ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ GOT7 ] Hello my Ghost Luck | Bnior

    ลำดับตอนที่ #2 : EPISODE 1 : Nice to meet you

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 61


     
     
      EPISODE 1  
     Nice to meet you 
     
     
     
     
     
     
     
    เสียงจอแจดังมาจากรอบทิศทางของใจกลางกรุงโซล ผู้คนคับคั่งเดินไปมาตามบาทวิถี บ้างก็กำลังหยุดยืนรอสัญญาณไฟเขียวที่ทางม้าลายให้พวกเขาได้เดินข้ามไปยังอีกฝั่งเสียที
     
     
     
     

    รถยนต์บนถนนสามเลนกำลังขับเคลื่อนด้วยความเร็ว ยังไม่ถึงเวลาของคนสองข้างฝั่งถนนให้ไปตามจุดหมายปลายทาง
     
     
     

    ร่างเล็กของเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ที่ด้านหลัง ดวงหน้าหวานเงยจดจ้องไปที่สัญญาณไฟรูปคนเดินสีแดงเช่นเดียวกับกลุ่มคนด้านหน้า ต่างกันที่คนเหล่านั้นเริ่มจะหงุดหงิดขณะที่กำลังมองนาฬิกาบนข้อมือของตัวเองไปด้วยเพราะสายแล้ว คงมีหน้าที่หลายๆอย่างที่พวกเขาต้องไปทำ
     
     
     

    เจ้าของร่างเล็กด้านหลังค่อยๆเดินออกมาทั้งที่ยังไม่ถึงเวลา .. ขาข้างหนึ่งของเขากำลังจะก้าวลงสู่พื้นถนน
     
     
     

    (คุณคะ สัญญาณไฟแดงอยู่นะคะ)
     
     
     

    (เฮ่น้อง จะทำอะไร รถยังวิ่งอยู่เลย)
     
     
     
     

    ควรจะมีประโยคเหล่านี้ไล่หลัง หากแต่ความเป็นจริงผู้คนเหล่านั้นกลับไม่สนใจ
     
     
     

    .. ไม่ผิดหรอก
     
     
     
     
     

    ก็ไม่มีใครเห็นเขานี่
     
     
     
     
     

    สองขาก้าวผ่านข้ามเลนแรก นัยน์ตากลมมองไปเพียงด้านหน้า ไม่ใช่ว่ารู้จุดหมายที่จะไป .. ตรงกันข้าม เขาไม่รู้เลยต่างหากว่ากำลังจะไปที่ไหน
     
     

    .. เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด กลุ่มคนรีบร้อนด้านหลังยังคงอยู่กับที่ ส่วนวิญญาณไร้ตัวตน ไร้ที่ไปอย่างเขากลับสามารถเดินไปได้ก่อนเสียนี่
     
     
     
     

    นี่คือข้อดี ใช่มั้ยนะ
     
     
     
     

    รถบรรทุกคันใหญ่วิ่งด้วยความเร็วมาจากเลนที่สอง เปลือกตาสีอ่อนนวลปิดลงตามสัญชาตญาณ แม้ไม่ได้รับรู้ถึงแรงใดๆมากระทบตัวขณะที่รถเคลื่อนผ่านก็เถอะ .. ยังคงรู้สึกหวิวๆทุกที
     
     
     
     

    ไม่ช้าพื้นคอนกรีตสีเทาคั่นขาวอันเป็นทางม้าลายก็เหลือเพียงเลนเดียวก่อนถึงอีกฝั่งหนึ่ง ดวงตากลมของเด็กหนุ่มลดระดับลงมองพื้นก็เห็นแต่รองเท้าผ้าใบเก่าๆของตัวเองก้าวสลับกัน
     
     
     

    มันมีรอยปากกาเขียนอยู่ที่ด้านข้างของรองเท้าคู่นั้น
     
     
     

    พัค จินยอง .. ชื่อคือสิ่งเดียวที่เขาพอรู้เกี่ยวกับตัวเอง นอกเสียจากว่าเขาจะยืมรองเท้าของคนอื่นมาใส่น่ะนะ
     
     
     
     
     
     

    เอี๊ยดดดดดดดดดดด
     
     
     
     

