกำลังคิดมากแล้วคิดที่จะกระโดดลงไป ตกใจแทบแย่แน่ะ’
...แล้วเราสองคนก็หัวเราะในกันและกันไปอย่างร่าเริง...
...
...ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์นี้ ผมอยู่กับหมวยตลอด 24 ชั่วโมง แรก แรกผมยังไม่ค่อยคุ้นเคย และเกรงใจถ้าจะต้องปลุกเธอในยามดึกเมื่อนึกอยากจะเข้าห้องน้ำขึ้นมา แต่เธอก็เป็นกันเองและสร้างความคุ้นเคยสนิทสนม ซึ่งทำให้ผมลดความกังวลลงไปได้มากเลยทีเดียว เธอเป็นคนใจดีมีน้ำใจและมีความเมตตาอารี ช่างสมกับอาชีพพยาบาลของเธอเสียจริง....
...ยามว่าง เธอจะอ่านหนังสือให้ผมฟังบ้างและปอกผลไม้ให้ผมทาน เราสนิทสนมกันขึ้นตามลำดับ เราพูดคุยกันถึงเรื่องเกี่ยวกับตัวเองและสิ่งที่เราประสบพบเจอมาให้กันและกันฟัง บางทีหมวยก็แอบบ่นถึงความเหน็ดเหนื่อยจากวิชาชีพการงานให้เป็นเรื่องแบบขำ ขำให้ผมฟัง เธอเป็นคนร่าเริงแจ่มใส เธอนำพาความสุขและเสียงหัวเราะมาสู่ผมอย่างมากมายเลยทีเดียว...
...
...’หมวย... พรุ่งนี้ กิมจะต้องผ่าตัดแล้วสินะ...’
...’ค่ะ หมวยรู้...’
...’...’
...’ทำใจให้สบายนะคะกิม แล้วทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดีค่ะ... เชื่อหมวยนะ’ น้ำเสียงที่อ่อนโยนของเธอ ช่วยให้ผมสบายใจมากยิ่งขึ้น จริงสินะ...ผมเดินมาถึงครึ่งทางแล้ว ผมจะต้องเดินต่อไป จะหันหลังกลับไปไม่ได้อีกแล้ว...
...คืนนั้นพยาบาลหมวยอ่านหนังสือเล่มที่อ่านค้างไว้ตั้งแต่คราวก่อนให้ผมฟังจนเกือบจบผมก็หลับไป...
...รู้สึกตื่นขึ้นมาอีกที่ในตอนเช้าด้วยการปลุกของพยาบาลหมวย ผมตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์สดชื่นแจ่มใสเมื่อได้พักผ่อนเพียงพอและทานอาหารมื้อเช้าได้มากกว่าปกติ จนเมื่อถึงเวลานัดหมาย บุรุษพยาบาลจึงเข้ามาเข็นเตียงผู้ป่วย ระยะทางจากห้องพักถึงห้องผ่าตัดนั้นเป็นระยะทางไกลพอสมควรและต้องลงลิฟท์อีกหลายชั้น...
...ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องผ่าตัดที่ลอยออกมาเมื่อประตูเปิดออก ผมต้องปล่อยมือจากหมวยที่ตามมาด้วยตลอดทาง และนี่ก็เป็นช่วงเวลาแรกหลังจาก 2 สัปดาห์ที่ผมจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร อะไรคนเดียวโดยไม่มีพยาบาลสาวคนนี้อยู่เคียงข้าง...
...’โชคดีนะคะกิม หมวยจะรอกิมอยู่ข้างนอกนะคะ’
...
...ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาสทำให้ผมตัวสั่นเทิ้ม ยาชาที่ฉีดเพื่อลดความเจ็บปวดที่บริเวณใกล้ดวงตาทำให้ผมรู้สึกชาไปหมด หลังจากนั้นจึงหลับไหลไปด้วยฤทธิ์ยานอนหลับ...
...
...ผมฝันถึงใบหน้าแม่ แม่คะ หนูกลับมามองเห็นได้ตามปกติแล้ว... หนูเห็นหน้าแม่ แม่กำลังยิ้มอยู่ แม่คงจะรู้สึกมีความสุขและยินดีไปกับหนูใช่ไหมคะ...
...
...รู้สึกตัวตื่นขึ้นมากอีกที เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ไม่รู้ ผมค่อย ค่อยลองขยับตัวทีละน้อยเพราะรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวไปหมด พอ พอกับความรู้สึกเจ็บปวดที่แผล...
...’อ้าว...กิม รู้สึกตัวแล้วหรือคะ เจ็บแผลมั๊ย?’
...’นิดหน่อยจ้ะหมวย พอทนได้ หมวยจ๊ะ...นี่กิมหลับไปนานเท่าไหร่ล่ะเนี่ย?’
...’ประมาณ 2 วันค่ะ รู้ไหม หมวยเป็นห่วงกิมแทบแย่เลย หิวไหมคะ? เดี๋ยวถ้าทานข้าวเสร็จแล้วถึงจะทานยานะคะ’
...‘จ้า....แต่ว่า ยังไม่ได้อาบน้ำซะ 2 วันนี่ กลิ่นใช้ได้เลยนะ รู้สึกเหนียวตัวพิลึกเลย สงสัยคงต้องอาบน้ำก่อนซะแล้วสิ’
...’อ๊ะ! ยังค่ะ ยังอาบไมได้ค่ะกิม ต้องเช็ดตัวเอา คุณหมอสั่งเอาไว้ เดี๋ยวหมวยจัดการให้ดีกว่านะ’
...’เอ่อ...จะดีหรอหมวย กิม......อาย’
...’แหม...กิมคะ จะอายอะไรกันคะ เราก็ผู้หญิงเหมือนกันนะคะ อีกอย่างหมวยก็เป็นพยาบาลประจำตัวกิมนะ’
...’ประจำใจด้วยก็ดี.......’ ผมเผลอพูดออกมาเบา เบาขณะที่เธอเลี่ยงออกไปเตรียมข้าวของในห้องน้ำแล้ว รู้สึกเขินอาย แต่ก็ซึ้งและประทับใจในตัวพยาบาลหมวยเพิ่มขึ้นไปอีก ทำไมกันนะ... ที่พักหลังมานี้ ผมรู้สึกแปลก แปลกเมื่อได้อยู่ใกล้เธอ นี่เราเป็นอะไรกัน ผมนอนกุมหัวใจตัวเองที่เต้นแรงจนเกือบจะกระเด็นออกมาจากอก...
