NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพิ่งรู้ว่ากูรักมึง

    ลำดับตอนที่ #5 : ก้างขวางคอ

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 67


    บทที่ 5 ก้างขวางคอ  

    ..ในที่สุด วันที่ผมจะได้กินข้าวกับเบวก็มาถึง ผมแต่งหล่อฉีดน้ำหอมมายืนรออยู่หน้าห้างแห่งเดิมที่นัดกับเบวไว้

             เบว. เกม!

    ผมหันไปตามเจ้าของเสียง เห็นเบวโบกมือเรียกอยู่ไกลๆ แต่เดี๋ยว! ไอ่เนิร์ด! ไอ่เนิร์ดมาทำไม?

    เกม. หวัดดีเบว...เอ่อ...เนิร์ด มึงมาทำไมวะ

    เบว. เราชวนมาเอง กินข้าวหลายๆคนจะได้สนุกดี

    เชี้ยเอ้ย..ลืมบอกว่าให้มาคนเดียว

    เกม. อ้อ ดีดีดีดี ดีเลย ป๊ะ ไปกินกัน (ดีกับผีอ่ะดิ่)

    ร้านที่ผมเลือกเป็นร้านชาบู เบวกับเนิร์ดนั่งคู่กัน ผมได้นั่งฝั่งตรงข้ามคนเดียวอีกแล้ว

             เกม. เนิร์ด..มึงมานั่งข้างกูมา กูเหงา

    ไอ่เนิร์ดเดินมานั่งข้างผมอย่างจำยอม เหอะ! รอบนี้ผมจะไม่ยอมให้มันได้นั่งข้างเบวเด็ดขาด

    กินข้าวไปได้สักพัก เบวกับเนิร์ดก็เริ่มพูดภาษาที่ผมไม่เข้าใจ

             เนิร์ด. อะเซตามีโนเฟนสังเคราะห์มาจากสารตั้งต้น phenol เติมไนโตรเจนผ่านการ reduce จนได้ยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้ง cyclooxygenase ที่ก่อสาร prostaglandin E2 

             เบว. ถ้าเกิน 1,000 ml ต่อโดส ต่อวันในผู้ใหญ่ หรือคนที่กินแอลกอฮอล์ ก็ตับพังน่ะสิ

    ดูเหมือนสองคนนั้นจะคุยกันด้วยศัพท์ทางวิชาการ ซึ่งผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย 

    เกม. อ้อ เบว เราซื้อตั๋วหนังมา ว่าจะชวนเบวไปดูด้วยกันอ่ะ แต่ไม่รู้ว่าเนิร์ดจะมาด้วย เราเลยซื้อมาแค่สองใบ

    เนิร์ด. ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูไปซื้อเองก็ได้

    เกม. แต่...หนังมันจะฉายแล้วนะ จะทันเหรอวะ

             เบว. ทันสิ ไปซื้อหน้าโรงหนังแปปเดียวเอง

             เกม. อ๋อ...งั้นก็ได้

    ผมยิ้มเจื่อนๆ ไม่อยากขัดใจเบว ไม่เป็นไรวะ ถึงจะมีก้างขวางคอ แต่อย่างน้อยเราก็จะได้นั่งดูหนังข้างๆเบว เพราะตั๋วหนังที่ผมซื้อมา เป็นที่นั่งติดกัน...

     

    20 นาทีผ่านไป…..

    เกม. ทำไมจู่ๆเหลือมึงกับกูแค่สองคนฟร๊ะเนี่ย!!

    ผมนั่งซึมๆอยู่ข้างๆไอ่เนิร์ดในโรงหนัง คนที่นั่งข้างๆผมตอนนี้ควรจะเป็นเบว ไม่ใช่ไอ่คนร่างยักษ์นี้ มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ผมล่ะเซงจริงๆ 

     

    รีภาพย้อนกลับไปเมื่อ 20 นาทีก่อนหน้านี้

     

    ผมกับเบวยืนรอเนิร์ดต่อแถวซื้อตั๋วอยู่บริเวณหน้าโรงหนัง จู่ๆเสียงโทรศัพเบวก็ดังขึ้น

    กริ๊ง.........!

    เบว. หัลโหลค่ะพ่อ ห๊ะ... !

    ฟังจากน้ำเสียงของเบวแล้ว ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่

    เบว. จริงเหรอ...ได้ค่ะ ได้ๆ หนูจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ

    น่านไง ผมว่าแล้ว...

    เบว. เกมๆ ขอโทษนะ เราต้องกลับแล้วอ่ะ พอดีที่บ้านมีธุระด่วน

    เกม. ได้..ไม่เป็นไร เบวกลับไปเถอะ

    ผมแสร้งยิ้ม ทำตัวเป็นพระเอก 

    เบว. ให้เนิร์ดไปดูหนังเป็นเพื่อนแทนนะ เอาตั๋วเราให้เนิร์ดก็ได้ จะได้ไม่เปลืองตัง 

    เกม. เราไม่ดูแล้วกะ-

    เบว. เนิร์ด!

