คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ประกวดชายงาม
บทที่ 4 ประกวดชายงาม
เอี๊ยด...เสียงรถจอด
เนิร์ด. บ้านมึงอยู่ตรงนี้เหรอ
เกม. ใช่
เนิร์ด. เห้ย งั้นบ้านมึงกับกูก็อยู่ใกล้ๆกันอ่ะดิ
เกม. บ้านมึงอยู่แถวนี้เหรอวะ
เนิร์ด. เออ.. บ้านกูอยู่ห่างจากบ้านมึงไปแค่นิดเดียวเอง ขี่จักรยานไปไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว
เกม. อ๋อ...เหรอ อืมๆ ก็ดีมึง งั้นกูเข้าบ้านก่อนนะ ขอบใจที่มาส่ง
เนิร์ด. เจอกันมึง
ตัดภาพมาที่ร้านหมูกระทะ
ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่มากินหมูกระทะกับเพื่อนๆ ทั้งๆที่ผมไม่ได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันครั้งนี้เลย แถมยังป่วยตอนแข่งอีก แต่ผมก็ยังมาเพราะเนิร์ดขอร้อง
เกม. มึงคีบหมูไม่ได้เหรอ
ผมหันไปถามเนิร์ดที่กำลังพยายามใช้ตะเกียบคีบหมูอย่างทุลักทุเลเพราะแขนเจ็บ
เกม. มาๆ เดี๋ยวกูป้อน สงสารว่ะ
เนิร์ด. ขอบใจ
ผมค่อยๆใช้ตะเกียบคีบหมูแล้วป้อนเข้าปากมัน ไอ่เนิร์ดก็เคี้ยวหมูหงึกๆจนแก้มตุ่ยอย่างเอร็ดอร่อย
ชัย. พวกมึงเนี่ย เหมือนผัวเมียกันเลยนะ
เกม. เดี๋ยวกูเตะอัดฝาบ้านเลยไอ่ชัย
ครู. ชัย เธอก็อย่าไปล้อเพื่อนสิ เพื่อนเจ็บแขนอยู่เห็นไหมน่ะ หรือเธอจะเป็นคนป้อนเอง
ชัย. ไม่เอาหรอกครู ให้เกมมันป้อนอ่ะดีแล้ว
ไอ่ชัยหนึ่งในทีมวิ่งของสีผม มันเป็นคนใจกากแต่ปากเก่ง ชอบพูดแซวคนอื่นเขาไปทั่ว
เนิร์ด. เออ วันเสาร์อาทิตย์นี้ไปติวหนังสือที่บ้านกูไหม
เกม. ก็ได้นะ มึงว่างเหรอ
เนิร์ด. ว่างดิ บ้านมึงกับกูอยู่ใกล้กันพอดี ติวเสาร์อาทิตย์จะได้ความรู้เพิ่มไง
ดีล่ะ ผมอยากไปดูบ้านมันอยู่พอดี จะได้รู้ว่าคู่แข่งหัวใจของผมมันรวยสักแค่ไหน
เช้าวันต่อมา เนิร์ดขับรถมารับผมที่หน้าบ้าน
เกม. มึงๆ กูขอเวลาเตรียมของก่อนแปปนึงนะ มึงเข้ามารอในบ้านก่อนก็ได้ ข้างนอกมันร้อน
เนิร์ดลงจากมอไซร์ถอดหมอกกันน็อกแล้วเดินตามผมเข้ามาในบ้าน ท่าทางมันดูเกรงๆตอนเข้ามาในบ้านผม สงสัยมันคงคิดว่าผมอยู่กับญาติ
เนิร์ด. นี้มึงอยู่คนเดียวเหรอ
เกม. ใช่
เนิร์ด. ญาติล่ะ
เกม. ป้ากูจะมาหาแค่บางวันอ่ะ นานๆทีถึงจะมา
