ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนาย my boyfriend. (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #18 : Chapter 16 : ต่อเวลา(อันตราย)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20.73K
      53
      8 ก.ค. 58


    บรรยากาศมืดสลัวรอบตัว  พร้อมไอเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศที่พัดผ่านพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของน้ำหอมประดับรถยนต์  รถสีดำคันหรูเคลื่อนตัวไปอย่างไม่เร่งรีบนักบนท้องถนนที่ค่อนข้างโล่งในเวลาดึกสงัด  แต่กลับเป็นเวลาที่ตื่นตัวที่สุดของเหล่านักเที่ยวกลางคืน  แสงไฟจากป้ายร้านอาคารในใจกลางเมืองสองข้างทางวิ่งผ่านตัวผมไปเป็นริ้วเส้นแสงสีสวย  ผมมองออกไปนอกกระจกรถเพื่อจะข่มอะไรบางอย่าง

     

    ไอ้กิงนั่งอมยิ้มไปขับรถไป  เอานิ้วเคาะกับพวงมาลัยรถเป็นจังหวะให้เข้ากับเพลงที่เปิดจากเครื่องเสียงรถยนต์อย่างดี  ทำนองไพเราะกับเสียงหวานประสานของนักร้องสาวขับขานคลอไปกับการเดินทาง

     

    มีฉันแล้วยังจะมองหาใครอีก   มีฉันแล้วเธอจะไปสนใครอีก 

    รู้ว่าเธอแค่มอง ก็พอจะเข้าใจ บางทีก็คิดมากไป 

    กลัวว่าฉันจะไม่ดีเหมือนใครๆ   กลัวว่ารักเราที่มีนั้นจางไป 

    ถึงยังไงก็มีแต่เธอในหัวใจ   และฉันก็ไม่โกรธ แค่อารมณ์น้อยใจ

     

    ตื้ดดดด 

     

    อ้าว  เปลี่ยนคลื่นทำไมว๊ะ  ไอ้กิงหันมาทางผมทันทีที่ผมกดปุ่มเปลี่ยนคลื่นวิทยุในรถยนต์

    กรูไม่ชอบฟัง 

    เฮ้ย  คลื่นจี๊ด เรดิโอนี่เปิดเพลงดีแล้ว  จะเปลี่ยนทำไมว๊ะ  มันถามผมขณะที่หันหน้ากลับไปมองถนนตามเดิมแล้ว  (ก็มันดันจี๊ดใจกรูไงว๊ะ)

    เบื่อ  ดีเจหน้าตาดีกว่ากรู  แล้วกรูจะฟังลูกทุ่งมหานครด้วย  ผมหน้านิ่งก่อนจะกดหาคลื่นต่อไป

    ฮ่า ๆ เออ  ก็ฟังไปละกัน  มันหัวเราะอารมณ์ดีแล้วปล่อยให้ผมทำตามใจชอบ

     

    ผมรู้สึกขัด ๆ เคือง ๆ เหมือนหน้าจะป่อง ๆ ไม่อยากคุยกับมัน  ไม่อยากมองหน้ามัน  ผมเลยหันไปมองวิวนอกรถอีกรอบ  โอ้นั่นมันปลาทองหัววุ้นที่กินซากุระคลอโรฟิลจนสีสวย  ผมมองหน้าตัวเองในกระจกส่องข้างรถ  แก้มผมพองลมจนกลมหน้าขึ้นสีได้ใจ  ผมรีบเอามือขึ้นมาลูบแก้มตัวเองให้ตอบลง  ดีที่ว่าในรถมีแค่แสงไฟจากหน้าปัดเครื่องเสียงเท่านั้น  ทำให้ไม่สามารถมองอะไรได้ชัดเจนนัก

     

    สนุกมั้ย  ไอ้กิงถามผมใบหน้าเปื้อนยิ้ม  (ผมมองเห็นจากกระจกประตูรถที่สะท้อนรูปมัน)

    สนุกกับผีดิ’  ผมคิดในใจ  แต่  ก็ดี  เหล้าลื่น  อาหารอร่อย  เพลงเพราะ  ร้านสวย  ผมตอบแบบขอไปที

    เหรอ  อือ  ถ้าชอบเดี๋ยวพามาอีก  ยังมีหน้ามาชวนอีก

    ผมหันหน้ามาทางมันแล้วตอบปฏิเสธออกไป  เฮ้ยไม่ต้องแล้ว  กรูไม่ชิน  จะให้กรูมานั่งดูเมิงถูกสาวหม้อหรือเมิงหม้อสาวอีกเนี่ยะอ่ะนะ

    มันเหลือบมามองผมแปปเดียวแล้วหันไปสนใจกับการขับรถต่อ  ไม่ชินอะไรว๊ะ  เห็นสนุกดีนี่หว่า  ไอ้ควาย  เมิงเห็นกรูสนุกตอนไหนว๊ะ

    ไม่ชินกับเพื่อนเมิงไง  ผู้ดีชิปเป๋ง  กรูกลัวจะบั่นทอนปัญญาเพื่อนเมิงว่ะ  ผมแก้ตัวไป

    ฮ่า ๆ เออ  ก็นะ  มันหัวเราะชอบใจ  มันเป็นเอี้ยอะไรก็ไม่รู้ตั้งแต่ขับรถกลับ  ก็นั่งยิ้มบ้าบอสงสัยที่ไปดูดเนื้อกับไอ้ต๊อดมา  ฤทธิ์กัญชายังคงหลอนประสาทอยู่

