ปฐมบทตำนานของเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์

ลำดับตอนที่ #17 : ตอนสุดท้าย (ที่ไรท์จะแต่งเรื่องนี้)

     ไรท์จะลงเรื่องนี้เป็นตอนสุดท้ายของเรื่องนี้ ซึ่งไรท์จะเขียนตอนนี้เหมือนเป็นแบบว่ายังไงดีไรท์อธิบายไม่ค่อยถูก แต่จะบอกว่าในแต่ละปีเกิดอะไรขึ้นบ้างก็แล้วกัน

ตอนสุดท้าย

       ปีที่ 2 ของอาณาจักรเทนโน(หลังจากเหตุการณ์ของตอนที่แล้ว 1 ปี)และอีก 2 เดือนกับอีก 4 วัน

     วัลแคนมีคำสั่งให้ฝึกกองทหารขนาดใหญ่ และยังทำการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหญ่อีกด้วย

     

     จากนั้น 2 เดือน กองทหารกว่า 5 แสนนาย ก็ได้รับคำสั่งให้เคลื่อนพลขึ้นเหนือไปนอกเขตกำแพงผู้พิทักษ์(กำแพงที่วัลแคนสั่งให้สร้าง) เพื่อทำการขยายอาณาเขต ของอาณาจักรเทนโนโดยคำสั่งมีแค่สองอย่างก็คือ ถ้ามีเจ้าของที่อยู่แล้วให้ทำการเจรจา แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่รับก็ให้สงครามไปได้เลย แต่ถ้ากรณีที่ไม่มีเจ้าของก็ยึดแล้วตั้งหมู่บ้านเอาไว้ แล้วส่งสารกลับมาบอกเมืองหลวง แล้วทำการเคลื่อนพลต่อไปได้เลย 

     ทุกคนเรียกเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า การขยายอำนาจของอาณาจักรเทนโนครั้งที่ 1 ซึ่งเกิดขึ้นกับทวีปอเมริกาใต้(ถ้าตามแผนที่โลกเดิมอะนะ) และยังเป็นเหตุการณ์นองเลือดที่ผู้คน ตายมากที่สุดครั้งหนึ่ง เพราะพวกอาณาจักรหรือแคว้นต่างๆ ต่างพากันปฏิเสธข้อเสนอของอาณาจักรเทนโนในตอนนั้นกันเกือบหมด ทำให้ประชาชนตาดำๆต่างก็ต้องรับเคราะห์ไป เพราะทุกครั้งที่ กองทัพเทนโนเดินทางไปถึง เทนโนก็จะยื่นโอกาศรอดให้ก่อน และเตือนให้ผู้คนอพยพไปสะ เพราะพวกเขาไม่ลังเลที่จะฆ่าพวกประชาชนของศัตรูเป็นอันขาด เพราะถือว่าเตือนแล้ว แต่ไม่ฟังเอง ซึ่งผลที่ได้นะ เหรอ ก็ไม่มีใครฟังคำเตือนของพวกเขาเอง หรือรับโอกาศในการรอดเอง ก็ถือว่าโชคร้ายกันไปละนะ

     หลังจากนั้น 6 เดือนการขยายอาณาเขตของอาณาจักรเทนโน ทุกอาณาจักรทุกแคว้นในทวีปอเมริกาใต้ ต่างถูกเทนโนกลืนกินไปจนหมด แต่ก็ยังมีบ้างส่วนที่เลือกจะเป็นเมืองขึ้นของเทนโน ทำให้พวกเขารอดตัวไป

