ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนาย my boyfriend. (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 : แสบกว่านี้มีอีกมั้ย!!

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 50





                 ทันทีที่ผมถึงหอพัก  ผมก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงพร้อมถอนหายใจยาว  เฮ้อ~~  จะเป็นแบบนี้อีกนานมั้ยว๊ะเรา  ผมสะบัดหัวไล่ความคิดตัวเองออกไป  ก่อนไปอาบน้ำอาบท่าประแป้งให้สบายใจ

     

                ผมมานั่งประจำอยู่ที่โต๊ะทำงานผมที่ทำขึ้นจากบานประตูไม้  แล้วเชื่อมท่อนเหล็กทำเป็นขาโต๊ะเอา  ด้วยความกว้างและยาวของบานประตูทำให้มีพื้นที่มากพอที่จะวางคอมพิวเตอร์  และติดทีสไลด์อุปกรณ์ในการเขียนแบบ  กับพอจะเหลือพื้นที่ไว้วางหนังสืออีกนิดหน่อย   ผมหยิบใบโปรแกรมมินิโปรเจคที่ไอ้กิงปากนรกหาเรื่องให้อ.มาเสิร์ฟงานถึงที่   ผมอ่านเพื่อศึกษาเนื้องานอยู่สักพัก  ก่อนที่สมาธิของผมจะลอยไปที่อื่น

     

                ย้อนกลับไปตอนปี 1  ผมเคยสงสัยว่าผมชอบมันตั้งแต่ตอนไหน  ทั้งที่ผมก็เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงมาก่อน  แล้วผมก็ค่อนข้างมั่นใจในรสนิยมทางเพศของตัวเองว่าไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยกัน  แต่พอเจอมัน...

     

    เฮ้ย!  เธอตรงนั้นน่ะ  เสียงทุ้มนุ่มหูของเด็กหนุ่มเรียกผม  ผมหันซ้ายหันขวาไม่เจอใคร 

    เราอยู่ตรงนี้  เด็กหนุ่มหน้าตาดีที่เพิ่งพบกันครั้งแรก  เรียกผมจากในรถเบ๊นซ์สีดำสุดหรูที่เบาะหลัง (บ้านมันคงไปขายหุ้นให้สิงคโปร์มา)

    หา...?  ผมทำหน้างง

    ตึกปฐมนิเทศน์คณะสถาปัตย์อยู่ไหน  เธอรู้รึเปล่า?  ไอ้หล่อนี่เจอกันครั้งแรก  ก็ตาถั่วหาว่าผมเป็นผู้หญิงซะแล้ว

    ผมว่าอยู่ตรงนั้นนะครับ  ตรงไปสุดทางเลี้ยวซ้ายแล้วเลี้ยวขวาอีกที  ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จด้วยความหมั่นไส้ในหน้าตาและชาติตระกูล

    อ้าว  นายเป็นผู้ชายหรอกเหรอ  น้ำเสียงไม่ได้สำนึกผิดสักเท่าไหร่  นายก็เข้าถาปัดรึเปล่า  ไอ้หน้าหล่อถามต่อ

    อืม  ผมพยักหน้า

    เอ้อ  ดีเลย  ไอ้หล่อพูดจบก็เปิดประตูรถลงยืนข้าง ๆ ผม  ลุงครับกลับไปเลยนะครับ  ตอนเย็นก็ไม่ต้องมารับผม  ล่ำลาเสร็จมันก็กึ่งลากกึ่งจูงผมไป  ไปปฐมนิเทศน์กันเถอะ 

    คุณโกครับ  คุณโก  เสียงลุงเรียกตามหลัง  แต่มันก็ไม่สนใจเดินต่อไป

     

    เฮ้อ!  ป๊ากับม๊าจะให้มาส่งไมก็ไม่รู้  ร้อยวันพันปีไม่เคยจะใส่ใจ  กลัวจะโดดเรียนตั้งแต่วันแรกรึไงว๊ะ  อายเค้าตายห่า  เมื่อพ้นสายตาผู้ใหญ่  มันก็เผยสันดานทันที