เนิร์ด. ทำไมเขาไม่มาอยู่กับมึงวะ
เกม. บ้านเนี่ยเป็นบ้านแม่กู กูกับป้าบ้านอยู่คนละที่กัน แล้วป้าก็ต้องทำงาน เขาไม่ว่างมาหากูทุกวันไม่ได้หรอก
เนิร์ด. มึงก็เลยต้องอยู่คนเดียวแบบนี้เนี่ยนะ
ผมพยักหน้า
เกม. ป๊ะ ไปกันเถอะ กูเตรียมของเสร็จแล้ว
ภาพบ้านของเนิร์ดในหัวผมก็คือ คฤหาสน์หรู อ่างจากุกชี่ สระน้ำ รถสิบคัน ห้องนอนสิบห้อง
แต่วินาทีแรกที่ผมเห็นบ้านมันก็คือ บ้านปูนผสมไม้ธรรมดาๆ ไม่ได้แตกต่างจากบ้านผมเลย แค่ดูดีกว่าบ้านผมนิดหน่อย ข้างในบ้านก็ธรรมดาไม่ได้มีความหรูหรืออะไรที่พิเศษ นี้มึงรวยจริงรึเปล่าวะ? ผมเดินตามมันเข้าไปในบ้าน มีผู้หญิงสองคนออกมาต้อนรับผม คนหนึ่งดูมีอายุ ส่วนอีกคนยังสาวอยู่
เนิร์ด. เกม...นี้แม่กับพี่สาวกูนะ ชื่อแม่น้อย กับพี่เนียร์
เกม. สวัสดีครับ
ผมยกมือไหว้ทั้งสองอย่างนอบน้อม ทั้งสองก็รับไหว้ผมอย่างเป็นมิตร
เนียร์. เพื่อนใหม่เนิร์ดเหรอ
เนิร์ด. ใช่ครับพี่ ผมพามันมาติวหนังสืออ่ะ
แม่น้อย. แหม่...ปกติไม่เคยเห็นเนิร์ดพาใครมาบ้านเลยนะลูก คนนี้คนแรกเลยนะ กินข้าวกินปลากันมาหรือยัง ถ้ายังแม่จะได้ทำกับข้าวให้
เกม. ขอบคุณครับแม่ แต่พวกผมซื้อของกินมาแล้วครับ
เนิร์ด. ผมพามันขึ้นไปติวบนห้องก่อนนะแม่
แม่น้อย. จ่ะ...ตามสบายนะลูก
ผมแอบตื่นเต้นที่กำลังจะได้เข้าห้องของเนิร์ดเป็นครั้งแรก ขนาดบ้านไอ่เบสกับไอ่ต้อมผมยังไม่เคยไปเลยเพราะพวกมันอยู่ไกล
มองไปรอบๆห้อง ก็เห็นโพสอิทหรือกระดาษโน้ตที่เขียนสูตรคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ติดเต็มพนังห้องไปหมด สมกับที่เป็นเด็กเรียนจริงๆ ผมได้กลิ่นหอมๆในห้องมันด้วยซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันใช้น้ำหอมอะไรฉีดห้อง
เนิร์ด. มึง...กูไปเข้าห้องน้ำแปปนะ สมุดโน้ตอยู่แถวๆโต๊ะอ่ะ มึงเอาออกมาอ่านก่อนเลย
เกม. ได้ๆ
“สมุดโน้ตๆ อยู่ไหนหน่อ” ผมค้นหาสมุดที่โต๊ะไอ่เนิร์ดอยู่สักพัก ก็ต้องไปสะดุดตากับอะไรบางอย่าง “นี้มัน! หนังสือโป๊นี้หว่า” แหม่..เก็บไว้ในที่โจ่งแจ้งเหลือเกินนะมึง ผมไม่ยุ่งดีกว่า ผมรีบเก็บหนังสือนั้นเข้าที่เดิม แล้วค้นหาสมุดโน้ตต่อ “อ่า..เจอสมุดโน้ตแล้ว!”
