เต้นโต - ฟ้อนกิงกะหร่า - เต้นโต - ฟ้อนกิงกะหร่า นิยาย เต้นโต - ฟ้อนกิงกะหร่า : Dek-D.com - Writer

    เต้นโต - ฟ้อนกิงกะหร่า

    ผู้เข้าชมรวม

    1,268

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    1.26K

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 ก.ย. 49 / 00:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



      เต้นโต - ฟ้อนกิงกะหร่า






      เต้นโต - ฟ้อนกิงกะหร่า

      ผู้เขียนได้เคยนำเสนอเรื่อง "ฟ้อนกิงกะหร่า" และ "เต้นโต" ในคอลัมน์นี้ ฉบับวันอังคารที่ ๒๘ มีนาคม และอังคารที่ ๔ เมษายน 2549 โดยให้สาระสำคัญของความเป็นมาว่า ในสมัยพุทธกาลหลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จกลับจากการไปจำพรรษาเพื่อโปรดพุทธมารดา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ขณะเสด็จลงสู่โลกมนุษย์นั้น พุทธศาสนิกชนทั้งหลายพร้อมใจกันนำอาหารไปทำบุญตักบาตรที่เรียกว่า "ตักบาตรเทโวโรหณะ" และพร้อมนั้นบรรดาสัตว์ต่าง ๆ จากป่าหิมพานต์อันมี "กินนร" และ "กินนรี" รวมทั้ง "โต" ได้พากันไปเฝ้ารับเสด็จโดยแต่ละชนิดต่างแสดงความลิงโลดดีใจด้วยอาการต่าง ๆ จนมนุษย์จดจำมาเป็นการแสดง

      เรื่องราวของความเป็นมาดังกล่าวเป็นข้อมูลส่วนหนึ่ง แต่ยังมีข้อมูลสำคัญอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งผู้เขียนได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์ประเสริฐ ปวโร วัดหนองปลามัน อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ปราชญ์ล้านนาที่ผู้เขียนให้ความเครารพอย่างสูง พระอาจารย์ได้รับคำบอกเล่าจาก พ่ออุ๊ยส่างโพ นันติ บ้านป่าตุ้มดอน อำเภอพร้าว ว่าการเต้นโตและฟ้อนกิงกะหร่า มีเรื่องเล่าดังนี้

      ในอดีตกาล มี "ขุนหอฅำ" (เจ้าเมือง) องค์หนึ่งชอบทำบุญทอดกฐินเป็นประจำทุกปี ครั้งหนึ่งมีหญิงหม้ายคนหนึ่งเป็นคนเข็ญใจ อยากร่วมทำบุญทอดกฐินเช่นกัน จึงนำทองคำขนาดบางเท่าปีกริ้นที่ตนอุตส่าห์รวบรวมเงินที่หาได้มาตลอดชีวิตซื้อไว้แล้วไปขอร่วมทำบุญกับขุนหอฅำ การกระทำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับขุนหอฅำเป็นอย่างยิ่ง เพราะขุนหอฅำรังเกียจคนยากจน หญิงหม้ายรู้สึกผิดหวังและน้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาของตนที่เกิดมาอาภัพไม่มีใครอยากร่วมทำบุญด้วย ความรู้สึกนี้ร้อนถึง "ขุนหอสิกจา"(พระอินทร์) และ "ขุนสาง" (พระพรหม) เมื่อทราบถึงเจตนาอันเป็นกุศลของนางจึงจำแลงกายเป็นมนุษย์ลงมาบอกกับนางว่าหากมีความประสงค์จะทำบุญทอดกฐิน ก็ให้นางเอาผ้าโพกหัวที่ใช้อยู่ทุกวันไปซักด้วยน้ำจากแม่น้ำ ๗ แห่งให้สะอาด แล้วนำไปถวายแก่สงฆ์ก็ได้ชื่อว่าเป็นการทอดกฐินเหมือนกัน หญิงหม้ายทราบเช่นนั้นก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงรีบทำตามที่พระอินทร์แปลงมา บอก ครั้งถึงวันทอดกฐินของนางขุนหอสิกจาและขุนสาง ก็ ให้เหล่าเทวดาจำแลงกายเป็นมนุษย์ พร้อมกับนางกิ่งกะหร่า (กินนรา) ซึ่งเป็นลูกสาวของท้าวอุดรกุรุทวีปมาร่วมเฉลิมฉลองการทำบุญทอดกฐินของนางในครั้งนี้อย่างคับคั่ง

      ฝ่ายขุนหอฅำเมื่อได้ทราบว่าหญิงหม้ายจะทอดกฐินแข่งกับตนเช่นนั้นก็รู้สึกโกรธมาก จึงมีบัญชาให้ลูกชายที่มีกำลังอันกล้าแข็งที่ชื่อ วิมาระ พร้อมด้วยสมัครพรรคพวกมากมายมาคอยก่อกวนงานบุญของหญิงหม้าย ซึ่งภาษาไทใหญ่เรียกว่า "ผีลู"

      เมื่อพระอินทร์พระพรหมได้ทราบพฤติกรรมของเจ้าเมืองเช่นนั้นจึงได้เนรมิต สัตว์ประหลาด ขึ้นตัวหนึ่งเรียกว่า โต หรือ ซิงห์ธอ ในภาษาไทใหญ่ ให้มาคุ้มครองเหล่าทวยเทพ นางกิงกะหร่าและมวลมนุษย์ที่มาร่วมงานไม่ให้ถูกรบกวนจากพวกอันธพาล โต หรือ ซิงห์ธอ นั้นประกอบไปด้วยสัตว์ต่าง ๆ ถึง ๙ ชนิดในร่างเดียวกัน คือ มีตัวล่ำสันเหมือนสิงห์โต มีหัวเหมือนกระต่าย มีตาเหมือนมังกร มีหูเหมือนวัว มีเขาเหมือนกวาง มีลำคอเรียวเล็กเหมือนคออูฐ มีหงอนบนหัวเหมือนหงอนไก่ มีหนวดเหมือนแพะ มีพละกำลัง และท่าทางเหยาะย่างเหมือนม้า ชาวไทใหญ่ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติต่อกันมาในคราวทอดกฐินมาจนถึงทุกวันนี้ แต่โตอาจจะผิดแผกจากเดิมไปบ้างทั้งนี้เพื่อต้องการความสวยงามก็อาจเป็นได้

      ท่านผู้อ่าน อ่านมาถึงตรงนี้คงมีหลายคนร้อง "อ้อ" เพราะข้อสงสัยที่ว่า ทำไมโตถึงมีหัวเป็นกวาง ก็เพิ่งมากระจ่างคราวนี้

      กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ประเสริฐ ปวโร และ พ่ออุ๊ยส่างโพ นันติ ที่กรุณาเพิ่มเติมให้ข้อมูลเกิดความหลากหลายและคลายข้อสงสัยในบางส่วนได้

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×