คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 : เหตุเกิดใต้ร่มไม้(แก้ไข)
ในที่สุดพวกผมก็ผ่านอบรมหลักสูตรระยะสั้นฝึกเป็นหมีแพนด้ามา 2 อาทิตย์ ว่าง ๆ ว่าจะไปรับจ๊อบโชว์ตัวเป็นเพื่อนช่วงช่วงกับหลินฮุ้ยที่เชียงใหม่ ด้วยประสิทธิภาพขอบตาดำได้โดยไม่ต้องทาอายไลเนอร์
“ส่ง งาน เสร็จ แล้ว กลับ เลย ด้าย ม้ายย” จีนที่ปกติเสียงยานอยู่แล้ว ตอนนี้สภาพไม่ต่างจากมัมมี่รีเทิร์นสักเท่าไหร่
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ ต้องรอดูอ.เรินว่ามีไรอีกป่าว?” ไอ้ป๋องตอบไป สภาพมันก็ไม่ต่างกัน
กำหนดส่งงาน 11 โมงตรงห้ามเลท พวกผมค่อย ๆ ทยอยขนเพลทงานขนาด A2 คนละตั้ง และโมเดลอีกคนละตัวขึ้นตึกstudio ชั้น 3 ทุลักทุเลกันพอสมควร
2 อาทิตย์ที่ผ่านมาทำเอาปิดเทอมหน้าร้อน 2 เดือนกว่า ๆ ไร้ค่ากันไปเลย อาจารย์แต่ละท่านทำเอาพวกผมปวดตับ ไม่รู้ไปประชุมกันมาแล้วตกลงกันว่า ‘อย่าให้พวกมันว่างเดี๋ยวมันหนีไปเล่นเกมส์ออนไลน์ สั่งงานเข้าไว้ให้เยอะ ๆ ไม่งั้นมันจะไปหม้อน้อง’ เสร็จ 1 วิชา ก็มีวิชาต่อไปมาจ่อคิวส่งงานทันที สภาพของพวกผมตอนนี้จึงเหมือนไปแข่งแรลลี่เก็บสะสมแต้มทีละจุดกันอยู่ แล้วเมื่อไหร่จะถึงเส้นชัยละโว้ยยย
ห้องstudio เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ชวนให้ขอบตาลงมาทำความสนิทสนมกัน อ.เรินนั่งรออยู่แล้วพร้อมจ้องมองเวลาในนาฬิกาข้อมือแบบไม่คลาดสักวิ สนใจเป็นกรรมการโอลิมปิกมั้ยครับอาจารย์
“เอางานวางไว้บนโต๊ะ ของใครของมัน” อ.สั่ง พวกผมทำตามเหมือนซอมบี้ไร้วิญญาณ ต่างคนต่างนั่งอยู่กับงานของตัวเองตาปรือ ด้วยความที่โต้รุ่งมาหลายวันแม้กระทั่งวันนี้ก็ตาม
สัปดาห์กว่า ๆ ทีเดียวที่มันไม่ได้ค้างห้องผม เจอกันแต่ที่คณะแล้วก็แยกย้ายกันไปทำโปรเจคของตัวเอง คิดถึงมันจังอยากโดดงับท้ายทอย
“เป็นไรกัน เที่ยวกันมาเหรอ สงสัยจะกินเหล้ายันเช้าน่ะสิ หึหึ” อ.เรินถามแบบว่าไม่รู้จริงเหรอ?
