คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : วันเริ่มต้น(2)
เพียงเวลาไม่นานจากมื้อเช้าของวัน รถตู้คันใหญ่สีขาวก็พุ่งทะยานพาพวกเขามาถึงบริษัท
“เห ตรงเวลาดีนี่” ลีอินหรือป้านิ่งของดงบังชินกิกล่าวทักทายขึ้นพร้อมหน้านิ่ง ๆ สมชื่อ
ภายในห้องประชุมของบริษัท ในวันนี้มีเพียงผู้จัดการวงและตัวพวกเขาเท่านั้นเอง
“นี่ตารางงาน” ลีอินส่งตารางให้แต่ละคน ทุกคนรับและหยิบขึ้นมาอ่านรายละเอียดต่าง ๆ
“ในช่วงปีแรกของพวกเธอ จะเป็นการปรับพื้นฐานเพื่อเข้าสู่การเป็นนักร้องอาชีพ” ลีอินสูดลมหายใจเข้าและอธิบายเนื้องานต่ออย่างช้า ๆ
“ทุกคนในที่นี้ได้รับคัดเลือกและฝึกพื้นฐานมา จนบางคนก็ผ่านงานในระดับออกแสดงมาแล้ว เราจึงต้องมาปรับพวกเธอให้มาอยู่ในจุดเดียวกัน ต่อจากนี้ไปในทุกวัน ๆ เธอต้องฝึกร้อง ฝึกเต้น ฝึกacting ตามตารางอย่าให้ขาด”
พวกเขาทั้ง 5 คน มองใบตารางงานหรือเรียกว่าตารางซ้อมในมือ ด้วยสายตาคมและมุ่งมั่นเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น แม้จะผ่านการTraining มาแล้วเป็นปี ๆ มันก็ไม่เคยทำให้เบื่อเลยเพราะจุดมุ่งหมายมันอยู่ไม่ไกลอีกแล้ว
“ส่วนกำหนดเดบิวต์นั้น” ทั้ง 5 คนเงยหน้าคมและหันมามองมายังต้นเสียง ผู้จัดการวงของเขา
ลีอินริมฝีปากยกยิ้มนิด ๆ แววตาประกายมั่นของเด็กหนุ่มสะท้อนจนเห็นความตั้งใจที่เอ่อล้นออกมา
“ฉันและทีมโปรดิวเซอร์จะเรียกประชุมอีกครั้ง เมื่อได้ข้อสรุป แต่
” เธอเว้นจังหวะครู่หนึ่งราวกับจะเร่งเร้าบรรยากาศให้ตื่นตัวยิ่งขึ้น “
มันไม่ธรรมดาแน่ ๆ ขอให้พวกเธอทำใจให้พร้อมกันด้วย”
แม้ไม่มีคำตอบใด ๆ ออกมา แค่เห็นเพียงสีหน้าก็สามารถรับรู้แล้วว่าพวกเขาพร้อมเสมอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม
ห้องซ้อมเต้นขนาดใหญ่ผนังกรุด้วยกระจกเงาบานใหญ่ทั้งส่วนหน้าห้องและหลังห้องสะท้อนทุกการเคลื่อนไหวของทุกผู้คน พื้นปูด้วยไม้เนื้อดีขัดเป็นมันวาว เสียงดนตรีจากเครื่องเสียงดังคลอไปกับเสียงนับจังหวะการซ้อมเต้น
“เฮ้อ!! เหนื่อยชะมัด” ยูชอนบ่นออกมาระหว่างเวลาพัก
“เอ้าน้ำ ดื่มสักหน่อย เดี๋ยวจะขาดน้ำตายซะก่อน” จุนซูยิ้มหน้าเป็น ๆ แล้วยื่นขวดน้ำที่แช่จนเย็นให้