     

    เพื่อนสมัยมัธยมเหรอว๊ะ  ผมอดถามออกไปไม่ได้  นึกไม่ถึงว่ามันจะมีเพื่อนชาติตระกูลดี

    ไม่เชิงหรอกว่ะ  เขาเรียกว่าอะไรน้า  เดี๋ยวขอกรูนึกก่อน  แล้วมันก็ทำท่าคิดจริง ๆ เพื่อนเพื่อแสดงฐานะทางสังคมมั้ง  แต่ก็โอเค  คบกันก็ได้อยู่  มันยักไหล่ตอบน้ำเสียงเรียบ  แววตาทอดไปยังถนนเบื้องหน้าต่อไป

    เออ  กรูก็ว่า  แมร่ง  แก้งค์เพื่อนเมิงยังกะคัดหน้าตาสอบสัมภาษณ์ฐานะเข้ากลุ่ม  ผมบอกสิ่งที่คิดได้เมื่อเห็นกลุ่มเพื่อนมันครั้งแรกออกไป  แล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าบ้านมันรวย

     

    จบบทสนาผมก็นิ่ง ขัด เคือง พอง ลม อืด อีกรอบนึง  คงเป็นอาการอยากอะพอสโทรฟี่เอสมัน

     

    สาวชุดดำคนนั้นสวยชิบ  ไมเมิงไม่กลับไปกับเขาว๊ะ  ผมพิงเบาะที่นั่งแรง ๆ แล้วหันไปมองหน้ามัน

    ไอ้กิงเหลือบสายตามามองผมสีหน้านิ่ง ๆ ก่อนจะชะลอรถชิดซ้ายขับช้าไว้  เพื่อที่จะหันมามองหน้าผมแล้วยิ้มกวนตรีนใส่  ไหนว่านอนไม่หลับถ้าไม่กลับพร้อมกรูไง  น้ำเสียงหวานยอกย้อนกวนประสาท

     

    ผมรู้สึกหน้าร้อนชาลืมไปว่าพูดอะไรกับมันไว้  กะจะกวนตรีนดันย้อนมาโดนตัวซะได้  กรูก็พูดไปงั้น  ขี้เกียจนั่งแท็กซี่กลับเปลืองเงินโว้ย  ผมแก้ตัวด้วยความรวดเร็ว

    ฮ่า ๆ เออ  กรูไม่เคยคิดให้เมิงกลับเองหรอกน่า  พรุ่งนี้เมิงก็จะกลับบ้านแล้ว  มันตอบสบายใจก่อนจะเหยียบคันเร่งเพิ่มให้รถยนต์ทะยานเร็วขึ้นอีกนิด

    โธ่!  กรูเห็นเมิงเดินไปทางเขา  ผมว่าหมั่นไส้มันพร้อมบ่นต่อในใจ  ถ้ากรูไม่เรียกไว้เมิงก็ไปแล้ว  รู้สึกหน้าตัวเองพองลมอีกรอบ

    กรูจะเอากระดาษที่เขาให้ไปคืน  ของ ๆ ใครก็ต้องคืนเจ้าของสิว๊ะ  มันตอบน้ำเสียงเรียบ  แววตาและท่าทางเหมือนตั้งใจจะทำแบบนั้นจริง

    คืนที่ห้องเขาอ่ะดิ  อาการอยากอะพอสโทรฟี่เอสมันยังคงอยู่

     

    มันชะลอรถลงอีกรอบก่อนจะหันหน้ามามองผมด้วยสายตาคมมั่นผ่านความสลัวในตัวรถ  มากับเมิงจะให้กรูไปกับใครว้า  พูดจบมันก็อมยิ้มหันไปขับรถต่อ  ทิ้งให้ผมหน้าชาซ้ำอีก

     

    เมิงกับเพื่อนเมิงมาเที่ยวกันบ่อยเหรอ  เห็นเอกเล่าให้ฟังว่า  พวกเมิงเคยพนันกันด้วยว่าใครจะได้สาวมากกว่ากัน  ทำยังกับเป็นหนัง  หมั่นไส้ว่ะ  ปลายน้ำเสียงผมขึ้นจมูกฉุนหน่อย ๆ ผมก็ยังเศือกได้  จะถามให้เคืองทำไมเนี่ยะตรู

    มันก็มีบ้าง  มาเที่ยวแบบนี้

    เข้าทางเมิงเลยสิว๊ะ  มีสาวใส่พานถวายตัวไปให้ทุกคืน  ผมอดประชดมันไปไม่ได้

    หึ  ไอ้กิงขำในลำคอ  ปลายสายตามามองผม  มันก็แค่เกมส์  ใครจะกลายเป็นเหยื่อใคร  แล้วกรูไม่ชอบความพ่ายแพ้  ก็แค่นั้น  ไอ้กิงตอบเพียงสั้น ๆ น้ำเสียงไม่คิดอะไร 

    เออ  โคตรเท่ห์  แมร่ง  ไอ้เอี้ย  ไม่สงสารผู้หญิงเขาบ้างเหรอไง  ได้แล้วทิ้ง  อุ๊บ! อยู่ ๆ ผมก็รู้สึกจุกเหมือนอะไรมาแทงหลังก็ไม่รู้   ผมหันไปมองถนนที่ทอดยาวไปไกลด้านหน้า ทุกอย่างสำหรับเมิงเป็นเกมส์ไปหมดเลยเรอะ

     

