ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนาย my boyfriend. (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 13 : แผนยั่วบวกงานกีฬาคณะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20.24K
      48
      12 มิ.ย. 50


     

     

    วันเวลาเดินผ่านไปเรื่อย ๆ  ด้วยภาระทางการศึกษาทำให้วินนิ่งไม่ได้เล่นต่อมากนัก  แม้ไอ้กิงจะส่งสัญญาณมาบ้างว่าอยากเล่นเกมส์ต่อ  ผมก็แกล้งเฉยไปซะ  เรื่องอะไรจะยอมง่าย ๆ (อ้าว แล้วครั้งแรกล่ะตรู)  เมิงต้องเป็นฝ่ายถูกกรูทำเกมส์บ้างล่ะ

     

    ยั่วอย่างไรให้ได้ผล  ผมต้องยอมแบกหน้าไปยืมหนังสือน่าอายนี่มาศึกษาไว้เป็นวิทยาทาน  อ่านไปก็กระดากไป 

    .

    .

    .

                ขณะนี้ทางคณะผมกำลังจะมีกีฬาคณะ  หน้าที่สโมสรนักศึกษาก็มาค้ำคอให้พวกผมต้องแบกรับภาระหน้าที่ต่าง ๆ กันไป  เรียนก็มี  งานก็มา  กิจกรรมก็ต้องทำ  เป็นนักศึกษาถาปัดปี 4 นี่มันเหนื่อยจริง ๆ

     

    ผมถูกเรียกมาเป็นการส่วนตัวที่ห้องประชุมสโมฯ  ก่อนที่จะพบว่ามีคนมาอยู่ก่อนแล้ว  พวกไอ้แพนเจ้าเก่ารอบนี้มีไอ้กานต์ด้วย  และ

     

    เต้ย  หนุ่มเหนือสั่งตรงจากเชียงใหม่  สถาปัตยกรรมภายในปี 4 เพื่อนร่วมรุ่นผม  เต้ยเป็นคนผิวขาวร่างเล็กหน้าหล่อหวานตามสไตล์หนุ่มเหนือ  เต้ยเป็นเด็กแนวครับ  แนวแม้ว  เต้ยมักจะทำให้พวกผมนึกว่าอยู่บนดอยเสมอ  ด้วยแฟชั่นสไตล์ล้านนาแต๊ ๆ เจ้า(แม้มันจะอยู่ตรงแถบชายแดนกรุงเทพฯก็ตาม)  กับภาษาบ้านเกิดที่มันมักจะเผลออู้คำเมืองให้พวกผมงงกัน

     

    อ้าวเร  คิงโดนฮ้องมาเจ้นกันก๊ะ  (แปลว่า  อ้าวเร  เมิงโดนเรียกมาเหมือนกันเหรอ) เต้ยซัดซาวด์แทรคทันทีที่เจอหน้าผม

    อือ  ไม่รู้มีอะไร  วันก่อนก็ประชุมไปแล้วไม่ใช่เรอะเรื่องกีฬา  ผมตอบเต้ย  ก่อนจะหันไปถามพวกไอ้แพน

     

    พวกไอ้แพนยิ้มหน้าระรื่น  เออ  เรื่องกีฬาคุยกันแล้ว  แต่เมิงลืมเรื่องพิธีเปิดไปรึเปล่า?  ไอ้กานต์ไขข้อข้องใจ

     

    แล้วไง  แล้วเกี่ยวอะไรกับกรูกับเต้ย  ผมยังงงอยู่  เพราะพวกผมส่วนมากจะอยู่ฝ่ายคุมกีฬาแล้ว  ไม่น่าจะเกี่ยวกับพวกพิธีเปิดอะไรเท่าไหร่

     

    หึหึ  ไอ้แพนขำมีเลศนัย  พวกหล่อนสองคนต้องแสดงพิธีเปิดอ่ะสิ  ลืมธรรมเนียมไปแล้วรึไงย๊ะ

     

    ผมใช้เวลาคิดเพียงไม่นาน  ปกติปี 4 สโมสรนักศึกษาจะมีหน้าที่เหมือนฝ่ายบริหารคือวางแผนงานและใช้สมอง  ส่วนแรงงานให้รุ่นน้องทำไป  แต่กีฬาภายในคณะจะมีทีเด็ดอยู่ที่ว่าปี 4 จะเป็นผู้ลงแสดงพิธีเปิดเอง  ซึ่งจะเป็นที่เฝ้ารอของนักศึกษาทั้งภายในและภายนอกคณะ(ง่าย ๆ อายตับแตกไปทั้งมหาลัย)  เพราะการแสดงเรียกได้ว่าฮา  บ้า  อุบาทว์สุด ๆ  แบ่งเป็นหลายชุด  และถ้าผมเดาไม่ผิดเมื่อเห็นหน้าเต้ย  หนึ่งในชุดการแสดงนั้นต้อง...

     

    เฮ้ย  ไม่จริง  ผมอุทานด้วยความสยองในชะตากรรมที่ปฏิเสธไม่ได้  (ปี 4 แทบทั้งหมดต้องยอมครับ  ไม่งั้นเจอรุมประชาทันฐ์ได้  มันเป็นประเพณีมาช้านาน)

    คิงเขา  จะหื้อหมู่เฮายะหยัง  (แปลว่า  พวกเมิงจะให้พวกกรูทำอะไร)  เต้ยยังคงซัดภาษาถิ่นอย่างไม่ทันรู้ตัว

     

    หึหึ  พวกไอ้แพนขำได้น่าสยองมาก  เดี๋ยวก็รู้

    .

    .

    .

    .

