คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ชมรมวอลเล่ย์บอล
รัญละดายังมีงานตอนบ่ายเพื่อไปเชียร์ลูกชายคัดตัวเข้าชมรมวอลเล่ย์บอลของโรงเรียนอีก หากเข้าได้ก็มีสิทธิจะได้ไปแข่งชิงถ้วยระดับโรงเรียนมัธยมประมาณสามถึงสี่ถ้วยทุกปี พอมีหวังจะได้เข้าตาแมวมองของทีมชาติบ้าง
“เอ๊ะที่ดินแปลกนี้แปลกๆ จัง สวรรค์เซอร์วิสตรงนี้เอาไว้ทำอะไรเหรอ”
“ปี้บปี้บ บริการข้อมูลทั่วไป ที่ดินแปลงสุดท้ายเป็นโบนัสสำหรับมือใหม่ ใช้งานได้อเนกประสงค์แถมยังมีดับเบิลโบนัสประสิทธิภาพคูณสิบอีกด้วยค่ะ ปี้บปี้บ” การตอบดั่งเอไอผู้รู้ของสวรรค์เซอร์วิสทำให้รัญละดาประหยัดเวลาไปได้มาก ไม่ต้องคอยลองผิดลองถูกอีก
“ถ้าประสิทธิภาพคูณสิบ หมายความว่าปลูกอะไรจะได้โตกว่าปกติสิบเท่าหรือเปล่านะ” ตอนนี้ที่ดินสิบแปลงของเธอถูกรดน้ำพรวนดินและยกแปลงแยกเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวเรียงตัวเป็นระเบียบหมดแล้ว เป็นเพราะว่าทำงานในมิตินี้ไม่เหนื่อยเหมือนตอนอยู่ข้างนอกเธอเลยใช้เวลาไปครึ่งวันเพื่อเตรียมทุกอย่าง
ยังดีที่เวลาในมิติเดินช้ามาก หนึ่งในสิบส่วนจากเวลาภายนอก ไม่อย่างนั้นงานมากมายแบบนี้คงทำหลายวันอยู่แล้ว
“จะปลูกอะไรดีนะ รอถามพวกตัวแสบลูกลิงก่อนดีกว่า” คิดว่าจะไปเชียร์ลูกก่อนตอนเย็นกลับมาพร้อมกันช่วยตัดสินใจพร้อมกันสามแม่ลูก
รัญละดาคิดว่าลูกๆ ติดเธอแต่ที่จริงแล้วตัวเธอติดลูกๆ มากกว่า ยิ่งตอนนี้ทิ้งงานแสดงที่ต้องพบเจอคนมากมายออกไปแล้วก็ทำให้ว่างมากขึ้น ก่อนจะกลับออกจากมิติก็เดินสำรวจสถานที่โดยรอบอีกครั้งหนึ่ง เธอยกแปลงโดยให้แต่ละแปลงมีที่ว่างให้เดินได้สะดวก แต่แล้วตาก็มองสังเกตลงไปในบ่อน้ำ
น้ำในบ่อนี้ใสสะอาดมากๆ ใสจนมองเห็นก้นได้
“น้ำนี่ช่วยให้ดินกับอากาศสดชื่นขนาดนี้ แล้วคนจะดื่มได้หรือเปล่านะ” คิดแล้วก็เอากระบวยไม้ยาวตักขึ้นมาครึ่งกระบวยเท่านั้นก่อนจะใช้มือกวักน้ำขึ้นมาใกล้ๆ จมูก
“อืมกลิ่นก็หอมด้วย เกิดมาเพิ่งเจอน้ำเปล่ากลิ่นหอมแบบนี้ น่าจะกินได้หรอกนะ”
ตัดสินใจดื่มเข้าร่างกายไปหนึ่งคำ รัญละดารู้สึกเหมือนดื่มน้ำแร่ที่มีรสชาติหวานนิดหน่อยแต่ให้ความรู้สึกชื่นใจและกระชุ่มกระชวยอย่างมาก
“เอาหล่ะเถลไถลมากไปแล้ว รีบไปหาลูกดีกว่า”
ที่โรงยิมของโรงเรียนเหล่ารุ่นพี่หลงอำนาจในชมรมวอลเล่ย์บอลกำลังแยกเขี้ยวข่มขวัญผู้สมัครกันใหญ่
“ตั้งแถวเป็นมั้ย ตัวสูงมาที่หัวแถวสิ โง่ก็กลับไปบ้านเลยนะ วอลเล่ย์บอลน่ะต้องหัวไวจำไว้” หัวหน้าทีมรุ่นพี่มาดแข็งกำลังออกคำสั่ง แถวผู้สมัครยาวมากจนต้องตัดมาเป็นสองแถว
“นับจำนวนด้วย เริ่มจากหัวแถวก่อน เอ้าเริ่ม!”
