ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัญละดาแม่เลี้ยงเดี่ยวกับระบบมิติ

    ลำดับตอนที่ #3 : ไลน์ไอดี

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 67


    ในระหว่างที่กำลังพักผ่อนอยู่นั้นเอง ภูวิสุดที่นั่งอยู่อีกฟากของสระกลับนอนเอนหลังสวมแว่นกันแดดจ้องมองมายังเธอ แต่ว่ารัญละดาไม่สนใจ อยากมองก็มองไป

    การถ่ายทำฉากที่เหลือไม่มีเลิฟซีนอีกเธอจึงไม่ต้องถูกตัวเขา

    ไม่นึกว่าเย็นนั้นพอรับลูกกลับมาที่คอนโดแล้วเขากลับทักไลน์มาหา


     

    “นอนหรือยัง”

    “ใครคะ”

    “ผมเอง ภูวิสุด”

    “.....” รัญละดากดเปิดโปรแกรมไลน์บนเตียงนอนขณะที่ลูกสองคนเข้าห้องนอนกันหมดแล้ว วันนี้เธอเหนื่อยมากและไม่อยากจะเถียงกับเขาตอนนี้


     

    “เอาไลน์ไอดีรัญมาจากไหนคะ ไม่เคยให้”

    “ก็ไอ้…” ข้อความตอบไปแต่รัญละดาตัดปิดลบแชทอย่างรวดเร็วพร้อมบลอคเสร็จสรรพ

    ภูวิสุดเป็นเศรษฐีหมื่นล้านที่มีแต่คนคอยทำตามที่เขาสั่ง เกิดมามีใครเคยตัดจบกับเขาแบบนี้เหรอ 


     

    จริงหล่ะมีแค่รัญคนนั้นของเขาที่จะทำกับเขาแบบนี้

    ด้านรัญละดากลับหลับสบาย อดีตผ่านไปเธอฝังกลบมันไปนานแล้ว คืนนั้นฝันเห็นลูกๆ ได้เป็นนักกีฬากับนักดนตรีตามใจฝันกันทั้งคู่ ภูธนะชอบแข่งกรีฑาอยากไปแข่งโอลิมปิกมาก แต่เขาต้องแข่งระดับประเทศให้ชนะก่อน


     

    ส่วนภูละดาชอบดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ เธอซื้อคอร์สเรียนไวโอลินให้ลูกแต่ต้องเปลี่ยนเป็นคอร์สเปียโนแทนเพราะอีกฝ่ายเปลี่ยนใจ หลังจากภาพฝันของลูกๆ ผ่านไปกลับกลายเป็นว่าเธอมานั่งอยู่ในสวนผักผลไม้แห่งหนึ่งที่ร่มรื่นมากๆ รอบตัวมีสิ่งสีเขียวเต็มไปหมด ลมเย็นก็ทำให้สดชื่นมากๆ


     

    ฝันแบบนี้รัญละดาไม่อยากตื่นจริงๆ อยากให้แม่ที่จากไปนานแล้วได้อยู่ที่แบบนี้จริงๆ จริงด้วยที่แบบนี้ตรงกับที่แม่เคยเล่าให้ฟังตอนเป็นเด็ก สมัยมัธยมเธอไม่มีแฟนเพราะเป็นคนไม่ค่อยชอบเข้าสังคม ก่อนนอนจะนอนหนุนตักแม่และฟังแม่เล่าเรื่องสัพเพเหระจริงบ้างเพ้อบ้างแต่เธอก็ชอบฟัง


     

    แม่เคยเล่าเรื่องดินแดนเนรมิตให้ฟัง เป็นดินแดนที่เราจะทำทุกอย่างได้ตามใจ อยากให้อะไรเป็นไปแบบไหนก็ได้เลย อย่างต้นไม้พวกนี้ถ้าอยากให้มันโตขึ้นอีกหลายๆ เท่าก็แค่นึกคิดเท่านั้น