“โห จารย์เที่ยวบ้านจารย์มั้งสภาพอย่างเงี้ย” ไอ้กิงยังคงแกว่งปากหางานให้เพื่อนอยู่
ผมตั้งใจจะเหล่ปรามมัน ก่อนที่อ.จะสติขาดอีก แต่...ไม่ต้องแล้ว ตอนนี้คลื่นความถี่ของเพื่อนทั้งห้องพุ่งมาที่มันแบบมาคุสุด ๆ เหมือนมันจะรับได้เลยเงียบไป (อันที่จริงผมว่ามันง่วงมากกว่า)
“เอ้า เอาโปรเจคใหม่ไปทำ กำหนดส่งมิดเทอมนะ”
“หา!!” อย่างพร้อมเพรียงกัน
“ครูล้อเล่น ฟังเลคเชอร์สักชม.เดี๋ยวครูก็ปล่อยแล้ว” แหนะ มีเล่นมุขด้วยเดี๋ยวนี้
.
.
.
“คืนนี้กินเบียร์กันป่ะ” ไอ้ป๋องชวนทันทีที่เรียนเสร็จ เป็นธรรมเนียมของพวกเราน่ะครับ เสร็จงานครั้งใดต้องสังสรรค์ทันที เพราะไม่งั้นอาจไม่มีเวลาอีก
“ง่วงว่ะ กรูขอนอนก่อน ดึก ๆ ค่อยเจอกัน” ผมตอบไป ก่อนเอี้ยวตัวบิดขี้เกียจนิดหน่อย
“เฮ้ย!! พวกเมิงอ่ะ” หันซ้ายขวากันพอประมาณ “พวกเมิงนั่นแหละ ไม่ต้องมองหาคนอื่น ไอ้พวกเวร” เสียงห้าว ๆ ที่ทักพวกผมดังลั่นใต้ตึกคณะ ภาพสาวสวยหน้าตาเก๋ รูปร่างสูงเพรียว ผมซอยประบ่าไร้การเซ็ทแลดูยุ่ง ๆ ใส่เสื้อนักศึกษาขนาดพอดีตัว กระโปรงพลีทยาวกรอมตาตุ่ม กับผ้าใบนันยางสีเคยขาวเหยียบส้น
‘กานต์’ ดาวดวงแรกที่ไอ้กิงคว้าได้ตอนเรียนที่นี่ปี 1 แล้วมาพบตอนหลังว่ามันไม่ใช่ดาวมันคืออุกาบาต คบกันได้เพียงเดือนเดียวก่อนที่มันทั้งสองคนจะกัดกันตาย ผู้หญิงที่ทำให้เราเข้าใจนิยามใหม่ของเพศแม่ว่า ‘สวย ถึก และบึกบึน’
“หายกันไปเลยนะพวกเมิง ไม่โผล่หัวกันไปประชุมสโมฯมั่งว๊ะ”
“เออ ถ้าเมิงไม่บอก กรูลืมไปแล้วนะเนี่ยะว่าทำสโมฯกันอยู่” ผมพูดแบบเพิ่งนึกออก (นักศึกษาปี 4 มีหน้าที่เป็นสโมสรนักศึกษาครับ)
“เออ ไอเอี้ย รู้ตัวบ้างก็ดี ห้องเมิงส่งโปรเจคแล้วนิ นายกสโมฯก็ไอ้โจเด็กห้องเมิง หายกันไปหมด เอี้ยจริง” กานต์บ่นเป็นแร๊พเลย
คณะผมมี 4 ภาควิชาประกอบไปด้วยผังเมือง สถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรมภายใน(Interior) และภูมิสถาปัตยกรรม(Landscape) พวกหนุ่ม ๆ ในคณะเคยวาดฝันว่าสาว ๆ อินทีเรียน่าจะอ่อนโยน บอบบาง น่าทะนุถนอมที่สุดตามภาควิชา แต่ก็ต้องพบว่า ‘ความจริงมันโหดร้าย’ โดยมีกานต์เป็นหลักฐานทางรูปธรรมที่ชัดเจนที่สุด เป็นถึงดาวคณะ(ตอนปี 1)แต่ไม่ช่วยโครโมโซม X ในร่างกายเธอทำงานมากขึ้นเลย
