FicBTS:BABY[KookV,VKook]
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ แฟนฟิคเกาหลี ผู้แต่ง : KimbMmind
My.iD :
https://my.dek-d.com/KimbMmind/writer/
ตอนที่ 3 : #จองกุกเบบี้ 2 : His brother
ตกเย็น
กริ้งงงงงงงงงงงงงง
เสียงกระดิ่งดังลั่นเป็นสัญญาณสิ้นสุดวันที่แสนยาวนานและน่าเบื่อหน่ายของจองกุก เด็กหนุ่มสะพายกระเป๋าเป้ใบแห้งขึ้นพาดบ่ามุ่งหน้าไปล็อกเกอร์เก็บของเพื่อเอาสมุดหนังสือที่ใช้เรียนวันนี้ยัดใส่ไว้ข้างในอย่างลวกๆ รวมถึงสมุดการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ที่คุณครูนัดส่งตอนปลายสัปดาห์
ส่งอีกทีตั้งวันศุกร์ นี่เพิ่งจะวันจันทร์เอง... รีบทำไปทำไม
จองกุกคิดเมื่อจัดการล็อคตู้เก็บสัมภาระเรียบร้อย ขาเล็กก้าวไปตามระเบียงทางเดินที่พลุกพล่านไปด้วยเด็กนักเรียนทั้งมอปลายและมอต้นกำลังขวักไขว่เพื่อเดินทางกลับบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าสวนทางกับจองกุกที่ไต่บันไดไปยังชั้นสามของอาคาร A ห้องเรียนแทฮยอง
"ฮยองงงงงงงง"เสียงเรียกเจื้อยแจ้วเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้นก่อนเจ้าตัวจะโผล่หน้าเข้ามาในห้องเรียนของมอต้นปีสาม ถึงจะต่างชั้นปีแต่ทุกคนล้วนรู้จักจองกุกเพราะเด็กคนนี้แวะมาบ่อยเสียจนคุณครูประจำชั้นยังต้องแซวว่าให้มาเรียนด้วยกันไปเลยจะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา
"อ้าว จองกุก... แทแทเพิ่งลงไปห้องชมรมเมื่อกี้นี่เอง" รุ่นพี่คิม มินแจเอ่ยทักทายและบอกเล่าเรื่องแทฮยองไม่ได้อยู่ที่นี่เมื่อเห็นน้องชายแก้มตุ่ยของเพื่อนสนิทโผล่หน้ามาเหมือนอย่างทุกวัน
"ชมรม? วันนี้แทฮยองไม่มีเรียนวิชาชมรมซักหน่อย" เด็กหนุ่มว่าเพราะเขาจำตารางเรียนพี่ชายได้แม่นยิ่งกว่าตารางเรียนของตัวเองเสียอีก
"ใช่ พี่โบกอม กับพี่ฮยองซิกมาลากตัวไปซ้อมแซคหน่ะ เห็นว่าจะแสดงวันไปทัศนศึกษา... กลัวซ้อมไม่ทัน"
"ไรว้า ผมนัดฮยองไว้ก่อนแล้วนะ ลัดคิวได้ไง"
" ห้ะๆ อยู่บ้านเดียวกันยังต้องจองคิวล่วงหน้าด้วยเหรอ" มินแจถามด้วยสีหน้าขำขัน เมื่อเจ้ารุ่นน้องทำหน้ามุ่ยไม่พอใจที่มีคนมาแย่งตัวพี่ชายคนโปรดไป
"ก็ขนาดจองไว้ยังโดนลัดคิวเลย"
"เห่อๆ มีพี่ฮอตก็ต้องทำใจละนะ... พี่จะลงไปห้องชมรมเหมือนกัน ไปด้วยกันป่าว? "มินแจถามเมื่อจัดการเก็บข้าวของลงกระเป๋านักเรียนเสร็จเรียบร้อย เจ้าเด็กแก้มตุ่ยจึงพยักหน้ารับและเดินไปยังห้องชมรมพร้อมกับรุ่นพี่
