ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนาย my boyfriend. (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #20 : Chapter 17 : ล่องแพ ภาคเดินป่า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 16.48K
      25
      12 ส.ค. 50





    ป๊อกแปด สองเด้ง  ไอ้แพนเอามาให้กรูเลย  2 เท่าโว้ย  งานนี้รวย  กานต์เอ่ยสดใสร่าเริง  พร้อมหงายไพ่ลงกลางวง

    ของกรูป๊อกแปด  ธรรมดาไม่ใส่ไข่  ฮ่า ๆ ยังไงก็ได้ตังค์  วอยิ้มร่า  วางไพ่คู่ที่บวกแล้วได้ค่าเท่ากับแปดอย่างมีความสุข

     

    แพนใช้สายตาจิกกัดมองไปรอบวง  ก่อนจะเผยรอยยิ้มสยองออกมา  หึหึ  เสียงขำประสาท  ชิช๊ะพวกหล่อน  คิดจะกินเงินจากฉันเร็วไปล้านปีแสงย่ะ  เสียใจด้วย  ของฉันป๊อก 9 สองเด้งสีด้วย  รอบวงย่ะ รอบวง  จ่ายมา  เอ๊ะ! หล่อน  อย่ามาทำหน้าเหียกใส่นะย๊ะ  แพนตวัดเสียงนิดหน่อย  เนื่องด้วยขาไพ่แสยะปากทำหน้าเบื่อโลก  แล้วแพนจึงกวักมือเรียกตังค์ให้เข้าหน้าตักตัวเองต่อ

    โห  ไรว้า  ของกรูบอดยังไม่ทันขอเปิดอีกใบเลย  กรูหวังเรียงนะเนี่ยะ  เซ็งว่ะ  ปลาเสียอารมณ์ทิ้งไพ่คิงกับแจ๊คในมืออย่างเบื่อ ๆ  ก่อนที่จะหยิบเศษเหรียญให้เจ้ามือ

     

    บทสนทนาราวกับอยู่ในสมาคมแม่บ้านทหารบก  วงไพ่ยังคงดำเนินต่อไป  เสียงรวบไพ่ดังขึ้นเพื่อรวมไว้สับและกรีดแจกจ่ายให้ลงเงินพนันกันอีกครั้งหนึ่ง  เมื่อมีแม่บ้านก็ต้องมีพ่อบ้าน  มีวงไพ่ก็ต้องมีวงเหล้าฉันใดก็ฉันนั้น

     

    จีนเอากระติกน้ำแข็งให้ที  โจเรียกหาวัตถุเพิ่มความเย็น  หยิบก้อนน้ำแข็งรูปทรงหลอดลงในแก้วใบใส  ตามด้วยเบียร์ที่รินอย่างไวจนขึ้นฟองฟูขาวนุ่มมาครึ่งแก้ว

    โจ  เพิ่มให้กรูด้วย  ไอ้กิงยื่นแก้วเปล่าให้  แล้วหันไปสนใจกับการแทะเมล็ดทานตะวันต่อ

    ป๋อง  คิงเล่นเพลงอ้ายจรัล มโนเพ็ชรเน้อ  ฮาจะฮ้อง  อ้ายคนจน จำต้องทนปั่นรถถีบ อ้ายจะจีบอี่น้อง...  เต้ยที่ถูกบังคับให้อู้คำเมืองแต่พอเพียง  เพราะเพื่อนขี้เกียจแปล  จำต้องหยุดการร้องเพลงลงอย่างเสียมิได้  เมื่อไอ้ป๋องยกมือห้าม

    พอ  พอก่อนไอ้เต้ย  หนังสือเพลงก็ไม่มีให้กรู  กรูไม่ใช่กีต้าร์เทพนะเว้ย  ถึงสามารถตีคอร์ดได้เพียงแค่ฟังชื่อเพลง  ป๋องบ่นอย่างหน่าย ๆ ก่อนจะพลิกด้านหลังกีต้าร์ที่เป็นไม้อย่างเดียวกลับมาไว้ด้านหน้าแทน  เอ้า  ถ้าเมิงอยากร้อง  เดี๋ยวกรูเคาะจังหวะหน้าBให้  พูดเสร็จไอ้ป๋องก็เริ่มเคาะหลังกีต้าร์โปร่งเป็นท่วงทำนองให้เข้ากับการขับขานเพลงตามคำขอของเต้ย

     

     

                เรือนแพไม้ขนาดกว้างพอที่จะจุคนร่วม 20 คนได้  ลอยนิ่งบนแม่น้ำกว้างในหุบเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวสด  เรือนแพไหวเบาบ้างตามแรงซัดของน้ำเมื่อมีเรือแล่นผ่าน  ตัวเรือนไร้ผนังกั้นกว้างสบายด้วยระเบียงเปิดโล่งรอบพื้นที่โอบด้วยชานระเบียงที่ยื่นออกนอกตัวเรือนขนาดกำลังดีพอนั่งนอนเล่นได้  มีห้องน้ำขนาดกะทัดรัดอยู่ท้ายเรือนติดกับห้องที่กั้นเป็นพื้นที่ปิดไว้เพียงห้องเดียวที่มีขนาดไม่ใหญ่มากไว้สำหรับเก็บเครื่องนอนหรือแต่งตัว  เรือนโปร่งลมพัดผ่านสบายมุงด้วยหลังคาใบจาก  พื้นไม้เนื้อแข็งอาบความเย็นของบรรยากาศรอบข้างเมื่อได้สัมผัส  พื้นที่โล่งกว้างที่เหลือของเรือนแพจึงเป็นทั้งที่หลับนอนกิน  และทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเพลิดเพลิน  ผมมองดูบรรยากาศแสนผ่อนคลายและโคตรสบายใจของเพื่อน ๆ ร่วมทริปอย่างร้อนใจจนทนไม่ไหว

     

     