ผมนั่งติวหนังสือกับมันอยู่พักใหญ่ๆ ไม่นานเราก็รู้สึกเบื่อ สุดท้ายก็จบลงด้วยการเล่นเกมส์
ผมสงสัยและอยากรู้เรื่องราวของมัน เลยเอ่ยปากถาม
เกม. ทำไมมึงถึงชื่อเนิร์ดวะ
เนิร์ด. จริงๆตอนแรกกูไม่ได้ชื่อเนิร์ดหรอก แต่กูชื่อ เวย์
เกม. เวย์? เวโปรตีนเหรอวะ
เนิร์ด. ไม่ใช่ไอ่สัส เวย์ที่แปลว่าทางเดินอ่ะ Way ดับบิว เอ วาย อ่ะ
เกม. อ๋อ... on my Way
เนิร์ด. เออ ประมาณนั้นแหล่ะ... แม่เห็นกูอ่านหนังสือออกตั้งแต่ตอนสองขวบ เลยเปลี่ยนชื่อให้เป็นเนิร์ด
เกม. What the fuck! มึงอ่านหนังสือออกตั้งแต่ตอนสองขวบเลยเหรอวะ อัจฉริยะชัดๆ ป.1 กูยังอ่านไม่ออกสักตัวเลย
เนิร์ด. ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก....แล้วของมึงล่ะ ทำไมชื่อเกม
เกม. ไม่รู้สิ แม่กูคงตั้งชื่อให้ไปเรื่อยล่ะมั้ง
เนิร์ด. ทำไมไม่ถามแม่มึงวะ
เกม. ก็แม่กูไม่ได้อยู่ให้ทันได้ถามนิ
เนิร์ด. ....ขอโทษ
เกม. ไม่เป็นไร
เนิร์ด. ขอโทษที่ถามนะ แต่แม่มึงเสียเพราะอะไรเหรอ
เกม. เป็นมะเร็งน่ะ
เนิร์ด. ท่านเสียช่วงไหนเหรอ
เกม. ตอนกูอยู่ ม.3
เนิร์ด. แล้ว....ตอนที่แม่เสียอ่ะ มึงผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ยังไงวะ
ผมค่อยๆวางจอยเกมลง แล้วนึกย้อนถึงช่วงเวลานั้น
เกม. มึงเข้าใจคำว่าโลกจะแตกไหม ตอนนั้น....กูเข้าออกโรงพยาบาลแทบจะทุกวัน เลิกเรียนมาก็วิ่งไปที่โรงพยาบาลทันที อยู่จนเหมือนบ้าน ตอนที่แม่กูกำลังจะไป กูโคตรทรมานเลยเว้ย มันเหมือนกับว่าโลกทั้งใบมันกำลังจะล้มสลาย มันเหมือนว่าเรากำลังจะตาย หรือไม่ก็ตายไปแล้วหลายๆรอบ กูทั้งกลัว ทั้งเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ แม่อาการทรุดลงเรื่อยๆ เงินจะรักษาก็ไม่มี กูออกไปหาทำงานพิเศษแต่มันก็ไม่พอ สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้แม่ตายเพราะกูไม่มีเงิน ตอนนั้นกูอยากจะตายตามแม่ไปซะ เพราะกูไม่เหลือใครแล้วจริงๆ......... แต่กูก็ทำไม่ได้ กูไม่กล้าฆ่าตัวตาย ใจไม่ถึง กลัวเจ็บ
เนิร์ด. ดีแล้วที่มึงไม่ทำอะไรโง่ๆแบบนั้น ถ้ามึงทำจริง วิญญาณแม่มึงคงเสียใจ...