    เอ่อ...นาย  ผมเรียกมันให้รู้สึกว่ายังมีคนอยู่ข้าง ๆ

    อ้าว  เอ้อ  หวัดดีเราชื่อกิง  นายล่ะเพื่อน  ตู่ได้โล่ห์ไปเลย  แค่ถามทางก็กลายเป็นเพื่อนมันแล้ว

    เราชื่อเร  แต่ตะกี้ลุงเขาเรียกนายว่าโกไม่ใช่เหรอ  นอกจากตู่แล้วมันยังหน้าด้านเปลี่ยนชื่อตัวเองอีก

    โก  อ๋อ  มันทำหน้าเหมือนนึกอะไรออก  เราเบื่อแล้ว  ไม่โดนด้วย  เออโว้ยคนเรานึกจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน  ง่ายเนาะ

     

    แล้วทำไมถึงเอาชื่อกิงล่ะ

    มันทำหน้าเหมือนได้ถ้วยก่อนจะร่ายยาว  เราเอามาจากการ์ตูน  มีตัวการ์ตูนนึงชื่ออามากิง  โคตรเท่ห์เลยว่ะ  แต่ถ้าเอามาทั้งหมดมันไม่โดน  เลยเอามาแค่ชื่อกิง  นายว่าป่ะ  ผมทำหน้างง ๆ  เฮ้ย!  นายไม่เคยอ่านเรอะเรื่องแสบกว่านี้มีอีกมั้ย

    ไม่เคย  ผมตอบสั้น ๆ  แต่มันทำหน้าเหมือนผมเอาขี้ไปป้ายหน้ามัน  หน้าเหม็นเบื่อได้ใจ  แสบกว่านี้มีอีกมั้ยอาจไม่เคยอ่าน  แต่แสบกว่าเมิงคงไม่มี  ผมคิดในใจ

     

    ทันทีที่ตึกคณะ

    อ้าว ๆ น้องครับสายแล้วนะครับ  ไม่เห็นเหรอเพื่อนรออยู่  เสียงรุ่นพี่ที่เหี้ยมไม่เท่าหน้าร้องเรียกพวกผม

    แล้วนั่น  น้องคนนั้นถึงเป็นทอมก็ไม่ควรใส่ชุดนักศึกษาชายนะครับน้อง  ผมงงทันที มองไปรอบ ๆ ตัว  ว่าตรูนี่หว่า   ก่อนสมองจะประมวลผลตอบกลับไป  แต่ไม่ทัน...

     

    ปฐมนิเทศน์ 9 โมงเช้าไม่ใช่เหรอพี่  นี่มัน 8 โมง 50  ยังเหลืออีกตั้ง 10 นาที  พวกผมสายตรงไหนน่ะ  น้ำเสียงเปรี้ยวตรีนดีจริง ๆ  แล้วนี่เพื่อนผมเขาเป็นผู้ชายนะไม่ใช่ผู้หญิง  ดูยังไงกัน  เมิงก็ดูกรูผิดไม่ใช่เรอะ

     

    รุ่นพี่หน้าแหกเซ็งเครียดไปเลย 

    น้องครับถึงกำหนดการณ์จะบอก 9 โมงตามมารยาทก็ควรมาก่อนนะครับ  แล้วน้องคนนั้นตัวก็เล็ก ๆ ขาวๆ  หน้าก็หวาน  ปากก็แดง  พี่ก็นึกว่าเป็นทอมน่ะสิครับ  ดูยังไงก็ไม่แมน  พี่ยังเหี้ยมแล้วใช้สีข้างตัวเองเข้าแถต่อไป

     

                “~~ผึง~~”  เสียงอะไรบางอย่างขาด

     

