ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    From SUPERIOR EXTREME to Others

    ลำดับตอนที่ #2 : From SUPERIOR EXTREME To Shadow Asylum

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ย. 61


    Application form

    BLOODDRINKER




    “ชั่วชีวิตนี้ข้าจะได้พบความรักที่ตามหาหรือเปล่านะ?”

    “เอาเลยสิรออะไรอยู่ คว้าไว้สิ ความรักที่เจ้ารอคอย”




    ชื่อ : DIONYSUS WINSTON VANAHEIM

    ( ไดโอนีซัส วินสตัน วานาไฮม์)


    ชื่อเรียก :  DIO (ไดโอ)


    เผ่า : (เดิม) มนุษย์ชนชั้นสูง, (ปัจจุบัน) BLOODDRINKER, (อนาคต) แวมไพร์


    เพศ : ชาย


    อายุ : 30 ปี


    ลักษณะภายนอก : หนุ่มสูงโปร่งไม่ล่ำมาก ผิวสีคล้ำไม่เข้มมากเพราะพื้นฐานเป็นผิวขาวแต่ใช้ชีวิตทำงานขนของกลางแจ้ง ผมสีน้ำเงินยาวถึงหลังช่วงล่างรวบมัดไว้ ดวงตาสีแดงเป็นลักษณะเฉพาะของตระกูลวานาไฮม์อาจจะดูดุๆหน่อยแต่ก็มีเสน่ห์อยู่บ้าง รอยสลักสีแดงใต้ตาและตามร่างกายเกิดขึ้นจากเลือดของแวมไพร์


    รสนิยม : เมื่อครั้งที่ตระกูลวานาไฮม์ยังคงอยู่ ไดโอนีซัสไม่ได้รับความรักจากผู้เป็นพ่อเพราะต้องออกไปทำงานราชการนานๆจะกลับมาสักอาทิตย์ แม่ของเขาใส่ใจน้องสาวมากกว่า ไดโอนีซัสจึงกลายเป็นคนที่ขาดความรักอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เขาแอบคบกับคนโน้นทีคนนี้ทีเพื่อค้นหาคนที่รักเขาอย่างจริงใจ แต่กลายเป็นว่าเขากลับรู้สึกดีกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเสียอีก


    ตระกูล :  ตระกูลวานาไฮม์ อดีตเคยเป็นตระกูลขุนนางชั้นผู้ใหญ่เป็นที่นับหน้าถือตาขององค์ราชาและประชาชนทั่วไป แต่แล้วเพราะการคัดค้านพระโองการทำให้ทั้งตระกูลถูกจับขังก่อนถูกสั่งประหาร มีเพียงหญิงรับใช้คนสนิทที่ได้รับคำสั่งให้พาไดโอนีซุสหนีไปให้ไกลที่สุดและเลี้ยงดูไดโอนีซัสอย่างลับๆ


    คำสาปประจำตระกูล : สัมผัสมรณะ แตะต้องสิ่งใดด้วยมือเปล่านานๆ สิ่งนั้นจะกลายเป็นหิน


    ชนชั้นทางสังคม : ผู้รอดชีวิตคนเดียวของตระกูลวานาไฮม์ และยังหนีการตามล่าขององค์ราชาและแวมไพร์นาม ‘อิควิน็อกซ์’ แวมไพร์เจ้าของเลือดแห่งสัญชาตญาณ


    ดาบประดับเกียรติยศ : ดาบวานาไฮม์ สาบสูญหลังตระกูลล่มสลาย (วานาไฮม์ - ดินแดนเก่า)


    เลือด : เลือดแห่งสัญชาตญาณ เลือดของแวมไพร์อิควิน็อกซ์เร่งสัญชาตญาณการเอาตัวรอดรวมไปถึงกาารฆ่าอย่างไร้เหตุผลจนทำให้ขาดสติทำร้ายคนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว ไม่สามารถควบคุมได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด


    นิสัย :

    -เด็กๆ ชอบเอาแต่ใจ อยากได้โน่นนี่ตลอด พอไม่ได้ก็ประชดประชัน จนน่าหมั่นไส้

    -หลังจากที่หญิงรับพาหนีแล้วต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ ใช้ชีวิตยากลำบากก็ต้องขยันมากขึ้น เอาแต่ใจน้อยลง แต่กระหายความรักมากกว่าเดิม

