ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : แผนบุกปราบกบฎ
              “ศึกทางใต้ยังไม่สงบสุขเท่าใดนัก กบฎก็ก่อตัวขึ้นอีกหลายก๊ก ต่างก็สรรหาข้ออ้างมากมาย อย่าง บัลลังค์กษัตริย์เปื้อนเลือดไม่ได้ๆมาโดยสุจริตบ้างหล่ะ กษัตริย์เป็นพวกคนโฉดบ้างหล่ะ
”
              “แล้วจะทำอย่างไรเล่าหล่ะท่านเสนาธิการ ? นี่ก็ทรงครองแผ่นดินมา 2 ปีแล้ว ยังไม่ได้ทำสงครามปราบก๊กไหนเป็นเรื่องเป็นราวเลยน่ะ” หัวหน้าทหารวังสวนคำพูดของเสนาธิการทหารประจำกองทัพอย่างไม่สบอารมณ์
                “พระองค์มิได้ทรงอยู่เฉย ๆ ไปวันๆ หรอกท่าน”  อัครเสนาบดีใหญ่แห่งแคว้นนาม เลธเทีย ปรากฏกายออกมาพร้อมคำพูดอันสะดุดหูนายทหารทั้งหลาย
                “บ่ายนี้พระองค์นัดประชุมใหญ่ฝ่ายการทหารในวังทั้งหมด ..พระองค์มีการสำคัญจะปรึกษา .และ ลง..มือ .” เสนาบดีใหญ่เดินออกไปพร้อมคำพูดที่ทำให้ทหารที่ได้ยินหยุดนิ่งไปทันที
                 
           
                หนุ่มน้อยร่างเล็กเดินเข้าสู่ห้องประชุมหลวงอย่างสง่าผ่าเผย สวมกายด้วยชุดนายทหารชั้นตรีเต็มยศที่หนักกว่า 100 ปอนด์ อาวุธประจำกายคือ ดาบคู่ยาวประมาณ หนึ่งฟุตครึ่ง ตามหลังมาไม่ห่างคือชายหนุ่มร่างบาง สูงกว่านายทหารคนหน้าเพียงเล็กน้อย มีธนูพาดบ่าไว้ด้านหลัง แต่งกายไม่ด้อยยศไปกว่าชายคนหน้า แล้วก็ตามมาด้วยนายทหารชั้นยศเดียวกันอีก 6 นาย พร้อมอาวุธที่เหมือนและแตกต่างกันไปตามความถนัด ทั้งหมดเดินผ่านประตูห้องประชุมขนาดยักษ์ที่ต้องใช้พลทหารถึง 6 นาย ช่วยกันเปิด เมื่อเข้าไปถึงทั้งหมดถวายความเคารพกษัตริย์แห่งแคว้น ซึ่งตอนนี้มีกำลังทหารนับแสนนายในเมืองหลวง พร้อมยุทโธปกรณ์ พร้อมสรรพ พร้อมที่จะประกาศศักดาความเกรียงไกรไปทั่วทุกแดน ทรงนั่งบนบัลลังค์เทพ “ เมโดเกซ” เทพเจ้าสูงสุดแห่งคาบสมุทรที่เหล่ากบฎยังนับถือ
                  “ทุกนายพร้อมหน้ากันดีมาก” ลาซันเทียพูดชมเป็นธรรมเนียมก่อนจะให้เสนาบดีใหญ่แห่งแคว้นกล่าวนำเรื่องที่จะหารือกันในบ่ายนี้
                  “ในตอนนี้มีกลุ่มกบฎสำคัญอยู่ 3 กลุ่ม หนึ่ง คือพวกโจรภูเขาทางเหนือ คงรู้กันดีว่าทุกครั้งที่เราอ่อนแอพวกมันก็จะลงมายึดหัวเมืองทางเหนือ”
                  “สอง .พวกกบฎทางใต้ ..พวกนี้เป็นพวกเจ้านายชั้นสูงของเมืองทางใต้ที่ก่อกบฎเพราะเหตุที่ไม่พอใจที่เราไปถอนกำลังทหารและประชาชนออกไปทำให้พวกนี้สูญเสียรายได้จากการค้าทางใต้ ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากพวกกบฎเก่าลาซานด้วย เราเห็นว่าเป็นพวกที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดากบฎทั้งหมด” เลธเทียสอดส่องดูบรรดานายทหารทั้งหลายก่อนที่จะพูดถึงกบฎพวกสุดท้าย
