ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ GOT7 ] Hello my Ghost Luck | Bnior

    ลำดับตอนที่ #3 : EPISODE 2 : Help me please

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 61



       EPISODE 2 
      Help me please 





    อัตราการเต้นของหัวใจสั่นระรัวแรง เช่นเดียวกับจังหวะหายใจหอบที่ดังขึ้นผสมปนเปไปด้วยความเหนื่อยล้าและหวาดผวา ความมืดข้างหน้าช่างน่ากลัวเหลือเกิน .. แต่นั่นก็ไม่เท่ากับมัจจุราชในคราบมนุษย์ที่อยู่ด้านหลัง

    เลิกตามมาซะที ..



    "หยุด ฉันบอกให้แกหยุด"



    "โถ่เว้ย ฉันบอกให้แกหยุดไง"



    หยุดหรอ หยุดรอรับความตาย.. แบบที่เขาเห็นเมื่อครู่น่ะหรอ

    ขอไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า



    เด็กหนุ่มยังคงวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ ปากทางของซอยลึกอยู่อีกไม่ไกล อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น เขามั่นใจว่าหากหลุดจากซอยเปลี่ยวนี้ไปได้ โอกาสที่เขาจะรอดชีวิตต้องมีมากขึ้นอย่างแน่นอน 




    มือหยาบกร้านไม่ต่างจากจิตใจล้วงหยิบวัตถุสีดำที่เหน็บไว้กับกางเกงขึ้นมา หยดเหงื่อที่ชุ่มไปทั้งใบหน้าและร่างกายไม่อาจชะโลมล้างความโหดร้ายไปได้แม้แต่น้อย 


    ก่อนที่กวางจะหนีเข้าไปในป่า นายพรานคงต้องทำอะไรสักอย่าง ..เพื่อไม่ให้เหยื่อหลุดมือ



    "ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย"



    กวางน้อยส่งเสียงไปพร้อมๆกับโบกไม้โบกมือ เขามาถึงที่ปากทางแล้ว และถนนที่เขามองว่าเป็นความหวังนั้นก็.. เงียบ สงัด



    ปลายกระบอกปืนเล็งนิ่งไปที่เป้าหมาย ไกปืนถูกกดลงอย่างช้าๆ 



    สาม..


    "ช่วยด้วยครับ ทางนี้ครับ"



    สอง..



    "จอดด้วยครับ ช่วยผมด้วยครับ"



    และ.. 




















    แสงแดดอ่อนๆส่องผ่านหน้าต่างกระทบบนใบหน้าคมคาย หัวคิ้วย่นเข้าหากันแทบจะทันทีก่อนจะคว้าเอาหมอนใบโตมาปิดบังความจริงที่ว่าแสงอาทิตย์ยามเช้ากำลังปลุกเขาอยู่ ขออีกสักสองนาทีเถอะน่า..


    ครืนน.. เสียงแห่งความโหวหิวเล็ดลอดออกมาจากแผ่นท้องแบนราบ ก่อนเสียงถอนหายใจจะตามหลังมาติดๆ ย่า! ไอท้องเวรนี่  ขอนอนอีกซักหน่อยก็ไม่ได้!













    ฟู่ว ลมอุ่นถูกเป่าผ่านเส้นรามยอนคำโตที่ถูกคีบอยู่บนตะเกียบอย่างชำนาญก่อนจะย้ายเข้าไปบดเคี้ยวในปาก นั่นทำให้รสชาติเผ็ดร้อนแผ่ซ่านไปทั่วทันที

    อิมแจบอมหลับตาพริ้มขณะปากเคี้ยวตุ้ยๆ กินอาหารเช้าหน้าร้านสะดวกซื้อล่างอพาร์ทเมนต์นี่ดีจะตาย สะดวก ง่าย สบายกระเป๋าอีกต่างหาก..