    เสียงดอกยางของรถมอเตอร์ไซค์เสียดสีกับพื้นถนนจากแรงเบรกอย่างกระทันหันดังขึ้นไปทั่ว มันสูงแหลมจนทำให้คนในบริเวณนั้นหันมามองด้วยสายตาแปลกๆแทบจะพร้อมกัน
     
     
     

    เขาเป็นอะไร .. เบรกสุดตัวทั้งที่ข้างหน้าว่างเปล่าอย่างนั้น
     
     

    สำหรับคนอื่นคงคิดอย่างนั้น แต่กับเจ้าของมอเตอร์ไซค์คันสวย เขาไม่ได้เห็นเพียงความว่างเปล่าด้านหน้า
     
     
     
     

    "เฮ่ยน้อง บ้ารึเปล่า อยากเป็นผีเฝ้าถนนหรือไง" เสียงอู้อี้ของคนที่กำเบรกมือจนมิดลอดออกจากหมวกกันน็อคเต็มใบสีดำ เขาตั้งใจส่งต่อไปยังคู่สนทนาที่เอาแต่ยืนมองพื้นอยู่ด้านหน้า
     
     
     

    บ้าเอ๊ย! เกือบซวยแต่เช้าแล้วมั้ยละไอแจบอม
     
     
     
     

    "ยังจะก้มอยู่อีก นี่บนถนนนะโว้ยไม่ใช่ห้าง มีสติหน่อย"
     
     
     
     

    เงียบ .. ไม่มีประโยคใดๆส่งกลับมาจากเด็กหนุ่ม มีเพียงใบหน้าหวานที่กำลังเงยขึ้นและค่อยๆหันมองมาที่เขาเท่านั้นเป็นปฏิกิริยาตอบโต้
     
     

    นัยน์ตาสีช็อคโกแลตจ้องไปที่คนใต้หมวกนั้นอย่างไม่วางตา .. ไม่เห็นใบหน้าหลังกระจกสีดำบนหมวกนั้นฉันท์ใด ก็ไม่เห็นร่างของตัวเองสะท้อนบนกระจกดำมืดฉันท์นั้น
     
     
     

    ไม่เห็นเงาก็ถูกแล้ว แต่เขาเห็นเราได้นี่สิ ..
     
     
     
     

    ปี๊นนนนนนน
     
     
     
     

    "จะจอดค้างทำไม ขับไปสิวะ" เสียงจากคนขับรถด้านหลังดังขึ้นหลังจากเสียงแตร อิมแจบอมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองพลางยกมือเลื่อนกระจกบนหมวกให้ยกขึ้นไป
     
     

    แปลกคน จะให้ขับไปยังไง ก็ไอเด็กนั่นมันยังอยู่ ..
     
     
     
     
     

    ยังอยู่ตรง..
     
     
     
     
     
     
     
     
    ตรงไหนแล้วนะ .. 
     
     
     
     

    ดวงตาคมเฉียบมองซ้ายขวาด้วยอารามตกใจและงุนงง หายไปแล้ว เด็กคนนั้นหายไปแล้ว
     
     
     
     

    เชี่ย .. เร็วอย่างกับผี
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     

    มือกว้างปัดกระจกลงมาปิดบังใบหน้าอีกครั้งก่อนจะออกรถ แม้จะเปิดหน้าให้เห็นเพียงไม่กี่เสี้ยววินาที แต่จินยองที่จ้องอยู่จากอีกฝั่งถนนพิจารณาจนจำได้แม่น .. คนที่มองเห็นเขาเป็นคนแรก
     
     
     
     
     
     
     
     

    .. เพราะอะไรกันนะ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     

    "ข่าวร้อนตอนเช้าวันนี้ เสนอข่าว คิม ยูนซอก เจ้าของและประธานบริษัทคิมพาวเวอร์กรุ๊ป บริษัทนำเข้าและส่งออกสินค้ารายใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ในขณะนี้ค่ะ"
     
     

    เสียงใสกดลงต่ำตามแพทเทิร์นผู้ประกาศข่าวเข้าลอดหูอิมแจบอมที่กำลังยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม ริมฝีปากหยักบางปิดรับน้ำสีเข้มแทบจะทันทีก่อนจะค่อยๆลดแก้วเซรามิกลงวางบนโต๊ะเมื่อได้ยินชื่อของคนในข่าว .. คิม ยูนซอก
     
     
     
     
     