    ไอ้พวกเอี้ย  ตอนนี้ต้องนั่งเรียนกันอยู่ไม่ใช่เหรอว๊ะ  แล้วทำไมพวกเมิงถึงมานั่งสบายใจเป็นสมาคมพ่อบ้านแม่บ้านสถาปนิกอยู่ตรงนี้ล่ะโว้ย  ผมบ่นเสียงดังอย่างเหลืออด  หลังจากที่นั่งประมวลผลเป็นผีเฝ้าแพอยู่สักพัก  พอรู้ตัวผมก็ยืนด่าเด่นอยู่ติดกับฝาห้องที่อยู่เกือบค่อนไปปลายแพ  เสตามองไอ้พวกไม่รู้หนาวรู้ร้อน  ทั้งวงไพ่วงเหล้าหันมามองเป็นตาเดียว

     

     

    ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ผมต้องอยู่ในห้องเลคเชอร์  ไม่ก็ต้องเตรียมความพร้อมเรื่องวิชาเรียนหรือตารางเรียนในเทอม 2 แต่ตอนนี้ผมกลับถูกลากมายังทริปล่องแพแห่งลุ่มแม่น้ำแคว  บรรยากาศเย็นไหวสดชื่นรอบตัวมันก็ดีอยู่หรอกครับ  แต่(ขออีกรอบ)ไม่ใช่วันแรกของการเปิดเทอม  โดยที่ตัวผมยังไม่ทันถึงหอพักด้วยซ้ำ(ผมชอบกลับกรุงเทพฯก่อนวันเรียนวันเดียวเท่านั้น  สันดานจริงตรู)  ผมย้อนนึกทันทีที่ผมถึงท่ารถข.ส.ม.ก.  ไอ้กิงปาดมารับผมด้วยความไว  ผมเอะใจแล้วทำไมมันมากับแท๊กซี่แถมแบกเป้มาด้วย  แล้วความจริงก็กระจ่างเมื่อจุดหมายของแท็กซี่มาลงที่สถานีรถไฟฝั่งตะวันตก  ผมนั่งเอ๋อตลอดเวลาหลายชั่วโมงที่พวกมันฉิ่งฉับทัวร์ไม่สนใจชาวบ้านบนโบกี้รถไฟสุดปลายทางเลยสถานีน้ำตก  กว่าจะถึงแพก็สายแก่ ๆ พอดี

     

    เฮ้ย!  ไอ้เรประจำเดือนมาไม่ปกติเหรอว๊ะ  ฮ่า ๆ  ไอ้กานต์แซวผมแบบไม่สำเหนียกว่าตัวเองเป็นผู้หญิง 

    ไอ้หร่า  เมิงสิว๊ะที่ไม่ยอมมา  อะไรของพวกเมิง  อยู่ดี ๆ ก็มาเที่ยว  แล้วเศือกขนมาหมดทั้งสโมฯ  อาจารย์เรียกประชุมตั้งแต่วันแรกไม่ใช่ไง  เอี้ยไรกันเนี่ยะ 

    คิง  ฮ้อนใจ๋ไรขนาด  แอ่วกันให้ม่วนดีกว่าเน้อ  เต้ยยิ้มอารมณ์ดี  พวกที่เหลือพยักหน้าเห็นด้วย

     

    หึหึหึ  ผมแค่นหัวเราะ  กรูไม่ได้ร้อนใจอะไรนักหรอกว่ะ  แต่ที่พวกเมิงผ่าแสกหน้ามาเที่ยวไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า  ขนาดกรูยังไม่รู้เลย  แล้วไอ้พวกอดแดกหนีเที่ยวที่ยังอยู่คณะ  แล้วไหนจะอาจารย์อีก  ใครซวยเป็นหนังหน้าไฟให้พวกเมิง  ถ้าไม่ใช่กรู  ผมเน้นปลายเสียงสุด ๆ ไม่รู้ด้วยเวรกรรมอะไรของผม  คนที่ออกหน้ากับครูบาอาจารย์ต้องเป็นผมทุกที  โดยที่พวกมันให้เหตุผลว่า  ผมน่าเอ็นดู(??)ที่สุด

     

    ผมที่พร้อมจะกลายร่างเป็นพี่ว้ากอีกรอบ  กลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงสัญญาณอะไรสักอย่าง 

     

    แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง  แม่เฝ้าหวงห่วงลูกเมื่อครั้งนอนเปล  แม่เรา~~~”

     

    เร โทรศัพท์กรูมา  ช่วยรับที  โจเรียกบอกผมให้รับเครื่องมือสื่อสารที่ตั้งกองรวมกันนับสิบเครื่องบริเวณชั้นไม้ที่อยู่ติดกับปลั๊กสามตาเพียงที่เดียวของแพ 

    กตัญญูเนาะ  สาด  เสียงเรียกเข้าแนวเอี้ย ๆ เลย  ผมยังคงอารมณ์คุกรุ่น  ก่อนจะหาว่าไอ้เครื่องไหนที่ยังอุตส่าห์มีสัญญาณ  วัน  ทู  มูฟ  จี เอส แทค  แทรกมาถึงหุบเขาลึกท่ามกลางธรรมชาติได้  ทีตอนอยู่ในเมืองสุด ๆ ต้องการสัญญาณอย่างแรง  พวกแมร่งไม่เคยติดสักค่าย

     

    หน้าจอเป็นชื่อเพื่อนในห้องผมคนหนึ่ง  ผมเดาเอาว่าคงโทรมาด่าแน่ ๆ ที่ไม่ยอมชวนพวกไปด้วย 

    เออ  สวัสดี  ว่าไง  ผมกรอกเสียงลงไปยังปลายสาย  เตรียมตัวถูกด่า

    .....  บทสนทนาตอบกลับมาไม่มากนัก 

     