    -นั่งหน้าเหงาบ่อยๆ

    -ขี้หวงในสิ่งที่คิดว่าเป็นของๆ ตน

    -ไม่ไว้ใจใคร ขี้ระแวง

    -มีความระแวดระวังตัว ชอบคาดการณ์ถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นล่วงหน้าและวางแผนการรับมือเตรียมไว้


    การแต่งกาย :

    -ในคฤหาสน์ เสื้อผ้ากางเกงเนื้อดีราคาแพง


    -หนีออกจากคฤหาสน์ เสื้อธรรมดาบ้านๆ ไม่หรูหรา ไม่มีเครื่องประดับนอกจากสร้อยคล้องแหวนของพ่อเท่านั้น


    ชอบ : ได้ความรักจากคนที่เขารัก, ขนมปังอบใหม่, ซุปเนื้อง่ายๆ


    ไม่ชอบ : การไม่ถูกรัก, การอยู่อย่างโดดเดี่ยว, ความทรมานหลังดื่มเลือดแวมไพร์, การหลบหนีอย่างจนตรอก, อิควิน็อกซ์, องค์ราชา


    ความสามารถ :

    ทางกายภาพ - มีวิชาการต่อสู้มือเปล่าอยู่บ้าง สามารถใช้ดาบได้ค่อนข้างดีเยี่ยม มีไหวพริบในการเอาตัวรอดทั้งในยามต่อสู้และยามหลบหนี ถนัดด้านการแฝงตัวในกลุ่มคน

    ในขณะเดียวกันเลือดแวมไพร์ทำให้เขามีประสาทการรับรู้ หูไว ตาไว เคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นกว่าปกติ แต่ไม่ช่วยให้ตัวเขาแข็งแกร่งขึ้นแต่อย่างใด


    อุปกรณ์ :  

    ดาบ - ขโมยติดมามือระหว่างหนีการตามล่าของอิควิน็อกซ์

    แหวนของพ่อ - พ่อของเคยให้ไว้ซึ่งตอนนี้เขาเอามาร้อยเชือกใส่เป็นสร้อย



    ประวัติ :


    สมัยตระกูลวานาไฮม์ยังคงอยู่


    เดิมทีตระกูลขุนนางใหญ่อย่างตระกูล ‘วานาไฮม์’ ถวายงานใต้ฝ่าละอองทุลีพระบาทขององค์ราชามาหลายต่อหลายรุ่น เรื่องความซื่อสัตย์และภักดีไม่เป็นที่สองรองใคร ทั้งงานราษฎร์ หรือว่าจะหลวง ขอเพียงรับสั่งพ่อของไดโอนีซัสก็ยินดีจะสนองอย่างเต็มที่


    ด้วยหน้าที่รับผิดชอบอันมากล้นและต้องเดินทางตลอด พ่อของไดโอนีซัสจึงไม่ค่อยได้กลับมาเยี่ยมเยือนที่คฤหาสน์เท่าที่ควร ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้เป็นภรรยาจะดูแลเลี้ยงบุตรธิดาซึ่งก็คือ ไดโอนีซัส อายุ 15ปี และ ไดแอนธี อายุ 10 ปี รวมไปถึงรับผิดชอบดูแลคฤหาสน์ทั้งหลัง


    ไดโอนีซัสเป็นเด็กที่เอาแต่ใจอย่างมาก และชอบเรียกร้องความสนใจอยู่บ่อยครั้ง เขาจึงไม่ค่อยได้รับความรักและความสนใจจากผู้เป็นแม่มากนัก ด้วยเหตุนี้เขาจึงมักจะแสดงอาการและพูดประชดประชันบ่อยๆ หลายครั้งที่ที่จะได้เห็นเด็กหนุ่มนั่งหน้าเหงาหงอยเพียงลำพัง รอคอยความรักจากบุพพการีเรื่อยมา


    การล่มสลายของตระกูลวานาไฮม์


    ‘ความสงบไม่ได้หยั่งยืนเสมอไป’


