ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนาย my boyfriend. (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 10 : เสี่ยง!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 19.33K
      49
      20 พ.ค. 50




    ตอนนี้เป็นฤดูกาลสอบกลางภาคของมหาวิทยาลัย  เด็กทั้งมหาวิทยาลัยก็กำลังตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือกันอย่างเต็มที่  วันเวลาเดินไปอย่างกดดัน  ไม่เว้นแม้กระทั่งพวกผม  แต่ไม่ใช่สอบกลางภาคหรอกครับ  เป็นโปรเจคสำคัญที่มีผลไม่ต่างจากการสอบกลางภาคสักเท่าไหร่

     

                3 สัปดาห์แล้วที่กิจกรรมรับน้องผ่านมา  บรรยากาศในคณะเต็มไปด้วยความสุขอมขมกลืน  ไม่ต่างจากตัวผมเท่าไหร่  ผมคิดว่าโชคดีเหลือเกินที่มีโปรเจคมากมายหลากหลายวิชารอให้พวกผมมาทำหลังรับน้อง  เพราะวินนิ่งเกมส์นี้จะยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น

     

    โอ้โห!  หล่อมาเลยโว้ย  ไอ้ป๋องทักทายเพื่อน ๆ ที่ท่าทางง่วงซึมกันพอประมาณ

    เมิงก็เหมือนกัน  ยังกะปลากะโห้ขายประกันเลยว่ะ  ไหนขอดูกรมธรรม์รักษาพันธุ์สัตว์น้ำหน่อยเด๊ะ  ผมไม่วายกวนตรีนมันกลับไป

    เอี้ยเร  ประกันปากเมิงก่อนมั้ย  มันตอบกลับมา

     

    ไม่ต้องแปลกใจไปครับ  วันนี้เป็นวันสอบมิดเทอมวันสุดท้าย  วันที่โดนจารย์เรินดัดหลังหักเหลี่ยมโหด  กำหนดโปรเจคถูกเลื่อนเร็วขึ้น 1 สัปดาห์  โชคดีที่พวกผมตุนส่งแบบร่างไว้ก่อนไม่งั้น  เอฟเอฟมั้ย?กันแน่ ๆ พวกผมต้องพรีเซ้นท์งานในวันนี้ด้วย  จึงจำเป็นต้องทำตัวเป็นนึกศึกษาที่ดี แต่งตัวตามกฎระเบียบมหาวิทยาลัย  จากเสื้อไม่รีดต้องเป็นเชิ้ตขาวสะอาดตา  จากยีนส์มือสองสีซีดสภาพร่อแร่เป็นแสล๊คสีเข้มเรียบร้อย  จากผ้าใบเน่า ๆ ที่ราคาแพงกว่าคอนเวิร์สมือหนึ่งเป็นรองเท้าหนังขัดมันอย่างดี  เสื้อถูกสอดในกางเกงเรียบร้อย  เนคไทผูกมาอย่างดี  เหลือก็แค่ขึ้นเขียงให้จารย์สับเล่นตามใจชอบ

     

    ใครขึ้นคนแรกว๊ะ?  ไอ้กิงมาในสภาพหล่อลากไส้ถามขึ้นมา  ในภาวะปกติมันก็หล่อปานจะแหกตูดดมอยู่แล้ว  ในชุดเรียบร้อยเต็มยศแบบนี้เห็นแล้วอยากกระชากเนคไท

    เรา เอง  แค่ได้ยินเสียงก็เดาได้ว่าใคร

    ฮ้า  จีนคนแรกเหรอ  ตาย ๆ วันนี้เที่ยงคืนก็ไม่จบ

    เว่อร์ ปาย น้า ป๋อง เรา ไม่ เท่า ไหร่ หรอก พรี เซ้นท์ เสร็จ แล้ว อา จารย์ ก็ คง จะ ปล่อย ไป แต่ ป๋อง น้า คราว ก่อน ก็ ยืน อยู่ นิ่ง ๆ ให้ อาจารย์ ด่า ตั้ง ชั่ว โมง ไม่ ใช่ เหรอ  จีนตอบยาวแบบเรียบ ๆ แต่ไอป๋องจุก

    เร  เมิงอ่ะ  คนที่เท่าไหร่  ไอกิงหันมาถามผม

    ผมรับตารางพรีเซ้นท์งานมาดู  คนที่ 10 น่ะ  กลาง ๆ พอดี  ห้องผมมี 18 คนครับ

    กรูสิเซ็ง  ขึ้นคนสุดท้าย  โจบ่นขึ้นมาบ้าง

    โห!  ดีแล้ว  ไม่มีใครอยากขึ้นต่อจากเมิงหรอกไอโจ  ไอ้ป๋องว่า  ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันของโจ  ทำให้โจเป็นคนพรีเซ้นท์งานได้ดีมาก  จากงานเน่า ๆ กลายเป็นงานระดับเทพได้เลย

     

    เฮ้ย!  นี่มากันครบเลยเรอะทั้งcon.  Pro.  Buil. เลยเรอะ  ผมอุทานขึ้นมาเมื่อเห็นรายชื่ออาจารย์ผู้ตรวจผลงาน  เป็นชื่อย่ออ่ะครับ con.คือ concept หรือ แนวความคิดในการออกแบบ  Pro คือ process หรือ ข้อมูล  Buil คือBuilding หรือ อาคาร,โครงสร้างอาคาร (เป็นความถนัดของอ.แต่ละท่านที่ใช้จี้ไล่ต้อนนศ.)