อันที่จริงแล้วจองกุกก็ไม่ได้นัดอะไรสำคัญกับแทฮยองไว้หรอก แค่เมื่อคืนพวกเขาเล่นเกมแพ้ตั้งแต่สองทุ่มยันตีสามยังไม่ชนะเลยซักตา คืนนี้ก็เลยวางแผนจะแก้มือกันซักหน่อย พอมาโดนแทฮยองเบี้ยวนัดไปแบบนี้จองกุกเลยรู้สึกเฟลนิดๆจนต้องยู่ปากแล้วเดินเตะเท้าด้วยความขุ่นเคือง
"น่าๆ พี่เขาซ้อมแปบเดียวน่า" มินแจว่าพลางตบไหล่ปุๆเมื่อเห็นกิริยากระฟัดกระเฟียดของรุ่นน้องด้วยความเอ็นดู...เขาละอยากรู้จริงๆเลยว่าพ่อแม่สองคนนี้เลี้ยงดูมายังไงถึงได้มีลูกน่ารักน่าหยิกแถมยังรักแล้วก็สนิทกันยังกับฝาแฝดท้องเดียวกันขนาดนี้ ถ้าสมมุติจู่ๆวันนึงแทฮยองสารภาพว่าเป็นพี่น้องแท้ๆกับจองกุกเขาก็คงจะเชื่อสนิทใจไปเลยแหละ ถ้าไม่ติดว่าเจ้าเพื่อนสนิทของตัวเองมันผิวสีแทนน้ำผึ้งกับมีผมสีบลอนด์ต่างจากจองกุกที่ผิวขาวละเอียดตัดกับผมสีดำขลับนั่น
ระเบียงทางเดินของอาคารรูปโดมยังคงมีนักเรียนกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยให้เห็นอยู่ประปราย ที่นี่เป็นอาคารสำหรับกิจกรรมสันทนาการโดยเฉพาะซึ่งหมายถึงห้องชมรมทั้งหมดถูกรวมเอาไว้ที่นี่ เด็กๆที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็นเด็กกิจกรรมเกี่ยวกับการแสดงที่พากันซักซ้อมอย่างขะมักเขม้นเพื่อโชว์ในวันรอบกองไฟของการทัศนศึกษา จริงๆชมรมเทควันโดของจองกุกก็มีโชว์อยู่เหมือนกันแต่พวกเขานัดซ้อมกันแค่วันพุธ เพราะงั้นวันนี้ประตูห้องเลยล็อคสนิทขณะที่ห้องข้างๆยังเปิดกว้างและมีเด็กหนุ่มสามคนนั่งหน้าขรึมกับแซกโซโฟนอยู่ข้างใน
อ่า จะบอกว่าเหตุผลที่จองกุกเลือกลงชมรมเทควันโดก็เพราะว่าห้องมันอยู่ติดกับห้องชมรมของแทฮยองนี่มันจะดูประหลาดไปไหม
ไม่หรอก
จองกุกไม่ได้ติดแทฮยองขนาดนั้น เด็กหนุ่มคิดแค่ว่าถ้าเรียนชมรมใกล้กันก็จะรู้ว่าอีกฝ่ายเลิกตอนไหนแล้วจะได้กลับบ้านพร้อมกันเฉยๆ...
"โอเค แทฮยอง ออกแรงกดนิ้วกลางลงอีก แล้วก็ใช้ลมจากช่องท้องแทนลำคอนะ เราจะได้หายใจได้นานขึ้น... แบบนั้นละ... ดี" จองกุกได้ยินเสียงของรุ่นพี่โบกอมดังแว่วออกมาจากในห้องหลังจากโค้งขอบคุณพี่มินแจไปแล้ว เขาหยุดยืนตรงหน้าประตูพร้อมกับสายตาที่กดต่ำเมื่อมองเห็นร่างพี่ชายของตัวเองกำลังโดนอีกฝ่ายยืนซ้อนอยู่ข้างหลัง มือสีแทนถูกกอบกุมเอาไว้เพราะรุ่นพี่กำลังสอนวิธีการควบคุมโน้ตแซกโซโฟนขณะที่หน้าท้องแบนราบนั่นโดนอีกฝ่ายพยุงเอาไว้อีกเช่นกัน
ไอ้รุ่นพี่บ้านี่มันกำลังตีเนียนกอดแทฮยองของจองกุกอยู่ชัดๆ ยืนสอนเฉยๆไม่ต้องสาธิตก็ได้มั้ง
ฮึ่ย โมโห!!!
