ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic TVXQ)more than meeting. (มากกว่าเพียงพานพบ)

    ลำดับตอนที่ #3 : ในค่ำคืนและวันวาน

    • อัปเดตล่าสุด 21 ม.ค. 50


              ภายในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ของบริษัท  ความหรูหราอลังการสะท้อนออกมาทุกส่วนจากการตกแต่ง  โคมระย้าขนาดใหญ่กลางห้องมีประกายแสบวิบวับจากคริสตัลเนื้อดีที่ถักทอเรียงร้อยเป็นรูปทรงเถาวัลย์สวยงดงามทำหน้าที่กระจายแสงสีส้มอุ่นให้กระจายไปทั่วห้อง  กระจกใสบานใหญ่ความสูงจากพื้นจรดเพดานเผยให้เห็นวิวทิวทัศน์เบื้องหน้าของเมืองใหญ่  แสงไฟจากเบื้องล่างระยิบระยับจับตาเฉกเช่นเดียวกับท้องฟ้าเบื้องบน    

              พื้นพรมทอลายงดงามสัมผัสนุ่มเมื่อได้เหยียบย่างลงไปเตรียมทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มเปี่ยม  พร้อมรองรับผู้คนมากมายสำหรับคืนแห่งการสังสรรค์เช่นนี้   ดนตรีบรรรเลงเบา ๆ จากนักดนตรีที่บรรจงเล่นเพลงจากเครื่องสายคลอไปตลอดงาน  ชวนให้ผู้คนพลิ้วไหวไปกับท่วงทำนองที่เปล่งออกมา 

    “โอ้โห!!  ไหงมันอลังการงานสร้างอย่างนี้เนี่ยะ” จุนซูถลึงตาโตเมื่อเข้ามาถึงในงาน

    “มิน่า  ลีอินถึงบอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนชุดมาจากงานประกาศ”  ยุนโฮพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับจุนซู

    “ปาร์ตี้ ค็อกเทลซะด้วยสิ” แจจุงว่า

    “ไม่น่าเชื่อว่าบริษัทเราจะลงทุนจัดเลี้ยงซะใหญ่โตขนาดนี้  ฉันนึกว่าวันนี้จะบุฟเฟ่ต์ข้าวแกงซะอีก” ยูชอนไม่วายแอบแขวะบริษัท

    “เอาน่าพี่  นานทีปีสักหน  ลุยเลยดีกว่า” ชางมินที่เตรียมพร้อมจะไปตักสารพัดอาหารการกินแล้ว

              ภาพเด็กหนุ่มทั้ง 5 คนที่ประชุมสุมหัวกัน  เรียกให้ใครต่อใครต้องหันมามอง  ไม่ใช่เพราะอะไรเลยนอกเสียจากวันนี้พวกเขาเป็นพระเอกของงานที่กวาดเอารางวัลใหญ่มาถึง 4 รางวัล  ด้วยความมานะและพยายามอย่างยิ่งยวดทั้งจากตัวพวกเขาเองและทีมงาน  งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ดูเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับความลำบากมาทั้งปี    แล้วพวกเขาถกเถียงอะไรกันเหรอ

    “ฮ่า ๆ ไอ้ยูชอนแกร้องไห้ด้วย ฉันเห็น ๆ” ยุนโฮแซวเพื่อนร่วมวงไม่ต่างจากเด็ก ๆ แกล้งกัน

    “เออ  ไอ้ยุนแกแอบไปปาดน้ำตาให้ห้องน้ำ ฉันก็แอบเห็นเหมือนกันโว้ย” ยูชอนไม่ยอม

    “ใครว่าฉันไปปาดน้ำตา  ฉันไปฉี่ต่างหากโว้ย” ยุนโฮเอาสีข้างเข้าแถ

    “จะมีวันไหนมั๊ย  ที่ในวงเราจะไม่เถียงกัน” แจจุงเหลือบมองเพื่อนร่วมวง

    “นั่นสิ  ยุนโฮก็ไปแซวยูชอนทำไมเล่า  ตอนนั้นมันตื้นตันก็กลั้นไม่อยู่เป็นธรรมดา” จุนซูออกโรงปกป้องเพื่อนรัก(?)