    เออ แท๊คทีมกันมาเลย  แล้วจะรอดกันมั้ยว๊ะเนี่ยะ  โจบอกเสียงเบื่อโลก 

    ในโปรเจค ๆ นึงของพวกผมมักจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดดเด่นมากจากใน 3 อย่างนี้  ถ้าอ.ตรวจคนเดียวอาจพอเอาตัวรอดไปได้  แต่นี่มาหมด  คงเหลือแต่ซากกันแน่แท้

    .

    .

    .

                กว่าคนสุดท้ายจะขึ้นพรีเซ้นท์เสร็จ  เวลาก็ล่วงเลยไปทุ่มนึงแล้ว 

    เจอกันที่ร้านรูนะ  ไอ้ป๋องนัดขึ้น  ก่อนจะแยกย้ายกันไป  เป็นประจำของการส่งงานของพวกผม  เมื่อจบงานวงจรอุบาทว์ก็จะเริ่มต้นขึ้น

     

    เดี๋ยวกรูกลับบ้านก่อนนะ  คืนนี้ค่อยเจอกัน  เมิงจะไปกับกรูรึเปล่าเร  ไอ้กิงหันมาถามผม  เป็นไปได้ผมเลี่ยงการอยู่สองต่อสองกับมันมากที่สุด

    ผมส่ายหัวรักษาพรหมจรรย์เล็กน้อย  ไม่ว่ะ  แล้วเมิงกลับบ้านไปก่อนไมว๊ะ  ไม่ไปเปลี่ยนชุดห้องกรู  แต่ทำไมถึงชวนเข้าห้องล่ะตรู

    ป๊ากับม๊ากลับมาบ้านว่ะ  ให้กรูแวะไปหาให้ได้ เลยต้องแบกหน้ากลับไปหน่อย  ยังไงก็เป็นคนส่งเสียกรู  พูดจาแลดูกตัญญูหวังผลนะเมิง

    อืม  งั้นค่อยเจอกัน

    .

    .

    .

                คืนวันสอบมิดเทอมวันสุดท้าย  คนเลยคราคร่ำเต็มร้านรูสะบาย  โชคดีที่พวกผมสนิทกับเจ้าของร้าน  เลยพอมีที่นั่งเหลือให้ดื่มกัน  โจ  จีน  และป๋องมานั่งอยู่ก่อนแล้ว

    ไมมากันแค่นี้ว๊ะ?  ผมสงสัย  เพราะปกติมันแห่มากันยังกับร้านแจกเบียร์ฟรี

    อีก 3 ห้องมันยังไม่ส่งโปรเจคเลยยังไม่มีใครมา  ส่วนห้องเรามันก็แยกย้ายกันไปร้านอื่นบ้างว่ะ  โจตอบผมมา

    พวกผมสั่งเบียร์มาหลอดนึงแล้ว  ผมก็นั่งดื่มไปเรื่อย ๆ สลับกับบทสนทนา  ผมเหม่อมองไปทั่วร้าน ก่อนเห็นสิ่งผิดปกติ

     

                กลุ่มชายโฉดราวกับกลุ่มโจรก่อการร้าย  เสื้อผ้าชุดสีดำสวมทับด้วยแจ๊คเก็ตหนังสีเข้มอีกทีหนึ่ง  มี 1 คนดูเหมือนเป็นหัวหน้า  อีก 3 คนน่าจะเป็นลูกกระจ๊อก  ปกติร้านรูจะมีแต่กลุ่มนักศึกษามานั่งกินกัน  แต่ตอนนี้มีคนแปลกหน้า  เหมือนขับฮาเล่ย์แล้วมาแวะพักดื่มน้ำกัน  แม้หน้าตาจะออกแนวเขมรไทรโยคขี่กะป๊อก็ตาม

     

    อย่าไปยุ่งกับพวกนั้นหละ  เสียงพี่เต้เจ้าของร้านรูสะบาย  ชายหนุ่มวัย 30 ต้น ๆ หน้าตาใจดี  ที่เปิดร้านตามความฝันตัวเอง

    มีอะไรเหรอครับพี่  ป๋องถาม  ท่าทางสงสัย

    พวกลูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่น่ะ  บางทีก็ชอบมานั่ง  มาจีบสาวบ้าง  พี่ไม่อยากให้มีปัญหา

    อ๋อ  พวกกร่าง  พวกผมไม่ยุ่งหรอกครับ  มานั่งกินสบาย ๆ ดีกว่า  ป๋องตอบรับ

    ผมนั่งดื่มไปพักนึง  จนรู้สึกว่ากระเพาะปัสสาวะเริ่มทำงาน  กรูไปห้องน้ำก่อนนะ  ผมบอกเพื่อนก่อนลุกออกมา

     