                สัปดาห์กีฬาคณะเริ่มต้นแล้วครับ  กีฬาจะมีหลังสอบมิดเทอม 1 สัปดาห์จัดเป็นประจำทุกปี   เริ่มแข่งตอนเย็นหลังเลิกเรียน 5 โมงเย็นถึงสองทุ่ม  และในสัปดาห์นี้  แผนยั่วที่ผมฝึกมาจะได้ใช้กับไอ้กิงอย่างสาสม  แผนมี 5 วิธี  ลองเจอแบบแรกหน่อยฟร่ะ

     

    ไอ้กิง  เมิงแข่งไรบ้างว๊ะ  ผมใช้ความพยายามอย่างสูงในการมองหน้าและคุยแบบปกติกับมัน  ด้วยความตั้งใจอย่างเต็มที่ในการดำเนินตามแผน  ทำให้ผมต้องพับความอายเก็บไว้ที่หอก่อน

    กรูลงบาสอย่างเดียวว่ะ  ขี้เกียจเล่นเยอะ  ให้น้องมันลงบ้าง  ฟังดูเป็นพี่ที่ดีนะเมิง  ปกติมันแข่งหลายอย่างครับ

     

    กีฬาภายในคณะผมจะไม่ได้แบ่งเป็นภาควิชาครับ  จะแบ่งเป็นสี 6 สี  สีละ 4 ห้อง(มีสีนึงมี 5 ห้อง)  คละชั้นปีและภาควิชาเพื่อให้เกิดความกลมเกลียวสนิทสนมในหมู่คณะ  สีที่แบ่งก็ไม่ใช่ น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดงด้วย  รุ่นพี่บอกมันไม่แนวครับ  ต้องขาว ดำ เทา น้ำตาล  ซีเปีย(สีเหมือนชาจีน) และบลอนซ์  สภาพกีฬาสีเลยหม่น ๆ หมอง ๆ อะไรที่ง่าย ๆ คณะผมไม่ชอบ  ชอบความลำบาก

     

    เมิงแข่งวันนี้เลยป่ะ  ผมถามมันต่อด้วยเสียงที่แผ่วเบาลง

    อือ  วันนี้นัดแรก  เดี๋ยวก็ไปแล้ว  พูดจบมันก็หันหน้ามามองผม

    เหรอ  แข่งกับใครล่ะ  ผมใช้เสียงที่เบาลงอีก  แผนแรกเสียงกระซิบครับ  เขาบอกว่ายิ่งพูดเบาเท่าไหร่ ผู้คนจะยิ่งสนใจมากขึ้น  แล้วจะช่วยกระตุ้นเร้าอารมณ์ชายหนุ่มโดยที่เขาไม่รู้ตัว 

     

    ไอ้กิงมองหน้าผมแบบเพ่งยิ่งขึ้น  เริ่มสนใจกรูแล้วล่ะสิ  แข่งเสร็จกี่โมงละเมิง  ผมยังคงกระซิบกระซาบต่อไป

    เร  ไอ้กิงเรียกผมนิ่ง ๆ  หน้าหล่อ ๆ ของมันดูฉงนสนใจ  ได้ผลโว้ย

    มือหนาของมันเอื้อมมาจับลำคอผม  แหนะมีถึงเนื้อถึงตัว  แผนแรกก็ไปได้สวยแล้ว หุหุ

    ต่อมทอมซิลอักเสบเหรอว๊ะ  พูดไม่เต็มเสียง

     

    เวร  ผมหยุดกระซิบทันที  เซ็งจิตเล็กน้อย  ไอ้ควายเมิงแยกไม่ออกระหว่างเจ็บคอกับกระซิบเรอะว๊ะ

    .

    .

    พวกผมเดินทางจากตึกเรียนมาที่โรงยิมมหาลัยเพื่อแข่งกีฬาตามโปรแกรม  และคอยควบคุมด้วย  บาสใช้สนามหลักตรงกลางโรงยิมใหญ่เพื่อแข่งขัน  ส่วนกีฬาอื่นก็กระจายกันไปรอบ ๆ  ไอ้กิงเปลี่ยนชุดพร้อมแล้ว  มันในชุดกีฬาดูเป็นสปอร์ตแมน  หล่อเอี้ย ๆ มาก

     

    ปรี๊ด  กรรมการเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันแล้วครับ

     

    กรี๊ดดดด  พี่กิงสู้ ๆ นะค้า  เสียงกรี๊ดกร๊าดปลุกบรรยากาศให้คึกคักขึ้นมาทันที  ไอ้ป๋องเคยเรียกปรากฎการณ์นี้ว่ากิงฟีเว่อร์  พอช่วงกีฬาบรรดาแฟนคลับมันทั้งในและนอกคณะ  ทั้งสาวและไม่สาวจะมาคอยให้กำลังใจอย่างเต็มที่  โรงยิมในตอนนี้คราคร่ำไปด้วยทั้งเด็กในคณะผมและนอกคณะ  แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจแหละครับ

     

    ไอ้กิงรูปร่างดีสูงสมส่วน  ใบหน้าหล่อคมคาย  ยามเล่นกีฬาเหมือนมันมีองค์มาประทับ รัศมีเปล่งประกาย  เหงื่อที่ผุดพรายตามเนื้อตัว  ท่วงท่าการเล่นที่เก่งกาจช่ำชอง  เร้าใจจนผมยังเคลิ้มเลย  วุ้ย! เขิน

     

    เกมส์การแข่งขันจบไปแล้วทั้ง 4 ควอเตอร์(สีผมชนะด้วย  พวกผมอยู่สีเทาครับ)  วันนี้แข่งรอบแรกครบทั้ง 6 สี(แข่งแบบแบ่งเป็น 2 สาย พบกันหมดในสาย)  กีฬาต่อไปที่จะใช้สนามก็ถึงตาผมมั่งล่ะ  ผมที่อิมพอร์ตมาจากต่างจังหวัดจะเล่นกีฬาอินเตอร์อะไรไม่ได้นอกเสียจาก  วอลเล่ย์บอล

     

    ไอ้เร  สู้ตายโว้ย  ไอ้ป๋องที่เพิ่งแข่งฟุตซอลเสร็จเข้ามาในโรงยิม  ผมพร้อมอยู่ในสนามแล้วครับ  ไอ้กิงที่แข่งบาสเสร็จก็นั่งดูอยู่ด้วย  ตามด้วยแฟนคลับที่นั่งดูมันอีกทีนึง

     