    ผมยังไม่ทันได้พูด เบวก็วิ่งเอาตั๋วไปให้เนิร์ดแล้ว สุดท้ายผมก็ต้องไปดูหนังกับไอ่แว่นสองคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เวรกรรมชัดๆ

    เกม. ทำไมจู่ๆเหลือมึงกับกูแค่สองคนฟร๊ะเนี่ย!!

    เนิร์ด. ไม่ชอบเหรอ อยู่ด้วยกันสองคน โรแมนติกดีจะตาย

    เกม. พูดเชี้ยอะไรของมึง

    เนิร์ด. กูล้อเล่น....ไหนๆก็มาแล้ว ดูให้มันจบๆไปเถอะ

    เกม. ดูมึงมีความสุขจังนะ

    เนิร์ด. แน่นอน จู่ๆก็ได้ตั๋วหนังมาฟรี แถมยังมีคนเลี้ยงป๊อบคอนด้วย อิ่มจังตังอยู่ครบ

    เกม. กูซื้อมาให้เบวเว้ย ไม่ใช่มึง เอาคืนมาเลย…

    ผมพยายามแย่งป๊อบคอนคืนมาจากมือมัน แต่มันไม่ให้

    เนิร์ด. ชู่ ชู่.. เงียบๆดิ พระเอกนางเอกเขาจะจูบกันแล้ว ซีนสำคัญกำลังมา

    ต้องดูหนังกับมันยังไม่พอ หนังที่ดูยังเป็นหนังรักโรแมนติกซะด้วย ผมเลือกเรื่องนี้เพราะกะว่าจะได้ดูกับเบวแท้ๆ ไม่น่าเลยกู 

     

    ผมทนดูหนังกับมันอยู่สักพักก็ผล็อยหลับไปแบบไม่รู้ตัว

     

             “น้องครับ ตื่นๆ”

     

    ผมสะดุ้งตื่นตามเสียงปลุก รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่พนักงานในโรงหนังเดินมาปลุก 

             เกม. ผมเผลอหลับไปเหรอพี่

             พนักงาน. ใช่ครับ

             เกม. อ่าว..หนังจบแล้วเหรอ...

    ผมตกใจเมื่อมองไปรอบๆแล้วไม่เหลือใครสักคนในโรงหนังเลย แม้แต่ไอ่เนิร์ด

    เกม. แล้วเพื่อนผมล่ะ

             พนักงาน. เพื่อนน้องออกไปแล้ว เขาฝากขนมถุงนี้ไว้ให้น้องครับ

             เกม. อ่อ ขอบคุณครับ 

    ผมแกะดูขนมข้างใน มันคือป๊อบคอนถุงใหญ่พร้อมกับกระดาษโน้ตเล็กๆแผ่นหนึ่ง

    ข้อความในกระดาษ

             ‘ขอโทษที่กินป๊อบคอนหมดคนเดียวนะ เลยซื้อมาคืนให้ หลับให้สบายนะมึง’ 

    โห้ย...ไอ่เนิร์ด ไอ่ชั่ว.....ไม่ยอมปลุกกู สัส..

     

    ณ ห้อง 6/1

    ผมเดินมานั่งที่โต๊ะแบบเซงๆ เห็นไอ่เบสกับไอ่ต้อมนั่งดูมือถือแล้วหัวเราะคิกคักกันใหญ่

             เกม. ดูอะไรกันวะ

             เบส. ก็นี้ไง คลิปที่มึงล้มจากเวทีแล้วไอ่เนิร์ดวิ่งไปรับอ่ะ 

             ต้อม. ฮ่าๆๆๆ(หัวเราะ)  โคตรฮาเลยว่ะเพื่อน...

             เกม. เห้ย! เอามาดูหน่อย

    เชี้ย....นี้มันตอนที่ผมล้มตกเวทีนิ น่าอายชิบหาย 

             เกม. ยอดวิว หนึ่งพันเลยเหรอวะ ไอ่เหี้ยย.... เกือบครึ่งโรงเรียน

             เบส. กูว่ามึงดังแล้วว่ะเกม

     

    ผมรู้สึกหงุดหงิดที่คลิปนั้นดังไปทั่วโรงเรียน ตอนนี้ไปที่ไหนผมก็เหมือนเป็นตัวตลกมีแต่คนหัวเราะเยาะ

             เนิร์ด. มึง หน้าบูดเป็นอะไรน่ะ ตั้งใจติวหน่อย

             เกม. มึงยังจะถามอีก มึงไม่เห็นคลิปเหรอ

             เนิร์ด. กูเห็นแล้ว.. แล้วไงวะ

             เกม. แล้วไง.. ก็กูไง! กูกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งโรงเรียนอ่ะ แม่งโคตรน่าอายเลย

             เนิร์ด. มึงจะไปสนใจทำไม เดี๋ยวเวลาผ่านไป พวกแม่งก็ลืมแล้ว

             เกม. มึงก็พูดได้สิ มึงไม่ใช่คนที่ล้มแบบกูนิ เป็นเพราะมึงเลย มึงเข้ามาช่วยกูทำไมวะ

             เนิร์ด. เห้ย! เกม! มึงมีสติหน่อยดิ ถ้ากูไม่เข้าไปช่วยมึงตอนนั้น มึงล้มหัวฟาดพื้นไปแล้วนะเว้ย!