    ห้องน้ำของร้านรูอยู่ด้านข้าง  ทางเดินตกแต่งเป็นสวนเล็ก ๆ ปูพื้นด้วยไม้หมอนรถไฟ  จุดเทียนเป็นแสงนำทาง   ออกแบบได้ชวนปัสสาวะ  อุจจาระ  และอ้วกมาก (ผมประชดครับ  อันที่จริงมันสวยน่ารักมาก)  แต่มีเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่น่าเกิดขึ้นตรงนี้  ปรากฎขึ้นมา

    ภาพชายฉกรรจ์หัวหน้าโจรกำลังโอ้โลมสาวน้อยวัยใส  ไอ้นี่มาหม้อสาวอะไรหน้าห้องน้ำฟร่ะ  ผมคิดไม่ออกเสียง 

     

    ว่าไงน้องสาว  ไปดื่มกับพี่ดีกว่าน้า  เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง  สำนวนป้อสาวโบราณเข้ากับหน้าตามาก

    ไม่เป็นไรค่ะ  หนูมากับเพื่อนแล้ว  สาวน้อยอิดออดตอบไป  หน้าตารังเกียจพอประมาณ

    เฮ้ย  อย่าเล่นตัวน่า  แค่นี้เอง  ไปด้วยกันหน่อยดิ  น้ำเสียงเริ่มใช้อำนาจ  ไม่พูดเปล่า  มีฉวยโอกาสถึงเนื้อถึงตัวด้วย

    ผมเห็นท่าไม่ดี  ไม่ได้อยากทำตัวเป็นพระเอกแต่อย่างใด  เอ่อ  คุณครับ  น้องเขามากับเพื่อน  ก็ต่างคนต่างนั่งดีกว่ามั้ยครับ 

    หัวหน้าโจรเหล่ผมนิดนึง  วู้!  ทางนี้ก็สวยใช่เล่น  นอกจากหน้าหม้อ  ปากเวร  นิสัยทรามแล้วยังจะตาถั่วหูบอดอีก

    ผมผู้ชายครับ  ผมตอบกลับหน้านิ่ง ๆ  หัวหน้าโจรชะงักไปหน่อยนึง  ผมอาศัยจังหวะเผลอผ่านบอลทันที  น้องครับไปได้แล้วล่ะครับ  พี่เขาคงไม่มีธุระอะไรแล้ว  ผมหันหน้าไปบอกหญิงสาวเคราะห์ร้าย  น้องประจวบเหมาะพยักหน้ารับ  ลากบอลหนีอย่างฉับไว

    เฮ้ย!”  หัวหน้าโจรได้แต่อึ้งกับลีลาพาบอลเอาตัวรอดของผมกับสาวน้อยคนนั้น

    ผมหันไปยิ้มให้หัวหน้าโจรพอให้มันงง  ผมขอตัวไปเยี่ยวก่อนนะครับ  เตะจากระยะ 15 หลาเข้าประตูทันที

     

    ไปนานจังว๊ะ  ไอป๋องทัก  เมื่อผมกลับมาที่โต๊ะ

    เล่นบอลนิดหน่อยว่ะ  ไอ้ป๋องทำหน้างง

    ผมนั่งลง  เพิ่งสังเกตเห็นสิ่งมีชีวิตหน้าตาดี  อ้าว  ไอ้กิงมาเมื่อไหร่ว๊ะ  ไอกิงมาในชุดเสื้อยืดสีขาวบางกับกางเกงลุงขาสามส่วน (เป็นกางเกงแสล๊คตัดขาทรงประหลาด ๆ ผมเลยเรียกว่ากางเกงลุง)

    มาเมื่อเมิงเห็น  ไอกิงกวนตรีน

    ไอ้นี่  ผมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน

    พอ ๆ กัดกันตั้งแต่มาถึงเลยนะพวกเมิง  นั่งลงแดกได้แล้ว  ไอ้ป๋องห้ามทัพ

     

    ปิ้ว!  น้องชายคนสวยมานั่งกินกับพวกพี่ดีกว่าน้อง  เสียงหัวหน้าโจรแซวจากเส้นริมสนาม  ตามด้วยเสียงลูกกระจ๊อกเป่าปากตาม

     

    ทั้งโต๊ะผมเงียบ

    เร  เมิงแน่เลย  ทำไมมันแซวเมิงว๊ะ  โจวิตกเล็กน้อยก่อนหันมาถามผม

    เมื่อกี้มีเรื่องนิดหน่อย  ไม่ต้องสนใจหรอกว่ะ  ผมบอกเพื่อนด้วยสีหน้าสบาย ๆ

     

    มามะ  คนสวยมาให้พี่ลองดูหน่อยสิ  ว่าไอ้ข้างล่างน่ะมีเหมือนกันรึเปล่า วะฮะฮ่า  มันยังหมาอยู่

     

    ผมกำแก้วเบียร์ในมือแน่น  ผมไม่อยากมีเรื่อง  ไม่ต้องไปสนใจ  ผมบ่นกับตัวเอง  ริมฝีปากเริ่มเม้มสนิท

     

    โอ้ว!  ไม่แน่จริงนี่หว่า  เมื่อกี้ยังปากกล้าอยู่เลย  แมร่งไอ้ตุ๊ด 

     