    “พี่ ๆ” เสียงเรียกจากชางมินที่เงียบไปนาน  ปล่อยให้คนอายุมากกว่าเถียงกัน

    “อะไร” ทั้ง 4 คนประสานเสียงพร้อมกัน

    “ไม่ต้องถามพร้อมกันทีเดียวก็ได้ค้าบ”

    “ทำไมลีอินยังไม่มา ผมมองหาตั้งแต่ในงานประกาศผลแล้วนาก็ยังไม่เจอ  จนมาที่งานก็ไม่เห็นอีก” ชางมินพ่นคำถามทีเดียวเป็นชุด

    ไม่ทันที่พี่ ๆ ในวงจะตอบคำถาม “อ้าว  มาถึงกันแล้วเหรอ” เสียงทักทายจากหนุ่มใหญ่ชายวัยกลางคนในชุดสูทภูมิฐาน

    “สวัสดีครับ คุณลีซูมาน” ทุกคนทักพร้อมกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    “เอ้า  ยืนรออะไรกันอยู่ล่ะ  ไม่ไปตักอะไรกินกัน  วันนี้เต็มที่นะไม่ต้องเกรงใจ”

    “พวกผมไม่เกรงใจอยู่แล้วครับ  ไม่ต้องห่วง” ยุนโฮตอบแทนเพื่อนร่วมวง  เป็นคำตอบที่ทุกคนคงจะเห็นด้วยกัน 

    “พวกเราขอบคุณมากนะครับ”  ทั้ง 5 คนค้อมศีรษะลงต่ำแสดงความขอบคุณจากใจจริง

    “ฮ่า ๆ ไม่เป็นไร ๆ  เลิกซึ้งกันได้แล้ว  เก่งมากนะทุกคน” คุณลีซูมานกล่าวชมเชย

    “เอ่อ  แล้วลีอินอยู่ไหนเหรอ  ยังไม่ได้เจอในงานเลย  ทั้งที่ยัยนั่นน่าจะดีใจที่สุดนี่นา” คุณลีซูมานถามหาผู้จัดการวงของพวกเขา

    “พวกผมก็หาอยู่เหมือนกันครับ  สงสัยดีใจจัดร้องไห้ตาบวมรองพื้นปิดไม่มิดแหง  เลยยังไม่มา” ยุนโฮกล่าวติดตลก

    “เอ้อ   เอาเหอะเดี๋ยวก็คงมามั้ง  วันนี้ฉันอนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ได้นะ เป็นพิเศษเลย แต่เมาไม่ขับล่ะ” คุณลีซูมานพูดยิ้ม ๆ พร้อมขยิบตาให้อย่างรู้ทัน

    “ขอบคุณครับ” ^^ น้ำเสียงดีใจปิดไม่มิดของทั้ง 4 คน  ชางมินยังอายุไม่ถึงเลยพลาดไป

              ในเวลาไม่นานผู้คนมากหน้าหลายตาในชุดสวยสง่าทั้งหญิงและชาย  ได้เข้ามาทักทายแสดงความยินดีกับพวกเขาทั้งเพื่อนพี่น้องศิลปิน  และทีมงานฝ่ายต่าง ๆ ที่ร่วมทำงานกันมา  บรรยากาศของงานยังคงครื้นเครงเหมือนว่ายิ่งดึกเท่าไหร่งานเลี้ยงจะสนุกมากขึ้นเท่านั้น  คืนแห่งความสำเร็จยังคงดำเนินต่อไป…

    -------------------------------------------------------------------------

              ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ปีที่บริษัทเพลง SM มีโปรเจคยักษ์หมายมั่นจะปั้นบอยแบนด์ที่มีความสามารถทุกด้านทั้งร้องและเต้น  ประกอบไปด้วยคุณสมบัติและรูปสมบัติที่ครบครัน  เด็กหนุ่มที่มีความฝันมากหน้าหลายตาต่างรอคอยเฝ้าหวังและต่อสู้เพื่อให้ผ่านการออดิชั่นไปเป็นศิลปินอย่างที่ตั้งใจ  จนวันนี้วันที่เด็กหนุ่มทั้ง 5 คนจะมารวมตัวกันเพื่อให้ถึงฝันนั้น


    ภายในห้องประชุมของบริษัท  บรรยากาศประหม่าระคนเคร่งเครียดลอยวนเวียนอยู่  ทำให้ผู้มาใหม่ทั้ง 5 คนนั่งนิ่งชวนไมเกรนขึ้น

    “สวัสดี  ฉันชื่อ  ฮัน ลีอิน เรียกว่าลีอินก็แล้วกัน เป็นผู้จัดการของพวกเธอเราจะร่วมงานกันตั้งแต่วันนี้  ขอความร่วมมือจากทุกคนด้วย”  หญิงสาวในชุดทะมัดทะแมง  ดวงหน้ายาวรีได้รูปรับกับแววตาเด็ดเดี่ยวกล่าวแนะนำตัว ปราศจากรอยยิ้ม

