ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    What & Why .. เพราะอะไรและทำไม? (YAOI-YERYEO)

    ลำดับตอนที่ #2 : What & why .. เพราะอะไรและทำไม? : 1 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 54


                             1






           Untitled-1-19.jpg picture by Jaiiz


    บ้านหลังใหญ่โตที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้หนาคลุมแทบจะทุกพื้น มีรั้วรอบขอบชิดกันคนภายนอกเข้ามาในบริเวณพื้นที่แห่งนี้ อย่าแม้แต่พยายามจะปล้นแค่ปีนเข้ามาก็คงจะไปฝันต่อในนรกทุกราย บ้านหลังนี้ไม่จำเป็นต้องมียาม บอดี้การ์ด ลูกน้องหรืออะไรทั้งนั้น แต่เพียงเห็นภายนอกรั้วบ้าน ไม่สิ ..
    คงจะต้องเรียกว่า วัง เสียด้วยซ้ำเพราะภายในช่างหรูหราเกินกว่าจะตีราคาได้  ฟอนิเจอร์ และข้าวของตกแต่งบ้าน มีแต่ของสไตล์ยุโรปชั้นดีทั้งนั้น ..

    "ปล่อยย .."น้ำเสียงอ่อนแรงเอ่ยเบาๆ

    "ปล่อยอยู่แล้วละ" เสียงเข้มเอ่ยอย่างเย็นชา สายตาที่เฉยชาช่างไม่เข้าอารมณ์ของเขาตอนนี้เสียจริง

    "แต่ฉันจะปล่อยทันทีเมื่อถึงเตียงนะ.."ร่างบางใจหายวาบ ใจตกอยู่ไปอยู่ตาตุ่ม ทำไมนะ เขาถึงไม่เคยหนีคนๆนี้ได้เลยจริงๆ พยายามมากี่ครั้ง กี่ครั้งแล้ว เขาก็ต้องกลับมาที่นี้ ! ที่เปรียบเหมือนรกของเขา ที่ๆเขาไม่สมควรจะอยู่ด้วยซ้ำ

    "ปล่อยไง บอกให้บอก"ทันทีที่รถจอดเทียบท่า ร่างสูงกระชากคนตัวเล็กออกจากรถอย่างไม่สนใจ ว่าคนตรงหน้าจะแขนหลุดปลิวไประหว่างทางหรือป่าว ?

    "ก็บอกแล้ว ว่าเดี๋ยวจะปล่อยไง จะพูดมากทำไม!?"
    เรียวอุคพยายามดิ้นรน ซักเท่าไหร่ ก็ไม่ได้ทำให้ร่างสูงผละมือออกจากแขนเขาได้เลยสักนิด
    อีกแล้วหรอ .. ต้องจบแบบนี้อีกแล้วหรอ เขาต้องเป็นของคนๆนี้อีกแล้ว ทำไมนะ .. เขาไม่ได้อยากโดนแบบนี้ ถ้าเลือกเกิดได้ เขาไม่ได้อยากเกิดมาน่าสมเพช แบบนี้ ไม่อยากเลย ไม่อยากสักนิด

    ผลักก!
    ร่างสูงผลักคนตัวเล็กเข้าไปในห้องนอน ห้องนอนสีขาวบริสุทธิ์ สะอาดสะอ้าน ผิดกับคนตัวเล็กเจ้าของห้องที่หม่นหมอง ราวกับทีเทา ..

    "อย่า..ได้โปรดเถอะพี่เยซอง"

    "อย่ามาเรียกฉันว่าพี่ ฉันไม่ได้เป็นพี่นาย!" สายตาเย็นชาเปลี่ยนเป็นสายตาดุดันที่ใครหลายๆคนไม่เคยเห็น มีแค่เขาคนเดียวที่ได้เห็น มันคงจะแย่มากเลยสินะ หึ . น่าสมเพชจัง เรียวอุค คนอย่างนาย
    ไม่สมควรเกิดมาด้วยซ้ำ เกิดมาให้ย่ำยีร่างกายทำไม ตอบฉันได้ไหม ...
    เพราะอะไร .. นายถึงเกลียดฉันขนาดนี้
    เพราะอะไร .. นายถึงทำลายฉัน
    เพราะอะไร .. นายไม่ปล่อยฉันไปสักที
    ทำไม .. ชีวิตถึงเป็นแบบนี้
    ทำไม .. ไม่ฆ่าฉันไปสะ เกลียดกันมากไม่ใช่หรอ ?
    ทำไม .. ถึงต้องเป็นฉันด้วย !