    ซี้ด~~  ซ่า~~  ขณะนี้สัญญาณขัดข้องชั่วคราวกรุณารอสักครู่ค่ะ  เดอะ นั้มเบอร์ ยู้ ค้อล อิ้ส บี คอน เนค…”  ผมบีบจมูกตัวเอง  กระแดะดัดเสียงสูงทำสัญญาณล่มทันที

     

    ฮ่า ๆ ไอ้เร  เมิงเล่นมุขอะไรว๊ะ  ขี้เกียจคุยโทรศัพท์เรอะ  เสียงไอ้ป๋องแซวมาแว่ว ๆ พวกที่เหลือก็มองหน้าผม  ขำพร้อมกันไปด้วย

    ผมยิ้มเย็นเยียบ  เดินย่างเข้าไปหาพวกวงเหล้า มือตบไหล่หนากลมไอโจเบา ๆ ของเมิงว่ะโจ  ผมพูดพร้อมยื่นมือถือไปให้มัน  มันเหลือบดูเบอร์โทรเข้าแปปนึง  ก่อนยกโทรศัพท์ขึ้นมาคุย

    เออ  ว่าไงเมิง  มันพูดทักทายไปยังปลายสาย

    ....  อีกฝ่ายตอบกลับมา

     

    ไอโจหน้าซีดตัวสั่นเหงื่อตกในบัดดล  ครับ  ครับอาจารย์  เปล่าครับ  พวกผมไม่ได้หนีเที่ยวครับ 

     

    เฮ้ยย!!”  เสียงของวงไพ่วงเหล้าที่ผวาสุดตัว  เด้งตัวเองออกจากไอโจ  ราวกับมันถือสัตว์ปีกเป็นหวัดไว้ในมือก็ไม่ปาน

     

    ไอ้เร  จารย์เรินโทรมาเหรอว๊ะ  ไอ้ป๋องหน้าถอดสีกระซิบถามผมด้วยเสียงแผ่วเบา 

    ผมส่ายหัวปฏิเสธ  ก่อนบอกไปถึงที่มาของปลายสาย  คณบดี  ตอบเพียงสั้น ๆ

     

    เฮ้ยยยยยย!!”  ผวาหนักยิ่งกว่าเดิม  ก่อนที่วงไพ่และวงเหล้าเมื่อกี้จะกระเจิงกลายเป็นวงเวียนชีวิต  แต่ละคนหน้าตาท่าทางเหมือนโดนอายัดทรัพย์  แอบตามซอกหลืบเกาะราวระเบียงเรือนแพ  ผมแอบขำไปกับปฏิกิริยาที่หวาดผวาของเพื่อน ๆ ทั้งที่ปลายสายอยู่ไกลถึงกรุงเทพฯ  กลัวอ.จะเดินมาตบหัวเรียงตัวมั้ง  แต่จะมีก็เพียงยอดชายนายกิงที่ยังหน้าด้านนั่งอยู่ที่เดิม  แทะเมล็ดทานตะวันพร้อมจิบเบียร์เย็น ๆ ไปด้วย

     

     

    ฟู่ว~~  คุยจบสักที  โจนายกสโมฯหนีเที่ยว  ถอนหายใจยาวทันทีที่วางสาย  หันสายตาเคืองมาทางผม

    ไอเร  ทำไมเมิงไม่บอกว่าเป็นคณบดีว๊ะ  แมร่ง  จารย์ก็แผนสูงชิบ  ใช้เบอร์เพื่อนโทรมา  คงรู้ว่าถ้าขึ้นเบอร์อาจารย์  ยังไงพวกเราก็คงไม่รับ  ไอโจบ่นผมยาว  สีหน้าตัดพ้อ

    ผมยักไหล่  ยิ้มเยาะเย้ย  สมหน้าพวกเมิงแล้วไง  ทำอะไรไม่รู้จักวางแผน  โดนซะบ้างก็ดี  รู้ทั้งรู้มีงานนิทรรศการคณะตั้งแต่ต้นเทอม  ยังเศือกมากันไม่รู้หน้าที่  ผมเทศนากลับไปชุดใหญ่

    คร้าบ  แม่เรคร้าบ  ลูก ๆ เสียใจจริง ๆ ที่ทำตัวไร้สาระให้แม่เรต้องมีอารมณ์ขุ่นข้องหมองใจ  ไอ้ป๋องเดินประชดเข้ามานั่งในวงต่อเมื่อสถานการณ์อันตรายผ่านไป

     

    ไม่ต้องมาเรียกกรูว่า  แม่  กรูไม่เคยมีลูกทราม ๆ แบบเมิง  ผมยังคงยืนค้ำหัวพวกแมร่งอยู่  หลังจากที่ไอ้โจใช้ความสามารถพิเศษพลิกลิ้น  จากหนีเที่ยวกลายเป็นโครงการท่องเที่ยวศึกษาสถาปัตยกรรมไทยพื้นถิ่นอย่างหน้าด้าน ๆ  ไอ้พวกที่เหลือจึงกลับมาตั้งวงกันต่ออย่างไม่ยี่หระอะไร

     

    ไอ้ป๋องปั้นหน้าเซ็ง  หันไปขอความช่วยเหลือจากไอ้กิง  กิง  เมิงไปจัดการกับเมียเมิงหน่อยดิ๊  ปิดเทอมแล้ว  สงสัยคงไปเพาะพันธุ์หมามา  ปล่อยมาไล่กัดชาวบ้านเขาเต็มแพแล้วว่ะ

     

    เห้ป๋อง วอนตรีนแล้วเมิง  ผมขึ้นเสียงด่าส่งสายตาอาฆาตไปทางมันทันที  รู้ทั้งรู้ว่าผมกับไอ้กิงมีพันธะวินนิ่งกันอยู่  ยังจะมาพูดจายุยงส่งเสริม  ตอนนั้นล่ะบอกห่วงเพื่อน  ไอ้เวรเอ้ย ขอแค่ให้กรูหยุดปากได้  มุขไหนก็ได้ใช่ม้าย

     

     