    ปล่อย  คำแรกออกจากปากผมทันทีที่อีกฝ่ายเสิร์ฟลูกมา  เกมส์เริ่มแล้ว  ด้วยความที่ผมตัวเล็กกว่าถ้าเทียบกับพวกแมร่ง  ผมเล่นเป็นตัวรับเซ็ทตั้งลูกครับ  ไอ้กิงเล่นบาสตำแหน่งชู้ตติ้งการ์ดตัวรุก  อืม  น่าคิด

     

    วู้วววว  น้องเร/พี่เร  สู้ตายนะค้าบ  เสียงโหวกเหวกของรุ่นพี่และรุ่นน้อง(ผู้ชาย)ในคณะเชียร์ผม  ผมแทบลื่นสะดุดพื้นสนามในบัดดล  ไอ้ป๋องอีกเช่นกันเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า เรแอนด์เดอะแฟน  ผมน้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาตัวเองสิ้นดี  ทีไอ้กิงสาว ๆ กรี๊ดกร๊าดมันยังกับอะไร  เหลือบไปดูบรรดาคนที่มาเชียร์ผม  อ่า  คมเข้มมาดแมนกันทั้งนั้น    

     

    เพียงไม่นานเกมส์การแข่งขันก็จบลง  แข่งแบบ 2 ใน 3 เซ็ทครับ  สีผมแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย  แต่ก็ไม่ได้เคร่งเครียดอะไรหรอกครับสำหรับกีฬาภายในคณะ  แข่งกันสนุก ๆ มากกว่า  จบกีฬา 2 ทุ่ม  ต้องไปซ้อมพิธีเปิดต่ออีก  กว่าจะกลับถึงหอ  เหนื่อยแทบขาดใจ

    .

    .

    แผน 2  ทอดสายตา พ่วงแผน 3 รอยยิ้ม

     

    วันนี้เข้าสู่วันที่สองของการแข่งกีฬาแล้วครับ

    เร  เมิงมีแข่งกะใครว๊ะวันนี้  ไอ้กิงถามผม  ตอนนี้พวกผมนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนข้างโรงยิม  เตรียมตัวแข่งกีฬากันอยู่

    สีขาว  สีห้องไอ้กานต์มัน  ตามตำราบอกไว้ว่าให้เล่นเกมส์สบตากับคนที่คุณสนใจ  โดยจ้องเขาสัก 3 วินาที  และมองไปทางอื่นอีก 5 วินาที  เขาจะตื่นเต้นที่มีคนสนใจเขาอยู่ 

    ผมนับในใจทันที  1..2..3  จ้องหน้ามัน 

    เหรอ  แข่งคู่สองใช่ป่ะ  มันถามผมต่อ  ผมนับในใจอีก  1..2..3..4..5  เสตาไปทางอื่น  ผมกลัวไม่ได้ผล  เลยทำทั้งหมดอีก 3 เซ็ท

    อืม  แข่งคู่สอง  ก่อนเมิงแข่งบาสน่ะแหละ  ผมตอบคำถาม  พลางเล่นเกมส์สบตากะมันไปด้วย  เมื่อยดี

     

    มันจ้องหน้าผมนิ่งเลย  อ่ะ  อ่ะ  เคลิ้มแล้วอ่ะดิ  ผมเพิ่มคอมโบแผน 3 รอยยิ้ม  ตามตำราว่าอีกว่า  เวลายิ้มให้เอียงศีรษะไปข้างนึง  แค่นี้ก็จะเหนี่ยวไกโดนหัวใจคนที่คุณสนใจทันที  ยิ่งคุณเอียงศีรษะมากเท่าไหร่ก็ยิ่งแสดงว่าคุณสนใจเขาเท่านั้น  และถ้ายิ่งคุณกัดริมฝีปากน้อย ๆ แล้วชำเลืองไปที่เขาคนนั้น  รับรองว่าจะเข้ามาสยบแทบเท้าเลย   หึหึ  ไอ้กิงเมิงมาสยบแทบตรีนกรูซะ  ผมดำเนินตามแผนต่อทันที

     

    แล้วเมิงแข่งกะใครล่ะวันนี้  ผมถามมัน  เอียงศีรษะประมาณ 45 องศาขนานพื้นโลก  ยิ้มและกัดริมฝีปากอีกนิดหน่อย 

    ไอ้กิงมองหน้าผมลึกซึ้งยิ่งขึ้น  แข่งกับสีดำ  สีห้องไอ้แพน  มันตอบผม 

    คู่ไหนล่ะ  เดี๋ยวกรูจะได้อยู่ดูก่อนไปซ้อมต่อ  ผมเอียงศีรษะยิ่งกว่าเดิม  ยิ้มอย่างที่คิดว่าหวานหยด  ผมเพิ่มเลียริมฝีปากไปด้วยเพื่อความเร้าใจ

     

    เร  ไอ้กิงเรียกผมเสียงนุ่ม  ใบหน้าคมคายของมันจ้องหน้าผมเหมือนพิจารณา  อ่ะ อ่ะ  พิสวาทกรูแล้วใช่มั้ยเมิง  เอาหัวใจเมิงมาซะ  หุหุ  ผมแอบดีใจที่แผนสำเร็จ

     

    สันนิบาตแดกหน้าเหรอว๊ะ  หน้าประหลาดว่ะ  ความในใจของมัน

    ริมฝีปากผมกระตุกรั้งอย่างช่วยไม่ได้  พาลสันนิบาตจะแดกหน้าจริง ๆ เออ  สาด  แมร่งไอ้ควาย  ผมไม่รู้จะพูดอะไร  เซ็ง  โว้ย! ไอ้โง่รู้ตัวบ้างสิว๊ะว่ากรูยั่วใจเมิงอยู่  เป็นผู้ชายหัดยั่วนี่มันลำบากจริง ๆ นะครับ

    .

    .

    .