    สงครามระหว่างประเทศสั่นคลอนอำนาจขององค์ราชา เมื่อการปกครองที่อ่อนแอไม่สามารถนำพาประเทศไปสู่ชัยชนะในสงคราม การก่อรัฐประหารจึงเป็นวิธีเดียวที่จะล้มอำนาจเก่า ความโกลาหลจากการสู้รบทำให้พ่อของไดโอนีซัสไม่สามารถช่วยเหลือองค์ราชาให้พ้นจากการในครั้งนี้ได้


    ภายหลังจากการก่อรัฐประหารและองค์ราชาองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ พ่อของไดโอนีซัสได้รับการอภัยโทษและถูกสั่งให้เข้ารับราชการต่อไป การปกครองแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จสวนทางกับความปรารถนาในการขยายอำนาจโดยสันติวิธีขององค์ราชาองค์ก่อนทำให้พ่อของไดโอนีซัสปฏิเสธพระราชโอการและงานต่างๆ จนเป็นเหตุให้มีการสั่งประหารล้มล้างตระกูลวานาไฮม์เพื่อเป็นการสั่งสอนเหล่าขุนนางตระกูลอื่นๆ พ่อของไดโอนีซัสเป็นคนแรกที่ถูกจับกุมขังไว้ใต้ปราสาท กองกำลังส่วนพระองค์บุกไปยังคฤหาสน์ แม่ของเขาสั่งหญิงรับใช้ให้พาไดโอนีซัสและไดแอนธีหนีไปจากคฤหาสน์ หญิงรับใช้เร่งพาทั้งสองขึ้นรถม้าหนีไปยังเมืองใกล้เคียงทันที



    การหลบหนีและการมาถึงของอิควิน็อกซ์


    หญิงรับใช้ปิดข่าวการประหารไม่ให้ทั้งสองรับรู้ ทั้งหมดต้องใช้ชีวิตในต่างเมืองโดยต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ และต้องย้ายที่อยู่บ่อยครั้ง หญิงรับใช้ต้องออกไปทำงานและเลี้ยงดูเด็กทั้งสอง ผ่านไปสิบปี ไดโอนีซัสได้เห็นถึงความลำบากของหญิงรับใช้ เขาจึงออกไปหางานทำบ้าง ทั้งงานตัดไม้ งานขนของ รวมไปถึงการล่าสัตว์เพื่อนำไปขาย ส่วนไดแอนธีที่ถูกเลี้ยงแบบตามใจเสมอๆ จึงติดนิสัยเกียจคร้าน งานการไม่ทำ เอาแต่เดินชมตลาดชมเมืองไปวันๆในขณะที่พี่ชายและหญิงรับใช้ต้องทำงานกันหลังขดหลังแข็ง


    จนกระทั่งคืนหนึ่งแวมไพร์นาม ‘อิควิน็อกซ์’ แวมไพร์อายุราวสองพันปีกำลังมองหาอาหารอันโอชะ เหยื่อรายแรกคือหญิงรับใช้ที่กำลังเก็บฝืนมาใส่เตาผิง ปริมาณเลือดอันน้อยนิดนั้นยังไม่สาแก่ใจเขา เขาจึงต้องหาเหยื่อเพิ่มซึ่งก็หนีไม่พ้นไดแอนธีที่กำลังนั่งรับลมชมจันทร์อยู่นอกบ้าน เธอถูกอิควิน็อกซ์จับตัวไปดูดเลือด ขณะเดียวกันไดโอนีซัสเพิ่งเดินกลับถึงเห็นเหตุการณ์จึงรีบเข้าไปช่วย เขาคว้าท่อนไม้ใกล้มือฟาดเข้าไปเต็มแรงจนไม้หัก แต่อีกฝ่ายกลับไม่สะดุ้งสะเทือนแต่อย่างใด อิควิน็อกซ์ปล่อยร่างของไดแอนธีก่อนจะอัดหมัดหนักๆ ใส่หน้าชายหนุ่มจนล้มกลิ้ง ฝ่ายที่ล้มสะบัดหน้าเรียกสติก่อนจะลุกขึ้นตรงเข้าเหวี่ยงหมัดสวนคืน มือแข็งแกร่งรับหมัดไว้โดยใช้กำลังเพียงร้อยนิดแล้วบิดแขนทำให้อยู่สภาพมือไพร่หลัง มือข้างที่ว่างสับเข้าที่ท้ายทอย ภาวะสติดับมืดลงอย่างช้าๆ จนมืดสนิท