    ไอ้กิงดันเป็นพวกตบมุขทันทีเมื่อไอป๋องชงมา  มันหยุดแทะเมล็ดทานตะวัน  ยันตัวยืนขึ้นแบบไม่เร่งรีบนัก  สีหน้าและแววตากวนตรีนสุด ๆ  น้ำเสียงชวนประสาทกลับออกจากปากมัน  มามะ  เมียจ๋า  เราไปหาเรื่องทำ ไม่ให้หมามาเดินเล่นกันเถอะ  มันเดินย่างสามขุมเข้ามา  อ้อมแขนแกร่งเปิดออกกว้างเหมือนจะรอให้ใครโผเข้าไปยังอ้อมกอดนั่น

     

     

    ด้วยความสามารถทางการอดทนอดกลั้นที่ผมไปฝึกปรือมาตอนปิดเทอมที่ระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์  ผมยกกำปั้นขึ้นมาตั้งการ์ดทันที  พร้อมซอยเท้าขยับตัวโยกหลบไปมา  ปล่อยหมัดแย้บเป็นระยะเมื่อมันเริ่มเข้ามาประชิด  ไอ้กิงดูมีสีหน้าแปลกใจปนตลกเล็กน้อยเมื่อเห็นผมในมาด  เร  ดาวมฤตยู  กระทิงแดงส่งเข้าชิง

     

    ฮ่า ๆ อะไรของเมิงอีกว๊ะนั่น  เสียงใครสักคนขำผม  แต่ผมไม่ขำ

    เข้ามาเซ่  ไอ้กิง  แน่จริงเมิงก็เข้ามา  ในเมื่อขัดขืนยังไงก็ไม่ได้ผลกับคนหน้าหนาเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างมัน  มีแต่ต้องเอาตัวเข้าสู้เท่านั้น

     

    เอาแล้วโว้ย  พบกับมุมแดงสิงห์กิง  หมัดหมาบ้า  มุมน้ำเงินเสือเร  ปากประหาร  เราจะตัดสินกัน 3 ใน 5 ยกนะครับท่านผู้ชม  ใครสนใจลงเงินพนันได้ที่เหรัญญิกวอ  รายได้ทั้งหมดสมทบทุนโครงการท่องเที่ยวของสโมสรนักศึกษาต่อไป  ไอ้ป๋องผันตัวเองเป็นโฆษกพากย์มวยหน้าระรื่น  โดยไอ้พวกสารพัดวงมารวมตัวกันเป็นวงเวียนใหญ่  คอยส่งเสียงเป่าปากเชียร์  จากเรือนแพจึงเปลี่ยนเป็นสนามมวยในบัดดล

     

    ผมจนปัญญาไปกับหมู่คนสติไม่สมประกอบรอบตัว  ไหนจะไอ้บ้าตรงหน้านี่อีก  ไอ้กิงเข้ามาในระยะประชิดที่มันสามารถเอื้อมมือมาจับตัวผมได้  แต่ผมไม่ถอย  ยังคงใจดีสู้สิงห์กิงต่อไป

    กรูอัพเปอร์ คัต ใต้คางเมิงแน่  ไอ้กิง  ถ้าเมิงยังเข้ามาอีก  ผมขู่มันไป

     

    ได้ผลครับ  มันยืนนิ่งหยุดอยู่กับที่ทันที

    โห  ไอ้กิงหยองว่ะ  แค่นี้ไม่สู้เหรอว๊ะ  นักเลงมวยตัดพ้อ  ประนามหยามเหยียดไอ้กิงกันไป

     

    ไอ้กิงหันหน้าหล่อเลวของมันไปทางประชาชนที่รอดูมวย  ก่อนจะเอ่ยปากบอกเสียงทุ้ม กรูไม่ชกมวยว่ะ

    ผมลดการ์ดลงทันที  พร้อมกระหยิ่มยิ้มในใจ ก็ดี  กรูคงสู้แรงควายไม่ได้ ถ้าเมิงเอาจริง

     

    แต่กรูจะเล่นมวยปล้ำ  มันพูดจบก็หันใบหน้ามาทางผม  พร้อมกับก้าวขายาวเข้ามาชิดรวบตัวผมอย่างไว  พาน้ำหนักกดทับลงไปบนกองหมอนและผ้าห่มนุ่มที่เอาออกมาวางรวมไว้จนเต็ม

     

    เฮ้ยยยยยย  ไม่เอาไม่เล่น  ผมร้องโวยวาย  ตัวผมถูกกดทับภายใต้ร่างกำยำของมันที่ยันคร่อมร่างผมอยู่  และท่ามกลางสายตาประชาชี

     

    ฮ่า ๆๆ  จัดการให้อยู่เลยนะเมิงไอ้กิง  ไอเรได้เลิก Dog show ซะที  เสียงใครสักคนสาปแช่งผม  ผมจำไม่ได้เพราะมัวแต่ขืนแรงไอ้กิงที่ทำท่าจะปล้ำผมจริง ๆ 

    พวกเมิงนะพวกเมิง  อย่าให้กรูหลุดไปได้  พ่อด่าเสียคนแน่  เฮ้ย! ไอ้กิง  เมิงเลิกบ้า  ออกไปสักทีโว้ย  ไอ้เวร #@#$%%*!~+)%#$”  ตามด้วยภาษาที่เกินจะบรรยายออกมาได้  ผมเหนื่อยแทบขาดใจ  ทั้งด่าเพื่อนทั้งสู้แรงไอ้กิง 

     

    กรูเลิกแน่  แต่ต้องให้รู้ผลแพ้ชนะก่อนนะ  ไอ้กิงบอกผมหน้าเปื้อนยิ้มสยอง  แล้วมือหนานั่นหันมาจี้เอวอันเป็นจุดอ่อนระทวยของผม 