    เฮ้อ  เหนื่อย  ผมบ่นเล็กน้อย  เมื่อแมทต์การแข่งของผมจบลง  รอบนี้ชนะครับ  ผมบิดตัวยืดเส้นสายอีกสองสามที  ไม่ได้เล่นกีฬามาซะนาน  สดชื่นดีทีเดียว

    พี่เร  น้ำมั้ยคะ  รุ่นน้องปี 2 ผังเมืองสีเดียวกับผม  ยื่นน้ำให้พร้อมสายตาวิบวับแปลก ๆ 

    ขอบใจนะ  ผมรับน้ำมาดื่มแก้กระหาย  ในสนามตอนนี้เอาเน๊ตวอลเล่ย์ออกแล้ว  เช็ดสนามเตรียมพร้อมสำหรับบาสที่จะแข่งเป็นรายการต่อไป

     

    บรรยากาศโดยรอบครึกครื้นทันตา  นศ.เริ่มมากันเยอะแล้ว  คนที่แข่งรายการของตัวเองเสร็จก็เตรียมมาเชียร์สีของตัวเองต่อไป  รวมไปถึงแฟนคลับไอ้กิงที่มารอดูอยู่ด้วย

     

    วู้  มากันเยอะแยะเหมือนเดิมเลยว่ะ  ไอ้ป๋องที่แข่งฟุตซอลนัด 2 จากข้างนอกเสร็จเข้ามาในโรงยิม

    ขายดีจริง  ไอ้กิงนี่  โจมาพร้อมกับป๋อง  แข่งฟุตซอลเหมือนกันครับ

    ชนะป่ะ  ผมหันไปถาม

    จะเหลือเรอะ  ไอ้ป๋องว่าหน้ายิ้ม ๆ  มีจีนจอมเลื้อยอยู่จะเอาที่ไหนไปชนะว๊ะ

    ป๋อง ก็ ชอบ ผ่าน บอล ให้ ทีม ตรง ข้าม ให้ เขา ทำ ประ ตู เหมือน กัน น้า  จีนประชดกลับเสียงเนือย ๆ ไอ้สามคนนี่มันเป็นนักบอลครับ 

    เมิงอ่ะ  ไอ้ป๋องถามผมกลับ

    ชนะ 1 แพ้ 1 เหลืออีกนัดว่ะ  ถึงจะรู้ว่าจะเข้าชิงรึเปล่า  ผมตอบพลางหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กในเป้มาคล้องคอเช็ดหน้า  อุณหภูมิในโรงยิมเหมือนจะร้อนขึ้นเรื่อย ๆ

    งั้นก็เหลือบาสให้ลุ้นแบบแน่นอนอ่ะดิ  โจว่า

     

    กรี๊ด  กร๊าด  ว้าก  แว้ก  สารพัดเสียงเชียร์เริ่มต้นพร้อมเกมส์การแข่งขันทันที  สีผมผสมไปด้วยรุ่นพี่และรุ่นน้อง  โดยมีพี่ปี 5 อินทีเรียที่เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์เป็นตัวทำเกมส์หลักกับไอ้กิง  2 คนนี้เป็นนักบาสคณะครับ  แค่มีนักบาสตัวจริงอยู่ 2 คนก็เดาผลการแข่งขันได้ไม่ยาก

     

    กิง  สีเค้าแพ้  ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะยอมแพ้ใจนะย๊ะ  แต่ถ้ายังไงลองมาเล่นแมน-ทู-แมน กับเค้ามั้ยฮ้า  ไอ้แพนแซวไอ้กิงแบบแรด ๆ หน่อย  ทันทีที่เกมส์การแข่งจบลง

    เปลี่ยนเป็นมวยดีกว่าว่ะ  ไอ้กิงตอบกลับ  หอบเล็กน้อย  ท่าจะเหนื่อยจัด

     

    ไอ้กิงเดินเหงื่อโทรมออกจากสนามบาส  ดื่มน้ำไปอึกใหญ่  ถ้าไม่เกรงใจสถานที่มันคงจะเอาบุหรี่ขึ้นมาอัดเพิ่มแรง  ข้างสนามมีบรรดาแม่ยกส่งสายตาประมาณว่า  เหนื่อยนักแวะพักตรงนี้สิค้า  มันเหลือบมาทางพวกผมที่ยืนดูอยู่ไม่ไกลจากที่นั่งนักกีฬ่ามาก  มันเห็นแล้วจึงเดินเข้ามาหา

     

    ผมวางแผนอย่างฉับพลัน  แม้แผน 1,2,3  จะทำให้ผมเป็นสารพัดโรค  แต่ลองแผน 4 หน่อยว๊ะ  ผมสวยเชิญชวน  ตามตำรา(อีกแล้ว)ถ้าผมสั้นให้คุณลองม้วนผม  โดยใช้นิ้วชี้ม้วนเล่น ๆ จะทำให้คุณดูเพ้อฝัน  ไร้เดียงสา  และเซ็กซี่(?)  แต่ถ้าคุณต้องการยั่วให้เร็วที่สุด  เวลาม้วนผมให้เหลียวไปทางเขาด้วย  แล้วเสยผมขึ้นช้า ๆ  ผมพร้อมปฏิบัติตามทันที

     

    เป็นไงมั่งเมิง  ไอ้กิงเข้าไปทักพวกไอ้ป๋อง

    แพ้ 1 เสมอ 1  ท่าจะไปไม่รอด  โจบอกผลการแข่ง 

    ผมยกมือขึ้นสองข้าง  ก่อนจะใช้นิ้วชี้ม้วนผมพร้อม ๆ กัน  ไอ้กิงหันมามองผมท่าทางสนใจไม่น้อย  เหลือของเมิงแหละ  น่าจะผ่านชัวร์ ๆ  ผมพูดไป  ม้วนผมไป  ผมสั้นม้วนลำบากโว้ย

    ของเมิงก็เหลือรอบแรกอีกนัด  ดี ๆ ก็น่าจะผ่านนะ 

    อืม  ไม่รู้ดิ  ต้องลองดูว่ะ  ตอบเสร็จ  ผมก็เปลี่ยนเป็นเสยผมแล้วกลับมาม้วนผมต่อ 

     

    มันเดินเข้ามาหาผมใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ เอาว๊ะ  มันต้องได้ผลสักแผนแหละน่า 

    สองมือหนามันเอื้อมมาจับศีรษะผม  สายตาคมมองแบบแฝงความนัย  ก่อนจะจับศีรษะพลิกซ้ายที  ขวาที  บนที  ล่างที  อ่ะน่ะ  ได้ผลแปลก ๆ แฮะ