เกม. เออ ก็จริงของมึง
เนิร์ด. กูเข้าใจมึงนะ กูก็กลัวเหมือนกัน ไม่อยากให้ถึงวันนั้นเลย ไม่รู้จะทำใจได้ไหม
เกม. ตอนแรกมันก็ทรมานแหล่ะ กูนอนในบ้านไม่ได้เลยตอนนั้น พอเข้าบ้านปุ๊บน้ำตากูแตกทันที ห้องที่แม่เคยอยู่ โต๊ะที่แม่เคยนั่ง ภาพทุกอย่างที่แม่เคยทำมันวิ่งเข้ามาในหัว.....กูร้องไห้คิดถึงแม่ทุกวัน แต่พอเวลาผ่านไปมันก็จะเริ่มทำใจได้เอง
เนิร์ด. แล้วพ่อ?
เกม. พ่อตายตั้งแต่กูอยู่ในท้องแม่แล้ว
เนิร์ด. มึงอยู่คนเดียวยังไงวะ ใช้จ่ายยังไง
เกม. อ่อ...ป้ากูมาช่วยอ่ะ ป้าที่ไม่ได้เจอกันมาสิบกว่าปี กูเพิ่งมารู้ว่าตัวเองมีป้าก็วันงานศพแม่นั้นแหล่ะ ป้ารับกูมาเลี้ยง แล้วก็ส่งกูเรียน เขาไม่ยอมให้กูไปทำงานพิเศษ เพราะอยากให้ตั้งใจเรียนให้เต็มที่ ป้าออกค่าเทอมให้ทั้งหมด กูก็เลยสบายหน่อย ไม่ต้องออกไปหางานทำ แต่สมองกูมันมีแต่ขี้เลื่อย เรียนเท่าไหร่ก็เรียนไม่เก่ง
เนิร์ด. แล้วป้าไม่เอามึงไปอยู่ด้วยเหรอ
เกม. ป้าเขามีครอบครัวอยู่ที่อื่นแล้ว ส่วนกูก็ไม่อยากทิ้งบ้านแม่ไปอยู่ที่อื่น ป้าก็เลยส่งเงินมาให้กูใช้เป็นเดือนๆแทน กูโตแล้ว ดูแลตัวเองได้
เนิร์ด. เก่งว่ะ ไม่เหงาเหรอ
เกม. เหงาดิ ตอนนี้กูก็โคตรตอยากมีแฟนเลย....ถ้ามีใครสักคนมาอยู่ข้างๆก็คงดี...
อ่าว...นี้ผมอยากรู้เรื่องมันหรือมันอยากรู้เรื่องผมกันแน่เนี่ย
เกม. มึงถามเรื่องกูเยอะเลยนะ เล่าเรื่องมึงให้กูฟังบ้างดิ
เนิร์ด. เรื่องกูไม่มีไรน่าสนใจหรอก อย่าฟังเลย
เกม. ไรวะ ขี้โกงนี้หว่า ทีกูยังเล่าเรื่องส่วนตัวให้มึงฟังเลย
เนิร์ด. พ่อแม่กูเลิกกัน ก็เลยเหลือแค่กูกับแม่แล้วก็พี่สาว
เกม. เพื่อนในห้องกูบอกว่าบ้านมึงรวยมาก พ่อแม่มึงทำงานไรวะ
เนิร์ด. แม่กูไม่ได้ทำงาน ส่วนพ่อก็เป็นพนักงานออฟฟิตทั่วไปนั้นแหล่ะ แค่ตำแหน่งสูงหน่อย เงินเดือนเลยเยอะ แล้วพ่อแม่มึงล่ะ
เกม. พ่อแม่กูตอนมีชีวิตอยู่ ทำงานโรงงานชุดชั้นใน