     ปีที่ 3 หลังจากที่อาณาจักรเทนโนใช้เวลาในการฟื้นฟูกองกำลัง และ ปรับเปลี่ยนชื่อเรียกของเทนโน จากอาณาจักรเทนโนเป็นจักรวรรดิเทนโน แทน พร้อมกับเปลี่ยนอาวุธที่กองทัพใช้เป็นอาวุธหลักจากพวกดาบ หอกมาบ้างส่วนแล้ว ใช้เป็น ปืนในสมัยช่วงยุคล่าอาณานิคมของอังกฤษและหน้าไม้กลแทน และยังจัดสร้างกองเรือเครื่องจักรไอน้ำขนาดใหญ่ และยังมีการส่งกองเรือสำรวจออกไป ทำให้วัลแคนรู้ว่า พื้นที่เกือบทั้งหมด ในบริเวณที่เขาอยู่ใช้แผนที่ในโลกของเขาเป็นตัวอ้างอิงแต่มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้ต่างจากเดิม อย่างป่าอเมซอน ก็เปลี่ยนเป็น พื้นที่ลุ่มแม่น้ำขนาดใหญ่แทน

     นั้นทำให้เขาส่งกองเรือสำรวจทั้งสองฝั่งของอาณาจักร และ ยังบอกกลับพวกกองเรือสำรวจไปด้วย การเดินครั้งนี้ พวกเขาคงต้องจากบ้านไปไกลแน่นอนเพราะฉะนั้นจงเตรียมใจเอาไว้สะ

     และวัลแคนยังมีการสั่งให้สร้างรางรถไฟ และสร้างรถยนต์ยุคแรกออกมาปูนถนนใหม่ให้ดีขึ้น 

     ส่วนพวกชนพื้นเมืองหรือพวกคนของอาณาจักรที่เหลือรอดจากสงคราม หลังจากที่พวกเขาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของดินแดนที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยอาศัย ก็ไม่มีอะไรจะมาโต้เถียงกับสิ่งที่จักรวรรดิเทนโนทำ พวกเขาได้แต่โทษผู้ปกครองของพวกเขาอยู่ในใจว่าทำให้ไม่ยอมรับข้อเสนอไปตั้งแต่แรกไม่งั้นพวกเขาคงเจริญรุ่งเรืองไปแล้ว แม้ต้องอยู่ในสถานะของเมืองขึ้นก็ตาม

     และในปีที่ 4 วัลแคนยังมีการส่งพวกประชาชนของเขาบางส่วนไปยังดินแดนที่ยึดมาแล้วให้พวกเขาพัฒนาต่อกันเอาเอง โดยวัลแคนจะให้งบสำหรับพัฒนาดินแดนเป็นเงินจำนวน 3 ล้าน เทน(ค่าเงินของจักรวรรดิเทนโน) กับผู้ที่เป็นตัวแทนของแต่ละเขตที่เขาส่งไป

     และยังส่งกลุ่มทหารที่แต่งตัวเป็นนักเดินทางไปยังอเมริกากลางและอเมริกาเหนือเพื่อค่อยเป็นหูเป็นตาให้กับจักรวรรดิ เพราะตั้งแต่เหตุการณ์ที่ พวกเราทำการขยายอาณาเขตการปกครองครั้งใหญ่ ก็ทำให้พวกอาณาจักรอื่นตื่นตัวกันเป็นอย่างมาก เพราะไม่คิดว่า ทางทวีปอเมริกาใต้ จะมีอาณาจักรที่มีคุมพลังมากขนาดที่ว่าสามารถกลืนกินดินแดนได้ทั้งทวีป

     ปีที่ 5 จักรวรรดิเทนโนได้ทำการพัฒนาระบบชลประทานและสร้างเส้นทางให้ดีขึ้นไปอีก และยังคอยพัฒนาพวกยานพนะให้ดีขึ้น และวัลแคนยังได้รับแบบแปลนคราวของอาวุธใหม่ของเขา ที่เขาได้ให้แบบแปลนอาวุธคราวๆของเขาส่งไปให้พวกโรงงานผลิตอาวุธต่างๆ ในจักรวรรดิเทนโน โดยแบบแปลนก็มีอาวุธปืน ยาพนะสำหรับทำสงคราม โดยวัลแคนได้แนบข้อความไปกับแบบแปลน ว่า จงสร้างอาวุธที่พัฒนาต่อยอดจากแบบแปลนเหล่านี้สะ 