    ร่างเพรียวระหงส์ก้าวขายาวๆเข้ามาในตัวบ้านโออ่าแห่งนี้ สายตากลมโตสะดุดมองชายหนุ่มหน้านิ่งคนนี้ เขาไม่ใช่บอดี้การ์ดของบ้าน แต่เขาเป็นที่เข้าออกภายในบ้านซะเหมือนเจ้าของบ้านยังไงยังงั้น
    ใบหน้าคมคายที่นิ่งเฉยราวกับรูปปั้นที่ถูกช่างฝีมือดีปั้นขึ้นมา ริมฝีปากหนาเรียบเป็นเส้นเดียวยากที่จะคลี่ยิ้มออกมาในแต่ละที และยากมากที่คนๆนี้จะมีรอยยิ้มให้กับใครสักคน .. 

    "คยูฮยอน มานั่งทำอะไรคนเดียวเนี่ย?"เสียงหวานราวกับน้ำผึ้งที่ไร้พิษสงใดๆเอ่ย พร้อมกับรอยยิ้มที่มอบให้คนที่หน้านิ่งเฉย 

    "ผม มารอเยซองครับ"ตอบสั้นๆ แต่ใบหน้าเขาจับจ้องคนๆนี้ คนที่มีพระคุณกับเขามากที่สุด

    "อ้าว แล้วนี่เยซองไปไหนละ เดี๋ยวฉันขึ้นไปตามให้นะ คยูฮยอนนั่งก่อนสิ"ร่างสูงเลิกคิ้วสูงเล็กน้อยก่อนจะยกมือห้ามคนตรงหน้า .. จะขึ้นไปตอนนี้ได้อย่างไรในเมื่อเยซองอยู่กับเรียวอุค และถ้าเข้าไปในเวลาแบบนี้มีหวัง คนนี้ได้ช็อค แล้วทุกอย่างคงจะจบเห่แน่!

    "ฮีชอล..คือผมอยากได้ไวท์แดงซักขวด"ร่างสูงเปลี่ยนเรื่องทันที

    "ฮิฮิ..ฉันว่าแล้วที่แท้นายมาหาฉันนี่ !"ใบหน้าสวยยิ้มกว้างก่อนจะแลบลิ้นใส่ให้ร่างสูงอย่างร่าเริง ผิดกับคนโดนแลบลิ้นใส่ ยังคงหน้านิ่งเฉยๆไม่ใส่ใจกับอะไรทั้งนั้น .

    "เอาไปให้ซองมินละสิ!" ร่างสูงหน้าแดงระเรื่อ ก่อนจะเบือนหน้าหนีแล้วพยักหน้าเบาๆ พร้อมรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยเท่านั้น แต่ฮีชอลก็เข้าใจ ร่างบางแตะมือร่างสูงเบาๆ ก่อนจะจูงมือไปคลังเก็บไวท์ของเยซอง ชั้นล่าง












    "อึก อื้ออ ฮึก.." เสียงแห่งความเจ็บปวดร้องออกมาเบา ๆ เบาจะคนตรงหน้าแทบจะไม่ได้ยินเสียด้วยซ้ำ น้ำตาแห่งความอ่อนแอไหลออกมาเป็นทาง .. แต่ไร้ซึ่งความเห็นใจ

