ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัญละดาแม่เลี้ยงเดี่ยวกับระบบมิติ

    ลำดับตอนที่ #8 : คัดตัว

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 67


    วันรุ่งขึ้นสองพี่น้องไปโรงเรียนที่รถติดเป็นที่หนึ่งเทียบถนนทุกสายในกทม.

    “แม่ภูคัดตัวตอนบ่ายสามนะครับ” เขาจะเข้าชมรมวอลเล่ย์บอลของโรงเรียน สำหรับเด็กมัธยมสี่แล้วมันเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตเรื่องหนึ่ง

    “จ้ะแม่มาดูแน่ แต่ว่าพอส่งลูกแล้วจะรีบกลับไปเตรียมแปลกผักในมิติก่อนน่ะ”


     

    “อย่าหักโหมมากนะคะแม่ ยังไงพี่ภูก็มีหนูเชียร์อยู่แล้วทั้งคน” ภูระดาตัวติดกับพี่ชาย ยังไงก็ต้องไปดูที่โรงยิมของโรงเรียนอยู่แล้ว โรงยิมของโรงเรียนเอกชนคริสเตียนแห่งนี้อยู่ที่ชั้นสาม มุมกำแพงด้านหนึ่งของโรงเรียน เนื้อที่ในโรงเรียนกว้างพอใช้สำหรับทำเลที่ตั้งแพงหูฉี่อย่างสีลม


     

    ชั้นล่างของโรงยิมเป็นโรงอาหาร ชั้นสองเป็นชมรมดนตรี มีทั้งไทยและสากล ภูระดาชอบดนตรีสากลอยู่แล้ว ตอนเย็นเธอเลยมาเที่ยวเล่นเกะกะแกร่วไปมาที่ชั้นสองบ่อยๆ

    “แล้วภูล่ะ ชมรมดนตรีจะคัดตัววันไหนเหรอ พี่จะได้จัดตารางมาเชียร์”

    “เอ่อ ภูยังไม่ได้กรอกใบสมัครเลยอ่ะพี่ภู”


     

    “เอาเหล่าถึงแล้ว พวกเราเดินเข้าโรงเรียนดีๆ นะ แม่กลับบ้านแล้วถ้าพักระหว่างคาบอยากโทรหาแม่ก็โทรได้เลยนะ แม่จะเอามือถือไว้ใกล้ๆ ตอนเข้ามิติน่ะ” รัญละดามีประสบการณ์แล้ว เวลาก่อนจะเข้ามิติจะต้องเอาของสำคัญไว้ใกล้ตัวและเอนหลังที่โซฟาใกล้ๆ ประตูห้องด้วย เผื่อมีใครมาเคาะจะได้ได้ยิน


     

    “ครับแม่”

    “ค่ะแม่ ไม่ต้องห่วงพวกเรานะคะ”

    “ภูดูน้องด้วยนะลูก แม่ไปหล่ะ” รัญละดาขับรถต่อไปอย่างอาลัย ไม่มีวันไหนที่เธอส่งลูกอย่างไม่เป็นห่วง หากไม่เป็นเพราะว่ามีรถไล่หลังมาอย่างดุเดือดเธอคงจอดส่งลูกจนกว่าจะเดินลับตาเข้าประตูไปนั่นแหล่ะ


     

    ในโรงเรียนภูธนะยังคาดคั้นน้องต่อก่อนจะแยกกันขึ้นตึก สองคนเรียนมอสี่เหมือนกันแต่คนละห้อง 

    “ตกลงว่าไง แม่ไม่อยู่ด้วยแล้ว มีอะไรกันแน่บอกพี่มา” ภูธนะเป็นแฝดพี่เพียงหนึ่งนาทีแต่วางตัวหวงน้องสาวอย่างยิ่ง


     

