ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gintama Fiction: Falling Slowly (( Sougo X Kagura ))

    ลำดับตอนที่ #1 : คิดอยากจะทำอะไรก็ทำไปเลย ชีวิตเราไม่ได้ยืดยาวพอที่จะรออะไรนานๆได้หรอกนะ!

    • อัปเดตล่าสุด 8 ต.ค. 52




              20.22 นาฬิกา
    12 ธันวาคม 
    โอเอโดะ 
     
    โอ๊ะ! อากินจาง ดูสิๆ หิมะตกเลี้ยวน่อ เอโดะขาวไปทั้งเมืองเลยน่อ


     
    สาวหมวยวัยกระเตาะเบิ่งตาโตๆที่หลอกใครมาได้นักต่อนักแล้วว่าบริสุทธิ์ไร้เดียงสา มองออกไปนอกหน้าต่างจากชั้นสองด้านบนของร้านสแนคโอโทเซะ หรือก็คือที่ซุกหัวนอน...เอ๊ย! ร้านกินจังรับจ้างสารพัดนั่นเอง


     
    เด็กหนอเด็ก ตื่นเต้นไปได้นาเหวย อันที่จริงมันควรจะตกมาตั้งนานแล้วตะหาก นี่มันจะคริสมาสต์แล้วนะ ที่เพิ่งจะมาตกเพราะโลกเดี๋ยวนี้มันร้อน อากาศก็เลยวิปริตผิดธรรมชาติแบบนี้ไงล่ะคนที่มีบทพูดยาวเต็มหน้ากระดาษแบบนี้ แถมด้วยสไตล์การพูดแบบบ่นๆเหมือนตาลุงย่อมเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก...


     
    ทำเป็นพูกลีไปน่ออากินจาง ที่มันร้อนก็เพราะลื้อชอบเอาจัมป์ไปทิ้งผิดวันนั่นแหละน่อ... เพราะพวกไร้จิตสำนึกแบบลื้อโลกเรามันถึงได้เน่าเฟะอย่างทุกวันนี้ไงน่อ
     
    เฮ้ๆ ไหงวกเข้ามาเรื่องนี้ได้ฟะ กระดาษน่ะมันเป็นตัวทำลายธรรมชาติมาตั้งแต่แรกแล้วต่างหากเล่า ไม่เกี่ยวกับว่าจะทิ้งวันไหนสักหน่อย อีกอย่าง...หล่อนนั่นแหละตัวดีเลย กินล้างกินผลาญแบบนี้ สักวันทรัพยากรบนโลกจะต้องสาบสูญไปหมดเพราะเธอแน่ๆ
     
    พอเถียงไม่ออกก็แถไปหลอกด่าคนอื่นหน้าด้านๆเลยนะลื้อนี่ อายุปูนนี้เลี้ยวยังทำตัวเป็นอาตี๋ไม่มีหัวคิดไปล่าย อั๊วะล่ะระอาจริงๆ


     
    เท่านั้นแหละ พ่อพระเอกสุดหล่อถึงกับปึ๊ด หันไปตวาดลั่น


     
    ใครเริ่มก่อนกันแน่โว้ยยัยเตี้ยแรงควายยยยยยย


     
    ทว่าคางุระกลับทำหน้าตาจริงจัง พูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงทรงพลังเหมือนนักการเมืองตอนประชุมสภา 


     
    อันที่จริงด้วยวัยแก่แรดอย่างลื้อไม่สมควรจะอ่านการ์ตูนบั่นทอนสมองอย่างนั้นเลี้ยวน่อ วัยขนาดลื้อเขามีงานมีการดีๆทำกันหมกเลี้ยว ถ้าลื้อมีจิตสำนึกไม่ซื้อมาอ่าน ก็จะลดปริมาณการใช้กระดาษได้ไงน่อ


     
    ความคิดเชื่อโยงของหล่อนนี่มันช่างวิเศษจริงๆให้ตาย! คิดยังไงถึงโยงมาเกี่ยวกันได้ฟะ นี่มันแถไม่ใช่เรอะแถชัดๆเลยนี่หว่า...ติดนิสัยชอบแถหน้าด้านๆแบบนี้มาจากใครกันแน่เนี่ย ชินปาจิ


