ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Tokyo Revengers [Mikey x Oc] : I'm girl

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.69K
      340
      26 มิ.ย. 64

    บทที่1

    หลังตัดผม…ก็เป็นงี้

     

    ซาโอโตะ ยามาริ เด็กหนุ่ม เด็กสาวหน้าหล่อที่มาพร้อมกับผมสั้นเหมือนผู้ชาย และเพิ่งเข้ามาเรียนโรงเรียนในชิบูย่า จนทำให้มักถูกเข้าใจผิดอยู่เสมอว่าเป็นเด็กผู้ชายและมักจะมีนักเลงมาป้วนเปี้ยนแถวๆ ตัวเธอ ด้วยหน้าตาที่เหมือนจะเหม่อลอยและเย็นชา ทำให้หมั่นไส้พวกนักเลงหลายๆ คน

     

    และสุดท้ายก็ดันตกลงคำท้าการแข่งพนันต่อยตีจนได้…

     

    “จัดมันเลย!!!”

    “อย่าแพ้เข้าล่ะ ไอ้หน้าหล่อ!!”

    เสียงเชียร์ต่างดังเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อน ยามาริแทบอยากจะออกไปจากใจกลางสนามประลองตัวต่อตัวเสียจริง แต่นิสัยของเธอนั้นพูดแล้วก็ต้องทำ รับคำท้ามาจะให้วิ่งหนีหางจุกตูดได้ไง

     

    “หึ! ถ้าไม่เข้ามาฉันจะเข้าไปหาแล้วนะ!!” หนุ่มตรงหน้าเอ่ยขึ้น ก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาหาเธอและใส่หมัดไปหนึ่งที

     

    แต่นั่นมันช้า…ช้ามาก…ช้าจนเธอที่ไม่ได้ต่อยตีเก่งยังหลบได้ และวิ่งลอบหลังสับคอไปทีนึงจนชายคนนั้นสลบลงในทีเดียว

     

    “เฮ้อ…ไร้สาระ” เธอเอามือลวงกระเป๋า พลางอารมณ์ขึ้นกับเสียงโฮ่ร้องกับเสียงเชียร์รอบข้างๆ

     

    ยามาริเดินออกจากการประลองไร้สาระนั่น พลางคิดในใจว่าได้อะไรมั่งจากการประลองนี้ แต่คิดไปก็รกสมอง กลับไปเรียนต่อดีกว่า

     

    ‘จริงด้วย ไปซื้อของกินหน่อยดีกว่า’ ก่อนกลับเธอแหวะซื้อขนมปัง และนมหนึ่งกล่องไว้กินตอนพักเที่ยง และก็กลับไปเข้าเรียนดั่งเดิม แต่ก่อนอื่นคงต้องแนะนำตัวให้เพื่อนใหม่ในห้องรู้จักก่อน

     

    “วันนี้มีนักเรียนใหม่เข้ามา ทำความรู้จักกันด้วยล่ะ” อาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์เข้ามาในห้องเรียน พร้อมกับเด็กสาวที่เหมือนเด็กชาย

     

    “ซาโอโตะ ยามาริ ยินดีที่ได้รู้จักฝากตัวด้วย” สาวหน้าหนุ่มผมสั้น สวมชุดนักเรียนสีขาวเสื้อคลุมสีดำ และที่ทำให้คนเข้าใจผิดไปใหญ่ก็คือเธอใส่กางเกงขาดำยาว ทำให้เพื่อนหญิงทั้งห้องต่างกรี๊ดกร๊าดกันเล็กน้อย

     

    “งั้นซาโอโตะ เธอไปนั่งข้างๆ ซาโนะคุงนะ”

     

    “โอ้ส” เด็กหนุ่มผมสีบลอนด์ครีมอ่อนมัดหลวม นัยต์ตาสีดำอมม่วง สวมกางเกงสีดำทรงหลวมและเสื้อเชิ้ตสีขาวเปิดคอ แถมเสื้อนอกสีดำที่ไม่ได้สวมแขน พร้อมยกมือข้างนึงขึ้นเป็นสัญญาณให้เธอรู้ และหันกลับไปมองหน้าต่างต่อเหมือนเดิม

     

    ยามาริเดินไปนั่งโต๊ะข้างๆ เขา พลางวางกระเป๋าลงข้างโต๊ะและมานั่งที่ สายตาดำอมม่วงชายตามองร่างข้างๆ ก่อนจะกลับมาหันมองหน้าต่างต่อ

     

    ..