    กำเนิด BLOODDRINKER DIONYSUS


    ไดโอนีซัสตื่นขึ้นมาในสภาพอิดโรยถูกหมัดมือและจับขังไป พอมองสำรวจดูก็พบว่าเป็นห้องใต้ดินของบ้านหลังหนึ่ง หน้าต่างถูกปิดบังไม่ให้แสงแดดเข้าถึง ความสว่างในห้องนั้นมาจากเทียนไขที่ประดับอยู่รายรอบ ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วร่างราวกับจะฉีกเป็นชิ้นๆ เขาทุรนทุรายเกลือกกลิ้งบนพื้นอย่างน่าอนาจ สติดำมืดพยายามจะครอบครองร่างกายของเขา คลื่นความกระหายแผ่ซ่านพุ่งพล่านคลุ้มคลั่ง


    “โอ้~ ผลผลิตแห่งข้ากำลังจะถือกำเนิดขึ้นแล้ว” อิควิน็อกซ์ยืนมองอยู่ไม่ไกล


    “นี่เจ้า.. ทำอะไรกับข้า?”


    “เรื่องเล็กน้อย ระหว่างที่เจ้าไร้สติ ข้าก็ให้เจ้าได้ดื่มเลือดแวมไพร์ของข้า เลือดแห่งสัญชาตญาณ ไม่ช้าเจ้าจะกลายเป็นทายาทของโดยสมบูรณ์”


    “นี่ข้า..”


    ไดโอนีซัสรู้ทันทีว่าพิษแวมไพร์จากเลือดที่ได้ดื่มเข้าไปนั้นจะเปลี่ยนแปลงตัวเขาดังเช่นคำสาปที่สาบส่งให้ต้องทุกข์ทนทรมานไปชั่วกาลปาวสาน ความเจ็บปวดที่เขารังเกียจนำไปสู่การหมดสติอีกครั้ง


    เกมแมวล่าหนู


    ในค่ำคืนหลังจากการดื่มเลือดของอิควิน็อกซ์ ไดโอนีซัสฟื้นขึ้นอีกครั้ง มือทั้งสองเป็นอิสระจากเชือกที่มัดอยู่ ความรู้สึกแปลกๆ ทำให้เขาต้องสำรวจตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า ทางกายภาพนั้นยังคงเดิม มีเพียงประสาทสัมผัสทั้งห้าเฉียบคมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาได้แม้แต่เสียงหัวใจเต้น กลิ่นที่แม้แต่เพียงเบาบางเขาก็ยังได้กลิ่น เขาจับรายละเอียดรอบตัวได้ดีขึ้นอย่างผิดปกติ


    “ผลของเลือดแวมไพร์แน่ๆ”


    เสียงประตูห้องใต้ดินเปิดดังเอี้ยดอาดเชื้อเชิญให้เขาก้าวออกไปสู่อิสรภาพอย่างใจคิด ทันทีที่เขาขึ้นไปถึงประตูนั่น เขากวาดตามองสำรวจ พอเห็นทางสะดวกก็เร่งหลบลี้หนีออกจากบ้านหลังนั้นแทบจะทันที หาได้รู้ไม่ว่าการหลบหนีของเขาอยู่ในสายตาของอิควิน็อกซ์ที่เฝ้ามองจากบนยอดไม้


    “สายเลือดของข้า จงหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่สัญชาตญาณของเจ้าจะพาไปได้ ไม่เช่นนั้น.. เจ้าคงไม่ต่างไปจากสวะรุ่นก่อนๆ แน่แท้” เขาสิ้มแสยะเย็นเยือกเฝ้ารอเวลาเพื่อการเปิดเกมไล่ล่าสายเลือดรุ่นใหม่และถือเป็นการทดสอบพลังอำนาจของเลือดแห่งสัญชาตญาณอีกด้วย


