ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bleach Fiction : The Hollow of My Heart (( Nnoitra X Neliel ))

    ลำดับตอนที่ #2 : จูบ

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 56


    งี่เง่า! ทำไมข้าถึงทำเรื่องงี่เง่าแบบนั้นลงไปได้นะ!! 

    ร่างโปร่งบางเดินกลับที่พักด้วยอารมณ์อันยากจะบรรยาย ในหัวเฝ้าแต่คิดวนเวียนถึงเรื่องงี่เง่าที่เพิ่งเกิดขึ้น

    ทำไมถึงลืมทิ้งดาบเอาไว้เนี่ย!!

    เรือนผมสะบัดพลิ้วไหวไปตามแรงการเดินกลับไปกลับมาของนาง คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิด ถามตัวเองซ้ำๆว่าควรจะกลับไปเอาดีไหม แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาสักทีว่าควรหรือไม่ควร

    เพราะไม่อยากกลับไปเจอเจ้านั่น... แต่คิดอีกทีเจ้านั่นคงไม่อยู่ที่เดิมแล้วล่ะ 

    ถ้าหากไม่อยู่ที่เดิมแล้ว เจ้านั่นจะทิ้งดาบไว้ตรงนั้นหรือจะเก็บไปด้วยกันนะ?

    เฮ้อ!เนเลียลปล่อยลมหายใจออกมาดังพรืด พลางชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนตัดสินใจกลับไปตามเอาอาวุธของตนคืน 

    มันคือสิ่งที่สำคัญเท่าชีวิตของเอสปาด้า แล้วจะทิ้งให้นอนแอ้งแม้งอยู่กลางทะเลทราย หรือปล่อยให้ เจ้านั่นเอาไปได้ยังไงเล่า

    น้อยครั้งนักที่นางจะแสดงอารมณ์ไม่น่าพิสมัยเช่นนี้ออกมา เพราะตามปกตินางมักจะนิ่งสงบอยู่เสมอ เมื่อใดที่นางมองออกไปยังผืนทราย...นางอดรู้สึกไม่ได้ว่ามันช่างเหมือนสภาพจิตใจของตัวเอง ทั้งไร้สีสัน ทั้งไร้ความหมาย 

    เป็น เปลือกที่ วิญญาณหายไป

    นางไม่เคยรู้ตัวเลย ทุกครั้งที่ เจ้าคนน่ารังเกียจนั่นเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตของนาง นางมักจะลืมไปว่าทะเลทรายแห่งนี้มันทำให้นางรู้สึกอย่างไร ความว่างเปล่า ความไร้ชีวิตที่เคยเกาะกินอยู่ตลอดเวลา มันหายไปทุกครั้งที่มีความรู้สึกรำคาญใจเกี่ยวกับคนๆนั้นเข้ามาแทนที่

    และครั้งนี้นางก็ยังคงไม่รู้ตัวว่า นางอยากให้คนๆนั้นเก็บดาบนางไปด้วย...

    ******** ******** ******** ******** ******** ******** ******** ********

    เคร้ง! 

    นอยโทร่าโยนดาบเล่มบางลงบนโต๊ะอย่างไม่เบามือนัก ก่อนทิ้งร่างสูงเกินพอดีลงนั่งบนเตียงพยาบาล ในห้องขนาดไม่กว้างไม่แคบฉาบไว้ด้วยความมืดสลัว ม่านกั้นข้างเตียงมีไว้เพื่อบังสายตาจากเตียงอีกสองเตียงที่ตั้งอยู่ถัดไป

    ไปโดนอะไรมา

    อารันคาร์สาวนางหนึ่งกล่าวถามเรียบๆ ขณะล้างอุปกรณ์ทำแผลในอ่างน้ำตรงอีกฟากของห้อง

    ผู้ชายที่เคยประจำอยู่ไปไหนแทนที่จะตอบ นอยโทร่าชักเสียงกระด้างย้อนถามนางไปเรื่องอื่น

