ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สหายกล้า...นาวิกโยธิน

    ลำดับตอนที่ #1 : ทหารฝึกใหม่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 81
      0
      19 ธ.ค. 47

               หน่วยนาวิกโยธินที่ 8 ในบังคับการของกองพันที่ 2 ของกองทัพเรือ มีทหารอยู่ประจำการ 112 นาย ทหารชั้นนายสิบ 6 นาย และนายทหารชั้นสัญญาบัตร 3 นาย ผู้บังคับบัญชาคือ เรือเอก เจฟ โฮแกน ผู้ช่วยของเขาอีก 2 คนคือ เรือโท ฮาวี่ เดนสัน และ เรือโท แฟร้งค์ รอยสตีล  เป็นหน่วยที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เฉพาะสำหรับภารกิจเดียว คือ “ประจำการในแถบ แอฟริกาเหนือ” ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  



               หน่วยนี้จะพูดง่ายๆ ก็คือ เป็นทหารอาสา หรือ ประชาชนพลเรือนสมัครเข้ามาเป็นทหารกองประจำการ ซึ่งก็ต้องผ่านการฝึกเช่นเดียวกับทหารอื่นทั่วไป ทหารฝึกทุกนาย ไม่เคยผ่านการเป็นทหาร และไม่มีใครในหน่วยอายุเกิน 25 ปี แม้แต่ผู้บังคับบัญชาหน่วย ทหารทุกคนคือ อดีตราษฎร ผู้มีทุกอย่างเป็นราษฎร มีอาชีพ หรือ ศึกษาในมหาวิทยาลัย มีเงินเดือนอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเป็นทหาร



                “เซอร์ วินตัน เชอร์ชิล”  นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไปเป่าหูพวกเด็กหนุ่มจากชนบทมาได้อย่างไรไม่ทราบ จนมีเด็กหนุ่มนับหมื่นคน มาสมัครเป็นทหาร บางหน่วยที่รับยังต้องมีการคัดออก เพราะมีผู้มาสมัครมากมาย นายทหารอังกฤษเดิมไม่เข้าใจเด็กพวกนี้ว่า เอาอะไรมาคิดที่จะเป็นทหาร ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะต้องฝึกเพื่อไปรบ และทั้งๆ ที่มีการติดประกาศราชการไว้อยู่แล้วถึงขั้นเงินเดือนทหารที่หน่วยที่มีเงินเดือนให้ทหารใหม่แพงสุดคือ พลร่ม ได้เดือนละ 45 ปอนด์ ( 1 ปอนด์ = 74 บาทในปัจจุบัน) แพงกว่าเงินเดือนพวกเด็กอู่เรือไม่ถึง 10 ปอนด์



               หน่วยนาวิกโยธินที่ 8 รับทหารฝึกมา 112 นาย แต่ตั้งเป้าจะคัดให้เหลือเพียง 52 นายหลังจากการฝึกทั้งหมดแล้ว โดยการฝึกอย่างแรกคือการฝึกพื้นฐานที่ทหารใหม่ทั่วไปพึงจะได้รับ คือ “ค่ายนรก” เป็น 1 ในหลักสูตรเร่งรัดของกองทัพเรืออังกฤษ มีระยะเวลาฝึก 4 สัปดาห์



               หน่วยนาวิกโยธินที่ 8 ถูกส่งมาที่ค่าย “เมเดิล ล๊อป” พร้อมกับอีก 3 หน่วยนาวิกโยธิน  บ่ายแรกของชีวิตภายในค่ายคือ การกล่าวต้อนรับทหารของผู้พัน โทมัส  เฮลเซอร์ ผู้บัญชาการกองพันที่ 2 ใจความสำคัญของคำกล่าวคือ “ไม่มีผู้ใดบังคับท่านให้เป็นทหาร และจะไม่มีผู้ใดบังคับให้ท่านออกจากการเป็นทหารเช่นกัน”