    ฮ่า ๆ  ไอ้กิงหัวเราะเสียงดัง  นี่เมิงถามกรูจริง ๆ หรือเมิงกวนตรีนกรูเนี่ยะ  มันเหลือบมาทางผมคิ้วขมวดสงสัยนิดหน่อย

    กวนตรีนเอี้ยไรเมิงล่ะ  กรูไม่มีอารมณ์มากวนตรีนเมิงหรอก  ผมฉุนตอบกลับไป

    เที่ยวกลางคืน  ใครมันจะไปจริงจังกับใครว๊ะ  เมิงเห็นหญิงที่สวย ๆ เหอะ  แมร่ง  ร้ายทั้งนั้น  บางทีพวกกรูก็กลายเป็นแค่แต้มของพวกเธอไปซะชิบ  คืนนี้นอนกับกรูพรุ่งนี้ก็ไปนอนกับเพื่อนอีกคนในกลุ่ม ไม่มีใครรู้สึกผิดอะไรทั้งนั้น  มันอธิบายเรื่องแรมพิสวาทประสบการณ์ร้อนหนึ่งคืนเสียยาวเหยียดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ  ทำอย่างกับไม่เคย  มันหันมาถามผมริมฝีปากยกยิ้มบาง ๆ

    ก็เออสิว๊ะ  ใครมันจะรากราคะเท่าเมิง  ครั้งแรกกรูก็กับเมิงนี่แหละโว้ย  ผมหันหน้าไปตอบด้วยอารมณ์เคือง  ถึงจะรู้ว่านี่เป็นวิถีชีวิตปกติของนักเที่ยวกลางคืนก็เถอะ

     

     

     

    เอี๊ยด!!”  เสียงล้อเบียดกับพื้นถนนดังไปทั่วบริเวณที่มืดเข้ม  แรงกระชากของรถที่เบรคกะทันหันเข้าข้างทางทำซะผมหัวเกือบทิ่ม  ดีที่ว่ามันช้าชิดซ้ายไว้  รถที่ตามหลังจึงไม่ต้องตามด่าบุพการีให้นอนสะดุ้งที่บ้าน

     

    อะไรของเมิงว๊ะ  อยู่ดี ๆ ก็เบรครถ  จิงโจ้กระโดดตัดหน้ารึไง  สาด  ผมด่าไม่ยั้งยังตกใจกับแรงดึงกะทันหันเมื่อสักครู่  หันสายตาโกรธเคืองไปทางมัน  พลันสิ่งที่ผมเห็นจากใบหน้ามันคือความ  อึ้ง

     

                แสงไฟสีส้มสาดจากโคมไฟสูงติดถนน  ปรากฎให้เห็นใบหน้าคมคายเต็มไปด้วยความฉงน  คิ้วหนาขมวดปม แววตามองไปข้างหน้าเหมือนเพ่งพิจารณา  ริมฝีปากหยักเผยอออกจากกันเพียงเล็กน้อย  ปลายนิ้วเรียวหนาลูบคางคมสันของตนเองไว้  เพียงครู่นึงมันจึงหันหน้ามาทางผม  ตะกี้ผมพูดอะไรผิดเหรอ

     

    เมื่อกี้เมิงว่าไงนะ  มันถามผมด้วยสีหน้าน้ำเสียงจริงจัง

    หาว่าอะไรว๊ะ  ก็กรูบอกว่ากรูไม่เคยไง  ครั้งแรกกรูก็กับ...  ตายห่า  ผมพูดอะไรออกไปเนี่ยะ  ตัวผมอาบไฟสีส้มที่สาดบาง ๆ ที่เข้ามาในตัวรถผสมสีแดงจากใบหน้าร้อนของตัวเอง  ตอนนี้หน้าผมคงสีช้ำเลือดช้ำหนองน่าดู  ผมหันหน้าไปมองถนนกว้างข้างหน้าทันที 

     

    กับกรู  น้ำเสียงมันนิ่ง  อึ้ง ทึ่ง  ผมไม่อยากมองหน้ามันกระดากเกินไป  จริงเหรอว๊ะ  ฟังดูแล้วเหมือนมันจะสงสัยมากจริง ๆ

    ผมรู้สึกหิดขึ้นไปทั่วตัว  มือไม้ไม่รู้จะไว้ตรงไหน  ได้แต่เกาแก้เก้อพร้อมมองหาจิงโจ้ที่กระโดดตัดหน้ารถตะกี้

    ...

    เฮ้ย  เมิงมั่วป่าว  เมิงก็เคยมีแฟนนี่  มันจะสงสัยอะไรนักหนาว๊ะ

    ผมสุดจะทนหันหน้าไปด่ามัน  ไอ้เอี้ย  กรูจะโกหกเมิงทำด๋อยอะไรว๊ะ  แล้วเมิงก็อย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานด้วย  ถึงกรูจะเคยมีแฟน  แต่บ้านกรูมันต่างจังหวัดนะโว้ย  ป๊อปปี้เลิฟน่ะรู้จักมั้ย  แค่จับมือกันก็รู้ไปสามบ้านแปดบ้านแล้ว  ขืนกรูทำแบบเมิง  กรูไม่ต้องโดนจับแต่งงานตั้งแต่อายุไม่ถึง 20 เหรอว๊ะ  ผมพูดจบแล้วรู้สึกเหมือนภายในรถมันร้อนขึ้นยังไงก็ไม่รู้ทั้งที่แอร์เย็นฉ่ำ

     

