คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ในค่ำคืนและวันวาน
ภายในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ของบริษัท ความหรูหราอลังการสะท้อนออกมาทุกส่วนจากการตกแต่ง โคมระย้าขนาดใหญ่กลางห้องมีประกายแสบวิบวับจากคริสตัลเนื้อดีที่ถักทอเรียงร้อยเป็นรูปทรงเถาวัลย์สวยงดงามทำหน้าที่กระจายแสงสีส้มอุ่นให้กระจายไปทั่วห้อง กระจกใสบานใหญ่ความสูงจากพื้นจรดเพดานเผยให้เห็นวิวทิวทัศน์เบื้องหน้าของเมืองใหญ่ แสงไฟจากเบื้องล่างระยิบระยับจับตาเฉกเช่นเดียวกับท้องฟ้าเบื้องบน
พื้นพรมทอลายงดงามสัมผัสนุ่มเมื่อได้เหยียบย่างลงไปเตรียมทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมรองรับผู้คนมากมายสำหรับคืนแห่งการสังสรรค์เช่นนี้ ดนตรีบรรรเลงเบา ๆ จากนักดนตรีที่บรรจงเล่นเพลงจากเครื่องสายคลอไปตลอดงาน ชวนให้ผู้คนพลิ้วไหวไปกับท่วงทำนองที่เปล่งออกมา
“โอ้โห!! ไหงมันอลังการงานสร้างอย่างนี้เนี่ยะ” จุนซูถลึงตาโตเมื่อเข้ามาถึงในงาน
“มิน่า ลีอินถึงบอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนชุดมาจากงานประกาศ” ยุนโฮพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับจุนซู
“ปาร์ตี้ ค็อกเทลซะด้วยสิ” แจจุงว่า
“ไม่น่าเชื่อว่าบริษัทเราจะลงทุนจัดเลี้ยงซะใหญ่โตขนาดนี้ ฉันนึกว่าวันนี้จะบุฟเฟ่ต์ข้าวแกงซะอีก” ยูชอนไม่วายแอบแขวะบริษัท
“เอาน่าพี่ นานทีปีสักหน ลุยเลยดีกว่า” ชางมินที่เตรียมพร้อมจะไปตักสารพัดอาหารการกินแล้ว
ภาพเด็กหนุ่มทั้ง 5 คนที่ประชุมสุมหัวกัน เรียกให้ใครต่อใครต้องหันมามอง ไม่ใช่เพราะอะไรเลยนอกเสียจากวันนี้พวกเขาเป็นพระเอกของงานที่กวาดเอารางวัลใหญ่มาถึง 4 รางวัล ด้วยความมานะและพยายามอย่างยิ่งยวดทั้งจากตัวพวกเขาเองและทีมงาน งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ดูเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับความลำบากมาทั้งปี แล้วพวกเขาถกเถียงอะไรกันเหรอ
“ฮ่า ๆ ไอ้ยูชอนแกร้องไห้ด้วย ฉันเห็น ๆ” ยุนโฮแซวเพื่อนร่วมวงไม่ต่างจากเด็ก ๆ แกล้งกัน
“เออ ไอ้ยุนแกแอบไปปาดน้ำตาให้ห้องน้ำ ฉันก็แอบเห็นเหมือนกันโว้ย” ยูชอนไม่ยอม
“ใครว่าฉันไปปาดน้ำตา ฉันไปฉี่ต่างหากโว้ย” ยุนโฮเอาสีข้างเข้าแถ
“จะมีวันไหนมั๊ย ที่ในวงเราจะไม่เถียงกัน” แจจุงเหลือบมองเพื่อนร่วมวง
“นั่นสิ ยุนโฮก็ไปแซวยูชอนทำไมเล่า ตอนนั้นมันตื้นตันก็กลั้นไม่อยู่เป็นธรรมดา” จุนซูออกโรงปกป้องเพื่อนรัก(?)