ผมรู้สึกว่าเนิร์ดมันไม่อยากเล่าเรื่องของมันสักเท่าไหร่ เลยไม่ได้ถามอะไรมันต่อ หลังจากเล่นเกมส์กันเสร็จผมกับมันก็กลับมาติวหนังสือกันต่อ พอรู้สึกเบื่อเนิร์ดมันก็หยิบกีต้าร์ขึ้นมาดีด
เนิร์ด. เดี๋ยวกูเล่นกีต้าร์ให้ฟัง
เกม. เห้ย! มึงเล่นเป็นด้วยเหรอ
เนิร์ด. เป็นดิ แต่กูจะเล่นให้ฟังแค่รอบเดียวเท่านั้นนะ คลายเครียดกันหน่อย ค่อยอ่านหนังสือต่อ
เกม. มึงจะเล่นเพลงอะไร
เนิร์ด. หนุ่มบาวสาวปานเวอร์ชั่นอคูสติก
ผมไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นมุมนี้ของเนิร์ด นึกว่ามันจะสนใจแต่เรื่องเรียนซะอีก อยู่กับมันแล้วผมรู้สึกหายเหงาและลืมเรื่องเครียดต่างๆ นี้ถ้ามันไม่ใช่คู่แข่งหัวใจ ผมคงจะเป็นเพื่อนกับมันได้
เกม. ร้องเพาะเหมือนกันนิ
เนิร์ด. (หัวเราะ) เพาะเหรอวะ
เกม. เพาะก็เหี้ยแล้วครับ กลับไปอ่านหนังสือเถอะ
เนิร์ดที่หัวเราะอยู่หุบยิ้มทันที…
ถึงเวลากลับ เนิร์ดก็ขับรถมาส่งผมที่หน้าบ้านเหมือนเดิม กว่าจะถึงก็ค่ำแล้ว บ้านผมมืดตึ้บเพราะไม่ได้เปิดไฟ
เนิร์ด. อยู่บ้านคนเดียวแบบนี้ก็เหงาแย่เลยอ่ะดิ๊...
เกม. ก็นิดหน่อยอ่ะมึง
เนิร์ด. งั้นถ้ามึงเหงา มึงจะมาเล่นที่บ้านกูก็ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ
เกม. ได้มึง ถ้ากูเหงากูจะเวะไปหานะ
มันยิ้มแล้วโบกมือให้ผม ก่อนจะขับรถจากไป ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่ช่วงนี้มันทำตัวใจดีกับผมแปลกๆ
วันนี้มีงานโรงเรียนอีกแล้ว กิจกรรมที่เด่นๆของวันนี้ก็คือการประกวดชายงาม แต่ไม่ใช่ประกวดหนุ่มหล่อนะครับ แต่เป็นการประกวดชายแต่งหญิงต่างหาก ส่วนใหญ่ก็มีแต่สาวประเภทสองที่ลงประกวดทั้งนั้น ผู้ชายจริงๆคงไม่มี ผมเดินมาที่หน้างานเห็นเนิร์ดกับเบวยืนเถียงอะไรบางอย่างกันอยู่ ต่อมเผือกผมมันเริ่มทำงาน เลยเข้าไปทักสองคนนั้นอย่างไม่ลังเล
เนิร์ด. แต่เราไม่อยากแต่งหญิง เราไม่ชอบ
เบว. แต่...
เกม. ว่าไงเบว!