    โอ้ย  ไม่เล่น ๆ ฮ่า ๆ เมิง  ไอ้เอี้ย ฮ่า ๆ  ผมตัวอ่อนไปกับสัมผัสนั่น  ใครอย่าได้มาจั๊กกะจี้ผมเลย  ผมไร้ทางสู้จริง ๆ  โดยเฉพาะไอ้กิง  ผมหาอยู่ว่ามีสักเรื่องมั้ยที่ผมไม่แพ้ทางมัน

     

    ถ้าไงพวกเมิง 2 คนไปต่อกันในห้องได้นะ  ยังไงก็อย่ารุนแรงมาก  ระวังแพล่มด้วย  เพื่อนผู้ปากหมาของผมแนะแนวทางไว้ให้  ก่อนพวกมันทั้งหมดจะเลิกสนใจมวยปล้ำหันไปตั้งวงกันต่อ

     

    เออ  รึจะต่อกันในห้องดีวะ  เมิงสนใจมั้ย  ไอ้กิงหยุดเล่น  มองหน้าผมถามจริงจัง

    สาด  ผมว่ามันจิตหื่นผิดปกติ  หน้าผมแดงไปทั้งความเหนื่อยอ่อนและระยะห่างอันแสนชิดใกล้ที่ผมไม่ได้สัมผัสมาประมาณ 2 สัปดาห์  ยอมรับละครับว่าผมคิดถึงมันเอาการอยู่ 

     

    ตุบ  อัพปอร์ คัตเบา ๆ ไปที่ใต้คางมัน  ก่อนจะอาศัยจังหวะเผลอผลักมันไปให้พ้นจากตัวผม  ผมยันตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

    ไปต่อเองเหอะเมิง  มาถึงแพทั้งทียังจะบ้าไร้สาระ  นั่งเล่นไพ่แดกเบียร์กันอยู่ได้  กรูไปเดินป่าดีกว่าว่ะ  ผมบ่นสะใจเสร็จแล้ว  จึงก้มตัวลงไปหยิบผ้าขาวม้าผืนเล็กที่ทำตกไว้ตอนมวยปล้ำกับไอ้กิง  นำมาคล้องคอก่อนจะเริ่มเดินออกจากเรือนแพ

     

    ฮ่า ๆๆ  เสียงหัวเราะดังของไอ้กิง  ชวนให้ผมปวดลำไส้ใหญ่

    ขำเอี้ยไรอีกเนี่ยะ  ผมหันไปด่ามันที่นอนหัวเราะร่าไปในกองผ้าห่มและหมอนลายดอกไม้สีสันสดใสส่งให้มันเปล่งประกายประหลาด

    ขำเมิง  ปากแมร่งด่าชิบหาย  เศือกเตรียมตัวเที่ยวยิ่งกว่าชาวบ้าน  เออโว้ย  มันขำหัวสั่นหัวคลอน 

    เออ ๆ เห็นด้วย  เรเป็นตัวของตัวเองจริง ๆ ฮ่า ๆ  พรรคพวกเพื่อนพ้องร่วมฮาไปกับไอกิงด้วย

     

    ผมหน้าปลาบู่ขึ้นมาฉับพลัน  เรื่องกรู  สะบัดตูดเดินจากมาด้วยความงอน 

    พวกเมิงนะพวกเมิง  พอกันเลย  แมร่งไม่มีใครเข้าข้างกรู  ผมบ่นอุบอิบเดินกระแทกเท้าไปบนเรือนแพ  เดินป่าคนเดียวก็ได้ว๊ะ

    เหวออออ  ผมรู้สึกเหมือนมีสัมภเวสีมากอดขาจนเกือบเสียหลักเซล้ม หันไปมองก็เจอผีป๋องเด็กผีแดงเข้ามารวบขาผมอยู่  เอี้ยไร  ผมกระชากเสียงเอ่ยประโยคคำถามน่ารักใส่หน้ามัน

     

    แม่ค้าบ  ลูก ๆ ผิดไปแล้ว  ขออภัยจากใจจริง ๆ นะค้าบ  ไอ้ป๋องช้อนสายตาที่มันคงคิดว่าน่าสงสารที่สุดขึ้นมามองผม  ตามด้วยพวกวงมโหรีที่พยักหน้ารับพร้อมกัน  ไอ้โจคลานเข่าเข้ามาอีกคนพร้อมถวายเบียร์ในมือ  แก้วใสถูกรินจนเต็มที่สำคัญเป็นเบียร์วุ้นเย็นเจี๊ยบสะใจ  จนผมอดกลืนน้ำลายไม่ได้

    แม่ค้าบ  รับของขออภัยโทษจากพวกลูก ๆ ด้วยค้าบ  ไอ้โจว่าน้ำเสียงเศร้า  ยื่นแก้วเบียร์ให้ผมเสมือนมันกำลังถวายสังฆทานอยู่

     

    ผมเงียบไปพักใหญ่  บรรยากาศในแพก็เงียบไปอึดใจ  เฮ้อ ผมถอนหายใจสีหน้าปลงตก  ยื่นมือไปรับปัจจัย

    เจริญพรเถิดโยม  พูดเสร็จ  ผมก็ยกเบียร์กระดกซดรวดเดียวจนหมดแก้ว  ฮ้า~”  เย็นชื่นใจ

     

    สาธุ  เพื่อน ๆ ตอบรับร่วมกันตามด้วย  ฮ่า ๆๆ  กร๊ากกก  เมิงนี่  เสียงหัวเราะสุขใจของทุกคน

    เอาน่า  ไม่ใช่ว่ากรูไม่อยากมาเที่ยวสักหน่อย  ขอกรูบ่นต้านกระแสบ้าง  ใครถามได้มีคนบอกได้ว่ามีคนห้ามแล้วเตือนแล้ว  ผมกล่าวแก้เก้อยิ้มเขินหน่อย ๆ

     

    เออดี กรูไปเดินป่านะ  ไอ้กิงหน้าด้านลุกขึ้นเดินมาโอบรอบคอผมพร้อมบอกว่าจะไปเดินป่าด้วย 

