ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เรื่องย่อดิบ ๆ
คือพี่ไปเข้าคอสเรียนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มา แล้วพอดีมีโอกาสฟัง lecture อาจารย์ 2-3 ท่านที่ทำวิจัยเกี่ยวกับพลังงาน
พอดีพี่เองตอนทำ thesis ศึกษาเกี่ยวกับ recycle แล้วพอได้ฟังเรื่องเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน Ecology Green Architecture แล้วเกิดฮึดขึ้นมา
ได้ไอเดียว่า ความจริงพวกเราเนี่ยกินพลังงานมาก ๆ ทั้ง ๆ เป็นเรื่องสำคัญ แต่กลับไม่ค่อยมีใครสนใจ
น้ำแข็งขั้วโลกก็กำลังละลาย และด้วยอัตราการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกเท่าขณะนี้ กทมเราจะอยู่ใต้ระดับน้ำทะเลภายใน 30-60 ปี
(ฟังดูมีหลักการเชียวเรา หะเอิ๊ก ๆ อย่าเพิ่งเวียนเฮดนิคิ)
ทีนี้ ...มีอาจารย์ท่านหนึ่ง แกเป็นสถาปนิก แกออกแบบบ้านผลิตพลังงาน ซึ่งไอเดียดีมาก ๆ แต่น่าตาโหลยโท่ยไปหน่อย หุหุ
(คือปกติแล้วสถาปนิกจะเน้น design หรือไม่ก็ building tech ทางใดทางหนึ่ง
สองค่ายนี้ไม่ลงรอยกัน เหมือนหมอเมดกะหมอศัลย์มั๊ง)
แต่พี่รักในความตั้งใจดีต่อสิ่งแวดล้อมของแก ถึงแกออกจะเพี๊ยน ๆ และอีโก้กระฉูดไปหน่อยก็เหอะ
แกออกแบบบ้านที่ประหยัดพลังงานมาก ๆ ถึงขนาดสามารถผลิตพลังงานได้ด้วย ถ้าตัดไฟ ตัดน้ำทิ้งก็อยู่ได้
พี่เลยอยากอัญเชิญแกมา Modify ใหม่
เอาความเป็น Sci ออกไปนิด เอาความเป็น art ใส่เข้าไปหน่อย
ที่สำคัญเอาอายุมากออกไป แล้วเอาความเท่ น่ารักแปะเข้าไปเสริมเยอะ ๆ หน่อย
5555แล้วเราก็จะได้พระเอกของเรา >____^
พระเอกเป็นสถาปนิกเก่งทั้งบุ๋นและบู้ คือดีไซน์เก่ง เก่งด้านวิศวกรรมด้วย 55555 เป็นคนบ้างาน อีโก้สูงสาด ๆ
ปากเสียนิด ๆ พอน่ารัก ชอบทำเป็นดุ ทำเป็นนักวิชาก๊าร วิชาการ แต่จริง ๆ แอบเพี๊ยน แอบฮา แอบบ้า แอบเป็นคนมีน้ำใจ
ฉากก็คือบ้านประหยัดพลังงาน ที่พระเอกออกแบบ
แล้วนางเอกก็ควรจะมาแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ไม่มีสำนึกด้านพลังงานเลย
เธอเป็นเหมือนคนอ่าน เหมือนเด็ก ๆ ยุคนี้ คนทั่วไปที่ออกจะวัตถุนิยมนิด ๆ
มาแนว ประหยัดพลังงานเร๊อะ เช๊อะ
นี่ไง ฉันน่ะประหยัดพลังงานสุด ๆ ประหยัดพลังงานตัวเองย่ะ เน้นสะดวก สบาย
ขึ้นบันไดไปชั้นสามก็ต้องกดลิฟท์แล้ว
