คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : From SUPERIOR EXTREME To Shadow Asylum
Application form
BLOODDRINKER
“ชั่วชีวิตนี้ข้าจะได้พบความรักที่ตามหาหรือเปล่านะ?”
“เอาเลยสิรออะไรอยู่ คว้าไว้สิ ความรักที่เจ้ารอคอย”
ชื่อ : DIONYSUS WINSTON VANAHEIM
( ไดโอนีซัส วินสตัน วานาไฮม์)
ชื่อเรียก : DIO (ไดโอ)
เผ่า : (เดิม) มนุษย์ชนชั้นสูง, (ปัจจุบัน) BLOODDRINKER, (อนาคต) แวมไพร์
เพศ : ชาย
อายุ : 30 ปี
ลักษณะภายนอก : หนุ่มสูงโปร่งไม่ล่ำมาก ผิวสีคล้ำไม่เข้มมากเพราะพื้นฐานเป็นผิวขาวแต่ใช้ชีวิตทำงานขนของกลางแจ้ง ผมสีน้ำเงินยาวถึงหลังช่วงล่างรวบมัดไว้ ดวงตาสีแดงเป็นลักษณะเฉพาะของตระกูลวานาไฮม์อาจจะดูดุๆหน่อยแต่ก็มีเสน่ห์อยู่บ้าง รอยสลักสีแดงใต้ตาและตามร่างกายเกิดขึ้นจากเลือดของแวมไพร์
รสนิยม : เมื่อครั้งที่ตระกูลวานาไฮม์ยังคงอยู่ ไดโอนีซัสไม่ได้รับความรักจากผู้เป็นพ่อเพราะต้องออกไปทำงานราชการนานๆจะกลับมาสักอาทิตย์ แม่ของเขาใส่ใจน้องสาวมากกว่า ไดโอนีซัสจึงกลายเป็นคนที่ขาดความรักอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เขาแอบคบกับคนโน้นทีคนนี้ทีเพื่อค้นหาคนที่รักเขาอย่างจริงใจ แต่กลายเป็นว่าเขากลับรู้สึกดีกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเสียอีก
ตระกูล : ตระกูลวานาไฮม์ อดีตเคยเป็นตระกูลขุนนางชั้นผู้ใหญ่เป็นที่นับหน้าถือตาขององค์ราชาและประชาชนทั่วไป แต่แล้วเพราะการคัดค้านพระโองการทำให้ทั้งตระกูลถูกจับขังก่อนถูกสั่งประหาร มีเพียงหญิงรับใช้คนสนิทที่ได้รับคำสั่งให้พาไดโอนีซุสหนีไปให้ไกลที่สุดและเลี้ยงดูไดโอนีซัสอย่างลับๆ
คำสาปประจำตระกูล : สัมผัสมรณะ แตะต้องสิ่งใดด้วยมือเปล่านานๆ สิ่งนั้นจะกลายเป็นหิน
ชนชั้นทางสังคม : ผู้รอดชีวิตคนเดียวของตระกูลวานาไฮม์ และยังหนีการตามล่าขององค์ราชาและแวมไพร์นาม ‘อิควิน็อกซ์’ แวมไพร์เจ้าของเลือดแห่งสัญชาตญาณ
ดาบประดับเกียรติยศ : ดาบวานาไฮม์ สาบสูญหลังตระกูลล่มสลาย (วานาไฮม์ - ดินแดนเก่า)
เลือด : เลือดแห่งสัญชาตญาณ เลือดของแวมไพร์อิควิน็อกซ์เร่งสัญชาตญาณการเอาตัวรอดรวมไปถึงกาารฆ่าอย่างไร้เหตุผลจนทำให้ขาดสติทำร้ายคนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว ไม่สามารถควบคุมได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด
นิสัย :
-เด็กๆ ชอบเอาแต่ใจ อยากได้โน่นนี่ตลอด พอไม่ได้ก็ประชดประชัน จนน่าหมั่นไส้
-หลังจากที่หญิงรับพาหนีแล้วต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ ใช้ชีวิตยากลำบากก็ต้องขยันมากขึ้น เอาแต่ใจน้อยลง แต่กระหายความรักมากกว่าเดิม
-นั่งหน้าเหงาบ่อยๆ
-ขี้หวงในสิ่งที่คิดว่าเป็นของๆ ตน
-ไม่ไว้ใจใคร ขี้ระแวง