"แทฮยอง"
"จองกุก มาไงเนี่ย"แทฮยองละริมฝีปากจากแซกโซโฟนมาเอ่ยทักทายน้องร่วมบ้าน
"เดินมา"
"ฮ่าๆ น้องกวนตีนจังละ"เป็นเสียงของฮยองซิกที่เอ่ยแซวอย่างขำขันเพราะจองกุกพูดตอบพี่ด้วยสีหน้าตายด้านสุดๆพร้อมกับเดินมานั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามอย่างเอื่อยเฉื่อย
"งี้แหละพี่ สนใจเอาไปเลี้ยงที่บ้านซักสองสามวันไหม"
"ทำไมอะ ซนขนาดนั้นเลยเหรอจองกุก"ฮยองซิกว่า หันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้รุ่นน้องแก้มตุ่ย
"ผมเปล่าซักหน่อย พี่เลิกตอนไหนกันเนี่ย"
"อีกซักพักใหญ่ๆ"
"โอเค"
"กินขนมได้นะจองกุก พี่ซื้อมาเยอะเลย แทฮยองไม่น่าจะกินคนเดียวหมด"พี่โบกอมพูดบอกด้วยรอยยิ้มใจดี พร้อมกับชี้มือไปทางกองขนมขบเคี้ยวกองใหญ่บนโต๊ะข้างๆ จองกุกเหลือบมองแล้วทำแค่พยักหน้ารับ ในใจก็เริ่มคุกกรุ่นขึ้นมาอีกรอบ
มีแต่ขนมที่แทฮยองชอบทั้งนั้น
ทำมาเป็นรู้ดี... ไอ้รุ่นพี่หน้าหมาเอ้ย
"โอ้ย เหมามาทั้งร้านขนาดนี้ใครมันจะไปกินหมดครับพี่" ฮยองซิกพูดแซวพลางยกกีตาร์โปร่งขึ้นพาดบ่าเตรียมตัวซ้อม
"ถ้าเป็นของที่แทฮยองชอบพี่เหมามาให้ทั้งโลกยังได้"
โห ดอกนี้หวานเจี้ยบ
จองกุกบึนปากใส่ประโยคเลี่ยนขึ้นคอนั่น หยัดตัวลุกขึ้นยืนเพื่อเดินออกไปจากห้องนี้ ไม่อยากอยู่แล้วเหม็นขี้หน้าคน
"ไปไหนจองกุก"ยังไม่ทันได้เดินไปไหนแทฮยองก็ถามขึ้นมาซะก่อน
"เตะบอลรอ เสร็จแล้วไปหาที่สนามด้วย"
"ฮยองจะไปกินบิงซูต่อ ไปด้วยกันไหม"
"อะไรอะ ไม่กลับบ้านเหรอ"
"ก็กลับ แต่ไปกินบิงซูก่อนไง"
"หู่ว ไรว้า ไหนบอกจะเล่นเกม"
"ก็กลับถึงบ้านค่อยเล่น"
"ฮยองอ่าาาา เบี้ยวนัดตลอด"
"ฮยองไม่ได้เบี้ยว ไปกินบิงซูกับพี่โบกอมแปบเดียว"
"ช่างเหอะ ไม่เล่นละ กลับบ้านดีกว่า"จองกุกบอกปัด สะบัดหน้าหนีออกมาก่อนที่แทฮยองจะได้พูดอะไรต่อ บอกตรงๆว่าไม่ชอบเวลาพี่ตัวเองอยู่กับพี่โบกอมเอามากๆ ยิ่งพักนี้มีข่าวลือว่าประธานนักเรียนคนนั้นตามจีบพี่ชายเขาอยู่ก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจเข้าไปใหญ่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนอะไรๆก็มีแต่จองกุกเป็นที่หนึ่งแล้วดูเดี๋ยวนี้สิ โดนกลายเป็นตัวสำรองของพี่โบกอมไปซะงั้น จะไม่ให้โมโหได้ยังไง
โลกทั้งใบของจองกุกมีแค่แทฮยอง
แล้วโลกใบนั้นกำลังจะโดนแย่งไปแล้วด้วย
...