     แล้วเอาให้ข้าดูว่าอันไหนจะได้เป็นอาวุธและยานพนะสำหรับสงครามที่จะได้ใช้เป็นอาวุธหลักของกองทัพ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องใช้ทรัพยากรให้น้อยและได้ประโยชน์สูงสุด พอพวกหัวหน้าคนงานและผู้บริหารในแต่ละโรงงาน ก็ต่างพากันระดมความคิดเพื่อสร้างอาวุธและยาพนะสำหรับสงครามที่ดีที่สุดกันหมด เพื่อให้ปฐมจักรพรรดิของพวกเขาได้ดูว่าอาวุธของเขานั้นดีที่สุดและจะต้องได้ถูกจารึกเอาไว้ว่าครั้งนึงว่าอาวุธเหล่านี้ได้ทำคุณประโยชน์เอาไว้เยอะแค่ไหนกับจักรวรรดิของพวกเขา

     และวัลแคนยังได้สั่งให้ทำการสร้างโรงเรียนเพิ่มขึ้นอีกในเขตต่างๆโดนแบ่งเป็นโรงเรียนสามัญ(ก็โรงเรียนธรรมดานะแหละ) โรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนเฉพาะทาง(ก็พวกโรงเรียนสายอาชีพละมั้งนะ)ขึ้นมา

     หลังจากนั้นเข้าสู่ปีที่ 6 ก็มีตัวอย่างอาวุธที่ทำเสร็จแล้ว มาให้วัลแคนดู โดยวัลแคนก็เลือกไปบางส่วน   โดยที่หน้าตาของมันคล้ายกับปืนช่วงสงครามโลกในโลกเก่าของเขาเลย ทำให้วัลแคนเลือกมาและบอกว่าให้ลองเอาระบบการทำงานของปืนอื่นมาร่วมกันเพื่อมันจะทำให้ได้ปืนที่สุด ซึ่งทุกคนที่เอาอาวุธต้นแบบมาเสนอให้กับองค์จักรพรรดิของพวกเขาก็พยักหน้ารับคำ ก่อนจะออกไป เพื่อพูดคุยว่าระบบของแต่ละคนมีปัญหาและคนดีแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะสร้าง อาวุธสงครามที่ดีที่สุดให้องค์จักรวรรดิได้เห็น

     ปีที่ 7 กองเรือสำรวจจากทางตะวันตกก็กลับมาพร้อมกับคณะเดินทางจากต่างแดน ในตอนนี้พวกเขาเจอท่าเรือของจักรวรรดิก็พากันตกใจ เพราะท่าเรือของจักรวรรดินั้นใหญ่มาก และยังมีกองเรือจอดอยู่ แต่ก็มีเรือของพวกพ่อค้ามาค้าขายที่เมืองท่าจอดอยู่ประปลาย

     เหล่าคณะเดินทางได้ทำการเดินทางไปยังเมืองหลวงจักรวรรดิ ก็ต่างพากันตกใจกลับขนาดของเมืองและเทคโนโลยีที่ต่างกันราวกับฟ้า แถมพวกเขายังเห็นพวกทหารที่สะพายอาวุธไว้ด้านหลัง เดินประปรายตามทางเดินซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วของจักรวรรดิ เพราะ ประชากรกว่า 30 เปอร์เซนต์เป็นทหาร แต่ถ้าให้เรียกเกณฑ์ครั้งใหญ่ก็จะได้ทหาร กว่าครึ่งประเทศ เพราะจักรวรรดิ ออกกฏหมายชัดเจน ว่า ประชาชนทุกคนจะต้องได้รับการฝึกทางทหารเป็นอย่างน้อย 1 ปี หลังจากเรียนจบตอนอายุ 15-16 ปี (ก็จะประมาณช่วงจบ ม.ต้นในบ้านเราละมั้ง หลังจากฝึกเสร็จ จะเลือกเรียนต่อหรือเลือกเป็นทหารก็ได้ตามสบาย