...
...หลังจากการผ่าตัด พยาบาลหมวยคงต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้น เนื่องจากคุณหมอสั่งไม่ให้ผมทำอะไร อะไรด้วยตนเองมากนัก เธอคงจะเหนื่อยมากเหมือนกันสินะ แต่เธอบอกว่ามันเป็นสิ่งที่เธอทำแล้วเธอมีความสุข...
...
...คืนหนึ่งซึ่งเป็นคืนก่อนที่จะถึงระยะเวลาเปิดผ้าพันแผลออก หลังจากที่หมวยเช็ดตัวให้กับผมเสร็จ ประแป้งทั่วตัวจนหอมแล้ว ผมตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่งั้นอกคงได้ระเบิดตายอย่างแน่นอน...
...’นอนนะคะกิม พักผ่อนเยอะ เยอะจะได้หายไว ไว’
...’เอ่อ...หมวยคะ...ขอกิมสัมผัสใบหน้าหมวยหน่อยได้ไหม?’ ผมพูดออกมาขณะกึ่งนั่งกึ่งนอน...
...’เอ๋?... ทำไมล่ะคะ’
...’กิมแค่อยากรู้น่ะ ว่าหมวยใบหน้าเป็นยังไง’
...’ได้สิคะ แต่หมวยไม่สวยหรอกนะ เดี๋ยวสัมผัสแล้วผิดหวังไม่รู้นะเอ้อ....’
...ผมค่อย ค่อยใช้ฝ่ามือสัมผัสไปทั่วใบหน้าเธอเบา เบาอย่างทะนุถนอม...
...’คุณสวย...’ ผมเผลอพูดออกมาเบา เบาขณะที่นิ้วมือไล่ผ่านจมูกที่โด่งได้รูปของเธอลงมา...
...’ว่าไงนะคะ?’ เธอถามผมเบา เบา...
...’อ๋อ...เปล่าจ้ะ...’ ผมอ้ำอึ้งกับตัวเอง...
...’งั้น...กิมนอนนะคะ พรุ่งนี้คุณหมอนัดแต่เช้าไม่ใช่หรือคะ’
...’เอ่อ...หมวย....หมวยคะ’ ผมรั้งเธอไว้ก่อนที่เธอจะขอตัว...
...’มีอะไรคะ กิม’
...’กิมไม่รู้ใจหมวยหรอกนะ ว่าหมวยจะรู้สึกอะไรยังไง แต่ไม่ว่าจะอะไร กิมอยากบอกหมวยไว้ ว่ากิมรู้สึกดีกับหมวยมาก เอ่อ.........’
...’เอ่อ อะไรคะ คุณคนไข้....’ น้ำเสียงเธอฟังดูแล้วก็รู้ว่าเธอเป็นคนค่อนข้างมองโลกในแง่ดีเหลือเกิน...
...’กิม...เอ่อ........กิม..... กิมชอบหมวยค่ะ’ น้ำเสียงที่ผมย้ำประโยคสุดท้ายอย่างชัดถ้อยชัดคำ...
...’เอ่อ....ค่ะ เอ่อ เดี๋ยวหมวย....เอ่อ’ เป็นครั้งแรกที่น้ำเสียงเธอฟังดูไม่มั่นใจในตัวเอง เธอคงกำลังงงและเขิน จนทำอะไรไม่ถูกกระมัง...
...’หมวยยังไม่ต้องตัดสินใจตอบกิมคืนนี้ก็ได้ค่ะ...กิมแค่อยากบอกความรู้สึกที่มีข้างในใจก็เท่านั้น’
...’ค่ะ... งั้นหมวย...ขอตัวก่อนนะ...แล้วเจอกัน’ เธอปิดประตูห้องและเดินจากไปในคืนนั้น...
...
...รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีขณะเตียงนอนตัวเองโดนเข็นไปที่ไหนสักแห่ง...
...’เอ่อ...’ ผมยังคงรู้สึกงัวเงียอยู่ในอาการง่วงนอนอย่างเห็นได้ชัด เพราะเมื่อคืนกว่าจะข่มใจหลับได้ก็ใช้เวลานานเกือบทั้งคืน...
...’ตื่นแล้วหรือคะ คุณกิม วันนี้เป็นวันครบกำหนดเปิดผ้าพันแผลเพื่อดูผลการผ่าตัดยังไงล่ะคะ จำไม่ได้หรือคะ?’ เสียงพยาบาลสาวใหญ่วัยกลางคนผู้ที่เดินคุมเตียงมาพร้อมกับผมเอ่ยขึ้น...
...’อ๋อค่ะ...จำได้ค่ะ เพียงแต่......’
...เพียงแต่อะไรคะ คุณกิม?’
...’ป่ะ...เปล่าค่ะ’ ผมรู้สึกฉงนใจว่าทำไม...ใครคนนึง...หายไปไหน? ซึ่งใครคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน ใครคนนั้นก็คือหมวยนั่นเอง...
...เธอจะคิดมากกับสิ่งที่ผมพูดเมื่อคืนรึเปล่านะ บางที...เธออาจจะนึกรังเกียจผมไปแล้วก็ได้กระมังที่ไปเอ่ยปากบอกชอบเธอแบบตรง ตรงไปยังงั้น ในขณะที่เราเป็นผู้หญิงเหมือนกันในความรู้สึกของเธอ... ไม่รู้สิ ผมคิดแต่เพียงว่า เมื่ออยู่ข้าง ข้างเธอ ผมรู้สึกอบอุ่น และอยากที่จะอยู่ด้วยกันกับเธอตลอดไป...
...ไม่หรอกน่ะ หมวยคงไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ ที่นึกจะปฎิเสธใครก็ทำได้เสียง่ายๆยังงั้น เธอมีความคิดเป็นของตัวเองในแง่ดี แต่เธออาจจะตั้งตัวไม่ติดเมื่อถูกเพศเดียวกันสารภาพรัก หรือไม่เธอคงจะเก็บกลับไปนั่งคิดมากหรือคิดที่จะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็วันนี้เธอคงไม่ว่าง ต้องเข้าเวรกะทันหันกระมัง...