     
    กินโทกิเถียงไม่ได้เริ่มพาดพิงไปถึงบุคคลที่สามที่อ่านบทสัมภาษณ์ของโอซือในนิตยสารอย่างไม่สนใจอะไรในโลกมาตั้งนาน


     
    ยังมีหน้ามาเรียกผมเรอะ อย่างผมเนี่ยนะ! คางุระติดนิสัยห่วยๆมาจากคุณกินนั่นแหละ


     
    เฮ้! นี่ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรแกเลยนะโว้ย


     
    กินโทกิเริ่มเปิดฉากทะเลาะกับชินปาจิตามสเต็ป เป็นอันว่าวงจรอุบาทว์ในชีวิตประจำวันของนักรับจ้างสารพัดทุกคน(1. กิน 2. นอน 3. ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและคนอื่น 4. กัดกันเอง)...สมบูรณ์แบบ


     
    ระหว่างที่มนุษย์เพศผู้สองหน่อกำลังเถียงกันอยู่นั้น ยาโตะเพศเมียหนึ่งหน่อก็ถือโอกาสย่องหนีออกไปอย่างรวดเร็ว


     
    หึ...เจ้าพวกหน้าโง่เอ๋ย อั๊วะน่ะวางแผนให้พวกลื้อกัดกันเองจนไม่มีเวลาสนใจว่าอั๊วะแอบย่องหนีไปตอนไหนยังไงล่ะน่อ


     
    ดวงตาใสซื่อจ้องมองชายผมเงินกับหนุ่มแว่นกำลังตีกันอย่างไร้เดียงสา(?) ก่อนงับบานประตูปิดสนิท แล้วหายไปในเงาราตรีที่หิมะแรกโปรยลงมาจากฟ้า


     
    ............................................................................................................................................


     
    ได้เดินเล่นตอนกลางคืนแบบนี้ดีจังเลยน่อ


     
    สาวหมวยพึมพำกับตัวเอง พลางยิ้มหวานให้กับสิ่งรอบๆตัว 


     
    คาบูกิโจตอนกลางคืนเต็มไปด้วยแสงไฟสีเหลืองอมส้มจากหน้าต่างอาคารต่างๆ ฉายทาบทาหิมะสีขาวที่เริ่มเกาะค้างตามถนน กำแพง หลังคาบ้าน กลายเป็นสีเงินสะท้อนแสงเรืองรอง


     
    สวยจังน่อ


     
    คางุระที่ชอบทำตัวแก่แดดเป็นประจำ ถึงตอนนี้กลับทำหน้าตาตื่นเต้นเป็นเด็กๆเมื่อได้เห็นของสวยๆงามๆที่แสนจะธรรมดาอย่างหิมะ ซึ่งพวกผู้ใหญ่จริงๆคงไม่สนใจจะมองกันแล้ว


     
    คางุระเป็นยาโตะที่ชอบแสงแดด แต่ว่าตอนกลางวันแดดจัดๆมันก็ไม่ค่อยเอื้ออำนวยต่อธรรมชาติของเธอสักเท่าไร ดังนั้นตอนกลางคืนจึงเป็นอะไรที่สะดวกสบายและน่าสนุกกว่ามากๆ


     
    คางุระรู้ว่าตัวเองมีสัญชาตญาณที่ตอบรับกับช่วงเวลากลางคืน พละกำลังมากขึ้น(จากที่มากอยู่แล้ว) ความตื่นตัวก็มากขึ้นตามไปด้วย ความรู้สึกเหมือนพวกสัตว์ป่าที่จะแข็งแรงขึ้นเมื่อได้กลิ่นของท้องถิ่นเดิมที่เคยอยู่


     
    ปฏิเสธไม่ได้หรอก เพราะเธอเกิดมาจากความมืด มันคือสิ่งที่เธอเป็น และจะต้องเป็นจนกว่าจะตาย 


     
    บางครั้ง...เธอก็กลัว ตัวตน ของตัวเอง


     
    สิ่งที่แสดงออกในทุกวันมันเป็นตัวตนของเธอก็จริง แต่มันเป็นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น


     
    เด็กซื่อๆ ปนป่าเถื่อน รักสนุก และเถรตรง ความจริงอาจเป็นอสูรร้ายที่พร้อมฆ่าไม่เลือกหากได้กลิ่นเลือดขึ้นมา


     
    อืม...แต่ทุกวันนี้เจ้าหล่อนก็พร้อมฆ่าไม่เลือกหน้าทุกวันอยู่แล้วนี่หว่า อ๊ะ...แล้วนี้ตรูจะบ่นตรงนี้ให้เรื่องมันยืดยาวหาพระแสงอะไรฟระ?