“พี่ ๆ” เสียงเรียกจากชางมินที่เงียบไปนาน ปล่อยให้คนอายุมากกว่าเถียงกัน
“อะไร” ทั้ง 4 คนประสานเสียงพร้อมกัน
“ไม่ต้องถามพร้อมกันทีเดียวก็ได้ค้าบ”
“ทำไมลีอินยังไม่มา ผมมองหาตั้งแต่ในงานประกาศผลแล้วนาก็ยังไม่เจอ จนมาที่งานก็ไม่เห็นอีก” ชางมินพ่นคำถามทีเดียวเป็นชุด
ไม่ทันที่พี่ ๆ ในวงจะตอบคำถาม “อ้าว มาถึงกันแล้วเหรอ” เสียงทักทายจากหนุ่มใหญ่ชายวัยกลางคนในชุดสูทภูมิฐาน
“สวัสดีครับ คุณลีซูมาน” ทุกคนทักพร้อมกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เอ้า ยืนรออะไรกันอยู่ล่ะ ไม่ไปตักอะไรกินกัน วันนี้เต็มที่นะไม่ต้องเกรงใจ”
“พวกผมไม่เกรงใจอยู่แล้วครับ ไม่ต้องห่วง” ยุนโฮตอบแทนเพื่อนร่วมวง เป็นคำตอบที่ทุกคนคงจะเห็นด้วยกัน
“พวกเราขอบคุณมากนะครับ” ทั้ง 5 คนค้อมศีรษะลงต่ำแสดงความขอบคุณจากใจจริง
“ฮ่า ๆ ไม่เป็นไร ๆ เลิกซึ้งกันได้แล้ว เก่งมากนะทุกคน” คุณลีซูมานกล่าวชมเชย
“เอ่อ แล้วลีอินอยู่ไหนเหรอ ยังไม่ได้เจอในงานเลย ทั้งที่ยัยนั่นน่าจะดีใจที่สุดนี่นา” คุณลีซูมานถามหาผู้จัดการวงของพวกเขา
“พวกผมก็หาอยู่เหมือนกันครับ สงสัยดีใจจัดร้องไห้ตาบวมรองพื้นปิดไม่มิดแหง เลยยังไม่มา” ยุนโฮกล่าวติดตลก
“เอ้อ เอาเหอะเดี๋ยวก็คงมามั้ง วันนี้ฉันอนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ได้นะ เป็นพิเศษเลย แต่เมาไม่ขับล่ะ” คุณลีซูมานพูดยิ้ม ๆ พร้อมขยิบตาให้อย่างรู้ทัน
“ขอบคุณครับ” ^^ น้ำเสียงดีใจปิดไม่มิดของทั้ง 4 คน ชางมินยังอายุไม่ถึงเลยพลาดไป
ในเวลาไม่นานผู้คนมากหน้าหลายตาในชุดสวยสง่าทั้งหญิงและชาย ได้เข้ามาทักทายแสดงความยินดีกับพวกเขาทั้งเพื่อนพี่น้องศิลปิน และทีมงานฝ่ายต่าง ๆ ที่ร่วมทำงานกันมา บรรยากาศของงานยังคงครื้นเครงเหมือนว่ายิ่งดึกเท่าไหร่งานเลี้ยงจะสนุกมากขึ้นเท่านั้น คืนแห่งความสำเร็จยังคงดำเนินต่อไป
-------------------------------------------------------------------------
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ปีที่บริษัทเพลง SM มีโปรเจคยักษ์หมายมั่นจะปั้นบอยแบนด์ที่มีความสามารถทุกด้านทั้งร้องและเต้น ประกอบไปด้วยคุณสมบัติและรูปสมบัติที่ครบครัน เด็กหนุ่มที่มีความฝันมากหน้าหลายตาต่างรอคอยเฝ้าหวังและต่อสู้เพื่อให้ผ่านการออดิชั่นไปเป็นศิลปินอย่างที่ตั้งใจ จนวันนี้วันที่เด็กหนุ่มทั้ง 5 คนจะมารวมตัวกันเพื่อให้ถึงฝันนั้น
ภายในห้องประชุมของบริษัท บรรยากาศประหม่าระคนเคร่งเครียดลอยวนเวียนอยู่ ทำให้ผู้มาใหม่ทั้ง 5 คนนั่งนิ่งชวนไมเกรนขึ้น
