ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic TVXQ)more than meeting. (มากกว่าเพียงพานพบ)

    ลำดับตอนที่ #2 : วันนี้(2) 100%

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 50


             
              ฮอลล์ขนาดใหญ่จุคนได้นับเป็นพันคนถูกตกแต่งไว้ต้อนรับงานสำคัญตั้งแต่โถงทางเข้างาน  ตามทางเดินประดับประดาไปด้วยภาพโปสเตอร์งานและดอกไม้ที่จัดตกแต่งมาอย่างดี บ่งบอกให้รู้ว่าในวันนี้สถานที่แห่งนี้จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น  สเตทหน้ากว้างพร้อมจอมอนิเตอร์ขนาดยักษ์เสียงดังกระหึ่มจากลำโพงหลายตัวรายรอบฮอลล์  สร้างบรรยากาศให้ตื่นเต้นระคนตื่นตระหนกได้อย่างไม่ยากสำหรับผู้เข้าร่วมงานและผู้เข้าชิงรางวัลสาขาต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นพระเอกนางเอกของงานในคืนนี้ทีเดียว

              ทันทีที่รถลีมูซีนคันหรูเข้าเทียบจอดบริเวณทางเข้างาน  พรมแดงผืนใหญ่ปูเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้วสำหรับดาวเด่นของงานในค่ำคืนนี้   พรมกำมะหยี่เนื้อดีสีแดงสดทอดยาวราวกลับจะไปถึงขอบฟ้า  เชื้อเชิญให้ผู้คนมากมายลองย่ำเหยียบไปบนผืนผ้านุ่ม  แต่จะมีสักกี่คนที่มีโอกาส

              เสียงชัตเตอร์กดระรัวทันทีพร้อมแสงไฟสว่างวาบแสบตา  เมื่อพวกเค้าทั้ง 5 คนเยื้อย่างเข้ามาในงาน ขาก้าวกระชับด้วยสีหน้าและท่าทางที่มาดมั่น  ก่อนส่งยิ้มแย้มรับจำนวนนักข่าวจำนวนมหาศาลที่รอทำข่าว  เด็กหนุ่มทั้ง 5 คนในชุดสูทเนื้อผ้าดีในวันนี้ราวกลับจะส่องแสงได้  ยิ่งต้องก้าวย่างไปบนพรมสีแดงสดที่ตัดกับสีเข้มของชุดเหนืออื่นใดใบหน้าคมคายของพวกเขาที่เชิดยิ้มสวยสะท้อนแสงแฟลช จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหยุดสายตาของใครต่อใครได้ 

    "ฉันว่าในฮอลล์นี่ก็เปิดแอร์แรงนะ  เย็นชะมัด  แต่ทำไมในมือมีเหงื่อออกได้ล่ะเนี่ยะ" เสียงยูชอนบ่นออกมาทันทีที่ถึงที่นั่งภายในฮอลล์

    "สงสัยพี่คงตื่นเต้นล่ะมั้ง  นี่ก็ไม่ใช่งานประกาศรางวัลครั้งแรกของพวกเรานะพี่  ไม่มืออาชีพเอาซะเลย" ชางมินแซวเข้าให้  พร้อมทำท่าแบมือออกทั้งสองข้างแบบนี่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา

    "นายคงมีสติแย่สินะคุณน้องชางมิน  เห็นขาสั่นไม่หยุดตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว  แบบควบคุมข้างบนได้แต่ข้างล่างไม่ยอมฟังสินะ" แจจุงว่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเอ็นดูน้องเล็กที่อุตส่าห์โชว์พาว  แต่ปิดไม่มิดซะนี่

    "แจจุง  แจจุง" เสียงจุนซูเรียกแจจุงด้วยความหวาดหวั่น "วันนี้พี่ช่างแต่งหน้าเขาทาแป้งให้ยุนโฮมากเกินไปรึเปล่า  ดูหน้ายุนโฮสิเหมือนหมีขาวเลย ซีดซะน่ากลัวเชียว"

    "แฮ่  ฉะ ฉันสบายดี  มะ ไม่ได้เป็นอะไร" ด้วยความพยายามของหัวหน้าวงอย่างยุนโฮ  เสียงจึงออกมาสั่นน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

    "ฮ่า  ฮ่า"  อีกทั้ง 4 คนจึงอดขำในท่าทางเหมือนหมีฝืนของยุนโฮอย่างช่วยไม่ได้

    "ไม่ต้องขำกันขนาดนั้นก็ได้  ดูแต่ละคนก็ไม่ต่างฉันเท่าไหร่หรอกน่า"

    "โทษที ๆ  แต่มันก็อดไม่ได้นี่นา" แจจุงว่า  พร้อมหันไปมองเวทีใหญ่ตรงหน้าด้วยแววตาสดใสตื่นตัว

    "จะมางานประกาศผลสักกี่ครั้ง  มันก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้  ไม่แปลกหรอก" ยุนโฮยิ้มรับบอกเพื่อนร่วมวง