    .

     

    กริ่งงงงง!

    เสียงกริ่งดังขึ้นบอกเวลาพักเที่ยง ซาโอโตะ ยามาริที่เป็นนักเรียนใหม่ก็ต่างมีนักเรียนในห้องเข้ามาพูดคุยกับเธอ แต่นั่นทำให้เธอที่ชแบความสงบก็เริ่มรำคาญเสียงพวกนี้ แต่ทำไงได้ มาอยู่ที่นี้ก็ต้องเป็นมิตรกับคนอื่นที่เป้นเด็กนักเรียนธรรมดาสักหน่อย

     

    “อ่าๆ เดี๋ยวค่อยคุยกันหลังเลิกเรียนเถอะ ฉันจะไปกินข้าวเที่ยงแล้ว” ยามาริหยิบขนมปัง และนมหนึ่งกล่องขึ้นมาและเดินออกไปนอกห้อง

     

    ตึง!

    เด็กสาวเดินชนเข้ากับชายร่างสูงผมบลอนด์ทอง นัยต์ตาสีดำอมน้ำเงิน ปลายผมทักเปียยาวและมีรอยสักลายมังกรตรงขมับ 

     

    ‘นี้เด็กมัธยมต้นจริงดิ?! โคตรสูง!!’

     

    “หา? อา…โทษที ถอยไปหน่อย” ชายคนนั้นดันตัวเธอออกจากประตู

     

    “ไมค์กี้ ไปกินข้าวกัน”

     

    “อืม! เอาสิ ฉันจองบนดาดฟ้า!”

     

    ‘เอ๊ะ?? ไมค์กี้…ซาโนะคนนั้นนั่นคือชื่อเขาหรอ? ซาโนะ ไมค์กี้…ชื่อแปลกชะมัด เอาเถอะ คิดไปก็รกสมองไปกินข้าวบนดาดฟ้าดีกว่า…’ เธอคิดในใจ พลางเดินหาบันไดและเดินขึ้นไป นั่งทานของที่ซื้อสองอย่าง

     

    “เอ๋? นายคนนั้นนี้หน่า…” ซาโนะเดินขึ้นมาบนดาดฟ้า พลางชี้มาทางยามาริที่นั่งทานขนมปังอยู่

     

    “ใครล่ะนั่น?” ชายข้างๆ เอ่ยถาม

     

    “นักเรียนใหม่น่ะ น่าสนใจดี” ซาโนะเดินตรงเข้ามาหาเธอ พลางเอามือลวงกระเป๋า

     

    “อีอะไอ? (มีอะไร?)” ยามาริพูดพลางเขี้ยวขนมปังและดื่มนม

     

    “นายน่ะ มาเป็นเพื่อนกับฉันนะ ยามะจิน”

     

    “อา…ฉันซาโอโตะ ยามาริ นาย…ซาโนะ ไมค์กี้?” ชายร่างสูงหลุดขำเล็กน้อย ก่อนจะกลั้นขำไว้

     

    “ฉันซาโนะ มันจิโร่ ฉายาไมค์กี้ เรียกแบบนั้นก็ได้” ซาโนะยิ้มให้เธอ

     

    “ฉันริวงูจิ เคน เรียกดราเค่นก็ได้” เขาพูดด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

     

    “อ่า…ว่าแต่พวกนายแต่งตัวเหมือนนักเลงเลยนะ”

     

    “ก็เป็นนักเลงน่ะสิ” ซาโนะเดินมานั่งข้างๆ เธอ และนี้เป็นความฉิบหายที่เธอดันไปเป็นเพื่อนกับเด็กนักเรียนไปธรรมดาจนได้

     

    “งะ…งั้นฉันขอตัวก่อนนะ อิ่มแล้ว…” เธอหยิบถุงขนมปังเปล่า และกล่องนมที่เหลืออยู่ไม่กี่หยด

     

    “เดี๋ยวสิ” ซาโนะรั้งแขนของเธอไว้

     

    ‘เอาแล้วไง!! นี้ฉันไปหาเรื่องพวกเขาอีกแล้วหรอ?!’

