เราไปรู้จักกันเมื่อชาติใดหรือคุณ
เรื่องราวของชายคนหนึ่งที่มักจะมีความปราถนาอยู่หลายร้อยข้อในชีวิตเเต่ก็ไม่สามารถทำมันให้เป็นจริงได้เมื่อได้รับโอกาสอีกครั้งมีหรือเขาจะไม่คว้ามันไว้ เเต่กลับไม่รู้เลยว่าเรื่องราวที่กำลังจะเจอนั้น.
ผู้เข้าชมรวม
90
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
จำได้ว่าเมื่อครั้งลืมตาดูโลก จำความได้ เริ่มเรียนรู้ รู้จักคิด รู้จักผิด รู้จักความหวัง สีสันมากมายของชีวิตสิ่งต่างๆที่รอให้เรียนรู้มากมายไม่รู้จบ ความสุข ความเศร้า เร้าใจหวั่นไหว ความตื่นเต้นในเเต่ละช่วงวัยที่เขารอจะได้สัมผัส... เขาไฝ่ฝันถึงมันว่าเมื่อได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจะรู้สึกเป็นเช่นไร เขาคงรู้สึกมีความสุข รู้สึกตื่นเต้นมากเเน่ๆ ตอนนั้นยังเด็กเกินเข้าใจนั่งเฝ้าฝันหามันเช้าจะหลดเย็น ค่อยๆเติบโตอย่างสมบูรณ์เเบบทีละนิดตามคำสั่ง เพื่อให้ได้รู้ว่าความฝันนั้นไม่มีทางเป็นจริง
...
เเม้กระนั้นเขากับไม่มีโอกาสค่อยๆเรียนรู้เติมโตไปทีละก้าวอย่างคนผู้อื่น เมื่อเเรกเกิดเหมือนมีเเพ็คเก็ตรูบเเบบชีวิตสมบูรณ์เเบบตามค่านิยมของผู้คนมาบงการเขาไว้ให้อยู่ในกรอบ ทำตัวเสมือนเป็นเส้นตรงสู่จุดหมายไม่มีทางให้เลี้ยวเขวไปใหน โค๊ดบอกสถานะหลังชื่อติดเเท็ก สมบูรณ์เเบบ+100 เกินค่าคนอื่นวัด เเต่ในด้านความรู้สึกกับ-100 เล่เหลี่ยม-100 อย่างที่ว่าเขาทำตัวเป็นเส้นตรง ตรงสู่จุดมุ่งหมายพุ่งใส่มันเเบบไม่ยั้งไม่ว่าปัญหาใด ในเรื่องของเล่ห์เหลี่ยมเเพรวพราวนั้นอย่าหวังว่าเขาจะมี เรียกได้ว่าโดนบงการจนคล้ายจะตายด้าน ไม่ต้องถามหาคนลงมือ พ่อ เเม่ ที่รักเขายิ่งกว่าอะไรนั้นไง มันติดตั้งอยู่บนตัวเขา ไม่สนว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่...
'จันจ๊ะ ..'
'ทั้งหมดที่เเม่ทำไปก็เพื่อหนูนะจัน เด็กดีของเเม่ '
'ไม่โกรธเเม่ใช่ไหม หนูเก่งที่สุดเลย '
' ทำตามที่พ่อบอกนะ เชื่อเเม่ '
' รักลูกนะ ทำตรงนี้ให้ได้นะลูก เเม่รู้ว่าลูกทำได้ '
....
' พ่อหวังดีกับลูกนะ ลูกไม่เห็นหรอ คนพวกนั้นที่คอยประจบเอาใจเรา '
' ดูพวกคนไม่มีจะกินพวกนั้นสิ ถ้ามัวเเต่เกเรเถรไถรก็จะเป็นเเบบนั้น '
' ฮ่าฮ่าฮ่า ดูสิลูกนี่เงินทั้งนั้น ชีวิตนี่เราก็สุขสบายเเล้ว '
' ลูกรักฟังพ่อ '
' พ่อทำเพื่อลูกนะ ...'