    "อืม  ฉันก็ว่างั้น  มีใครสนใจจะบำบัดด้วยน้ำมั๊ย  มือฉันเหงื่อออกจนสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำไว้ใช้ตอนหน้าแล้งได้แล้ว" ยูชอนว่าแล้วชูมือให้ดูพิสูจน์ประสิทธิภาพฝายทดน้ำ

    "หวา! รีบเอามือมานี่เลยยูชอน" จุนซูเห็นดังนั้นแล้วจึงรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าภายในเสื้อสูทมาเช็ดซับเหงื่อออกจากมือของยูชอนก่อนที่น้ำจะท่วมฮอลล์ไม่ทันได้ฟังผลรางวัลกัน

    เป็นภาพที่เห็นจนเจนตาสำหรับเพื่อน ๆ ในวงถึงความห่วงใยดูแลกันของทั้ง 2 คน  จนบางทีคนอื่นหรือแฟน เพลงที่เห็นก็เก็บเอาไปเข้าใจผิดได้ถึงความเป็นเพื่อนสนิท(?)ของสองคนนี้

    "แล้วนั่นมองหาอะไรเหรอชางมิน"  ยุนโฮทักหลังจากเห็นชางมินชะเง้อมองเหมือนหาอะไรสักอย่างมาสักพักนึง

    "ในนี้ไม่มีอะไรให้กินนะชางมิน"  แจจุงร่วมด้วยช่วยทัก  เข้ากันดีจริง ๆ คู่นี้

    "เปล่าพี่  แค่อยากรู้ว่าเขาให้ทีมงานนั่งตรงไหนน่ะครับ"

    'อ่อ  จะถามถึงลีอินล่ะสิ'  ทั้งสองคนคิด

    "รู้สึกว่าเขาจะให้ผู้จัดการนั่งตรงสเต็ปที่ถัดไปจากเรานะ  เขากันส่วนศิลปินให้นั่งหน้าสุด  เวลาเดินออกไปจะได้ไม่ลำบาก"  ยุนโฮตอบคำถามแล้วยิ้มอย่างรู้ทัน

    "เอ่อ! แหะ ๆ ขอบคุณครับพี่" ชางมินก้มหน้างุดมือไม้สะบัดไปมา  ปิดบังความเขินเอาไว้  ก่อนจะตั้งตัวได้แล้วหันไปมองแถวที่นั่งข้างหลังใหม่อีกรอบหนึ่ง  แทนที่จะเจอผู้จัดการวงกลับกลายเป็นเจอสายตาแฟนเพลงนับร้อยที่นั่งอยู่ส่วนหลังสุดของฮอลล์ตามมาด้วย 

    "กรี๊ดดดดดด!!"  เสียงกรี๊ดดังสนั่นฮอลล์เมื่อนักร้องสุดที่รักหันไปมองด้วยสายตาคมหวานที่ระคนความเขินอายในแววตา  ชางมินโบกมือให้แฟนเพลงก่อนจะรีบหันกลับด้วยความอายกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

    'นี่แหละน้าสายตาพิฆาตหญิง'  พี่ ๆ ทั้ง 4 คนคิด

    "นี่สองคนนั้น  เก็บกักน้ำกันเสร็จรึยัง  งานจะเริ่มแล้วนะ" แจจุงหันไปถามเพื่อนรัก 2 คน  ที่เปลี่ยนจากสำรองน้ำไว้ใช้ในภายภาคหน้ามาเป็นเล่นซูโม่นิ้วแก้อาการตื่นเต้นกันแทน

    "อืม"  จุนซูกับยูชอนตอบรับ  ทันทีที่จุนซูเผลอยูชอนใช้นิ้วโป้งของตัวเองกดทับนิ้วโป้งของจุนซูด้วยความเร็วแสงตามด้วยน้ำหนักตัวบวกแรงโน้มถ่วงโลก

    "โอ้ย!!  เล่นขี้โกงนี่หว่ายูชอน"  ว่าแล้วซูโม่นิ้วก็เริ่มอีกหนึ่งฤดูกาล

    'ไอพวกนี้เล่นกันไม่เลิก' ยุนโฮคิด

    "เฮ้ย!!  เล่นอะไรกันเนี่ยะเสียภาพพจน์หมดแล้ว  เห็นมั๊ยแฟนเพลงเต็มงานเลย ไหนจะทีมงาน ไหนจะศิลปินคนอื่น ไหนจะช่างภาพอีก" ยุนโฮว่าเข้าให้

    "เป็นอะไรของแก  อยู่ ๆ มาห่วงภาพพจน์  ร้อยวันพันปีเห็นไม่เคยจะสนใจ" ยูชอนเสตามองเพื่อนแบบงง ๆ