    แน่ใจเหรอพี่ว่านั่นปาก  แล้วก็ใช่ว่าผมอยากจะเกิดมาเป็นอย่างนี้นะครับพี่  แล้วถ้านัดเวลาพอมาก่อนเวลายังว่าสาย  พี่ก็สถาปนาตัวเองเป็นนาฬิกาจับเวลาซะเลยสิครับ  แล้วปั้มตัวเองไปแจกทีละคน  เวลานัดจะได้ตรง ๆ กัน 

    อย่าลืมสิครับว่าผมเป็นพวกปากหมาแต่รักสงบ  แต่ถ้าใครมาสะกิดปมด้อยเรื่องตัวผม  ผมฉุนขาดทันที (พ่อแม่ให้มาอย่างงี้  จะให้เอาไงว๊ะ  ไม่ได้อยากหวานขนาดนี้ร๊อก) เสียงร่ำร้องในใจที่ไม่มีใครได้ยินของผม

     

    เอ๋อรับประทานกันทั้งคณะ  ไอ้หล่อกิงก็เอ๋อไปกับเค้าด้วย  ตรูก็สู้คนนะ  ตรูก็สู้คน  (เสียงร้องใส ๆ ของนิโคล เทริโอ  ที่เนื้อหาเพลงกับตัวคนร้องที่ไม่เข้ากันสักนิดดังก้องกังวานในหัวผม)

     

     

    ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา  ผมกับไอ้กิงก็ขึ้นบัญชีหนังหมาของรุ่นพี่ในคณะ โดยมีข้อพิพาทดังนี้  เปรี้ยวตรีน  ปีนเกลียวและหน้าตาดี (ผมภูมิใจกับข้อสุดท้ายมาก)   ต้องพบเจอวีรเวรวีรกรรมมากมาย  กว่าจะผ่านพ้นปี 1 ไป  ก็ได้มันคอยดูแลคอยใส่ใจอยู่ข้างกันตลอด  แล้วผมก็ต้องอยู่ห่างจากบ้านจากครอบครัว  ผมก็เลยอ่อนแอเป็นพิเศษ  ความผูกพันธ์คงเริ่มจากตรงนั้นมั้ง (เขินวุ้ย)  อาจจะงงว่าอย่างมันจะใส่ใจคนอื่นตรงไหน  เดี๋ยวก็รู้ครับ  หุหุหุ

     

     

    ผมนั่งอมยิ้มไปกับความทรงจำเก่า ๆ  แล้วผมก็หยิบการ์ตูนเรื่องแสบกว่านี้มีอีกมั้ยที่ไอ้กิงถือเป็นไบเบิ้ลในการใช้ชีวิตของมัน (อันที่จริงไม่เกี่ยวกับการ์ตูนหรอกครับ  ผมว่าสันดานมันก็เป็นแบบนั้นด้วย)

     

     

    การ์ตูนชุดเรื่องนี้เป็นของขวัญชิ้นแรกที่มันให้ผมในวันรุ่งขึ้นของการรู้จักกัน

     

    เอ้า  กรูให้  ไม่ต้องแปลกใจครับเราสนิทกันเร็วตามประสาลูกผู้ชาย  วะฮะฮ่า

    ไรว๊ะ  ผมทำหน้างงก่อนมองตั้งหนังสือการ์ตูนในมือมันร่วม 20 เล่มได้

    แสบกว่านี้มีอีกมั้ย  อามากิงไง  เมิงบอกไม่เคยอ่าน  กรูเลยซื้อให้

    เฮ้ย!  เมิงจะบ้าเหรอว๊ะ  สามัญสำนึกมันผิดมนุษย์จริง ๆ

    บ้าเอี้ยไร  การ์ตูนดี ๆ ก็ต้องแบ่งปัน  เมิงเอาไปอย่าเรื่องมาก

    หนักชิบ  ผมบ่นทันทีที่ได้แบกหนังสือตั้งใหญ่

    งั้นเอามา  กรูถือให้  มันแย่งผมไปถือทั้ง 2 มือ

    เฮ้ย!  ไม่เป็นไร  เอามาช่วยกันถือ  ผมแย่งมันคืนมาถุงนึง  ตอนแรกมันทำท่าฟึดฟัดไม่ยอมให้  แต่ก็ต้องยอม  เพราะไม่งั้นผมเขวี้ยงลงบ่อน้ำคณะแน่