แกรก
"เอ๊ะ?"
แกรกๆๆๆๆ
จองกุกถึงบ้านแล้ว และเขากำลังไขกุญแจเพื่อเข้าไปข้างในแต่ประตูมันดันเปิดไม่ออก เด็กหนุ่มมั่นใจว่าแม่กุญแจหลุดออกจากสลักแล้วแน่ๆ แต่ก็ยังบิดลูกกุญแจย้ำๆเพื่อความชัวร์ คิ้วสวยขมวดมุ่นแนบหน้าเข้ากับซอกประตูเพื่อส่องว่ามีอะไรติดอยู่ไหม แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นว่าประตูมันถูกล็อคจากด้านใน จองกุกขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าเดินถอยหลังออกมาสองสามก้าวถึงได้มองเห็นรถเบนซ์คันเมื่อเช้าจอดแอบอยู่ข้างรั้วบ้าน
"ลุงยุนกิ?"
เอ่ยพึมพำชื่อเจ้าของรถไปพร้อมๆกับเลื่อนสไลด์หน้าจอโทรศัพท์เพื่อต่อสายหา พูดคุยกันสองสามคำก็ได้ใจความว่ายุนกิอยู่ในบ้านจริงและกำลังจะเดินมาเปิดประตูให้ จองกุกแปลกใจนิดหน่อยที่ประตูบ้านของเขาไม่ได้ถูกเปิดโดยยุนกิแต่เป็นแฟนสุดที่รักของลุงแทน
"อาจีมิน... สวัสดีครับ"เด็กหนุ่มโค้งทักทายอย่างสุภาพ
"ไง จองกุก เข้ามาสิ พี่ยุนกิกำลังทำมื้อเย็นอยู่นะ"
"อ้อ ครับ"
ตอบรับเพียงแค่นั้น หันไปล็อคประตูบ้านแล้วเดินตามหลังอาจีมินพร้อมกับถามไถ่นู่นนี่เรื่อยเปื่อยเพราะไม่ค่อยได้เจอหน้ากันจนกระทั่งเข้ามาในตัวบ้านและกำลังจะเดินผ่านห้องครัวไปชั้นสอง
"อ้าวจองกุก ทำไมกลับมาคนเดียว"เสียงของคนเป็นลุงเรียกรั้งจองกุกเอาไว้ เด็กหนุ่มกวาดสายตาตั้งแต่หัวจรดเท้ามองตาลุงที่ใส่เสื้อฮาวายสีชมพูอ่อนกับกางเกงวอร์มสีเขียวแถมยังยัดชายเสื้อเข้าในกางเกงเหมือนคนแก่ที่ชอบแต่งตัวเนี้ยบๆก่อนออกจากบ้าน
นี่มันแฟชั่นอะไรวะ
ชักไม่แน่ใจแล้วว่าผู้ชายหน้าหล่อเหมือนเทพบุตรเจ้าของผมสีดำเหลือบน้ำเงินกับสันกรามคมๆที่เขาเห็นบนบิลบอร์ดทุกหัวมุมถนนนั่นกับตาลุงหน้าตากวนประสาทนี่ใช่คนเดียวกันจริงหรือเปล่า
"ถามก็ไม่ตอบ"
"ไม่กลับคนเดียวแล้วจะให้กลับกับใครละ"
"แทฮยองไง"
"เหอะ ซ้อมแซก เสร็จแล้วเขาจะไปกินบิงซูกันต่อ"
"แทฮยองไม่เห็นบอกเลยว่าจะไปกินบิงซูต่อตอนลุงโทรไปหา"
" ไม่รู้สิ"จองกุกตอบ