“แล้วไอโจ หนีไปกินอ้อยที่ไหนเนี่ยะ เอี้ยเอ้ย” กานต์มีหน้าที่เป็นเลขาฯสโมสร ทำให้เธอต้องแกร่งเป็นพิเศษ
“อยู่นี่โว้ย ไม่ได้ไปกินอ้อยที่ไหนด้วย กรรมจริงเข้าห้องน้ำแปปกรูกลายเป็นช้างซะงั้นน่ะ” โจเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ไซส์เฮฟวี่ เวท เป็นคนอารมณ์ดีเฮไหนเฮนั่น เอาการเอางาน จึงได้รับความไว้วางใจบวกยัดเยียดให้เป็นนายกสโมสรของคณะ
“เดี๋ยววันนี้กรูก็ไปประชุมแล้ว เพิ่งเสร็จโปรเจค เห็นมั้ยเนี่ยะกรูซูบไปเยอะ” โจโอดครวญ
“ซูบเอี้ยเมิงสิ กรูเห็นตัวเท่าเดิม” กานต์ยังคงเข้ม “แล้วนั่นไอ้ป๋อง เมิงเช็ดเอี้ยไรน่ะนั่น”
ไอ้ป๋องทำท่าเหมือนเช็ดหน้าเช็ดตา “เช็ดเอี้ยอ่ะดิ เห็นมั้ยเนี่ยะเอี้ยจากปากเมิงเต็มหน้ากรูหมดแล้ว”
ก่อนที่กานต์จะปล่อยเอี้ยมาอีกสักตัวสองตัว
“พอ ๆ กรูว่าไปประชุมสโมฯได้แล้ว อยู่นี่ก็เถียงกันไม่เลิก” โถกิงพ่อพระ เพิ่งจะพูดอะไรมีประโยชน์ก็วันนี้แหละ
กานต์นิ่งไปสักพัก “เออ ไปเหอะ คนครบจะได้ประชุมเรื่องไปรับน้องกันได้สักที”
“โฮ่!! คนมันเคย ๆ กัน ทีงี้ล่ะอ่อนเชียวนะกานต์ แหมเมิงนี่” น้ำเสียงล้อเลียนสุดชีวิต
“ไอ้เอี้ยป๋อง!!” คราวซวยของไอ้ป๋องเจอเอี้ยพร้อมกันทั้งเพศผู้เพศเมีย เป็นอันรู้กันภายในคณะว่าทั้งสองคนไม่อยากให้พูดถึงอดีตรัก(?)ของทั้งคู่ เพราะทั้งไอ้กิงและกานต์ต่างถือว่าเป็นสิ่งผิดพลาดที่สุดในชีวิตตั้งแต่ทำมา
“พวกเมิงไปตึกสโมฯก่อนนะ กรูเข้าห้องน้ำแปปเดี๋ยวตามไป”
“งั้นเอาแลมไว้ที่เมิงละกัน แล้วเมิงค่อยเอาไปด้วย” ไอ้กิงพูดเสร็จก็โยนกุญแจรถให้ผม
“อืม” ผมรับกุญแจมาก่อนจะแยกย้ายกัน
ผมล้างหน้าล้างตาไล่ความง่วงออกจากร่างกายที่ตอนนี้พร้อมจะหลับได้ทุกที่
“พี่เรคะ” เสียงใส ๆ ทักผมขณะที่จะออกจากตึก studio
“น้องเจน” ผมตกใจนิด ๆ ก่อนจะถามต่อ “มาหากิงเหรอ ตอนนี้มันประชุมสโมฯอยู่น่ะ เดี๋ยว..”