    ภาพผู้ชายวัยราวๆห้าสิบปีในสูทสีดำดูภูมิฐานตัดกับผมสีดอกเลา ใบหน้ายิ้มแย้มแต่แฝงไปด้วยความน่าเกรงขามปรากฏอยู่บนจอทีวีเล็กๆที่ติดตั้งให้ห้อยลงมาจากเพดานภายในร้านอาหารที่แจ็คสันเป็นเจ้าของ โดยที่เจ้าตัวกำลังขลุกอยู่กับข้าวของที่หลังครัวเพื่อเตรียมเปิดร้านในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
     
     
     

    ปกติแล้วอิมแจบอมไม่ค่อยมีเวลามาอุดหนุนที่ร้านของแจ็คสันนัก พอได้โดนบังคับให้ว่างถึงได้มีโอกาสมาหาได้บ่อยขึ้น 
     
     
     
     
     

    "โดยที่คุณ คิม ยูนซอก ได้ออกมาประกาศข่าวใหญ่ในวันนี้ว่า จะยกบริษัทและอำนาจการบริหารทั้งหมดให้กับทายาทเพียงคนเดียว คิม ยูคยอม ในวัยยี่สิบสองปีในอีกไม่นานนี้ โดยที่ตัวเองจะขอผันตัวไปลงการเลือกตั้งในสมัยหน้านี้ค่ะ"
     
     
     

    นั่นไง .. มาทั้งพ่อทั้งลูก
     
     
     

    อิมแจบอมถอนหายใจพลางคิดย้อนไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว .. 
     
     
     

    คนอย่างนั้นน่ะเหรอ เจ้าของบริษัท กับอนาคตนักการเมือง
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     

    "มาจับฉันนี่รู้รึเปล่าว่าฉันลูกใคร ฮะ ไอพวกโง่เอ๊ย"
     
     
     

    เสียงโวยวายยืดยานแทบฟังไม่ได้ศัพท์ดังก้องไปทั่วสถานีตำรวจ โดยมีต้นเสียงมาจากชายหนุ่มวัยราวๆยี่สิบปีคนหนึ่งที่อยู่หลังลูกกรงเหล็ก ร่างสูงโปร่งที่ยืนโงนเงนซัดเซด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์ขัดกับรูปลักษณ์ดูแข็งแรงอย่างนั้นทำให้เหล่าตำรวจในบริเวณนั้นต่างส่ายหัวไปตามๆกัน
     
     
     

    หนึ่งในนั้นคืออิมแจบอม นายตำรวจผู้เป็นคนลากชายที่กำลังโวยวายอยู่ในขณะนี้ออกมาจากบาร์เพราะการทะเลาะวิวาทอย่างหนักด้วยเหตุผลแค่ว่า.. ไม่ถูกชะตา
     
     
     
     

    "เฮ่ ไอตำรวจตาตี่ ฉันจะบอกให้นะ ว่าฉันน่ะ.." คนในห้องกรงยังคงแสดงท่าทางอวดเก่งไม่หยุดทั้งที่ตาแทบลืมไม่ขึ้นอยู่รอมร่อ ".. ฉันน่ะ คิม ยูคยอม ลูกประธานบริษัทคิมพาวเวอร์กรุ๊ปเลยนะ คิม ยูนซอกน่ะ เข้าใจรึเปล่า .. อึก ปล่อยฉันไปได้แล้ว"
     
     
     

    อิมแจบอมวางมือกว้างเท้าเอวหย่อนขาลงข้างหนึ่ง ฟันขบริมฝีปากตัวเองเบาๆเพื่อยับยั้งอารมณ์ร้อนของตัวเอง .. เชื่อคำโบราณไว้ อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา
     
     
     
     

    "ไอ้ตาตี่เอ๊ย ปล่อยกู.."
     
     
     

    "จะเงียบดีๆหรือให้เอาอะไรอุดปาก ฮะ หุบปากไปเลย!" สุดท้ายอิมแจบอมก็ห้ามตัวเองไม่ได้อยู่ดี .. ขาข้างหนึ่งก้าวไปข้างหน้าอย่างอัตโนมัติขณะที่มือข้างหนึ่งกำลังจะลอดลูกกรงเข้าคว้าคอเสื้อยูคยอม ปากดีอย่างนี้ลองดูหมัดตาตี่สักหน่อยมั้ยวะ
     
     
     
     
     
     

    "ผู้กองอิมแจบอม หัวหน้าเรียกพบครับ" เสียงเบากล้าๆกลัวๆจากตำรวจยศน้อยดังขึ้นขัดจังหวะ อิมแจบอมหันไปมองพร้อมกับย่นคิ้วเข้าหากัน..ก็หัวหน้าจะเรียกพบเขาได้แต่ละครั้งไม่เคยมีเรื่องดีบ้างเลยสักครั้งน่ะสิ "ละ แล้วก็ .."
     