    อะไร  ใครจะไปกับเมิง  ผมเสียงแข็งปฏิเสธ  พยายามยกแขนมันที่พาดบ่าผมอยู่ออกไป ไอ้ตัวแกนนำทั้งแกล้งทั้งปั่นหัว  ผมจะไม่ใจอ่อนกับมันง่าย ๆ อีกแล้ว

    มันเสหน้ามองผมท่าทางฉงนปนขัดใจเล็กน้อย  ไรว้า  โกรธอะไรอีก

    ไม่ได้โกรธ  ไม่สนใจโว้ย  ผมสะบัดทั้งตัวทั้งหน้าออกจากอ้อมแขนมัน  แอบเสียดายนิดหน่อย 

     

     

     

    รองเท้าแตะดีไซด์คลาสสิคด้วยพื้นยางสีขาวที่บริเวณส้นมีรอยเสียดสีจนขึ้นรอยสึกเหลืองพอประมาณตัดกับสายคีบสีฟ้าสดถูกผมสวมใส่อย่างว่องไว  แพหลายเรือนถูกผูกติดไว้ริมฝั่ง  ผมต้องเดินจากเรือนที่พวกผมพักอยู่ลัดเลาะไปตามเรือนอื่น ๆ ที่ตอนนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่  เพื่อจะไปยังบริเวณท่าเทียบแพที่ทำเป็นชานไม้กว้างส่วนเชื่อมต่อกับบริเวณอุทยาน  ผมต้องขึ้นบันไดไปสูงพอควร  เพราะสายน้ำใหญ่อยู่ในหุบเขา โดยพื้นที่ป่าของอุทยานอยู่สูงขึ้นไปอีก

     

     

    อุทยานถูกจัดบริเวณไว้สวยร่มรื่น  มีทางเดินปูด้วยหินและคอนกรีตเป็นสายหลัก  น้ำตกสายใหญ่ชั้นเดียวที่น้ำใสไหลแรงอยู่ไม่ห่างนักจากท่าเทียบเรือน  เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอยู่ลึกเข้าไป  ระยะทางร่วม 3 กิโลเมตรเห็นจะได้   ผมอ่านป้ายทางเดินที่ติดตั้งอยู่ปากทางเข้าป่าด้วยความสนใจ

     

    ไปดูถ้ำค้างคาวดีกว่าว่ะ  นี่ไงทางนี้  ไอ้กิงชี้นิ้วไปยังสัญลักษณ์รูปค้างคาวสีขาวที่เขียนจากปลายพู่กันบนป้ายไม้สีน้ำตาลเข้ม  ตำแหน่งอยู่สุดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ

    ผมเหลือบมองหน้ามันแปปนึง  ก่อนจะหันไปทางอื่นไม่สนใจ

     

    งั้นไปถ้ำแก้ว  อยู่ไม่ไกลมาก  ไอ้กิงชี้นิ้วไปอีกรูปนึงซึ่งอยู่อีกเส้นทางแยกจากถ้ำค้างคาว

    ผมยังคงทำหูทวนลม  รอบนี้ชมนกชมไม้ผิวปากยืนกระดิกตีนกวนประสาทมันไปด้วย

    คิ้วมันเริ่มขมวดเข้าหากัน น้ำเสียงสดใสเริ่มเปลี่ยนเป็นขุ่นมัว ไปหาดสวรรค์กันมั้ยเมิง  มันชวนใบหน้านิ่ง

    ไหนว๊ะ  อยู่ในป่าในเขายังมีหาดอีกเหรอ  อยู่ตรงไหนว๊ะ  ผมสงสัยมองหาสัญลักษณ์หาดทันที  เมื่อกี้ก็ว่าดูป้ายละเอียดแล้วนา  ไม่เห็นมีบอกเลย

     

    หึหึ  ไอ้กิงขำจนผมต้องหันไปมองหน้ามัน  เดี๋ยวกรูพาไปเอง  เมิงจะอินดอร์หรือเอ้าท์ดอร์ล่ะ  มันชักน้ำเสียงกวนตรีนที่คอมโบมาพร้อมกับหน้าตาเหมือนเคย

    ผมเข้าใจได้ไม่ยาก  ไอ้เวร  แมร่ง..  ผมรู้สึกร้อนที่ใบหน้าทันที  นี่เมิงกะจะวินนิ่งนอกสถานที่เรอะ  ไม่ทันที่จะได้ด่าต่อ

     

    ค่อก ๆ แค่ก ๆ  อ๊อก  ขากกก  ถุย  เสียงเหมือนใครเป็นวัณโรคดังขัดจังหวะขึ้นมา  ผมกับไอ้กิงหันไปทางต้นเสียงนั่น

    พวกเมิงเลือกกันได้ยังว่าจะไปถ้ำไหน  หรือเมิงจะอยู่ตรงนี้จนตะวันตกดิน  กรูได้ไปเอาเต้นท์มากางรอ  เสียงไอป๋องบ่นอย่างหน่าย ๆ พร้อมสายตาตัดพ้อรอคอยอีกร่วมสิบคู่ 

    คิง  เลือกสักที่เน้อ  จะได้แอ่วกัน  เต้ยยืนรอด้วยอีกคน

     

    อ้าว  จะไปด้วยเรอะ  กรูก็นึกว่าจะตั้งวงยันกลับกรุงเทพฯ  ผมยังไม่วายปล่อยหมากลางป่า

    พวกที่เหลือส่งสายตางอน ๆ บวกหน้าบู่ ๆ มาแทนคำตอบ  ผมเห็นทีคงต้องเลิกกัดมันแล้วล่ะครับ

    งั้นถ้ำค้างคาวละกัน  ยังไงก็พันธุ์เดียวกัน  ผมบอกไป  ทุกคนเห็นด้วยไม่มีใครคัดค้าน  คงอยากไปเคารพต้นแบบการใช้ชีวิตกลางคืนนอนกลางวันของตนเอง 

     

     

    ทางเดินศึกษาธรรมชาติไม่ได้ยากลำบากอย่างที่คิด  และไม่ได้สบายเหมือนบริเวณที่ตกแต่งไว้ในอุทยาน  ต้นไม้สูงโปร่งสองข้างทาง  บรรยากาศเย็นฉ่ำชื้นในฤดูกาลปลายฝนต้นหนาว  ขับให้ป่าแห่งนี้มีมนต์เสน่ห์มากขึ้นไปอีก  เสียงกดชัตเตอร์จากกล้องดิจิตอลขนาดเล็กดังตลอดระยะทาง  จากชีวิตเด็ก(ชาน)เมืองได้มาปลดปล่อยท่องเที่ยวบ้างในธรรมชาติสวย  ทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดรฟินไม่น้อย  แต่....