     
    โอเคๆกลับมาที่เดิมดีกว่า 


     
    คางุระจังที่เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย ในที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะ ตอนกลางวันที่นี่เต็มไปด้วยเสียงครึกครื้นจากเหล่าเด็กๆวิ่งเล่นกัน  พอเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นตอนกลางคืนในฤดูหนาว ก็ดูสวยไปอีกแบบ 


     
    ฟู่... หนาวแล้วสิน่อ


     
    คางุระพ่นลมหายใจใส่ฝ่ามือตัวเอง ไออุ่นสีขาวลอยออกมาจากปาก เธอถูๆมือทั้งสองเข้าด้วยกันก่อนเงยหน้าขึ้นมองฟ้าสีดำ


     
    ถ้าพวกอากินจังรู้ว่าลื้อทำตัวเป็นเด็กๆอย่างนี้มีหวังถูกหัวเราะเยาะตายเลยน่อ อาคางุระ สาวน้อยบอกตัวเอง ก่อนจะเอ่ยปากต่อไป


     
    อาคุงซานต้าคะ คริสมาสต์ปีนี้อั๊วะอยากล่ายตุ๊กตาหมีตัวหย่ายๆ แล้วก็ทนๆไม่ขาดไม่พังง่ายๆสักตัว อั๊วะเป็นเด็กดีมาตลอกปีเลี้ยวน่อ อั๊วะอยากล่ายของน่ารักๆที่เข้ากับเด็กผู้หญิงน่ารักบอบบางอย่างอั๊วะมั่ง


     
    นี่ถ้าเจ้าหล่อนรู้ว่า ซานตาครอส ในเรื่องกินทามะมีสารูปแบบไหน คงจะไม่มีทางมาทำโรแมนติกขอพรแบบนี้แน่


     
    เพราะมาคิกๆดูเลี้ยวน่อ ปีนี้อากินจังต้องให้สาหร่ายดองเป็นของขวัญอีกแหงเลย อีตาคนสิ้นคิดสมองกลวงคนนี้มังคงคิกได้แค่นี้แหละน่อ ไม่เคยจะมีอะไรสร้างสรรค์มากไปกว่านั้นเลี้ยวล่ะ 


     
    ขณะที่คางุระกำลังพูดคนเดียว อยู่ๆก็มีเสียงลึกลับที่แสนจะคุ้นหูแว่วมาจากอีกทางหนึ่งอย่างจงใจให้หล่อนได้ยิน ซึ่งหล่อนคิดว่ามันช่างเป็นเสียงที่ชวนให้เส้นเอ็นตรงข้อเท้ากระตุกดิกๆเสียเหลือเกิน


     
    โอ้...คุณซานตาครอสคร้าบบบ ผมเนี่ยเป็นเด็กดี๊ดีมาทั้งปีเลยล่ะครับ เพราะงั้นคริสมาสต์ปีนี้ผมขอพรให้ไอ้พวกขวางหูขวางตาในชีวิตผมมันตายๆไปให้หมดสักทีเถอะครับ เพราะไม่ว่าไงเจ้าบ้าฮิจิคาตะคงไม่ยอมตายง่ายๆอีกปีหนึ่งแน่ๆ


     
    พลั่ก!! 


     
    แอ่ก!”


     
    เลือดข้นๆทะลักออกมาเต็มจมูกของหัวหน้าหน่วยหนึ่งแห่งชินเซ็นงุมิ ด้วยแรงอัดหนักๆจากเท้างามๆของเด็กสาวที่แข็งแรงที่สุดในจักรวาล ข้อหากวนส้นไม่ดูเวล่ำเวลา


     
    มาทำบ้าอะไรของลื้อที่นี่ห๊า อาตี๋งี่เง่าเอ๊ย!”