    สิ้นคำปุ๊บผมเหมือนโดนฟาดหน้าอย่างจัง  ช่างหัวมันแล้ว  ขอซัดปากมันสักทีเถอะ  ไอ้ถ่อย

     

    โครมมม!!”  เสียงถีบเก้าอี้สนั่นไปทั่วร้าน 

     

    เกิดอะไรขึ้น  ผมยังนั่งติดเก้าอี้อยู่เลย  หันไปมองต้นเสียง  นั่น!  ไอ้กิงไปตั้งแต่เมื่อไหร่

     

    คุณมีปัญหาอะไรกับเพื่อนผมเหรอครับ  ไอ้กิงปั้นสีหน้าเย็นเยียบ  ถามเสียงเรียบ  แต่สายตาอาฆาตจนผมเองยังกลัว

    เฮ้ย!  ไอ้น้อง ทำเอี้ยไรของเมิงว๊ะ  หัวหน้าโจรที่ผมเจอหน้าห้องน้ำ หน้าเริ่มเอี้ย  ชักน้ำเสียงไม่พอใจสุด ๆ

    ผมจำไม่ได้ว่ามีพี่ไร้การศึกษาแบบคุณ  น้ำเสียงนิ่งแต่ในประโยคแรง  แล้วคงกระทบเข้าโสตประสาทหัวหน้าโจรไปแล้ว

    ไอ้เวร  เมิงจะเอาไงว๊ะ  เสียงเริ่มดัง  โทสะเริ่มมากขึ้น  ตอนนี้คนในร้านเริ่มผวาออกห่างจากโต๊ะกลุ่มโจรแล้ว

    ไอกิงยืนนิ่ง  มือล้วงกระเป๋า  สีหน้าเรียบเฉย  ผมอยากให้คุณไปขอโทษเพื่อนผมถ้าสำนึกความเป็นคนคุณยังพอมี  มาแล้วครับมาดพี่ว้ากจอมกดดันของไอ้กิง

    หัวหน้าโจรหน้าชา  แต่ถ้าสติหลุดแล้วก็คงห้ามอะไรไม่อยู่ 

     

    พลั่ก!!”  ไอ้กิงโดนชกเข้าไปเต็มหน้า เลือดซึมจากมุมปากเล็กน้อย

     

    เฮ้ย!  ไอ้เวร  ใช้กำลังเหรอว๊ะ  ไอ้หน้าตัวเมีย  ผมหลุดโมโหไปเต็ม ๆ ตอนนี้อารมณ์โกรธรุนแรง  ผมคุมตัวเองไม่ได้แล้ว

    ผมลุกขึ้นเดินเข้าไปหาพวกแมร่งทันทีตามด้วยไอ้ป๋อง โจและจีน  ไอ้กลุ่มโจรอีก 3 ตัวก็ลุกขึ้นยืนพร้อมประจันหน้ากัน

     

    ไอ้กิงหันหน้ามาช้า ๆ ก่อนยกมือขึ้นปราม ปาดเลือดออกจากมุมปาก แล้วหันไปเผชิญหน้ากับหัวหน้าโจรต่อ  เมื่อกี้คือคำตอบเหรอครับ  ผมคิดว่าคุณจะยังพอมีความคิดอยู่บ้าง  แต่คุณใช้กำลังตัดสิน คุณมันก็เดรัจฉานดี ๆ นี่เอง  ไอ้กิงพูดจบก็ยิ้มน้อย ๆ สีหน้าและแววตาบ่งบอกถึงความเป็นผู้ชนะ

     

    ขอโทษนะครับ  ช่วยจบเรื่องกันไปได้มั้ยครับ  พี่เต้รีบเข้ามาไกล่เกลี่ย  เมื่อสังเกตแล้วว่าสถานการณ์แย่ลง

     

    เมิงไม่ต้องยุ่งเลย  ไม่เห็นเรอะว่าไอ้เวรนี่มันกวนตรีนกรู  ไอ้หน้าโจรออกคำสั่ง(หัวหน้าโจรฟังดูดีไป)

    แล้วประโยคสุดคลาสสิคก็ออกมา  เมิงรู้มั้ยกรูลูกใคร

    ไอ้กิงแสร้งทำหน้าแปลกใจ  ก็หาสิครับ  น่าสงสารนะครับโตป่านนี้  ยังไม่รู้จักพ่อแม่ตัวเอง  น่าน  วอนตรีนซะแล้ว

     

    ควับ!!”  เสียงกระชากวัตถุบางอย่างออกจากเสื้อแจ็คเก็ต

     

    กรี๊ดดดด   เฮ้ยยยยย  เสียงอุทานและโวยวายดังลั่นร้าน  ผู้คนในร้านลนลานหาที่หลบกันเต็มที่เมื่อเห็นแล้วว่าวัตถุนั่นคือ ปืน

     

    ปากกระบอกปืนจ่อเข้าที่หัวไอ้กิง  ประโยคเมื่อกี้คงไปสะกิดต่อมลูกกำพร้าของมัน ไอ้หน้าโจร

     