    “ส่วนฉัน ลีซูมาน เป็นผู้จัดการฝ่ายศิลปินของบริษัท” หนุ่มใหญ่ท่าทางภูมิฐานพูดขึ้นมาบ้าง

    หลังจากการแนะนำตัวของคนในห้องทั้ง 2 คน  ไม่ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นเลย

    “เอ่อ!  ผมจุง ยุนโฮครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” เสียงของเด็กหนุ่มกล้าตายกล่าวขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนให้ขาดอากาศหายใจเล่น

    “ไม่ต้องเครียดกันขนาดนั้นหรอก  ดูสินั่งตัวแข็งเชียวแต่ละคน” คุณลีซูมานยิ้มไปกับความอ่อนเดียงสาของเด็กหนุ่ม

    “เฮ้อ !! “ เสียงทอดถอนหายใจของทั้ง 5 คน

    “ผมคิม แจจุงครับเรียกแจจุงก็ได้” พร้อมรอยยิ้มกว้างรับกับใบหน้าหวาน  ความหนาแน่นสัมพัทธ์ในอากาศลดลง 50%

    “ส่วนผมปาร์ค  ยูชอนเรียกมิคกี้ก็ได้ครับ” เด็กหนุ่มท่าทางมาดมั่นกล่าวทักทาย

    “ผมคิม  จุนซูครับเรียกอะไรก็ได้ครับ” กล่าวเสร็จก็รีบก้มหน้ายิ้มอาย ๆ ทิ้งให้คนในห้องนั่งอมยิ้มไปกับความน่ารัก  ความหนาแน่นสัมพัทธ์ในอากาศเหลือ 0

    เหลือคนสุดท้ายในห้องที่ดูท่าจะคายคำพูดออกมาจากปากยากสุด  ด้วยวัยวุฒิที่เด็กสุดในห้อง

    “ผมชิม ชางมิ้นครับ” ด้วยความตื่นเต้นจึงแนะนำชื่อตัวเองผิดอย่างไม่น่าให้อภัย  ไวเท่ารู้ตัว

    “เอ้ย!  ไม่ใช่ครับชางมินครับ ผมชื่อชิม ชางมินครับ” ตามด้วยรอยยิ้มแหย ๆ  ความหนาแน่นติดลบ บรรยากาศในห้องสดใสขึ้นมาทันใด  ท่ามกลางความอดกลั้นในความขำของแต่ละคน

    “หึ” เสียงขึ้นจมูกมีทีท่าล้อเลียนดังขึ้นเบา ๆ

    “ขนาดชื่อตัวเองยังเรียกผิดเลย จะเอาความอะไรได้มั๊ยเนี่ยะ งั้นฉันขอเรียกเธอชางมิ้นละกันนะ  ฟังดูตลกเข้ากับหน้าพิลึก” พร้อมรอยยิ้มเหยียด ๆ ของลีอิน ความหนาแน่นสัมพัทธ์ในอากาศกลับมาเต็ม 100 อีกครั้ง

    ชางมินก้มหน้างุดด้วยความรู้สึกแย่สุด ๆ  พาลทำให้อีก 4 คนรู้สึกไม่ดีตามไปด้วย

    “เอาน่า ๆ ครั้งแรกก็อย่างนี้แหละ” คุณลีซูมานพูดเปื้อนยิ้มหวังสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้น

    “พวกเธอทุกคนคงรู้แล้วนะ  ว่าพวกเธอเป็นเด็กหนุ่ม 5 คนที่ผ่านการออดิชั่น  และได้รับคัดเลือกให้เป็นวงบอยแบนด์ของบริษัท  จากนี้เราทุกคนจะทำงานร่วมกัน  พวกเธอทั้ง 5 คนต้องมาพักอาศัยอยู่ด้วยกัน  เพื่อความสะดวกตามที่แจ้งไว้แล้ว  วันนี้เอากระเป๋าเครื่องใช้มาครบทุกคนนะ”

    “ครับ” เด็กหนุ่มทั้ง 5 คนตอบรับ

    “ดีมาก” คุณลีซูมานกล่าวต่อ “ลีอินจะเป็นคนดูแลพวกเธอทุกอย่าง  ทั้งตารางงานและเรื่องส่วนตัว  มีปัญหาอะไรก็ให้ปรึกษาผ่านเขามา”

    ‘ไม่เป็นยัยป้าหน้านิ่งนี่ไม่ได้เหรอ จะกล้าปรึกษามั๊ยเนี่ยะ’  ทั้ง 5 คนคิดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