    ก็จริงอย่างที่มันพูด ผมหงุดหงิดมากเกินไปจนเผลอระเบิดอารมณ์ใส่เนิร์ด 

             เนิร์ด. พอเถอะวันนี้ ถ้ามึงพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ มึงไม่ต้องมาติวแล้ว

             เกม. ได้!

    พูดจบผมก็ลุกออกมาจากมันทันทีด้วยความหงุดหงิด ทั้งๆที่ใจจริงผมไม่ได้อยากจะลุกออกมาเล๊ย..นี้กูทำอะไรลงไปวะเนี่ย....

     

    เช้าวันต่อมา ผมยืนเข้าแถวเคารพธงชาติ ใจหนึ่งก็คิดว่าจะไปขอโทษเนิร์ดมันดีไหม แต่อีกใจก็บอกว่าไม่ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย เอ๊ะ! หรือว่าผมผิดเต็มๆ อะไรกันครับเนี่ยย...สับสนไปหมดแล้วโว้ย จบกัน แบบนี้ผมคงมองหน้ามันไม่ติดแล้วแน่ๆ ก็ทำมันโกรธซะขนาดนั้น TT

             “เกม”

    ผมหันไปตามเสียงเรียก “เห้ย!!” ไอ่เนิร์ดมา...!!! มาทำไมวะ? มันโกรธผมอยู่ไม่ใช่เหรอ

             เกม. วะ..หวัดดีเนิร์ด

    ผมยิ้มแห้งๆแล้วทักมันกลับไป 

             เนิร์ด. กูซื้อไก่ปิ้งมาให้

    ไอ่เนิร์ดยื่นถุงไก่ปิ้งมาให้ผม ผมยืน งง เป็นไก่ตาแตก

             เกม. เอ่อ..ขอบคุณครับ ซะ..ซื้อมาให้กูทำไมเหรอ

             เนิร์ด. คือ..เมื่อวานนี้ กูขอโทษนะ อันที่จริงกูก็ผิดเองแหล่ะที่ไม่ยอมประกวด ถ้ากูยอมลงประกวดตั้งแต่แรก มึงคงไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

             เกม. ไม่ใช่หรอก กูเสนอหน้าไปของกูเอง ไม่เกี่ยวกับมึงหรอก อืมม...เมื่อวานที่มึงพูดมันก็ถูก ถ้าตอนนั้นมึงไม่ช่วย กูคงล้มหัวฟาดพื้นไปแล้วจริงๆ กูก็...ขอโทษเหมือนกันนะ

             เนิร์ด. อืม..ถ้ามึงอยากมาติว ก็มานะ

             เกม. อ่อ ได้..(ยิ้ม)

             เนิร์ด. เจอกันมึง

    พูดจบมันก็เดินกลับไปเข้าแถวที่ห้องมัน ผมยืนพยักหน้าแบบเอ๋อๆ งง ว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น นี้ผมกับมันคืนดีกันแล้วใช่ไหม…. ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะมาง้อผม ผมควรจะเป็นฝ่ายที่ขอโทษมันก่อน แต่มันกลับเป็นฝ่ายที่มาขอโทษผมก่อน แปลกดีแหะ.

     

    ณ ห้อง 6/1

             เบส. พวกมึงได้คะแนนสอบท้ายบทวิชาคณิตเท่าไหร่กันวะ

             ต้อม. กูได้ 13 คะแนน มึงล่ะ

             เบส. ของกู 11 สอบผ่านแบบเส้นยาแดงผ่าแปดเลยว่ะ เหลือมึงไอ่เกม

             เกม. ...

             ต้อม. มึงเงียบทำไมวะ

             เกม. กะ..กูได้ 16 คะแนนว่ะ

             ต้อม. เช้ดดโด้......! จริงป๊ะเนี่ย เอามาดูหน่อย

             เบส. 16 ส่วน 20 คะแนน เกม! มึงทำได้ยังไงเนี่ย ปกติมากสุดมึงได้แค่ 8 คะแนนเองนะ แต่นี้มึงสอบผ่านแถมยังได้คะแนนดีอีก สุดยอด..... 

             ต้อม. เป็นไปได้ยังไงวะ ปกติเห็นมันสอบตกทุกรอบ

             เบส. มึงไปติวกับไอ่เนิร์ดแค่แปปเดียว ฉลาดขึ้นขนาดนี้เลยเหรอ

             เกม. กูฉลาดอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับไอ่เนิร์ดเว้ย

             เบส. ถุ๋ย...ไหนบอกติวกับมันไม่รู้เรื่องไง สอบรอบหน้ามึงส่งโพยมาให้กูสองคนเลยนะ

    นี้ผมสอบได้ 16 คะแนนจริงๆเหรอ ผมยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองทำข้อสอบได้ ทั้งๆที่ผ่านๆมาผมสอบตกมาตลอด สงสัยต้องไปติวกับมันบ่อยๆซะแล้ว

     

    พักเที่ยง

             เกม. มึง กูมีข่าวดีมาบอก

             เนิร์ด. ว่า?