     
     
     
     
     
     

    ".. หัวหน้าสั่งให้ปล่อยตัวคิมยูคยอมได้เลยครับ"
     
     
     
     
     
     

    "อะไรนะ?" 
     
     
     
     
     
     

    คำสั่งบ้าบออะไรของแม่งวะ !
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     

    ก๊อก .. ก๊อก
     
     
     
     
     
     
     

    "เข้ามา"
     
     
     
     

    ด้านหลังผู้บังคับบัญชาร่างอ้วนปรากฏอยู่ในกรอบสายตา อิมแจบอมก้าวเข้ามาภายในด้วยความรวดเร็วพร้อมกับแบกอารมณ์คุกรุ่นมาอย่างเต็มเปี่ยม
     
     

    ถึงจะเป็นหัวหน้า ก็ไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งข้ามหน้าที่กันแบบนี้ 
     
     
     
     

    "หัวหน้าทำแบบนี้หมายความว่าไงครับ ทำไมถึงปล่อยไปแบบนั้นทั้งๆที่ยังไม่มีคนมาประกันตัว แล้วหัวหน้าออกคำสั่งในคดีผมทั้งที่ผมไม่รู้ได้ยังไง .."
     
     
     
     

    แผ่นหลังอ้วนค่อยๆหันมาประจันหน้าหลังจากที่อิมแจบอมยิงคำถามใส่ สายตานิ่งงันค่อยๆมองทอดตั้งแต่หัวจรดเท้าของผู้กองข้างหน้า "คุณมีสิทธิ์ตั้งคำถามมากมายขนาดนี้กับผมด้วยหรอ" 
     
     
     

    "คุณคงจะรู้ใช่มั้ยว่าคนที่คุณจับมาเป็นใคร และพ่อของเขาเป็นใคร"
     
     
     

    อิมแจบอมพยักหน้า พอจะรู้แล้ว .. ที่แท้ก็เรื่องเส้นสายนี่เอง วงจรอุบาทว์อีกแล้วสินะ
     
     
     
     

    "รู้? แล้วทำไมถึงไม่ปล่อยไป ยังจะจับมาอยู่ทำไม"
     
     
     
     
    "อย่าหลงในจรรยาบรรณให้มากไปหน่อยเลย มันแดกไม่ได้หรอกนะผู้กองอิม.. " ร่างอ้วนอืดอาดค่อยๆเดินเข้ามาใกล้อีกฝ่าย ก่อนจะพูดด้วยหน้าตาและน้ำเสียงเย้ยหยัน ซึ่งอิมแจบอมเกลียดที่สุด
     
     
     
    "ไม่งั้นก็อยู่เป็นผู้กองโง่ๆต๊อกต๋อยแบบนี้ไปเถอะ พวกฉลาดเท่านั้นแหละที่จะมีชีวิตรอ----"
     
     
     
     
     
     
    ใช่แล้ว ..ประโยคของหัวหน้าถูกคั่นด้วยหมัดของอิมแจบอม .. ก่อนที่ทุกอย่างจะจบลงด้วยคำสั่งพักงานสามเดือนเป็นสิ่งตอบแทน
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     




    ผลั่ก
     
     
     
     

    "หน้าเครียดเชียวมึงไอแจบอม เป็นไง ดวงดีขึ้นมาบ้างยังจ๊ะ"
     
     
     

    แจ็คสันพูดด้วยน้ำเสียงระรื่นหลังจากที่ผลักหัวเพื่อนรักจนคะมำไปหนึ่งป้าบ อิมแจบอมกุมหัวก่อนจะมองกลับด้วยตาขวาง แม่ง.. คอกูเกือบหัก
     
     
     
     

    "ดีบ้าอะไรล่ะ นี่ก็เพิ่งเกือบขี่รถชนเด็กมาเนี่ย"
     