“หนึ่ง สอง สาม สี่ …. เจ็ด ป แป้ด” ความหายนะกำลังก่อตัวขึ้นในแถวทำให้ภูธนะคันหูยุบยิบ นี่มันแถวนักกีฬาหรือว่าทหารเกณฑ์จบปอสี่กันนะ เขายืนอยู่กลางแถวแรกเพราะความสูงที่ค่อนข้างสูงมาก แม้ที่หัวแถวยังมีพวกเด็กยักษ์ที่คงกินน้ำมันก๊าซก่อนนอนตั้งแต่เด็กจนหัวสูงเท่าใต้แป้นบาสกันเป็นแถว เขายอมใจจริงๆ
“เฮ้ย หยุดๆ นี่อะไรเนี่ย อาซ้อมาจัดการหน่อยซิ” สาวแตกที่หัวหน้าทีมเรียกว่าอาซ้อนั้นเป็นสาวประเภทสองมือตบยืนหนึ่งของทีมมัธยมปลาย มอปลายแยกเป็นสองทีม ทีมมอห้ากับหกที่เป็นพวกเก๋าเกมส์ ปีที่แล้วแข่งได้รองชนะเลิศถ้วยของกรมพละศึกษา แพ้ให้ทีมบ้านนอกจากจังหวัดโคราชอันเป็นแหล่งผลิตนักวอลเลย์บอลชั้นดี
“นี่พวกเธอ” อาซ้อลากเสียงหวานชวนขนลุกแต่หน้าตาเปีย่มประสบการณ์และความเก่งกาจ
“ตั้งใจกันหน่อยนะ เมื่อกี้ใครไม่ได้ขานฮะ เป็นอะไรไป ลืมกินข้าวเที่ยงหรือเปล่า บนชั้นลอคเกอร์มีข้าวนะ อยากกินกับซ้อมั้ย”
ถึงจะฟังดูน่าสยดสยองแต่ภูธนะกำลังจับทางรุ่นพี่อยู่ สมองไอคิวหนึ่งร้อยสามสิบแปดอย่างเขาย่อมอ่านเกมส์ออกได้เร็วกว่าเด็กคนอื่นรอบๆ ตัว
ทันใดนั้นหายนะที่แท้จริงก็ได้ก่อตัวขึ้น อาซ้อเดินมาหยุดตรงหน้าภูธนะและตะลึงกับใบหน้าหล่อเหลาปานดาราของเขา
“หืม รุ่นนี้มีตัวร้ายหน้าหวานด้วยเหรอเนี่ย”
“ผมภูธนะครับรุ่นพี่” ภูธนะยืนตัวตรงรายงานตัวเหมือนในค่ายทหาร ทำเอาเหล่านักตบสายสองต้องเอามือทาบอกด้วยความอ่อนระทวยกันใหญ่
หัวหน้าห้องกับอาซ้อทึ่งกับความแข็งขันของภูธนะ แต่ว่าการฝึกต้องมาก่อน
“เอาหล่ะนับใหม่ คราวนี้นับให้ถูกด้วย จะได้เริ่มวอร์มก่อนการคัดตัวกัน” อาซ้อไม่ได้ดูอ่อนระทวยหรือว่าอ่อนไหวเหมือนลูกสมุนคนอื่นๆ ตรงกันข้ามกลับทำหน้าตาจริงจังจนภูธนะแปลกใจ“คนเราดูแต่ภายนอกไม่ได้จริงๆ” เขากระซิบบอกเจ้าโย่งไม้เสียบผีข้างๆ ที่กำลังหน้าซีดเพราะกลัวกระเทย
ความคิดเห็น