    จำได้ว่าอารันคาร์หน่วยพยาบาลไม่เคยถามว่าเอสปาด้าไปโดนอะไรถึงต้องมารักษา มีหน้าที่รักษาก็รักษาไป ถ้าขืนพูดมากอาจโดนฆ่าเอาง่ายๆ โทษฐานไร้มรรยาทกับลำดับสูงกว่า แต่แม่นี่นอกจากจะถามซักไซ้แล้ว ยังพูดจาห้วนๆ ไม่มีหางเสียงอีกต่างหาก ท่าทางก็ไม่น่าจะเก่งกาจอะไรนักหนา...อวดดีชะมัด 

    ไปตายหญิงสาวกระตุกคิ้วขึ้นอย่างจงใจกวนอารมณ์ ก่อนยกถาดใส่อุปกรณ์เดินอาดๆมายังเตียงคนป่วย

    ถอดเสื้อออกซะเสียงสั่งของแพทย์คนเดียวในยามวิกาลดังขึ้น เล่นเอานอยโทร่าอยากจะบีบคอหล่อนให้ตายคามือ

    ทำไมทั้งหน่วยพยาบาลตอนนี้ถึงเหลือหมออยู่คนเดียวฟะ!

    แผลสาหัสเอาการนางบ่นไปขณะทำการรักษา รักษาหายทันทีไม่ได้หรอก พักสักสองวันแล้วกัน ยาเนี่ยช่วยทำให้แผลดีขึ้น แต่จะมีอาการแทรกซ้อนน่ารำคาญบ้างนะนางใส่ยาสีเขียวเหมือนตะไคร้น้ำใส่เขา แล้วพันแผลด้วยผ้าสีขาว 

    อาการอะไร?” นอยโทร่าถามอย่างไม่วางใจ

    ไม่รู้ 

    แล้วก็ได้คำตอบชวนให้เส้นเอ็นตรงข้อเท้ากระตุกดิกๆ โชคดีที่ยั้งไว้ทัน เพราะถ้าเขาประเคนบาทาให้นางจนสลบเหมือดไป ตอนนี้คงไม่มีคนอื่นมาช่วยรักษาแผลได้

    เสียใจที่จะต้องบอกเจ้าว่าตอนนี้ไม่มีพยาบาลดูแลหรอก ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ช่วยเหลือตัวเองเอาล่ะกันหมอหญิงพูดหน้าตาเฉย พร้อมกับพลิกแขนซ้ายดูนาฬิกาข้อมือ 

    เอาล่ะ ได้เวลาออกเวรแล้ว ไปก่อนนะ

    ไม่ทันพูดพร่ำทำเพลง นางก็เก็บของทุกอย่างใส่กระเป๋าเครื่องมือด้วยความว่องไวอย่างไม่น่าเชื่อ

    ไปไหน แล้วถ้าหากเกิดผลข้างเคียงอะไรขึ้น…” 

    ท่านไอเซ็นเรียกใช้บริการนวดเส้นยามดึก มีปัญหาอะไรเคลียร์เองสิ อุตส่าห์ได้เป็นถึงเอสปาด้าแล้วจะมามัวคิดเล็กคิดน้อยทำไม เอ้า...ผ้าพันแผลทิ้งไว้ให้นั่น เปลี่ยนทุกหกชั่วโมงนะ

    แล้วนางจรลีไปโดยไม่หันกลับมามองเอสปาด้าหนุ่มที่อ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น 

    ไว้หายดีเมื่อไรพ่อจะตามไปเชือดทิ้งแน่!!

    ร่างสูงโย่งล้มตัวลงนอนบนเตียงขนาดพิเศษ ทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างที่อยู่สูงขึ้นไปบนผนัง ท้องฟ้ายามราตรีมืดสนิท มีเพียงแสงจันทร์จางๆช่วยให้ดูสว่างไสวขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่พอขับไล่ความมืดออกไปจนหมดสิ้น

    นี่มันคืนบ้าอะไรกัน! 