    เรื่องจริงเหรอว๊ะเนี่ยะ  สายตาฉงนเพ่งมองผมพร้อมใบหน้าคม  ทำให้ผมรู้สึกร้อนอายหนักขึ้นไปอีก

    ไม่ใช่ว่าจะมีแต่กรูคนเดียวสักหน่อย  ไอ้ป๋องก็ต้องยังไม่เคยแน่  ขอพาดพิงหน่อยนะเมิง  เห็นเมิงยังไม่เคยมีแฟนมาเป็นพวกเดียวกะกรูหน่อยเห๊อะ

    ฮ่า ๆ  ไอ้กิงขำบ้าบออีกแล้ว  ไอ้ป๋องเนี่ยะอ่ะนะ  มันบอกเมิงเหรอ 

    เปล่า  ผมก้มหน้าต่ำอุบอิบตอบไป  ทำไม  มันเคยเรอะ”  ถึงพวกเพื่อนผมจะคุยกันเรื่องพรรค์นี้บ่อย ๆ ในวงเหล้าก็เหอะ  ผมก็นึกว่าที่มันเล่าเรื่องประสบการณ์ร้อยแปดเป็นแค่เรื่องโจ๊กในวงสนทนา

    ถามว่าใครไม่เคยมั่งดีกว่าว่ะ  ไอ้กิงบอกน้ำเสียงยียวนอยู่ในตัว   โอ้ยไอ้พวกเวรทำไมพวกเมิงไม่เคยผ่านวัยใสใสมารึไงว๊ะ  แบบยิงหนังสติ๊ก  ปีนต้นไม้  ตกปลา  นัดไปเตะตะกร้อตอนเรียนเสร็จเนี่ยะ  สมัยม.ปลายกรูยังทำแบบนั้นอยู่เลย

     

     

    ท่ามกลางบรรยากาศนิ่งเงียบที่เว้นว่างจากการสนทนาไปสักพัก

    ว้าว  เสียงร้องเหมือนคนถูกหวยดังขึ้น  สุดยอด  โชคดีชะมัดยาดเลย  ไอ้กิงน้ำเสียงพึงพอใจสุด

    โชคดีเอี้ยไรว๊ะ  ผมหันไปถามมันพร้อมกับพยายามระงับความร้อนในตัวไปด้วย

     

    ตุบ’  ไอ้กิงนั่งเอาศีรษะพิงกับช่วงแขนแกร่งทั้งสองข้างที่พาดไว้กับพวงมาลัยรถ  หันใบหน้ามาทางผมพร้อมรอยยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่จะเคยเห็นมันแสยะริมฝีปากมา  นัยน์ตาเรียวมองด้วยความสุขใจ

    โชคดีที่ได้เป็นครั้งแรกของเมิงไง  โคตรดีใจเลยว่ะ  มันบอกด้วยน้ำเสียงสดใส  ไอ้หน้าด้าน

    ดีใจบ้าอะไรว๊ะ  ได้ครั้งแรกของผู้ชายนี่เมิงภูมิใจมากนักรึไง  ทำยังกะถูกหวย  ไอ้ประสาทเอ้ย  เหมือนมีใครเอาไฟมาสุมไว้ที่ผมความร้อนแล่นอาบตัวเองยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ที่ผ่านมา  ผมพยายามทำตัวให้ชินกับความประสาทแดกของมันแต่เหมือนมันจะยากเหลือเกิน

     

    หึหึ  เมิงยังจะขำอีก  ไม่เกี่ยวว่าได้ครั้งแรกของใคร  แต่กรูได้เป็นคนแรกของเมิงต่างหาก  มันพูดด้วยเสียงจริงใจแบบไม่อายผีสางเทวดา

     

    เฮือก’  ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือหนามาสัมผัสที่แก้มผมเพียงบางเบา  แววตาหวานร้ายส่งมาให้ผม

    แล้วเมิงดีใจมั้ยที่กรูเป็นคนแรกของเมิง  น้ำเสียงแผ่วร้อนพร้อมรอยยิ้มกว้างมากับประโยคคำถาม

     

    ผมพยายามจะเบียดตัวเองกับประตูรถให้เป็นเนื้อเดียวกันเพื่อหนีจากมัน  หิดเหมือนจะขึ้นที่คอผมเลยเอามือมาเกาแก้คัน  ร้อนจนต้องเอื้อมมืออีกข้างไปปรับความเย็นของแอร์เพิ่มขึ้น

    ดีใจบ้านเมิงสิ  มาเสียตัวให้เมิงเนี่ยะ  ไม่รู้เป็นกรรมเวรแต่ชาติปางไหนของกรู  ผมคิดว่าน้ำเสียงก่นด่าที่ออกไปคงพอจะปิดบังอาการเหล่านี้ได้บ้าง

     

    ไอ้กิงยิ้มกว้างเห็นฟันครบ 32 ซี่  ก่อนจะหันมาเหยียบคันเร่งจับพวงมาลัยพร้อมจะออกตัวรถอีกครั้งหนึ่ง  รถยนต์วิ่งเรียบลื่นไปตามทางบนท้องถนนแล้วยูเทิร์นกลับตัวรถ  เร่งความเร็วให้มากยิ่งขึ้นจนเกือบจะหมดไมล์บนถนนยามราตรีดึกสงัดที่มีเพียงรถที่ชอบความไวไม่กี่คันเท่านั้นที่ร่วมขับเคลื่อนไปบนถนนเดียวกัน

     