“เออ ขอบใจมาก” ก่อนรับน้ำแล้วดื่มเข้าไปอึกใหญ่ ตามด้วยสีหน้ากวน ๆ ที่ไม่บ่งบอกว่าขอบใจสักนิด ดูท่าจุนซูกับยูชอนจะเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดเสียแล้ว สงสัยจะเป็นเพราะในตอนเช้าเขาเถียงแพ้เรื่องบอลกับจุนซูซะเอง มีที่ไหนเถียงไปเถียงมาดันไปเถียงให้บอลดีกว่าบาสไม่รู้ตัว
“ชางมินเอาน้ำหน่อยมั๊ย” จุนซูถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
“หา ครับ ขอบคุณครับ”
“ดูอะไรอยู่เหรอ” ยูชอนพยักเพยิดถาม เมื่อเห็นว่าเมื่อกี้ชางมินเหม่อ ๆ อยู่
“อ๋า เปล่าครับ” น้องเล็กปฏิเสธ ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วกล่าวต่อว่า “ผมว่าในห้องนี่มันมีบรรยากาศแปลก ๆ นะพี่” พูดตามประสาคนช่างสังเกต
“เหรอ” ทั้งสองคนเริ่มให้ความสนใจ “ไหนล่ะ”
ชางมินหันหน้าไปทางมุมห้องซ้อมอีกมุมหนึ่ง ซึ่งมีหัวหน้าวงของพวกเขายุนโฮกับแจจุงนั่งคุยอะไรกันสักอย่าง แล้วอีกฝั่งของห้องก็มีผู้จัดการวงทำสีหน้าเคร่งเครียดคุยอยู่กับผู้สอนเต้น ในมือก็จดอะไรยิก ๆ ลงสมุดบันทึก เป็นแบบนี้ตลอดตั้งแต่พวกเขาไปฝึกvoice trainingมาแล้ว
เมื่อถึงห้องพักภายในคอนโด
“เฮ้อ!! เหนื่อยสุด ๆ” ทุกคนลงความเห็นพ้องต้องกัน
“นี่ขนาดฉันผ่านการเทรนมาแล้วนะ นึกไม่ถึงเลยก่อนจะเดบิวต์มันจะหนักขนาดนี้” ยุนโฮเปรยออกมา
“นั่นสิ ไม่รู้ทางบริษัทจะส่งเราไปแข่งกีฬาโอลิมปิกรึไง” ยูชอนเห็นด้วย
“ตารางซ้อมนี่อาจจะเอามาจากตารางเก็บตัวนักกีฬาทีมชาติก็ได้นะ แบบนี้ฉันก็มีสิทธิได้คัดตัวเป็นนักฟุตบอลน่ะสิ” จุนซูว่าแววตามีความหวัง
“เขาคงไม่เอานายลงหรอกมั้ง กลัวนักกีฬาจะสับสนระหว่างหัวนายกับลูกฟุตบอลอ่ะสิ ฮ่าฮ่า” ไม่วายที่ยูชอนจะกัดเข้าให้
“อ๋า!!”
“เป็นอะไรชางมิน” พี่ ๆ ถามด้วยความเป็นห่วง
“ได้เวลาอ่านหนังสือของผมแล้ว ผมขอตัวไปอาบน้ำอ่านหนังสือก่อนนะ” ว่าแล้วก็รีบพาร่างกายอันเหนื่อยอ่อนไปปฏิบัติภารกิจที่ยังเหลืออยู่
“โห เด็กเรียนมากมาย น้องเรา” ไอคนที่เหลืออยู่ยังแทบจะไม่อยากลุกไปไหนเลยด้วยความเพลีย
แสงอาทิตย์ลดความแรงจนเลือนหายไปกับขอบฟ้าความมืดได้ย่างกรายเข้ามาจวนเจียนจะครึ่งนึงของช่วงแห่งราตรี ความเหนื่อยอ่อนจากการซุ่มซ้อมมาทั้งวัน ทำให้หลับทันทีที่หัวถึงหมอน แต่ยังมีอยู่อีกคนที่ยังข่มตาหลับไม่ลงแม้จะเพลียมากแค่ไหนก็ตาม
