คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : วันเริ่มต้น
เช้าวันใหม่ บ้านใหม่ มิตรภาพใหม่ เพื่อนใหม่ และสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังรอคอยอยู่
แสงสีทองสาดเข้าจากหน้าต่างบานใหญ่บรรยากาศรอบ ๆ ค่อย ๆ คลายความมืดลง กลายเป็นบรรยากาศยามเช้าตรู่เมื่อพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมา
แจจุงขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นนั่งบิดตัวไล่ความขี้เกียจออกจากร่างกาย ‘เหมือนเข้าค่ายเลยแฮะ’ แจจุงคิดในใจขณะหันไปมองเพื่อนร่วมวงที่กำลังหลับสนิท ห้องนอน 1 ห้อง กับเด็กหนุ่มในวัยกำลังเจริญเติบโต 5 คน แลดูจะลำบากไปนิด เมื่อคืนพวกเขาสาละวนไปกับการพูดคุยจัดเตรียมความพร้อมกับสถานที่ ๆ ซึ่งถือเป็นบ้านใหม่ของพวกเขา วุ่นวายแต่สนุก
แจจุงนิ่งเล็กน้อยก่อนตัดสินใจลุกขึ้นไปอาบน้ำ แล้วจึงออกไปยังห้องนั่งเล่น
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ” ยุนโฮยิ้มแย้มทักทายเพื่อนใหม่ของเขา
“อะ อื้ม” ด้วยความตกใจแจจุงจึงตอบไปได้แค่นั้น
“มานั่งก่อนสิ” ยุนโฮเชื้อเชิญให้มานั่งบนโซฟายาวตัวนุ่ม
“นายตื่นเช้าจังเลยนะ” แจจุงว่าพร้อมเดินไปนั่งข้าง ๆ
“อือ ฉันติดเป็นนิสัยน่ะ กะว่าพอได้เวลาสักพักจะไปปลุกคนอื่นต่อ แล้วนายล่ะตื่นซะเร็วเชียวเพิ่ง 6 โมงเองนะ”
“มันรู้สึกตื่น ๆ น่ะ ก็เลยไม่นอนแล้ว”
“เหรอ คงตื่นเต้นมั้ง แปลกที่แปลกทางก็แบบนี้แหละ” ยุนโฮพูดยิ้ม ๆ
ด้วยบทสนทนาเพียงไม่กี่ประโยค ทุกอย่างก็กลับสู่ความเงียบอีกครั้ง ไอตอนเมื่อคืนมันก็คุยกันสนุกสนานดีอยู่หรอก แต่พออยู่กัน 2 คนก็แปลก ๆ เหมือนกัน
แจจุงเหลือบมองยุนโฮแล้วพิจารณา ยุนโฮเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงเจ้าเนื้อนิด ๆ สายตาคมดูมุ่งมั่นรับกับใบหน้าหล่อเหลา แล้วก็คุยเก่งยิ้มเก่ง ผิดกับแจจุงที่ดูเหมือนเป็นคนนิ่งและเข้าถึงยาก ทั้งที่ ๆ เขาก็เป็นคนร่าเริงเพียงแต่ยิ้มยากไปหน่อยสำหรับการพบกันครั้งแรกเช่นนี้
“เอ่อ!!” ท่ามกลางความเงียบอยู่ ๆ ทั้งสองคนก็เอ่ยปากขึ้นพร้อมกัน
“หึ หึ” ยุนโฮขำออกมา “นายพูดก่อนสิ”
“เหรอ อืม นายหิวมั๊ย ฉันว่าฉันจะทำอาหารเช้าน่ะ”
“เห นายทำอาหารเป็นด้วยเหรอ” ยุนโฮทำท่าทางตกใจ
“อืม เป็นของถนัดฉันเลยล่ะ” แจจุงเชิดหน้ากล่าวภูมิใจ
“เอาสิ ๆ ทำเผื่อเจ้า 3 คนที่ยังนอนอยู่ด้วย” ยุนโฮพยักหน้าเห็นด้วย
“งั้นเดี๋ยวฉันไปดูของในครัวก่อนนะ ว่าพอทำอะไรได้บ้าง” พูดเสร็จแจจุงก็รีบเข้าไปในครัว
ระหว่างการเตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ ภายในครัว
“ขาดเหลืออะไรมั๊ย ให้ฉันช่วยนะ” ยุนโฮเดินตามเข้ามาแล้วเสนอตัวช่วยเหลือ
“อืม รู้สึกจะขาดซอสนะ” แจจุงมองบรรดาเครื่องปรุงต่าง ๆ แล้วเปรยออกมา “อันที่จริงผู้จัดการป้านิ่งเรานี่ ก็เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมเหมือนกันนะ ดูสิยุนโฮในตู้เย็นมีทั้งของสดผลไม้แล้วยังสารพัดน้ำนี่อีก ในชั้นครัวก็มีเครื่องปรุงพร้อมอุปกรณ์เพียบ อย่างนี้ไม่มีทางอดตายแน่ ๆ”
“หึ หึ”
“นายขำอะไรน่ะ”
“เปล่า ๆ ตะกี้เห็นนายนิ่ง ๆ พอเรื่องของกินนี่ร่ายยาวไม่หยุดเลย” ยุนโฮทำท่าอมยิ้ม
“เหอะน่า นี่มันอนาคตปากท้องเลยนะ” แจจุงว่าเขิน ๆ
“งั้นเดี๋ยวฉันไปซื้อเอง รู้สึกว่าข้างล่างคอนโดจะมีมินิมาร์ท 24 ชม. เปิดอยู่”
“อืม” แจจุงรับคำ
“ไปด้วยกันมั๊ย?”