     
     

    "กูก็บอกแล้วให้มึงไปทำบุญบ้าง ที่ไปดูดวงมาอาทิตย์ที่แล้วเขาก็บอกอยู่ว่าชีวิตมึงคงไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่ปะ .." แจ็คสันพูดทีเล่นทีจริงพลางหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ตัวตรงข้าม ดวงตาคมโตมองไปที่เพื่อนคนดวงซวยข้างหน้าด้วยความเป็นห่วงอยู่ลึกๆ ถึงจะไม่ค่อยพูดกันด้วยคำพูดดีๆเท่าไหร่นักตามประสาเพื่อนสนิท แต่ทุกๆครั้งที่ต่างฝ่ายต่างมีเรื่องไม่สบายใจ อีกฝ่ายจะเป็นผู้ผ่อนมันให้เบาลงเสมอ
     
     
     

    หวังแจ็คสันกับอิมแจบอมเป็นเพื่อนกันตั้งแต่วัยประถม จนถึงตอนนี้ก็ปาเข้าไปวัยสามแยกกันแล้ว มีหรือแจ็คสันจะไม่รู้ว่ารอยยิ้มที่คนตรงข้ามมีให้ในตอนนี้มันมีไว้เพื่อกลบเกลื่อนความเครียดในใจ 
     
     

    อาชีพตำรวจคือสิ่งที่เพื่อนของเขารัก มันคือความสุขอันดับแรกๆของอิมแจบอม แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เขาทุกข์ไปแล้ว 
     
     
     

    " .. เออ แล้วความรักรูปแบบที่คาดไม่ถึงของมึงอะ เจอยัง" คนเดิมยังคงถามอย่างต่อเนื่องหวังให้อีกฝ่ายคลายเครียดลงได้บ้าง ขณะที่อิมแจบอมตอบด้วยการส่ายหัวเบาๆ .. ก่อนความรักจะมา ขอความโชคดีมาในชีวิตเขาก่อนน่าจะดีกว่า
     
     
     
     

    "มึงว่า คนเรามันจะดวงตกได้ถึงขนาดไหนวะ" 
     
     
     
     
    "เฮ่ย มึงอย่าคิดมากดิ ชีวิตคนเรามันต้องมีขึ้นมีลง ดูอย่างกูนี่ .." เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาพูดพร้อมกับผายมือออกไปด้านข้างด้วยตั้งใจจะสื่อถึงร้านอาหารที่เขาสร้างมาเองกับมือ ".. กว่าจะมาถึงขนาดนี้ขาดทุนมาตั้งเท่าไหร่มึงก็รู้ แล้วดูวันนี้ดิ"
     
     
     
     
    "ขาดทุนมากกว่าเดิม ใกล้เจ๊งแล้วอะนะ" อิมแจบอมพูดขัดใบหน้ากำลังยิ้มปริ่มของแจ็คสันด้วยน้ำเสียงกวนส้นเท้า 
     
     
     
     
    "ไอห่าแจบอม ปากไม่เป็นมงคลเลยนะมึงอะ" 
     
     
     
    ถึงจะด่าไปอย่างนั้น แต่นี่แหละ ไอแจบอม ต้องด่ากันแบบนี้แหละถึงจะสบายใจ
     
     
     
     
     
     
    Rrrrrrrrrrrrrrrrr
     
     
     
    เสียงสั่นจากสมาร์ทโฟนที่วางคว่ำอยู่บนโต๊ะดังขึ้นดึงให้แจ็คสันผู้เป็นเจ้าของหยิบขึ้นมาดู ก่อนจะเหลือบตาขึ้นมองที่อิมแจบอมแล้วยิ้มนิดๆ 
     
     
     

    "โอ๊ะ ความรักกูโทรมาว่ะ"
     
     
     

    ความน่าหมั่นไส้อบอวลไปทั่วใบหน้าหลังจากเห็นว่าปลายสายคือ ชเว ยองแจ คนรักที่คบกันมาตั้งแต่เรียนมัธยม และกำลังจะเป็นคู่ชีวิตกันในอีกไม่นานนี้
     
     
    เพราะเขากำลังวางแผนจะขออีกฝ่ายแต่งงานในอีกไม่กี่วันนี่แหละ
     
     
     
     
     
    เหม็นความรักชิบหาย .. แจบอมคิดพลางเบะปากเล็กน้อยแล้วจึงพยักหน้าให้คนตรงข้ามที่ทำท่าบอกว่าจะออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก 
     
     
     
     
     

    แจ็คสันกับบทสนทนาจ๊ะจ๋าห่างไกลออกไปจนหยุดที่หน้าร้าน เช่นเดียวกับสายตาของอิมแจบอมที่มองตามไป หากแต่ไม่ได้หยุดที่คนกำลังคุยโทรศัพท์อย่างที่ควรจะเป็น ..
     