“อยู่นี่เองเหรอแจจุง” เสียงทุ้มนุ่มหูของยุนโฮถามขึ้นมา พร้อมกระชับอ้อมกอดตัวเองไว้แน่นจากอากาศเย็นภายนอกของระเบียง คืนนี้เป็นคืนเดือนมืดไร้แสงพระจันทร์ท้องฟ้าจึงมีประกายของดาวทอแสงชัดเจนอยู่ข้างบน
“อือ นอนไม่ค่อยหลับน่ะ”
“นายยังกังวลกับเรื่องตอนซ้อมอีกเหรอ”
แจจุงไม่ตอบ กลับแสดงออกโดยการก้มหน้านิ่งแทน
“ไม่ต้องเครียดหรอกน่า เวลาเต้นแรก ๆ ใคร ๆ ก็พลาดได้ทั้งนั้นแหละ” แจจุงเหมือนจะสะดุ้งตัวนิดหน่อย จริง ๆ ด้วย วันนี้ตอนซ้อมเต้นดูแล้วแจจุงจะไม่ถนัดมากที่สุด พลาดบ่อยจนผู้ฝึกสอนต้องเตือนแล้วยังมีสายตาของป้านิ่งมาคอยกดดันอีก ทั้งที่ตอนอยู่ในห้องซ้อม ตัวเขาก็พยายามพูดให้หายเครียดแล้ว คงยังเก็บมาคิดสินะ
“เอ้า งั้นเรามาซ้อมเต้นกันดีกว่า” ยุนโฮเสนอขึ้นมา ได้ผล แจจุงเงยหน้ามาแบบงง ๆ ในท่าทีของหัวหน้าวงของเขา
“คืนที่มันมืด ๆ แบบนี้ซ้อม moonwalk ดีกว่า” ไม่พูดปล่าวยุนโฮวาดลวดลายในท่า moonwalk ตามด้วยท่าลูบเป้าอันเป็นเอกลักษณ์ของราชาเพลงป๊อปของโลก ไมเคิล แจ๊คสัน ทั้งร้องทั้งเต้นเหมือนจนต้องทึ่ง
“อุ๊บ! พอเถอะน่ายุนโฮ ท่านี้ฉันไม่เต้นหรอกนะ ฉันไม่คิดว่ามันจะถูกบรรจุอยู่ในเพลงของเราหรอกมั้ง” แจจุงว่าพร้อมกับกลั้นขำไว้ ในท่าทางที่แสนจะมืออาชีพของยุนโฮ
“ยิ้มสักทีนะ” ยุนโฮกล่าวด้วยสีหน้าอ่อนโยน พร้อมเอื้อมมือไปลูบศีรษะของแจจุงเบา ๆ “เห็นมั๊ยเครียดไปนายจะกลุ้มใจเองเปล่า ๆ”
“อ๋า นี่นายแกล้งฉันเหรอ” ไม่รู้จะพูดอะไรดีแจจุงจึงต้องแก้เขินไป จริง ๆ แล้วตัวเขาเองไม่ชอบให้คนแปลกหน้าหรือคนที่เพิ่งรู้จักกันมาสัมผัสตัวมากนัก แต่สำหรับเพื่อนใหม่คนนี้ดูท่าจะไม่ใช่เรื่องยาก ในยามที่ต้องจากครอบครัวมาเมื่อเจอกับอุปสรรคแม้จะเล็กน้อย มันก็ทำให้ท้อใจได้ไม่ยาก เพียงในที่สุดมันคงจะผ่านพ้นไปในเมื่อมีเพื่อนที่ใจดีและอบอุ่นอยู่ข้าง ๆ กัน แจจุงจึงไม่รู้สึกแปลกใจเลยที่ทางบริษัทเลือกยุนโฮให้เป็นหัวหน้าวง ในเมื่อเขาดูแลคนอื่นได้ดีขนาดนี้
“เสียงอะไรน่ะ” ยุนโฮจับสังเกตได้ เมื่อได้ยินเสียงดังประหลาด ๆ จากในครัว
“ขโมยรึเปล่ายุนโฮ” แจจุงหวาดวิตก
“ไม่น่าจะใช่นะ ฉันไม่ได้ยินเสียงประตูเลยนี่” ยุนโฮทำหน้าเกร็ง ๆ “ไปดูกันดีกว่าแจจุง” แจจุงพยักหน้ารับ