     

    เป็นรังแคเหรอว๊ะเร  แข่งกีฬาเหนื่อยแล้วลืมสระผมอ่ะดิเมิง  นึกได้แค่นี้เรอะไอ้กิง

     

    ฮ่า ๆๆ  ซกม๊กว่ะเมิง  เสียงไอป๋องแซวผมไม่ห่างนัก

     

    หึหึ  ผมขำแบบเสียประสาทกะทันหัน  เดี๋ยวก็ต่อมทอมซิลอักเสบ  สันนิบาตแดกหน้า  ยังจะเป็นรังแคอีก  สรุปนี่ผมยั่วไม่ดี  แผนห่วย  หรือมันโง่กันแน่  จัดง่าว(ยืมคำเต้ยมาใช้หน่อยเหอะ)

     

    ผมยืนปล่อยมือทิ้งข้างลำตัวด้วยความเหนื่อยใจ  มันก็ยังคงจ้องผมด้วยความสงสัยในสุขภาพกายผมอยู่  แต่ผมเสียสุขภาพจิต

     

    เฮ้ยย  ผมเผลอร้องออกมา  เซไปตามแรงดึงของไอ้กิง

     

    หน้าของไอ้กิงอยู่ห่างจากผมแค่คืบ  มันดึงผ้าขนหนูที่คล้องคอผมอยู่ไปเช็ดหน้ามัน  ผมจะไม่ว่าอะไรเลยถ้ามันจะเอาไปแค่ผ้า  ไม่ใช่ดึงผมไปด้วยประหนึ่งเป็นส่วนนึงของผ้า  จู่ ๆ ความอายที่ซ่อนไว้ก็พุ่งปรี๊ดขึ้นมาทันที

    อะ  เอาผ้าไปดิ  เดี๋ยวกรูเอาออกให้  ผมพยายามรวบรวมความกล้า  พูดกับมัน 

     

    ไม่เป็นไร  เดี๋ยวก็เช็ดเสร็จแล้ว  มันพูดเสียงแผ่ว  ช้อนสายตามองผมอีกนิดหน่อย  ก่อนจะหยิบปลายผ้ามาเช็ดบริเวณปลายคางคมสัน  ผมรู้สึกจี๊ดอย่างบอกไม่ถูก  ใบหน้าร้อนผ่าว

    เร  เสียงทุ้มนุ่มเรียกผม

    มีอะไร  ผมพยายามสบตามัน  แม้จะไม่เต็มที่ดีนัก

     

    เฮือก  ผมสะดุ้งเมื่อสัมผัสของผ้าขนหนูเนื้อนุ่มทาบทับที่หน้าผมอย่างแผ่วเบา

     

    เหนื่อยมากอ่ะดิ  เหงื่อออก  หน้าแดงเชียวเมิง  มันพูดยิ้ม ๆ พร้อมกับเช็ดหน้าให้ผมไปด้วย  บรรยากาศสยิวกิ้วดำเนินไปสักพัก

     

    เฮ้ย  พวกเมิงสองตัวขัดขี้ไคลกันเสร็จรึยังว๊ะ  จะได้ไปทำมาหาแดกอย่างอื่นต่อ  เสียงไอ้ป๋องดังแทรกทำลายมู้ดทันที  ทำให้ผมกลับมาพึงระลึกว่าตอนนี้เราอยู่กันที่โรงยิม  ไม่ใช่ที่รโหฐานสองต่อสอง  เจ็บปวดไปกับสายตาทิ่มแทงของคนรอบข้างที่แอบมองอีกนิดหน่อย

     

    เออ  ไปซ้อมกันเหอะว่ะ  ผมรีบดึงผ้าขนหนูออกจากมือไอ้กิง  แล้วสปีดหนีด้วยความอาย  นอกจากแผนจะไม่สำเร็จแล้ว  ยังโดนมันย้อนยั่วกลับโดยไม่รู้ตัวอีก  เอี้ยกิงเอ้ย  ผมได้แต่บ่นกับตัวเอง

    .

    .

    .

    .

                งานกีฬาผ่านไปอย่างสนุกสนานและเร่าร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนมาถึงวันสุดท้ายของการแข่งขัน  วันศุกร์วันที่จะแข่งรอบชิงของกีฬาประเภททีมทั้งหมดตั้งแต่สายถึงบ่าย  ส่วนตอนเย็นเป็นรายการแข่งฟุตบอลกระชับมิตรภายในคณะระหว่างนักศึกษากับอาจารย์  พวกห้องผมเตรียมสไลด์เสียบตาตุ่มอ.เรินอยู่  ตอนค่ำเป็นงานเลี้ยงกับแจกผลรางวัล  และที่สำคัญที่ไม่อยากนึกถึงคือพิธีเปิดตอนเช้าแปดโมงครึ่ง

     

                บรรยากาศในโรงยิมที่ถูกเสกสรรค์ปั้นแต่งเป็นบรรยากาศของพิธีเปิดกีฬาด้วยเวทีใหญ่ด้านนึงของสนาม  ฉากถูกสร้างอย่างเก๋และเท่ห์ด้วยลายกราฟฟิกและชื่องานกีฬา  เด็กในคณะถูกจับนั่งแยกเป็นสีสวมเสื้อสีของตน  หม่นหมองประคองอารมณ์ดีมาก(ยืมมุขคุณพิงหน่อย)   นักศึกษาคณะอื่น ๆ ที่ยอมแหกขี้ตาตื่นมาดูนั่งกระจายตัวตามอัฒจันทร์ส่วนที่เหลือจากอัฒจันทร์เชียร์

     

     

    คิง  ฮาไขปิ๊กบ้านเน้อ  (แปลว่า  เมิง  กรูอยากกลับบ้านน่ะ) 

    ฮาก่ไขปิ๊กบ้านก๊ะ (แปลว่า  กรูก็อยากกลับบ้านด้วย) ผมอู้ตอบแบบมั่ว ๆ แล้วเหลือบไปมองเต้ย  พร้อมสังเวชตัวเองไปด้วย  พวกผมสองคนถูกจับแต่งหน้าแต่งตัวจนจำตัวเองแทบไม่ได้ 