     หลังจากนั้นคณะเดินทางจากต่างแดนทางตะวันตก ก็มาถึงพระราชวังขององค์จักรพรรดิ ก็พบกับวัลแคน จากนั้นพวกเขาก็พูดคุยกันสักพัก และยังบอกอีกว่า จักรวรรดิแห่งนั้นปกครองดินแดนอันกว้างใหญ่เอาไว้อยู่ และพวกเขากำลังรอที่จะเอามันมาเป็นของพวกเขา นั้นก็เพื่อหลอมร่วมให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันไม่ว่าจะเป็นเผ่าอะไรก็ตาม พร้อมกับบอกพวกคณะเดินทางไปว่า ยังไงสะ สงครามก็ต้องเกิดไม่ช้าหรือเร็ว เพราะผู้คนนั้นต่างมีความคิดในแบบของตัวเอง และความถูกต้องในแบบของพวกเขา 

     หลังจากนั้นพวกเขาก็ยังคงเจรจา กันไป โดยผลสุดท้ายเหล่าคณะเดินทางที่ มีผู้นำของมาร่วมด้วย ก็ตกลงว่า อาณาจักรของพวกเขาจะขอยอมเป็น อาณานิคมของจักรวรรดิเทนโนแลกกับความปลอดภัยของผู้คน ซึ่งตัววัลแคนก็ยอมรับข้อตกลง และเพิ่มเงื่อนไขเข้าไปเล็กน้อย ทำให้จักรวรรดิเทนโน ได้รับ อาณานิคม 1 แห่ง คือ อาณาจักรโอเชียแลนด์ อาณาจักรที่ตั้งอยู่บน เกาะออสเตเรีย และมีพวกเขายังมีเมืองขึ้นเป็นพวกอาณาจักรเล็กๆหรือแคว้นเล็กๆตามหมู่เกาะ ต่างๆรอบพวกเขาอีกหลายกลุ่มที่เป็นเมืองขึ้น ซึ่งทางจักรวรรดิ ตัดสินใจให้พวกเมืองขึ้นพวกนั้น ผนวกรวมกับ อาณาจักรโอเชียแลนด์ และเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น เทนโนเชียแลนด์ แทนเพื่อบ่งบอกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิเทนโน

     และยังบอกอีกว่าประชาชนของพวกเขาจะไม่ถูกเกณฑ์ไปรบถ้าไม่จำเป็น หรือ สงครามเกิดขึ้นแถวๆพวกเขา

     ปีที่ 8 กองเรือสำรวจ ที่ไปทางตะวันออกก็กลับมาพร้อมกับเรือที่ร่องรอยของการต่อสู้และเลือดที่อยู่บนเรือ ซึ่งทางหน่วยสำรวจได้รายงานพวกเขาเจอทวีปใหม่ แต่พวกก็ถูกพวกชนพื้นที่เขาโจมตี และพวกเขาก็พยายามเจรจาแต่ไม่สำเร็จทำให้ต้องรีบเดินเรือกลับมายังแผ่นดินเกิดอย่างเร่งด่วน มีลูกเรือหลายคนต้องเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บและติดเชื้อ ทางวัลแคนที่รู้เรื่อง ก็เอาเรื่องนี้ไปจดบันทึกเอาไว้ในบัญชีดำที่จะต้องไปเอาคืนให้ทหารของเขา

     ปีที่ 9 วัลแคนได้ทำการจัดตั้งหน่วยใหม่ ก็คือ หน่วยผู้พิทักษ์หรือการ์เดี้ยน เป็นหน่วยรบพิเศษที่วัลแคนจะเป็นคนเลือกเองกับมือ และในอนาคต หนึ่งในผู้ที่ทำชื่อเสียงให้กับจักรวรรดิเทนโนและสร้างความหวาดกลัวให้กับศัตรูได้มากที่สุดจะถือกำเนิดขึ้น