ทั้งสองคนก้าวย่างอย่างเงียบเชียบเข้าไปในครัว ใกล้เข้าไป ใกล้เข้าไป จนมองเห็นแสงไฟจาง ๆ ลอดออกมาจากห้องครัว และสิ่งมีชีวิตบางอย่าง
“เฮ้ ไม่ยักรู้นะว่าที่นี่มีผีตู้เย็นด้วย” ผีตู้เย็นที่ว่าประมาณ 2 ตัวสะดุ้งโหยง ก่อนหันมามองผู้พูดอย่างหวาด ๆ
“โอ่ อึกอ่าใออี่อุนโฮอับอี่แออุงอ่ะเอง” (โธ่ นึกว่าใครพี่ยุนโฮกับพี่แจจุงน่ะเอง) ชางมินว่าแล้วกินต่อไป
“อ้าวแล้วนั่น เป็นอะไรไปหล่ะยูชอน” แจจุงทักด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่ายูชอนหน้าซีดปากซีดสติหลุดไปแล้ว
“อยู่ ๆ มาไม่ให้ซุ้มไม่ให้เสียง ก็ตกใจน่ะสิ” ยูชอนบ่นอุบ
“แล้วแค่นี้นายต้องซีดขนาดนั้นเลยเรอะ เป็นเอามากนะเนี่ยะ”
“เออ ยุนโฮอย่าเจอแบบฉันบ้างก็แล้วไป”
“ถ้าจุนซูรู้คงเอามากัดนาย มันส์พิลึก เห็นเถียงกันได้ทั้งวัน”
“อย่าให้รู้ก็แล้วกันน่า”
“แล้วทำไมมากันสองคน จุนซูไม่ออกมาด้วยเหรอ” แจจุงถามถึงคนที่ไม่ได้อยู่ด้วย
“โอ้ย ดีแล้วล่ะให้หลับไปเหอะ นาน ๆ หมอนั่นจะสงบปากสงบคำได้ก็ตอนนอนนี่แหละ”
“ว่าใครเหรอยูชอน” เสียงเย็น ๆ ดังขึ้น “แล้วทำไมมีมื้อดึกแล้วไม่ชวนฉ้านน” จุนซูงอนใส่พร้อมแผดเสียงกังวาน
“นั่นไง ว่าแล้วบอกแล้วอย่าให้ออกมาด้วย” ยูชอนส่ายหัวทำหน้าปลง ๆ
จุนซูไม่ว่าเปล่าเดินอาด ๆ เข้ามาพร้อมหยิบขนมปังที่น่ากินที่สุดบนโต๊ะเข้าปากไปอย่างรวดเร็ว
“หวา พี่จุนซู อันนั้นของโผ้มมมม” น้องมินทำหน้าละห้อยไว้อาลัยสุด ๆ
“ไม่รู้แหละ โทษฐานที่ไม่ชวนกันดูสิออกมาทุกคนเลย ทิ้งฉันไว้คนเดียว”
สงครามย่อม ๆ ของผีตู้เย็นจึงเริ่มต้นขึ้นกลางดึกของค่ำคืนหนึ่ง ขอให้พรุ่งนี้ตื่นไปทำงานให้ทันนะทุกคน
------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะมิตรรักนักอ่านทุกท่าน นี่เป็นการทักทายครั้งแรกเขินมิใช่น้อย^^
ผลงานชิ้นนี้ก็เป็นผลงานทดลองน่ะค่ะ (ทดลองว่ามีคนอ่านรึเปล่า วะฮ่าฮ่า)
แต่งโดยได้แรงบัลดาลใจจากหลายสิ่งหลายอย่าง
ถ้าเรื่องราวมันดี เลว สนุก ไร้สาระ อยากเพิ่มหรือลด เยิ่นเย้อยืดเยื้อ ข้อดี ข้อเสียอย่างไร
สามารถบอกได้ซัดกันมาตรง ๆ ไม่ต้องเกรงใจนะค่ะ ผู้เขียนหน้าด้านอยู่แล้วค่า
หนึ่งความคิดเห็นของท่าน จะเป็นหนึ่งกำลังใจในสภา เอ้ย!! ในการเขียนของเรา
ขอบคุณทุก ๆ คนที่แวะมาอ่านนะค่ะ
แล้วเจอกันใหม่ค่ะ
ความคิดเห็น