เขาจะไปทำอะไรได้ตอนนั้นยังเด็กเกินกว่าจะเเก้หวังเพียงเอาความดีเข้าเเลก เหล่าท่านๆนั้นอาจเห็นใจ
10 ปี
20 ปี
เขารอ รอเล่า
30 ปี
"........." นานเกินไปหรือเปล่า
31
33
35 ปี
จนกระทั่งเข้าสู่วัยหนุ่มจนอายุใกล้เข้าจะสามสิบขึ้น หมดสิ่งที่อยากจะเรียนรู้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่ารู้มามากพอควรจนเลี่ยน ความเห็นใจที่หวังไว้ก็ไม่เคยได้รับ สถานภาพชีวิตสมบูรณ์เเบบนี้เป็นอยู่มานานไม่มีทางให้ถอยกลับ ความปราถนาอันเเรงกล้าเเรกเเละความปราถนาเดียวในชีวิตของผมก็ไม่เคยเป็นจริงเลยสักครั้ง...ความกตัญญูมันค้ำคอ เขายังคงไม่ยอมเเผ้ นานมาเเล้วนึกย้อนไปโทษตัวเอง หรือตอนนั้นเขาควรจะเรียนรู้ความพ่ายเเผ้เเรกในชีวิตบ้างกันนะ มาถึงตอนนี้จะได้ไม่รู้สึกเจ็บหนักเพราะหวังมากเเละผิดหวังอย่างที่เป็นเช่นทุกวันนี้
อย่าว่าเเต่จะได้เดินเฉียดเข้าไปในส่วนหนึ่งของความปรารถนาเลย ผมไม่เเม้เเต่จะเคยได้เฉียดเข้าไป จะว่ามันยากหรือ..
สมุดเล็มเล็กกทัดรัดยับเยินสภาพของมันคล้ายออกมาจากหลืบไหนสักหลืบภายในบ้าน มีเศษดินติดบ้างปะปรายมันอาจจะเคยอยู่ใต้ดิน บ้างก็มีอยากไย่หรือคงเป็นบนหลังคา ไม่เเน่ใจนักเพราะเขาก็จำไม่ได้ว่าเคยเอาไปเก็บซ้อนไว้ที่ใดบ้าง
ในนั้นมันมีลายมือหนึ่ง เขียนตัวหนังสือด้วยลายหวัดโย้ไปมาบ้างอย่างคนไม่ถนัด ถ่ายทอดความรู้สึกเต็มไปด้วยอารมณ์รู้สึกสมเพสให้ตัวเองอยู่เป็นนัย ในวัยเด็ก5ขวบปี ใจความเพ้อพกกล่าวไว้ ว่า
...เพียงให้ความปราถนาเล็กๆนี้ เป็นจริง เเม้ในยามหลับฝันก็ยังคงหวัง ความคิดง่ายๆหวังเพียงได้เรียนรู้เหมือนอย่างเด็กชายธรรมดาผู้หนึ่ง ได้รู้จักคิดอย่างเด็กเอาเเต่ใจ..
หวังเพียงได้กับไปเป็นเด็กโง่ๆคนหนึ่ง ให้คนผู้อื่นเอ็นดู เพราะตะหนักได้ว่าการฉลาดมากไม่ใช่เรื่องที่ดี..