     
    อาหมวยน้อยตวาดลั่นอย่างเดือดจัดที่ศัตรูคู่อาฆาตดันเจ๋อมาเห็นช็อตสุดแสนจะน่าขายหน้าของตัวเองพอดิบพอดี


     
    อา...มาทำอะไรน่ะเรอะ


     
    โอคิตะผู้ไม่เจียมสังขาร ลุกขึ้นมายืนเลือดโชก แต่ไม่วายแสยะยิ้มโรคจิตสุดๆก่อนเอ่ยว่า


     
    อั๊วะม่ายล่ายมาทำอารายเลยน่ออาหมวย   อั๊วะแค่มาขอตุ๊กตาหมีตัวหย่ายๆจากอาคุงลุงซานต้าเท่านั้งเองน่อ


     
    นอกจากจะหาเรื่องอย่างออกนอกหน้าแล้ว ยังเลียนแบบเสียงของอีกฝ่ายได้เหมือนอย่างไม่น่าให้อภัย


     
    ปึ๊ด!


     
    กรี๊ดดดดดดดดด!! ตายซะ! ตายซะ! ตายซ้าอาคุงซานต้าคะ อั๊วะเปลี่ยนเป็นขอให้อาตี๋งี่เง่านี่ตายหองแทนเลี้ยวกันน่อ


     
    แต่คนอย่างโซโกะไม่ยอมโดนอัดรอบสองแน่ เขาพลิ้วตัวหลบได้อย่างสวยงามก่อนจะหันหน้ามายิ้มกว้างเยาะเย้ย


     
    สาวน้อยผู้บอบบางเหรอเนี่ย หล่อนกล้าพูดถึงตัวเองแบบนั้นได้ไงน่ะ ทั้งที่หล่อนเป็นกอริล่าภูเขาแท้ๆ


     
    ว่าใครกอริล่าย้า~!”


     
    คางุระโวยวายก่อนยกร่มขึ้นมาสาดกระสุนใส่ชนิดไม่มียั้งมือ


    ก็แหม...ดูมุมไหนก็กอริล่า


     
    โซโกะตอบพลางกระโดดหลบกระสุน


     
    กอริล่านั่นมังลูกพี่ลื้อตะหากน่อ!!”


     
    แล้วสาวน้อยผู้บอบบางบ้านไหนเขาไล่เตะผู้ชายกันไม่ทราบ


     
    อย่างลื้อไม่นับน่อ ต่อให้เรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้ ถ้าเจอคนอย่างลื้อผู้หญิงที่ไหนก็อยากกระทืบให้เดี้ยงเหมือนกังหมกนั่นแหละน่อ!!”


     
    ถือว่าคางุระจังพูดไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะผู้หญิงส่วนมากกลับยินยอมให้โอคิตะทำร้ายมากกว่าจะอยากทำร้ายโอคิตะ


     
    หืม...งั้นเหรอ?” โซโกะฟรีคิกเตะร่มคางุระกระเด็น สาวหมวยจึงเปิดฉากต่อสู้มือเปล่า เริ่มด้วยจิกผมของเขาก่อนเป็นอย่างแรก


     
    อ๊ากยัยบ้านี่


     
    คุณสุภาพบุรุษตอบโต้ด้วยการดึงแก้มย้วยๆของคุณสุภาพสตรี แล้วพยายามหาจังหวะเอานิ้วทิ่มลูกตาแป๋วแหววสีน้ำเงิน แต่พลาดเพราะถูกคุณสุภาพสตรีเอานิ้วทะลวงรูจมูกไปเรียบร้อย


     
    อ๋ายอัยอั๊ยอ่อกอ๊ะอัยอ้า
    Translate: Sougo Says = หายใจไม่ออกนะยัยบ้า


     
    ดั๊นด้อด่อยแด้มดั๊วะดิ่ด๊ะ
    Translate: Kagura Says = งั้นก็ปล่อยแก้มอั๊วะสิยะ


     
    อั๋นไอเออะ...อุ่ก!”
    Translate: Sougo Says = ฝันไปเหอะ...อุ่ก!