                “และสาม !! พวกโจรสลัดขึ้นบกทางตะวันตก เราขอเรียกว่าพวก “ซีเตอ” พวกนี้แหล่ะที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้ ว่าจะจัดการอย่างไร”
                “ก่อนพูด ใครมีอะไรสงสัยรึปล่าว ?” ลาซันเทียถามบรรดานายทหาร แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา
                “เอาหล่ะ .  ถ้าไม่สงสัยก็จะขอเริ่มการประชุม ณ บัดนี้”
                “ตามที่ทราบ สามกลุ่มข้างต้นสร้างปัญหาให้เราเป็นอย่างมาก แต่เราคงไม่สามารถปราบให้พร้อมกันได้ จึงจำเป็นต้องเลือกปราบกลุ่มกบฎ 1 ในนั้นก่อน” ลาซันเทียกล่าวนำก่อนที่เสนาบดีจะกล่าวบอกเป้าหมาย
                  “พระองค์ทรงเลือกที่จะปราบพวก ซีเตอ ด้วยเหตุผลการค้า !!”
                  ผิดคาดของพวกนายทหารที่เข้าประชุม พวกเขาคิดว่าจะได้บุกแดนใต้เพื่อล้มล้างกลุ่มราชวงศ์นอกอาณาจักร แล้วนายทหารสูงศักดิ์ผู้หนึ่งก็ลุกขึ้นถาม
                  “พระองค์เห็นด้านการค้าสำคัญไฉน จึงคิดปราบพวกกลุ่มเล็กเช่นนั้น”
                  “กลุ่มเล็กแต่ส่งผลร้ายกาจกับเรานัก” พระองค์เหนือหัวลุกจากบัลลังก์ เราเดินลงบันได 2 3 ขั้น มาที่หัวโต๊ะของบรรดานายทหาร
                  “เราทำการค้ากับเมืองทางตะวันตกมากที่สุดในตอนนี้ บรรดาพ่อค้าทั้งหลายของอาณาจักรเราก็ย้ายจากทางใต้ขึ้นมาทางนี้กันมาก การค้าครึ่งหนึ่งของอาณาจักรอยู่ทางนั้น” ลาซันเทียสอดส่องสายตาให้บรรดานายทหารก่อนจะพูดต่อ
                  “พ่อค้าทั้งในและนอกอาณาจักรต่างก็บ่นว่าโจรพวกนี้คือปัญหาเดียวที่มีอยู่”
                  “เราจำเป็นต้องรักษาผลประโยชน์ของแคว้น มากกว่าความแค้นส่วนบุคคล”
                  นายทหารส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจหลักการเลือกของพระองค์ แต่ยังมีอีกคำถามที่ต้องหาคำตอบจากพระองค์ให้ได้
                  “แล้วพระองค์จะปราบพวกอื่นไปด้วยรึเปล่า” นายทหารเฒ่าผู้หนึ่งถามได้ตรงใจบรรดานายทหารที่นั่งอยู่เป็นอย่างมาก
                  “ไม่ !! ตามแผนของข้า เราจะปราบกบฎเพียง 2 พวกก็พอ” พระองค์ตอบอย่างเด็ดขาดก่อนจะพูดตามมาอีก
                  “พวกแรกคือพวก ซีเตอ .อีกพวกหนึ่ง .ไม่กบฎทางใต้ก็โจรภูเขา ปราบเพียงเท่านี้ พวกที่เหลือก็จะสลายตัวไปเองด้วยเหตุผลความเกรงกลัวในแสนยานุภาพของเรา”
                  เหล่าบรรดานายทหารในที่ประชุมต่างแสดงท่าทีพอใจเป็นอย่างยิ่งกับคำตอบของพระองค์
                  “เสร็จสองภารกิจนี้แล้ว การต่อไป .คือขยายอาณาจักรให้เกรียงไกร !!!!!”