"แล้วนี่ลุงมาทำไรเนี่ย"เด็กหนุ่มถามต่อด้วยน้ำเสียงเคลือบแคลง ร้อยวันพันปีพ่อไม่เห็นจะสั่งให้ใครมาดูแลคอยรับคอยส่งโรงเรียนปล่อยให้อยู่กันเองมาตลอดหายออกจากบ้านเป็นอาทิตย์ทิ้งลูกสองคนไว้เพียงลำพังก็เคยมาแล้วแถมพวกเขาก็ดูแลกันเองได้ไม่มีปัญหาอะไร จู่ๆพากันส่งลุงยุนกิกับอาจีมินมาเฝ้าแบบนี้ มันต้องมีลับลมคมในอะไรกันแน่ๆ
"มาทำกับข้าวดีๆมีประโยชน์ให้กิน ไม่เห็นเหรอ"
"หากินเองได้น่า"
"มาม่ากับของแช่แข็งอะนะ"
"อือ"
"ขาดสารอาหารตายก่อนพอดีอะ"
"ลุงก็เว่อร์ไป"
"แล้วแทฮยองไม่ได้บอกเหรอว่าลุงจะไปรับ"
"ก็... ไม่"จองกุกตอบแบบอ้ำอึ้ง เพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองได้เปิดโอกาสให้แทฮยองพูดเรื่องนี้หรือยัง พออีกฝ่ายบอกจะไปกินบิงซูต่อเขาก็สะบัดก้นออกมาแบบที่ไม่หลังกลับไปมองอีก สงสัยที่แทฮยองเรียกเขาย้ำๆตอนนั้นคงตั้งใจจะบอกเรื่องลุงยุนกิแน่ๆ
"โถ้ แล้วแทฮยองอยู่กับใคร"
"ประธานนักเรียนอะ เป็นพี่ที่ชมรมด้วย"
"รีบโทรตามพี่เอ็งกลับมาเดี๋ยวนี้เลย ไปที่ที่คนเยอะแยะแบบนั้นได้ยังไง"
"ไม่เอาอะ ลุงก็โทรเองดิ"
"เอ้า ไอ้นี่"
"ขนาดนัดผมแทฮยองยังเบี้ยวเลย จะให้โทรตาม คงกลับอยู่หรอก" จองกุกพูดหน้าหงอย เห็นแบบนั้นยุนกิเลยสะบัดมือไล่ให้ขึ้นห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแทน...เด็กหนุ่มกลับเข้ามาในครัวอีกครั้งหลังจากชำระร่างกายเรียบร้อย ตั้งใจจะมาช่วยลุงทำอาหารแต่ปรากฏว่าอีกคนได้หายตัวไปเสียแล้ว เหลือเพียงอาจีมินที่ยืนเก้ๆกังๆหน้าเตาเพราะพยายามรักษาไข่ม้วนไม่ให้มันกลายเป็นไข่สับไปเสียก่อน เด็กหนุ่มเห็นแล้วก็รู้สึกขัดหูขัดตาตัดสินใจไปแย่งตะหลิวจากอาแล้วจัดการกับเมนูตรงหน้าเอง
"โทษทีนะ อาทำอะไรพวกนี้ไม่เก่ง"
"ทำแย่มากๆเลยต่างหากละครับ"
"ไรวะ อุตส่าห์ตั้งใจทำเลยนะเนี่ย"
"ห้ะ เหรอครับ... แล้วลุงไปไหนอีก"
"ออกไปรับแทฮยองไง" จีมินว่า หันไปหั่นผักที่ทำค้างไว้แทน
"ปกติก็กลับเองได้ ไม่เห็นต้องไปรับเลย"
"พี่นัมจุนสั่งไว้อะ"คนเป็นอาตอบอย่างไม่ใส่ใจ แต่จองกุกนั้นได้ชะงักไปแล้วกับคำบอกเล่านั่น
สั่งเหรอ?