    การก่อบาปครั้งแรกของไดโอนีซัส


    การหลบหนีอย่างไร้ทิศทางพาเขามาถึงบ้านไร่หลังหนึ่ง เขาซ่อนกายให้พ้นจากแสงแดดภายในโรงนา แต่เสียงเปิดประตูเรียกให้หนุ่มเจ้าของไร่เปิดประตูเข้ามาดูพร้อมดาบในมือ โชคไม่ดีของเจ้าของไร่เพราะความกระหายโลหิตเข้าครอบงำ สัญชาตญาณนักล่าโลหิตสั่งการให้ไดโอนีซัสเข้าจู่โจมเจ้าของไร่ เขาดื่มเลือดอย่างหิวกระหาย ยิ่งได้ลิ้มรสสัมผัสก็ยิ่งต้องการ แต่ทันทีที่ถูกเติมเต็มเขาถึงได้รับรู้ถึงความผิดบาปที่เขาได้ก่อขึ้น เขาเก็บดาบไว้แล้วซ่อนตัวในโรงนาอย่างมิดชิด แผนการหลบหนีครั้งต่อไปถูกวางไว้อย่างดีเพราะเมื่อที่รัตติกาลย่างกรายเข้ามา เขาจะต้องไปจากที่นี่โดยพลัน


    ความรัก ราคะ เงาและคำสาป


    ระหว่างการหนีและใช้ชีวิตแบบร่อนเร่ทำให้เขาได้พบผู้คนมากหน้าหลายตา มันเป็นโอกาสอันดีที่เขาจะได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปนั่นคือ ความรัก ในเมื่อไม่สามารถต้องแสงอาทิตย์ได้ การออกตระเวนในเมืองยามค่ำเป็นทางเลือกเดียวในการตามหาสิ่งที่เขาโหยหา งานเทศกาลในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งชักนำให้เขาได้พบกับชายหนุ่มหน้าตาดีที่ออกมาเที่ยวงานกับหญิงสาวชาวบ้านอีกคนหนึ่ง พวกเขาดูมีความสุขกันมากจนน่าอิจฉา เสียงเรียบเย็นๆ  จากภายในอกยั่วยุให้เขากระทำการชั่วร้ายบางอย่าง เขารู้ตัวอีกที ศพหญิงสาวคนนั้นนอนสิ้นใจชุ่มโชกไปด้วยเลือด อีกด้านหนึ่งคือร่างที่กลายเป็นหินลักษณะเปลือยเปล่าในท่าทีที่หวาดกลัวสุดขีด ตอนนั้นเองที่เขารับรู้ว่าคำสาปประจำตระกูลเริ่มแผลงฤทธิ์ออกมาแล้ว จากวันนั้นการหนีของเขายังดำเนินต่อไปโดยมีอิควิน็อกซ์ไล่หลังมาติดๆ ประกอบกับเงาที่ค่อยๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ความกระหายความรักพุ่งพล่าน คำสาปที่ไม่มีทางหนีพ้น ไม่สามารถทำให้หายไปได้ เขาจะทนอยู่ได้อีกนานแค่ไหนกัน?



    สไตล์การต่อสู้ : ส่วนใหญ่มักเริ่มด้วยออกหมัด เตะ ต่อยก่อน แต่ถ้าดูแล้วศัตรูใช้อาวุธ เขาก็จะใช้ดาบที่มีสู้จนสุดกำลัง


    Shade : เงาของเขาเกิดจากความกระหายความรัก มันคอยยุแยงให้ไดโอทำทุกวิถีทางที่จะให้ได้ความรักนั้นมาครอง ถึงแม้จะต้องแย่งชิง ฆ่าฟันใครๆ ก็ตาม ยิ่งมีความคลุ้มคลั่งจากเลือดแห่งสัญชาตญาณยิ่งทำให้เขากลายเป็นตัวอันตรายอย่างที่สุด


    อื่นๆ : อิควิน็อกซ์ออกจะเจ้าเล่ห์แสนกลอยู่บ้าง แต่เขาก็รักไดโอนีซัสเหมือนลูกแท้ๆ



    เพิ่มเติม : ถ้าจะให้เขาตาย ให้เขาตายแบบธีมที่ว่า ‘พบรักแท้ตอนใกล้แต่ไม่มีวันได้ครอบครอง’ ไม่เข้าใจถามได้นะครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×