     
     

    ร่างเล็กของใครบางคนยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เด็กผู้ชายผิวขาวนวลในเสื้อฮู้ดสีเทากับกางเกงสามส่วนเหนือเข่าสีดำดูเหมือนกำลังยืนหันมาทางเขาอย่างตั้งใจ
     
     
    ลมอุ่นพัดเบาๆในฤดูใบไม้ผลิทำให้ผมหนาสีดำขลับปลิวไปตามแรงธรรมชาติและตกลงเหนือคิ้วหนาเป็นจังหวะ ดวงตาคู่สวยมองมาที่เขาอย่างที่คิดไว้ พอรวมกับปลายจมูกรั้นที่รับกับปากกลมๆนั้นทำให้เขาพอจะนึกอะไรออก
     
     
     
     
     
    นี่มันไอเด็กคนเมื่อเช้านี่
     
     
     
     
     
    แม่งตามกูมาหรอวะ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    รู้ตัวอีกทีก็ผลักประตูออกมาอยู่ที่หน้าร้านเป็นที่เรียบร้อย สองขายาวก้าวไปยังจุดหมายที่ยังคงอยู่ที่เดิม ต่างกันก็ตรงที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆจากเด็กหนุ่มข้างหน้าเพิ่มเข้ามาให้อิมแจบอมได้สัมผัส
     
     
     
     
    พอได้มายืนใกล้ๆแบบนี้ถึงได้เห็นว่าอีกฝ่ายตัวเล็กมากเหลือเกินเมื่อเทียบกับคนตัวสูงราวๆหนึ่งร้อยแปดสิบอย่างเขา เล็กขนาดที่ทำให้ใบหน้าที่อยู่ระดับหน้าอกต้องเงยขึ้นมามองเกือบสุดคอในตอนนี้
     
     
     

    "นาย.. คือคนที่ฉันเกือบชนเมื่อเช้าหรือเปล่า"
     
     
     
    ".." หากเทียบเป็นสัญญาณโทรศัพท์คงจะใช่ประโยคนี้
     
     
     
    เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง ..
     
     
     
     

    "ฉันถามก็ตอบ หรือว่าเจ็บตัวตรงไหนหรือเปล่.." คนตัวสูงถามพลางยื่นมือเข้าไปจับ แต่ก็ไม่ถึงเพราะอีกฝ่ายก้าวถอยหนีอย่างรวดเร็ว
     
     
     
    แหน๊ ไอเด็กนี่ มันกวนตีน
     
     
     
    นั่นคือสิ่งที่อิมแจบอมคิด.. ส่วนพัคจินยองที่ถอยหลังกลับไปนั้นได้แต่สับสนไปด้วยความคิดที่ตีกันอยู่ในใจ
     
     
     

    มองเห็นเราจริงๆหรอ.. แล้วเขาจะสัมผัสเราได้หรือเปล่า
     
     
     
    ถ้าเขาสัมผัสเราไม่ได้ เขาก็จะรู้ใช่มั้ยว่าเรา.. ไม่ใช่คน
     
     
     
    ยังให้รู้ไม่ได้ พัคจินยองต้องรู้ก่อนว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้คนตรงหน้าเป็นคนเดียวที่สามารถมองเห็นเขาได้ 
     
     
     
     

    "แล้วลุง.. ลุงเป็นใครหรอ"
     
     
     
    "เป็นใคร? ฉันต้องตอบนายว่าอะไรหรอ .." คนตัวสูงพูดพลางเดินล้วงกระเป๋าเข้าไปใกล้ เขากำลังแกล้งทำท่าทางหาเรื่องใส่เด็กข้างหน้า ..ตลกดีเวลาที่เห็นหน้ากลมๆย่นคอเข้าไปแบบนั้น 
     
     
     