             เกม. กูสอบผ่านวิชาคณิตแล้วโว้ยย.......!

             เนิร์ด. เห้ย! ดีใจด้วยนะมึง 

    ผมสังเกตเห็นว่ามันซื้อข้าวมาสองจาน ซื้อมาให้ใครวะ? หรือซื้อมาให้เบว

             เกม. ซื้อข้าวมาสองจาน ของใครอ่ะ

             เนิร์ด. ของมึงนั้นแหล่ะ

             เกม. ถามจริ๊ง..??

             เนิร์ด. อืม วันนี้กูเลี้ยง ถือซะว่าฉลองที่มึงสอบผ่านไง

             เกม. โห้ว..ขอบใจนะเว้ย ดีจัง อยู่ๆก็ได้กินข้าวฟรี

    (เนิร์ดกับเกมหัวเราะ)

    ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าช่วงนี้เนิร์ดมันชอบยิ้มให้ผมบ่อยๆ เวลามันยิ้มบอกเลยว่าโคตรหล่อ ขนาดใส่แว่นก็ยังหล่อทะลุแว่น  นี้ถ้ามันคิดจะจีบสาวสักคน ผู้หญิงคนนั้นจะต้องหลงมันหัวปักหัวปำ แบบนี้เบวคงหลงเสน่ห์มันเข้าสักวันแน่ๆ ผมล่ะกลัวจริงๆ

     

    เช้าวันต่อมา

             เนิร์ด. เกม! กูซื้อหมูปิ้งมาให้

             เกม. หื้อ!? ขอบคุณนะ ซื้อให้อีกแล้วเหรอ

             เนิร์ด. เออ ไม่ต้องถามเหตุผลหรอก กูอยากซื้อให้ แค่นั้นแหล่ะ ไปนะ

             เกม. อ่า...อะไรของมันวะ

    หลังจากวันนั้น ไอ่เนิร์ดมันก็ซื้อกับข้าวมาให้ผมบ่อยๆเกือบทุ๊กกกก.....วัน แถมยังเลี้ยงข้าวเที่ยงผมอีก “เกม กูซื้อไข่ปิ้งมาฝาก” “เกม กูซื้อลอดช่องมาให้” “เกม ลูกชิ้นหน้าโรงเรียนอร่อยมากมึงลองชิม” “เกม กินโจ๊กตอนเช้า จะได้ฉลาดขึ้น” “เกม ปลาท้องโก๋เจ้านี้อร่อยมาก” เกม เกม เกม เกมๆๆๆๆๆ...........อะไรของมึงนักหนาโว้ยยย.....!

             เกม. เนิร์ด กูถามจริง มึงซื้อข้าวมาให้กูทุกวันแบบนี้ มึงต้องการอะไรจากกูกันแน่วะ

             เนิร์ด. ป๊าว...กูแค่อยากให้มึงกินเยอะๆ จะได้มีแรงติวไง กูไปนะ

             เกม. ...?

             เบส. อะไรวะ มีหนุ่มมาจีบถึงที่เลยนะมึง

             เกม. จีบเหี้ยไร!

             ต้อม. อิจฉาว่ะ มีคนเอาข้าวมาให้ทุกเช้าเลย

             เบส. มึงไปทำอะไรให้มัน เนิร์ดมันถึงได้หลงเสน่ห์ซื้อข้าวซื้อน้ำมาให้มึงขนาดนี้เนี่ย

             เกม. กูจะไปรู้เหรอ อยู่ๆมันก็ซื้อมาให้กูเอง ไม่รู้เป็นเชี้ยอะไร

             ต้อม. แต่ก็ดีนะมึง มึงจะได้ไม่ต้องทนหิวตอนเช้าแบบพวกกูไง

             เบส. ไหนดูสิ ได้อะไรมาบ้าง เอามาแบ่งพวกกูเลยนะ

             เกม. เห้ย! ไม่ให้โว้ย...

    เรื่องของแม่ง ผมไม่สนใจแล้ว มันอยากจะซื้อข้าวมาให้ผมทุกวันก็เรื่องของมัน ก็ดีเหมือนกัน จะได้แดกฟรี ประหยัดเงินค่ากับข้าว

             

    ขบวนแห่งานโรงเรียนมาถึง ผมถือกล้องวิ่งฝ่าฝูงชนนับร้อยที่ยืนออกันอยู่ด้านหน้าเพื่อไปดูเบว

             เกม. พวกมึงช่วยกูหาเบวสิ เบวอยู่ไหนวะ

             เบส. นู้น.... เบวถือไม้ดรัมเมเยอร์อยู่หน้าวงดุริยางค์นู้น...