    ไอ้กิงเมิงจะไปไหนว๊ะ  ไม่ใช่ทางกลับหอนี่  ผมทักออกไปหลังจากสังเกตได้ว่ามันมาอีกเส้นทางหนึ่ง

    ไปคอนโดกรู  อยู่ใกล้แค่นี่เอง  มันตอบนิ่ง ๆ  โห   รวยเนาะ  สาด  บ้านก็มียังจะสร้างคอนโดอีก’  ผมด่าพร้อมความอิจฉาในใจ 

    แล้วเมิงจะไปทำไมว๊ะ  ขับไปอีกไม่ถึงครึ่งชม.ก็ถึงหอแล้ว  กรูต้องเตรียมตัว  พรุ่งนี้จะกลับบ้านแล้ว”  เวลาในตอนนี้ดึกมากแล้วครับ

     

    กรูทนให้ถึงหอไม่ไหวหรอกว่ะ  พูดจบมันก็ปรายสายตามามองผม  ยกยิ้มมุมริมฝีปากข้างเดียว

    ผมเข้าใจความหมายนั้นในทันที  ไอ้กิง  ไม่เอาโว้ย  กรูไม่ไป  กรูจะกลับหอ  อีกแล้วมันมาอีกแล้ว  ผมไม่อยากเล่นวินนิ่งตอนนี้น้า

     

    แล้วแต่เมิง  ถ้าไม่ใช่ที่คอนโดก็ที่รถ  เดี๋ยวกรูหาที่จอดได้  มันยื่นข้อเสนอที่เหมือนผมจะไร้ทางเลือกออกมา

    ไม่เอาที่ไหนทั้งนั้นแหละโว้ย  จะที่ไหนกรูก็ไม่เอา  ยิ่งที่รถกรูยิ่งไม่เอาใหญ่  ผมปฏิเสธพัลวัน  ความร้อนตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายแข่งกันเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้น

     

    ไอ้กิงใช้มือข้างนึงควบคุมพวงมาลัยรถไว้  มืออีกข้างยกปลายนิ้วขึ้นมาไล้ปลายคางตนเอง  มีการเล่นลิ้นในกระพุ้งแก้มของมันก่อนจะลอบออกมาเลียริมฝีปากเพียงเล็กน้อย  หน้ามันตอนนี้ดูเจ้าชู้ลามกได้ใจ

    งั้นก็ที่คอนโด  มันเหลือบสายตาส่งยิ้มวาบหวามให้  ก่อนจะหักเลี้ยวรถเข้าอาคารสวยสูงขนาดใหญ่ใจกลางเมืองตรงหน้า

     

    อ้ากกก  ตอนนี้ผมอยากจะเป็นจาพนม  เปิดประตูรถออกด้วยความไวแล้วพุ่งตัวกลิ้งตลบสักสามสี่รอบ  ไปทำภารกิจ  ช้างกรูอยู่ไหน  หนีให้พ้นจากสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้

    .

    .

    .

    .

    .

    .

                ห้องชุดขนาดพอดีที่ตกแต่งอย่างสวยเท่ห์มีสไตล์ตามลักษณะเจ้าของห้อง   อยู่ชั้นบนที่สูงมากของคอนโดแห่งนี้  ส่วนกลางเป็นห้องรับแขกกึ่งนั่งเล่นขนาดกว้างประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์เพียงน้อยชิ้น  โซฟาชุดใหญ่ดีไซน์เรียบเท่ห์สีเทาเข้มตั้งเด่นอยู่กลางห้อง  อีกฝั่งนึงเป็นชั้นไม้เตี้ยสีน้ำตาลดำมีทีวีพลาสม่าจอกว้างตั้งอยู่กับเครื่องเสียงชุดนึง   ผนังประตูกระจกเต็มบานอยู่ริมนอกสุดของห้องที่สามารถเปิดออกไปยังระเบียงรับลมยามค่ำคืนของกรุงเทพได้   วิวแสงสีสวยจากอาคารและยวดยานยามราตรีภายนอก  สามารถมองเห็นจากห้องนี้ได้อย่างชัดเจน    

     

    โอ้โหห้องสวยดีว่ะ  ผมตื่นเต้นเล็กน้อยที่ได้มาคอนโดมันครั้งแรก  ส่วนมากมันใช้ชีวิตอยู่กับผมมากกว่าผมใช้ชีวิตอยู่กับมัน

     

    ไอ้กิงยิ้มรับเรียบ  เดินไปนั่งที่โซฟาใหญ่ตัวนุ่มกดรีโมทเปิดแอร์สร้างบรรยากาศเย็นไหวรอบตัว  ไฟสลัวสีอุ่นกระจายจากโคมดาวน์ไลท์ภายในห้อง  ผมเดินไปดูส่วนต่าง ๆ ของห้องชุดด้วยความสนุก  ห้องมันเรียบมากถึงมากที่สุด  มีเพียงเฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ตัว  กับของตกแต่งอีกเล็กน้อย  แต่ที่เด่นสุด ๆ คงจะเป็นตู้ปลาทะเลขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับประตูกระจกกว้างตรงระเบียง  ตู้ปลาซ่อนไฟสีฟ้าสวยส่องประกายระยับกับผืนน้ำ  ผมมองดูด้วยความสนใจ 

     

    ไอ้กิง  ทำไมตู้ปลาเมิงไม่มีปลาสักตัวเลยว๊ะ  มีแต่ปะการังกับดอกไม้ทะเล  ผมอดแปลกใจไม่ได้