     

    “มานั่งด้วยกันก่อนสิ ยามะจิน”

     

    “เอ๊ะ? ฉันยามา--”

    “ถ้าไมค์กี้อย่างงั้น เพราะฉะนั้นเธอคือยามะจิน” ริวงูจิเอ่ยขึ้น ส่งสายตาคมไม่เป็นมิตรให้

     

    ‘น่ากลัวฉิบ!! (T-T)’

     

    “กะ ก็ได้…” เธอตอบรับและกลับมานั่งที่ รอจนกว่าซาโนะจะทานข้าวเสร็จ แต่แม่ม..โคตรอึดอัดเลย

     

    “นี้ยามะจิน กินนี้หน่อยไหม?” ซาโนะยื่นตะเกียบที่คีบไข่ม้วนให้เธอ

     

    “เอ๊ะ? จะดีหรอ?” เพราะปกติไม่ค่อยมีเงินมาก ก็เลยต้องทานแต่ขนมปังและนมจืดเดิมๆ แม้อยากจะปฏิเสธไป แต่ความอยากอาหารของเธอก็ทำให้ท้องร้องถึง

     

    “เอาน่าๆ ก็นายกินสองอย่างจะอิ่มได้ไงล่ะ” ซาโนะยิ้มให้เล็กน้อย ยามาริกลืนน้ำลายลงก่อนจะทานของที่ตะเกียบคีบอยู่

     

    ‘เอ๊ะ? เดี๋ยวดิ นี้เขากำลังป้อนฉันอยู่หรอ?’ คิดได้ดังนั้นเธอก็รีบเอาปากออก และเคี้ยวไข่ม้วนพลางหลบใบหน้ายิ้มอ่อนของซาโนะ

     

    ..

    .

     

    “นี้ยามะจิน วันนี้ว่างรึเปล่า? ไปเที่ยวเล่นกัน” ซาโนะตามเธอออกจากโรงเรียนมา

     

    “ไม่ล่ะ วันนี้ฉันต้องทำความสะอาดบ้าน” ความจริงแล้วนี้เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เพราะเธอค่อนข้างจะรำคาญนิสัยแบบนี้ซะจริง

     

    “เห้? งั้นให้พวกฉันช่วยเอาไหม?”

     

    “หา?!”

     

    “ไม่เป็นไร ไม่ต้องหรอก ฉันไม่อยากรบกวนน่ะ…” ไม่ใช่เพราะเกรงใจหรอกนะ เพราะด้วยนิสัยที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และยังชอบทำอะไรด้วยตัวคนเดียวอีก

     

    เพราะทั้งชีวิตไม่มีใครมาช่วยอยู่แล้ว…

     

    “งั้นถ้าเสร็จแล้วก็ไปเที่ยวด้วยกันนะ”

     

    “ก็บอกว่าไม่ไง ขอบาย--”

    “เห้ย ไมค์กี้อุตส่าห์ชวนแล้วทั้งที” ริวงูจิตบไหล่เธอพลางออกแรงเล็กน้อย พร้อมส่งสายตาจิกเป็นนัย

     

    น่ากลับฉิบ ;=v=)

     

    “อะ อ่า…ก็ได้ เสร็จแล้วเดี๋ยวมา” เธอปัดมือของเขาออก และเดินเข้าไปในบ้านหลังขนาดกลางมีสองชั้น

     

     

    เธอนั่งทำหน้าบึ้ง พลางเปิดม่านตรงหน้าต่างชั้นสองชายตาลงดูเล็กน้อย และก็พบกับทั้งสองที่ยืนรอเธออยู่หน้าบ้านอย่างกับมาหาเรื่องยังไงอย่างงั้น

     

    แต่ก่อนที่จะมาถึงชิบูย่าเธอก็ได้ยินชื่อไมค์กี้ มาจากข่าวลือให้สนั่นเลย ได้ยินว่าไมค์กี้เป็นหัวหน้าแก๊งโตเกียวมันจิไค หรือชื่อย่อคือโตมัน งั้นสรุปว่า…

     

    ดันไปยุ่งกับโคตรของโคตรคนไม่ธรรมดาซะได้!!!

