คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : วันนี้(2) 100%
ฮอลล์ขนาดใหญ่จุคนได้นับเป็นพันคนถูกตกแต่งไว้ต้อนรับงานสำคัญตั้งแต่โถงทางเข้างาน ตามทางเดินประดับประดาไปด้วยภาพโปสเตอร์งานและดอกไม้ที่จัดตกแต่งมาอย่างดี บ่งบอกให้รู้ว่าในวันนี้สถานที่แห่งนี้จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น สเตทหน้ากว้างพร้อมจอมอนิเตอร์ขนาดยักษ์เสียงดังกระหึ่มจากลำโพงหลายตัวรายรอบฮอลล์ สร้างบรรยากาศให้ตื่นเต้นระคนตื่นตระหนกได้อย่างไม่ยากสำหรับผู้เข้าร่วมงานและผู้เข้าชิงรางวัลสาขาต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นพระเอกนางเอกของงานในคืนนี้ทีเดียว
ทันทีที่รถลีมูซีนคันหรูเข้าเทียบจอดบริเวณทางเข้างาน พรมแดงผืนใหญ่ปูเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้วสำหรับดาวเด่นของงานในค่ำคืนนี้ พรมกำมะหยี่เนื้อดีสีแดงสดทอดยาวราวกลับจะไปถึงขอบฟ้า เชื้อเชิญให้ผู้คนมากมายลองย่ำเหยียบไปบนผืนผ้านุ่ม แต่จะมีสักกี่คนที่มีโอกาส
เสียงชัตเตอร์กดระรัวทันทีพร้อมแสงไฟสว่างวาบแสบตา เมื่อพวกเค้าทั้ง 5 คนเยื้อย่างเข้ามาในงาน ขาก้าวกระชับด้วยสีหน้าและท่าทางที่มาดมั่น ก่อนส่งยิ้มแย้มรับจำนวนนักข่าวจำนวนมหาศาลที่รอทำข่าว เด็กหนุ่มทั้ง 5 คนในชุดสูทเนื้อผ้าดีในวันนี้ราวกลับจะส่องแสงได้ ยิ่งต้องก้าวย่างไปบนพรมสีแดงสดที่ตัดกับสีเข้มของชุดเหนืออื่นใดใบหน้าคมคายของพวกเขาที่เชิดยิ้มสวยสะท้อนแสงแฟลช จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหยุดสายตาของใครต่อใครได้
"ฉันว่าในฮอลล์นี่ก็เปิดแอร์แรงนะ เย็นชะมัด แต่ทำไมในมือมีเหงื่อออกได้ล่ะเนี่ยะ" เสียงยูชอนบ่นออกมาทันทีที่ถึงที่นั่งภายในฮอลล์
"สงสัยพี่คงตื่นเต้นล่ะมั้ง นี่ก็ไม่ใช่งานประกาศรางวัลครั้งแรกของพวกเรานะพี่ ไม่มืออาชีพเอาซะเลย" ชางมินแซวเข้าให้ พร้อมทำท่าแบมือออกทั้งสองข้างแบบนี่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา
"นายคงมีสติแย่สินะคุณน้องชางมิน เห็นขาสั่นไม่หยุดตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว แบบควบคุมข้างบนได้แต่ข้างล่างไม่ยอมฟังสินะ" แจจุงว่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเอ็นดูน้องเล็กที่อุตส่าห์โชว์พาว แต่ปิดไม่มิดซะนี่
"แจจุง แจจุง" เสียงจุนซูเรียกแจจุงด้วยความหวาดหวั่น "วันนี้พี่ช่างแต่งหน้าเขาทาแป้งให้ยุนโฮมากเกินไปรึเปล่า ดูหน้ายุนโฮสิเหมือนหมีขาวเลย ซีดซะน่ากลัวเชียว"
"แฮ่ ฉะ ฉันสบายดี มะ ไม่ได้เป็นอะไร" ด้วยความพยายามของหัวหน้าวงอย่างยุนโฮ เสียงจึงออกมาสั่นน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
"ฮ่า ฮ่า" อีกทั้ง 4 คนจึงอดขำในท่าทางเหมือนหมีฝืนของยุนโฮอย่างช่วยไม่ได้
"ไม่ต้องขำกันขนาดนั้นก็ได้ ดูแต่ละคนก็ไม่ต่างฉันเท่าไหร่หรอกน่า"