“เปล่าค่ะ เจนมาหาพี่”
“เห??” ผมงง แต่งงภาพน้องเจนที่เหมือนกำลังจะร้องไห้มากกว่า
“งั้นไปคุยตรงโน้นดีกว่านะ” ผมชักชวนน้องไปคุยที่ลานไทร หามุมที่ไกลหูไกลตาผู้คนหน่อย
ลานร่มรื่นไปด้วยร่มไม้ ลมพัดเอื่อย ๆ บรรยากาศชวนผ่อนคลายของลานไทร ผมหวังว่าจะช่วยผ่อนคลายอย่างอื่นได้บ้างเหมือนกัน ผมเลือกชุดโต๊ะม้าหินอ่อนตัวที่อยู่ลึกสุด แล้วนั่งตรงข้ามน้องเจน
“มีอะไรเหรอ ถึงได้มาหาพี่” ในใจผมเดาไว้อยู่แล้วว่าเรื่องไหน
เด็กสาวก้มหน้านิ่ง แววตาที่เคยสดใสกลับหมองไปด้วยคราบน้ำตา
“พี่กิงเค้าเป็นอะไรไปคะ” น่าน ทำไมซื้อหวยไม่ถูกอย่างนี้บ้างว๊ะ
“มันเป็นอะไรไปล่ะ” ถามคำถามที่น่าจะรู้คำตอบได้ไม่ยาก
“พี่กิงไม่โทรหาเจนเลย ไม่พาไปไหนด้วย ไม่สนใจกันเลย พี่กิงเค้าสนิทกับพี่ พี่เค้าพูดอะไรบ้างป่าวคะ” หญิงสาวตัดพ้อด้วยความน้อยใจ ทุกประโยคทุกคำถาม ผมไม่รู้จะตอบยังไง ‘น้องหมดโปรโมชั่นคนคว้าดาวของไอกิงแล้วจ๊ะ มันพร้อมจะคว้าดาวดวงใหม่ในปีนี้แล้ว’ โว้ย! ตอบแบบนั้นไป หญิงสาวตรงหน้าผมต้องแย่แน่ ๆ แต่มันไม่มีอะไรดีกว่าความจริง
“ไอกิงมันเลวครับน้อง” นี่ผมไม่ได้แทงข้างหลังเพื่อนนะ ไม่ได้ยุให้เขาเลิกกันด้วย โฮะ ๆ (จะมีคนเชื่อตรูไหมหว่า)
.....น้องเจนถึงกับอึ้ง คงนึกไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดนี้แทนที่จะเป็นคำปลอบโยน แต่ผมคิดว่าเสียใจครั้งเดียวดีกว่าเสียใจซ้ำ ๆ
“ไม่จริง เจนทำอะไรผิดเหรอคะ” น้องไม่ผิดหรอก แต่มันเลว ผมพูดอะไรไม่ออกได้แต่สงสาร
“...” แทนคำพูด ผมลูบไหล่บอบบางที่สั่นเทาอย่างช้า ๆ อย่างที่คิดว่าน่าจะอ่อนโยนที่สุด
“เฮ้ย!! ทำอะไรกันน่ะ” ผมสะดุ้งสุดตัว น้องเจนก็มีอาการเช่นเดียวกัน
“กรูเห็นหายไปนาน เลยลองมาหาเมิงที่นี่” ไอ้กิงพูดเสร็จก็ปรายตาเหี้ยม ๆ มามองพวกผมทั้งคู่ “เจนมาทำอะไรที่นี่” เสียงแข็งกร้าวเสียจนน่ากลัว
“เจน...เจน” หญิงสาวได้แต่พูดอะไรไม่ออก
“เฮ้ย! เมิงใจเย็นน่า เพราะเมิงไม่ใช่เรอะ น้องเขาถึงได้เครียดน่ะ” ว่าไป ว่าไปให้มันสำนึกบ้าง
ไอ้กิงปราดเข้าไปหาน้องเจน ก่อนจะกระชากข้อมือขึ้นให้ยืนขึ้นมา “มีอะไรทำไมไม่คุยกับพี่” แล้วคุยกับเมิงจะรู้เรื่องเรอะ
หญิงสาวตัวสั่นเทาไปด้วยความกลัว ขอบตาปริ่ม ๆ ไปด้วยน้ำตา คงไม่เคยเห็นไอ้กิงแบบหมาบ้ามาก่อน