     

    ไหนว๊ะ  ถ้ำค้างคาว  จากป้ายทางเข้าเดินตรงมาเจอแยกให้เลี้ยวซ้ายไม่ใช่เหรอว๊ะ  แค่กิโลกว่าก็ถึง  แต่นี่กรูว่าเดินกันมาสักพักแล้วนะ  โจเริ่มบ่นหลังจากใช้เวลานานโขอยู่  แต่ก็ยังไม่เจอสักถ้ำ

    น่าน สิ แฮ่ก ยิ่ง เดิน ทาง ยิ่ง กัน ดาร หรือ ถ้ำ มัน ไกล แฮ่ก เหนื่อย แล้ว  จีนตี๋อนามัย  ยานเสียงไป  หอบหายใจไป  ทำให้ฟังยากยิ่งกว่าเดิม

    เร เมิงมาผิดทางรึเปล่า  กานต์ถามเสียงใสแต่เหงื่อเริ่มโทรม

     

    เฮ้ย  ไอ้แยกเนี่ยะ  พวกเมิงเลือกเดินมากันเองนะโว้ย  กรูไม่ได้นำ  ผมปฏิเสธพร้อมหยิบผ้าขาวม้าขึ้นมาซับเหงื่อ  อากาศเย็นสดชื่นรอบตัว  แต่ระยะทางขึ้นเขาเป็นกิโล ๆ ก็เรียกเหงื่อจากพวกผมได้ไม่ยาก

    อีแผนเมิงเลยตัวพามาเดินทางนี้  ไหนบอกลัด ๆ ไงว๊ะ  ลัดบ้านเตี่ยเมิงดิ  ไอ้ป๋องหันไปด่าแพนฉากใหญ่ 

    ต๊าย  จะมาโทษฉันคนเดียวไม่ได้นะย๊ะ  อยู่กันตั้งหลายคน  ฉันเสนอให้นอกเส้นทาง ก็ดันไม่มีใครขัดฉัน  ทีงี้ล่ะมาโทษกัน  ต๊ายตาย  ใจตุ๊ดจริง ๆ  แพนเถียงกลับฉากใหญ่กว่า

    เมิงจะด่าพวกกรู  หรือเมิงจะด่าตัวเองว๊ะ  กรูมึนแล้วเนี่ยะ  ผมอดไม่ได้งงกับมัน

     

    ฟู่วว~~”  ไอควันขาวลอยละล่องออกจากริมฝีปากปากไอ้กิง  เมื่อไอขาวบางเริ่มจางมันจึงคีบไปที่ริมฝีปากซื้ดเอานิโคตินเข้าไปอย่างแรงจนคิ้วขมวด  สูดปล่อยอีกครั้งทางจมูก 

    เออ  ไอ้กิงกรูขอบ้าง  เหนื่อยว่ะ  ไอ้ป๋องหยุดเถียงกับไอ้แพน  ยื่นมือไปขอที่ช่วยหายใจบ้าง

    ไอ้กิงหันมองไอ้ป๋อง  ล้วงไปหยิบบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงยื่นไปให้พร้อมไฟแช๊ค

    ขอบ้างล่ะพ่อ  เต้ยเข้าไปประชุมควันอีกคน  ตามด้วยโจ ในตอนนี้ปรากฎภาพกลุ่มชายหนุ่มสูดพ่นไอควันอย่างหื่นกระหายในป่าโปร่งเขียวขจี 

     

    อย่าเผาป่าเขาล่ะพวกเมิง  เจริญชิบหาย  เข้าป่าเศือกพกบุหรี่  แทนที่จะพกน้ำมาสักขวด  ผมเหล่มองพร้อมบ่นอย่างเหยียดหยาม

    เออ  จริงด้วยว่ะ  กรูหิวน้ำ  ทั้งร้อนทั้งเหนื่อยเลย  กานต์หญิงเหล็กเริ่มออกอาการกระหายน้ำ 

    ถ้าดันหลงป่าขึ้นมา  กรูอยากรู้จริง ๆ ว่าไอ้บุหรี่เนี่ยะจะช่วยอะไรได้บ้าง  ผมหันหน้าไปถาม  จงใจมองหาเรื่องไอ้กิง 

    เอาน่า  อย่างน้อยก็จุดติดเป็นกองไฟได้ว๊ะ  ในโทษก็ยังมีประโยชน์บ้างแหละ  ไอ้โจตอบแทน

     

    แล้ว เรา จะ ไป กัน ต่อ ม้าย  จีนถามขึ้นมา

    ไปต่อดิ  อุตส่าห์เดินมาตั้งไกลแล้ว  กรูว่ามันต้องเจออะไรบ้างแหละน่า  ไอ้กิงบอกด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

     

     