    "อื้ออ อื้มม ม .. อื้อ"
    ระยะเวลาผ่านไปราวกว่า 3 ชั่วโมง .. คนตัวเล็กได้แต่ซุกหน้าลงกับหมอนแล้วปล่อยให้น้ำตาแห่งความอ่อนแอไหลออกมาก่อนจะสะอื้นเบา ๆ .. ร่างสูงได้แต่นั่งบนปลายเตียง สูบบุหรี่อย่างไม่ได้ใส่ใจเสียงสะอื้นแต่น้อย ก่อนจะมีข้อความส่งมา ร่างสูงเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ราคาแพงนั้นมาอ่าน

    'ฮีชอล กลับมาแล้วอยู่ข้างล่างกับฉัน'

    ร่างสูงปิดข้อความนั้นไปก่อนจะ ลุกเสือมเสื้อผ้าลวกๆ จัดผมตัวเองให้เรียบร้อย และเดินออกจากห้องสีขาวของร่างเล็กนั้นไป ปล่อยให้คนเจ้าของห้องร้องไห้ไปอย่างนั้นโดยไม่สนใจอะไรเลย ..
    ใช่สิ เอะอะโมโห ก็มาลงที่เขา มีอารมณ์ก็มาลงที่เขา เขามันไม่มีค่าเลยสินะ ! 
    แล้วทำไมละ ทำไมไม่ฆ่าเขาให้ตายๆไปซะ จะทรมานทำไมกัน ผู้หญิงที่บำเรอมีเป็นร้อยเป็นพันทำไมนายไปเสพสุขกับคนแบบนั้นละ นายเห็นฉันสมเพชขนาดนั้นเลยหรอ !!?









    "เยซอง..เสียมารยาทมากนะปล่อยให้คยูฮยอนรอข้างล่างหน่ะ!"ฮีชอลโวยวายทันทีเมื่อเห็นร่างสูงโดยลงบันไดมา เขาไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะกุมมือคนหน้าสวยเบาๆ

    "วันนี้ไปซื้อของ มีอะไรฝากผมไหม?"

    "ไม่มี มีแต่ของเรียวอุค!แบร่ๆ"ฮีชอลแลบลิ้นใส่เยซอง อย่างขบขันก่อนที่ร่างสูงจะบีบจมูกคนตรงหน้าอย่างน่ารัก .. แต่บีบเบาๆเท่านั้น ไม่เคยแตะต้องให้เป็นรอยเลยสักนิด

    "เยซอง..ขอไวท์แดงขวดนี้ละกันนะ"คยูฮยอนบอก ก่อนจะก้าวขอออกไปโดยไม่ร่ำลา มันเป็นเครื่องปกติเสียด้วยซ้ำสำหรับ เยซองและคยูฮยอนที่มาๆไปๆ แบบนี้

    "อ้าวไปซะแล้ว ไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันหรอ?"ฮีชอลเอ่ยชวน แต่ร่างสูงส่ายหน้าเบาๆก่อนจะหันมาตอบด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ      "ผมจะไปทานข้าวกับซองมินครับ .."

    รอยยิ้มของฮีชอลเผยออกมาบางๆ ให้คยูฮยอน แล้วโบกมือบ้ายบายให้คนตรงหน้าที่ก้าวขาออกจาก
    ที่ด้วยใบหน้านิ่งๆ นิ่งซะบางทีเขาเองก็แอบกลัวเลยทีเดียว
    "คยูฮยนเคยยิ้มไหมเนี่ย เยซอง ?"ฮีชอลเอ่ยถาม

    "ก็ไม่เท่าไหร่ พอๆกับผมมั้ง"คนข้างๆตอบแบบไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ผิดกับฮีชอลต่างสังเกตุและสนใจทุกคนไปเสียหมด ไม่แปลกที่ทุกคนจะรักผู้ชายคนนี้ซินะ และหนึ่งในนั้นก็คือเขา

    "นายยิ้มเก่งออกนะ เวลาอยู่กับฉัน "ฮีชอลบอกแล้วหยิกที่แก้มนิ่มๆของเยฃองเบาๆอย่างน่ารัก

    "รอยยิ้มของผมมีให้คุณคนเดียว ฮีชอล.."