หวังเพียงได้นั่งนิ่งบนหาดทราย มองน้ำสีครามฟ้าสะท้อนภาพพระอาทิตย์ยามตกดิน
' กลิ่นทะเลตอนนั่งมองพระอาทิตย์ตกดินเป็นเเบบไหน ถ้าได้ไปจริงๆตอนนั้นจะมีความรู้สึกสุขล้นอยู่เต็มอกอย่างที่คนมีอิสระเขาพูดไหม '
' สำผัสระหว่างนิ้วเท้ากับหาดทรายจะให้ความรู้สึกอย่างไรหรือในขณะที่เดินเท้าป่าวมีเปลือกหอยบาดจะมีความรู้สึกตื่นเต้นหรือไม่ '
หลายคำถามของเขาตอนเป็นเด็ก
' นกน้อยที่บินไปมาอย่างอิสระรู้สึกเช่นไร กลับมาหาเขาเเละสอนเขาบินบ้างไม่ได้หรือ '
มีอีกมากมายที่ตอนนั้นเขียนไปอย่างไม่เข้าใจ ทำไมคนนั้นต้องทำอย่างนี้ทำไมคนนี้อย่างนั้น ทำทำไม ได้อะไร เพื่ออะไร ตอนนั้นมีคำถามเต็มหัว พอเริ่มเติบโตมองโลกได้กว้างขึ้นคำถามในหัวทุกอย่างก็หายไป เเละไม่เคยจะสงสัยอะไรเกี่ยวกับความคิดซับซ้อนของมนุษย์อีกเลย
ย่อสั้นๆสุดท้าย เเต่ตอกย้ำลึกถึงสถานภาพปัจจุบันของเขา
หวังเพียง.....ได้รับอิสระ
ไม่ว่าจะได้รับมาอย่างไร หรือเพียงขอให้ไครเป็นความกล้าเเรกของเขาหยิบมีดมาให้เขา ไม่ต้องงดงามสวยหรูอะไร ขอให้เเหลมคมมากเป็นพอ พอถึงเวลานึงเขาคงจะตัดบ่วงเชือกความหวังความรักมากมายที่พันรอบคอเขาให้หลุดได้อย่างกล้าหาญ เเละ เขาจะไม่ลืมพระคุณของคนๆนั้น จริงๆ
เเต่..
ชายหนุ่มมองไปที่ตัวเลขปฏิทินเวลาวันที่ ที่เลื่อนขยับปัดตัวเลข พรึบๆ อยู่ทุกวินาที
' 35 ปี '
' ไม่มีสักคน .. ' เขาลำพึงลำพันปิดสมุดฉับ
พอเถอะ
ใครจะไปอยากร่ายยาวรายการความหวังความคิดมากมายให้ผู้อื่นรู้ถึงความรู้สึกขื่นขมระทมในใจกัน ทั้งๆที่ถ้าคนอื่นมาถามต่อหน้าว่า ยังคงมีความปราถนาต้องการอะไรอีกหรือไม่ ไอ้เราก็คงฉีกยิ้มหน้าชื่นตาบาน ยืดอกตอบอย่างภาคภูมิใจต่อสื่อมวลชน ว่าไอ้ความปรารถนาบ้าบออะไรนั้นเขาไม่เคยหวังมันหรอก ดูสิ พี่น้อง ปู่ย่า ตายาย พ่อเเม่ ครอบครัวของเขา ออกจะสมบูรณ์เเบบดี เขาไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น
รถหรูหรือ เขามี บ้านหรูเขามี เกาะส่วนตัวเขามี! มีหมดทุกอย่าง เขาจะไปอยากได้อะไร
ตอนนั้นในหน้าหลังที่หลบซ่อนของชื่อตนเองก็สว่างวาบ ค่าตัวเลขตัวไหนสักค่าเลื่อนระดับ
เเท็กหลังชื่อคือเเท็ก
เสเเสร้ง ( '+1000')
ติ๊ง
('+ 1001' )
เเหม่ดีใจจังครับ
ตอนนั้นรู้สึกปลื้มปริ่มในอก คิดว่าตนเองควรได้รับรางวัลนักเเสดงนำชายยอดเยี่ยม35ปีซ้อนมานะ
เเต่กระนั้นโลกโหดร้ายใบนี้กับไม่ได้ให้เวลาเขาได้ขบคิดให้มากมายนัก เรื่องราวห่าเหวยังมีให้ต้องจัดการมากมายประเดประดังเข้ามา ตอนนั้นถึงกับคิด ถ้าโลกใบนี้รับสมัคร หาอาสาสมัครเป็นหนูทดลองลงเดินสำรวจดวงอาทิตย์นะ เขาจะไปเป็นคนเเรก จะตายเเล้วยังต้องตายอย่างภาคภูมิเขาคิด เเต่ความคิดนี้กับไม่เป็นจริงหุ่นยนต์บริษัทเขากลับได้รับหน้าที่นี้เเทน โอเคร ล้มเลิก..