...ขณะที่ผมกำลังนอนคิดวนเวียนไปมาในสมองในความมืดมิดภายใต้ผ้าพันแผล ประตูบานหนึ่งก็ถูกเปิดออกและไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศก็ทำให้ผมต้องตัวสั่นเทิ้มอีกครั้งหนึ่ง และเสียงอื้ออึงจากการพูดคุยของผู้คนในนั้น ทั้งชายไทยและชาวต่างชาติเงียบกริบลงอย่างพร้อมเพรียงกัน....
...’Good Morning, Miss Kim ’ คุณหมอชาวต่างชาติเริ่มกล่าวทักทายโดยมีล่ามสาวชาวไทยคอยแปลเป็นภาษาไทยอีกต่อหนึ่งเมื่อจบในแต่ละประโยค...
...’คุณกิมคะ ต่อไปจะเป็นการเปิดผ้าพันแผลเพื่อดูผลการผ่าตัดแล้วนะคะ...’
....
...หัวใจของผมเต้นระรัวขึ้นอีกครั้ง นี่คงเป็นช่วงเวลาที่ผมรอคอยมาทั้งชีวิต... แม่คะ แม่เอาใจช่วยหนูด้วยนะคะ...
...หมวย... เอาใจช่วยกิมด้วยนะ หมวยจะรู้บ้างไหม ว่าคนที่เดียวอยากเห็นเป็นคนแรกในตอนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย แต่เป็นคุณคนเดียวนะ หมวย...
...
...คุณหมอค่อย ค่อยคลายปมผ้าก๊อซที่พันเอาไว้อย่างประณีตออกอย่างช้า ช้า หัวใจผมยิ่งเต้นระรัวเข้าไปอีกด้วยความตื่นเต้น...
...’เอาล่ะคะคุณกิม คุณหมอสตีฟกำชับให้คุณค่อย ค่อยลืมตาช้า ช้านะคะ เพราะดวงตาจะได้ค่อย ค่อยปรับสภาพเพื่อสู้กับแสงสว่างค่ะ...’
...ดวงตาที่ผมเคยพบแต่ความมืดมิดทุกครั้งยามที่มีลมหายใจอยู่ ในเวลานี้ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบมากว่า 20 ปีได้กลับคืนมาสู่ผมอีกครั้ง...ผมรู้สึกว่าดวงตาของผมค่อย ค่อยปรับสภาพสู้กับแสงสว่างทีละนิด
...หมวย หมวยอยู่แถวนี้รึเปล่าจ๊ะ กิมอยากเห็นหน้าหมวยเป็นคนแรกใจจะขาดแล้วนะ ตื่นเต้นจังเลยที่จะได้เจอกัน...
...’คุณหมอสตีฟถามว่ารู้สึกยังไงบ้างคะ ช่วงแรกดวงตาจะยังใช้งานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพนะคะ...’
...’ก็ยังรู้สึกแปลก แปลกค่ะ เบลอ เบลอค่ะ...เห็น แต่ไม่ค่อยชัด’
...เสียงปรบมือของกลุ่มคนที่อยู่ในห้องดังกึกก้องไปพร้อม พร้อมกับเสียงโห่ร้องแสดงความยินดี แต่ภายใต้ความยินดีปรีดาของผู้คนเหล่านี้ ยังมีผมที่ในเวลานี้เต็มไปด้วยความผิดหวังที่ซ่อนอยู่ในใจส่วนลึก....
...เมื่อผมพบว่า ...หมวย... คุณไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้...
Imagine in the Shadow จินตนาการในความมืดมิด #1
...’เอาล่ะ! นักเรียนคะ จำเอาไว้นะคะว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้ในโลกของคนประเภทเรานั้น คือ ความพยายามและความอดทน... พอแค่นี้ได้ค่ะ เจอกันชั่วโมงหน้านะคะ...’...
...ประสาทหูของผมสัมผัสได้ถึงเสียงเลื่อนเก้าอี้ไม้หลายตัวซึ่งส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเพื่อให้คนนั่งลุกขึ้นยืนได้ เสียงพูดคุยจ้อกแจ้กของเหล่านักเรียนที่คุยกันก่อนจะแยกย้ายกันกลับ เสียงฝีเท้าของคนหลายคนที่ค่อย ค่อยออกก้าวเดินไปพร้อม พร้อมกับเสียงของแข็งซึ่งคาดว่าจะเป็นสันของท่อนไม้กระทบพื้นดังกึก กึก...
...ผมสูดลมหายใจเข้าลึก ลึก 2 3 ที ก่อนจะปิดหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งคาดว่าคนปกติคงจะอ่านไม่ออก เก็บสัมภาระลงกระเป๋าสะพายข้าง เอื้อมมือไปหยิบไม้ด้ามยาวประจำตัว แล้วค่อย ค่อยออกก้าวเดินช้า ช้าผ่านพ้นประตูออกมาสู่ทางเดินนอกห้อง...
...’ว่าไงจ๊ะ เด็กดี....บิงโกของแม่ เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านเรากันแล้วนะ รอแป๊บนึง’ ผมค่อย ค่อยนั่งลงยอง ยองกับพื้นข้าง ข้าง เพื่อปลดปมเชือกซึ่งผูกไว้กับลูกบิดประตูห้องให้กับสุนัขเพศเมียพันธ์ลาบลาดอร์ รีทรีฟเวอร์ เพื่อนคู่กายที่อยู่ด้วยกันมากว่า 5 ปี ก็ได้บิงโกและไม้เท้านี่ล่ะ ที่เป็นเพื่อนแท้ที่ร่วมทางไปกับผมในขณะก้าวเดินบนท้องถนนปะปนกับผู้คนมากมาย....
...ผมเป็นอาจารย์พิเศษรับเชิญเดือนละประมาณ 2 ครั้งให้กับโรงเรียนสอนคนตาบอดแห่งนี้ งานประจำของผมคือการถ่ายทอดจินตนาการที่ผมมีอยู่ถึงโลกมนุษย์ในมุมมองอันมืดมิดให้ออกมาเป็นอักษรเบรลล์เพื่อให้คนประเภทอย่างเราสามารถสัมผัสรับรู้มันได้....