     ปีที่ 10 จักรวรรดิเทนโนมีการเรียกรวมพลกองทหารกว่าครึ่ง ให้ขึ้นเรือเพื่อไปยังดินแดนตะวันออกเพื่อเอาคืนกับพวกที่ทำร้ายพวกหน่วยสำรวจและตั้งเมืองที่ทวีปตะวันออกของพวกเขา

     หลังจากนั้น 6 เดือน จักรวรรดิเทนโน ได้ตั้งเมืองในดินแดนตะวันออก และขยายอาณาเขตจนมีพื้นที่พอกับอาณาจักรเล็กๆ ทำให้จักรวรรดิเทนโนตั้งให้ ที่นี้เป็นเขตการปกครองพิเศษแยกออกมาจาก จักรวรรดิเทนโน ไม่จำเป็นต้องขึ้นตรงต่อตัวผู้มีอำนาจในจักรวรรดิเทนโน แต่ถ้ามีคำสั่งโดยตรงลงมาจาก องค์จักรพรรดิ จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดทันที โดยให้ชื่อเขตการปกครองพิเศษนี้ว่า เทนโนยุโรปา

     ปีที่ 11 จักรวรรดิเทนโนทำการเรียกฝึกทหารเพิ่มไปอีกเท่าตัว และ เพิ่มโรงงานผลิตขึ้นเป็นอีกเท่า ตัวแต่ก็ยังคงพยายามลดการทำลายธรรมชาติให้มากที่สุด โชคดีที่ ผลน้ำมัน นั้น เวลาเผาไหม้ จะไม่ทำให้เกิดการทำลายชั้นบรรยากาศ และไม่เป็นต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ให้สามารถเอามาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้อย่างดี

     ปีที่ 12 จักรวรรดิเทนโน ประกาศสงครามเพื่อรวมดินแดน กลับพวกอาณาจักรในอเมริกากลาง จนพวกในอเมริกากลางต้องไปขอความช่วยเหลือจากพวกอาณาจักรในอเมริกาเหนือ เพราะพวกเขาแถมจะต้านทานกองทัพจักรวรรดิเทนโนไม่ได้เลย (มันก็ต้องไม่ได้อยู่แล้วไม่ใช้เหรอฟะ จักรวรรดิเทนโนอยู่ช่วงประมาณยุคสงครามโลก พวกเองยังอยู่แค่ยุคกลางกันอยู่เลย จะเอาอะไรไปสู้เขา)

     ปีที่ 13 เหล่าอาณาจักรทั่วอเมริกาเหนือและกลาง ประกาศก่อตั้งสัมพันธมิตรต่อต้านจักรวรรดิเทนโน และระดมพลครั้งใหญ่ เพื่อตีโต้กลับ 

     ปีที่ 14 กองทัพสัมพันธมิตรต่อต้านจักรวรรดิ ที่ใหญ่ที่สุด ก็ถูกทำลายลงด้วยฝีมือของคนเดียวๆ(ไม่บอกต้องก็รู้ว่าใคร) ทำให้กองทัพสัมพันธมิตรที่เป็นพวกอาณาจักรในอเมริกากลางยอมแพ้กันหมด ส่วนพวกอเมริกาเหนือยังยืนกรานว่าจะสู้กับจักรวรรดิต่อ

     ปีที่ 15 ประเทศต่างๆในอเมริกาเหนือ ถูกกองทัพจักรวรรดิเทนโน บดขยี้อย่างย่อยยับ ทำให้ พวกเขาต้องยอมแพ้ 