     


    ร่างสูงขับเข้าไปในตัวบ้านที่ขาว ขนาดกลางตกแต่งด้วยหินสีขาวแปลกตาและปกคลุมด้วยต้นไม่ต้นใหญ่กับรั่วไม้สูงใหญ่สีน้ำตาลแดงเข้ม ภายในสวนขนาดกลางเต็มไปด้วยดอกไม้สีขาวส่งกลิ่นหอมอบอวนแม้ความมืดแล้วก็ตาม ต้นมัลเบอรี่ต้นขนาดเล็กปลูกใกล้ๆ บ่อน้ำเล็กๆ ที่มีปลาเล็กน้อยแหวกว่ายในน้ำ สายน้ำเย็นนั้น มันทำให้ปลาดูสดชื่นหรือเย็นยะเยือกกันแน่ เปรียบดั่งบ้านหลังนี้ น่ารักและอบอุ่นแค่เพียงภายนอก แต่ภายในอาจเหน็บหนาวดั่งน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลาย ...

    ร่างสูงก้าวเท้าเข้าไปตัวบ้าน พบคนร่างเล็กกำลังยุ่งกับงานเอกสารกองโต บนกลางโต๊ะกินข้าวที่มีครัวเล็กๆอยู่ใกล้ๆ ภายในบ้านตกแต่งแบบอบอุ่นผสมวินเทจน์เล็กน้อย และมีเหล่าตุ้กตานุ่มๆประดับตามชั้นวางหนังสือและโซฟาสีครีม ไฟสีส้มๆทำให้ดูสบายและทำให้บ้านน่าอยู่ยิ่งขึ้น

    "ซองมินครับ วันนี้ผมแวะไม่เอาไวน์ที่บ้านเยซองมาให้นะครับ"คยูฮยอนบอกคนตรงหน้าก่อนจะวางไว้บนโต๊ะที่เต็มไปด้วยเอกสารกองโต

    "เห็นไหม ว่าทำงานอยู่?."น้ำเสียงเงียบๆเรียบๆเอ่ยขึ้น ก่อนจะสายตาขวางๆจะจับจ้องไปที่ไวน์แดงที่มีราคาอย่างหงุดหงิด พร้อมกับถอนหายใจ ร่างสูงหยิบออกจากโต๊ะและไปวางไว้ที่ชั้นเก็บไวน์ ก่อนจะก้าวเท้าขึ้นไปข้างบน เพราะไม่ต้องการรบกวนคนที่นั่งทำงานอยู่ 

    "กินข้าวมาหรือยัง"เสียงนั้นถามขึ้นมา แต่ไม่มีท่าทีว่าจะหันมามองคนที่กำลังก้าวเท้าขึ้นข้างบนแต่อย่างใด ราวกับเป็นคำถามที่ต้องถามประจำอยู่แล้วเสียอย่างนั้น

    "ยังครับ"น้ำเสียงนิ่งๆของคยูฮยอนเอ่ย ก่อนจะก้าวลงมาเพื่อไปหาซองมินอีกครั้ง

    "เฮ้อ~งานเยอะจริงๆ เดียวฉันว่าจะทำเนื้อย่างสูตรที่พี่ฮีชอลดู นายไปรินไวน์รอสิ"ซองมินบอก แต่น้ำเสียงนั่งนิ่งเช่นกันเคย ก่อนจะวางงานลงแล้วเดินไปห้องครัว คยูฮยอนจ้องมองอย่างไม่ใส่ใจอะไรมาก ไม่แปลกใจเลยว่าเขาเหมือนใคร เยซอง พี่ชายของซองมินนั้น พี่กับน้องนิ่งยังไงก็ยังงั้นไม่ต่างกันเลยแถมไม่แสดงออกให้ใครรู้ด้วยซ้ำว่าคิดอะไรอยู่และ แคร์อีกคนหรือป่าว