“สวัสดี ฉันชื่อ ฮัน ลีอิน เรียกว่าลีอินก็แล้วกัน เป็นผู้จัดการของพวกเธอเราจะร่วมงานกันตั้งแต่วันนี้ ขอความร่วมมือจากทุกคนด้วย” หญิงสาวในชุดทะมัดทะแมง ดวงหน้ายาวรีได้รูปรับกับแววตาเด็ดเดี่ยวกล่าวแนะนำตัว ปราศจากรอยยิ้ม
“ส่วนฉัน ลีซูมาน เป็นผู้จัดการฝ่ายศิลปินของบริษัท” หนุ่มใหญ่ท่าทางภูมิฐานพูดขึ้นมาบ้าง
หลังจากการแนะนำตัวของคนในห้องทั้ง 2 คน ไม่ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นเลย
“เอ่อ! ผมจุง ยุนโฮครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” เสียงของเด็กหนุ่มกล้าตายกล่าวขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนให้ขาดอากาศหายใจเล่น
“ไม่ต้องเครียดกันขนาดนั้นหรอก ดูสินั่งตัวแข็งเชียวแต่ละคน” คุณลีซูมานยิ้มไปกับความอ่อนเดียงสาของเด็กหนุ่ม
“เฮ้อ !! “ เสียงทอดถอนหายใจของทั้ง 5 คน
“ผมคิม แจจุงครับเรียกแจจุงก็ได้” พร้อมรอยยิ้มกว้างรับกับใบหน้าหวาน ความหนาแน่นสัมพัทธ์ในอากาศลดลง 50%
“ส่วนผมปาร์ค ยูชอนเรียกมิคกี้ก็ได้ครับ” เด็กหนุ่มท่าทางมาดมั่นกล่าวทักทาย
“ผมคิม จุนซูครับเรียกอะไรก็ได้ครับ” กล่าวเสร็จก็รีบก้มหน้ายิ้มอาย ๆ ทิ้งให้คนในห้องนั่งอมยิ้มไปกับความน่ารัก ความหนาแน่นสัมพัทธ์ในอากาศเหลือ 0
เหลือคนสุดท้ายในห้องที่ดูท่าจะคายคำพูดออกมาจากปากยากสุด ด้วยวัยวุฒิที่เด็กสุดในห้อง
“ผมชิม ชางมิ้นครับ” ด้วยความตื่นเต้นจึงแนะนำชื่อตัวเองผิดอย่างไม่น่าให้อภัย ไวเท่ารู้ตัว
“เอ้ย! ไม่ใช่ครับชางมินครับ ผมชื่อชิม ชางมินครับ” ตามด้วยรอยยิ้มแหย ๆ ความหนาแน่นติดลบ บรรยากาศในห้องสดใสขึ้นมาทันใด ท่ามกลางความอดกลั้นในความขำของแต่ละคน
“หึ” เสียงขึ้นจมูกมีทีท่าล้อเลียนดังขึ้นเบา ๆ
“ขนาดชื่อตัวเองยังเรียกผิดเลย จะเอาความอะไรได้มั๊ยเนี่ยะ งั้นฉันขอเรียกเธอชางมิ้นละกันนะ ฟังดูตลกเข้ากับหน้าพิลึก” พร้อมรอยยิ้มเหยียด ๆ ของลีอิน ความหนาแน่นสัมพัทธ์ในอากาศกลับมาเต็ม 100 อีกครั้ง
ชางมินก้มหน้างุดด้วยความรู้สึกแย่สุด ๆ พาลทำให้อีก 4 คนรู้สึกไม่ดีตามไปด้วย
“เอาน่า ๆ ครั้งแรกก็อย่างนี้แหละ” คุณลีซูมานพูดเปื้อนยิ้มหวังสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้น
“พวกเธอทุกคนคงรู้แล้วนะ ว่าพวกเธอเป็นเด็กหนุ่ม 5 คนที่ผ่านการออดิชั่น และได้รับคัดเลือกให้เป็นวงบอยแบนด์ของบริษัท จากนี้เราทุกคนจะทำงานร่วมกัน พวกเธอทั้ง 5 คนต้องมาพักอาศัยอยู่ด้วยกัน เพื่อความสะดวกตามที่แจ้งไว้แล้ว วันนี้เอากระเป๋าเครื่องใช้มาครบทุกคนนะ”
“ครับ” เด็กหนุ่มทั้ง 5 คนตอบรับ