    หัวใจผมกระตุกวูบ  เหลือบไปมองทางไอ้กิงแล้วหันไปมองทางพวกไอ้ป๋อง  พวกไอ้ป๋องหน้าซีดเหงื่อตก  พวกผมยังยืนประจันหน้าอยู่กับพวกมัน  ไอ้ลูกกระจ๊อกก็ทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องในตัวลูกพี่มัน  ท่ามกลางบรรยากาศมาคุ

     

    หึหึ  ไอ้กิงยังมีอารมณ์ขำ  แววตาไม่ได้หวั่นเกรงแม้แต่น้อย  ทำได้แค่นี้เหรอครับ  ไม่ใช้กำลังก็ใช้อาวุธ  ผมภาวนาให้มันเลิกยั่วโมโหได้แล้ว

    คุณนี่มัน...  ผมไม่แปลกใจเลยที่คุณยังตามหาพ่อแม่ตัวเองอยู่  มันยังคงพูดต่อ ไม่ได้สำนึกเลยว่าอะไรจ่อหัวมันอยู่  ต่ำ  สิ้นคำไอ้กิง

    ไอ้เอี้ย  เมิงจะตายห่าอยู่แล้ว  เลิกปากดีสักทีได้มั้ยว๊ะ  ไอ้หน้าโจรโกรธสุด ๆ  ด้วยความที่ไอ้กิงไม่ได้กลัวอาวุธที่อยู่ในมือเลย  แถมยังต่อปากต่อคำไม่เลิก

    ลูกพี่เล่นมันเลยพี่  ไอ้พวกลูกระจ๊อกก็ยุยง  ทำหน้าสาแก่ใจ

    จุ๊ ๆ  อย่าให้คนอื่นรู้นะครับ  ว่าคุณทำอะไรเองคนเดียวไม่ได้  อายเขาตายเลย  ไอ้กิงยักคิ้วหลิ่วตาให้ไอ้หน้าโจร  พอซะทีเถอะว๊ะกิง

    ไอ้หน้าโจรกัดฟันแน่น  มือกำด้ามปืนแน่น  สัด  เมื่อไหร่จะเลิกกวนตรีนกรู

     

    เมื่อเมิงขอโทษเพื่อนกรูไงเล่า ไอ้จังไร  ไอ้กิงสบถด่าลั่นร้าน  หน้ามันเริ่มขึ้นสี  มือแกร่งเข้ากระชากคอเสื้อฝ่ายตรงข้ามอย่างมุ่งร้าย

     

    แกร๊ก!!”  เสียงสับไกปืน

     

    ตาผมเหลือกโต  สติสัมปชัญญะแทบจะหลุดลอย  ก่อนที่ความรู้สึกจะกลับคืนมาแล้วนึกขึ้นได้ว่า  ไม่มีเสียงดังลั่นของกระสุนปืน  ผมประมวลผลด้วยความรวดเร็ว  แล้วรีบเข้าไปคว้ากอดไอ้กิงจากด้านหลังให้มันถอยร่นมา

    ไอ้กิง  เมิงพอได้แล้ว  กลับได้แล้ว  เสียงผมเริ่มสั่น

    มือข้างนึงของมันยังอยู่ที่คอเสื้อไอ้หน้าโจร  มืออีกข้างนึงจับมือผมออกจากตัวมัน  เมิงไปรอกรูก่อน  ไปกับพวกไอ้ป๋อง  เดี๋ยวเรื่องก็จบแล้ว  มันบอกน้ำเสียงเรียบ

    ช่างหัวมันเหอะเมิง  กรูไม่สนใจแล้ว ไปกันเถอะ  ผมขอร้องมัน

     

    เหมือนไอ้หน้าโจรจะรู้สึกว่าปืนไม่ลั่นไก  แกร๊ก ๆ  มันกดยิงอีกทีแล้วทำหน้าเหวอ

    ไอ้กิงใช้จังหวะเผลอ  เข้าบิดข้อมือไอ้เอี้ยนั่น  โอ้ย!”  มันร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด  ลูกน้องมันรีบกรูเข้ามาเมื่อหัวหน้ามันโดนทำร้าย  ภาพเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก  เมื่อไอ้กิงบิดข้อมือไอ้หน้าโจร  มือที่ถือปืนก็หมดกำลัง  ไอ้กิงคว้าปืนมาไว้ในมือทันที  พวกผมยังยืนรออยู่ข้างหลัง  สถานการณ์ตอนนี้กลุ่มโจรก่อการร้ายกลับเป็นฝ่ายเสียเปรียบด้วยความโง่ของลูกพี่มัน

     

    ไอ้กิงถือปืนไว้ในมือ  ว้าว!  11มม.  ปืนสำหรับข้าราชการทหารตำรวจ ปืนดีนะเนี่ยะ  ไอ้กิงพูดน้ำเสียงยิ้มแย้ม  ไอ้หน้าโจรหน้าเริ่มถอดสี  ลูกน้องถอยกรูดติดหลังลูกพี่มัน