     

    เธอนั่งกุมขมับด้วยความวิตกกังวล เพราะมาโรงเรียนวันแรกก็เข้าไปยุ่งเรื่องการพนันต่อยตีบ้าบอ แถมยังเจอกับหัวหน้าขาใหญ่แถบชิบูย่าอีก ซึ่งอีกคนที่ตัวสูงๆ ไม่ต้องพูดมาก ต้องเป็นรองหัวหน้าอย่างแน่นอน นี้ชีวิตเธอหลังตัดผมมันอะไรกันเนี้ย?!

     

    ..

    .

     

    สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้ทำความสะอาดและลงมาเจอกับพวกสองคนตำแหน่งใหญ่ของกลุ่มโตมัน และตอนนี้ก็ต้องมาปั่นจักรยานโดยที่มีซาโนะซ้อนท้ายอยู่กับริวงูจิ

     

    “เออ…ซาโนะคุง ทำไมถึงต้องพาฉันมาด้วยล่ะ?”

     

    “อืม…ก็นายเป็นเพื่อนของฉันนี้หน่า” เธออยากจะลงจากจักรยานคันนี้แทบตาย แต่ทำไงได้ ถ้าลงไปคงได้ตายจริงๆ แน่

     

    “อะ อ่า…แล้วทำไมถึงอยากเป็นเพื่อนกับฉันล่ะ?”

     

    “ก็ไม่รู้สิ เห็นครั้งแรกก็ชอบแล้วน่ะ เพราะเธอเหมือนเพื่อนสมัยเด็กของฉันน่ะ”

     

    “อ๋อ หมายถึงยัยนั่นสินะ อยากเจออีกเหมือนกัน” ริวงูจิเอ่ยขึ้น

     

    ‘ยัยนั่น? หรือว่าจะเป็นผู้หญิง? แต่พวกเขาเรียกฉันว่านายคงคิดว่าเป็นผู้ชายอีกแหง…’

     

    “เออคือว่านะซา--”

    “ถึงแล้วล่ะ” ซาโนะเอ่ยแทรกก่อนจะลงจากจักรยานและไปนั่งลงบนผืนหญ้าเนินสูง ตามด้วยริวงูจิที่ลงมาและยืนเอามือล้วงกระเป๋าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลซาโนะนัก

     

    ยามาริเองก็จอดรถจักรยานและเดินลงไปอยู่ข้างๆ กับซาโนะ เมื่อได้เห็นเขายิ้มแล้วรู้สึกว่าไปเหมือนว่าเธออาจคิดมากไปเองก็ได้ เขาเป็นหัวหน้าแก๊งโตมันก็จริง แต่ถ้าอยู่เงียบๆ ก็เหมือนเด็กธรรมดาคนนึงเลย

     

    ‘เอาเป็นว่าค่อยบอกก็แล้วกัน ว่าฉันเป็นผู้หญิง…’

     

    ..

    .

     

    ชีวิตในโรงเรียนก็ผ่านไปยืดยาวนานหลายสัปดาห์ ซาโนะและริวงูจิก็ (แม่ง) มาบ้านเธอทุกวันไม่ขาดสาย แม้อยากจะเอาหมัดต่อยเข้าหน้า แต่เดี๋ยวก็โดนเขาสวนหมัดกลับมาอีก แถมฝั่งนั้นมีถึงสองคนด้วยใครจะไปสู้ไหวกับหัวหน้าและรองหัวหน้า

     

    และอีกอย่างพวกซาโนะ มันจิโร่ก็เอาแต่โดดเรียน การบ้านก็ไม่ยอมส่ง แถมวันนี้เองก็เหมือนกันไม่มาเรียนอีกแล้ว และยังขู่พวกอาจารย์จนกลัวหดด้วย แต่บางครั้งจะมาพาเธอไปเที่ยวเล่น สุดท้ายก็โดนปฏิเสธและกลับไปด้วยท่าทางหงอยตลอด

     

    “นี้ยามาริจัง เธอมีชมรมแล้วรึยังจ้ะ?” มิสากิเพื่อนพูดคุยกับยามาริที่เป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามานี้ได้ไม่นาน และยังไม่มีชมรมเข้าอีก

     

    “อ่า ยังไม่มีน่ะ ชมรมคาราเต้ก็ดีนะ” เอาไว้ฝึกป้องกันเวลามีเรื่องกับพวกนั้นล่ะมั้ง?