...ตั้งแต่ผมอายุได้ 20 ปี แม่ก็จากไปด้วยโรคมะเร็ง โรคร้ายที่มาคร่าชีวิตแม่ไปจากผม ผมจึงต้องยืนหยัดอยู่ด้วยตนเองมาโดยตลอดเป็นเวลา 5 ปีแล้ว ชีวิตของผมก่อนหน้านี้มีแต่แม่เพียงคนเดียว ซึ่งแม่ก็ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกขาดความอบอุ่นเลยสักครั้ง แม่ทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ในคราวเดียวกัน แม่เข้มแข็ง แต่ทว่าอ่อนโยน แม่มีใจที่เด็ดเดียวและอดทน ผมยังจำคำสอนของแม่ได้เป็นอย่างดี ที่ผมยึดไว้เป็นคติเตือนใจตัวเองเสมอมา...
...’ความพยายามและความอดทน คือ สิ่งสำคัญในการเรียนรู้...’
...
...’ให้ฉันช่วยนะคะ...’ เสียงผู้หญิงคนหนึ่ง เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพอ่อนโยนขณะที่ผมกำลังรอข้ามถนน...
...’อ๋อ...เอ่อ...ขอบคุณค่ะ...’ รู้สึกปะหลาดใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่นาน นานที จะมีคนใจดีที่มีน้ำใจเอื้ออารีแก่คนประเภทอย่างเราในสังคมปัจจุบันนี้...
...คนประเภทอย่างเรานั้นไม่ต้องการความสงสารหรือเห็นใจ เพียงแต่ขอโอกาสให้พวกเรามีส่วนร่วมในสังคมบ้างก็เท่านั้นเอง...
...
...ผมสูญเสียการมองเห็นไปตั้งแต่ 5 ขวบ เมื่ออุบัติเหตุทางรถยนต์ในคราวนั้น ซึ่งนั่นก็เป็นช่วงเวลาสุดท้ายในการเรียนรู้โลกกว้างด้วยการมองเห็น และที่สำคัญเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่มีความทรงจำร่วมกันกับพ่อ...
...หลังจากที่หมอเคยบอกกับแม่ไว้ว่าผมมีโอกาสที่จะหาย แต่นั่นก็ต้องอาศัยเงินทุนมากมายมหาศาล แม่เฝ้าเพียรพยายามหาหนทางเพื่อจะให้ผมได้กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง มาเป็นระยะเวลานับ 10 ปี และแล้วความพยายามของแม่ก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อองค์กรจากต่างประเทศตอบรับที่จะให้ผมได้รับโอกาสเข้ารับการผ่าตัดดวงตา...
...
...’อ้าว!...กิม วันนี้กลับแต่หัววันเชียวนะจ๊ะ...’ ป้าสุขผู้ใจดี เจ้าของบ้านเช่ากล่าวทักทายผมอย่างคุ้นเคย...
...’จ้า...ป้าสุข พอดีวันนี้หนูมีสอนพิเศษที่โรงเรียนน่ะ เลยเลิกเร็วหน่อย....’ ผมยิ้มตอบรับป้าและพยายามจะเอื้อมมือไปคว้ามือป้ามาจับเอาไว้...
..
...หลังจากจัดการกับข้าวกล่องและกาแฟเย็นหน้าปากซอย พร้อม พร้อมกับที่บิงโกกินอาหารเม็ดในจานของมันเสร็จแล้ว เราทั้งสองก็พากันมาพักผ่อนที่โซฟาตัวเก่าที่ป้าสุขยกให้ผมเมื่อปีก่อน...
....’บิงโก...ก็มีแต่แกนี่ล่ะนะ ที่อยู่เคียงข้างชั้นเสมอมา นี่...รู้มั๊ย? ชั้นอาจจะมีโอกาสได้มองเห็นอีกครั้งแล้วนะ ดีใจมั๊ย?...’ ผมยิ้มอย่างมีความสุขขณะที่กำลังลูบหัวบิงโกที่ใช้หัวหนุนบนตักของผมอย่างรักใคร่ และดูเหมือนว่าบิงโกจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด มันจึงลุกขึ้นมาเลียที่แก้มผมเบา เบา....
...’อ๋า...รู้แล้ว...บิงโก ว่าแกดีใจกับชั้น...แต่ขอฟังข่าวก่อนนะ’ ผมตบที่หลังของมันเบา เบา 2 3 ทีแล้วลุกขึ้นและก้าวเพียง 2-3 ก้าวด้วยความเคยชินก็ถึงวิทยุเครื่องเล็กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะใหญ่กลางห้อง...
...
...รุ่งเช้า ผมรู้สึกตัวตื่น เมื่อรู้สึกว่าชื้นเปียกที่ใบหน้า บิงโกนั่นเองที่ปลุกผม นี่ผมเผลอเอนหลับบนโซฟากับบิงโกไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย ผมยังคงรู้สึกงัวเงีย แต่ก็ยังลุกไปปิดวิทยุที่มีเพียงเสียงซ่าเพราะสถานีปิดไปนานแล้ว ไก่ตัวผู้ที่อยู่แถว แถวบ้านพักผลัดกันขันเป็นช่วง ช่วง...
...ผมลุกขึ้นจัดแจงอาหารเช้าอย่างง่าย ง่ายเท่าที่จะทำได้ให้กับตัวเองและบิงโก ไม่นานนักเสียงโทรศัพท์ประจำห้องก็ดังขึ้น...
...’คุณกิมครับ ทางองค์กรของเราได้รับการตอบรับจากทางองค์กรใหญ่ที่ต่างประเทศว่าคุณได้รับเลือกให้เป็นกรณีศึกษาในการผ่าตัดเลนส์กระจกตาครับ...’
...’หมายความว่า... ดิฉันมีโอกาสจะได้กลับไปมองเห็นอีกครั้งหนึ่ง ยังงั้นรึคะ?’
...’ใช่แล้วครับ แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพดวงตาของคุณด้วย...’
...หลังจากวางหูโทรศัพท์ไปผมก็รู้สึกว่าหัวใจเต้นระรัวไปด้วยความรู้สึก ทั้งตื่นเต้นดีใจและเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง... แม่คะ หนูดีใจจัง ความพยายามที่แม่เฝ้าเพียรพยายามเพื่อหนูเสมอมาประสบผลสำเร็จได้ครึ่งทางแล้วนะคะแม่ ถึงแม้ในวันนี้ แม่อาจจะไม่ได้มีโอกาสอยู่ร่วมแสดงความยินดีกับหนูในวันนี้ แต่หนูเชื่อค่ะ ว่าแม่รับรู้ได้...ใช่ไหมคะ?...