แล้วทีนี้เธอต้องมาอยู่บ้านนี้ เลยเกิดเหตุการณ์แบบขำ ๆ ฮา ๆ ตีกับนายสถาปนิกสุดเพี๊ยนที่เรียนเก่งได้ทุนจบด๊อกเตอร์ด้านนี้มา
พระเอกเป็นคนออกแบบบ้านนี้ อาจเป็นบ้านตัวอย่างในโครงการหมู่บ้านจัดสรรร้างที่พ่อนางเอกทำไว้แล้วเจ๊ง พระเอกเก็บค่าแบบไม่ได้เลยมาอยู่บ้านนี้
(รักผลงานด้วย มาดูแล มันอาจเป็น passion อาจเป็นบ้านหลังแรกที่ได้ทำงานประหยัดพลังงานที่ตัวเองฝัน เลยหวง อยากมาทดลองอยู่เอง)
พอดีนางเอกที่กำลังเรียนอยู่ต่างประเทศ พ่อไม่มีเงินส่งเรียนจบจน เพราะบริษัทเจ๊ง เลยต้องกลังมาเมืองไทยแบบไม่จบ กลายเป็นถือวุฒิ ม 6 ดีมั๊ย (คือต้องมีปมในใจนิดนึง )
พอไม่มีบ้านอยู่ บ้านพ่ออาจโดนแบ๊งยึด เลยต้องมาอยู่บ้านตัวอย่างในโครงการ... อะไรประมาณนี้ดีป่ะคะ
พอมาแย่งบ้านได้พระเอกอาจต้องระเห็จออกไปอยู่ข้าง ๆ ซึ่งเป็นสำนักงานขาย โทรม ๆ (น่าฉงฉานที่ซู๊ด)
แต่พระเอกอาจกลัวเธออยู่แบบไม่ประหยัดพลังงาน ทำให้บ้านนี้เสียชื่อ จ่ายค่าไฟแพงเกินกว่า concept ที่ตั้งไว้
เลยตามตอแยนางเอกไม่เลิก คอยมาดู คอยมากำกับ
(คือบ้านประหยัดพลังงาน ของอาจารย์พี่นะ เค้าจะการันตีว่าค่าไฟฟ้าจะไม่เกิน 200 บาทต่อเดือน
และถ้าตัดน้ำตัดไฟจากการไฟฟ้าการประปาก็อยู่ได้ค่ะ แกบ้ามากจริง ๆ )
ก็เลยตีกันนัวเนีย น่ารักดี
เช่น
เธอเปิดไฟทั้งบ้านเพราะกลัวผี แต่โดนพระเอกเราดุ 'นี่...พ่อเธอเป็นเจ้าของเขื่อนยันฮีหรือไง'
'ต๊ายยยยย...ยันอะไรนะ ลามก!!!' เธออาจไม่รู้ว่าเขื่อนภูมิพลน่ะคือเขื่อนยันฮี เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น 743,800 กิโลวัตต์ brah ๆๆๆ
หรือแบบประมาณ... ตอนแรกเธอก็ดื่มน้ำแล้วก็คิดว่าน้ำบ้านนี้เป็นน้ำแร่
แต่สำลักพรวดออกมาพอพระเอกบอกขำ ๆ ว่าเป็นน้ำ Recycle ผสมระหว่างน้ำค้าง น้ำแอร์ กับน้ำจากถังบำบัดจากท่อน้ำทิ้ง
55555
แล้วแม่คุณก็ต้องเต้น ๆ ๆ 'ต๊าย นี่แกให้ฉันกินน้ำฉี่เร๊อะ??? นายตายซะเหอะ'
แล้วก็ค่อย ๆ โดน สอนว่าการทำน้ำประปาเนี่ยต้องใช้พลังงานมหาศาลแค่ไหน
น้ำทิ้งต่างกับน้ำโสโครกยังงัย น้ำแอร์ความจริงเป็นน้ำกลั่นที่สะอาดมาก ฯลฯ
ไอเดียก็คือ อยากให้คนอ่าน อ่านแล้วมีความรู้เรื่อง environment eco-product green มีสติ มีสำนึกคิดถึง energy saving
แต่ไม่เคลียด ขำ ๆ กุ๊กกิ๊ก ๆ
แบบค่อย ๆ รักกัน สุดท้าย นางเอกเราก็ไม่กดลิฟท์ แต่จะเดินขึ้นชั้นสามด้วยขาตัวเอง
เวลาร้องไห้ก็จะไม่ใช้ทิชชู่เปลือง 5555