    พวกผมเริ่มออกเดินต่อกันอีกครั้ง  หลังจากหยุดพักชั่วคราว  แนวท่องสำรวจทอดในป่าที่มีรอยการเดินทางอยู่ตลอดเวลาทำให้เส้นทางธรรมชาติเป็นพื้นราบไม่มีหญ้าหรือต้นไม้ใด ๆ ขึ้นเป็นแนวบ่งชี้ให้รู้ว่ายังคงเดินต่อไปได้เรื่อย ๆ  ป่าไม้โปร่งซึ่งมีต้นไม้เบญจพรรณที่ลำต้นสูงชะลูด   ในฤดูนี้ใบไม้เป็นสีเขียวสด  สองข้างทางยังมีพันธุ์ไม้แปลกตากับดอกไม้สีสวย  อากาศเย็นสดชื่นมากพอ ๆ กับเหงื่อที่เปียกชื้นเต็มเสื้อผ้า  ทางลาดชันขึ้นความกว้างของเส้นทางเริ่มตีบแคบลงรกร้างไปด้วยหญ้าสูง ป่าโปร่งเริ่มทึบหนา  เสียงนกร้องใสกังวาลไพเราะและวังเวง 

     

    ค้างคาวมันอยู่กันไกลเนาะ  วอเอ่ยมาน้ำเสียงเริ่มหวั่นวิตก

    อือ  ใครสักคนขานตอบรับไป  ด้วยความยาวไกลและยากลำบากมากขึ้นของเส้นทาง  ทำให้เราคุยกันน้อยลง

    หิวข้าวโว้ย  กี่โมงกี่ยามแล้วว๊ะเนี่ยะ  ไอ้ป๋องโพล่งขึ้นมา

    จะบ่ายแล้วว่ะ  เราออกมากันตั้งแต่ 11 โมงกว่า ๆ ใช่มั้ยว๊ะ  โจตอบพร้อมย้อนถาม

    อือ  ชั่วโมงกว่า ๆ แล้ว  ถ้ำเหวอะไรยังไม่เจอสักถ้ำ  ผมบอกไป  ผ้าขาวม้าที่พาดคอผมอยู่ชุ่มฉ่ำเปียกไปด้วยเหงื่อผม

    ปิ๊กแพกันเต๊อะ  เต้ยยื่นขอเสนอ  หลาย ๆ คนทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้ารับพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

     

     

    ไม่ว่ะ  กรูขอเดินต่ออีกหน่อย  พวกเมิงกลับไปก่อนได้เลย  ไอ้กิงยังคงตั้งมั่นต่อไป

    ทำไมว๊ะ  เมิงก็เห็นทางมันไปต่อจะไม่ได้แล้ว  เดี๋ยวไปโผล่พม่าไม่รู้ตัวหรอก  ผมฉงนหันไปถามมัน

    อุตส่าห์มาแล้ว  ให้แมร่งสุดเส้นทางไปเลยดิ  มันตอบมา  ผมลืมไปว่ามันเป็นพวกสุดโต่ง  ไม่ถึงที่สุดไม่เลิก

    อืม  ลองเดินต่ออีกก็ดีว่ะ ใช่ว่าจะมาเดินกันทุกวัน  ไอ้โจก็ดันเป็นพวกถึงไหนถึงกัน  พวกผมทั้งหมดได้แต่หน่าย ๆ จะทิ้งเพื่อนไว้ก็กระไรอยู่  กลัวพรุ่งนี้จะขึ้นข่าวหน้าหนึ่ง นักศึกษาหนุ่มดับอนาถกลางป่า  ไม่พบสาเหตุ เจอเพียงแต่บุหรี่คาริมฝีปาก  คาดว่าเป็นมะเร็งขั้นเฉียบพลัน  เลยจำใจต้องลากสังขารที่โด๊บแค่เบียร์เป็นมื้อเช้าเข้าป่าลึกไปอีก

     

     

    ----------------------------------------------------------------

     

    TBC.

     

    สวัสดีวันแม่ค่ะทุก ๆ คน   กลับมาแล้ว  ไม่เจอกันนานเลย  คิดถึงทุกคนมากเลยค่า

    สำหรับ Image ที่เสนอไป  ก็คงโดนและไม่โดนกันไปบ้าง  ถ้าไม่ตรงกับจินตนาการของเพื่อน ๆ ก็ไม่เป็นไรค่า  เพราะว่างคิดว่า  หลาย ๆ คนคงมีกิง เร ต๊อด ในหัวกันอยู่แล้ว  ^_^  แอ๊ปเหมาะทีเดียวเลยจ้า ดูท่าทางแนวเซอร์ติสท์แตกได้ใจเลย  แต่ว่าเหมือนจะผอมไปนิด  พี่ว่าถ้าบวกเดกับแอ๊ปแล้วหารสองคงออกมาเป็นต๊อดพอดี  ฮ่า ๆๆ (จะเป็นยังไงหว่า)

    น้องเมย์พี่อ่านแล้วนา  ฮามากและตรงจริง ๆ อย่างที่ไม่รู้จะเอาอะไรไปเถียง  ใจจ้าที่เอามาให้อ่านกัน

     

    ****ติชมได้ตามสะดวกค่า****

    ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้เสมอนะคะ  ทั้งแรงอ่าน  แรงเม้นท์  แรงแอด  แรงโหวต ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน โอ้ว! ซึ้ง  อย่าเพิ่งเลี่ยนว่างไปก่อนนะคะ  555

    ปล.  สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้าให้กับน้องโอห์มและน้องมิ้ลค์นะจ้า  ขอให้มีความสุขมาก ๆ  จ๊ะ

    ปล.2  รักแม่ทุกวันค่ะ  ขอให้แม่อยู่กับเราไปนาน ๆ สุขภาพกายและใจแข็งแรงเป็นมิ่งขวัญให้ลูกต่อไป (วันนี้ว่างมาหลายอารมณ์  เมาบรรยากาศมาค่า)

     

    หลังจากลงรูปเป็น  เลยเกิดอาการเมามันส์ขอลงต่อ  เป็นฉากประกอบเรื่องในตอนนี้นะคะ  เห็นแล้วโคตรอยากเที่ยว

    Credit : ON PIC












    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×