    เขาอดคิดเช่นนี้ไม่ได้ ความรู้สึกเกลียดชังค่อยๆผุดขึ้นมาช้าๆ ทั้งที่ไม่รู้ว่ากำลังเกลียดชังต่ออะไร

    ตัวเอง สถานที่แห่งนี้ การต่อสู้ที่ไม่สำเร็จ หมอกวนประสาท หรือผู้หญิงคนนั้น

    ...เนเลียล...

    ลมหายใจถูกพ่นออกมาทางปากอย่างเบื่อหน่าย เหลือบไปมองดูดาบเล่มที่นอนนิ่งอยู่ข้างเตียง

    ข้าเก็บมาทำไมเนี่ย?

    เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ รู้แค่ต้องเก็บมา แต่ไม่รู้ว่าทำไมต้องเก็บมา 

    พาลนึกสงสัยไปว่า...แล้วอย่างนี้...นางจะมาทวงคืนไหม แล้วก็พาลนึกสงสัยไปอีก ถ้านางมาทวงคืนล่ะ...จะพูดอะไร แล้วถ้านางไม่มาทวงคืนล่ะ...จะทำยังไง ควรจะเอาไปทิ้ง...หรือควรจะเก็บไว้ แต่จะเก็บไว้เพื่ออะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องทิ้งเหมือนกัน

    ยิ่งคิดยิ่งมึนเอง แต่ก็ยังไม่วายสร้างคำถามต่อไป 

    ทำไม...ต้องเป็นกังวลด้วย

    เคยถามตัวเองเหมือนกัน ทำไมต้องคิดแต่เรื่องของนาง แต่แล้วก็ต้องหยุด เมื่อการตามหาเหตุผลมาถึงจุดๆหนึ่ง ก็ต้องบอกกับตัวเองว่า ควรจะหยุดได้แล้ว หยุดก่อนที่จะค้นพบคำตอบที่ไม่ควรจะถูกค้นพบ คำตอบที่ไม่ควรจะมี

    ผู้หญิงคนเดียวทำให้เขาแทบบ้า นางทำให้คนที่สับสน ยิ่งทวีความสับสน ทำให้คนที่คลุ้มคลั่ง ยิ่งทวีความคลุ้มคลั่ง

    ยิ่งนางสาดสายตาเฉยชาราวกับกำลังเหยียดหยามสัตว์ชั้นต่ำใส่เขามากเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกบีบรัดด้วยเชือกที่มองไม่เห็น ยิ่งถูกเมิน ยิ่งถูกปฏิบัติราวกับไม่มีตัวตน เชือกนั้นยิ่งรัดแน่นจนหายใจแทบไม่ออก สู้ฆ่ากันให้ตายไปเลยยังดีกว่าถูกปล่อยให้ตกอยู่ในสภาพจนตรอกแบบนั้น 

    วิธีสิ้นสุดความทรมานนี้ นอยโทร่าคิดเอาเองว่าต้องขยี้นางให้แหลกคามือไปซะ 

    แต่นางก็เก่งเกินไป...

    การมีอยู่ของนางยิ่งตอกย้ำว่าเขาต่ำต้อย 

    ทำไม...ถึงอยู่สูงนัก

    ทำไมถึงไปไม่ถึงนางสักที ยิ่งเห็นนาง เขาก็ยิ่งกระเสือกกระสนทำทุกอย่าง เพื่อจะได้ก้าวข้ามจุดที่นางยืนอยู่

    นางคือคนที่เขาชิงชังที่สุด เขาทำทุกวิถีทาง ทั้งเรียกร้อง ทั้งท้าทาย เพื่อจะล้มนางให้ได้ แต่นาง...ผู้อยู่ในเหตุผลท่ามกลางโลกที่มีเพียงกฎเกณฑ์ป่าเถื่อนของสัตว์ร้าย นาง...ปีศาจที่ทำตัวเหมือนมีหัวใจของมนุษย์ ยังคงมองเขาราวกับมองสุนัขตัวหนึ่งเห่าหอนใส่เรื่อยมา