-มีความระแวดระวังตัว ชอบคาดการณ์ถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นล่วงหน้าและวางแผนการรับมือเตรียมไว้
การแต่งกาย :
-ในคฤหาสน์ เสื้อผ้ากางเกงเนื้อดีราคาแพง
-หนีออกจากคฤหาสน์ เสื้อธรรมดาบ้านๆ ไม่หรูหรา ไม่มีเครื่องประดับนอกจากสร้อยคล้องแหวนของพ่อเท่านั้น
ชอบ : ได้ความรักจากคนที่เขารัก, ขนมปังอบใหม่, ซุปเนื้อง่ายๆ
ไม่ชอบ : การไม่ถูกรัก, การอยู่อย่างโดดเดี่ยว, ความทรมานหลังดื่มเลือดแวมไพร์, การหลบหนีอย่างจนตรอก, อิควิน็อกซ์, องค์ราชา
ความสามารถ :
ทางกายภาพ - มีวิชาการต่อสู้มือเปล่าอยู่บ้าง สามารถใช้ดาบได้ค่อนข้างดีเยี่ยม มีไหวพริบในการเอาตัวรอดทั้งในยามต่อสู้และยามหลบหนี ถนัดด้านการแฝงตัวในกลุ่มคน
ในขณะเดียวกันเลือดแวมไพร์ทำให้เขามีประสาทการรับรู้ หูไว ตาไว เคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นกว่าปกติ แต่ไม่ช่วยให้ตัวเขาแข็งแกร่งขึ้นแต่อย่างใด
อุปกรณ์ :
ดาบ - ขโมยติดมามือระหว่างหนีการตามล่าของอิควิน็อกซ์
แหวนของพ่อ - พ่อของเคยให้ไว้ซึ่งตอนนี้เขาเอามาร้อยเชือกใส่เป็นสร้อย
ประวัติ :
สมัยตระกูลวานาไฮม์ยังคงอยู่
เดิมทีตระกูลขุนนางใหญ่อย่างตระกูล ‘วานาไฮม์’ ถวายงานใต้ฝ่าละอองทุลีพระบาทขององค์ราชามาหลายต่อหลายรุ่น เรื่องความซื่อสัตย์และภักดีไม่เป็นที่สองรองใคร ทั้งงานราษฎร์ หรือว่าจะหลวง ขอเพียงรับสั่งพ่อของไดโอนีซัสก็ยินดีจะสนองอย่างเต็มที่
ด้วยหน้าที่รับผิดชอบอันมากล้นและต้องเดินทางตลอด พ่อของไดโอนีซัสจึงไม่ค่อยได้กลับมาเยี่ยมเยือนที่คฤหาสน์เท่าที่ควร ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้เป็นภรรยาจะดูแลเลี้ยงบุตรธิดาซึ่งก็คือ ไดโอนีซัส อายุ 15ปี และ ไดแอนธี อายุ 10 ปี รวมไปถึงรับผิดชอบดูแลคฤหาสน์ทั้งหลัง
ไดโอนีซัสเป็นเด็กที่เอาแต่ใจอย่างมาก และชอบเรียกร้องความสนใจอยู่บ่อยครั้ง เขาจึงไม่ค่อยได้รับความรักและความสนใจจากผู้เป็นแม่มากนัก ด้วยเหตุนี้เขาจึงมักจะแสดงอาการและพูดประชดประชันบ่อยๆ หลายครั้งที่ที่จะได้เห็นเด็กหนุ่มนั่งหน้าเหงาหงอยเพียงลำพัง รอคอยความรักจากบุพพการีเรื่อยมา
การล่มสลายของตระกูลวานาไฮม์
‘ความสงบไม่ได้หยั่งยืนเสมอไป’
สงครามระหว่างประเทศสั่นคลอนอำนาจขององค์ราชา เมื่อการปกครองที่อ่อนแอไม่สามารถนำพาประเทศไปสู่ชัยชนะในสงคราม การก่อรัฐประหารจึงเป็นวิธีเดียวที่จะล้มอำนาจเก่า ความโกลาหลจากการสู้รบทำให้พ่อของไดโอนีซัสไม่สามารถช่วยเหลือองค์ราชาให้พ้นจากการในครั้งนี้ได้