    ปลามันจะสวยที่สุด  ก็ต่อเมื่อมันได้ว่ายในที่ของมัน  กรูเลยไม่เอามาใส่ไว้  เสียงตอบรับใกล้ตัว

    โห  แนวนะเมิง  แล้วจะเศือกซื้อตู้ปลามาตั้งไว้ทำไมว๊ะ  ผมอดหมั่นไส้แขวะมันไปไม่ได้  สายตายังคงจ้องมองไปในตู้ปลาใส  ดูดอกไม้ทะเลสีสวยที่พลิ้วไหวตามแรงวนของน้ำด้วยความเพลิดเพลิน

    กรูชอบน้ำน่ะ  เห็นแล้วรู้สึกดี 

    เหรอ  อืม  ถ้างั้นเดี๋ยวกรูพาไปเที่ยวเกาะ  ดำน้ำตื้นดูปลากันมั้ย  ผมชวนไปด้วยความสนุก  พวกผมมักจะคิดหาโปรแกรมเที่ยวกันเสมอ  ได้เที่ยวทะเลหลังจากเหนื่อยมานานก็คงจะดีไม่น้อย 

     

    เฮือก’  ผมมีอันต้องสะดุ้งสุดแรงอีกครั้ง  มือหนาล้วงสอดไล้มาในเสื้อยืดแถมกระทิงแดง  มืออีกข้างค้ำตู้กระจกใสเอาไว้  คมหน้าแกร่งเข้าซุกแรงตรงซอกคอร้อนจากทางด้านหลัง  ลมหายใจรวยรินอยู่ใกล้ใบหูจนขนลุกซู่

     

    กิง  ผมผงะตัวแรง  ตกใจไปกับสัมผัสที่ได้รับ  มัวแต่เพลินไปกับการดูห้องชวนคุย  จนลืมจุดประสงค์หลักไปว่ามาทำอะไร

     

    อือ  มีกลิ่นบุหรี่ด้วย  เสียงแผ่วร้อนข้างหู  ริมฝีปากชื้นไซร้ไปทั่ว  มือหนาเริ่มล้วงไล้ไปตามแผ่นอกเล็ก  มือข้างที่ค้ำกระจกเปลี่ยนมาเริ่มปลดตะขอเข็มขัดของผม  ความร้อนแล่นอาบจากแผงอกแกร่งของมันที่ผมสัมผัสได้จากแผ่นหลังของผมเอง  ไอ้กิงกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นจนแทบไม่เหลือช่องว่างให้หายใจ  มือหนาไล้จากหน้าอกลากนิ้วเรียวขึ้นเรื่อยตามแนวลำคอเพื่อเชยคางให้หันไปรับรสจูบร้อน

     

    ดะ...เดี๋ยว  ผมยกมือขึ้นหยุดใบหน้ามันที่กำลังจะอ้อมมาข้างหน้าไว้ก่อน

    หืม  มันส่งสายตาเป็นเชิงคำถาม  โน้มตัวเอาคางมาเกยบนบ่า  มือทั้งสองข้างเปลี่ยนมากอดรวบเอวผมไว้

    ขออาบน้ำก่อนได้มั้ย  กรูเหม็นตัวเองว่ะ  ผมเอี้ยวศีรษะหันไปเผชิญสายตามันด้วยหัวใจที่เต้นรัวเร็ว

    มันทำหน้าครุ่นคิดแปปนึงแล้วคลายอ้อมกอดลง  อืม 

    ผมอมยิ้มรับ  ก่อนจะปลีกตัวจากมัน

     

     

    แกร๊ก’  ผมปิดประตูห้องน้ำอย่างไม่เร่งรีบ   ห้องน้ำสวยเท่ห์ด้วยโทนสีดำที่ตัดกับชุดสุขภัณฑ์สีขาวสะอาด  เป็นห้องน้ำที่กว้างใช้ได้เลย  มีอ่างอาบน้ำให้แช่ผ่อนคลาย  ผมชื่นชมกับการตกแต่งเพียงไม่นาน  พอตั้งสติได้  พลัน   

     

    เฮ้อออ  เกือบตายแล้วตรู  ผมถอนหายใจยาว  ก่อนจะสูดอากาศเข้าให้เต็มปอด  มองภาพตัวเองที่สะท้อนในกระจกเงาบานใหญ่    ช่างเหมือนเซลล์กระทิงแดงที่ผ่านการออกพื้นที่ขายให้ครบตามยอดแถวจังหวัดตะเข็บชายแดน   ไอ้กิงมันหื่นขึ้นได้ไงว๊ะ’  ผมได้แต่สงสัยในสมรรถภาพทางเพศของมัน  ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมABCXYZกับมัน  แต่ก็ทนทำใจให้ชินไม่ได้สักที 

     

    ไม่ทันที่จะได้คิดเรื่อยเปื่อย มุขเดิม ๆ ถูกประดิษฐ์ขึ้นในหัวผม ทั้งหาทางเอาตัวรอด  แผนหลักแผนรองต่าง ๆ นานา  อาบให้นานเข้าไว้ได้หลับตายกันไปข้างนึง  คิดไปคิดมาผมก็อาบน้ำเสร็จเสียแล้ว

     

    กิง  มีชุดนอนให้กรูเปลี่ยนมั้ย  ผมกระชับชุดคลุมอาบน้ำให้แน่นขึ้น  เมื่อผิวตัวที่ผ่านการชำระมาสัมผัสกับอากาศเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศทำให้รู้สึกหนาววาบจนต้องสะดุ้ง  (ชุดที่ผมใส่มามันเหม็นบุหรี่เกินทน)