    "ผู้กองอิม ไก่กับเบียร์กันเถอะครับ"

    "เย็นนี้ฉลองปิดคดี โซจูซักชุดมั้ยครับ"



    "ฮึก ฮึก" แจบอมรู้ดีว่านั่นก็แค่คิดเข้าข้างตัวเอง เสียงและบรรยากาศของการทำงานยังกระตุกต่อมคิดถึงของเขาอยู่เรื่อยๆ ก็แน่สิ คนเสพติดการทำงานอย่างเขาต้องมานั่งเหงาๆอยู่หน้ามาร์ทแบบนี้มันใช่หรอ


    แต่จะให้ไปหาไอแจ็คมันทุกวันเดี๋ยวก็จะโดนเมียมันตีเอา คิดแล้วก็ว่า หรือเราต้องหาเมียเป็นของตัวเองบ้างวะ.. บ๊ะ ไร้สาระน่าอิมแจบอม


    มือหนาประคองชามกระดาษยกขึ้นซดน้ำซุปที่ยังเหลืออยู่ ความอุ่นร้อนไหลผ่านลำคอจนกระทั่งหยดสุดท้าย 



    "เอาเหอะ คิดซะว่าได้พักร้อนละกันไอแจบอ.. ย๊าก พ่อแก้วแม่แก๊ว!" 


    อิมแจบอมร้องเสียงหลงจนไม่เหลือลุคเท่ๆอันเป็นที่จดจำของแคชเชียร์ด้านในร้านสะดวกซื้อ ชามกระดาษลอยละลิ่วไปตามแรงมือที่สะบัดไปมา เช่นเดียวกับขาทั้งสองข้างที่งอยกขึ้นแบบไม่ค่อยถูกท่าทางนัก 

    จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง ก็พอลดชามรามยอนลงก็เห็นหน้าตาแป๋วๆจ้องอยู่อย่างนั้น แม่งเอ๊ยหัวใจแทบวาย


    จินยองอมยิ้มกลั้นขำเมื่อเห็นท่าทางของคนตรงหน้า ตาเรียวเล็กหลับปี๋พร้อมกับเอามือมากุมตรงอกเหมือนกับคนแก่ๆที่เป็นโรคหัวใจ ลมหายใจหนักสูดเข้าออกเป็นจังหวะเดียวกับแรงกระเพื่อมของหน้าอกที่ทำให้ลาดไหล่กว้างขยับขึ้นลงตามไปด้วย


    "นี่ลุง ตกใจขนาดนั้นเลยหรอ" 


    ฝ่ายถูกถามค่อยๆลืมตาขึ้นข้างหนึ่ง เด็กผู้ชายคุ้นตานั่งทำหน้ายิ้มอยู่ตรงข้าม อะไรกัน ตอนเขามานั่งตรงนี้ที่เก้าอี้ตรงข้ามยังว่างอยู่เลยนี่..


    "นี่นายอีกแล้วหรอ เป็นผีหรอไงฮะ อ๋อ หรือจะท้าทาย อยากโดนจับจริงๆใช่มั้ย"


    อิมแจบอมพอตั้งสติได้ก็รัวใส่อีกฝ่ายไม่ยั้ง หารู้ไม่ว่าประโยคที่พูดไปทำให้จินยองใจกระตุกไม่น้อย ก็เขาเป็นผีจริงๆนี่นา แต่จะให้ตอบว่า ใช่ ผมเป็นผี ก็ดูจะแปลกไปเสียหน่อย ยิ่งจากสภาพเมื่อครู่แล้ว .. ตาขาวเหมือนกันนะเนี่ย


    "ผมแค่อยากขอให้ลุงช่วยผมหน่อย ได้มั้ย" 


    "อะไร หน้าฉันดูใจบุญมากเลยหรอ อยากได้ความช่วยเหลือก็ไปขอมูลนิธิหรืออาสาโน่นไป" คนหัวเสียขึ้นเสียงพร้อมกับลุกยืนจนเต็มความสูง อันที่จริงแจบอมไม่ใช่คนใจร้ายใจดำอะไรนักหรอก แค่อารมณ์เสียกับสิ่งที่เพิ่งเจอก็เท่านั้น แล้วยิ่งเป็นไอเด็กนี่ที่อยู่ๆก็ไปอยู่ๆก็มายิ่งทำให้เขาหงุดหงิดเข้าไปใหญ่