ภายหลังจากการก่อรัฐประหารและองค์ราชาองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ พ่อของไดโอนีซัสได้รับการอภัยโทษและถูกสั่งให้เข้ารับราชการต่อไป การปกครองแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จสวนทางกับความปรารถนาในการขยายอำนาจโดยสันติวิธีขององค์ราชาองค์ก่อนทำให้พ่อของไดโอนีซัสปฏิเสธพระราชโอการและงานต่างๆ จนเป็นเหตุให้มีการสั่งประหารล้มล้างตระกูลวานาไฮม์เพื่อเป็นการสั่งสอนเหล่าขุนนางตระกูลอื่นๆ พ่อของไดโอนีซัสเป็นคนแรกที่ถูกจับกุมขังไว้ใต้ปราสาท กองกำลังส่วนพระองค์บุกไปยังคฤหาสน์ แม่ของเขาสั่งหญิงรับใช้ให้พาไดโอนีซัสและไดแอนธีหนีไปจากคฤหาสน์ หญิงรับใช้เร่งพาทั้งสองขึ้นรถม้าหนีไปยังเมืองใกล้เคียงทันที
การหลบหนีและการมาถึงของอิควิน็อกซ์
หญิงรับใช้ปิดข่าวการประหารไม่ให้ทั้งสองรับรู้ ทั้งหมดต้องใช้ชีวิตในต่างเมืองโดยต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ และต้องย้ายที่อยู่บ่อยครั้ง หญิงรับใช้ต้องออกไปทำงานและเลี้ยงดูเด็กทั้งสอง ผ่านไปสิบปี ไดโอนีซัสได้เห็นถึงความลำบากของหญิงรับใช้ เขาจึงออกไปหางานทำบ้าง ทั้งงานตัดไม้ งานขนของ รวมไปถึงการล่าสัตว์เพื่อนำไปขาย ส่วนไดแอนธีที่ถูกเลี้ยงแบบตามใจเสมอๆ จึงติดนิสัยเกียจคร้าน งานการไม่ทำ เอาแต่เดินชมตลาดชมเมืองไปวันๆในขณะที่พี่ชายและหญิงรับใช้ต้องทำงานกันหลังขดหลังแข็ง
จนกระทั่งคืนหนึ่งแวมไพร์นาม ‘อิควิน็อกซ์’ แวมไพร์อายุราวสองพันปีกำลังมองหาอาหารอันโอชะ เหยื่อรายแรกคือหญิงรับใช้ที่กำลังเก็บฝืนมาใส่เตาผิง ปริมาณเลือดอันน้อยนิดนั้นยังไม่สาแก่ใจเขา เขาจึงต้องหาเหยื่อเพิ่มซึ่งก็หนีไม่พ้นไดแอนธีที่กำลังนั่งรับลมชมจันทร์อยู่นอกบ้าน เธอถูกอิควิน็อกซ์จับตัวไปดูดเลือด ขณะเดียวกันไดโอนีซัสเพิ่งเดินกลับถึงเห็นเหตุการณ์จึงรีบเข้าไปช่วย เขาคว้าท่อนไม้ใกล้มือฟาดเข้าไปเต็มแรงจนไม้หัก แต่อีกฝ่ายกลับไม่สะดุ้งสะเทือนแต่อย่างใด อิควิน็อกซ์ปล่อยร่างของไดแอนธีก่อนจะอัดหมัดหนักๆ ใส่หน้าชายหนุ่มจนล้มกลิ้ง ฝ่ายที่ล้มสะบัดหน้าเรียกสติก่อนจะลุกขึ้นตรงเข้าเหวี่ยงหมัดสวนคืน มือแข็งแกร่งรับหมัดไว้โดยใช้กำลังเพียงร้อยนิดแล้วบิดแขนทำให้อยู่สภาพมือไพร่หลัง มือข้างที่ว่างสับเข้าที่ท้ายทอย ภาวะสติดับมืดลงอย่างช้าๆ จนมืดสนิท
กำเนิด BLOODDRINKER DIONYSUS
ไดโอนีซัสตื่นขึ้นมาในสภาพอิดโรยถูกหมัดมือและจับขังไป พอมองสำรวจดูก็พบว่าเป็นห้องใต้ดินของบ้านหลังหนึ่ง หน้าต่างถูกปิดบังไม่ให้แสงแดดเข้าถึง ความสว่างในห้องนั้นมาจากเทียนไขที่ประดับอยู่รายรอบ ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วร่างราวกับจะฉีกเป็นชิ้นๆ เขาทุรนทุรายเกลือกกลิ้งบนพื้นอย่างน่าอนาจ สติดำมืดพยายามจะครอบครองร่างกายของเขา คลื่นความกระหายแผ่ซ่านพุ่งพล่านคลุ้มคลั่ง
“โอ้~ ผลผลิตแห่งข้ากำลังจะถือกำเนิดขึ้นแล้ว” อิควิน็อกซ์ยืนมองอยู่ไม่ไกล
“นี่เจ้า.. ทำอะไรกับข้า?”