    ……………………………………………………………………………………………………………………



               “เมเดิล ล๊อป” เป็นค่ายที่อยู่ติดกับชายฝั่งทะเล แต่บางช่วงเป็นหน้าผา หลังค่ายเป็นป่าทึบ หมู่บ้านที่ใกล้ค่ายนี้ที่สุดอยู่ห่างออกไปประมาณ 3 ไมล์ (1ไมล์ ประมาณ 1.6 กิโลเมตร) ลักษณะค่ายเป็นค่ายถาวร สิ่งปลูกสร้างทำด้วยไม้เป็นส่วนมาก และได้รับการดูแลเป็นอย่างดี สภาพค่ายที่ทหารฝึกใหม่ทุกนายมาเห็นก็ไม่ต่างจากบ้านเรือนทั่วไป เพียงแต่เป็นห้องนอนรวม 16 คน ห้องน้ำแยกที่ ในตอนเย็น ทหารใหม่มีเวลา 2 ชั่วโมงในการจัดที่พักให้เรียบร้อย ทหารได้รับอนุญาตให้นำชุดนอกมาได้เพียง ชุดเดียว ( เสื้อ กางเกง ถุงเท้า รองเท้า) และต้องนำไปฝากไว้ที่กองกลาง แต่ก็ไม่มีการระบุว่าหากฝ่าฝืนจะมีโทษใดๆ แต่ไม่มีทหารใหม่หน้าไหนกล้าเก็บชุดไว้กับตัว ทหารใหม่ได้รับชุดประจำการของทหารในตอนค่ำก่อนอาหาร ประกอบไปด้วย ชุดทั่วไป 3 ชุด(เสื้อทับใน กางเกงยาว) กางเกงขาสั้น 2 ตัว ถุงเท้า 3 คู่ รองเท้าบู๊ตกับรองเท้าหนังอย่างละคู่ ชุดนอน 2 ชุด และหมวกผ้าใบ 1 ใบ หากทหารใหม่นายใดได้ของไม่ครบก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะ กว่าครึ่งหนึ่งของทหารที่เข้าแถวรับชุดในรอบแรกจะกลับเข้าไปต่อแถวในรอบสองเพื่อรับของที่ตนเองไม่ได้ หรือ คืนของที่ตนได้เกินมา



               หน่วยพลาธิการทหารบอกว่า ตามใบเบิกของ ของส่วนกลางระบุของทุกชิ้นตามจำนวนทหารในค่ายแต่เสื้อผ้าที่ได้มาแจกให้ทหาร มักจะไม่เท่ากัน จำนวนทหารฝึกใหม่ในค่ายคือ 430 นาย แต่มีเพียงหมวกเพียงอย่างเดียวที่หน่วยพลาธิการประจำค่ายนับได้ 430 ชิ้น ที่เหลือไม่ขาดก็เกิน จึงไม่มีการลงโทษในคืนนั้นสำหรับทหารฝึกใหม่ที่ใส่กางเกงขาสั้นนอน

    …………………………………………………………………………………………………………………..



                เช้าวันต่อมาทหารถูกเรียกมาออกกำลังกายเพียงเล็กน้อยไม่ถึงชั่วโมง ก็ถูกปล่อยไปทำภารกิจส่วนตัว อาหารเช้าคือ ขนมปังทาเนย กับ ไส้กรอกอีก 2 ชิ้น และนมอีกขวด ไม่มีการถามว่าทานหมดแล้วใครจะหิวอีกแต่พ่อครัวทั้งหมดได้หายหน้าไปหลังจากทหารใหม่ทุกนายได้รับอาหาร



                 หลังอาหารเช้าเป็นการบรรยายหน้าที่ของหน่วยนาวิกโยธินโดยกองทัพเรือส่วนกลางส่งเจ้าหน้าที่มาบรรยาย การบรรยายเป็นเชิงขบขันมีการแทรกมุขตลกตลอดเวลา สร้างความครื้นเครงให้กับทหารใหม่ตลอดช่วงเช้า โดยไม่มีทหารใหม่นายใดทราบชะตากรรมในช่วงบ่ายของตน



                หลังอาหารเที่ยง ผู้กอง เจฟ โฮแกน นำทหารใหม่ในหน่วยที่ 8 มายังหน้าผาแห่งหนึ่ง เบื้องล่างเป็นชายหาดยาวประมาณ 300 เมตร คำสั่งเดียวจากปากของ “เจฟ” คือ “ ไปพบฉันก่อนตะวันตกดินที่ชายหาดข้างล่าง”