สั่งให้คอยไปรับไปส่งเหรอ?
"แด้ดดี้สั่งว่าให้ลุงยุนกิคอยไปรับไปส่งพวกผมเหรอ?"
"อืม พี่เขาบอกว่าช่วงนี้ไม่อยากให้แทฮยองอยู่ข้างนอกเยอะเกินไป"
" ทำไมฮะ"
"อาก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่ยุนกิเล่าให้ฟังอีกที"
"อ๋อ"เด็กหนุ่มรับคำสั้นๆทำทีเป็นสนใจไข่ม้วนในกระทะต่อ แต่ในหัวกลับครุ่นคิดต่อจากเรื่องราวที่อาเล่าให้ฟัง... มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับแทฮยองโดยที่เขาไม่รู้แน่ๆ และเป็นไปได้ว่าเจ้าตัวเองก็คงยังไม่รู้เรื่องเช่นกัน
....
"กลับมาแล้วคร้าบบบบ"เสียงทุ้มเข้มของแทฮยองโหนสูงอย่างอารมณ์ดีตรงหน้าบ้าน เด็กหนุ่มเดินยิ้มร่าเกาะแขนคุณอายุนกิที่ถือถุงขนมมาเต็มสองมือด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย ไม่บอกก็รู้ว่าใครเป็นคนเหมาขนมและใครเป็นคนจ่าย... แทฮยองหน่ะอ้อนเก่ง และความลับอีกอย่างหนึ่งของยุนกิที่ไม่เคยมีใครรู้นอกจากคนใกล้ตัวคือเขาแพ้คนขี้อ้อน แพ้อะไรที่เหมือนลูกหมาน่ารักๆ
และแทฮยองก็คือลูกหมาน่ารักๆตัวนั้น
"ซื้อขนมมาอีกละ กินแต่ของไม่มีประโยชน์"เป็นเสียงของอาจีมินที่เอ่ยขึ้นอย่างดุๆตอนที่ยุนกิโยนถุงจากมินิมาร์ทลงบนบาร์ห้องครัว
"งือ ก็มันอร่อย"แทฮยองพูดเถียง ซุกหัวถูไถกับต้นแขนจีมินอย่างอ้อนๆ พออารมณ์ดีแล้วก็ออเซาะคนอื่นไปทั่ว
น่าหมั่นไส้
จองกุกก่นด่าแทฮยองในใจแบบเงียบๆ เขาทำทีเป็นจิ้มไข่ม้วนราดซอสมะเขือเทศเข้าปาก แต่หางตาก็ยังเหลือบมองแทฮยองเป็นระยะ รอดูว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาอ้อนเขาตอนไหนจะได้ตั้งหลักแล้วเก๊กทัน
"จองกุกอ่าาาา"
นั่นไง เดินมาแล้ว
"อะไร" เด็กหนุ่มดึงหน้า ส่งเสียงตอบพี่ด้วยมาดขรึมตึง ไม่สนใจหัวทุยๆสีบลอนด์ที่ยื่นเข้ามานอนหนุนตักเขาแม้อีกฝ่ายจะยื่นมือมาสะกิดปลายคางเย้าแหย่อย่างที่ชอบทำ
"จองกุกกี้งอนพี่เหรอ"
"งอนอะไร ใครงอน"
"อย่ามาขี้โม้"
"เหอะ อร่อยไหมละบิงซูอะ"จองกุกทำเสียงขึ้นจมูกพร้อมกับเหล่ตาใส่แทฮยอง ทีแรกก็ว่าจะนั่งเงียบๆไม่คุยด้วยอยู่หรอก แต่มาอ้อนกันขนาดนี้ใครจะทนไหว
"ยังไม่ได้กินเลย อายุนกิไปรับก่อน"
"สมน้ำหน้า"
"แน๊ จองกุกกี้งอนที่พี่ทิ้งไปกินบิงซูจริงๆด้วย"
"... "จองกุกไม่ตอบ
"ย๊าา รู้ใช่ไหมว่าบนโลกนี้พี่รักตะกุกน้อยของพี่มากขนาดไหน จะเมินพี่แบบนี้จริงๆเหรอ อุตส่าห์ซื้อขนมมาฝาก เหมามาหมดร้านเลยนา"แทฮยองพูดเย้าแหย่ด้วยสีหน้าแป้นแล้น พลางเขย่าแขนน้องจนไข่ม้วนเกือบจะร่วงออกจากจาน
"..."