     ปีที่ 16 จักรวรรดิเทนโนสามารถรวบรวมทวีปอเมริกาทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้สำเร็จและทำการแบ่งเขตการปกครองเป็นแบบนครรัฐที่ต้องขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลางของจักรวรรดิ โดยมี องค์จักรพรรดิเป็นประมุขสูงสุด และทำการปฏิรูปการเมืองในเขตต่างๆอย่างพร้อมเพรียงและเลิกทาสในเขตรัฐต่างๆในเขตอาณานิคม เขตการปกครองพิเศษ เมืองขึ้นและรัฐในการปกครองอย่างสมบูรณ์ถึงขึ้นก่อให้เกิดเป็นสงครามกลางเมืองตามนครรัฐต่างๆของเทนโน แต่ทางจักรวรรดิก็ได้รับชัยชนะอยู่ดี ด้วยความช่วยเหลือจากประชาชน ที่ต้องการอิสรภาพและหลุดพ้นจากการถูกพวกขุนนางและราชาของพวกเขากดขี่

     ปีที่ 17 จักรวรรดิเทนโนส่งกองทัพขนาดใหญ่ไปยังอาณานิคม เทนโนเชียแลนด์ เพื่อบุกโจมตี ประเทศในเขตนี้ เพื่อขึ้นแผ่นดินใหญ่ให้ได้และขยายอาณาเขตของอาณานิคม เทนโนเชียแลนด์ไปด้วย การโจมตีละลอกแรกของเทนโน ยกพลขึ้นบกที่ ประเทศ มาเลเชีย ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของ ราชอาณาจักร สุวรรณ 

     ก่อนจะรุกคืบขึ้นไป จนยึดเขตภาคใต้ของ สุวรรณได้ทั้งหมด และประกาศว่า พื้นที่เขตนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคม เทนโนเชียแลนด์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปทันที ก่อน องค์จักรพรรดิ จะ สั่งให้กองทัพตั้งเมืองขึ้นที่ชายแดนของ ราชอาณาจักรสุวรรณ มาเพื่อเป็นเมืองหน้าด่าน และ ออกคำสั่งให้ เขตการปกครองพิเศษ เทนโนยุโรปา ให้เปิดรับสมัครทหารในเขตการปกครอง และ ส่งกองกำลังไปยังเขต เทนโนยุโรปา จำนวน 5 แสนนาย เป็นทหารราบ 3 แสนนาย กองทหารยานเกราะ 1 แสนนาย กองพลรถถัง อีก 5 หมื่นนาย และทหารอาสา 5 หมื่นนาย

     ก่อนที่เขต เทนโนยุโรปา จะเริ่มรุกรานประเทศรอบๆ จนกินพื้นที่ไปส่วนหนึ่งของยุโรป ตั้งแต่โปรตุเกสถึงสเปนตรงชายแดนฝรั่งเศสในโลกเดิม (เขต เทนโนยุโรปา ตั้งเมืองที่เป็นส่วนกลางของเขตที่เมืองหลวง โปรตุเกส ในโลกเก่า)

     ปีที่ 18  จักรวรรดิเทนโนส่งกองทัพบุกเข้าทวีปแอฟริกาและยึดได้ทั้งทวีป ก็ตั้งให้เป็น อาณานิคมแทน โดยให้ชื่อว่า เทนโนฟริกา ก่อนจะทำการหยุดรุกรานดินแดนอื่น เพื่อพื้นฟูกำลังรบและพัฒนาดินแดนที่ยึดมาได้

     ปีที่ 19 พระเจ้าผู้เป็นคนส่งพวกผู้เล่น(เทพ) เรียกตัวทุกคนกลับ เพื่อให้อาณาจักรของพวกเขา พัฒนาไปด้วยตัวเอง ทางจักรวรรดิเทนโน องค์จักรพรรดิของพวกเขา ได้ทำการร่างแผนเอา และ ยังได้ออกคำสั่งไว้ ว่าอย่าพึ่งทำอะไรทั้งนั้น ให้ทำการพัฒนาบ้านเมือง และ เทคโนโลยีให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก และให้ปฏิบัติตาม คำสั่งอย่างเคร่งครัด เพราะพวกเราจะกลับมาในสักวัน ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ ลูกขององค์จักรพรรดิและ ลูกของเหล่าผู้เล่นคนอื่นๆในฝ่ายจักรวรรดิเทนโน เกิดขึ้นมาลืมตาดูโลก