....
...1 สัปดาห์ต่อมาที่ผมคิดว่ามันช่างดูยาวนานสำหรับการรอคอยเหลือเกิน ทางองค์กรก็ส่งรถมารับผมยังบ้านพัก...
...’นี่...บิงโก เด็กดีของแม่ ชั้นจะไม่อยู่หลายสัปดาห์ บางทีอาจจะเป็นเดือน เป็นเด็กดีล่ะ..รู้ไหม?’ ผมนั่งลงกอดจูบหมาลาบลาดอร์เพศเมียเพื่อนรักของผมด้วยความอาลัยอาวรณ์ และดูเหมือนว่ามันจะรู้เรื่องกับสิ่งที่ผมบอก จึงส่งเสียงครางงื๊ด งื๊ดเป็นการใหญ่...
...’ป้าสุข หนูฝากบิงโกด้วยนะคะป้า นี่เป็นเงินค่าดูแลบิงโกค่ะ...’
...’จ้า...กิม ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ป้าจะดูแลบิงโกของกิมให้ดีที่สุดนะจ๊ะ...’
...’หนูกับบิงโกคงคิดถึงกันแย่เลย...’ ผมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าและโน้มตัวลงมาลูบหัวบิงโกอีกครั้งหนึ่ง...
...’เอาน่ะ กิม คงไม่เคยแยกกันกับบิงโกสินะ เอายังงี้ ถ้าวันไหนป้ามีเวลา ป้าจะพาบิงโกไปเยี่ยมกิมที่โรงพยาบาลแล้วกันจ้ะ...’ ป้าบีบที่บ่าของผมแน่นเป็นการให้กำลังใจ...
...ป้าสุขกับผมคุ้นเคยกันมานาน เพราะตั้งแต่พ่อจากไป แม่ก็พาผมย้ายจากบ้านหลังเก่ามาอยู่ที่บ้านเช่าหลังเล็ก เล็กที่แม่พอจะหาน้ำพักน้ำแรงมาจ่ายค่าเช่าและเลี้ยงดูผมได้อย่างสบาย สบายอย่างมีความสุข...
...
...ที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่พาผมเข้ามายังห้องหนึ่งซึ่งผมสัมผัสได้ว่ามีคนอยู่จำนวนกลุ่มหนึ่ง ทั้งคนไทย และคนต่างชาติ สังเกตได้จากภาษาที่พวกเค้าใช้พูดคุยสื่อสารกัน...
....คุณหมอชาวอเมริกันเล่าผ่านล่ามถึงเรื่องโครงการนี้ให้ฟัง ผมตั้งใจฟังด้วยหัวใจที่เต้นระรัวอย่างมีความหวัง...
...’คุณกิมคะ คุณมีโอกาสที่จะกลับมามองเห็นได้ถึง 90 % แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโครงการนี้ยังอยู่ในขั้นทดสอบ ทางเราจะไม่รับประกันหากเกิดข้อผิดพลาดใด ใดทั้งสิ้น ตอนนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณแล้วล่ะค่ะว่าจะยอมรับข้อเสนอจากทางเราหรือไม่?’
...’ค่ะ ดิฉันยอมรับข้อเสนอ ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะอย่างน้อยดิฉันก็สามารถทำความฝันของแม่ให้เป็นจริงแล้วล่ะค่ะ...’ ถ้าดวงตาของผมเป็นปกติ คงจะฉายแววส่องประกายอย่างแน่แท้...
...’ช่วงก่อนการผ่าตัด 2 สัปดาห์ และหลังการผ่าตัดอย่างน้อย 4 สัปดาห์ คุณจะต้องพักอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ก่อนนะคะ เพื่อที่คุณหมอจะได้ดูแลคุณอย่างใกล้ชิด ทางเราจะจัดพยาบาลประจำตัวเอาไว้เพื่อดูแลคุณโดยเฉพาะ....’
...
...หลังจากเจ้าหน้าที่พาผมมาส่งยังห้องพักพิเศษของทางโรงพยาบาลเพื่อความเป็นส่วนตัว ภายในห้องเย็นฉ่ำไปด้วยไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศ เจ้าหน้าที่จึงขอตัวออกไป ปล่อยให้ผมซึ่งไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำอะไรก่อนดี จึงได้แต่นั่งอยู่ที่เตียงแต่ลำพังผู้เดียว...
...ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศลอยมาสัมผัสใบหน้าของผมอย่างแผ่วเบา ผมค่อย ค่อยสูดลมหายใจเข้าไปลึก ลึกจนเต็มสองปอด แล้วจึงค่อย ค่อยผ่อนมันออกมาอย่างช้า ช้า...
...’ก๊อก ก๊อก’ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เรียกให้ผมต้องหันหน้าไปทางต้นเสียงนั้น....
...’เชิญค่ะ...ประตูไม่ได้ล็อก...’
...เสียงฝีเท้าจากส้นสูงกระทบกันเป็นจังหวะจากการก้าวเดินของใครคนนึง เธอคงเป็นผู้หญิง เพราะมีกลิ่นกายที่ชื้นเหงื่อเพียงเล็กน้อยเคล้าคลอกับกลิ่นน้ำหอมแบบที่ผู้หญิงใช้กันแบบอ่อน อ่อน...ผมรู้สึกปะหลาดใจเล็กน้อยกับความรู้สึกลึก ลึกของตัวเองที่สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างจากเธอคนนี้...
...’สวัสดีค่ะ คุณกิม ดิฉันชื่อ หมวย เป็นพยาบาลประจำห้องพิเศษของตึกฝั่ง B นี้ ซึ่งจะมาดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ’
...’อ๋อ...ค่ะ สวัสดีนะคะหมวย ว่าแต่ 24 ชั่วโมงเลยหรือ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากนะคะ ช่วยตัวเองได้’ ผมรู้สึกได้ว่าเธอมายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว...
...’ก็คุณเป็นคนพิ... อุ๊ย...ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่สมควรพูด...หมวยไม่ได้ตั้งใจนะคะ’
...’ไม่เป็นไรหรอกค่ะ กิมทราบดี กิมชินแล้วล่ะ... กับคำว่าพิการน่ะ...’