"จองกุกอ่า จุ๊กกรู้ว"
กรู้วพ่อง
ไม่ได้สิ พ่อมันก็เหมือนพ่อเรา ด่าไม่ได้อีก
"รู้แล้วน่า ไสหัวไปอาบน้ำซักที หิวข้าวแล้ว"
"หายงอนฮยองแล้วใช่ม้า"
"ไม่ได้งอนตั้งแต่แรกแล้วไหม"
" จริงอะ"
" อือ"
" ว้า อุตส่าห์ง้อ"
" หึ ถ้าพี่รู้สึกผิดก็พูดขอโทษมาซักคำสิ"
"อู่ย ผมนี่สำนึกผิดแทบไม่ทันเลยคับ"เป็นเสียงยุนกิที่พูดแทรกขึ้นอย่างยียวน แทฮยองถึงกับต้องหันไปถลึงตาใส่ ขณะที่จีมินนั้นเอื้อมมือมาหยิกหูแฟนตัวเองแล้วลากเข้าไปในครัวแทน
"โอเค เข้าใจแล้ว ฮยองขอโทษ"
"ฮยองทำอะไรผิดเหรอถึงต้องมาขอโทษ"
"ไม่รู้สิ แค่รู้สึกผิดที่เราคุยกันไว้แล้วว่าจะเล่นเกมด้วยกัน แต่ฮยองผิดนัด"
"ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร อยากไปก็ไป ไม่ชินเฉยๆที่อยู่ดีๆฮยองก็ทิ้งผม ไม่สนใจผมเหมือนเมื่อก่อน"
"จองกุกอ่าาา"
"ไปอาบน้ำซักทีสิ หิวข้าว"จองกุกว่า น้ำเสียงและท่าทางกลับมาเป็นปกติแล้วแทฮยองรู้ เขาดูออกว่าน้องน้อยคนนี้กำลังอยู่ในอารมณ์ไหน
จองกุกไม่ได้งอน
จองกุกไม่ได้โกรธ
จองกุกไม่ได้โมโห
แต่จองกุกแค่น้อยใจ แค่ประโยคง่ายๆว่า ไม่ชินเฉยๆที่อยู่ดีๆฮยองก็ทิ้งผม ก็บ่งบอกความหมายในตัวมันออกมาอย่างชัดเจนที่สุดแล้ว แทฮยองเองก็ไม่รู้ตัวหรอกว่าทำอะไรลงไปบ้าง แต่เขาก็ไม่ชอบที่จะเห็นจองกุกกระฟัดกระเฟียดหรือดูอารมณ์เสียถ้ายิ่งสาเหตุเกิดจากตัวเขาก็ยิ่งไม่ชอบเป็นที่สุด
ต่อให้จองกุกแค่หน้าบูดเพราะเขาเผลอตดใส่ผ้าห่ม เขาก็ยังจะง้อจองกุกอยู่เหมือนเดิม
ก็พี่แทฮยองรักน้องจองกุกที่สุดในโลกเลยนี่นา
#จองกุกเบบี้
3 ความคิดเห็น