“หา อืม ไปสิไปสิ อยากลงไปเดินเที่ยวอยู่เหมือนกัน”
ยุนโฮเห็นแจจุงกระตือรือร้นดังนั้นแล้ว จึงอดยิ้มตอบรับไปกับความสดใสไม่ได้ พอตอนบอกจะไปเองก็ทำหน้าละห้อยเชียว แต่ก็ไม่ยอมบอกว่าจะอยากไปด้วย พอชวนก็ทำหน้าซะร่าเริง อะไร ๆ ก็แสดงออกทางสีหน้าหมดตรงไปตรงมาจังแฮะ
ทั้งสองคนจึงออกจากห้องพักภายในคอนโดเพื่อไปจับจ่ายซื้อของ ระหว่างทางก็เต็มไปด้วยบทสนทนาระหว่างกัน ทั้งเดินคุยเดินเลือก ซอสขวดเดียวจึงใช้เวลานานกว่าที่คิด เมื่อกลับมาถึงห้องพักก็ปรากฏว่าเพื่อน ๆ ของเขาตื่นกันแล้ว
“ยังไงฉันก็ว่าฟุตบอลนี่แหละเจ๋งสุด กีฬาหยุดโลก” เสียงจุนซูดังมาแต่ไกล
“เฮ้ย ฉันว่ายังไงก็บาสเก็ตบอล เกมส์สนุกเดินเร็ว แต้มต่อแต้ม วิต่อวิ พลาดไม่ได้” ยูชอนเถียงกลับ
“ฉันก็ไม่เถียงนะว่าบาสน่ะมันสนุกจริง ๆ แต่ยังไงก็ต้องฟุตบอลนี่แหละสุด ๆ แล้ว”
“ไม่ ๆ ฟุตบอลแค่คนเยอะกว่า นักกีฬาดังกว่า สนามกว้างกว่า คนดูเยอะกว่า เงินหมุนเวียนต่อปีเยอะกว่า ไม่ได้หมายความว่ามันสุดยอดกว่า”
“ที่นายพูดมา มันฟังดูว่าฟุตบอลดีกว่าทุกอย่างเลยนะนั่นน่ะ” จุนซูทำหน้างง ๆ
“เอาน่าฉันแค่เปรียบเทียบว่ามันมหาชนกว่า แต่ยังไงบาสก็เจ๋งสุด” ยูชอนยังคงไม่ยอม
และยังตามด้วยการถกเถียงกันต่อไป บาส ๆ บอล ๆ เหมือนจะไม่จบง่าย ๆ
“เฮ้ย”
ทั้งสองคนหยุดเถียงแล้วหันมายังต้นเสียง แล้วพบยุนโฮปั้นหน้านิ่งอยู่พร้อมกับแจจุงที่ยืนมองอยู่
“แล้วนายสองคนว่าบาสกับบอลอันไหนเจ๋งกว่า” จุนซูกับยูชอนถามพร้อม ๆ กันด้วยสีหน้าจริงจัง
กรรม แทนที่จะหยุดเถียงกัน กลายเป็นถามกลับซะงั้น
“ไม่รู้เฟ้ยฉันดูแต่เปตอง(มีด้วยเรอะ)” ยุนโฮขมวดคิ้วตอบ
“แล้วชางมินไปไหนเสียหล่ะ ยังไม่ตื่นเหรอ” แจจุงถามหาน้องเล็กของวงที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
“ตะกี้ก็นั่งอยู่ด้วยกันนะ สักพักบ่นอะไรก็ไม่รู้ แล้วบอกว่าจะเข้าไปอ่านหนังสือในห้องนอน” จุนซูตอบออกไป
“ชางมินเขารำคาญพวกนายสองคนละมั้ง ตั้งกระทู้สดกันแต่เช้าเชียว” ยุนโฮเดาและท่าจะถูกต้องเสียด้วย
“แล้วนายสองคนไปไหนมา เล่นโยคะยามเช้ารึไง ออกไปตั้งแต่ไก่โห่” ยูชอนแซวเข้าให้