     

    “งั้นเดี๋ยวฉันพาไปนะเพราะชมรมนั้นผู้หญิงมีก็ค่อนข้างน้อย ถ้าเธอมาเพิ่มก็ดี” ยามาริพยักหน้าให้ก่อนจะตามผู้เป็นเพื่อนใหม่ไปยังชมรมคาราเต้

     

    ผัวะ!!

    เสียงชกต่อยของใครบางคนดังออกมาจากห้องๆ หนึ่ง ข้างหน้าห้องนั้นมีแต่ของที่พังแตะหักระเกะระกะไปทั่ว พร้อมทั้งนักเรียนหญิงและชายที่ต่างมุงดูภายในห้องที่สภาพห้องที่ที่กลิ่นคาวเลือดเล็กน้อย

     

    “รุ่นพี่โยชิวะค่ะ!” มิสากิตรงไปหาร่างชายผมสีดำ ใส่ชุดคาราเต้สีขาวสวมผ้าคาดสีดำที่คาดว่าจะเป็นหัวหน้าชมรม แต่ใบหน้าของเขาถูกชกต่อย อัดเละโดยกลุ่มแก๊งอันธพาลกลุ่มเล็กในห้องที่มีเพียง6คน

     

    “เป็นหัวหน้าชมรมคาราเต้แท้ๆ กระจอกชะมัด!” ชายผมเกรียนสีน้ำตาลเอ่ยขึ้น พลางชี้ไม้เบสบอลมาทางหัวหน้าชมรม

     

    “นี้คือห้องของพวกฉัน ของกลุ่มโตมันยังไงล่ะ!”

     

    “โตมัน?” ยามาริเบิกตากว้างพลางนึกถึงหน้าของหัวแก๊งอันธพาลนั้น เธอเกลียดที่สุด…เกลียดคนที่ทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้ ถ้าอีกฝ่ายเข้ามาคุยดีๆ ก็ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย

     

    “……” ยามาริเดินไปตรงหน้าชายที่เป็นหัวโจกของกลุ่มนี้ ด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบและมือที่กำปั้นไว้แน่น

     

    “หา? แกมีอะไ--”

     

    “คนที่ทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้เนี้ย…”

     

     

     

     

    เล่นสกปรกจังนะ

    ผัวะ!!!

    มือหนาต่อยเข้าแก้มใบหน้าที่กำลังแสยะยิ้มอยู่จนเลือดไหลออกจากปากเล็กน้อย นักเรียนแถวนั่นกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว

     

    “เล่นสกปรกบ้าอะไรของแกฟร้ะ?! สมองแกเพี้ยนไปแล้วรึไง?!!”

     

    “ถ้านายไม่ต่อยฉัน สมองฉันคงไม่เพี้ยนถึงขั้นนี้หรอก…” เธองางเข้าต่อยอีกฝ่าย

     

    ผัวะ!!

    หมัดเร็วและแรงของร่างเล็ก พุ่งตรงเข้าท้องของอีกฝ่ายอย่างจังจนกระอักเลือดออกมา ร่างนั้นกุมท้องเดินโซซัดโซเซไปชนกับลูกน้องข้างหลัง

     

    “ยามาริจัง! ข้างหลัง!!” เสียงของมิสากิส่งมาหลังจากหนึ่งแก๊งอันธพาล เอาไม้บาสเบสหัวของยามาริตอนที่เธอไม่ทันตั้งตัว

     

    ตุบ…

    ร่างยามาริล้มลงด้วยสภาพหัวยุ่ง และเลือดที่ไหลจากหัวเธอไม่หยุด เธอพยายามลุุกขึ้นแต่ก็ผลักให้คุกเข่าและถูกเหยียบหลังไปหลายรอบ

     

    ‘ไม่เอาอีกแล้ว…ไอ้พวกนังเลงอันธพาลอะไรแบบนีี้…ไม่อยากยุ่งอีกแล้ว…’

     

     

    TBC.

     

    จบไปกับตอนแรก อาจสั้นไปนิดแต่ตอนต่อๆ ไป จะทำให้ดีกว่านี้ และมาคุยไรกันสักนิด เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อสนองนีทตัวเองล้วนๆ หากตัวละครหลักนิสัยเปลี่ยน หรือผิดพลาดประการใดก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

     

    (แต่มาตอนแรกยามะจินก็โดนรุมเลยหรอ คำว่าไม่ซีเรียสอยู่ไหนฟร้ะ?=-=)?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×