"โทษที ๆ แต่มันก็อดไม่ได้นี่นา" แจจุงว่า พร้อมหันไปมองเวทีใหญ่ตรงหน้าด้วยแววตาสดใสตื่นตัว
"จะมางานประกาศผลสักกี่ครั้ง มันก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ไม่แปลกหรอก" ยุนโฮยิ้มรับบอกเพื่อนร่วมวง
"อืม ฉันก็ว่างั้น มีใครสนใจจะบำบัดด้วยน้ำมั๊ย มือฉันเหงื่อออกจนสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำไว้ใช้ตอนหน้าแล้งได้แล้ว" ยูชอนว่าแล้วชูมือให้ดูพิสูจน์ประสิทธิภาพฝายทดน้ำ
"หวา! รีบเอามือมานี่เลยยูชอน" จุนซูเห็นดังนั้นแล้วจึงรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าภายในเสื้อสูทมาเช็ดซับเหงื่อออกจากมือของยูชอนก่อนที่น้ำจะท่วมฮอลล์ไม่ทันได้ฟังผลรางวัลกัน
เป็นภาพที่เห็นจนเจนตาสำหรับเพื่อน ๆ ในวงถึงความห่วงใยดูแลกันของทั้ง 2 คน จนบางทีคนอื่นหรือแฟน เพลงที่เห็นก็เก็บเอาไปเข้าใจผิดได้ถึงความเป็นเพื่อนสนิท(?)ของสองคนนี้
"แล้วนั่นมองหาอะไรเหรอชางมิน" ยุนโฮทักหลังจากเห็นชางมินชะเง้อมองเหมือนหาอะไรสักอย่างมาสักพักนึง
"ในนี้ไม่มีอะไรให้กินนะชางมิน" แจจุงร่วมด้วยช่วยทัก เข้ากันดีจริง ๆ คู่นี้
"เปล่าพี่ แค่อยากรู้ว่าเขาให้ทีมงานนั่งตรงไหนน่ะครับ"
'อ่อ จะถามถึงลีอินล่ะสิ' ทั้งสองคนคิด
"รู้สึกว่าเขาจะให้ผู้จัดการนั่งตรงสเต็ปที่ถัดไปจากเรานะ เขากันส่วนศิลปินให้นั่งหน้าสุด เวลาเดินออกไปจะได้ไม่ลำบาก" ยุนโฮตอบคำถามแล้วยิ้มอย่างรู้ทัน
"เอ่อ! แหะ ๆ ขอบคุณครับพี่" ชางมินก้มหน้างุดมือไม้สะบัดไปมา ปิดบังความเขินเอาไว้ ก่อนจะตั้งตัวได้แล้วหันไปมองแถวที่นั่งข้างหลังใหม่อีกรอบหนึ่ง แทนที่จะเจอผู้จัดการวงกลับกลายเป็นเจอสายตาแฟนเพลงนับร้อยที่นั่งอยู่ส่วนหลังสุดของฮอลล์ตามมาด้วย
"กรี๊ดดดดดด!!" เสียงกรี๊ดดังสนั่นฮอลล์เมื่อนักร้องสุดที่รักหันไปมองด้วยสายตาคมหวานที่ระคนความเขินอายในแววตา ชางมินโบกมือให้แฟนเพลงก่อนจะรีบหันกลับด้วยความอายกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
'นี่แหละน้าสายตาพิฆาตหญิง' พี่ ๆ ทั้ง 4 คนคิด
"นี่สองคนนั้น เก็บกักน้ำกันเสร็จรึยัง งานจะเริ่มแล้วนะ" แจจุงหันไปถามเพื่อนรัก 2 คน ที่เปลี่ยนจากสำรองน้ำไว้ใช้ในภายภาคหน้ามาเป็นเล่นซูโม่นิ้วแก้อาการตื่นเต้นกันแทน
"อืม" จุนซูกับยูชอนตอบรับ ทันทีที่จุนซูเผลอยูชอนใช้นิ้วโป้งของตัวเองกดทับนิ้วโป้งของจุนซูด้วยความเร็วแสงตามด้วยน้ำหนักตัวบวกแรงโน้มถ่วงโลก
"โอ้ย!! เล่นขี้โกงนี่หว่ายูชอน" ว่าแล้วซูโม่นิ้วก็เริ่มอีกหนึ่งฤดูกาล
'ไอพวกนี้เล่นกันไม่เลิก' ยุนโฮคิด
"เฮ้ย!! เล่นอะไรกันเนี่ยะเสียภาพพจน์หมดแล้ว เห็นมั๊ยแฟนเพลงเต็มงานเลย ไหนจะทีมงาน ไหนจะศิลปินคนอื่น ไหนจะช่างภาพอีก" ยุนโฮว่าเข้าให้
"เป็นอะไรของแก อยู่ ๆ มาห่วงภาพพจน์ ร้อยวันพันปีเห็นไม่เคยจะสนใจ" ยูชอนเสตามองเพื่อนแบบงง ๆ
"หึ หึ" ยุนโฮทำท่าเหมือนหมีขำ ทำเอาเพื่อนในวงขนลุกเกรียว