เขาไม่คิดไร้สาระอีก
จนกระทั่งมาถึงวันสุดท้ายของชีวิต ตายตอนไหนยังไม่รู้ ทำงานงกๆ เฉื่อยๆไปเรื่อยดื่มกินเที่ยวตามฉบับคุณชายเพลบอยใช้ชีวิตสวยหรู ตอนนั้นเขากลับไม่นึกเสียดายชีวิตนี้เลยเเม้เเต่น้อย
. .
. .
เมื่อเห็นข้อความย่อหน้าบนกระดาษขาวเเผ่นหนึ่งที่ส่งมา เนื้อหาใจความว่าเพียงทำภารกิจบรรลุเป้าหมายให้สำเร็จลุล่วงเท่านั้น ความปรารถนานั้นจักเป็นจริง ดวงตาที่เคยหม่นเเสงไร้ชีวิตพราวระยับอย่างมีความหวัง เขาไม่คิดลังเล เขาไม่เคยลังเล
เซ็น!
ไม่เซ็นก็โง่เเล้ว
อ่านเพียงนั้นเขาหาได้สนใจใจความในกระดาษข้อต่อไปไม่ หวังเพียงชีวิตที่ไม่เหมือนชีวิตนี้ได้ทำเพียงความปราถนาของตนให้เป็นจริง ความรอบคอบที่ถูกอบรมสั่งสอนมาทั้งชีวิตตัดมันทิ้งไปคิดเพียงว่าไม่มีอะไรให้เสียไปมากกว่านี้ เเลกด้วยอะไรเขาก็ยอม ยกปากกาเซ็นยอมรับลงนาม จันทกร ลายมือตวัดเส้นเขียนมั่นคงอย่างไม่สั่นครอนอย่างคนถูกอบรมสั่งสอนดี สื่อถึงอารมณ์เจ้าตัวคนเขียนว่าตัดสินใจเเน่วเเน่เเค่ไหน ประทับตราหยดเลือดอย่างว่องไว เเม้ในใจจะพิลึกกับการต้องเอาเลือดตัวเองมาหยดประทับบนกระดาษก็ตามมีอย่างที่ไหนโลกเขาจะเคยทำ หยดเลือดเล็กๆเเบบนี้เห็นเเล้วชวนหัว
ด้วยตนกลัวว่าหากช้าเสียเวลาคิดไปมากกว่านี้บางสิ่งเเปลกประหลาดตรงหน้าจะหายไป กลายเป็นว่าตนเองตื่นขึ้นมาในสถานที่เดิมๆ เหลือไว้เพียงฝันลมๆเเล้งๆเลือนลางของเขาเเล้วพบว่ามันเป็นเพียงเรื่องเพ้อพกคิดไปเองเท่านั้น
ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาคงใจสลาย..
ให้เขาตายไปเถอะ ให้เขาตายเถอะ เขาคิดหลายรอบ หลับตาปี๋ อย่าได้มาฝันบ้าบออะไรเช่นนี้อีกเลย....
.....
______________
ป.ล เนื้อหาในนิยายไม่อ้างอิงความสมเหตุสมผลอะไรเลย เเต่งตามจินตนาการล้วน ๆ เป็นนิยายอ่านสบายๆเเบบไม่ต้องใช้สมองคิดอะไรให้มาก
รอติดตามต่อไปค่าาาา ด้วยรักเเละขอบคุณ ..
ผลงานอื่นๆ ของ Kobiko ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Kobiko
ความคิดเห็น