    ลีอินหยิบถุงกระดาษที่บรรจุกล่องอะไรสักอย่างอยู่ข้างในมา 5 ถุง  แล้วโยนแจกให้ทั้ง 5 คน ทุกคนรับมาไว้ในมือด้วยความสงสัย  ให้อะไรเราฟร่ะ

    “นี่เป็นของขวัญชิ้นแรกจากบริษัท” ลีอินเฉลย  ทั้ง 5 คนยิ้มออกมา

    “เป็นโทรศัพท์มือถือไว้ติดต่อเรื่องงานอย่างเดียวเท่านั้น  ห้ามใช้เรื่องส่วนตัว  แต่ถ้าจะใช้ก็เก็บเงินซื้อเองก็แล้วกัน” พลันหุบยิ้มลงทันที  ไม่ต่างกับได้กับระเบิดมาไว้ในมือเลยนะเนี่ยะ

    “ในนั้นฉันเมมเบอร์ติดต่อฉันไว้แล้ว  กดเลข 1 แล้วโทรออกได้เลย ฉันจะรับทันที” เป็นตายร้ายดีก็จะไม่กดเลข 1 ทุกคนตั้งมั่นไว้ในใจ

    “และอย่างสุดท้าย” ลีอินเว้นวรรคนิดนึงก่อนจะกล่าวประโยคสุดท้าย “อย่าสร้างปัญหา ฉันไม่เอาไว้แน่” ปรายตาคมมองหน้าว่าที่วงบอยแบนด์หน้าใหม่ทีละคน  ส่วนคนถูกมองกลืนน้ำลายดังเอื้อก


    ทันทีที่ถึงคอนโดที่พัก  และปิดประตูเรียบร้อยแล้ว


    “โธ่โว้ย  ยัยป้านั่นนึกว่าตัวเองเป็นใครฟร่ะ  สั่งเอา ๆ เป็นผู้จัดการวงหรือเป็นครูฝ่ายปกครองกันแน่  ขนาดแม่ฉันยังไม่โหดขนาดนั้นเลย” ยูชอนบ่นยาว  ลมออกหู

    “นั่นสิ  เห็นหน้าเขามั๊ย มุมปากไม่มีกระดิกเลย  นึกว่าเสียงออกมาจากท้องเสียอีก” จุนซูตอบรับเห็นด้วย พร้อมความคิดเห็นเพิ่มเติม

    “ป้านั่นจะมาเป็นผู้จัดการวงเราจริง ๆ เหรอ  ไม่ไหว ๆ มีหวังเป็นนิ่วแน่” หัวหน้าวงคนใหม่ยุนโฮ  พูดพร้อมทำท่าสยอง

    “ไม่ขนาดนั้นหรอก  ดูเขาก็ไม่แก่ขนาดนั้นนะ  ถึงขนาดเรียกป้าเลยเหรอ” แจจุงแสดงความคิดเห็นขวางโลกขึ้นมาแล้วพูดต่อ “ฉันว่าเรียกยายไปเลยก็ได้นะ  แถวบ้านฉันมียายอยู่คนดุอย่างนี้เลย”

    “ฮ่า ฮ่า  เห็นนิ่ง ๆ ที่จริงร้ายนะนายเนี่ยะ” ยุนโฮหัวเราะแล้วหันหน้าไปยิ้มให้กับความร้ายลึกของแจจุง

    “พวกพี่ ๆ ยังไม่เท่าไหร่” ชางมินตัดพ้อ “ผมนี่สิ  มาวันแรกก็โดนเปลี่ยนชื่อแล้วอ่ะ  เรียกอยู่ได้ชางมิ้น ๆ ไม่ได้ตั้งใจพูดผิดซะหน่อย”  แล้วบ่นอุบอิบพึมพำต่อไป

    “ผมก็จะไม่เรียกเขาลีอินเหมือนกัน”

    “แล้วนายจะเรียกเขาว่าอะไร” ยูชอนถาม  อีก 3 คนรอฟังคำตอบ

    “เหอ ๆ” หัวเราะแบบแอบจิตนิดหน่อยก่อนจะพูดออกมา “ป้านิ่ง  ชื่อนี่เป็นไงเจ๋งมั๊ยพี่”

    ทั้ง 4 คนพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมปล่อยก๊ากออกมา  แค่วันแรกก็ดูท่าจะสนิทกันเสียแล้วสำหรับว่าที่วงบอยแบนด์ชื่อดัง  ด้วยหัวข้อสนทนานินทาผู้จัดการวงตัวเอง(กรรม)

    TO BE CON.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×