    อาจเป็นเพราะนางมองโลกนี้สดใส ในขณะที่เขาเกลียดทุกอย่างบนโลกก็เป็นได้

    ดวงตายาวเรียวมองดาบเล่มบางที่เก็บตกมาได้เพราะเจ้าของดันลืมทิ้งไว้อย่างเลื่อนลอย ก่อนพูดกับตัวเองเบาๆ

    คืนนี้เจ้าทำตัวงี่เง่ามากเนเลียล แต่ข้าก็เหมือนกัน

    โทษทีที่ทำตัวงี่เง่าเสียงหวานเอ่ยขึ้น ทำเอาเจ้าคนที่กำลังบ่นกับดาบสะดุ้งสุดตัว 

    หญิงสาวผมยาวสยายสีมรกตสะท้อนแสงจันทร์ ดวงตาคมโตมองร่างสูงอย่างเย็นชาเช่นทุกครั้ง 

    ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากนอยโทร่า ทุกอย่างดูจะหยุดนิ่งไปชั่วครู่ เมื่อตั้งสติได้จึงยิงคำถามใส่

    เข้ามาตั้งแต่เมื่อไร

    เมื่อกี้นี้เองนางตอบกลับเรื่อยๆ ข้ามาเอาดาบคืน

    งั้นรึ 

    อับจนด้วยคำพูด เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ควรพูดอะไร ร่างเพรียวบางนั้นหยิบดาบตัวเองคืนมา ก่อนตั้งท่าจะเดินออกไป แต่แล้วก็ชะงักฝีเท้า

    นางหันหน้ากลับมาเพียงเล็กน้อย นิ่งเงียบในท่านั้น สายตาของนางไม่ได้มองเขา และคำพูดของนางก็เหมือนไม่ได้พูดกับเขา ทว่าที่นี่ก็คงไม่มีใครอื่นอีกแล้ว

    ขอบคุณเป็นคำกล่าวที่แสนเบา แต่เขาได้ยินชัดเจนทุกพยางค์

    ในตอนนี้...ควรจะตอบกลับไปว่าอะไร ในหัวมีคำค่อนขอดสารพัด แต่ทุกคำไม่สามารถหลุดออกมาจากปากได้

    ทุกอย่างจึงตกอยู่ในความเงียบ เนเลียลหันหลังกลับ ไม่มีธุระอะไรที่นี่อีกแล้ว แต่แทนที่นางจะจากไป นางกลับหยุดนิ่งเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

    ตอนเข้ามาที่นี่ ข้าสวนกับผู้หญิงผมดำคนหนึ่งนางเอ่ยขึ้น 

    แล้วไงนอยโทร่าถาม พลางสงสัยว่าคงเป็นหมอหญิงไม่เต็มเต็งคนนั้น

    นางเป็นหมอ ท่าทางจะถูกท่านไอเซ็นเรียกพบด่วน นางเห็นข้ากำลังจะมาที่นี่ นางเลยบอกให้ข้า...เสียงหวานๆแฝงความลังเลใจ ว่าควรจะพูดต่อไปหรือไม่ แต่แล้วก็ตัดสินใจพูดต่อไป ให้ข้าอยู่เฝ้า...คนป่วยให้ที

    คงไม่ต้องถามแล้วว่าคนป่วยคนไหน เพราะทั้งตึกก็มีอยู่คนเดียวนี่ล่ะ

    ปัดภาระใส่คนอื่นหน้าด้านๆเลยนะแม่นี่นอยโทร่าพึมพำอย่างหงุดหงิด เจ้าน่ะ...ไม่ต้องไปฟังอะไรแม่นั่นหรอกน่า ขืนมาอยู่นี่นาน มีหวังข้าได้อ้วกแตกตายเพราะทนเหม็นหน้าเจ้าไม่ไหว