                                                                                                                                          โปรดติดตามตอนต่อไป
              “แล้วจะทำอย่างไรเล่าหล่ะท่านเสนาธิการ ? นี่ก็ทรงครองแผ่นดินมา 2 ปีแล้ว ยังไม่ได้ทำสงครามปราบก๊กไหนเป็นเรื่องเป็นราวเลยน่ะ” หัวหน้าทหารวังสวนคำพูดของเสนาธิการทหารประจำกองทัพอย่างไม่สบอารมณ์
                “พระองค์มิได้ทรงอยู่เฉย ๆ ไปวันๆ หรอกท่าน”  อัครเสนาบดีใหญ่แห่งแคว้นนาม เลธเทีย ปรากฏกายออกมาพร้อมคำพูดอันสะดุดหูนายทหารทั้งหลาย
                “บ่ายนี้พระองค์นัดประชุมใหญ่ฝ่ายการทหารในวังทั้งหมด ..พระองค์มีการสำคัญจะปรึกษา .และ ลง..มือ .” เสนาบดีใหญ่เดินออกไปพร้อมคำพูดที่ทำให้ทหารที่ได้ยินหยุดนิ่งไปทันที
                 
           
                หนุ่มน้อยร่างเล็กเดินเข้าสู่ห้องประชุมหลวงอย่างสง่าผ่าเผย สวมกายด้วยชุดนายทหารชั้นตรีเต็มยศที่หนักกว่า 100 ปอนด์ อาวุธประจำกายคือ ดาบคู่ยาวประมาณ หนึ่งฟุตครึ่ง ตามหลังมาไม่ห่างคือชายหนุ่มร่างบาง สูงกว่านายทหารคนหน้าเพียงเล็กน้อย มีธนูพาดบ่าไว้ด้านหลัง แต่งกายไม่ด้อยยศไปกว่าชายคนหน้า แล้วก็ตามมาด้วยนายทหารชั้นยศเดียวกันอีก 6 นาย พร้อมอาวุธที่เหมือนและแตกต่างกันไปตามความถนัด ทั้งหมดเดินผ่านประตูห้องประชุมขนาดยักษ์ที่ต้องใช้พลทหารถึง 6 นาย ช่วยกันเปิด เมื่อเข้าไปถึงทั้งหมดถวายความเคารพกษัตริย์แห่งแคว้น ซึ่งตอนนี้มีกำลังทหารนับแสนนายในเมืองหลวง พร้อมยุทโธปกรณ์ พร้อมสรรพ พร้อมที่จะประกาศศักดาความเกรียงไกรไปทั่วทุกแดน ทรงนั่งบนบัลลังค์เทพ “ เมโดเกซ” เทพเจ้าสูงสุดแห่งคาบสมุทรที่เหล่ากบฎยังนับถือ
                  “ทุกนายพร้อมหน้ากันดีมาก” ลาซันเทียพูดชมเป็นธรรมเนียมก่อนจะให้เสนาบดีใหญ่แห่งแคว้นกล่าวนำเรื่องที่จะหารือกันในบ่ายนี้
                  “ในตอนนี้มีกลุ่มกบฎสำคัญอยู่ 3 กลุ่ม หนึ่ง คือพวกโจรภูเขาทางเหนือ คงรู้กันดีว่าทุกครั้งที่เราอ่อนแอพวกมันก็จะลงมายึดหัวเมืองทางเหนือ”
                  “สอง .พวกกบฎทางใต้ ..พวกนี้เป็นพวกเจ้านายชั้นสูงของเมืองทางใต้ที่ก่อกบฎเพราะเหตุที่ไม่พอใจที่เราไปถอนกำลังทหารและประชาชนออกไปทำให้พวกนี้สูญเสียรายได้จากการค้าทางใต้ ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากพวกกบฎเก่าลาซานด้วย เราเห็นว่าเป็นพวกที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดากบฎทั้งหมด” เลธเทียสอดส่องดูบรรดานายทหารทั้งหลายก่อนที่จะพูดถึงกบฎพวกสุดท้าย
                “และสาม !! พวกโจรสลัดขึ้นบกทางตะวันตก เราขอเรียกว่าพวก “ซีเตอ” พวกนี้แหล่ะที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้ ว่าจะจัดการอย่างไร”