     
    ดืมด๊ะ ดืมดิ่งดี้ดื๊อด้ายดิงดั๊วะดู๊กด๊ะด้อ
    Translate: Kagura Says = ลืมซะ ลืมสิ่งที่ลื้อล่ายยิงอั๊วะพูกซะน่อ


     
    อาอุงอานอ้าเอ๊อะ อั๊วะอากอ้ายอุ๊กกะอาอี๋อัวอ่ายๆ
    Translate: Sougo Says = อาคุงซานต้าเคอะ อั๊วะอยากล่ายตุ๊กตาหมีตัวหย่ายๆ

     

    ดี๊ดดดดด!!”
    Translate: Kagura Says = กรี๊ดดดดด!!


     
    ขอให้ทุกท่านกลับไปอ่านตั้งแต่บรรทัดที่โซโกะกับคางุระเจอกันอีกสักสามรอบ เพราะเหตุการณ์หลังจากนี้คล้ายจะเดจาวู การโต้เถียง+การต่อสู้วนลูปนรกอยู่สักประมาณครึ่งชั่วโมง 


     
    หลังจากนั้นสุภาพชนทั้งสองหน่อก็นอนแผ่หมดเรี่ยวแรงอยู่บนพื้นสวนสาธารณะที่เริ่มมีหิมะปกคลุม แม้จะรู้สึกหนาวจัดจนตัวชา แต่ก็ไม่มีแรงลุก โดยเฉพาะโอคิตะที่เป็นแค่มนุษย์โลกแต่ดันออกแรงสู้กับยาโตะได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ พลังงานสำรองเลยหายเกลี้ยง(นี่เอ็งต่อสู้กันจริงจังมากเลยนะนี่นะ - -“ )


     
    ตามปกติถ้าสองคนนี้ทะเลาะกันล่ะก็ จะต้องมีใครสักคนคอยห้ามทัพไม่ให้การต่อสู้ยืดเยื้อจนเกินไป เพราะว่ามันจะไม่มีวันหาข้อยุติได้เองไม่ว่าในกรณีใดๆทั้งสิ้น แต่วันนี้ดันมีกันแค่สองคน แถมตอนกลางคืนก็ไม่มีคนอีกต่างหาก    


     
    เมื่อไม่มีใคร...ก็เลยสู้กันจนหมดแรงอย่างที่เห็น 


     
    นับว่าเป็นเรื่องงี่เง่าอย่างที่สุดที่คนเป็นถึงหัวหน้าหน่วยหนึ่งแห่งชินเซ็นงุมิสมควรจะกระทำเลยทีเดียว 


     
    โอคิตะชอบเล่นเป็นเด็กๆ แม้ความคิดในสมองของเขานั้นจะมีแต่เรื่องชั่วๆ จนเกินคำว่า เด็ก ไปไกลโข   


     
    น่าโมโหจริงๆน่อ อั๊วะกำลังอารมณ์ลีอยู่แท้ๆ เพราะลื้อคงเลียวเลยอาตี๋!” คางุระลุกพรึ่บขึ้นมาจากกองหิมะ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็อาจจะยังสามารถลุกขึ้นมาหักต้นไม้ในสวนสาธารณะได้อีกสักสามสี่ต้นก่อนเดินกลับบ้าน ซัดข้าวสามหม้อ แล้วนอนหลับอย่างหมดแรง(จริงๆ) 


     
    แข็งตายไปซะน่ออาตี๋


     
    คางุระทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินจากไป โซโกะแว่วเสียงฝีเท้าที่ย่ำลงบนหิมะค่อยๆเดินห่างออกไปทุกที


     
    พรึ่บ!


     
    คุณชายนิยมSลุกขึ้นนั่ง ทำสีหน้าไร้ความรู้สึก ปล่อยลมหายใจออกมาดังพรืด เศษหิมะร่วงกราวลงมาจากเสื้อยูคาตะสีขาวซึ่งบางเกินกว่าสมควรจะใส่ในฤดูหนาว และแน่นอน...มันช่วยกันหนาวไม่ได้เลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่เสื้อผ้าช่วยได้ในตอนนี้คือเอาไว้ปกปิดของสงวนกันอุจาดเท่านั้นแหละ 
     
