ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic TVXQ)more than meeting. (มากกว่าเพียงพานพบ)

    ลำดับตอนที่ #5 : วันเริ่มต้น(2)

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 50




              เพียงเวลาไม่นานจากมื้อเช้าของวัน  รถตู้คันใหญ่สีขาวก็พุ่งทะยานพาพวกเขามาถึงบริษัท 

    “เห  ตรงเวลาดีนี่” ลีอินหรือป้านิ่งของดงบังชินกิกล่าวทักทายขึ้นพร้อมหน้านิ่ง ๆ สมชื่อ

    ภายในห้องประชุมของบริษัท  ในวันนี้มีเพียงผู้จัดการวงและตัวพวกเขาเท่านั้นเอง

    “นี่ตารางงาน” ลีอินส่งตารางให้แต่ละคน  ทุกคนรับและหยิบขึ้นมาอ่านรายละเอียดต่าง ๆ

    “ในช่วงปีแรกของพวกเธอ  จะเป็นการปรับพื้นฐานเพื่อเข้าสู่การเป็นนักร้องอาชีพ” ลีอินสูดลมหายใจเข้าและอธิบายเนื้องานต่ออย่างช้า ๆ

    “ทุกคนในที่นี้ได้รับคัดเลือกและฝึกพื้นฐานมา  จนบางคนก็ผ่านงานในระดับออกแสดงมาแล้ว  เราจึงต้องมาปรับพวกเธอให้มาอยู่ในจุดเดียวกัน  ต่อจากนี้ไปในทุกวัน ๆ เธอต้องฝึกร้อง ฝึกเต้น ฝึกacting  ตามตารางอย่าให้ขาด”

              พวกเขาทั้ง 5 คน  มองใบตารางงานหรือเรียกว่าตารางซ้อมในมือ ด้วยสายตาคมและมุ่งมั่นเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น  แม้จะผ่านการTraining มาแล้วเป็นปี ๆ มันก็ไม่เคยทำให้เบื่อเลยเพราะจุดมุ่งหมายมันอยู่ไม่ไกลอีกแล้ว

    “ส่วนกำหนดเดบิวต์นั้น” ทั้ง 5 คนเงยหน้าคมและหันมามองมายังต้นเสียง  ผู้จัดการวงของเขา

    ลีอินริมฝีปากยกยิ้มนิด ๆ แววตาประกายมั่นของเด็กหนุ่มสะท้อนจนเห็นความตั้งใจที่เอ่อล้นออกมา

    “ฉันและทีมโปรดิวเซอร์จะเรียกประชุมอีกครั้ง  เมื่อได้ข้อสรุป แต่…” เธอเว้นจังหวะครู่หนึ่งราวกับจะเร่งเร้าบรรยากาศให้ตื่นตัวยิ่งขึ้น “…มันไม่ธรรมดาแน่ ๆ ขอให้พวกเธอทำใจให้พร้อมกันด้วย”

    แม้ไม่มีคำตอบใด ๆ ออกมา  แค่เห็นเพียงสีหน้าก็สามารถรับรู้แล้วว่าพวกเขาพร้อมเสมอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

             ห้องซ้อมเต้นขนาดใหญ่ผนังกรุด้วยกระจกเงาบานใหญ่ทั้งส่วนหน้าห้องและหลังห้องสะท้อนทุกการเคลื่อนไหวของทุกผู้คน  พื้นปูด้วยไม้เนื้อดีขัดเป็นมันวาว  เสียงดนตรีจากเครื่องเสียงดังคลอไปกับเสียงนับจังหวะการซ้อมเต้น

    “เฮ้อ!! เหนื่อยชะมัด” ยูชอนบ่นออกมาระหว่างเวลาพัก

    “เอ้าน้ำ ดื่มสักหน่อย เดี๋ยวจะขาดน้ำตายซะก่อน” จุนซูยิ้มหน้าเป็น ๆ แล้วยื่นขวดน้ำที่แช่จนเย็นให้

    “เออ  ขอบใจมาก” ก่อนรับน้ำแล้วดื่มเข้าไปอึกใหญ่ ตามด้วยสีหน้ากวน ๆ ที่ไม่บ่งบอกว่าขอบใจสักนิด  ดูท่าจุนซูกับยูชอนจะเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดเสียแล้ว  สงสัยจะเป็นเพราะในตอนเช้าเขาเถียงแพ้เรื่องบอลกับจุนซูซะเอง  มีที่ไหนเถียงไปเถียงมาดันไปเถียงให้บอลดีกว่าบาสไม่รู้ตัว