เบว. อ้าว เกม...หวัดดี
เกม. คุยอะไรกันอยู่เหรอ
เบว. เราหาคนไปประกวดชายงามอยู่อ่ะ แต่ห้องเราไม่มีใครยอมไปเลย มาขอร้องเนิร์ด เนิร์ดก็ไม่ช่วย
เนิร์ด. ก็เราไม่อยากทำนิเบว
เกม. แล้วเขาให้ห้องอื่นประกวดแทนได้ไหมอ่ะ
เบว. ได้ดิ จะส่งใครไปก็ได้ แค่บอกว่ามาจากห้องเรา
เกม. งั้นเราแต่งให้ก็ได้
เบว. เห้ย!! พูดจริงง่ะ
เกม. จริง แต่...เบวต้องเลี้ยงข้าวเรามื้อหนึ่งนะ
เบว. ได้สิ..ได้ๆ ขอบคุณมากนะ เกมตามเรามาที่ห้องแต่งตัวเลย เดี๋ยวไม่ทัน
เยส....สำเร็จ....กูจะได้ไปกินข้าวกับเบวสองต่อสองแล้วโว้ย.... ในที่สุด ผมก็หาเรื่องไปกินข้าวกับเบวจนได้
หนึ่งชั่วโมงต่อมาผมแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จ แต่ก็รู้สึกอายเกินกว่าที่จะก้าวขาออกไปจากห้องแต่งตัว เพราะนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมต้องใส่ชุดผู้หญิง ตอนพูดมันไม่เท่าไหร่เพราะใจผมตอนนั้นสนแค่ว่าอยากจะไปกินข้าวกับเบว แต่ตอนใส่ชุดผู้หญิงจริงๆทำไมมันเขินขนาดนี้วะเนี่ย
เบว. ออกมาเลยเกม
ผมค่อยๆเดินออกไปแบบอายๆ ทุกสายตาต่างมองมาที่ผม
เบว. โห้ว...สวยมากเลยเกม ไม่คิดว่าเกมจะแต่งเป็นผู้หญิงแล้วน่ารักขนาดนี้นะเนี่ย
เพื่อน. ใช่ๆ ปีนี้ห้องเรามีหวังชนะแน่
คนอื่นไม่เท่าไหร่ แต่ไอ่เนิร์ดเนี่ยสิ มันยืนพิงกำแพงแล้วกอดอก ก่อนที่จะจ้องผมตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยิ้มมุมปาก ผมว่ามันต้องกำลังหัวเราะเยาะผมอยู่ในใจแน่ๆ
เกม. มองไรฟร๊ะ
ผมถามมันด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคลือง
เนิร์ด. ป๊าว... ก็น่ารักดี
ผมทำตาขวางใส่มันทันที ก่อนที่มันจะยิ้มแบบกวนๆแล้วเดินออกจากห้องไป ได้ยินคำว่าน่ารักจากปากมันแล้วขนลุกว่ะ
ใกล้เวลาแข่งแล้ว ผมยืนอยู่หลังเวทีตัวสั่นไปหมดเพราะความกลัวและตื่นเต้น จู่ๆเนิร์ดก็เดินเข้ามาหลังเวทีแล้วมายืนข้างๆผม
เกม. มึงมาทำไมเนี่ย
เนิร์ด. เบวฝากให้กูมาดูแลมึง
ชิบหายแล้ว มือผมสั่นแบบอัตโนมัติ ชนิดที่ว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ นี้ถ้าถึงคิวผม ผมคงก้าวขาไม่ออกแน่ๆ
เนิร์ด. กลัวเหรอ? จับมือกูไว้สิ
ไอ่เนิร์ดยื่นมือมาให้ผมจับ ผมรีบจับมือมันไว้แน่นอย่างไม่ลังเลเพราะตอนนี้ผมตื่นเต้นมากจริงๆ ขอแค่ใครก็ได้มาอยู่เป็นเพื่อนก็ยังดี
เนิร์ด. สูดหายใจเข้าลึกๆ
ผมทำตามที่มันบอก ไม่นานมือผมก็หายสั่น “ได้ผลจริงๆด้วยแหะ” ผมประหลาดใจ ไม่คิดว่าแค่จับมือใครสักคนก็สามารถแก้อาการแพนิกของผมได้แล้ว
กรรมการ. ลำดับต่อไปนะครับ เป็นตัวแทนชายงามจากห้องกิฟต์แม็ทส่งเข้าประกวด ชื่อนาย ถวิต ธารามเทพ หมายเลข 10 ครับผม
เนิร์ด. สู้ๆเว้ย มึงทำได้อยู่แล้ว
ถึงชื่อผมแล้ว ผมปล่อยมือจากเนิร์ดแล้วเดินออกไปโชว์ตัวให้ทุกคนเห็นหน้าเวที ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผม ทุกคนที่อยู่ด้านล่างต่างยกมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปกันใหญ่ เบวยืนตะโกนเชียร์ผมอยู่แถวหน้า ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาบ้าง ผมยกมือไหว้คณะกรรมการ จากนั้นก็เดินไปเดินมาอยู่สองสามรอบ แล้วเดินไปยืนรวมแถวกับผู้เข้าประกวดคนอื่นๆ
การประกวดดำเนินมาถึงช่วงการแสดงโชว์ความสามารถพิเศษ คนอื่นๆไม่โชว์ร้องเพลงก็โชว์เต้น ส่วนผมน่ะเหรอ หึหึ...