“ดีมาก” คุณลีซูมานกล่าวต่อ “ลีอินจะเป็นคนดูแลพวกเธอทุกอย่าง ทั้งตารางงานและเรื่องส่วนตัว มีปัญหาอะไรก็ให้ปรึกษาผ่านเขามา”
‘ไม่เป็นยัยป้าหน้านิ่งนี่ไม่ได้เหรอ จะกล้าปรึกษามั๊ยเนี่ยะ’ ทั้ง 5 คนคิดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ลีอินหยิบถุงกระดาษที่บรรจุกล่องอะไรสักอย่างอยู่ข้างในมา 5 ถุง แล้วโยนแจกให้ทั้ง 5 คน ทุกคนรับมาไว้ในมือด้วยความสงสัย ให้อะไรเราฟร่ะ
“นี่เป็นของขวัญชิ้นแรกจากบริษัท” ลีอินเฉลย ทั้ง 5 คนยิ้มออกมา
“เป็นโทรศัพท์มือถือไว้ติดต่อเรื่องงานอย่างเดียวเท่านั้น ห้ามใช้เรื่องส่วนตัว แต่ถ้าจะใช้ก็เก็บเงินซื้อเองก็แล้วกัน” พลันหุบยิ้มลงทันที ไม่ต่างกับได้กับระเบิดมาไว้ในมือเลยนะเนี่ยะ
“ในนั้นฉันเมมเบอร์ติดต่อฉันไว้แล้ว กดเลข 1 แล้วโทรออกได้เลย ฉันจะรับทันที” เป็นตายร้ายดีก็จะไม่กดเลข 1 ทุกคนตั้งมั่นไว้ในใจ
“และอย่างสุดท้าย” ลีอินเว้นวรรคนิดนึงก่อนจะกล่าวประโยคสุดท้าย “อย่าสร้างปัญหา ฉันไม่เอาไว้แน่” ปรายตาคมมองหน้าว่าที่วงบอยแบนด์หน้าใหม่ทีละคน ส่วนคนถูกมองกลืนน้ำลายดังเอื้อก
ทันทีที่ถึงคอนโดที่พัก และปิดประตูเรียบร้อยแล้ว
“โธ่โว้ย ยัยป้านั่นนึกว่าตัวเองเป็นใครฟร่ะ สั่งเอา ๆ เป็นผู้จัดการวงหรือเป็นครูฝ่ายปกครองกันแน่ ขนาดแม่ฉันยังไม่โหดขนาดนั้นเลย” ยูชอนบ่นยาว ลมออกหู
“นั่นสิ เห็นหน้าเขามั๊ย มุมปากไม่มีกระดิกเลย นึกว่าเสียงออกมาจากท้องเสียอีก” จุนซูตอบรับเห็นด้วย พร้อมความคิดเห็นเพิ่มเติม
“ป้านั่นจะมาเป็นผู้จัดการวงเราจริง ๆ เหรอ ไม่ไหว ๆ มีหวังเป็นนิ่วแน่” หัวหน้าวงคนใหม่ยุนโฮ พูดพร้อมทำท่าสยอง
“ไม่ขนาดนั้นหรอก ดูเขาก็ไม่แก่ขนาดนั้นนะ ถึงขนาดเรียกป้าเลยเหรอ” แจจุงแสดงความคิดเห็นขวางโลกขึ้นมาแล้วพูดต่อ “ฉันว่าเรียกยายไปเลยก็ได้นะ แถวบ้านฉันมียายอยู่คนดุอย่างนี้เลย”
“ฮ่า ฮ่า เห็นนิ่ง ๆ ที่จริงร้ายนะนายเนี่ยะ” ยุนโฮหัวเราะแล้วหันหน้าไปยิ้มให้กับความร้ายลึกของแจจุง
“พวกพี่ ๆ ยังไม่เท่าไหร่” ชางมินตัดพ้อ “ผมนี่สิ มาวันแรกก็โดนเปลี่ยนชื่อแล้วอ่ะ เรียกอยู่ได้ชางมิ้น ๆ ไม่ได้ตั้งใจพูดผิดซะหน่อย” แล้วบ่นอุบอิบพึมพำต่อไป
“ผมก็จะไม่เรียกเขาลีอินเหมือนกัน”
“แล้วนายจะเรียกเขาว่าอะไร” ยูชอนถาม อีก 3 คนรอฟังคำตอบ
“เหอ ๆ” หัวเราะแบบแอบจิตนิดหน่อยก่อนจะพูดออกมา “ป้านิ่ง ชื่อนี่เป็นไงเจ๋งมั๊ยพี่”
ทั้ง 4 คนพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมปล่อยก๊ากออกมา แค่วันแรกก็ดูท่าจะสนิทกันเสียแล้วสำหรับว่าที่วงบอยแบนด์ชื่อดัง ด้วยหัวข้อสนทนานินทาผู้จัดการวงตัวเอง(กรรม)
TO BE CON.
ความคิดเห็น