...’หมวยเสียใจค่ะกิม คือหมวยหมายถึงคุณยังไม่ชินที่ชินทางน่ะค่ะ แต่ตอนนี้คุณกิมกำลังจะกลับมามองเห็นได้อีกครั้งแล้วนะคะ’ น้ำเสียงของเธอฟังดูรู้สึกผิดอย่างเห็นได้ชัด แต่เธอก็คว้ามือผมข้างหนึ่งและบีบไว้ด้วยสองมือนุ่มที่อบอุ่นของเธอไว้เสียแน่น...
...
...1 สัปดาห์ผ่านไปกับการใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องแคบ แคบที่ไม่คุ้นเคย ผมคิดถึงการสอนนักเรียนที่ผมต้องลางานมา ผมคิดถึงงานที่ผมรัก และคิดถึงบิงโกเหลือเกิน...
...’เฮ้อ.............................’ ผมทอดถอนลมหายใจให้ปลิวไปกับสายลมที่โชยพัดผ่านมากับบรรยากาศที่เงียบเหงา ขณะที่กำลังยืนเกาะขอบระเบียงห้องพักอยู่...
...ได้ยินเสียงประตู้ห้องเปิดออกและเสียงวางของบนโต๊ะซึ่งคาดว่าจะเป็นถาดอาหารที่ตามมาติด ติด...
...’เป็นอะไรไปคะ กิม...’ พยาบาลหมวยนี่เองที่เดินมาสมทบจากทางด้านหลัง...
...’เหงา เหงานิดหน่อยอ่ะค่ะหมวย คิดถึงบิงโกน่ะ...’ น้ำเสียงของผมสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด...
...’ค่ะ หมวยเข้าใจค่ะ กิม อดทนซักหน่อยน่ะคะ เดี๋ยวก็ได้เจอกับบิงโกแล้วนะคะ’ เธอวางฝ่ามือลงที่บ่าผมเพื่อเป็นกำลังใจ...
...’ค่ะ! เอ่อ...หมวยคะ ว่าแต่ห้องพักของกิมเนี่ย อยู่ชั้นไหนหรือ ลืมถามหมวยทุกทีเลยสิน่ะ’ เธอทำให้ผมผ่อนคลาย หายกังวลใจลงไปได้มากเลยทีเดียว...
...’ชั้น 10 ค่ะกิม ทำไมหรอคะ?’ น้ำเสียงพยาบาลหมวยคนนี้ฟังดูสงสัยอยู่ในที...
...’โอ้โห! ตั้งชั้น 10 ถ้ากิมพลัดตกลงไปล่ะก็ แย่เลยนะเนี่ย’
...’นั่นน่ะสิคะ กิม หมวยก็กลัวว่าคุณจะกำลังคิดมากแล้วคิดที่จะกระโดดลงไป ตกใจแทบแย่แน่ะ’
...แล้วเราสองคนก็หัวเราะในกันและกันไปอย่างร่าเริง...
...
...ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์นี้ ผมอยู่กับหมวยตลอด 24 ชั่วโมง แรก แรกผมยังไม่ค่อยคุ้นเคย และเกรงใจถ้าจะต้องปลุกเธอในยามดึกเมื่อนึกอยากจะเข้าห้องน้ำขึ้นมา แต่เธอก็เป็นกันเองและสร้างความคุ้นเคยสนิทสนม ซึ่งทำให้ผมลดความกังวลลงไปได้มากเลยทีเดียว เธอเป็นคนใจดีมีน้ำใจและมีความเมตตาอารี ช่างสมกับอาชีพพยาบาลของเธอเสียจริง....
...ยามว่าง เธอจะอ่านหนังสือให้ผมฟังบ้างและปอกผลไม้ให้ผมทาน เราสนิทสนมกันขึ้นตามลำดับ เราพูดคุยกันถึงเรื่องเกี่ยวกับตัวเองและสิ่งที่เราประสบพบเจอมาให้กันและกันฟัง บางทีหมวยก็แอบบ่นถึงความเหน็ดเหนื่อยจากวิชาชีพการงานให้เป็นเรื่องแบบขำ ขำให้ผมฟัง เธอเป็นคนร่าเริงแจ่มใส เธอนำพาความสุขและเสียงหัวเราะมาสู่ผมอย่างมากมายเลยทีเดียว...
...
...’หมวย... พรุ่งนี้ กิมจะต้องผ่าตัดแล้วสินะ...’
...’ค่ะ หมวยรู้...’
...’...’
...’ทำใจให้สบายนะคะกิม แล้วทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดีค่ะ... เชื่อหมวยนะ’ น้ำเสียงที่อ่อนโยนของเธอ ช่วยให้ผมสบายใจมากยิ่งขึ้น จริงสินะ...ผมเดินมาถึงครึ่งทางแล้ว ผมจะต้องเดินต่อไป จะหันหลังกลับไปไม่ได้อีกแล้ว...
...คืนนั้นพยาบาลหมวยอ่านหนังสือเล่มที่อ่านค้างไว้ตั้งแต่คราวก่อนให้ผมฟังจนเกือบจบผมก็หลับไป...
...รู้สึกตื่นขึ้นมาอีกที่ในตอนเช้าด้วยการปลุกของพยาบาลหมวย ผมตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์สดชื่นแจ่มใสเมื่อได้พักผ่อนเพียงพอและทานอาหารมื้อเช้าได้มากกว่าปกติ จนเมื่อถึงเวลานัดหมาย บุรุษพยาบาลจึงเข้ามาเข็นเตียงผู้ป่วย ระยะทางจากห้องพักถึงห้องผ่าตัดนั้นเป็นระยะทางไกลพอสมควรและต้องลงลิฟท์อีกหลายชั้น...
...ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องผ่าตัดที่ลอยออกมาเมื่อประตูเปิดออก ผมต้องปล่อยมือจากหมวยที่ตามมาด้วยตลอดทาง และนี่ก็เป็นช่วงเวลาแรกหลังจาก 2 สัปดาห์ที่ผมจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร อะไรคนเดียวโดยไม่มีพยาบาลสาวคนนี้อยู่เคียงข้าง...