“เมิงพอเหอะ มีอะไรค่อย ๆ คุยกันก็ได้” เห็นท่าจะไม่ดี ด้วยความสงสารน้อง ผมจึงรีบตัดความ
“เมิงไม่ต้องยุ่ง งานนี้เมิงไม่เกี่ยว” ไอ้กิงตวาดใส่หน้าผม
“...” ผมนิ่งไปพักนึง ก่อนจะเดินเข้าไปกระชากมือของมันออกจากข้อมือน้องเจน “เออ ไม่เกี่ยวกับกรู แต่เมิงก็ไม่ควรจะใช้กำลังกับผู้หญิง” มันตอบสนองผมด้วยการมองหน้า แล้วค่อย ๆ ลดมือลง
“กรูกลับหอก่อนละกัน” คงจะดีที่สุดถ้าปล่อยให้คนสองคนจัดการกับเรื่องของเขาด้วยตัวเขาเอง ผมเดินอย่างไม่รีบเร่งออกจากลานไทรเหมือนภาพสโลว์โมชั่น ลมพัดไหวผ่านตัวผมไปพร้อมใบไม้แห้งอีกเล็กน้อย ‘แมนกรูแมนสุด ๆ ปกป้องผู้หญิงจากไอ้หมาบ้ากิง แล้วปล่อยให้เขาเคลียร์กัน เหมือนชายผู้เสียสละ เออ แล้วที่สำคัญ ไม่เกี่ยวกับกรู...แฮ่~~’ ผมคิดในใจพร้อมซาวด์แทร๊คประกอบ
‘ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ในความคุ้นเคยกันอยู่ มันแฝงอะไรบ้างอย่างที่มากกว่านั้น
ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ว่าเพื่อนคนหนึ่งมันแอบมันคิดอะไรไปไกล กว่าเป็นเพื่อนกัน’ ซึ้งไปไหนเนี่ยะตรู
------------------------------------------------------------------
อ่า...แบบว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษอย่างแรงนะคะที่ไม่ได้มาอัพตามสัญญา
มาฟังข้อแก้ตัว เอ้ย! สาเหตุกันเล็กน้อยนะคะ หุหุ
เหตุเกิดวันศุกร์ที่ 27 เม.ย. ขณะกำลังจะอัพตอนที่ 6 อยู่นั้น "ลูกPackกระเป๋าอีก 10 นาทีไปเกาะกัน" เฮ้ย! ยังไม่อัพเลย รีบกดไปทันใดทั้งที่ยังไม่เรียบร้อย ดูผลหน่อยซิ อ้าวนั่นพิมพ์ผิดสลับแถวอีก แก้ใหม่ ๆ ผ่านไปอีก 2 นาที กดดูอีกรอบ กรรมมีจริงแถวขยับมาชิดกันหมด ไอ้ที่ผิดก็ยังผิดอยู่ เอาไงดีเวลามีน้อย กระเป๋ายังไม่ได้เก็บ เหลืออีก 5นาที ลบตอนล่าสุดทิ้งละกัน...เศร้าใจจริงT_T
แล้วก็เพิ่งมาถึงบ้านวันนี้นี่แหละค่ะ เลยรีบมาอัพให้ในบัดดล ^_^"
-----ติชมได้ตามสะดวกค่า-----
ขอบคุณค่ะที่มาอ่าน มาแล มาเม้นท์ มาโหวต มาแอดกัน
อ่านแล้วไม่เม้นท์ไม่เป็นไรค่า อ่านให้สนุกก็ดีใจแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าเม้นท์ให้ก็จะดีใจมากเลย(เอ้า เลียเข้าไปตรู)
ปล. ถ้าเจอคำผิดหรือสงสัยอะไรทักได้บอกได้นะคะ
TBC.
ความคิดเห็น