    ผู้ช่วยอีกสองนายของ เจฟ สั่งให้ทหารใหม่วิ่งไปตามทางด้านขวา ผู้หมวด ฮาวี่ พูดเพียงว่า “ถ้าพวกนายเดินไปตามทางก็จะถึง” หลังเสียงนกหวีดดัง ทหารทุกนายได้รับอนุญาตให้วิ่งไปตามทางแต่ไม่จำเป็นต้องเป็นขบวน ใครจะไปเร็วก็วิ่งนำไปก่อนก็ได้ นายสิบทุกนายให้คำยืนยันกับทหารทุกนายว่าทางไปมีเพียงทางเดียวไม่มีทางแยก



                 “โรบิน เอ็ดเวิดส์” เด็กอู่เรือจาก ลิเวอร์พูล วิ่งเร็วกว่าเพื่อน เขา สปีดหนีไปก่อน  แต่ไม่ถึงชั่วโมงต่อมาเขาถูกเพื่อนช่วยกันหามไปส่ง จ่าเอก ดาร์ตัน  นายสิบประจำหน่วยอีกคน โดยเพื่อนๆ บอกว่าพบเขานอนคว่ำระหว่างทางขึ้นเขา



                 “บิล” และ “ฌอน” โฮวี่  พี่น้องจาก ดารลิงตัน วิ่งเกาะกลุ่มไปกับเพื่อนทหารอีก 10 กว่าคน บิล สังเกตว่าทางที่ไปได้โค้งเข้าหาหาดเส้นชัยแม้แต่น้อยทั้งยังจะมุ่งเข้าป่าไปเรื่อยๆ “ฌอน” กล่าวว่า “สภาพอากาศไม่ได้เป็นอุปสรรค แต่การวิ่งโดยไม่มีใครรู้ทาง เพียงแต่มีทางให้วิ่งเป็นการบั่นทอนกำลังใจของผู้วิ่งเป็นอย่างมาก ทั้งยังไม่มีใครรู้นิสัยของผู้กอง เจฟ แม้แต่รายเดียว” ความคิดต่างๆ นานาของบรรดาทหารฝึกใหม่เองทำให้บางคนรู้สึกล้าไปเองโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่การที่วิ่งตามทางโดยไม่รู้ว่าจุดหมายจะอยู่ไกลแค่ไหนก็เป็นแรงส่งไปให้ถึงเส้นชัย เพราะเส้นชัยอาจจะห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตรก็เป็นได้ หรือหากยังอีกไกลก็จะหยุดทำไม ในเมื่อวิ่งมาตั้งหลายไมล์



                  วิธีที่ดีที่สุดในการวิ่งคือการวิ่งเกาะกลุ่มกันไปเรื่อยๆ ไม่วิ่งช้าหรือเร็วเกินไป เพราะจะทำให้เกิดกำลังใจในการวิ่งและหากมีใครออกอาการไม่ดีจะได้ช่วยกันปฐมพยาบาล และอย่างน้อยที่สุด หากไปถึงเส้นชัยไม่ตามกำหนด และมีการลงโทษ จะได้มีเพื่อนในการลงโทษด้วย



                  นายสิบทุกนายจะยืนระหว่างทางเป็นระยะๆ ทหารที่ไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตามก็สามารถพักอยู่กับพวกนายสิบได้ แต่ “เจสัน กัลลาดล์”  จาก อเบอดีนในสก๊อตแลนด์ สังเกตว่านายสิบบางคนเขาเจอที่จุดแรกๆ แล้ว แต่ก็ยังเจออีกในระยะต่อมา เขายืนยันได้ว่าไม่มีรถวิ่งผ่านเขาไปเลยระหว่างทาง และสร้างความฉงนงงให้กับทหารใหม่อีกหลายนาย



                 เสียงจากจ่าโท “มัลคอล์ม  ฮันท์ “   ตะโกนบอกทหารทุกกลุ่มที่วิ่งผ่านเขาไปว่า “อาหารเย็น ห่างจากพวกแกเพียงแค่ 1 ไมล์” ถึงตรงนี้ทหารทุกนายที่ได้ยินสปีดวิ่งผ่านมัลคอล์ม ไปทุกนาย

                                                      

                                                                                                                   โปรดติดตามตอนต่อไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×