    ผมไม่รอช้ารีบวิ่งไปหน้าขบวน “เจอแล้ว” ผมหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย แม่เจ้า..เบวในชุดดรัมเมเยอร์ โคตรน่ารัก ในที่สุดก็ได้เห็นเป็นบุญตาหลังจากไม่ได้เห็นมานาน “อุ๊ย! ขอโทษครับ” ผมเดินชนกับใครบางคนเพราะมัวแต่ถ่ายรูปเลยไม่ทันได้ระวัง 

    เกม. อ่าว มึง

    เนิร์ด. เออ กูเอง มึงก็มาด้วยเหรอ

    เกม. มึงมาทำไม

    เนิร์ด. กูก็มาถ่ายรูปให้เบวน่ะสิ

    เชี้ย...กล้องไอ่เนิร์ด ผมเห็นกล้องในมือมันแล้วก็ต้องตะลึง นี้มันกล้องแคนน๊อนราคาสามหมื่นกว่าที่ผมเคยอยากได้แต่ไม่มีปัญญาซื้อนิ ตัวผมเองยังใช้กล้องมือถือถ่ายอยู่เลย ถ้าผมถ่ายรูปไปให้เบวดูผมต้องอายแน่ๆเพราะยังไงกล้องของเนิร์ดก็ชัดกว่า ดีกว่า…. 

    ไอ่เนิร์ดมันไม่สนใจผม มันตั้งหน้าตั้งตาถ่ายรูปอย่างเดียว ผมก็รัวกล้องถ่ายแข่งกับมัน การถ่ายรูปอยู่ที่ฝีมือ ถ้าผมถ่ายออกมาดี อาจจะสวยสู้รูปของมันได้…..หลังจากเดินขบวนเสร็จ เบวก็เดินไปพักกับวงดุริยางค์ ผมกะจะเอาดอกไม้ที่เตรียมไว้ไปให้เบว แต่ก็ยังไม่มีโอกาสเพราะตอนนี้มีแต่คนเข้ามาขอถ่ายรูปคู่กับเบวเต็มไปหมด

    “อ่า...คนน้อยลงแล้ว โอกาสนี้แหล่ะ” ผมเดินเข้าไปใกล้จะถึงตัวเบว แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะไอ่เนิร์ดแม่งถือดอกไม้ช่อใหญ่เดินเข้ามาหาเบวตัดหน้าผม “โห่ว...เล่นใหญ่ขนาดนี้เลยหรอวะ” ผมมองดูดอกไม้ของผมกับมัน พอลองเปรียบเทียบกันแล้วดอกไม้ของผมแทบจะกลายเป็นเศษขยะ “แม่งเอ้ย...ตัดหน้ากูอีกแล้วนะมึง” ผมนี้ถึงกับโยนดอกไม้ดอกเล็กของผมทิ้งเพราะอายเกินกว่าที่จะเอาไปให้เบว

             เนิร์ด. เกม! มาถ่ายรูปด้วยกันดิ

    เนิร์ดที่เห็นผมยืนอยู่ไกลๆ ตะโกนเรียกผม ผมเลยเดินเข้าไปถ่ายรูปด้วย จากรูปคู่จึงกลายเป็นรูปหมู่ ผมเดินออกมานั่งกินไอติมคนเดียวแบบเงียบๆเซงๆ ไม่รู้ไอ่เบสกับต้อมหายหัวไปไหน

             แฉะ!   

             เกม. มึงทำอะไรวะ

    จู่ๆไอ่เนิร์ดก็โผล่มา มันหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปผมตอนทีเผลอ จากนั้นมันก็ดูรูปแล้วหัวเราะคิกคัก 

             เนิร์ด. ก็ถ่ายรูปมึงไง ฮ่าๆๆ(หัวเราะ)  น่ามึงโคตรเอ๋อเลยว่ะ

             เกม. ไอ่สัสเนิร์ด มึงลบเลยนะ 

             เนิร์ด. เห้ย..กูพูดเล่น น่ารักจะตาย ลบทำไมวะ

             เกม. ไหนมาดูดิ้..

    ผมแย่งกล้องจากมันมาดู มันถ่ายรูปผมตอนผมกำลังหลับตาพอดี

             เกม. ไม่เห็นหล่อเลย มึงถ่ายให้กูใหม่เลยนะ

    ผมกับมันยืนถ่ายรูปกันอยู่นาน ก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียน (งานโรงเรียนจัดแค่ช่วงเช้า)

     