    คุณรู้มั้ยครับปืนแบบนี้ถ้าไม่ปลดเซฟก่อนมันจะยิงไม่ได้

    ...  แก้งค์โจรนิ่ง  เหงื่อตก

    แสดงว่าพวกคุณไม่รู้  งั้นผมจะสอนให้เอาบุญ  ตรงนี้เขาเรียกนกคุณต้องดันตรงนี้เพื่อปลดเซฟ  ไอ้กิงชี้ไปที่ก้านเล็ก ๆ ที่ติดอยู่ด้านข้างกระบอกปืน  มันยิ้มบาง ๆ ก่อนจะพูดต่อ  พอคุณดันเสร็จคุณก็ขึ้นลำกล้องได้เลย

    แกร๊ก  เสียงไอ้กิงขึ้นลำกล้องปืน

    ตอนนี้ปืนของคุณก็พร้อมจะลั่นไกแล้ว  แต่ถ้าคุณไม่เคยยิง  ผมแนะนำให้จับสองมือเผื่อกันแรงสะท้อนของปืนด้วย  มันแนะนำเสร็จสรรพ  ก่อนที่จะยกปืนขึ้นมาเล็ง  ริมฝีปากเหยียดยิ้มอย่างเลือดเย็น  ไม่รู้ว่าทำไมแต่ผมคิดว่ามันอาจจะลั่นไกปืนจริง ๆ

    เอ้า  ว่าไงครับคุณจะว่ายังไง  สายตาเย็นชาจนน่าขนลุก  มองไปยังฝ่ายตรงข้าม 

    พวกกลุ่มโจรหน้าซีดเผือก  คนเยอะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย 

     

    เมิงจะเอายังไง  ไอ้หน้าโจรพยายามรักษามาดให้นิ่ง  แม้ตัวจะสั่นเทา  เหงื่อซึมเต็มใบหน้า

    ไม่ใช่กรูจะเอายังไง  เมิงต่างหากจะเอายังไง  ไอ้กิงขึ้นเสียงอีกครั้ง  กรูบอกเมิงแล้วถ้าเมิงไม่โง่คงจำได้  แววตาบ่งบอกว่าเอาจริง

    ไอ้หน้าโจรตัวแข็งทื่อ มันคงรู้แล้วว่าผู้ชายตรงหน้ามันคือไอ้บ้าสุดโต่ง  นักเลงตัวจริง  ไอ้หน้าโจรสายตาล่อกแล่กก่อนหันเหลือบมองมาทางผมที่ยืนอยู่ข้างหลังไอกิง  มันกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากยากเย็น  ก่อนจะปล่อยคำพูดออกมาจากปาก

    น้องพี่ขอ...  เสียงเบาลงจนได้ยินไม่ถนัด

     

    ขออะไร?  ไอ้กิงพูดน้ำเสียงเหี้ยม  แล้วเอาปืนไปสะกิดที่ศีรษะของอีกฝ่าย

    พี่ขอโทษนะน้อง  ไอ้หน้าโจรพูดจบก็เม้มริมฝีปากแน่น  กำมือเกร็ง  สีหน้าฉายแววเคียดแค้นปนหวั่นวิตกอย่างเห็นได้ชัด

     

    ผมเงียบไปพักนึง  ในใจผมตอนนี้อยากให้ทุกอย่างจบเร็วที่สุด  ไม่อยากให้บานปลายไปมากกว่านี้  ช่างมันเหอะครับ  ผมบอกไปแบบไม่ติดใจ

     

    หยุด!  อย่าขยับ  นี่ตำรวจ  ส่งปืนมา  แล้วเอามือวางไว้บนหัว  ทั้งหมดนั่นแหละ  เดชะบุญตำรวจไทยมักมาตอนจบเสมอ  คงเป็นพี่เต้ที่เป็นคนโทรบอก  แต่กว่านายท่านจะมา  ไม่รอให้ใครโดนยิงสักนัดสองนัดก่อนเล่า  เวรเอ้ย

     

                พวกผมใช้เวลาไม่นานนักในการให้ปากคำเพื่อบันทึกคดีที่โรงพัก  เหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะ  ไอ้หน้าโจรมีพ่อเป็นสารวัตร  และปืนนั่นก็ของพ่อมัน  พวกผมคิดว่าต้องซวยแน่  แต่เปล่าเลย  พ่อไอ้หน้าโจรกลับเป็นสารวัตรตำรวจที่ดีทีเดียว (เกียรติตำรวจของไทย  เกียรติวินัยกล้าหาญมั่นคง เพลงนี้ดังก้องในหัวพวกผมเมื่อพบสารวัตรคนนี้) บอกพวกผมไม่ต้องยอมความเป็นความผิดของเขาเองที่ดูแลลูกเอี้ยไม่ดีพอ  ด้วยความที่พวกผมไม่ได้อยากมีเรื่องแต่แรก  เลยให้จบเรื่องไปแบบสงบ ๆ ดีกว่า  เพราะดูแล้วไอ้หน้าโจรนั่นคงไม่กล้ามายุ่งอีก  แถมกลับไปบ้านอาจโดนพ่อตัวเองเป่ากะโหลกได้ง่าย ๆ

     

    ไอ้กิง  เมิงแมร่งสุดยอดว่ะ  ตอนกรูเห็นปืนกรูคิดแล้วว่าถึงคราวแน่  ไอ้ป๋องกล่าวชื่นชม  น้ำเสียงพออกพอใจ  ไอ้กิงยิ้มรับเงียบ ๆ

    กิงเมิง 2549 ไอ้กิงครองเมืองว่ะ  โจร่วมผสมโรงยกย่องกันไปอีกคน

    ยก ให้ เลย กิง เก๋า กว่า หงส์ อีก  จีนยอมให้เหนือว่าทีมในดวงใจด้วยเอ้า

    .