“ไปหาซื้ออะไรมาให้พวกคุณ ๆ ทานนะแหละครับ” ยุนโฮพูดทำเสียงล้อเลียน
“จริงเหรอ ใจดีจังแฮะสมกับเป็นหัวหน้าวง ห่วงใยเพื่อนดี อืมเอาไปเลย 10 แต้ม” จุนซูกล่าวร่าเริง
“เอาไปให้แจจุงนู่น คนนี้ต่างหากที่จะทำกับข้าวให้นายกิน”
“แจจุงทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ” ทั้งสองคนถามพร้อมกันอีกแล้ว
“อืม” แจจุงยิ้มตอบเขิน ๆ วันนี้โดนคำถามเดียวกันสองรอบเลย
“เดี๋ยวฉันกับแจจุงไปทำกับข้าวก่อนนะ พวกนายก็นั่งเถียงกันต่อไปละกัน”
“ได้” ยังจะรับคำอีก
เพียงไม่นานอาหารเช้าง่าย ๆ สไตล์ฝรั่งก็พร้อมเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ กลิ่นหอมของอาหารเช้าลอยเข้าแตะจมูกใครต่อใคร เพียงไม่ต้องเรียกทุกคนก็มากันพร้อมหน้าพร้อมตา ชางมินที่อยู่ในห้องก็ยังอุตส่าห์ใช้ประสาทสัมผัสอันว่องไวออกมาร่วมวงอาหารโดยไม่ต้องเชื้อเชิญให้เสียเวลา
“พี่ครับขอเติมอีก” ชางมินบอกออกมา แถมไม่บอกปล่าวยื่นจานแสดงเจตจำนงออกมาด้วย ทั้งไส้กรอกทั้งเบคอนทั้งไข่ดาวบรรจงถูกวางเรียงในจานของชางมินอีกรอบ
ท่ามกลางสายตางุนงงของพี่ ๆ ร่วมวง ไอ้น้องเล็กคนนี้ทั้งที่ดูผอมทำไมมันเติมไม่หยุดเลย เอาไปเก็บไว้ตรงไหนหมด
“นี่คุณน้องมินครับ ไม่ทราบว่าทาน(ยัด)เอาโล่เหรอครับ” ยูชอนอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
“วัยกำลังกินวัยกำลังนอนพี่ แค่นี้ธรรมดาสำหรับผม” ตอบเสร็จก็สวาปามไส้กรอกอีกชิ้น
“ชางมินนายกินก็เยอะแล้วทำไมไม่อ้วนหล่ะ” ยุนโฮถามไถ่ท่าทางสนใจ
“ไม่รู้สิครับ คงจะเป็นความสามารถพิเศษ”
“แจจุง ขอไส้กรอกอีกสิ” จุนซูร้องขอเพิ่มบ้าง
“เอาสิ” แจจุงตักไส้กรอกเพิ่มให้อีก ท่ามกลางบรรยากาศของการทานอาหารเช้านั่นเอง
“ตื๊ด ตื๊ด” เสียงบางอย่างก็ดังขึ้น
“อ่า เสียงโทรศัพท์ฉันเอง” ยุนโฮว่าแล้ววิ่งไปรับโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่ในห้องนั่งเล่น
“เฮ้ พวกนาย” ยุนโฮเรียกเพื่อน ๆ ในวง ทุกคนหันมามองพร้อมเพรียงกัน
“หมดเวลาสนุกแล้วสิ” ยุนโฮร้องเลียนเสียงเทเลทับบี้ พร้อมทำหน้าแหยง ๆ “ป้านิ่งโทรมาน่ะ”
“หา” เสียงอุทานดังขึ้นมา
TO BE CON.
ความคิดเห็น