    คาบบ่าย เสียงประกาศตามสายเรียกให้นักเรียนชั้นมอหกทุกคนไปรวมตัวกันที่หอประชุมเพราะจะมีติวเตอร์พิเศษมาติว 7 วิชาสามัญ ให้เด็กมอหกเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาลัย ครูไม่ได้บังคับให้นั่งตามห้องเรียน ใครอยากนั่งไหนก็นั่ง ผมนั่งติวอยู่กับเพื่อน และเผลอหลับบ้างเป็นบางครั้งเพราะแอร์เย็นมาก แถมเสียงติวเตอร์ก็เหมือนเพลงกล่อมนอน ผมนั่งเบื่อๆอยู่ก็เหลือบไปเห็นไอ่เนิร์ดที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาติวอย่างเคร่งเครียด ผมนึกสนุกอยากจะแกล้งมัน เลยแอบย่องไปนั่งข้างหลังมัน ผมวาดหน้ามันใส่กระดาษโดยมีส่วนหัวเป็นคนส่วนตัวเป็นกระสือ “เนิร์ดๆ” ผมสะกิดหลังมันแล้วกระซิบเรียก ทันทีที่มันหันหลังมามอง ผมก็ยกรูปวาดให้มันดู ไอ่เนิร์ดกลั้นขำแล้วหันกลับไปตั้งใจเรียนต่อ แต่ไม่นานมันก็หันกลับมาพร้อมกับโชว์รูปที่มันวาดให้ผมดู “โห่ว..นี้กูเหรอเนี่ย วาดได้อุบาทสัส” มันวาดรูปผมเป็นผีกระหัง ผมเลยจะวาดรูปมันเป็นผีกองกอยคืนบ้าง มันโชว์กระดาษอีกแผ่นหนึ่งให้ดู ข้อความในกระดาษเขียนว่า ‘เย็นนี้ไปกินเตี๋ยวกับกูไหม’ แต่ผมขี้เกรียจไปเลยไม่ได้ตอบตกลงคำชวนของมัน...

     

    เรียนเสร็จ ฝนก็ตกพอดี ขณะที่ผมกำลังเดินออกมาจากหอประชุม ผมก็เห็นเบวกำลังยืนติดฝนอยู่หน้าอาคารเรียน ลักษณะนี้ เบวไม่ได้เอาร่มมาแน่ๆ หรือว่านี้จะเป็นโอกาสที่ผมจะได้อยู่ในร่มคันเดียวกันกับเบว แต่เดี๋ยวนะ ผมไม่ได้พกร่มมาเนี่ยสิ..... ทำไงดี ทำไงดี แล้ววินาทีนั้นผมก็นึกบางอย่างออก ผมใส่เสื้อแจ็สเก็ตมาโรงเรียนนี้หว่า ถ้าผมใช้แจ็สเก็ตบังฝนให้เบวล่ะก็...นี้มันฉากโรแมนติกในซีรีย์เกาหลีชัดๆ พระเอกกางเสื้อกันหนาวให้นางเอกหลบฝน แล้ววิ่งฝ่าฝนไปด้วยกัน อยู่ภายใต้เสื้อกันหนาวตัวเดียวกัน อะหึ๊ย.....! แค่คิดก็เขินแล๊วว...!

    ว่าแล้วผมก็ถอดเสื้อแจ็สเก็ตของตัวเองออกแล้วเดินตรงไปหาเบว แต่ยังไม่ทันจะถึงตัวเบว ไอ่เนิร์ดก็เดินตัดหน้าผมไปหาเบว พร้อมกับร่มคันใหญ่ที่ใช้กางให้เบว จากนั้นมันกับเบวก็เดินออกจากหอประชุมไปด้วยกัน ในร่มคันเดียวกัน ต่อหน้าต่อตาผม ซีนโรแมนติกในซีรีย์ที่ผมฝันไว้ พังทลายลงทันที มึงอีกแล้วนะ ไอ่เชี้ยเนิร์ด...

     

    เช้าวันต่อมาผมนอนโทรมจมอยู่บนเตียงเพราะเป็นไข้ ก็แง๋ล่ะสิ เดินตากฝนกลับบ้านคนเดียวขนาดนั้น ไอ่นิสัยไม่พกร่มไปโรงเรียนของผมมันแก้ไม่หายสักที แถมเมื่อวานก็หมดโอกาสโชว์เท่ให้เบวเห็น วันนี้เลยไม่ได้ไปโรงเรียน แต่โชคยังดีที่ผมป่วยวันศุกร์ พรุ่งนี้ก็เป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ผมจะได้มีเวลาพักผ่อนอีกสองวัน สักพักเบสกับต้อมก็โทรมาหาผม

             เกม. ฮัลโหล

             เบส. ไม่มาโรงเรียนเหรอวันนี้

             เกม. กูเป็นไข้ว่ะ ไปไม่ไหวจริงๆ

             เบส. เออ งั้นเดี๋ยวพวกกูเขียนใบลาให้ก็แล้วกัน ถ้าครูสั่งการบ้านเดี๋ยวจะโทรบอก

             เกม. ขอบใจมากว่ะเพื่อน

    หลังจากวางสาย ผมก็กลับมานอนต่อแล้วหลับไป

             “เกม เปิดประตูหน่อย”

    ผมสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงใครบางคนกำลังตะโกนเรียกผมอยู่หน้าบ้าน มองออกไปดูก็เห็นไอ่เนิร์ดยืนเรียกชื่อผมอยู่ 

             เนิร์ด. ไอ่เกมโว้ย.. เปิดประตูให้กูหน่อย

             เกม. เออ รอแปป เดี๋ยวกูลงไปเปิดให้

    ผมรีบหอบสังขารลุกขึ้นจากเตียงแล้ววิ่งมาเปิดประตูให้เนิร์ด ไอ่เนิร์ดเดินเข้ามาพร้อมกันถุงกับข้าวถุงใหญ่