    "หึ หึ" ยุนโฮทำท่าเหมือนหมีขำ  ทำเอาเพื่อนในวงขนลุกเกรียว

    "ถ้าจะเล่นก็ให้มันมีสาระหน่อย  แบ่งเป็นสายเป็นดิวิชั่นกันเลยมา  ฉันกับแจจุงอยู่สายเอ  แกกับจุนซูอยู่สายบี น้องมินเป็นกรรมการ  แข่งกันชนะ 3 ใน 5 ยก  มา" ยุนโฮพูดพร้อมทำท่าจริงจังหันไปหาแจจุง  ยื่นอุ้งตีนหมี เอ้ย! มือขวาออกไปหมายมั่นจะเอาชนะให้ได้  แจจุงที่อยู่ดี ๆ ต้องเข้ามาร่วมการแข่งขันนั้นก็ทำหน้าแบบเสียมิได้ขึ้นมา

    "อ้าว  แทนที่จะห้ามกลับสนับสนุนเป็นการเป็นงานซะงั้นนี่เหรอพี่ใหญ่หัวหน้าวง กลุ้มจริงตรู"  ชางมินบ่นเบา ๆ แล้วลอบทอดหายใจ

    "ฉัน ได้ ยิน นะ เฟ้ย ชางมิน" พูดทีละคำประกอบสายตาเหี้ยม

    ชางมินเหงื่อตก  ก่อนที่เหตุการณ์จะเลวร้ายไปกว่านั้นจากซูโม่นิ้วจะกลายเป็นซูโม่คน 

    พลันไฟภายในฮอลล์ก็ดับลง  ลำแสงสปอร์ทไลท์สว่างจ้าสีเหลืองพุ่งตรงไปบนเวที  และเสียงดนตรีก็เริ่มบรรเลงปลุกบรรยากาศภายในฮอลล์ให้ตื่นเต้นเร้าใจ  ค่ำคืนของการประกาศผลรางวัลประจำปีกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า   ผู้คนในฮอลล์ที่ก่อนนี้ส่งเสียงเซ็งแซ่เริ่มกลับมาอยู่ในอาการสงบและใจจดใจจ่อกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นตรงหน้า

    พิธีกรชายหญิงสองคนในชุดสูทและชุดราตรีสวยงามเดินออกมากลางเวที  พิธีกรเริ่มกล่าวทักทายและบอกวัตถุประสงค์ของงาน  แล้วการดำเนินงานประกาศผลรางวัลก็เริ่มต้นขึ้น  แต่ละรางวัลผ่านไปอย่างช้า ๆ พร้อมความปลื้มปิติของผู้รับรางวัลและความประทับใจของผู้ร่วมงาน   ยิ่งเวลาผ่านไปยาวนานเท่าไหร่ความตื่นเต้นยิ่งทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น 

    “แล้วก็มาถึงรางวัลสุดท้ายของค่ำคืนนี้นะครับ  รางวัลที่ทุกคนเฝ้ารอคอยว่าใครจะได้ไป” พิธีกรชายกล่าวยิ้มแย้ม

    “ใช่ค่ะ  เฝ้ารอกันมานานมาก  รางวัลที่เป็นสุดยอดแห่งปี ในปีนี้ใครจะเป็นผู้ได้รับไป  อดตื่นเต้นแทนไม่ได้จริง ๆ นะค่ะเนี่ยะ”  พิธีกรหญิงกล่าวเสริมพร้อมหันมองไปรอบ ๆ ฮอลล์

    “เอาละครับ  เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา” พิธีกรชายหยิบซองประกาศผลออกมา  ดนตรีภายในงานเริ่มบรรเลงปลุกเร้าดังขึ้นเรื่อย ๆ

    “รางวัล Best  artist  of  the  year.  ได้แก่..................”  สิ้นเสียงการประกาศผลอันเป็นสุดยอดของวงการดนตรี  พลันปรากฏเสียงโห่ร้องก้องกังวานไปทั่วทั้งฮอลล์ขนาดใหญ่  เครื่องปรับอากาศภายในทำงานอย่างเต็มที่อากาศเย็นฉ่ำ  แต่บรรยากาศรอบ ๆ กลับเต็มไปด้วยความเร่าร้อน  ความตื่นเต้นดีใจแผ่กระจายไปรอบ ๆ จนทุกคนสัมผัสถึงมันได้

    เด็กหนุ่ม 5 ปรากฏตัวบนเวทีท่ามกลางบรรยากาศเหล่านั้น  แสงสปอร์ทไลท์จับต้องอาบเรือนกายของพวกเขาให้สว่างเฉกเช่นแสงของดวงดาว  เม็ดเหงื่อและหยดน้ำตาพร่างพราวประกายสะท้อนแสงไฟ  มีหลายคนกล่าวเอาไว้ว่าปี 2006  เป็นปีของพวกเขา  แต่เปล่าเลยภายในค่ำคืนนี้ต่างหาก  คืนแห่งความปิติ  คืนของพวกเขา  คืนแห่งดงบังชินกิ   แล้วทุกอย่างจะเริ่มต้นจากนี้ไป


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×