    "พี่เยซองเป็นไงบ้าง" ร่างบางเอ่ย ขณะหั่นหัวหอมอยู่ เรื่องทำอาหารอย่างให้ห่วงเลย เพราะที่บ้านของซองมินกับเยซองที่เคยมีธุรกิจทำอาหารมาก่อน และที่สำคัญฮีชอลเคยสอนสูตรใหม่ๆในการทำอาหารให้ซองมินอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นหน้าที่ทำอาหารตกเป็นของซองมินแน่ๆ คงจะไม่ลำบากให้
    คยูฮยอนทำหรอก ซองมินได้หัวเสียแน่ๆ

    "ก็ดูสบายดีนะ ส่วนฮีชอลเขาก็พึ่งกลับจากช้อปปิ้งนะ"คยูฮยอนเอ่ย ก่อนจะหยิบแก้วไวน์สองแก้วออกมา แล้วจัดการรินไวน์แดงที่ได้มาในปริมาณที่พอเหมาะ

    "กลิ่นเป็นไง?"ซองมินถามคยูฮยอน

    "หอม นุ่มและดูลึกลับ"ร่างสูงเอ่ย ซองมินงุนงงกับคำว่าลึกลับแต่ไม่เอ่ยปากอะไรออกไป 

    "แน่นอน เพราะคนบ่มขวดนั้นคือฉันไง การเลือกไวน์สำคัญมากไม่ใช่ดื่มไปเสียอย่างเดียว"ซองมินกล่าว ใช่ตอนนี้เขากับเยซองที่ไร่องุ่นอยู่ทางตอนเหนือ และทำน้ำองุ่นกับไวน์ส่งออกเช่นกัน
    "ฉันลืมบอกแหนะ คยูฮยอนวันมะรืนนายไปปารีสให้ฉันหน่อย เอาไวน์ไปส่งที่โรงแรมสองสามที่นะ"ซองมินบอก ก่อนจะเริ่มย่างเนื้อ

    "แล้วคุณไม่ไปกับผมหรือ ?"

    "ฉันะจะไปไร่สักสองสามวันนะ ถ้านายกลับมาจะตามไปก็ได้"ซองมินตอบด้วยความไม่ใส่ใจ "ที่สำคัญพี่ฮีชอบเขาจะไปกับนายด้วย"

    "ไปทำไมกัน .."

    "ไปรับน้องชายที่พึ่งเรียนจบนะ ชื่อ ลีดงเฮ
    ซองมินพูดจบก็เริ่มทำอาหารอย่างจริงจังต่อ สายตาคยูฮยอนจับจ้องไปที่แผ่นหลังนั้น สายตาที่ของเขา คนตรงหน้านี้แทบไม่ใส่เสียด้วยซ้ำ ความสัมพันธ์แบบนี้เขาเรียกว่าอะไร .. คนรักอย่างนั้นหรือ?
    เขาแทบลืมไปเสียแล้วว่าเขากับซองมินรักกันเพราะอะไร และ ทำไมเขาสองคนถึงอยู่กันแบบนี้
    แต่การที่คนคนหนึ่งไม่สามารถถือโทษอีกฝ่าย อาจเป็นเพราะเขารู้ว่าเขาคงอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีอีกคนอยู่ข้างๆเขา แม้จะเป็นร่างกายที่ไร้หัวใจก็ตาม ..











    กริ๊ง กริ๊ง .. เสียงโทรศัพย์บ้านในคฤหาสค์แห่งนี้ดังขึ้น

    "สวัสดีค่ะ บ้านคุณคิมคะ ต้องการเรียนสายใครค่ะ?"เสียงสาวใช้เอ่ยอย่างนุ่มนวล

    "เยซอง.."เสียงนุ่มเอ่ยเบาๆอย่างไร้มิตรภาพ  "เร็วๆ.."  สาวใช้รีบวิ่งส่งโทรศัพย์ให้กับคุณชายของบ้านที่กำลังนั่งทานอาหารเย็นอยู่ ร่างสูงส่งสายตาไม่พอใจเล็กน้อยที่มีคนมารบกวนเขาในเวลานี้

    "รีบๆรับสิเยซอง อาจจะเป็นธุระด่วนก็ได้นะ"ฮีชอลเอ่ยอย่างสบายๆพลางยิ้มแย้ม ร่างสูงรับอย่างขัดอย่างอารมณ์

    "ใคร?"