“เรื่องเล็กน้อย ระหว่างที่เจ้าไร้สติ ข้าก็ให้เจ้าได้ดื่มเลือดแวมไพร์ของข้า เลือดแห่งสัญชาตญาณ ไม่ช้าเจ้าจะกลายเป็นทายาทของโดยสมบูรณ์”
“นี่ข้า..”
ไดโอนีซัสรู้ทันทีว่าพิษแวมไพร์จากเลือดที่ได้ดื่มเข้าไปนั้นจะเปลี่ยนแปลงตัวเขาดังเช่นคำสาปที่สาบส่งให้ต้องทุกข์ทนทรมานไปชั่วกาลปาวสาน ความเจ็บปวดที่เขารังเกียจนำไปสู่การหมดสติอีกครั้ง
เกมแมวล่าหนู
ในค่ำคืนหลังจากการดื่มเลือดของอิควิน็อกซ์ ไดโอนีซัสฟื้นขึ้นอีกครั้ง มือทั้งสองเป็นอิสระจากเชือกที่มัดอยู่ ความรู้สึกแปลกๆ ทำให้เขาต้องสำรวจตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า ทางกายภาพนั้นยังคงเดิม มีเพียงประสาทสัมผัสทั้งห้าเฉียบคมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาได้แม้แต่เสียงหัวใจเต้น กลิ่นที่แม้แต่เพียงเบาบางเขาก็ยังได้กลิ่น เขาจับรายละเอียดรอบตัวได้ดีขึ้นอย่างผิดปกติ
“ผลของเลือดแวมไพร์แน่ๆ”
เสียงประตูห้องใต้ดินเปิดดังเอี้ยดอาดเชื้อเชิญให้เขาก้าวออกไปสู่อิสรภาพอย่างใจคิด ทันทีที่เขาขึ้นไปถึงประตูนั่น เขากวาดตามองสำรวจ พอเห็นทางสะดวกก็เร่งหลบลี้หนีออกจากบ้านหลังนั้นแทบจะทันที หาได้รู้ไม่ว่าการหลบหนีของเขาอยู่ในสายตาของอิควิน็อกซ์ที่เฝ้ามองจากบนยอดไม้
“สายเลือดของข้า จงหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่สัญชาตญาณของเจ้าจะพาไปได้ ไม่เช่นนั้น.. เจ้าคงไม่ต่างไปจากสวะรุ่นก่อนๆ แน่แท้” เขาสิ้มแสยะเย็นเยือกเฝ้ารอเวลาเพื่อการเปิดเกมไล่ล่าสายเลือดรุ่นใหม่และถือเป็นการทดสอบพลังอำนาจของเลือดแห่งสัญชาตญาณอีกด้วย
การก่อบาปครั้งแรกของไดโอนีซัส
การหลบหนีอย่างไร้ทิศทางพาเขามาถึงบ้านไร่หลังหนึ่ง เขาซ่อนกายให้พ้นจากแสงแดดภายในโรงนา แต่เสียงเปิดประตูเรียกให้หนุ่มเจ้าของไร่เปิดประตูเข้ามาดูพร้อมดาบในมือ โชคไม่ดีของเจ้าของไร่เพราะความกระหายโลหิตเข้าครอบงำ สัญชาตญาณนักล่าโลหิตสั่งการให้ไดโอนีซัสเข้าจู่โจมเจ้าของไร่ เขาดื่มเลือดอย่างหิวกระหาย ยิ่งได้ลิ้มรสสัมผัสก็ยิ่งต้องการ แต่ทันทีที่ถูกเติมเต็มเขาถึงได้รับรู้ถึงความผิดบาปที่เขาได้ก่อขึ้น เขาเก็บดาบไว้แล้วซ่อนตัวในโรงนาอย่างมิดชิด แผนการหลบหนีครั้งต่อไปถูกวางไว้อย่างดีเพราะเมื่อที่รัตติกาลย่างกรายเข้ามา เขาจะต้องไปจากที่นี่โดยพลัน