    "มีแค่ลุง มีแค่ลุงคนเดียวที่ช่วยผมได้" แน่ล่ะ ก็ลุงเป็นคนเดียวที่มองเห็นผมนี่


    มือกว้างรวบถุงบรรจุของบนโต๊ะที่เพิ่งซื้อจากมาร์ทมาไว้กับตัว ทอดสายตามองคนตัวเล็กที่ช้อนตาขึ้นมองอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตัดสินใจเดินออกไปอย่างไม่สนใจใยดี


    .. แต่หน้าตามันก็น่าสงสารอยู่นะ


    ไม่สิ ไอเด็กนั่นมันเป็นสิบแปดมงกุฎรึเปล่า จะไปสนใจมันทำไม


    ใช่ เราต้องไม่สนใจ!



    ใช่แล้ว คนอย่างอิมแจบอม จิตใจแน่วแน่แข็งแกร่งดั่งหินผา ตัดสินใจแล้วต้องไม่เปลี่ยนใจสิวะ !























    รถหรูสีดำขลับจอดสนิทหน้าบ้านหลังโอ่อ่า ก่อนที่ประตูฝั่งคนขับจะเปิดออก ปรากฏกายของลูกชายเจ้าของบ้าน 


    ร่างสูงโปร่งก้าวเข้าบ้านอย่างช้าๆ ริมฝีปากหยักผิวปากไปพลางถอดแจ็คเก็ตยีนส์ออกเผยให้เห็นแขนขาวสีน้ำนมนวลที่หลุดลอดจากเสื้อยืดสีควันบุหรี่ 


    "กลับมาแล้วหรอยูคยอม"


    ประโยคคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบดังขึ้นจากด้านหลังทำให้เสียงผิวปากหยุดลงไปชั่วคราว รวมไปถึงจังหวะก้าวของขายาวใต้กางเกงรัดรูปสีดำก็ชะงักไปเช่นกัน

    ยูคยอมรู้ดีว่าเจ้าของเสียงด้านหลังนั้นคือพ่อของเขา และเพราะว่ารู้ดีนั่นเอง เขาจึงเลือกที่จะไม่ตอบสนองใดๆต่อคำถามนั้น


    "แกหายไปไหนมาทั้งคืน"


    "ผมไปนอนบ้านเพื่อน"


    "อย่ามาโกหก แกมีเพื่อนที่ไหนกันไอยูคยอม"


    ตากลมโตกระตุกไหว ใช่แล้ว เขาโกหก และพ่อของเขาพูดถูก ยูคยอมไม่มีเพื่อนที่ไหนเลย .. 

    เขาต้องโทษใครดี ระหว่างพ่อที่เอาแต่ปูทางสวยหรูจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ หรือตัวเองที่เริ่มปิดกั้นจากคนรอบตัวเสียเอง


    "แกไปเมามาอีกแล้วใช่ไหม นี่แกรู้ไหมว่าฉันต้องเหนื่อยขนาดไหนที่ต้องไปตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้แกไม่เว้นแต่ละวัน.."


    มือขาวกำเข้าหากันแน่นจนเห็นเส้นเลือดนูนปูด มันเก็บทั้งความโกรธและละอายใจไว้ด้วยกัน เขาเกลียดการที่พ่อเป็นคนใหญ่คนโต เกลียดการที่พ่อบังคับให้เขาต้องเดินตามเส้นทางที่ถูกวาดไว้ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็เกลียดตัวเองที่ไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่าการมีบารมีของพ่อคุ้มกะลาหัวมันดีขนาดไหน



    "..ทำตัวเป็นลูกชายคนเดียวที่ดีมันยากนักหรือไง .." บทสนทนาฝ่ายเดียวยังคงดังขึ้นจากคิมยูนซอกผู้เป็นพ่อ โดยมีเพียงแผ่นหลังนิ่งงันของลูกชายเท่านั้นในกรอบสายตา

    "เงินทองฉันมีให้แก รถ บ้าน สมบัติฉันมีพร้อมให้แก หน้าที่การงานชั้นก็สร้างไว้ให้แก ฉันมีทุกอย่างให้แกแล้วยูคยอม ทำไมแก.."