    "ซองมิน..มะรืนจะไปไร่นะ พี่จะไปด้วยใช่ไหม?"

    "อืม..พี่จะอยู่สักสองสามวัน ถ้าไปก่อนก็บอกแม่บ้านจัดห้องด้วย"

    "อืม พี่ฮีชอลมาด้วยใช่ไหมจะได้ให้ไวน์ตัวใหม่"

    "อืมใช่"

    "แค่นี้แหละ"ซองมินจบการสนทนาแบบง่ายๆก่อนวางสายไปโดยไม่มีล่ำลา เยซองส่งโทรศัพย์คืนสาวใช้แล้วกินอาหารต่อแบบไม่สนใจ ฮีชอลมองแล้วส่ายหัวไปมาอย่างปลงๆ

    "พี่น้องคู่นี้น้า~~หยิ่งกันจริงๆเลยนะ"ฮีชอลกล่าวแบบขำๆ เยซองส่งยิ้มไปให้

    "ฮีชอลวันมะรืนเราไปไร่องุ่นกันนะ" ฮีชอลส่ายหัวเบาๆกับประโยคเมื่อกี้ "ฉันะจะไปปารีสนะเยซอง!คยูฮยอนก็ไปด้วยแหละ" ฮีชอลเอ่ยอย่างตื่นเต้น เยซองขมวดคิ้วสงสัยเล็กน้อย

    "ไปทำไรครับ?"เยซองถาม

    "ฉันจะไปรับดงเฮกลับมาแหละ!! ไงดีใช่ไหมละ ^^"ฮีชอลยิ้มกว้าง กับสิ่งที่บอกไป เยซองยิ้มตอบด้วยความยินดีเช่นกัน ดงเฮน้องชายต่างแม่ของฮีชอล ที่เขารักเหมือนน้องแท้ๆ เยซองนั่งฟังฮีชอลพูดเกี่ยวกับอีเมล์ที่ดงเฮส่งมา ถึงแม้เขาจะไม่ได้ตอบนัก แต่ทุกคำพูดของคนตรงหน้าเขาฟังหมดทุกคำและใส่ใจมากทีเดียว ...

    "เอ่อ..ว่าแต่ตัวเล็กหายไปไหนเนี่ย ไปตามตัวเล็กมาสิจ้ะ โซฮี เร็วๆเข้า" ตัวเล็กที่ฮีชอลหมายถึงนั้นก็คือคิม เรียวอุคของบ้านนี้ยังไงละ เยซองตวัดสายตาไปยังสาวใช้ "เรียวอุคไม่สบาย ห้ามรบกวน!"

    "ตายๆทำไมไม่บอกฉันละเยซอง เดียวฉันไปทำโจ๊กอุ่นๆให้ตัวเล็กก่อนนะ"ฮีชอลวางช้อนซ้อมลงก่อนจะรีบลุกขึ้นเพื่อไปห้องครัว

    "ให้แม่ครัวทำให้ก็ได้"เยซองเอ่ยเรียบๆ

    "ตัวเล็กนะ กินไรยากนะ ฉันดีกว่าฉันจะดูแลเขา เยซองขึ้นไปดูตัวเล็กหน่อยสิ เดียวฉันจะไปเช็ดตัวให้เตรียมน้ำกับผ้าด้วยนะเข้าใจเจ้าอ้วน!"ฮีชอลเอ่ยก่อนจะทำหน้าโหดๆ แต่ไม่ได้เข้ากับคนจิตใจดีอย่างคิมฮีชอบสักนิด เยซองยิ้ม ก่อนลูบแก้มคนตรงหน้า 'เจ้าอ้วน'คำที่ฮีชอลเรียกเขาตั้งแต่ไหนแต่ไร ..



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×