    .

    .

                พวกผมหมดอารมณ์ที่จะดื่มกันต่อ  จึงแยกย้ายกลับหอพัก  ไอ้กิงก็กลับมาพร้อมผม  ตลอดทางผมไม่คุยกับมันเลย  เมื่อถึงห้องพัก

     

    มากรูดูแผลให้  ผมบอกมันสีหน้านิ่ง

    มันลอยหน้าลอยตา  ยื่นหน้ามาให้ผมทำแผล  ผมหยิบผ้าซับน้ำบิดให้หมาดเช็ดตรงมุมปากมันที่โดนชก  ปากมันแตกนิดหน่อย

    เมิงไม่กลัวปืนเหรอว๊ะ?  ผมถามมันไป

    ไม่เชิงหรอกว่ะ  แต่กรูสังเกตเห็นมันไม่ได้ปลดเซฟ  กรูเลยเดาว่ามันยิงไม่เป็น  มันตอบน้ำเสียงมั่นใจ

    แล้วถ้าปืนมันเกิดลั่นไกได้ขึ้นมาล่ะ  เกิดมันปลดเซฟไว้แล้ว  แต่เมิงไม่ทันรู้ตัว

    โอ้ย  ไม่มีทางหรอก  กรูเห็นท่ามันกรูก็พอเดาออก  ของแค่นี้ขำขำ

     

    โอ้ย!! ทำไรว๊ะเร  กรูเจ็บนะโว้ย  ผมกดผ้าเช็ดหน้าไปเต็มแผลแตกที่ปากเรียวหยักของมัน

     

    เจ็บเหรอเมิง  แค่นี้เมิงเจ็บเหรอ  แล้วตอนนั้นเมิงไม่คิดบ้าง  ถ้าไอ้ปืนห่านั่นเจาะกระโหลกเมิงขึ้นมา  เมิงจะยังได้มานั่งบ่นอยู่ตรงนี้มั้ย  ไอ้สาด  ไอ้เวร  ความอดทนความกดดันของผมสิ้นสุดลงกับความประมาทอวดดีของมัน  ผมสบถด่าลั่นห้อง

     

    ดูมันอึ้ง ๆ ไป  เฮ้ย  ก็กรูไม่เป็นไรแล้ว  กรูรู้แหล่ะน่า  ปืนผาหน้าไม้กรูก็เคยเล่นอยู่

     

    แล้วเมิงรู้มั้ยว่าไอ้พวกอาวุธมันไว้ใจไม่ได้  ทำไมเมิงต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงด้วยว๊ะ  พูดอะไรทำไมเมิงไม่ฟังกรูบ้าง  เสียงผมสั่นเครือด้วยความกลัวจากใจจริง ๆ ในตอนนั้น

    เร  กรูไม่อยากให้ใครมาด่าเมิง  น้ำเสียงมันพยายามให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้น  แต่ผมไม่...

     

    ใครขอร้องเมิง  กรูบอกเมิงเหรอ  เอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อกรูหน่อย  กรูไปบอกเมิงตอนไหน  หา?  ผมยังคงตะโกนด่าไม่หยุด  เพียงตอนนั้นเหตุการณ์ไม่ได้เป็นไปอย่างที่มันคิด  อะไรจะเกิดขึ้น  ตัวผมสั่นเทา  กำมือเกร็งแน่น  ริมฝีปากเม้มสนิท  ผมรับรู้ถึงความชื้นบางอย่างไหลผ่านใบหน้า

     

    ไอ้กิงหน้าเหวอตกใจ  เร  เมิงร้อง  สิ้นคำไอ้กิง  ผมจึงได้ทันรู้สึกตัว  มือรีบปาดของเหลวจากตา  นี่ผมร้องไห้เหรอ?

    เร  กรู  ไอ้กิงรีบเข้ามาหาผม  มือหนาสองข้างจับยึดแขนผมแน่น  ...

     

    ไปตายห่าซะไอ้กิง  อยากไปตายนักเมิงก็ไป  จะเอาหัวให้ใครจ่อปืนอีกเมิงก็ไปเลย  ตอนนี้อารมณ์โกรธผมมากกว่าเกินที่จะควบคุมได้

    เออ  กรูผิดเอง  น้ำเสียงและแววตาจริงจัง  เมิงใจเย็นหน่อยได้มั้ย  เมิงเห็นแล้วนี่ว่าตอนนี้กรูปลอดภัย  ยืนให้เมิงด่าอยู่นี่ไง

     

    พลั่ก!!”  ผมผลักมันไปสุดแรง

    แล้วถ้าเมิงไม่ปลอดภัย  ถ้าเมิงโดนยิงขึ้นมาเล่า  สมองน่ะคิดบ้างซิว๊ะ  อย่าเอาแต่ความสะใจของตัวเองได้มั้ย  ฮึก...ฮือ  ผมสุดกลั้น  น้ำตาอยากไหลนักก็ไหลไป