     

    แกร้ง!!”  ผมถอยจักรยานตราจระเข้สีแดงสดใส  ที่บุพการีเจียดเงินซื้อให้ผมใช้สอยในมหาวิทยาลัย

    ตุบ!!”  ผมรู้สึกถึงวัตถุหนัก ๆ ตรงที่นั่งหลังคนขี่

    เฮ้ย  ทำเอี้ยไรเนี่ยะ  ไอ้กิงนั่งหน้าสลอนอยู่หลังผม 

    กรูไปนอนหอกะเมิงด้วย  กรูเอาเสื้อผ้ามาแล้ว  ว่าแล้วมันก็โชว์กระเป๋าเป้แสดงความพร้อม

    ใจคอเมิงจะไม่ถามเจ้าของห้องหน่อยเหรอว๊ะ  ผมเริ่มรู้สึกว่าไอ้นี่มันไม่ปกติมนุษย์ซะแล้ว

    ไม่  กรูถือของเพื่อนก็เหมือนของกรู  เออ  หน้าด้านจริงเมิง

     

     

    ผมปั่นจักรยานผ่านวิวทิวทัศน์ของมหาวิทยาลัยในยามค่ำ (พวกผมเข้ากิจกรรมรับน้องมาก่อนน่ะครับ  เลยกลับหอช้า)  ผ่านถนนใหญ่หน้ามหาวิทยาลัยก่อนเข้าสู่ซอยอันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเหล่าเด็กหอที่มีทั้งสถานที่อำนวยความสะดวกครบครันทั้งร้านเน็ต  ร้านถ่ายเอกสาร  ร้านอุปกรณ์เครื่องเขียน  ร้านอาหาร  ร้านเช่าหนังสือ  ร้านค้าแผงลอย  เซเว่น 11  และสถานเริงรมย์นานาชนิดเปิดแบบไม่กลัวนักศึกษาใจแตก    โดยที่มีไอ้หน้าหล่อซ้อนอยู่ข้างหลัง

     

    เมิงกลัวตื่นไม่ทันเหรอ  หรือขี้เกียจกลับบ้านดึกเลยมานอนกะกรู 

    ป่าว

    อ้าว  แล้วเมิงมาไมว๊ะ

    กรูมาเฝ้าเมิงอ่านการ์ตูน  แล้วถ้าเกิดเมิงไม่เข้าใจตรงไหน  กรูได้อธิบายเมิงไง  น้ำเสียงเรียบ ๆ เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา

    ...  พระพุทธเจ้าช่วย  เหตุผลของมันทำเอาผมหมดแรงปั่นจักรยานไปเลย  บรรทัดฐานไหนว๊ะนั่น  มานอนเฝ้าเพื่อนอ่านการ์ตูน  โอ้ย!!  ไอ้เวรเมิงแปลกไปแล้ว

     

                แล้วตลอดร่วม 2 สัปดาห์ (ผมเป็นคนอ่านหนังสือช้าครับ)  เรียนก็ต้องเรียน  น้องก็ต้องรับ  ไหนจะการบ้าน  ไหนจะซักผ้าล้างจาน  ผมยังต้องกดดันนั่งอ่านการ์ตูนโดยมีไอ้กิงส่งข้าวส่งน้ำให้  โอ้ว!!  แล้วเรื่องดูแลห้อง  ผมก็ไม่ต้องแตะเพราะไอ้กิงจัดการให้  ทั้งที่งก ๆ เงิ่น ๆ ตามประสาลูกคนรวย  ผมก็ต้องทำอีกทีตามหลังมันอยู่ดี  แล้วทันทีที่ผมอ่านจบ