     

    ทันใดนั้นเมื่อรัญละดาคิดเท่านั้นเอง เหล่าต้นพืชผักผลไม้รอบตัวก็ขยายตัวสูงขึ้น หัวผักกาดในแปลงผักกลับมีขนาดใหญ่ขึ้นสามถึงสี่เท่า มะม่วงที่ห้อยตัวสีเขียวเนียนเปล่งก็มีขนาดโตขึ้นเท่าหม้อกับข้าวแล้ว

    “เอ๊ะอะไรกัน” รัญละดาในฝันตกใจมาก


     

    “เอ๊ะทุกอย่างเปลี่ยนไปจริงๆ ด้วย เหลือเชื่อเลย” แต่พอคิดได้ว่านี่คงเป็นเพราะว่าเธอกำลังอยู่ในความฝันน่ะสิ อย่างนี้อะไรก็เป็นไปได้อยู่แล้วหล่ะเธอก็เริ่มเสียดาย

    “ถ้ามีอย่างนี้จริงก็ดีสินะ จะได้สร้างห้างส่วนตัวไว้ในนี้ซะเลย”

    ตอนเช้าเธอตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี


     

    “แม่วันนี้ดูแม่สดชื่นจังนะคะ หรือว่าได้บทดี” 

    “ใช่ที่ไหน แม่อยากเลิกเล่นละครจะแย่แล้ว”

    “อ้าวแม่ แล้วจะทำอะไรล่ะคะ เดี๋ยวก็เบื่อแย่”

    “ใช่ที่ไหน คนสวยอย่างแม่ไปไหนใครก็รับหมดแหละ ใช่ไหมครับแม่”


     

    “นี่ไม่ต้องมาพูดดีเลย พวกเราสองคนวันนี้ต้องไปเรียนพิเศษด้วยนะอย่าลืม” วันเสาร์เด็กสองคนได้อู้แค่นิดเดียว ตอนกลางวันรัญละดาต้องไปส่งลูกที่สถาบันกวดวิชาย่านสยามอีก แถวนั้นหาที่จอดรถยากมาก

    “รู้แล้วคร้าบบ ว่าแต่ถ้าแม่ไม่อยากทำก็อย่าทำเลยครับแม่ เราหาอย่างอื่นทำก็ได้”

    ภูธนะไม่ชออบเห็นแม่เป็นทุกข์ เขาเป็นผู้ชายก็อยากออกมาหาเงินช่วยแม่มากว่า แต่แน่นอนว่าแม่ไม่เคยยอม ตอนนี้เขาอยากแข่งกรีฑาให้ได้เงินมากๆ จะได้ช่วยลดภาระให้แม่ได้บ้าง

    “แม่อยากเปิดร้านขายของ แต่คงได้แค่ฝันแหล่ะ”


     

    ตอนกลางวันในวันเสาร์การจราจรในกรุงเทพก็พอไปวัดไปวาได้ ยังไงก็ดีกว่าวันธรรมดาแน่ๆ แต่ว่าพอข้ามสะพานหัวช้างแล้วเธอก็ตั้งขับรถตรงไป ผ่านสี่แยกมาบุญครองแล้วไปเลี้ยวซ้ายเข้าทางด้านข้างของสยามเอา โรงเรียนกวดวิชาอยู่แถบนั้น

    พอส่งลูกๆ ลงแล้วเธอต้องวนไปหาที่จอดรถ กว่าจะจอดได้ก็เลยเอนหลังบนเบาะที่นั่งคนขับสักนิดหน่อย กะว่าจะพักตาแค่ห้านาที ยังไงลูกๆ ก็ขึ้นไปเรียนเองเรียบร้ออยแล้ว ไม่นึกว่าเธอกลับมานั่งอยู่ในแดนนิมิตที่เดิมที่เห็นกับในฝันเมื่อคืนไม่ผิดเพีย้นเลย


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×