     อันที่จริงเขาก็ยังไม่หมดแรงหรอก อาจจะยังสามารถเด็ดหัวศัตรูเก่งๆได้อีกสักสิบคน ล้มหมีได้อีกห้าตัว วิ่งรอบเมืองสามรอบก่อนกลับไปนอนหมดแรงจริงๆ(เฮ้ย! นี่มันจงใจบรรยายข่มยัยหมวยเมื่อกี้ชัดๆเลยนี่หว่า) แต่ทั้งเขาทั้งคางุระไม่เคยสู้กันนานขนาดนี้มาก่อน ต่างคนจึงเริ่มรู้สึกขี้เกียจเถียงกันขึ้นมา บวกกับเหนื่อยนิดหน่อยก็เลยนอนแปะบนพื้นหิมะเย็นๆเท่านั้นเอง(จริงจริ๊ง)
     
    เฮ้อ...นี่เราจะออกมาที่นี่ทำไมกันนะดึกๆดื่นๆป่านนี้
     
    เจ้าชายแห่งดาวSคิดในใจพลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ามัวหม่น เกล็ดหิมะสีขาวค่อยๆโปรยปรายลงมาช้าๆ 
     
    ...สวยจัง...
     
    อืม...พอเห็นหิมะเริ่มตกแล้ว ก็เลยเกิดความรู้สึกอยากออกมาเดินเล่นดูเมืองทั้งเมืองกลายเป็นสีขาวโพลนเท่านั้นเอง
     
    ถ้าคุณฮิจิคาตะรู้ว่าเราทำตัวอ่อนไหวแบบนี้ ต้องถูกหัวเราะเยาะแหงๆ
     
    ก็คงมีแต่เด็กๆเท่านั้นล่ะนะที่จะตื่นเต้นกับเรื่องธรรมดาๆอย่างหิมะตก แล้วก็คงมีแต่เด็กๆอีกเหมือนกันนั่นแหละที่คิดว่าคนอื่นเขาจะคอยหัวเราะเยาะให้กับความ เด็ก ของตัวเอง
     
    ซานตาครอสงั้นเรอะ?
     
    โซโกะบ่นพึมพำ ใจจริงก็ไม่ได้ชอบเรื่องหลอกเด็กอีหรอบนั้นหรอก  แต่ว่าถ้าหากซานต้ามีตัวตนจริงๆล่ะก็ เขาจะขอพรอะไรดีนะ
     
    ร่างโปร่งถอนหายใจอีกเฮือกก่อนทิ้งตัวลงนอนดังเดิม ขาเริ่มถูกหิมะกัดแล้วสิ แต่คนอย่างโอคิตะไม่ค่อยรู้สึกรู้สาอะไรกับความเจ็บปวดนักหรอก แน่นอน...เพราะเขาเป็นพวกซาดิสม์ยังไงล่ะ
     
    รองฮิจิคาตะเคยพูดไว้ว่าพวกซาดิสม์มักจะเป็นพวกอ่อนไหวง่ายใช่ไหมนะ
     
    ...ท่าจะจริง...
     
    โซโกะที่แข็งแกร่ง และบ้าเลือด แต่บางครั้งก็กลับอ่อนแออย่างไม่น่าเชื่อ อาจเป็นเพราะเขาไม่เคยรับรู้เลยว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ตรงไหน และความไม่รู้ในขีดจำกัดนั้นสามารถทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นและอ่อนแอลงได้ในเวลาเดียวกัน
     
    ...เราจะได้อยู่จนถึงแก่มั้ยเนี่ย?...
     
    ความคิดมากมายหลั่งไหลเข้ามาอย่างไร้การควบคุม เขารู้สึกอ่อนเพลียและง่วงงุน ภาพของผู้หญิงคนหนึ่งฉายแวบเข้ามาในสมอง
     
    ท่านพี่มิซึบะ ผู้หญิงคนเดียวที่สามารถกำราบเขาได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เธอ...ยิ้ม
     
    ...คิดถึง...
     
    อยากแข็งตายจริงๆเรอะงายห๊าอาตี๋หัวเป็ดนี่!! ทำไมไม่กลับเหล่าเต้งสักทีน่อ!!”
     

    เสียงแว้ดๆทำลายโสตประสาทดังขึ้น ร่างเล็กบางยืนค้ำหัวโซโกะอย่างหงุดหงิด สายตากราดมองร่างสูงที่นอนหลับอยู่กลางหิมะอย่างสมเพชเวทนา 
     
    โง่จริงน่ออาตี๋ ลื้ออยากโดนหิมะกัดจนเหลือแต่กระดูกใช่มั้ย?
     