    “ก็ ภูไม่รู้ว่าจะสมัครอะไรดีนี่พี่ภู เปียโนก็อยากลง ไวโอลินก็อยากเล่นแต่พวกรุ่นพี่บอกว่าเขาคัดพวกมืออาชีพที่มีพอร์ตมาจากที่อื่นเท่านั้นนะพี่” ภูระดาเล่าแบบอ่อนกำลังใจ ภูธนะฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ

    “มีที่ไหน นี่มันชมรมนักเรียนนะ มั่วรึเปล่า ใครบอกหาไหนบอกซิ”


     

    ภูระดาฟังรุ่นพี่นิสัยไม่ดีที่ชอบกีดกันเด็กใหม่ออกไปเพราะมีเด็กของตัวเองเสนออยู่แล้ว ภูระดาเป็นประเภทโลกสวย คิดว่ารุ่นพี่พูดคงจริงเลยท้อ

    “เดี๋ยวเที่ยงพี่แวะไปถามให้ เราไม่ต้องคิดมากเลย เดี๋ยวพี่เอาใบสมัครมาให้กรอกด้วยกันละกัน รอพี่คัดตัวเสร็จก่อน”


     

    “เอางั้นเหรอพี่ แล้วพวกรุ่นพี่ในชมรมไม่เกลียดภูเอาเหรอ”

    “โกรธแล้วทำไม รุ่นพี่เป็นคนตัดสินหรือเปล่าล่ะ ครูต่างหากเป็นคนเลือก ไปไปเข้าห้องซะไม่ต้องคิดมาก” พอแยกกันเข้าห้องสองคนก็ตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ ถ้ามีเรื่องไหนที่รับประกันได้ว่าทั้งคู่จะทำได้ดีเสมอก็มีเรื่องตั้งใจเรียนนี่หล่ะ


     

    รัญละดากลับคอนโดโดยแวะซื้อของที่มินิมาร์ทไต้ถุนคอนโดนิดหน่อย

    “ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์พืชมั้ยนะ แต่ว่าน่าจะเสกมาได้นะ” เธอไม่แน่ใจเพราะยังไม่เคยปลูกผักในมิติมาก่อน แต่ที่จำได้คราวก่อนแค่คิดที่ดินก็มาเอง อย่างนี้ของอย่างอื่นก็น่าจะคิดขึ้นเองได้มั้ง


     

    สรุปว่าเธอซื้อแค่น้ำเปล่าขวดใหญ่กับไข่ไก่หนึ่งแพ็คแล้วก็กระดาษทิชชู่แบบม้วนมาสองม้วน ตอนกลางวันมีกับข้าวในทัพเพอแวร์ใส่ตู้เย็นไว้ เอาออกมาเวฟกินได้ อะไรประหยัดได้เธอก็ประหยัด เก็บเงินไว้ใช้เรื่องลูกจะดีที่สุด

    กว่าจะขึ้นลิฟต์และเข้ามาในห้องได้ก็ทำเอาเหนื่อย การขับขี่รถบนถนนในเมืองนั้นเครียดและใช้แรงมากกว่าต่างจังหวัดมาก


     

    พอทิ้งตัวที่โซฟาก็รีบเข้ามิติเลย

    “เอ๊ะดินพวกนี้” รัญละดาตกใจ คราวก่อนที่ออกจากมิตินั้นมีเพียงผืนดินดำผืนหนึ่งกับบ่อน้ำ แต่คราวนี้ดูว่าดินพวกนี้จะดูชุ่มชื่นขึ้นมากจนสีเปลี่ยนเป็นดำเข้ม ดูสุขภาพดี

    “หรือว่าเป็นเพราะบ่อน้ำหรือเปล่านะ”

    เธอเดาว่าน้ำในบ่อคงส่งความชุ่มชื่นขึ้นมาในอากาศ ดินย่อมสัมผัสอากาศได้เลยชุ่มชื้นขึ้น

    “อย่างนี้เอาน้ำมารดคงจะดีแน่” คิดแล้วก็หลับตาคิดถึงกระบวยตักน้ำแบบมีด้ามจับยาวๆ ที่ทำจากไม้

    “ปิ๊ง”


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×