กรรมการ. มาแล้วค่ะ หมายเลข 10 ตัวแทนจากห้องกิฟต์แม็ท มาในชุดเจ้าหญิงสีฟ้าพร้อมกับผมเปียสีทองทั้งสองข้างนะคะ ชื่อเล่นชื่อน้องอะไรคะ?
เกม. ผมชื่อเกมครับ
กรรมการ. น้องเกมนะคะ วันนี้น้องเกมจะมาโชว์ความสามารถพิเศษอะไรคะลูก?
เกม. ผมจะมาโชว์ตีลังกากลับหลังให้ดูครับ
กรรมการ. หู้ว...น่าสนใจนะคะ เชื่อว่านี้คงเป็นการแสดงที่แปลกใหม่กว่าทุกๆโชว์ที่ผ่านๆ แล้วใส่ชุดส้นสูงแบบนี้จะตีลังกาไหวเหรอ
เกม. ไหวครับ สบายมาก
กรรมการ. โอเคค่ะ งั้นเริ่มการแสดงได้เลยนะคะ
ผมไม่รอช้า กระโดดตีลังกากลับหลังโชว์ประมาณสามรอบ ตีลังกากลับหน้าอีกสามรอบ ผมรู้สึกสนุกมาก ทุกครั้งที่ผมตีลังกา ก็จะมีเสียงร้องเฮด้วยความตื่นเต้นจากคนดูที่อยู่ด้านล่างเวที แต่ผมคงตีลังกาเพลินไปหน่อย ก็ไอ่ส้นสูงเจ้ากรรมที่ผมใส่ ส้นรองเท้ามันดันหักเนี่ยสิ
“เห้ย!!!”
ผมร้องตกใจก่อนที่ตัวของผมจะลอยตกจากเวที ผมหลับตาปี๋รอรับผลกรรม คิดอยู่ในใจว่าถ้าไม่พิการก็กลายเป็นผัก หลังจากจบการประกวดนี้ ผมคงอับอายขายขี้หน้าไปหลายวัน คลิปของผมที่อยู่ในมือถือทุกคนคงดังจนกลายเป็นไวรอล
แต่ผมก็ต้องแปลกใจ เพราะจู่ผมก็รู้สึกถึงแขนนุ่มๆของใครบางคน คนๆนั้นกำลังใช้แขนรองรับร่างผมไว้ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาดูว่าเป็นใคร แล้วผมก็เห็นว่าเป็นไอ่เนิร์ดที่กำลังทำหน้าตกใจเหมือนหมาที่บ้านกำลังจะตาย มันหายใจหอบเหงื่อไหลเต็มหน้า แล้วก็อุ้มผมไว้แบบนั้น คนดูต่างร้องกรี๊ดด้วยความตกใจรวมถึงคณะกรรมการด้วย แต่พอเห็นว่าผมไม่เป็นอะไรก็ถ่ายรูปผมกับไอ่เนิร์ดกันใหญ่
กรรมการ. เอ่อ..ทุกคนใจเย็นๆก่อนนะคะ นะ..น้องเกม เป็นอะไรไหมลูก?