    “ชางมินเอาน้ำหน่อยมั๊ย” จุนซูถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง

    “หา ครับ ขอบคุณครับ”

    “ดูอะไรอยู่เหรอ” ยูชอนพยักเพยิดถาม  เมื่อเห็นว่าเมื่อกี้ชางมินเหม่อ ๆ อยู่

    “อ๋า  เปล่าครับ” น้องเล็กปฏิเสธ  ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วกล่าวต่อว่า “ผมว่าในห้องนี่มันมีบรรยากาศแปลก ๆ นะพี่” พูดตามประสาคนช่างสังเกต

    “เหรอ” ทั้งสองคนเริ่มให้ความสนใจ “ไหนล่ะ”

    ชางมินหันหน้าไปทางมุมห้องซ้อมอีกมุมหนึ่ง  ซึ่งมีหัวหน้าวงของพวกเขายุนโฮกับแจจุงนั่งคุยอะไรกันสักอย่าง  แล้วอีกฝั่งของห้องก็มีผู้จัดการวงทำสีหน้าเคร่งเครียดคุยอยู่กับผู้สอนเต้น  ในมือก็จดอะไรยิก ๆ ลงสมุดบันทึก  เป็นแบบนี้ตลอดตั้งแต่พวกเขาไปฝึกvoice trainingมาแล้ว

              เมื่อถึงห้องพักภายในคอนโด

    “เฮ้อ!!  เหนื่อยสุด ๆ” ทุกคนลงความเห็นพ้องต้องกัน

    “นี่ขนาดฉันผ่านการเทรนมาแล้วนะ  นึกไม่ถึงเลยก่อนจะเดบิวต์มันจะหนักขนาดนี้” ยุนโฮเปรยออกมา

    “นั่นสิ  ไม่รู้ทางบริษัทจะส่งเราไปแข่งกีฬาโอลิมปิกรึไง” ยูชอนเห็นด้วย

    “ตารางซ้อมนี่อาจจะเอามาจากตารางเก็บตัวนักกีฬาทีมชาติก็ได้นะ  แบบนี้ฉันก็มีสิทธิได้คัดตัวเป็นนักฟุตบอลน่ะสิ” จุนซูว่าแววตามีความหวัง

    “เขาคงไม่เอานายลงหรอกมั้ง  กลัวนักกีฬาจะสับสนระหว่างหัวนายกับลูกฟุตบอลอ่ะสิ  ฮ่าฮ่า” ไม่วายที่ยูชอนจะกัดเข้าให้

    “อ๋า!!”

    “เป็นอะไรชางมิน” พี่ ๆ ถามด้วยความเป็นห่วง

    “ได้เวลาอ่านหนังสือของผมแล้ว  ผมขอตัวไปอาบน้ำอ่านหนังสือก่อนนะ” ว่าแล้วก็รีบพาร่างกายอันเหนื่อยอ่อนไปปฏิบัติภารกิจที่ยังเหลืออยู่

    “โห เด็กเรียนมากมาย น้องเรา”  ไอคนที่เหลืออยู่ยังแทบจะไม่อยากลุกไปไหนเลยด้วยความเพลีย

             แสงอาทิตย์ลดความแรงจนเลือนหายไปกับขอบฟ้าความมืดได้ย่างกรายเข้ามาจวนเจียนจะครึ่งนึงของช่วงแห่งราตรี  ความเหนื่อยอ่อนจากการซุ่มซ้อมมาทั้งวัน  ทำให้หลับทันทีที่หัวถึงหมอน  แต่ยังมีอยู่อีกคนที่ยังข่มตาหลับไม่ลงแม้จะเพลียมากแค่ไหนก็ตาม

    “อยู่นี่เองเหรอแจจุง” เสียงทุ้มนุ่มหูของยุนโฮถามขึ้นมา  พร้อมกระชับอ้อมกอดตัวเองไว้แน่นจากอากาศเย็นภายนอกของระเบียง  คืนนี้เป็นคืนเดือนมืดไร้แสงพระจันทร์ท้องฟ้าจึงมีประกายของดาวทอแสงชัดเจนอยู่ข้างบน