     

    เป็นไงว๊ะ  เท่ห์เหมือนกรูบอกป่าว  ไอ้กิงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

    ...  ผมก็เดาว่า  ไอ้อามากิงของมันเนี่ยะ  ต้องเป็นประเภทฮีโร่  โคตรแมน  หุ่นล่ำ  หน้าหล่อ

     

    ตัวการ์ตูนเอี้ยไรเมิงเนี่ยะ  เปิดฉากมาก็ข่มขืนนางเอก  ไล่ฟัดพวกพระเอก  ก่อนจะหันไปพกดาบซามูไรขี่ชอปเปอร์ใส่รองเท้าคาวบอยสวมเสื้อจัมเปอร์  ทำร้ายคนไปทั่วเพียงเพื่อจะตามหาพี่ชายตัวเองที่พอเจอแล้วแมร่งจะฆ่าทิ้ง   แล้วไหนจะโดดจากเฮลิคอปเตอร์โดยไม่สวมชูชีพอีก  ตอนหลังก็ไม่รู้ไปตายห่าที่ไหนทิ้งให้สงสัยเล่น  สำนึกความเป็นคนมีมั่งม้ายยยย  ผมร่ายยาว  หลังจากอดทนมาเป็นอาทิตย์ 2 อาทิตย์  แล้วพบว่าไอ้ตัวการ์ตูนตัวนี้มัน....

     

    ไอ้หมาบ้ากิง  จังไรเหมือนเมิงไม่มีผิด  ด่ามันเสร็จผมก็จ้องหน้ามัน  

    ใจว่ะ  มันยิ้มรับอย่างมีความสุข

     

    แล้วผมก็สำเหนียกอีกรอบว่า  แสบกว่านี้มีอีกมั้ยไม่รู้  แต่แสบกว่าเมิงคงไม่มี   

     

    -------------------------------------------------------------------------------


    ***หมายเหตุเล็กน้อยนะคะ  สำหรับท่านผู้อ่านที่ไม่รู้จักการ์ตูนเรื่องแสบกว่านี้มีอีกมั้ย

    -แสบกว่านี้มีอีกมั้ย-  เป็นการ์ตูนผู้ชายวาดโดยอ.ฮิเดยูกิ  โยเนฮาร่า  จำนวน 21 เล่มจบ  พิมพ์โดยสำนักพิมวิบูลย์กิจ
     
    เนื้อเรื่องย่อ ๆ  เป็นประมาณเรื่อง Gangster ของนักเรียนมัธยมปลายในญี่ปุ่น  โดยคู่หู 2 คน(พระเอก)ต้องพบเจอกับทั้งอริและเหตุการณ์มากมาย  หนึ่งในนั้นคือ "อามาคุซะ กิง"  หรือ "อามากิง"  ตัวละครที่มีสเน่ห์มาก ๆ ไม่ใช่ทั้งพวกพระเอกและพวกตัวร้าย  แต่เป็นตัวสำคัญให้เรื่องดำเนินต่อไป
    --สนุกมากเลยค่ะเรื่องนี้  ถ้าใครไม่เคยอ่าน  ก็ขอแนะนำให้ลองดูนะคะ ^^

    *******เช่นเดิมค่ะ  ติชมได้ตามสะดวก********

     

    เพียงท่านสนุกเราก็ดีใจ   ฮ่า ๆ  <<อารมณ์เหมือนเร่ขายของอะไรสักอย่าง

    จะพยายามอัพให้ได้วันละตอนนะคะ 

    ขอบคุณหลายเด้อค่ะ  ที่เข้ามาอ่าน  มาชม  มาแล  มาเม้นท์กัน

    สุดท้ายนี้  @@@@@โอม~~~  จงเม้นท์  จงเม้นท์  จงเม้นท์~~~@@@@@

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×