    "พ่อ..ให้ผมทุกอย่างแล้วจริงๆหรอ"


    ประโยคแรกจากลูกชายดังขึ้นทำให้ผู้เป็นพ่อเงียบไป ยูคยอมค่อยๆหันหลังมาประชันหน้าพร้อมกับสายตาที่ยากจะอธิบายถึงความรู้สึก เขาเก็บมันมานาน และดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะไม่ต้องเก็บมันไว้อีกแล้ว


    "ผมมีเงิน มีรถ มีสมบัติจากพ่อ ผมขอบคุณมากจริงๆครับ.."


    "แต่สิ่งที่ผมอยากได้จริงๆ ผมกลับไม่เคยได้จากพ่อเลย"



    ยูคยอมกัดปากข่มความเจ็บปวดจากข้างใน ..สิ่งที่เขาอยากได้ ก็แค่


    ความรัก ความเข้าใจ จากผู้เป็นพ่อ


    ก็เท่านั้น..



    ร่างสูงโปร่งขยับเขยื้อนอีกครั้ง ทว่าไม่ได้เดินขึ้นบันไดไปยังห้องตัวเองที่ชั้นสองของบ้านอย่างทุกครั้ง แต่กลับเป็นทางออกไปสู่ข้างนอกที่เขาเพิ่งเข้ามาเมื่อครู่


    "แกจะไปไหน" น้ำเสียงสั่นเต็มไปด้วยความโกรธเค้นออกจากลำคอของคิมยูนซอก เมื่อลูกชายเดินผลุนผลันสวนออกไปโดยแทบไม่ได้มองหน้าด้วยซ้ำ 



    "เออ แกจะไปไหนก็ไป.."


    "..แต่ห้ามเอาสมบัติของฉันออกไปแม้แต่ชิ้นเดียว!"




    สิ้นเสียงของผู้เป็นพ่อ บัตรเครดิตและกุญแจรถก็ถูกวางไว้บนกระโปรงหน้ารถคันงาม ก่อนที่จะเห็นเพียงด้านหลังของคิมยูคยอมที่ค่อยๆเดินออกไปไกลขึ้นเท่านั้น




















    "ผมเข้าไปได้หรอ"


    "ก็เปิดให้เข้า หรือจะอยู่ข้างนอกก็ตามใจนะ ไม่บังคับ" 


    เหมือนว่าอิมแจบอมจะฝากจิตใจอันแน่วแน่แข็งแกร่งดั่งหินผาไว้กับแมวใต้พาร์ทเมนต์ไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าตัวอยู่ๆก็กลับคำพาเด็กหนุ่มด้านหลังตามขึ้นห้องพักมาด้วยเสียอย่างนั้น 


    ..ก็แค่ทำหน้าที่ตำรวจที่ดีของประชาชนเท่านั้นแหล่ะน่า


    "เข้าได้จริงๆใช่มั้ยครับ"


    "เออ เข้ามา ต้องให้ปูพรมหรือไง"



    จินยองส่ายหัวแล้วค่อยๆก้าวตามเจ้าของห้องเข้ามาด้านใน เหตุผลที่เขาต้องถามย้ำหลายรอบก็เพราะบางครั้งการเข้าไปในที่ที่มีเจ้าของนั้นจำเป็นต้องได้รับการอนุญาตเสียก่อน ดีจริงๆ เป็นผีพร้อมกับเข้าคอร์สสมบัติผู้ดีไปในตัว


    อิมแจบอมจัดแจงข้าวของที่ซื้อมาเข้าตู้เย็นพร้อมจัดวางตามที่ที่ควรจะอยู่ ขณะที่อีก(คน)กำลังเดินสำรวจไปทั่วห้อง 