ความรัก ราคะ เงาและคำสาป
ระหว่างการหนีและใช้ชีวิตแบบร่อนเร่ทำให้เขาได้พบผู้คนมากหน้าหลายตา มันเป็นโอกาสอันดีที่เขาจะได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปนั่นคือ ความรัก ในเมื่อไม่สามารถต้องแสงอาทิตย์ได้ การออกตระเวนในเมืองยามค่ำเป็นทางเลือกเดียวในการตามหาสิ่งที่เขาโหยหา งานเทศกาลในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งชักนำให้เขาได้พบกับชายหนุ่มหน้าตาดีที่ออกมาเที่ยวงานกับหญิงสาวชาวบ้านอีกคนหนึ่ง พวกเขาดูมีความสุขกันมากจนน่าอิจฉา เสียงเรียบเย็นๆ จากภายในอกยั่วยุให้เขากระทำการชั่วร้ายบางอย่าง เขารู้ตัวอีกที ศพหญิงสาวคนนั้นนอนสิ้นใจชุ่มโชกไปด้วยเลือด อีกด้านหนึ่งคือร่างที่กลายเป็นหินลักษณะเปลือยเปล่าในท่าทีที่หวาดกลัวสุดขีด ตอนนั้นเองที่เขารับรู้ว่าคำสาปประจำตระกูลเริ่มแผลงฤทธิ์ออกมาแล้ว จากวันนั้นการหนีของเขายังดำเนินต่อไปโดยมีอิควิน็อกซ์ไล่หลังมาติดๆ ประกอบกับเงาที่ค่อยๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ความกระหายความรักพุ่งพล่าน คำสาปที่ไม่มีทางหนีพ้น ไม่สามารถทำให้หายไปได้ เขาจะทนอยู่ได้อีกนานแค่ไหนกัน?
สไตล์การต่อสู้ : ส่วนใหญ่มักเริ่มด้วยออกหมัด เตะ ต่อยก่อน แต่ถ้าดูแล้วศัตรูใช้อาวุธ เขาก็จะใช้ดาบที่มีสู้จนสุดกำลัง
Shade : เงาของเขาเกิดจากความกระหายความรัก มันคอยยุแยงให้ไดโอทำทุกวิถีทางที่จะให้ได้ความรักนั้นมาครอง ถึงแม้จะต้องแย่งชิง ฆ่าฟันใครๆ ก็ตาม ยิ่งมีความคลุ้มคลั่งจากเลือดแห่งสัญชาตญาณยิ่งทำให้เขากลายเป็นตัวอันตรายอย่างที่สุด
อื่นๆ : อิควิน็อกซ์ออกจะเจ้าเล่ห์แสนกลอยู่บ้าง แต่เขาก็รักไดโอนีซัสเหมือนลูกแท้ๆ
เพิ่มเติม : ถ้าจะให้เขาตาย ให้เขาตายแบบธีมที่ว่า ‘พบรักแท้ตอนใกล้แต่ไม่มีวันได้ครอบครอง’ ไม่เข้าใจถามได้นะครับ
ความคิดเห็น