...’โชคดีนะคะกิม หมวยจะรอกิมอยู่ข้างนอกนะคะ’
...
...ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาสทำให้ผมตัวสั่นเทิ้ม ยาชาที่ฉีดเพื่อลดความเจ็บปวดที่บริเวณใกล้ดวงตาทำให้ผมรู้สึกชาไปหมด หลังจากนั้นจึงหลับไหลไปด้วยฤทธิ์ยานอนหลับ...
...
...ผมฝันถึงใบหน้าแม่ แม่คะ หนูกลับมามองเห็นได้ตามปกติแล้ว... หนูเห็นหน้าแม่ แม่กำลังยิ้มอยู่ แม่คงจะรู้สึกมีความสุขและยินดีไปกับหนูใช่ไหมคะ...
...
...รู้สึกตัวตื่นขึ้นมากอีกที เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ไม่รู้ ผมค่อย ค่อยลองขยับตัวทีละน้อยเพราะรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวไปหมด พอ พอกับความรู้สึกเจ็บปวดที่แผล...
...’อ้าว...กิม รู้สึกตัวแล้วหรือคะ เจ็บแผลมั๊ย?’
...’นิดหน่อยจ้ะหมวย พอทนได้ หมวยจ๊ะ...นี่กิมหลับไปนานเท่าไหร่ล่ะเนี่ย?’
...’ประมาณ 2 วันค่ะ รู้ไหม หมวยเป็นห่วงกิมแทบแย่เลย หิวไหมคะ? เดี๋ยวถ้าทานข้าวเสร็จแล้วถึงจะทานยานะคะ’
...‘จ้า....แต่ว่า ยังไม่ได้อาบน้ำซะ 2 วันนี่ กลิ่นใช้ได้เลยนะ รู้สึกเหนียวตัวพิลึกเลย สงสัยคงต้องอาบน้ำก่อนซะแล้วสิ’
...’อ๊ะ! ยังค่ะ ยังอาบไมได้ค่ะกิม ต้องเช็ดตัวเอา คุณหมอสั่งเอาไว้ เดี๋ยวหมวยจัดการให้ดีกว่านะ’
...’เอ่อ...จะดีหรอหมวย กิม......อาย’
...’แหม...กิมคะ จะอายอะไรกันคะ เราก็ผู้หญิงเหมือนกันนะคะ อีกอย่างหมวยก็เป็นพยาบาลประจำตัวกิมนะ’
...’ประจำใจด้วยก็ดี.......’ ผมเผลอพูดออกมาเบา เบาขณะที่เธอเลี่ยงออกไปเตรียมข้าวของในห้องน้ำแล้ว รู้สึกเขินอาย แต่ก็ซึ้งและประทับใจในตัวพยาบาลหมวยเพิ่มขึ้นไปอีก ทำไมกันนะ... ที่พักหลังมานี้ ผมรู้สึกแปลก แปลกเมื่อได้อยู่ใกล้เธอ นี่เราเป็นอะไรกัน ผมนอนกุมหัวใจตัวเองที่เต้นแรงจนเกือบจะกระเด็นออกมาจากอก...
...
...หลังจากการผ่าตัด พยาบาลหมวยคงต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้น เนื่องจากคุณหมอสั่งไม่ให้ผมทำอะไร อะไรด้วยตนเองมากนัก เธอคงจะเหนื่อยมากเหมือนกันสินะ แต่เธอบอกว่ามันเป็นสิ่งที่เธอทำแล้วเธอมีความสุข...
...
...คืนหนึ่งซึ่งเป็นคืนก่อนที่จะถึงระยะเวลาเปิดผ้าพันแผลออก หลังจากที่หมวยเช็ดตัวให้กับผมเสร็จ ประแป้งทั่วตัวจนหอมแล้ว ผมตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่งั้นอกคงได้ระเบิดตายอย่างแน่นอน...
...’นอนนะคะกิม พักผ่อนเยอะ เยอะจะได้หายไว ไว’
...’เอ่อ...หมวยคะ...ขอกิมสัมผัสใบหน้าหมวยหน่อยได้ไหม?’ ผมพูดออกมาขณะกึ่งนั่งกึ่งนอน...
...’เอ๋?... ทำไมล่ะคะ’
...’กิมแค่อยากรู้น่ะ ว่าหมวยใบหน้าเป็นยังไง’
...’ได้สิคะ แต่หมวยไม่สวยหรอกนะ เดี๋ยวสัมผัสแล้วผิดหวังไม่รู้นะเอ้อ....’
...ผมค่อย ค่อยใช้ฝ่ามือสัมผัสไปทั่วใบหน้าเธอเบา เบาอย่างทะนุถนอม...
...’คุณสวย...’ ผมเผลอพูดออกมาเบา เบาขณะที่นิ้วมือไล่ผ่านจมูกที่โด่งได้รูปของเธอลงมา...
...’ว่าไงนะคะ?’ เธอถามผมเบา เบา...
...’อ๋อ...เปล่าจ้ะ...’ ผมอ้ำอึ้งกับตัวเอง...
...’งั้น...กิมนอนนะคะ พรุ่งนี้คุณหมอนัดแต่เช้าไม่ใช่หรือคะ’
...’เอ่อ...หมวย....หมวยคะ’ ผมรั้งเธอไว้ก่อนที่เธอจะขอตัว...
...’มีอะไรคะ กิม’
...’กิมไม่รู้ใจหมวยหรอกนะ ว่าหมวยจะรู้สึกอะไรยังไง แต่ไม่ว่าจะอะไร กิมอยากบอกหมวยไว้ ว่ากิมรู้สึกดีกับหมวยมาก เอ่อ.........’
...’เอ่อ อะไรคะ คุณคนไข้....’ น้ำเสียงเธอฟังดูแล้วก็รู้ว่าเธอเป็นคนค่อนข้างมองโลกในแง่ดีเหลือเกิน...
...’กิม...เอ่อ........กิม..... กิมชอบหมวยค่ะ’ น้ำเสียงที่ผมย้ำประโยคสุดท้ายอย่างชัดถ้อยชัดคำ...
...’เอ่อ....ค่ะ เอ่อ เดี๋ยวหมวย....เอ่อ’ เป็นครั้งแรกที่น้ำเสียงเธอฟังดูไม่มั่นใจในตัวเอง เธอคงกำลังงงและเขิน จนทำอะไรไม่ถูกกระมัง...