เนิร์ดค่อยๆวางผมลง ผมยืนเซจนต้องจับไหล่มันเพื่อประครองตัวเองเอาไว้
เกม. ผมไม่เป็นไรครับ
โชคดีที่เนิร์ดวิ่งเข้ามาอุ้มผมเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้น หัวผมอาจจะฟาดพื้น และได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงเพราะเวทีค่อนข้างสูงอยู่พอสมควร “ขอบใจนะ” ผมกระซิบบอกเนิร์ดเบาๆก่อนจะรีบกลับขึ้นไปบนเวทีเพื่อประกวดต่อ
ไม่นานก็มาถึงช่วงตอบคำถาม
กรรมการ. ถ้าคุณมีเวลาเหลืออยู่บนโลก 1 ชั่วโมง คุณจะทำอะไรก่อนตายคะ?
เกม. ผมจะนอนครับ
(ทุกคนหัวเราะ)
กรรมการ. ทำไมล่ะคะ
เกม. จะได้ไม่ต้องรับรู้อะไรเลยว่าเราตายไปแล้ว ขอบคุณครับ
กรรมการ. ขอบคุณน้องเกม หมายเลขสิบค่ะ........
จบการประกวด ผมตกรอบ ไม่ได้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย สงสัยคำตอบของผมจะไม่โดนใจกรรมการ แต่ถึงผมจะไม่ชนะ ผมก็ได้รางวัลขวัญใจมหาชนมานะครับจะบอกให้...
เบว. ขอบคุณมากนะเกมที่มาช่วย ถ้าห้องเราไม่มีตัวแทนไปประกวดนะ โดนอาจารย์ด่าตายแน่ๆ
เกม. ขอโทษที่เอารางวัลชนะมาให้ไม่ได้นะ
เบว. ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้ก็เก่งมากแล้ว ได้เป็นถึงขวัญใจมหาชนเชียวนะ
ผมขำแห้ง ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะได้รางวัลนี้ นั้นไงไอ่เนิร์ด มันมายืนจ้องผมอีกแล้ว จ้องหาห่าอะไรนักหนาก็ไม่รู้
เบว. เนิร์ด วันนี้เนิร์ดไปส่งเกมกลับบ้านนะ เดี๋ยวเราให้พ่อมารับ
เกม. ไม่เป็นไร เรากลับเองก็ได้
เนิร์ด. กลับกับกูนี้แหล่ะ เดี๋ยวกูไปส่ง
เกม. เบว อย่าลืมเรื่องไปกินข้าวกับเรานะ
ก่อนกลับผมไม่ลืมที่จะทวงเรื่องไปกินข้าวกับเบว
เบว. อืม ได้ๆ
เนิร์ดขับรถมาส่งผมถึงหน้าบ้าน ขนาดผมลงจากรถ มันก็ยังจ้องผมอยู่
เกม. จ้องอะไรกูนักหนาวะ วันนี้มึงจ้องกูทั้งวันเลยนะเว้ย ทำไม! กูแต่งหญิงแล้วน่ารักอ่ะดิ๊...
เนิร์ด. อืม ใช่ น่ารักเหมือนตุ๊กตายาง
เกม. ไอ่สัส กลับบ้านไปเลยมึง
ไอ่เชี้ยนี้ กวนตีนชิบหาย มาหาว่าผมเหมือนตุ๊กตายาง “ยางพ่อมึงสิ”
เนิร์ด. วันหลังมึงก็อย่าใส่ส้นสูงตีลังกาอีกล่ะ
พูดแหนบแนมผมเสร็จ มันก็ขับรถจากไป แต่ก็ต้องขอบคุณมัน เพราะถ้ามันไม่ช่วยผมเอาไว้ตอนนั้น ผมคงเจ็บตัวได้นอนเป็นผักอยู่โรงบาล
ความคิดเห็น