    ถ้างั้นก็ตามใจนางเอ่ยเรียบๆ สีหน้ากลับไปไร้อารมณ์ ก่อนเดินออกไปโดยที่ไม่เหลียวมองเขาแม้แต่นิดเดียว

    มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น ถ้านางไม่ถูกคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน

    เนเลียลหยุดชะงักทันที แม้จะไม่ยอมหันกลับมา และไม่ยอมปริปากเอ่ยถาม

    ใช่...นางไม่เคยพูด และไม่เคยมอง นางทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนตลอดมา 

    ...ข้าเกลียดเจ้า...

    ทำไมไม่มอบความตายให้ข้า หรือสำหรับเจ้าแล้วแม้แต่ความตายยังสูงส่งเกินไปสำหรับคนต่ำต้อยอย่างข้า

    ทำไมถึงดูถูกกันนัก ทำไมถึงไม่เข้าใจว่าการต่อสู้นั้นมันทำให้ข้าคุ้มคลั่ง คุ้มคลั่งจนควบคุมตัวเองไม่ให้หลงใหลมันไม่ได้

    เพราะข้าเป็นฮอลโลว์ แล้วเจ้าล่ะ...เจ้าก็เป็นเหมือนกันไม่ใช่รึ แล้วทำไมถึงดูถูกสิ่งที่ข้าหลงใหลนักหนา

    แต่คำพูดเหล่านั้นก็ส่งไปไม่ถึงผู้ที่ต้องการให้รับฟัง ประโยคเดียวที่หลุดออกมา

    ทำไมเจ้าไม่เคยมองเห็นข้าเลย

    ประโยคที่แม้แต่คนพูดยังไม่รู้ว่าพูดออกไปได้ยังไง ทำให้นางหันกลับมา ดวงหน้างดงามไม่สมกับเป็นปีศาจ งดงามมากกว่ามนุษย์ด้วยซ้ำไป นัยน์ตาฉายประกายลึกล้ำ ลึกล้ำจนเกินหยั่ง ลึกล้ำจนไม่รู้ว่าก้นบึ้งอยู่ที่ไหน 

    ทุกอย่างในตัวนางบีบรัดเขาจนอึดอัด ทุรนทุราย จนอยากจะทำลายเสียให้ยับเยิน จะได้หยุดกันทีกับความทรมานแบบนี้

    อยากจะควักเอาตาใสๆนั่นออกมาแล้วบี้ให้แหลกเหลว อยากกระชากเส้นผมให้หลุดออกจากหนังหัว อยากกรีดใบหน้าให้เป็นแผลรุ่งริ่ง อยากหักแขนหักขาทิ้งซะให้หมด 

    เผื่อว่าถ้าไม่เห็นมันแล้วจะทำให้ความเจ็บปวดนี้ลดลง

    เนิ่นนาน...ที่ต่างฝ่ายไม่ได้พูดอะไรกัน ในที่สุดเนเลียลจึงเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ 

    อันที่จริงนางอยากกระชากมือออกมา และเดินออกไป แต่กลับมีอะไรตรึงขาไว้จนขยับเขยื้อนไม่ได้ เมื่อจำเป็นต้องอยู่ในภาวะนั้น นางจึงพยายามเบี่ยงเบนความสนใจ

    แผลเป็นไงน้ำเสียงที่ถามไปแหบพร่าและเกือบจะสั่นสะท้าน

    ก็ดีคำตอบสั้น ง่าย ด้วยน้ำเสียงที่แปลกกว่าที่เคย มันไม่ได้ฟังดูกวนโทสะ แต่กลับฟังดู...นุ่มนวลอย่างประหลาด

    งั้นเหรอ?” นางหลบสายตาที่จ้องตรงมาอย่างแน่วแน่ จนรู้สึกร้อนๆหนาวๆพิกล 

    นางไม่เคยมองเขาใกล้ขนาดนี้ และไม่เคยยอมปล่อยให้ตัวเองมองเขาเลย ไม่อยากมอง หรืออาจจะไม่กล้ามอง