             เกม. มาบ้านกูทำไมวะ

             เนิร์ด. กูซื้อข้าวกับยามาให้ มึงดีขึ้นหรือยัง

             เกม. รู้ด้วยเหรอว่ากูป่วย

             เนิร์ด. กูรู้มาจากไอ่เบสกับต้อมแล้ว

    เนิร์ดค่อยๆหยิบแต่ละอย่างอาหารออกมาจากถุง ซึ่งมันเยอะมากๆ อาหารแต่ละอย่างมีแต่ของโปรดที่ผมชอบทั้งนั้น มีทั้งซูชิ ไก่ย่าง หมูปิ้ง สลัดผัก โจ๊ก ก๋วยเตี๋ยว กระเพราหมูกรอบ กระเพาะปลา ข้าวหน้าปลาไหล ข้าวหมูทอดทงคัสซึ ข้าวหน้าแกงกะหรี่ญี่ปุ่นก็ยังมี กุ้งอบ หมึกย่างเป็นตัวก็มา โคตรน่ากิน....

             เกม. โอ้โห้...เนิร์ด ทำไมมึงซื้อมาเยอะจังวะ

             เนิร์ด. กูกลัวมึงไม่อิ่ม

             เกม. เชี้ย..ที่มึงซื้อมากูกินได้สามวันเลยนะ

             เนิร์ด. มึงก็เวอร์เกิ๊น...กินกันสองคน วันเดียวก็หมดแล้วมั้ง

             เกม. ก็ยังเยอะอยู่ดีอ่ะ

             เนิร์ด. กูซื้อยาแก้หวัดกับแก้ไข้มาให้ แก้หวัดกินวันละสองเม็ดหลังอาหารห้านาที ส่วนยาแก้ไข้กินวันละสองเม็ดพอ แล้วก็มีแผ่นแปะลดไข้ด้วย

             เกม. ...(จ้องหน้าเนิร์ด)

             เนิร์ด. อะไร? จ้องกูทำไม

    เกม. ทำดีกับกูขนาดนี้ ต้องการอะไรจากกูป๊าว...?

             เนิร์ด. แล้ว...มึงคิดว่ากูต้องการอะไรจากมึงล่ะ

             เกม. เห้ย...! จริงป๊ะเนี่ย.. นี้มึงทำดีประสงค์ร้ายเหรอวะ

    หรือว่ามันจะรู้ว่าผมแอบชอบเบว ก็เลยจะวางยาผม

             เนิร์ด. มึงจะบ้าเหรอ...กูปั่นจักรยานผ่านมาแถวนี้พอดี รู้ว่ามึงป่วยเลยแวะเอาอาหารมาให้ อีกอย่างกูก็เบื่อบ้านด้วย เลยแวะมาหาเพื่อนกินข้าวเฉยๆ

             เกม. ...(จ้องหน้าต่อ)

             เนิร์ด. ยัง....ยังไม่หยุดจ้องหน้ากูอีก จะกินไหมเนี่ยข้าว? ถ้าไม่กินกูขนกลับบ้านแล้วนะ

             เกม. เห้ย..เดี๋ยวๆ กินๆ.... โธ่ แกล้งแค่นี้ทำเป็นงอน 

             เนิร์ด. ไม่ได้งอน แต่รำคาญเว้ย

    สิ่งแรกที่ผมหยิบกินก็คือซูชิ มันเป็นซูชิที่อร่อยมาก กัดเข้าไปคำแรกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ 

             เกม. โคตรตต........อร่อยยยยย....เลย สาดดด.....

             เนิร์ด. อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ

             เกม. ก็เออดิ เกิดมาก็เพิ่งจะเคยกินซูชิของแท้สดๆแบบนี้แหล่ะ ปกติกินแต่ที่เป็นชิ้นละ 5 บาท ตามตลาดนัด... ว่าแต่ซูชิพวกนี้มึงซื้อเท่าไหร่วะ

             เนิร์ด. ชุดนี้เหรอ ประมาณ 600

    ข้าวซูชิแทบพุ่งออกจากปากผมเมื่อได้ยินราคา

             เกม. อะ..แอก! อะ..แฮ่ก! (เสียงเกมไอ)

             เนิร์ด. เห้ย! เป็นอะไรไปวะ อยู่ๆก็สำลักเฉย

    ผมตกใจราคาซูชิจนสำลักข้าว เนิร์ดหยิบน้ำส่งให้ผม ผมรีบคว้ามาดื่มอย่างไว

             เกม. โห่ว...โคตรแพงเลยสัส งั้นมึงกินเลย กูไม่กินแล้ว

             เนิร์ด. กูล้อเล่น มันไม่ได้แพงขนาดนั้นหรอก มึงกินไปเถอะ

    หลังจากกินข้าวกินยาเสร็จ เนิร์ดก็ส่งผมเข้านอน มันห่มผ้าให้ผม พร้อมกับเอาแผ่นเจลลดไข้ติดหน้าผากให้ผม ถึงแม้จะรู้สึกแปลกๆที่ถูกดูแลแบบนี้ แต่ผมก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก จริงๆไม่มีใครดูแลผมแบบนี้มานานมากๆแล้ว ตั้งแต่แม่ผมเสีย 

             เนิร์ด. หลับพักผ่อนซะนะมึง เดี๋ยวกูจะกลับแล้ว ยังไงก็...ฝันดีผีหักคอนะเว้ย

             เกม. สัส..ผีเผลอที่ไหนล่ะ รีบกลับไปเลย..