    “อือ  นอนไม่ค่อยหลับน่ะ”

    “นายยังกังวลกับเรื่องตอนซ้อมอีกเหรอ”

    แจจุงไม่ตอบ  กลับแสดงออกโดยการก้มหน้านิ่งแทน

    “ไม่ต้องเครียดหรอกน่า  เวลาเต้นแรก ๆ ใคร ๆ ก็พลาดได้ทั้งนั้นแหละ” แจจุงเหมือนจะสะดุ้งตัวนิดหน่อย  จริง ๆ ด้วย  วันนี้ตอนซ้อมเต้นดูแล้วแจจุงจะไม่ถนัดมากที่สุด  พลาดบ่อยจนผู้ฝึกสอนต้องเตือนแล้วยังมีสายตาของป้านิ่งมาคอยกดดันอีก  ทั้งที่ตอนอยู่ในห้องซ้อม ตัวเขาก็พยายามพูดให้หายเครียดแล้ว  คงยังเก็บมาคิดสินะ
    “เอ้า  งั้นเรามาซ้อมเต้นกันดีกว่า” ยุนโฮเสนอขึ้นมา  ได้ผล  แจจุงเงยหน้ามาแบบงง ๆ ในท่าทีของหัวหน้าวงของเขา

    “คืนที่มันมืด ๆ แบบนี้ซ้อม moonwalk ดีกว่า” ไม่พูดปล่าวยุนโฮวาดลวดลายในท่า moonwalk ตามด้วยท่าลูบเป้าอันเป็นเอกลักษณ์ของราชาเพลงป๊อปของโลก ไมเคิล แจ๊คสัน ทั้งร้องทั้งเต้นเหมือนจนต้องทึ่ง

    “อุ๊บ! พอเถอะน่ายุนโฮ ท่านี้ฉันไม่เต้นหรอกนะ ฉันไม่คิดว่ามันจะถูกบรรจุอยู่ในเพลงของเราหรอกมั้ง” แจจุงว่าพร้อมกับกลั้นขำไว้  ในท่าทางที่แสนจะมืออาชีพของยุนโฮ

    “ยิ้มสักทีนะ” ยุนโฮกล่าวด้วยสีหน้าอ่อนโยน พร้อมเอื้อมมือไปลูบศีรษะของแจจุงเบา ๆ “เห็นมั๊ยเครียดไปนายจะกลุ้มใจเองเปล่า ๆ”

    “อ๋า  นี่นายแกล้งฉันเหรอ” ไม่รู้จะพูดอะไรดีแจจุงจึงต้องแก้เขินไป  จริง ๆ แล้วตัวเขาเองไม่ชอบให้คนแปลกหน้าหรือคนที่เพิ่งรู้จักกันมาสัมผัสตัวมากนัก  แต่สำหรับเพื่อนใหม่คนนี้ดูท่าจะไม่ใช่เรื่องยาก  ในยามที่ต้องจากครอบครัวมาเมื่อเจอกับอุปสรรคแม้จะเล็กน้อย  มันก็ทำให้ท้อใจได้ไม่ยาก  เพียงในที่สุดมันคงจะผ่านพ้นไปในเมื่อมีเพื่อนที่ใจดีและอบอุ่นอยู่ข้าง ๆ กัน  แจจุงจึงไม่รู้สึกแปลกใจเลยที่ทางบริษัทเลือกยุนโฮให้เป็นหัวหน้าวง  ในเมื่อเขาดูแลคนอื่นได้ดีขนาดนี้

    “เสียงอะไรน่ะ” ยุนโฮจับสังเกตได้  เมื่อได้ยินเสียงดังประหลาด ๆ จากในครัว

    “ขโมยรึเปล่ายุนโฮ” แจจุงหวาดวิตก

    “ไม่น่าจะใช่นะ  ฉันไม่ได้ยินเสียงประตูเลยนี่” ยุนโฮทำหน้าเกร็ง ๆ “ไปดูกันดีกว่าแจจุง” แจจุงพยักหน้ารับ

    ทั้งสองคนก้าวย่างอย่างเงียบเชียบเข้าไปในครัว  ใกล้เข้าไป  ใกล้เข้าไป  จนมองเห็นแสงไฟจาง ๆ ลอดออกมาจากห้องครัว  และสิ่งมีชีวิตบางอย่าง