...’หมวยยังไม่ต้องตัดสินใจตอบกิมคืนนี้ก็ได้ค่ะ...กิมแค่อยากบอกความรู้สึกที่มีข้างในใจก็เท่านั้น’
...’ค่ะ... งั้นหมวย...ขอตัวก่อนนะ...แล้วเจอกัน’ เธอปิดประตูห้องและเดินจากไปในคืนนั้น...
...
...รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีขณะเตียงนอนตัวเองโดนเข็นไปที่ไหนสักแห่ง...
...’เอ่อ...’ ผมยังคงรู้สึกงัวเงียอยู่ในอาการง่วงนอนอย่างเห็นได้ชัด เพราะเมื่อคืนกว่าจะข่มใจหลับได้ก็ใช้เวลานานเกือบทั้งคืน...
...’ตื่นแล้วหรือคะ คุณกิม วันนี้เป็นวันครบกำหนดเปิดผ้าพันแผลเพื่อดูผลการผ่าตัดยังไงล่ะคะ จำไม่ได้หรือคะ?’ เสียงพยาบาลสาวใหญ่วัยกลางคนผู้ที่เดินคุมเตียงมาพร้อมกับผมเอ่ยขึ้น...
...’อ๋อค่ะ...จำได้ค่ะ เพียงแต่......’
...เพียงแต่อะไรคะ คุณกิม?’
...’ป่ะ...เปล่าค่ะ’ ผมรู้สึกฉงนใจว่าทำไม...ใครคนนึง...หายไปไหน? ซึ่งใครคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน ใครคนนั้นก็คือหมวยนั่นเอง...
...เธอจะคิดมากกับสิ่งที่ผมพูดเมื่อคืนรึเปล่านะ บางที...เธออาจจะนึกรังเกียจผมไปแล้วก็ได้กระมังที่ไปเอ่ยปากบอกชอบเธอแบบตรง ตรงไปยังงั้น ในขณะที่เราเป็นผู้หญิงเหมือนกันในความรู้สึกของเธอ... ไม่รู้สิ ผมคิดแต่เพียงว่า เมื่ออยู่ข้าง ข้างเธอ ผมรู้สึกอบอุ่น และอยากที่จะอยู่ด้วยกันกับเธอตลอดไป...
...ไม่หรอกน่ะ หมวยคงไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ ที่นึกจะปฎิเสธใครก็ทำได้เสียง่ายๆยังงั้น เธอมีความคิดเป็นของตัวเองในแง่ดี แต่เธออาจจะตั้งตัวไม่ติดเมื่อถูกเพศเดียวกันสารภาพรัก หรือไม่เธอคงจะเก็บกลับไปนั่งคิดมากหรือคิดที่จะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็วันนี้เธอคงไม่ว่าง ต้องเข้าเวรกะทันหันกระมัง...
...ขณะที่ผมกำลังนอนคิดวนเวียนไปมาในสมองในความมืดมิดภายใต้ผ้าพันแผล ประตูบานหนึ่งก็ถูกเปิดออกและไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศก็ทำให้ผมต้องตัวสั่นเทิ้มอีกครั้งหนึ่ง และเสียงอื้ออึงจากการพูดคุยของผู้คนในนั้น ทั้งชายไทยและชาวต่างชาติเงียบกริบลงอย่างพร้อมเพรียงกัน....
...’Good Morning, Miss Kim ’ คุณหมอชาวต่างชาติเริ่มกล่าวทักทายโดยมีล่ามสาวชาวไทยคอยแปลเป็นภาษาไทยอีกต่อหนึ่งเมื่อจบในแต่ละประโยค...
...’คุณกิมคะ ต่อไปจะเป็นการเปิดผ้าพันแผลเพื่อดูผลการผ่าตัดแล้วนะคะ...’
....
...หัวใจของผมเต้นระรัวขึ้นอีกครั้ง นี่คงเป็นช่วงเวลาที่ผมรอคอยมาทั้งชีวิต... แม่คะ แม่เอาใจช่วยหนูด้วยนะคะ...
...หมวย... เอาใจช่วยกิมด้วยนะ หมวยจะรู้บ้างไหม ว่าคนที่เดียวอยากเห็นเป็นคนแรกในตอนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย แต่เป็นคุณคนเดียวนะ หมวย...
...
...คุณหมอค่อย ค่อยคลายปมผ้าก๊อซที่พันเอาไว้อย่างประณีตออกอย่างช้า ช้า หัวใจผมยิ่งเต้นระรัวเข้าไปอีกด้วยความตื่นเต้น...
...’เอาล่ะคะคุณกิม คุณหมอสตีฟกำชับให้คุณค่อย ค่อยลืมตาช้า ช้านะคะ เพราะดวงตาจะได้ค่อย ค่อยปรับสภาพเพื่อสู้กับแสงสว่างค่ะ...’
...ดวงตาที่ผมเคยพบแต่ความมืดมิดทุกครั้งยามที่มีลมหายใจอยู่ ในเวลานี้ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบมากว่า 20 ปีได้กลับคืนมาสู่ผมอีกครั้ง...ผมรู้สึกว่าดวงตาของผมค่อย ค่อยปรับสภาพสู้กับแสงสว่างทีละนิด
...หมวย หมวยอยู่แถวนี้รึเปล่าจ๊ะ กิมอยากเห็นหน้าหมวยเป็นคนแรกใจจะขาดแล้วนะ ตื่นเต้นจังเลยที่จะได้เจอกัน...
...’คุณหมอสตีฟถามว่ารู้สึกยังไงบ้างคะ ช่วงแรกดวงตาจะยังใช้งานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพนะคะ...’
...’ก็ยังรู้สึกแปลก แปลกค่ะ เบลอ เบลอค่ะ...เห็น แต่ไม่ค่อยชัด’
...เสียงปรบมือของกลุ่มคนที่อยู่ในห้องดังกึกก้องไปพร้อม พร้อมกับเสียงโห่ร้องแสดงความยินดี แต่ภายใต้ความยินดีปรีดาของผู้คนเหล่านี้ ยังมีผมที่ในเวลานี้เต็มไปด้วยความผิดหวังที่ซ่อนอยู่ในใจส่วนลึก....
...เมื่อผมพบว่า ...หมวย... คุณไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น