    "ฉันคือคนที่สามารถจับเด็กหัวใสที่แกล้งเดินผ่านรถเพื่อจะเอาค่าเสียหายแบบนายเข้าคุกได้ไง .." อิมแจบอมพูดพร้อมกับเดินไปเรื่อยๆจนหลังของพัคจินยองติดกับกระจกร้าน 
     
     
    ก็แค่เด็กสิบแปดมงกุฏ มุขแบบนี้เขาเจอมาตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ " .. ว่าไง ยอมรับหรือเปล่า"
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    ตาใสๆมองไปที่ใบหน้าคมคายของคนตรงหน้า แม้ผมสีดำจะยาวลงปรกไปค่อนดวงตาแต่ก็พอมองเห็นสายตาคมเฉี่ยวดูดุดันแต่ก็น่าพึ่งพาในเวลาเดียวกัน 
     
     
    และที่สำคัญ .. พัคจินยองเห็นเงาของตัวเองในนั้น
     
     
     
     
     
     
    .. เข้าใจแล้ว ลุงคนนี้ .. 
     
     
     

    เป็นตำรวจสินะ
     
     
     
     
     
    เขาต้องช่วยอะไรเราได้บ้างแน่ๆ 
     
     
     
     
     
     
     
     
    "เฮ่ คุณมึงอิมแจบอมมายืนพูดคนเดียวอะไรตรงนี้ครับ"
     
     

    เสียงสากคุ้นหูจากด้านหลังทำให้อิมแจบอมต้องหันกลับไปมอง แจ็คสันทำหน้ายิ้มๆกวนตีนเหมือนเคย ..ทั้งที่จริงๆแล้วในใจเริ่มจะวิตกกับเพื่อนข้างหน้าเหลือเกิน
     
     
     

    มันยืนคุยกับกระจกร้านเป็นวรรคเป็นเวรไปทำไมวะ หรือแม่งเพี้ยนไปแล้วจริงๆ
     
     
     
     

    "อะไร กูก็ยืนอยู่กับไอเด็กนี่ไง .. เอ้า"
     
     
     
    "เด็กไรมึง กูไม่เห็นมีใครเลย"
     
     
     

    อิมแจบอมถอยหลังจากกระจกร้านแล้วมองซ้ายขวาอีกครั้งไม่ต่างกับเมื่อเช้า เด็กนั่นหายไปอีกแล้ว .. คงตั้งใจหนีพอรู้ว่าเป็นตำรวจแน่ๆ
     
     
     
    "เออ ช่างแม่ง งั้นเดี๋ยวกูเข้าไปช่วยมึงเปิดร้านละกัน จะถึงเวลาแล้วนี่" พูดพลางมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะดึงประตูแล้วก้าวเข้าไปในร้าน ทิ้งให้แจ็คสันยังคงงงๆกับสิ่งที่เห็นขณะคุยโทรศัพท์อยู่เมื่อครู่
     
     
     
     
     
     
    "กระจกร้านกูมันมีอะไรวะ.. " ใบหน้าโน้มไปใกล้กระจกเพื่อสอดส่องดูความผิดปกติแต่ก็ไม่พบอะไรที่พอจะเข้าท่า ".. หรือแม่งจะคุยกับผี"
     
     
     
     
     
    มือสองข้างลูบแขนที่เริ่มรู้สึกขนลุกแล้วเดินตามอิมแจบอมเข้าไปด้านใน เผยให้เห็นพัคจินยองที่ยืนหัวเราะอยู่ด้านหลังของแจ็คสันเมื่อครู่
     
     
     
     
     
     
    คุณอิมแจบอม.. คงได้เจอกันอีกบ่อยๆแน่ครับ
     
     
     
     
    ยินดีที่ได้พบกันนะครับ "ลุง"
     
     
     
     
     
     



     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    - SMALL TALK -
     
    คอมเม้นท์ติชมได้นะคะ เราน่าจะอัพประมาณอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ไม่เกินนี้นะคะ
    ถ้าเกินคือเราอาจจะใกล้วายชีวันเพราะภารกิจอันหนาแน่น
    ตอนนี้ก็เกริ่นๆตัวละครไปก่อนเนอะ จะพยายามมาต่อให้เร็วนะคะ -/|\-
     
    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเด้อจ้า
     
     
     
     
     
     
     
     
    #ghostluckBN


    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×