อาจมีฉากน่ารัก ๆ แบบจุดเทียนประชด แต่ดันได้บรรยากาศหวาน ๆ อะไรแบบนั้นก็ได้
อะไรแบบนั้นน่ะค่ะ
ตอนแรกพี่คิดจะให้นางเอกเป็นนักการตลาด ด้าน Marketing ได้เรียน แต่ไม่จบ
(พี่อยากบอกคนอ่านด้วยว่า ปริญญาไม่ได้สำคัญที่สุด ไม่จบ ไม่มีวุฒิ ไม่มีคนรับเข้าทำงาน ก็หาหนทางเองได้)
นางเอกหางานไม่ได้เลยเปิดบริษัทเอง เล็ก ๆ ที่บ้านนี่แหละ ทำงานโฆษณา (จะได้มีตัวละครอื่น ๆ ขำ ๆ )
พอดี๊ ไปรับงานมา บริษัทผลิตหลอดไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าอยากเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่
แล้วนางเอกอาจจ้างฟรีแล้น โดนทิ้งงาน หรือน้อง Graphic ติดปัญหาอะไรสักอย่าง ต้องส่งงานพรุ่งนี้แล้วไม่มีส่ง
พระเอกก็เลยมาแอบช่วย
(คนนอกวงการเราไม่รู้หรอกว่าสถาปนิกนั้น ทำได้ทุกอย่างตั้งแต่ถ่ายรูปยัน Photoshop ยันออกแบบเวที บู๊ธ ทำหนัง ฯลฯ ) อะไรแบบนั้น
ผลงานก็เลยโดนใจลูกค้ามาก เพราะพอดีพระเอกรู้เรื่องไฟฟ้าเยอะไง
นางเอกเลยค่อย ๆ ญาติดีขึ้นกับอีตาสถาปนิกเพี๊ยนไม่ยอมจ่ายค่าไฟ
ส่วนพระเอกอาจจะไม่ค่อยมีตังค์ โดนลูกค้าไม่จ่ายค่าแบบมาเยอะ (อยากแฉเรื่องนี้มานานแล้ว) เลยมาเป็นลูกจ้างนางเอก
แล้วสุดท้ายก็มาช่วยกันกะพระเอก ทำโครงการของพ่อที่ทำไว้ต่อจนสำเร็จเป็นหมู่บ้านประหยัดพลังงาน
อาจได้สปอนเซอร์จากบริษัทหลอดไฟที่เป็นลูกค้าบริษัทโฆษณานี่แหละ
อิอิ มั่วไปโน่น แต่ก็เนียนใช้ได้ป่ะ
แต่ถ้ากรมาศอยากเปลี่ยนให้นางเอกเป็นหมอฟันก็ได้นะคะ
สรุป ไอเดียพี่ อยากให้เราเอาเรื่องซีเรียส ๆ อย่าง Energy Saving นี้จับมาเขียนเป็น romantic comedy กัด ๆ ขำ ๆ
เอาพฤติกรรมทำลานทรัพยากรของพวกเรานั่นแหละ มาเขียนประชด ๆ จับมาเป็นพฤติกรรมนางเอกให้มันเว่อร์ ๆ
ส่วนอีตาพระเอกก็ Anti แบบเว่อร์ ๆ สอดแทรกความรู้เรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับ Energy Saving เฮียแกชอบทำตัวเป็นนักวิชาการไง
ให้คนอ่าน อ่านแล้วเดินขึ้นชั้นสามด้วยขาตัวเอง ใช้กระดาษอย่างมีสติสักหน่อย แยกขยะก่อนทิ้งสักนิดก็ยังดีน่ะค่ะ
และสุดท้ายนะ กรมาศต้องคิดฉากจบหวาน ๆ แบบประมาณว่า ตอนเข้าหอ นางเอกอาจบอกว่า ดับไฟเหอะเพ่ ประหยัดพลังงานนิคิ
พระเอกเราก็อาจจะตอบว่า น่า... เปิดไว้สักดวง ผมจายอมจ่ายค่าไฟแล้วคร๊าบ อิอิ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น