     

     

    กรี๊ดดดดดด  กร๊าดดดดดด  ว้ากกกก  แว้กกกก โว้ยยยยยย  เสียงโห่ร้องกึกก้องเหมือนบรรพบุรุษใครโดนแช่งดังขึ้นทันทีที่การแสดงชุดแรกเริ่มขึ้น  กดดันให้ผมสองคนประสาทแดกขึ้นไปอีก 

     

    จากการซ้อมทำให้พบว่า  เราต้องใจกล้าหน้าด้านเข้าไว้  แต่ทำไมผมกับเต้ยต้องแสดงเป็นชุดสุดท้าย  ที่สำคัญเก็บตัวเงียบ  แม้กระทั่งในสโมสรก็ยังไม่รู้ว่าพวกผมจะโชว์อะไร  พวกไอ้แพนฝ่ายคิดการแสดงบอกว่าเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ให้กับคณะ  ถ้าไอ้งานนี่มีตอนผมปี 1 ก็เฉย ๆ อยู่หรอก  แต่มามีตอนปี 4 ภาพพจน์ที่อุตส่าห์สร้างมา  โธ่!

     

    การแสดงมีทั้งแบบทิฟฟานี่ลิปซิ้งค์โชว์(ไอ้แพนจัดเองเลยครับ)  คัฟเวอร์วงบอยแบนด์เกาหลีโดยมีพวกไอ้ป๋องหน้าปลาบู่เป็นตัวแสดงกับท่าเต้นสุดจังไร  เสียใจแทนวงต้นแบบจริง ๆ  สาว ๆ นำโดยไอ้กานต์ก็ต้องโชว์มาในมาดสาวเสียงพิณแดนดินอีสานบ้านนครสวรรค์ก็ว่าไป (มันโชว์ร้องลูกทุ่งกับหางเครื่องครับ)  ตามด้วยล้อเลียนโฆษณาการแสดงสั้นแต่ฮาได้ใจอีก 2-3 ชุด  และในที่สุดชุดสุดท้ายก็มาถึง

     

    เอาเหอะเต้ย  ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว  ผมหันไปมองเต้ยพร้อมตบไหล่เบา ๆ ยืนพร้อมอยู่หลังเวที

    เต้ยพยักหน้ารับชะตากรรม หมู่เฮาสิเป๋นกำสิเน  (แปลว่า  พวกเราต้องเป็นคำเล่าลือ)

    ผมหน้ามึนไปกับซาวด์แทรคเต้ยนิดหน่อย  ก่อนทอดมองไปยังฉากที่เปิดออกอย่างช้า ๆ รอพวกผมขึ้นไปบนเวที

     

     

                ชายหนุ่มรูปร่างเพรียวบางสองคนเดินออกจากฉากที่เปิดเป็นทางเข้าเหมือนม่านเปิดการแสดงจากหลังเวที  เดินกรีดกรายไขว้เท้าเป็นเลขแปดอย่างมีจริตมารยา  ก่อนจะหยุดพ้อยท์เท้าที่ส่วนหน้าสุดของเวที  จิกสีหน้าเหมือนงอนใครมาแล้วทอดสายตาไปทั่วโรงยิม  รอยยิ้มเผยอน้อย ๆ ในแบบยั่วเย้า

     

    กรี๊ดดดดด  สุดยอดดด   ว้ากกกกก  ฮ่าๆๆ  เสียงโห่ร้องที่กึกก้องไปทั้งโรงยิมยิ่งกว่าเดิม  สายตานับร้อยคู่โฟกัสมาเป็นจุดเดียว  แก้มที่ถูกปัดจนแดงถึงหน้าแดงมากกว่านี้ก็คงไม่มีใครรู้  หมดเวลาอายแล้วกรู

     

    เลิฟ ยู เลิฟ ยู เลิฟ ยู เลิฟ ยู

     

    โรคหัวใจกำเริบ เลิฟ ละ ละ เลิฟ เลิฟ เลิฟ

    ดูสิมันกำเริบ เลิฟ ละ ละ เลิฟ ยู

    เห็นแล้วใจมันอ่อนอ๊อน อยากจะอ้อนเธอน่าดู

    ช่วยมาดูแลรักษากันหน่อยเหอะ ~~’

     

    เสียงเพลงของโฟร์มดดังกระหึ่มไปทั่วโรงยิม  พร้อมด้วยท่าเต้นรีวิวประกอบเพลงของพวกผมเสมือนโฟร์มดมาเอง  แต่ผมว่าโฟร์มดมีอาย  ถ้ามาเจอเรเต้ย  ด้วยคอสตูมรองเท้าผ้าใบหัวโตถุงเท้าบอลสีแสบยาวจนถึงเข่า  เสื้อเอวลอยยาวแค่พอปิดนมผูกเป็นโบว์ไว้  เผยหน้าท้องแบนราบ  และกางเกงเอวต่ำจั้มพ์ตรูด(มันยาวแค่พอหุ้มก้นเองครับ) 

     

    กว่าเพลงจะจบ 3 นาทีนานเหมือน 3 ปี  ผมรู้สึกผิดกับที่บ้านพอดูส่งลูกมาเรียนกลายเป็นนักร้องดูโอสาวสวยไปเสียได้  แรงตอบรับดีเสียจนอยากฆ่าตัวตาย  แม้แต่เพื่อนร่วมสโมสรยังฮาแตกไม่สงสารพวกผมมั่ง  เรตติ้งการแสดงชุดผมกระจาย  ขนาดมีคนจากคณะอื่นมาขอถ่ายรูปด้วย  ส่วนคนในคณะไม่ต้องพูดถึง  ผมคาดว่าจะมีเรแอนด์เดอะแฟน(ผู้ชาย)เพิ่มขึ้น

     

     