     ปีที่ 701 เหล่าองค์เทพ ของทุกอาณาจักรได้หวนคืนกลับมา องค์จักรพรรดิคนปัจจุบัน ได้ทำการป่าวประกาศไปทั่วทุกเขตของจักรวรรดิ ว่า ปฐมจักรพรรดิ และ บริวารแห่งทวยเทพ ของ พระองค์กลับมาแล้ว ทำให้ จักรวรรดิเทนโนมีการฉลองกันใหญ่ เพราะว่านั้นเป็นสัญญาณบอกอย่างดีว่าพวกเขาถึงเวลาที่จะหลอมรวมทุกคนบนโลกให้เป็นหนึ่งภายใต้ผืนธงของจักรวรรดิเทนโน 

     ปีที่ 702 จักรวรรดิเทนโน ได้ทำการประกาศสงครามกับประเทศที่ยังลงเหลืออยู่ในยุโรป ตะวันออกกลางและเอเชียทั้งหมด กองทัพจักรวรรดิเทนโนจำนวนมหาศาลเข้าบุกยึดทุกอาณาจักรอย่างรวดเร็ว และการต่อสู้เต็มไปด้วยการสูญเสียของฝ่ายศัตรูเพียงฝ่ายเดียวเพราะจักรวรรดิเลือกวิธีที่หลีกเลี่ยงการสูญเสียทหารโดยใช้เหตุ ทำให้พวกเขาเลือกที่จะรบแบบกองโจร ลอบกัดพวกศัตรูแม้ฝ่ายเขาจะมีจำนวนที่เยอะกว่าก็ตาม นั้นยังไม่รวมถึงวิธีการรบแบบสายฟ้าแลบของพวกเยอรมันนี ในช่วงสงครามโลกอีกด้วย เหล่าผู้บัญชาการฝ่ายจักรวรรดิเทนโน ใช้ความรู้ในการรบทุกอย่างที่รู้เพื่อลดการสูญเสียคนของตัวเอง และ ทำลายศัตรูได้มากที่สุด

     ปีที่ 703 ทวีปตะวันออกกลางและยุโรป ถูกกองทัพจักรวรรดิเทนโนบุกเข้ายึดครองได้สำเร็จ และทำการปราบพวกกลุ่มต่อต้านจนหมด จนไม่มีใครกล้าที่จะลุกขึ้นมาต่อต้านฝ่ายจักรวรรดิอีก

     ปีที่ 704 ทวีปสุดท้ายที่ยังดิ้นรนจากเงื้อมมือของจักรวรรดิเทนโน ก็ไม่อาจต้านทานกองทัพจักรวรรดิได้อีกต่อไปก็ ถูกกองทัพจักรวรรดิเข้ายึดครองจนได้หมด และในเวลาเดี๋ยวกัน ปฐมจักรพรรดิของพวกเขา ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นพระเจ้าของโลกใบนี้โดยสมบูรณ์

     ปีที่ 705 จักรวรรดิเทนโนที่รวบรวมดินแดนได้ทั้งหมด ก็ประกาศเป้าหมายใหม่ขึ้นมาว่า พวกเราจะแสดงพลังอำนาจของพวกเราให้ทุกคนทั่วจักรวาลได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของพวกเรา 

     ปีที่ 706 จักรวรรดิเทนโนได้สร้างยานอวกาศได้สำหรับและส่งมันออกไปสำรวจรอบๆระบบสุริยะของดาวบ้านเกิดของจักรวรรดิเทนโนทันที ก่อนจะรีบพยายามาพัฒนายานอวกาศให้ดีขึ้นไปอีกและพัฒนาอาวุธให้ดีขึ้นไปอีกขั้นด้วย