     

    ภายในห้องรับแขกมีเพียงความว่างเปล่า  โซฟาชุดใหญ่ไร้คนนั่ง  ผมมองหาไอ้กิง  แอบดีใจคิดว่ามันอาจง่วงจนไปนอนในห้องแล้ว  ผมเริ่มออกเดินไปทางห้องนอนเพียงห้องเดียวที่อยู่ติดกับห้องน้ำ

     

    เฮ้ยยยย  ผมตกใจร้องเสียงหลง  ทันทีที่ถูกอุ้มกระชับเอวจากด้านหลังจนตัวลอย  ตัวผมถูกจับมานั่งบนโซฟายาวตัวใหญ่กลางห้องรับแขกด้วยความรวดเร็ว

     

    เล่นเอี้ยไรว๊ะกิง  ผมเคืองกับการเห็นผมเป็นหมาน้อยสักตัว  นึกจะจับก็จับ  นึกจะแบกก็แบก  นึกจะอุ้มก็อุ้ม

     

    ไม่มีคำตอบจากปากมัน  มีเพียงสายตาคมร้อนที่ทอดมา  สองมือแกร่งค้ำยันพนักโซฟา  ตัวผมอยู่ในอ้อมแขนของมัน  ร่างสูงสมส่วนอยู่ห่างจากร่างผมแค่ลมหายใจ  ริมฝีปากหยักยกยิ้มพร้อมแววตา  ก่อนจะซุกใบหน้าคมสันมาที่ลำคอเรียว  ความชื้นจากริมฝีปากประทับที่ผิวเนื้อจนผมตัวเกร็งห่อไหล่

     

    กิง  เสียงแผ่วออกจากปากผม  มือที่พยายามจะผลักหรือดึงตัวคนตรงหน้าก็ไม่รู้

    หืม  หอมจัง  คมหน้าซุกแรงมากยิ่งขึ้น  รับรู้ถึงลมหายใจร้อนที่สูดเอากลิ่นกายของเพื่อนตนเข้าไป  มือหนาไล้จากเรียวขาลูบอย่างเบามือแทรกเนื้อผ้านุ่มของชุดคลุมไปตามต้นขาด้านใน

    หอมอะไรเล่า  ก็เดทตอลฆ่าเชื้อโรคที่เมิงใช้น่ะแหละ  ผมพูดจบก็ผลักมันออกไป ยกหลังมือขึ้นมาบังใบหน้าโดยไม่รู้ตัว  ความอายวิ่งไปทั่วร่าง

     

    เหรอ  มันตอบเพียงสั้น ๆ ใบหน้าอมยิ้มสนุก  ไอ้กิงยันตัวเองขึ้นใช้เข่าข้างนึงค้ำน้ำหนักไว้บนโซฟา เท้าอีกข้างยืนบนพื้นห้อง  สองมือหนามันรวบชายเสื้อยืดสีขาวถอดออกผ่านทางศีรษะ เผยกล้ามเนื้อได้รูปตรงช่วงตัว แล้วดึงเสื้อให้พ้นจากช่วงแขนยาวแกร่งทิ้งไว้บนพื้นห้องอย่างว่องไว  ก่อนจะเปลี่ยนมาปลดตะขอเข็มขัดตัวเองออก  ผมมองกิริยาของมันจนแทบลืมหายใจ  รู้สึกเหมือนจะตายให้ได้เลยต้องเบือนหน้าหนี  ‘คนบ้าอะไรว๊ะถอดเสื้อยังเร้าใจเลย’  ผมแอบหื่น

     

    กิง  กรูขอชุดนอนหน่อย  หนาวว่ะ  ผมบอกมันทั้งที่เบือนหน้าออกจากมันอยู่  ถึงจะรู้อยู่แล้วว่ายังไงก็คงไม่ได้ชุดนอนมาใส่แน่ ๆ  มุขเอาตัวรอดสารพัดที่ยังจะหยิบมาใช้  แม้ไม่มีผลก็ตาม

     

    ควับ’  สองมือหนามันจับหน้าผมให้ไปเผชิญแววตาร้อนของมัน  อาภรณ์เราสองคนน้อยลงเรื่อย ๆ ผมกระชับชุดคลุมอาบน้ำให้แน่นขึ้น

     

    เดี๋ยวกรูทำให้ร้อนเองนะ  มันพูดด้วยน้ำเสียงยอกย้อนกวนประสาท  ใบหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์

    ...  ไม่มีคำตอบออกจากปากผม  มีเพียงหลังมือที่ป้องใบหน้าตัวเองไว้  ร้อนเองโดยไม่ต้องให้มันช่วย

     

    สัมผัสเป็นไปอย่างเนิบนาบอ้อยอิ่งค่อย ๆ ไต่ระดับความรุ่มร้อน  แรงเร้าจากมือหนาและริมฝีปากชื้นของไอ้กิงทำสติผมแทบหลุดลอย  กรูอยากเป็นครั้งแรกของทุกอย่างของเมิง‘  มันบอกผมไว้  ก่อนบทรักที่แสนน่าอายจะบรรเลง  แน่นอนผมไม่เคยห้ามมันได้หรือเพราะผมไม่คิดจะห้ามมันอยู่แล้วก็ไม่รู้ 

     