    เนิร์ดยิ้มให้ผมก่อนจะเก็บของเข้ากระเป๋า

             เนิร์ด. ไปก่อนนะ

             เกม. อะ..เดี๋ยว

             เนิร์ด. หื้อ?

             เกม. ขอบคุณนะ

    เนิร์ดยิ้มแล้วพยักหน้า 

     

    เช้าวันรุ่งขึ้นเนิร์ดก็เอาข้าวมาให้ผมอีก ข้าวที่เอามาให้เมื่อวานก็ยังไม่หมดเลย มันมากินข้าวเช้าเป็นเพื่อน แถมยังกวาดพื้นให้ผมอีกต่างหาก

    เกม. ไม่ต้องทำก็ได้ กูเกรงใจ

    เนิร์ด. ไม่ทำได้ไงวะ บ้านมึงฝุ่นเยอะขนาดนี้ เดี๋ยวก็เป็นภูมิแพ้หรอก มึงยิ่งไม่สบายอยู่ด้วย

    เกม. แต่...

    เนิร์ด. นอนไป ไม่ต้องพูด

    เกม. งั้นกูไปอาบน้ำก่อนนะ

    เนิร์ด. เดี๋ยวๆ

    เกม. อะไร?

    เนิร์ด. เป็นไข้เขาไม่ให้อาบน้ำ แค่เช็ดตัวก็พอ…บ้านมึงมีน้ำอุ่นไหม

    เกม. ไม่มีอ่ะ

    เนิร์ด. มึงนอนรอกูอยู่นี้แปปนะ

    พูดจบมันก็เดินไปต้มน้ำ จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ ไม่นานก็ออกมาพร้อมขันใส่น้ำกับผ้าขนหนู ผมเห็นมันเอาน้ำร้อนที่ต้มมาผสมน้ำเย็นจากในขัน

             เนิร์ด. มา กูเช็ดตัวให้

             เกม. เห้ยย! ไม่เอา กูไม่อยากให้มึงเห็นตัวกูโป๊

             เนิร์ด. ผู้ชายเหมือนกันจะกลัวอะไรวะ หรือมึงอาย

    ผมเงียบไม่ตอบ ได้แต่นอนกอดอกอยู่แบบนั้น จู่ๆไอ่เนิร์ดมันก็หัวเราะ

             เกม. หัวเราะไรฟร๊ะ!

             เนิร์ด. อย่างมึงเนี่ยนะอายกู (หัวเราะ) คนอย่างมึงรู้จักคำว่าอายเป็นด้วยเหรอ

    มันพูดไปหัวเราะไป

    เกม. หยุดหัวเราะเลยสัส

    เนิร์ด. หน่า...กูเช็ดตัวให้แปปเดียว ไม่ต้องอายหรอก กูเห็นจนชินแล้ว

    เกม. ห๊ะ! มึงเห็นตอนไหนวะ!

    เนิร์ด. ล้อเล่น! มึงไม่มีอะไรให้กูมองอยู่แล้ว...ถอดเสื้อเร็ว กูจะเช็ดตัวให้

    เกม. ไม่เอา! กูขี้เกรียจเช็ด

    เนิร์ด. มึงจะถอดหรือไม่ถอด 

    เกม. ไม่

    เนิร์ด. ถ้ามึงไม่ยอมถอด กูจะถอดให้นะ

    เกม. ...

    เนิร์ด. 1...2....3!

    เกม. เอ้ย! เดี๋ยวๆๆ กูยอมถอดก็ได้

    เนิร์ด. เออ ก็แค่เนี๊ยะ..

    ผมถอดเสื้ออย่างคนอารมณ์เสีย ไอ่เนิร์ดค่อยๆใช้ผ้าจุ่มน้ำแล้วเช็ดตัวให้ผม ผมขนลุกไปทั้งตัวเพราะไม่เคยมีใครมาเช็ดตัวให้ นอกจากแม่

     

    เช็ดตัวเสร็จเนิร์ดมันก็กลับบ้าน ส่วนผมก็กลับไปนอนพักผ่อน ก่อนไปมันไม่ลืมที่จะเอาขยะที่อยู่ในถังลงไปทิ้งให้ผมด้วย แสนดีแบบนี้ ถ้าผมเป็นผู้หญิงผมคงหลงมันไปนานแล้ว

    ตกเย็น เบสกับต้อมก็โทรเฟสมาหาผม

             เบส. เป็นไงบ้าง หายยัง

             เกม. ก็ดีขึ้นเยอะ เกือบจะหายแล้ว

             ต้อม. หายให้ทันวันจันทร์นะเว้ย พวกกูไม่อยากไปค่ายกันสองคน

             เกม. เชี้ย..เกือบลืมไปเลย วันจันทร์ต้องไปค่ายจิตอาสานี้หว่า 

             เบส. ใช่ มึงอย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมด้วยล่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×