    ภายในห้องเช่าขนาดกลางถูกตกแต่งด้วยสีขาว เทา และดำเป็นส่วนใหญ่ ดูๆไปแล้วสไตล์ของอิมแจบอมก็คงเป็นผู้ชายเรียบๆ ไม่ได้อินกับของสะสมหรืออะไรที่เป็นสิ่งบันเทิงใจมากนัก เพราะนอกจากของใช้จำเป็นอย่าง โต๊ะ ตู้ เตียง อะไรทำนองนั้นแล้ว ก็เห็นจะมีแต่กองเอกสารที่วางระเกะกะไปทั่ว .. แม้กระทั่งบนพื้น 


    "นี่ ฉันให้นายเข้ามาเพราะเห็นว่าข้างนอกลมมันแรงหรอกนะ.." แจบอมอ้างเหตุผลที่ดูไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวยาวกลางห้อง พลางเหลือบมองอีกฝ่ายที่เดินไปมาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก 



    "..แล้วนี่จะเดินจนพื้นห้องฉันสึกเลยหรือไง"



    "อ่า ขอโทษครับ" จินยองสะดุ้งเบาๆ


    เด็กหนุ่มตัวน้อยเดินกลับมานั่งบนเก้าอี้ตัวสูงที่ไม่ห่างจากตำแหน่งของแจบอมนัก ริมฝีปากมนเม้มเข้าหากันอย่างครุ่นคิด


    "ว่าไง มีเรื่องอะไร แล้วถ้าเรื่องที่นายขอให้ช่วยเป็นเรื่องไร้สาระนะ ฉันจะเตะ.."
     

    "คือ.." เสียงแผ่วเบาแทรกขึ้นพร้อมกับจดจ้องนัยน์ตาสีเข้มไปยังอีกฝ่าย

    "..ผมอยากให้ลุงช่วยหาใครบางคนให้ผม" 


    "นี่ ฉันไม่ใช่มูลนิธิกระจกเงานะไอหนุ่ม แล้วฉันก็ไม่ได้แก่ขนาดเป็นลุง.." อิมแจบอมชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนาตัวจ้อย

    เพราะสายตาที่มองมานั้น มันช่างว่างเปล่า แต่ก็เศร้าในเวลาเดียวกัน.. อิมแจบอมก็บอกกับตัวเองไม่ถูกเหมือนกันแต่.. มันเหมือนกับว่า


    เขากำลังเป็นความหวังเดียวของเด็กผู้ชายคนนี้


    "อ อะ แล้วนายจะให้ฉันตามหาใคร"


    "ตัวผมเองครับ"


    อดีตสารวัตรทำหน้าเหยเก พลางคิด นี่กูเจอคนบ้าหรอวะเนี่ย .. อิมแจบอมยกมือขึ้นกอดอก ขณะที่ปากกรรไกรเตรียมพร้อมจะทำงาน แต่ยังไม่ทันได้พ่นประโยคขวานผ่าซากใดๆเสียงนุ่มเล็กจากเด็กหนุ่มหน้าหวานก็ดังขึ้นอีกครั้ง



    "ได้โปรดช่วยตามหาตัวผม.. พัค จินยอง ให้ทีครับ"












     
     
     
     
     

     
     
     
     
     
    - SMALL TALK -
     
    คอมเม้นท์ติชมได้เหมือนเดิมนะคะ..  แต่ก่อนอื่นเราขอกราบขอโทษงามๆที่เราหายไปนานมากกก
    นั่นเป็นเพราะเราใกล้วายชีวันของจริง เรียนหนักมากจริงๆค่ะแง
    หวังว่าจะยังเข้ามาอ่านกันอยู่นะคะ คิดถึง แฮร่ แล้วเราจะรีบกลับมาต่อนะคะ (จะพยายามนะคะ -/|\-)
     
    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเด้อจ้า
     
     
     
     
     
     
     
     
    #ghostluckBN














    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×