    ผมปล่อยให้ไอ้กิงทำตามต้องการ ทุกท่วงทำนองและจังหวะสอดประสานเลื่อนไหลไปตามแต่อารมณ์จะนำพา  เราสบสายตา  เราจูบกันแทนคำพูดใด ๆ  สองมือผมโอบรัดรอบศีรษะมันที่ซุกไซร้มาตรงซอกคอผม  จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อน    เมื่อเราทั้งคู่ถูกเติมเต็มความปรารถนา  ผมนั่งไร้เรี่ยวแรงปล่อยร่างกายตัวเองบนตักมัน

     

    เร  ไหวมั้ย  น้ำเสียงแหบต่ำกระซิบถามข้างหู  อ้อมแขนแกร่งโอบรัดรอบเอวบาง  มือหนาอีกข้างค่อย ๆ ลูบศีรษะอย่างเบามือ  นิ้วยาวแทรกผ่านเรือนผมที่ชื้นจากหยาดเหงื่อ  ลำตัวแกร่งกลายเป็นที่พักฟื้นชั่วคราว

     

    ผมทำอะไรอยู่  ผมเพิ่งทำอะไรไป  ความเหนื่อยอ่อนเข้าถาโถมจนไม่อยากจะคิดอะไร  รู้แต่ว่าความอบอุ่นอ่อนโยนจนแทบบ้าเล่นงานผมอยู่  ขอเวลาได้ซบไปบนร่างข้างหน้านี้อีกสักนิด  เปลือกตาผมเริ่มปิดลง

     

    เฮ้  จะหลับแล้วเหรอ  เสียงเรียกเพิ่มความดังขึ้นมาอีกไม่มาก  มือลูบไล้เรียกแผ่วเบา  ผมที่งัวเงียจากกิจกรรมเข้าจังหวะเมื่อสักครู่ขี้เกียจจะตอบคำถามมันสักเท่าไหร่

    อือ  ง่วงไม่ไหวแล้ว  เหนื่อยด้วย  แต่ก็บอกไปตามความเป็นจริง  ทิ้งน้ำหนักทั้งหมดไปบนตัวมัน  หมดแรงจะลุกไปไหน

    อะไรกันว้า  เร็วไปรึเปล่า  เสียงยียวนกวนประสาทไม่ต่างจากตัวลอยวนอยู่ข้างหูผม

     

    ผมยันตัวเองเท่าที่แรงยังเหลืออยู่  นึกอยากได้กระทิงแดงมากินเพื่อมาเถียงกับมันอีกสักยก  สองมือผมค้ำบ่ากว้างมันไว้  เมิงกินแรงกรูนี่หว่า  เหนื่อยนะโว้ย  อยู่ข้างบนน่ะ  ผมบ่นไปโดยไม่ทันสังเกตเนื้อหา

     

    รอยยิ้มกว้างปรากฎบนหน้ามันอีกแล้ว ผมว่ามันยังหลอนประสาทกับกัญชาอยู่แน่ ๆ ยิ้มมีความสุขอะไรได้ขนาดนั้น  รู้แล้วเหรอว่าเหนื่อย  เสียงทุ้มเอ่ยบอก  หืม  ยักคิ้วข้างเดียวเป็นเชิงคำถาม  สองมือโอบกระชับรอบเอวผมให้แน่นเข้ามา

     

    ผมรับรู้ได้ถึงความร้อนอายที่แล่นฉาบไปทั้งตัว  ทั้งที่เมื่อตะกี้ยังไม่รู้สึกอะไรเลย  ไม่รู้โว้ย  ไม่รู้อะไรทั้งนั้น  รู้แต่กรูจะไปนอนแล้ว  ผมมีอันต้องแพ้ทางมันเพราะความปากมากของผมเอง  พยายามออกแรงยันตัวเองออกจากมัน  บทสนทนาไม่น่าจะมาอยู่ในตำแหน่งที่นั่งประหลาดหวาดเสียวอีกแล้ว

     

    ควับ’  แรงกดนุ่มนวลพาร่างผมนอนราบไปบนโซฟากว้าง  ไอ้กิงผลักตัวผมใช้แขนค้ำน้ำหนักตัวเองให้ร่างกายกำยำคร่อมร่างผมแทน  เปลี่ยนท่าแล้วสถานการณ์ไม่ได้ดีขึ้นเลย 

     

    ง่วงเนอะ  นอนเหอะ  ผมยิ้มหน้าเป็น มือดันตัวหนาไว้พอประมาณ  รู้ทั้งรู้ว่าไอ้กิงเป็นพวกน้องพลับขอสอง  คืนนึงครั้งเดียวเคยพอที่ไหน

     

    อืม  งั้นรอบนี้กรูเหนื่อยเองนะ  มันก็ยิ้มหน้าตายตอบ  นั่นไงผิดจากที่คิดซะที่ไหน  ผมไม่ยักรู้ว่าก่อนกลับบ้านยังจะมีวินนิ่งรอบต่อเวลา  แถมรอบนี้ยังผลัดกันทำเกมส์รุกเกมส์รับเสียด้วย   และที่สำคัญขอขอบคุณกระทิงแดงผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ

     

    ------------------------------------------------------------------

     

     

    TBC.

     

     

    ขอแก้ไขบทอัศจรรย์นะคะ  หายไปหลายหน้าเชียวค่ะ

     

    สุดท้ายนี้เช่นเดิมค่ะ  ติชมได้ตามสะดวก พบคำผิดบอกได้นะคะ

    ขอบคุณที่มาอ่าน มาเม้นท์ มาแอด มาโหวตกันค่ะ   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×