    เพราะกลัวว่าตัวเองจะหลุดเปิดเผยบางสิ่งบางอย่างออกมา 

    หญิงสาวเคยคิดว่าร่างกายนี้เป็นแค่เปลือกที่ไร้วิญญาณ ภายในร่างที่กลวง ว่างเปล่า ชีวิตที่ไร้ซึ่งจิตใจ จนต้องพยายามค้นหาเหตุผลร้อยแปดมารองรับทุกการกระทำของตัวเอง นั่นเพราะทุกการกระทำของนางไม่เคยเป็นไปตามความปรารถนาที่ไม่มีอยู่จริง

    หากบัดนี้ภายในหลุมลึกไร้ก้นบึ้ง มันมีอะไรบางอย่างกำลังจะล้นทะลักออกมา อะไรบางอย่างที่รุนแรงจนไม่อาจควบคุม อะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นทุกครั้งยามอยู่ใกล้ชายน่ารังเกียจคนนี้

    มือเรียวอีกข้างหนึ่งที่ไม่ได้ถูกยึดไว้ยกขึ้นช้าๆ เอื้อมไปสัมผัสใบหน้าคนที่นอนอยู่แผ่วเบา ก่อนไล้ไปตามเรือนผมดำสนิท 

    ...มันนุ่มมือกว่าที่คิด... 

    ทำอะไร...คำถามของคนเจ็บถูกกลืนหายไปในลำคอ เมื่อนางทรุดร่างลงนั่งข้างกายอย่างแช่มช้า 

    ถ้าจะให้หยุดตอนนี้...ก็สายไปแล้ว

    เส้นผมสีมรกตยาวตกระใบหน้าสวยหวานที่โน้มใกล้เข้ามาทุกที ร่างกายที่เอนทับลงมานุ่มนิ่มจนนอยโทร่าแปลกใจ ทั้งโลกดูจะตกอยู่ในภวังค์ที่เขาไม่รู้จัก ยิ่งมองดวงตาคู่นั้นนานเท่าไร ยิ่งรู้สึกราวกับถูกดึงดูดให้ดิ่งลึกลงไปจนไม่อาจตะเกียดตะกายกลับมาได้ นางเข้ามาใกล้จนใบหน้าแทบจะสัมผัสกัน เปลือกตาของคนที่นอนเจ็บอยู่ปิดลงอย่างไม่อาจต้านทาน

    ...ข้าเกลียดเจ้าที่สุด...

    เสียงสบถที่ดังขึ้นในใจไม่มีอำนาจพอจะขัดขืนอะไรได้ 

    ความอบอุ่นของลมหายใจที่ระเรี่ยใบหน้า รสชาติซาบซ่านที่เรียวปากของนาง แทบจะทำให้ตัวเขาระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ยิ่งใกล้ยิ่งทรมานเหมือนจะตาย ทว่าทำไมเขากลับไม่ยอมผลักไสความทรมานนี้ก็ไม่รู้

    แขนทั้งสองข้างยกร่างที่หนักกว่าขึ้นมาอย่างยากเย็น เพียงเพื่อจะโอบรัดจนแนบแน่น อึดอัดทรมานจนหายใจแทบจะไม่ทัน จวบจนร่างสูงจะตอบสนองด้วยอ้อมกอดที่แทบจะพันธนาร่างบางไว้เป็นหนึ่งเดียวกันตน 

    ตอนนี้สายตาของเนเลียลไม่ได้เย็นชาอีกแล้ว มันไม่ได้ให้ความรู้สึกเย็นเยือกอย่างเคย ตรงข้าม...มันทำให้เขาร้อน ร้อนเหมือนกับอยู่กลางเปลวเพลิง 

    และอีกไม่นานคงทำให้มอดไหม้ไปทั้งร่าง

    ******** ******** ******** ******** ******** ******** ******** ********


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×