     

    หมับ  มันคว้าผมเข้ามากอดเต็มอ้อมอกแกร่งของมัน  ถ้าเป็นตอนอื่นผมคงหื่นหน้าแดงไปแล้ว  แต่ตอนนี้ความหวาดกลัวจากสถานการณ์เมื่อครู่ยังวนเวียนอยู่ที่ตัวผม  กลัวที่ต้องเสียไอ้เพื่อนหน้าโง่คนนี้ไป

     

    มือหนาลูบแทรกตามเส้นผมอย่างอ่อนโยนแต่เงอะงะ  มันคงไม่เคยปลอบใจใคร 

     

    ไม่เป็นไรแล้วเร  กรูไม่เป็นไรแล้ว  เสียงทุ้มต่ำกระซิบบอกอย่างอ่อนโยนข้างหูผม

    ฮือ  เมิงไปเลย  ไม่ต้องมายุ่งกะกรู  ยังไงเมิงก็ไม่ฟังกรูอยู่แล้วนี่  กำปั้นไร้เรี่ยวแรงของผมทุบเข้าไหล่มัน

     

    อ้อมกอดกระชับแน่นยิ่งกว่าเดิม  คราวหลังกรูไม่ทำแล้ว  เมิงไม่โกรธกรูนะ  ทำไมเมิงชอบให้โลกหมุนรอบตัวเมิงจังว๊ะ

     

    สาด  ยังจะมีคราวหลังอีกเหรอว๊ะ  ผมหมดปัญญาจะด่ามัน  ได้แต่ยืนสิ้นแรงให้มันกอดปลอบประโลม

    อืม  ไม่มีแล้ว  เมิงไม่ร้องนะ  มันทำเหมือนผมเป็นเด็ก ๆ 

     

                บรรยากาศจากโทสะที่ลอยล่องอยู่ในห้อง  ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความสงบ  ไม่ใช่จะไม่รู้ว่าที่กิงทำไปเพื่ออะไร  แต่เรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรต้องเสี่ยงขนาดนี้  จึงปล่อยให้ภาษากายทำความเข้าใจกัน

     

    กิงยังคงกอดเรด้วยความอ่อนโยนเพื่อปลอบโยนความร้อนรนออกจากตัว  มือแกร่งข้างนึงก็ลูบที่ศีรษะอย่างเบามือ  มืออีกข้างก็กอดกระชับรอบเอวไว้  ลมหายใจร้อนรดบนใบหู  ริมฝีปากชื้นเริ่มซุกไซร้ตรงซอกคอ  ก่อนจะฉวยโอกาสเลื่อนตำแหน่งสัมผัสมาที่ริมฝีปากเล็ก  รสฝาดของแอลกอฮอล์ผสมรสคาวของเลือด  สัมผัสแรกเป็นอย่างบางเบาและเริ่มหนักหน่วงขึ้นตามแรงปรารถนา  ลิ้นร้อนแทรกลึกไปในริมฝีปากของอีกฝ่าย

     

    อื้อ..  เสียงครางหลุดรอดมาเพื่อขอลมหายใจ

     

    ผมเหมือนหลุดกลับมาจากภวังค์  เมื่อการกระทำเมื่อสักครู่สิ้นสุดลง  กิง  ผมมองหน้ามัน  ตัวผมยังอยู่ในอ้อมกอดแกร่งของมันอยู่  เมิงนี่มัน  เข้าใจพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสนะ  ผมได้แต่คิด  ตัวผมเริ่มมีอารมณ์อายเข้ามาแทรกแทนที่อารมณ์โกรธ

     

    เร  เมิงจำที่กรูขอได้มั้ย  น้ำเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความจริงจังบนใบหน้า

    ผมรู้สึกถึงอุณหภูมิที่สูบฉีดขึ้นมาบนใบหน้า  ก่อนที่จะตัดสินใจ

     

    อืม  ผมพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนพูดต่อ  ขอกรูอาบน้ำก่อนนะ  แล้วทำไมผมถึงพลิกโอกาสให้เป็นวิกฤติกันเล่า

     

    --------------------------------------------------------------------


    TBC.

    แก้ไขแล้วข้อความหายหมดเลย - -*  ไม่เป็นไรค่ะมาทักทายกันใหม่  ขอ 10 หน้า ให้ 10 หน้าค่ะ  555 ขออภัยอย่างสูงนะคะที่ให้รอกันนาน  ยังไงก็ช่วยติดตามกันต่อไปด้วยนะค้า  ว่างคงอัพได้สัปดาห์ละตอนมากสุดสองตอนค่ะ ^^"  เนื่องด้วยปัญหาสมองตันและไส้เลื่อน  อาจจะอัพไม่บ่อยแต่ตอนน่าจะยาวขึ้น

    ขอบคุณมาก ๆ ค่ะที่เข้ามาชม  มาอ่าน  มาแอด  มาโหวตเรื่องนี้กัน
    ฝากกิงกะเรไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ  ^_^


             

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×