    ผมนั่งทอดหุ่ยอยู่บนอัฒจันทร์หลังจากแจกลายเซ็นต์  อ่า  เว่อร์ไป  หลังจากถ่ายรูปทีมการแสดงไว้เป็นที่ระทึกต่างหากครับ  ในสนามตอนนี้กำลังเคลียร์ฉากต่าง ๆ และเวทีออกไป  เพื่อเตรียมไว้สำหรับแข่งบาสรอบชิง  สีผมนั่นเองที่ไปถึงรอบตัดเชือกได้แข่งกับสีน้ำตาล  ไอ้กิงในชุดกีฬาสวมแจ๊คเก็ตเดินขึ้นจากสนามมาหาผมที่นั่งบนอัฒจันทร์

     

    ไปซ้อมมาตอนไหนว๊ะ  มันเหลือบมองผมก่อนนั่งลงข้าง ๆ  สีหน้าดูนิ่ง ๆ

    ตอนแข่งเสร็จน่ะแหละ  เหนื่อยตายห่า  ผมบอกมัน  ก่อนจะมองพิจารณา  มันอยู่ฝ่ายสถานที่เลยไม่ต้องแสดง  บวกกับคนบุคลิกอย่างมันเล่นอะไรไปคงไม่ฮาพาเพื่อนเครียดได้  แล้วมันต้องแข่งบาสรอบชิงในวันนี้ด้วย  มันเลยอยู่ในชุดกีฬาพร้อมแข่งเท่ห์มาดแมน  ส่วนผม  เหอะ ๆ สมเพชตัวเองจริง ๆ เลย

     

    แผน 5 เรียวขาพาฝัน  ตามที่โคโมบอกไว้  ต้องใช้ท่วงท่ากิริยา  นั่งไขว่ห้างเพราะจะทำให้มองเป็นรูปร่างและส่วนเว้าส่วนโค้ง  ให้ปลายเท้าชี้ไปยังคนที่คุณสนใจ  เพราะมันจะทำให้เขารู้สึกว่าคุณเข้าไปอยู่อาณาจักรส่วนตัวของเขาเข้าแล้ว 

     

    แต่ผมไม่ทำตาม  พอ  เลิก  ผ่านมา 4 แผน  ผมเป็นหลายโรค  ถ้าเพิ่มแผนนี้เข้าไปอีกผมอาจกลายเป็นคนทุพลภาพในสายตามันไปได้  ผมเลยนั่งไขว่ห้างปล่อยตัวตามสบาย  มือนึงกอดเอวไว้หลวม ๆ อีกมือนึงเท้าคางตัวเองไว้  สายตาทอดมองบรรดาเพื่อนพี่น้องที่ยังถ่ายรูปเล่นอยู่ข้างล่าง 

     

    ฟุ่บ  ไอ้กิงถอดแจ๊คเก็ตมาคลุมช่วงขาผมไว้  ผมงงก่อนหันหน้าไปหามัน

    อะไรว๊ะ 

    ยังไม่เปลี่ยนชุดอีกเมิง  เปลี่ยนได้แล้ว  มันบอกผม

    ค่อยก่อนก็ได้  ไอ้พวกข้างล่างมันยังไม่ไปเลย  เดี๋ยวกรูค่อยไปเปลี่ยนพร้อมมัน  ผมพูดพร้อมพยักเพยิดหน้าให้มันมองไปในสนาม

     

    ไอ้กิงมองอยู่แปปเดียว  ช่างพวกมันเหอะ  เมิงจะอยู่ชุดนี้อีกนานแค่ไหนว๊ะ  มันพูดพร้อมเอาปลายนิ้วขึ้นมาลูบจมูกตัวเอง  ก้มหน้าต่ำนิดหน่อย 

     

    บิงโก!  ผมจำกิริยาที่หาดูได้ยากของมันได้  เป็นกิริยาที่เรียกกันว่ากิงเขินครับ  เคยปรากฎขึ้นครั้งนึงตอนมันพรีเซ้นท์โปรเจค  แล้วอาจารย์ทุกคนชื่นชอบผลงานมันมาก  ชมกันยกใหญ่  จนคนหน้าด้านอย่างมันเขิน  แต่ตอนนี้มันกำลังเขินผม  วู้ว!  เสร็จล่ะเมิงไอ้กิง  ผมกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ

     

    ผมหยิบแจ๊คเก็ตที่คลุมขาผมอยู่คืนมัน  อือ  เดี๋ยวไปแล้ว  เมิงเอาเสื้อคืนไป  กรูร้อน  ได้ทีผมก็ยั่วเย้ามันใหญ่

    มันทำท่าขัดใจก่อนจะดึงแจ๊คเก็ตลงปิดขาผมไว้เหมือนเดิม  ก็ไปสักทีเด้  แน่ะมีดุด้วย

     

    อะ  เขินอ่ะดิเมิง  ผมแซวมัน  ชอบสไตล์โคโยตี้จั้มพ์ตรูดก็ไม่บอก  แต่กรูคงตอบสนองเมิงได้แค่บ๊อกเซอร์โคนขาเว้าสูงว่ะ  ใส่แบบนี้มันเมื่อยง่ามขากับก้นกบ

    ...  มันไม่ตอบวงหน้าคมของมันดูล่อกแล่กนิดหน่อย

     

    ผมไม่ยอมปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป  เอานิ้วไปจิ้มแก้มมัน  เป็นอะไร  ชอบให้กรูใส่แบบนี้เหรอเมิง  ผมแกล้งมันเล่น  มีความสุขจริงเห็นไอ้กิงแพ้ทางเนี่ยะ 

     

    หมับ  มือหนามันรวบมือข้างที่จิ้มแก้มมันไว้  สายตามันมองประสานมาที่แววตาผม

     

    ไม่เกี่ยว  มันบอกเรียบ ๆ

    หา  อะไรว๊ะ  ผมงงอะไรเกี่ยวไม่เกี่ยว

     

    ใส่แบบไหนก็ได้  เมิงเป็นเมิงแบบไหนก็ดีทั้งแหล่ะ  มันบอกผมสีหน้าจริงจัง  ความร้อนแล่นอาบตัวผมทันที  ดีใจเหลือเกินที่ผมโดนแต่งหน้าปัดแก้มจนแดงไว้  ไม่งั้นมันคงหาว่าผมเป็นหัดเยอรมัน