"ถ้าจะเล่นก็ให้มันมีสาระหน่อย แบ่งเป็นสายเป็นดิวิชั่นกันเลยมา ฉันกับแจจุงอยู่สายเอ แกกับจุนซูอยู่สายบี น้องมินเป็นกรรมการ แข่งกันชนะ 3 ใน 5 ยก มา" ยุนโฮพูดพร้อมทำท่าจริงจังหันไปหาแจจุง ยื่นอุ้งตีนหมี เอ้ย! มือขวาออกไปหมายมั่นจะเอาชนะให้ได้ แจจุงที่อยู่ดี ๆ ต้องเข้ามาร่วมการแข่งขันนั้นก็ทำหน้าแบบเสียมิได้ขึ้นมา
"อ้าว แทนที่จะห้ามกลับสนับสนุนเป็นการเป็นงานซะงั้นนี่เหรอพี่ใหญ่หัวหน้าวง กลุ้มจริงตรู" ชางมินบ่นเบา ๆ แล้วลอบทอดหายใจ
"ฉัน ได้ ยิน นะ เฟ้ย ชางมิน" พูดทีละคำประกอบสายตาเหี้ยม
ชางมินเหงื่อตก ก่อนที่เหตุการณ์จะเลวร้ายไปกว่านั้นจากซูโม่นิ้วจะกลายเป็นซูโม่คน
พลันไฟภายในฮอลล์ก็ดับลง ลำแสงสปอร์ทไลท์สว่างจ้าสีเหลืองพุ่งตรงไปบนเวที และเสียงดนตรีก็เริ่มบรรเลงปลุกบรรยากาศภายในฮอลล์ให้ตื่นเต้นเร้าใจ ค่ำคืนของการประกาศผลรางวัลประจำปีกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ผู้คนในฮอลล์ที่ก่อนนี้ส่งเสียงเซ็งแซ่เริ่มกลับมาอยู่ในอาการสงบและใจจดใจจ่อกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นตรงหน้า
พิธีกรชายหญิงสองคนในชุดสูทและชุดราตรีสวยงามเดินออกมากลางเวที พิธีกรเริ่มกล่าวทักทายและบอกวัตถุประสงค์ของงาน แล้วการดำเนินงานประกาศผลรางวัลก็เริ่มต้นขึ้น แต่ละรางวัลผ่านไปอย่างช้า ๆ พร้อมความปลื้มปิติของผู้รับรางวัลและความประทับใจของผู้ร่วมงาน ยิ่งเวลาผ่านไปยาวนานเท่าไหร่ความตื่นเต้นยิ่งทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น
“แล้วก็มาถึงรางวัลสุดท้ายของค่ำคืนนี้นะครับ รางวัลที่ทุกคนเฝ้ารอคอยว่าใครจะได้ไป” พิธีกรชายกล่าวยิ้มแย้ม
“ใช่ค่ะ เฝ้ารอกันมานานมาก รางวัลที่เป็นสุดยอดแห่งปี ในปีนี้ใครจะเป็นผู้ได้รับไป อดตื่นเต้นแทนไม่ได้จริง ๆ นะค่ะเนี่ยะ” พิธีกรหญิงกล่าวเสริมพร้อมหันมองไปรอบ ๆ ฮอลล์
“เอาละครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา” พิธีกรชายหยิบซองประกาศผลออกมา ดนตรีภายในงานเริ่มบรรเลงปลุกเร้าดังขึ้นเรื่อย ๆ
“รางวัล Best artist of the year. ได้แก่..................” สิ้นเสียงการประกาศผลอันเป็นสุดยอดของวงการดนตรี พลันปรากฏเสียงโห่ร้องก้องกังวานไปทั่วทั้งฮอลล์ขนาดใหญ่ เครื่องปรับอากาศภายในทำงานอย่างเต็มที่อากาศเย็นฉ่ำ แต่บรรยากาศรอบ ๆ กลับเต็มไปด้วยความเร่าร้อน ความตื่นเต้นดีใจแผ่กระจายไปรอบ ๆ จนทุกคนสัมผัสถึงมันได้
เด็กหนุ่ม 5 ปรากฏตัวบนเวทีท่ามกลางบรรยากาศเหล่านั้น แสงสปอร์ทไลท์จับต้องอาบเรือนกายของพวกเขาให้สว่างเฉกเช่นแสงของดวงดาว เม็ดเหงื่อและหยดน้ำตาพร่างพราวประกายสะท้อนแสงไฟ มีหลายคนกล่าวเอาไว้ว่าปี 2006 เป็นปีของพวกเขา แต่เปล่าเลยภายในค่ำคืนนี้ต่างหาก คืนแห่งความปิติ คืนของพวกเขา คืนแห่งดงบังชินกิ แล้วทุกอย่างจะเริ่มต้นจากนี้ไป
ความคิดเห็น