     ปีที่ 707 จักรวรรดิเทนโนได้ทำการส่งกองยานสำรวจออกไปให้ใกล้ขึ้นอีก พร้อมกับ ส่งยานโคโลนีออกไปเพื่อหาดาวที่ผู้คนบนดาวบ้านเกิด สามารถอาศัยอยู่ได้ และ จักรวรรดิเทนโนยังเปลี่ยนระบบการปกครองให้เป็นแบบนครรัฐที่ต้องขึ้นตรงต่อเมืองหลวงจักรวรรดิเทนโน(รัฐบาลกลาง)โดยสมบูรณ์ แต่ก็ยังให้อิสระในการปกครองและพัฒนาดินแดน แต่ถ้าอยากขยายดินแดนอย่างการประกาศสงครามกับเขตข้างเคียง จะต้องติดต่อรัฐบาลกลาง เพราะ จักรวรรดิเทนโนไม่ต้องการให้มีการนองเลือดภายในดินแดนของพวกเขา เพราะงั้นจึงจะการประลองขึ้นมาแทน เพื่อใช้ในการตัดสินและลดการนองเลือดลง เพราะองค์จักรพรรดิได้กล่าวเอาว่า ไม่ช้าก็เร็ว พวกเราจะได้แสดงพลังอำนาจของพวกเราให้พวกต่างดาวได้เห็นถึงพลังของพวกเรา

_____________________________________

จบตอน 

ไม่เขียนต่อแล้วนะเรื่องนี้นะ เพราะว่าตันมากๆเลย 

     แล้วก็ถ้าผมแต่งนิยายเรื่องใหม่ที่เกี่ยวกับไปต่างโลกไม่ว่าจะอะไรก็ชั่ง ให้นึกถึงวัลแคนไว้เป็นเจ้าแรก เพราะเฮียแกมีเอี่ยวทุกเรื่อง หรือไม่ก็ตัวเอกของเรื่องมีความหลังกับจักรวรรดิเทนโนในชาติก่อน 

     ซึ่งสรุปเอาง่าย พวกแม่งต้องเป็นการ์เดี้ยน ของจักรวรรดิเทนโน เพราะการ์เดี้ยน สำหรับผมนะ พวกการ์เดี้ยน ทำข้อตกลงกับวัลแคน เอาไว้ว่า จะเป็นดาบและโล่ให้กับวัลแคน ไม่ว่าจะตายแล้วเกิดใหม่อีกกี่ครั้งพวกเขาจะเป็นดาบและโล่ให้ วัลแคน เพราะมันคือพันธสัญญาที่ตกลงกับวัลแคนเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่พวกเขาต้องการ 

     อย่างการ์เดี้ยน ซัมมอน ที่ปรากฏตัวในนิยายอีกเรื่องหนึ่งของผมนะ ข้อตกลงของเฮียแกคือ จะเป็นดาบและโล่ให้กับวัลแคน(ปฐมจักรวรรดิแห่งจักรวรรดิเทนโน) โดยแลกกับเข้าถึง เวทย์อัญเชิญทุกแขนงและสิ่งที่เกี่ยวข้องการอัญเชิญ ไม่ว่าจะอัญเชิญ เทพ ปีศาจ ผู้กล้า อะไรก็ได้ที่ตอบรับการอัญเชิญของการ์เดี้ยนซัมมอน

     ส่วนคนที่ติดตาม นิยาย เรื่อง (Fic Boku no hero Academia)เกิดใหม่พร้อมกับความสามารถในการอัญเชิญ(ชื่อชั่วคราว) พอดีมานั่งแต่งนิยายเรื่องนี้เป็นตอนสุดท้ายที่จะลงก็เรื่องไม่ได้มาแต่งลงเมื่อวาน