    “เฮ้  ไม่ยักรู้นะว่าที่นี่มีผีตู้เย็นด้วย” ผีตู้เย็นที่ว่าประมาณ 2 ตัวสะดุ้งโหยง  ก่อนหันมามองผู้พูดอย่างหวาด ๆ

    “โอ่ อึกอ่าใออี่อุนโฮอับอี่แออุงอ่ะเอง” (โธ่ นึกว่าใครพี่ยุนโฮกับพี่แจจุงน่ะเอง) ชางมินว่าแล้วกินต่อไป

    “อ้าวแล้วนั่น  เป็นอะไรไปหล่ะยูชอน” แจจุงทักด้วยความเป็นห่วง  เมื่อเห็นว่ายูชอนหน้าซีดปากซีดสติหลุดไปแล้ว

    “อยู่ ๆ มาไม่ให้ซุ้มไม่ให้เสียง  ก็ตกใจน่ะสิ” ยูชอนบ่นอุบ

    “แล้วแค่นี้นายต้องซีดขนาดนั้นเลยเรอะ  เป็นเอามากนะเนี่ยะ”

    “เออ  ยุนโฮอย่าเจอแบบฉันบ้างก็แล้วไป”

    “ถ้าจุนซูรู้คงเอามากัดนาย  มันส์พิลึก  เห็นเถียงกันได้ทั้งวัน”

    “อย่าให้รู้ก็แล้วกันน่า”

    “แล้วทำไมมากันสองคน  จุนซูไม่ออกมาด้วยเหรอ” แจจุงถามถึงคนที่ไม่ได้อยู่ด้วย

    “โอ้ย  ดีแล้วล่ะให้หลับไปเหอะ นาน ๆ หมอนั่นจะสงบปากสงบคำได้ก็ตอนนอนนี่แหละ”

    “ว่าใครเหรอยูชอน” เสียงเย็น ๆ ดังขึ้น “แล้วทำไมมีมื้อดึกแล้วไม่ชวนฉ้านน” จุนซูงอนใส่พร้อมแผดเสียงกังวาน

    “นั่นไง ว่าแล้วบอกแล้วอย่าให้ออกมาด้วย” ยูชอนส่ายหัวทำหน้าปลง ๆ

    จุนซูไม่ว่าเปล่าเดินอาด ๆ เข้ามาพร้อมหยิบขนมปังที่น่ากินที่สุดบนโต๊ะเข้าปากไปอย่างรวดเร็ว

    “หวา พี่จุนซู  อันนั้นของโผ้มมมม” น้องมินทำหน้าละห้อยไว้อาลัยสุด ๆ

    “ไม่รู้แหละ  โทษฐานที่ไม่ชวนกันดูสิออกมาทุกคนเลย  ทิ้งฉันไว้คนเดียว”


    สงครามย่อม ๆ ของผีตู้เย็นจึงเริ่มต้นขึ้นกลางดึกของค่ำคืนหนึ่ง  ขอให้พรุ่งนี้ตื่นไปทำงานให้ทันนะทุกคน


    ------------------------------------------------------------------


    สวัสดีค่ะมิตรรักนักอ่านทุกท่าน นี่เป็นการทักทายครั้งแรกเขินมิใช่น้อย^^

    ผลงานชิ้นนี้ก็เป็นผลงานทดลองน่ะค่ะ (ทดลองว่ามีคนอ่านรึเปล่า วะฮ่าฮ่า)

    แต่งโดยได้แรงบัลดาลใจจากหลายสิ่งหลายอย่าง

    ถ้าเรื่องราวมันดี เลว สนุก ไร้สาระ อยากเพิ่มหรือลด เยิ่นเย้อยืดเยื้อ ข้อดี ข้อเสียอย่างไร

    สามารถบอกได้ซัดกันมาตรง ๆ ไม่ต้องเกรงใจนะค่ะ  ผู้เขียนหน้าด้านอยู่แล้วค่า

    หนึ่งความคิดเห็นของท่าน  จะเป็นหนึ่งกำลังใจในสภา เอ้ย!! ในการเขียนของเรา

    ขอบคุณทุก ๆ คนที่แวะมาอ่านนะค่ะ 

    แล้วเจอกันใหม่ค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×