    เมื่อเห็นโอคิตะยังนอนนิ่งเหมือนไม่รับรู้อะไรในโลก คางุระชักใจคอไม่ดี
     
    หรือว่า...อาตี๋นี่จะแข็งตายไปเลี้ยวจริงๆ 
     
    เธอรู้สึกว่าขนแขนพากันลุกเกรียวอย่างไร้สาเหตุ
     
    อะ...อั๊วะไม่ล่ายทำอะไรน่อ ไม่ใช่อั๊วะน่อ อาตี๋นี่โง่เองน่อที่ไม่ยอมลุกกลับเหล่าเต้ง อั๊วะไม่ล่ายบังคับให้อีนองตากหิมะสักหน่อย อั๊วะไม่ล่ายฆ่าอีน่อ

     
    ...ยัยฆาตกร...
     

    จู่ๆก็มีเสียงลึกลับแผ่วเบากระซิบบอกเธอ เสียงนั้นเหมือนจะดังมาจากส่วนลึกในจิตใจของเธอเอง 
     
    ไม่ใช่...อั๊วะไม่ล่ายเปงฆาตกร
     
    คางุระปฏิเสธเสียงสั่น 
     
    ...ถึงหล่อนจะไม่ได้บังคับให้เขานอนตรงนี้  แต่หล่อนก็จงใจทิ้งเขาไว้ ทั้งที่รู้ว่าเขาเป็นแค่มนุษย์โลก ไม่ได้มีพลังเหลือเฟือเหมือนเธอ เธอก็ยังทิ้งเขาไว้ที่นี่ จนตาย...
     

    ไม่จริง ไม่จริงน่อ!! ไม่...
     
    คางุระปิดหู ก้มหน้าลงมองพื้นราวกับไม่ต้องการรับรู้อะไรอีก แล้วก็เห็นเจ้าศพแช่แข็งนั่นกำลังเบิกตาโพลง ปากก็พะงาบๆดัดเสียงหลอนๆพูดไซโคเธออยู่นั่นเอง
     
    แล้ววินาทีที่เจ้าหล่อนรู้ว่าไอ้เสียงลึกลับจากห้วงลึกในจิตใจของหล่อนนั้นมีแหล่งกระจายเสียงมาจากไหน ก็แทบจะยกฝ่าเท้ากระทืบเจ้าศพลืมหลุมให้ได้ไปทัวร์นรกของจริง
     
    อ่อก! แอ่กอั่กน่วมแล้วยัยถึก โอ๊ยน่วมแล้วโว้ย!! ฉันเป็นพวกSนะ ไม่ใช่พวกSน่ะบอบบางนะจะบอกให้ เดี๋ยวก็ได้เป็นฆาตกรจริงๆหรอก อุ๊ฟฟ!!”
     

    ไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจเลยจริงๆ คุณชายที่เทพเรื่องการกลั่นแกล้งชาวบ้านอย่างท่านโอคิตะคนนี้ ทำไมไม่เคยแกล้งยัยหมวยปัญญาอ่อนนี่สำเร็จสักครั้ง แถมนอกจากจะไม่สำเร็จแล้วยังเจ็บตัวฟรีตลอด
     
    และแล้ว...โอคิตะก็แน่นิ่งไป
     
    อาตี๋...
     
    คางุระเรียกเมื่อรู้สึกว่าร่างใต้บาทานั้นไร้ซึ่งการตอบสนอง
     
    อาตี๋......
     
    ...เดี๋ยวลื้อก็ล่ายเปงฆาตกรจริงๆหรอกอาคางุระ...
     
    อาตี๋!! อย่ามางี่เง่าน่อ!!”
     

    สาวน้อยพลังช้างสารกระชากคอเสื้อเปียกชื้นขึ้นมา แต่ศีรษะของร่างนั้นกลับโงนเงนไปมาอย่างไร้สติ
     
    ตุ๊บ
     
    อาหมวยถึงกับมือไม้อ่อน หมดเรี่ยวแรงกะทันหัน เผลอปล่อยร่างสูงให้ร่วงไปกองกับพื้น
     
    ...ตายเลี้ยว...
     

    ............................................................................................................................................
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×