ผีเสื้อปีกหัก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีภูติตัวน้อยตัวหนึ่งได้หลงเข้าไปในดินแดนแห่งดอกไม้ ภูติยังคงตกใจแต่ก็อดไม่ได้ที่จะเชยชมกับความสวยงามของดอกไม้เหล่านี้ ระหว่างที่เจ้าภูติกำลังเชยชมกับธรรมชาติแสนสวยงามอยู่นั้น ภูติก็ไปสะดุดตากับอะไรบางอย่าง ผีเสื้อตัวหนึ่ง...
ผีเสื้อตัวนี้งดงามอย่างมาก ออร่าของผีเสื้อที่เปล่งออกมานั้นงดงามเหลือเกิน ภูติหลงไปกับความงดงามของผีเสื้อ แต่สิ่งที่ตรงข้ามกับความงดงามนั้น ผีเสื้อตัวนี้เยือกเย็นและดูไร้ชีวิตชีวาเหลือเกิน ครึ่งหนึ่งของปีกผีเสื้อเป็นสีขาวตัดดำ และใบหน้าที่สวยงามนั้นเบื้องในซ่อนความ เย็นชาไว้
เจ้าภูติน้อยเริ่มกระวนกระวายอยากที่จะพูดคุยกับผีเสื้อ ภูติจึงรีบบินเข้าไปหาผีเสื้ออย่างรวดเร็ว ผีเสื้อมองกลับมาด้วยสายตาเย็นชา สายตานั้น ดูเศร้าหมอง และไม่มีความสุขเอาเสียเลย ภูติเห็นแล้วทุกข์ใจไปด้วย “ทำไมเจ้าถึงได้ดูทุกข์นักละ” ภูติถามขึ้น ผีเสื้อนิ่งไม่ตอบอะไรก่อนจะพูดว่า “ข้าเกลียดดอกไม้ มันทำให้ข้านึกถึงพ่อแม่ของข้า” ภูติเข้าใจได้ในทันทีถึงความโศกเศร้าของผีเสื้อ เจ้าภูติจึงได้รู้สาเหตุที่ปีกของเจ้าผีเสื้อครึ่งหนึ่งกลายเป็นสีดำ
ภูติทนไม่ไหวแล้วที่เห็นผีเสื้อทุกข์ขนาดนี้ ภูติจึงเอ่ยถามว่า “ไปบินเล่นกันเถอะ”
ผีเสื้อไม่เคยบินขึ้นเลย ทำให้ผีเสื้อตกลงมา ภูติตกใจและบินลงไปดู “ทำไมเจ้าบินไม่ได้ละ” ภูติถาม
“ฉันเกลียดดอกไม้ บอกไปแล้วไง ฉันไม่อยากจะเห็นมันอีก” ผีเสื้อตอบ
ภูติแบกผีเสื้อขึ้นหลังก่อนจะบินขึ้นไป ผีเสื้อตกใจเล็กน้อยแต่ดูจะไม่สนใจนัก
ภูติบินขึ้นไปสูงที่สุดและบอกให้ผีเสื้อมองดู ภาพในอดีตของพ่อแม่ผีเสื้อผุดขึ้นมาทำให้ผีเสื้อน้ำตาไหล แต่มันเป็นน้ำตาแห่งความสุข
มันทำช่วงเวลาที่ได้ใช้ชีวิตกับพ่อแม่ตอนที่ได้บินด้วยกัน ผีเสื้อน้ำตาไหลและพลอยยิ้มออกมา ภูติก็ยิ้มด้วย
ผีเสื้อเริ่มสนใจในตัวภูติ ความเศร้าความเสียใจความทุกข์ที่สะสมมากลับหายไปเพียงแค่เธอบินเธอรู้สึกอัศจรรย์กะเรื่องนี้มาก ความเศร้าความเสียใจความทุกข์ที่สะสมมากลับหายไปเพียงแค่เธอบินเธออัศจรรย์กะเรื่องนี้มาก
ผีเสื้อจึงบินด้วยปีกของตัวเอง “ฉันจะพาชมดินแดนนี้เอง” ผีเสื้อบอกภูติ
ภูติยิ้ม “เอาสิ” ตอบกลับในทันที เวลาหลายวันที่ภูติกับผีเสื้อใช้เวลาด้วยกัน มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก
แต่ เวลากลับมาถึงแล้วภูติถูกดึงให้กลับสู่ดินแดนของตน ภูติพยายามจะรั้งไว้แล้วผีเสื้อก็ฉุดมือภูติไว้ แต่มันไม่ช่วยอะไร
“รอฉันก่อนนะผีเสื้อ” ภูติตะโกนมา
ผีเสื้อยิ้ม “ได้ฉันจะรอ” พร้อมน้ำตาซึม
ต่อจากนั้นเวลาผ่านไปนานมากแล้ว ผีเสื้อยังคงรอภูติน้อย อยู่เสมอดินแดนแห่งดอกไม้
วันหนึ่ง เหล่าภูติได้ถูกเชิญมาที่ดินแดนแห่งดอกไม้
ผีเสื้อดีใจมาก และตั้งตาคอยจะเจอภูติตามคำสัญญา
ดอกกุหลาบเดิมที่ภูติและผีเสื้อได้เจอกันผีเสื้อบินกลับไปที่ดอกกุหลาบนั้นแต่ภูติมาถึงก่อนแล้วผีเสื้อดีใจ “ภูต-“
ตะโกนยังไม่ทันจะสุดคำ สิ่งที่ผีเสื้อเห็นคือ ภูติน้อยตัวนั้นกำลังจูบกับภูติอีกตัวหนึ่งอยู่ ไม่มีเสียงที่เปล่งออกไป ไม่กล้าขยับ ความโศกเศร้าเริ่มกลับมาและความสับสน
ก็สัญญากันแล้วไม่ใช่หรอผีเสื้อคิดในใจ
ความโศกเศร้านั้นรุนแรงสร้างปีศาจในตัวผีเสื้อใบหน้าที่มีความสุขหายไป ความทุกข์ความเศร้ากลับมาแล้ว ปีกของผีเสื้ออีกข้างกลายเป็นสีขาวดำและ ไม่ขยับอีกต่อไป
ผู้แต่ง Kitkawin
ความคิดเห็น