                “ก่อนพูด ใครมีอะไรสงสัยรึปล่าว ?” ลาซันเทียถามบรรดานายทหาร แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา
                “เอาหล่ะ .  ถ้าไม่สงสัยก็จะขอเริ่มการประชุม ณ บัดนี้”
                “ตามที่ทราบ สามกลุ่มข้างต้นสร้างปัญหาให้เราเป็นอย่างมาก แต่เราคงไม่สามารถปราบให้พร้อมกันได้ จึงจำเป็นต้องเลือกปราบกลุ่มกบฎ 1 ในนั้นก่อน” ลาซันเทียกล่าวนำก่อนที่เสนาบดีจะกล่าวบอกเป้าหมาย
                  “พระองค์ทรงเลือกที่จะปราบพวก ซีเตอ ด้วยเหตุผลการค้า !!”
                  ผิดคาดของพวกนายทหารที่เข้าประชุม พวกเขาคิดว่าจะได้บุกแดนใต้เพื่อล้มล้างกลุ่มราชวงศ์นอกอาณาจักร แล้วนายทหารสูงศักดิ์ผู้หนึ่งก็ลุกขึ้นถาม
                  “พระองค์เห็นด้านการค้าสำคัญไฉน จึงคิดปราบพวกกลุ่มเล็กเช่นนั้น”
                  “กลุ่มเล็กแต่ส่งผลร้ายกาจกับเรานัก” พระองค์เหนือหัวลุกจากบัลลังก์ เราเดินลงบันได 2 3 ขั้น มาที่หัวโต๊ะของบรรดานายทหาร
                  “เราทำการค้ากับเมืองทางตะวันตกมากที่สุดในตอนนี้ บรรดาพ่อค้าทั้งหลายของอาณาจักรเราก็ย้ายจากทางใต้ขึ้นมาทางนี้กันมาก การค้าครึ่งหนึ่งของอาณาจักรอยู่ทางนั้น” ลาซันเทียสอดส่องสายตาให้บรรดานายทหารก่อนจะพูดต่อ
                  “พ่อค้าทั้งในและนอกอาณาจักรต่างก็บ่นว่าโจรพวกนี้คือปัญหาเดียวที่มีอยู่”
                  “เราจำเป็นต้องรักษาผลประโยชน์ของแคว้น มากกว่าความแค้นส่วนบุคคล”
                  นายทหารส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจหลักการเลือกของพระองค์ แต่ยังมีอีกคำถามที่ต้องหาคำตอบจากพระองค์ให้ได้
                  “แล้วพระองค์จะปราบพวกอื่นไปด้วยรึเปล่า” นายทหารเฒ่าผู้หนึ่งถามได้ตรงใจบรรดานายทหารที่นั่งอยู่เป็นอย่างมาก
                  “ไม่ !! ตามแผนของข้า เราจะปราบกบฎเพียง 2 พวกก็พอ” พระองค์ตอบอย่างเด็ดขาดก่อนจะพูดตามมาอีก
                  “พวกแรกคือพวก ซีเตอ .อีกพวกหนึ่ง .ไม่กบฎทางใต้ก็โจรภูเขา ปราบเพียงเท่านี้ พวกที่เหลือก็จะสลายตัวไปเองด้วยเหตุผลความเกรงกลัวในแสนยานุภาพของเรา”
                  เหล่าบรรดานายทหารในที่ประชุมต่างแสดงท่าทีพอใจเป็นอย่างยิ่งกับคำตอบของพระองค์
                  “เสร็จสองภารกิจนี้แล้ว การต่อไป .คือขยายอาณาจักรให้เกรียงไกร !!!!!”
                                                                                                                                          โปรดติดตามตอนต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น