     

    เหรอ  เออ  อื้อ  ผมหลบสายตาคมของมัน  อายยิ่งกว่าตอนแสดงอีก  ก็กรูมันหล่อ  หน้าตาก็ดี  ใส่อะไรก็ดูดีแน่นอน  ผมก็ได้แต่สมอ้างคำพูดมันไปมั่ว ๆ  ดึงมือออกจากที่มันจับไว้มาขูดหาหวยบนอัฒจันทร์  อ่า  เขิน

     

    หึหึ  มันขำในลำคอ  สีหน้ายิ้มแฝงความนัย

    ขำเอี้ยไร  ผมหันไปถามแกมด่ามัน  เขินปากหมาอีกแล้วตรู

    เปล๊า  มันปฏิเสธเสียงสูง  ยักไหล่ทีนึง  แล้วเมิงจะเปลี่ยนชุดได้รึยัง  หรือจะใส่ชุดนี้เชียร์กรูแข่งบาส  งั้นเต้นโชว์อีกรอบด้วยนะ  มันคงคิดว่าผมจะยอมทำตามมัน  แต่ผมยังคงไม่ยอมง่าย ๆ

     

    เอาดิ  เดี๋ยวกรูจัดให้พิเศษอีกรอบเลย  ผมชักสีหน้าท้าทาย  หึหึ  เอาเด้กรูรู้เมิงแพ้ทางไอ้กิง  เดี๋ยวเมิงก็ไล่กรูไปเปลี่ยนชุดอยู่ดี  งานนี้กรูชนะ  กร๊ากกก

     

    ได้ผลครับ  มันนิ่งชะงักไปนิดนึงแล้วยื่นหน้ามากระซิบข้างหูผม  ถ้าเมิงยังไม่ไปเปลี่ยนอีก  กรูจับเมิงทำเมียตรงนี้แน่  น้ำเสียงแผ่วแต่เนื้อเสียงเอาจริง

     

    ผมอึ้งไปแปปนึงก่อนจะ สาดกิง  ไอ้จังไร  ไอ้เอี้ย  ตบวยเอ้ย  ผมไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าไอ้หน้าด้านอย่างมัน  รู้แต่ตอนนี้หน้าผมร้อนฉ่าอย่างแรง   ผมรีบผละห่างจากลมหายใจร้อนข้างหู  เดชะบุญเต้ยคู่หูดูโอผมขึ้นมาบนอัฒจันทร์พอดี

     

    เต้ย  เมิงไปเปลี่ยนชุดกะกรูที  ผมรีบลุกขึ้นเดินไปหาเต้ย  เต้ยแลดูงง ๆ

     

    เดี๋ยวเร  เสียงไอ้กิงเรียกผมหยุดไว้

    เอี้ยไรอีก  ผมหันหน้าไปหามัน  อยากจะรีบไปให้พ้น ๆ มันที่สุด

     

    ฟุ่บ  มันโยนเสื้อแจ๊คเก็ตมาให้ผม  ใส่ไปด้วย  บอกเพียงแค่นั้น

     

    อ้ากกก  สรุปแผนนี้นี่มันได้ผลหรือไม่ได้ผล  เข้าทางหรือแพ้ทางล่ะเนี่ยะ  ผมได้แต่งงตัวเองแล้วรีบไปเปลี่ยนชุดหนีสถานภาพเมียที่มันจะยัดเยียดให้

     

    ---------------------------------------------------------------------

     

    TBC.

     

    สวัสดีค่าทุก ๆ คน ^^  ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกคนทุกกำลังใจที่มอบให้นะคะ  ทุกคำถามทุกข้อคิดเห็นมีคำตอบในฟิคค่ะ (ประมาณล่อหลอกให้อ่านต่อ หุหุหุ)

    น้องโอห์มค้าจะอ่านไปใช้กับใครค้า  ถ้ายังไงใช้แล้วมาเล่าให้ว่างฟังบ้างน้าเผื่อเป็นข้อมูลในการแต่งฟิค(แอบหื่น)  หาซื้อได้ตามแผงหนังสือทั่วไปจ้า  พี่แนะนำcosmo(คอสโม)หรือโคโมของเร  เล่มนี้ข้อมูลแน่น 

    เพื่อนน้องบริจาคเลือดวายมาเหรอจ้า  ดีค่ะ  พวกเราหนุ่มสาวชาววายต้องเป็นคนจิตใจงาม 555++

    น้องเมศถ้าเขียนฟิคเด็กวิดวะต้องดิบ เถื่อน โหด เอนซีกระจายนะ  พี่จะรอด้วยความหื่น ^^

     

    ติชมได้ตามสะดวกค่า  หนึ่งข้อคิดเห็นของท่านเป็นกำลังใจให้คนแต่งค่า  ดีไม่ดียังไงสับได้เลยค่ะ

    รักและขอบคุณเพื่อนฟิค  เพื่อนน้อง  เพื่อนวายทุกคนค่า (เหมือนมาหาเสียง)^^”

    ตอนหน้าอาจลงช้ากว่า 1 สัปดาห์นะคะ  ว่างมีเวลาเล่นเนตเต็มที่แค่คืนวันเสาร์กับวันอาทิตย์ค่ะ  เลยทำให้อัพได้เท่านี้จริง ๆ ไม่อยากทิ้งไว้นานเลยค่ะ T_T กิงกะเรก็ไม่ช่วยกันทำมาหากิน(พล้อตน่ะบอกมามั่งเด้พวกเอ็งสองคนว่าจะเอายังไงตอนต่อไป)

     

    ขอบคุณทุกคนนะค้าที่เข้ามาอ่าน  มาเม้นท์  มาโหวต  มาแอดกัน ^^

    **มาแก้ไขคำผิดกับข้อมูลบางส่วนค่ะ  ขอบคุณคุณ icing มาก ๆ นะคะที่ทักมา  อายจริงแก่ปูนนี้แล้วยังเขียนภาษาไทยผิด อีก - -* ถ้าใครเจอคำผิดอีกทักได้นะคะ  แล้วเจอกันค่า ^^

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×