คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 ความโง่เขลา
ทริดกับเทรน สอง ท. ต่างก็ไม่มีงานที่ต้องไปทำ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเข้าเรียนตามปกติ ในตอนเช้าของวันนี้วิชาแรกก็คือ ศิลปะการต่อสู้สอนโดยอาจารย์ทีอันม์อัศวินสาวในชุดเกราะสีดำ แรกเริ่มเดิมทีเธอมักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชายมาเสมอ ทว่าเมื่อทริดได้เห็นเธอในความฝันแล้วจึงเข้าใจว่าเธอไม่ใช่ผู้ชาย เฮลเธอร์เป็นคนเดียวที่ดูจะอึ้งที่สุดในกลุ่ม เขาพูดกับตัวเองว่า
“ตั้งแต่เกิดมาข้ายังไม่เคยมองข้ามผู้หญิงไปขนาดนี้เลย....”พลางทำหน้าอึ้งอยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมง
ห้องที่ใช้เรียนเป็นห้องโล่งกว้างขนาดเท่าสนามฟุตบอลสองสนาม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของโรงเรียน ภายในห้องเรียนถูกทาด้วยสีแดงเหมือนสีเลือดทั้งห้อง พวกนักเรียนเลยพากันเรียกว่า “ห้องสีเลือด”
แถมยังมีเรื่องเล่าชวนสยองอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับห้องนี้
“ฉันเคยได้ยินมาว่าเมื่อก่อนห้องนี้เคยเป็นจัตุรัสสำหรับประหารพวกปีศาจและเหล่านักโทษประหาร สีแดงของห้องนี้แท้จริงแล้วคือเลือดของคนที่ถูกฆ่าตาย สุดท้ายพวกมันก็ไม่สามารถไปเกิดได้จึงวนเวียนอยู่ในห้องนี้ ขณะเดียวกันมันก็สาปส่งเพชฌฆาตและทุกคนที่เข้ามาที่นี่ แต่ก็มีนักบวชผู้หนึ่งเดินทางผ่านมาและสะกดเหล่าวิญญาณโสมมไว้ในผนังห้อง ทว่าความแค้นของมันหาได้สิ้นสุดลง...เมื่อมันไม่สามารถสาปแช่งคนอื่นได้อีกต่อไป มันจึงเปลี่ยนร่างวิญญาณของมันให้กลายเป็นเลือดชโลมผนังจนไม่เหลือสีเดิมให้เห็น เพื่อย้ำเตือนถึงการมีอยู่ของพวกมัน”เฮล ฮินเดนเบิร์ก บรรณารักษ์ของหอแปดธาตุเอ่ยขึ้น นัยน์ตาสีดำเหมือนเหยี่ยวมองดูอาจารย์สาธิตการโจมตีต่อเนื่องอย่างเบื่อหน่าย เขาเกลียดการใช้กำลังแต่ชอบใช้สมองมากกว่า ซึ่งเหตุผลข้อนี้เองที่ทำให้เขามักไปหมกตัวอยู่แต่ในห้องสมุด
“ฉันของอาสาสมัครสัก 2 คน! ออกมาแสดงกระบวนท่าที่ฉันสอนไปเมื่อสักครู่”เสียงอาจารย์ทีอันม์ดังขึ้น พวกนักเรียนราว 30 กว่าคนหันซ้ายหันขวามองหน้ากัน พลางขอให้ใครสักคนออกไปเพียงแค่ขอให้คนๆ นั้นไม่ใช่ตัวเอง ปกติถ้าพวกผู้บริหารอยู่จะมีสักคนที่อาสายืนขึ้นโดยสมัครใจ แต่วันนี้มีผู้บริหารเหลืออยู่แค่สองคนเพื่อนร่วมห้องคนอื่นจึงพุ่งเป้าไปที่เจ้าสองคนที่นั่งเป็นหุ่นไล่กาอยู่
“ผมเองครับ!”ทริดยืนขึ้นรับอาสา แต่เทรนยังนั่งทำหน้าซื่อต่อไปอย่างไร้มลทิน
“ขอบคุณ เจ้าชาย”หล่อนพูดอย่างนอบน้อม
“มีใครอาสาอีกมั๊ย? ถ้าไม่ฉันจะเป็นคนเลือกเอง”ประโยคนี้กลับมาพูดด้วยน้ำเสียงปกติ ดูเหมือนว่าจะมีเพื่อนร่วมห้องอยู่ไม่น้อยที่อยากประลองฝีมือกับพวกผู้บริหารสักตั้ง แถมทริดก็ยังมีตำแหน่งเป็นเจ้าชายแห่งฟรอนโตร่าอีกด้วย ลองคิดดูเถอะถ้าชนะเจ้าชายจะมีชื่อเสียงขนาดไหน...
“ผมขออาสาครับ”เสียงเฮลที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยขึ้น เสียงปรบมือจากทั่วทุกสารทิศดังขึ้นอย่างคาดไม่ถึง เขาเองก็ไม่ค่อยอยากจะออกมานักหรอกแต่ไอ้พวกนั้นมันกรอกหูทั้ง ชื่อเสียง ทั้งเกียรติยศ และการประลองที่หาได้ยากอย่างวันนี้ ตัวเขาเองก็ไม่ได้สนใจที่เพื่อนมันเสนอหรอก แต่เฮลยังไม่เคยได้ยินความเก่งกาจของเจ้าชายแห่งฟรอนโตร่าเลยสักครั้งเลยอยากเก็บข้อมูลก็เท่านั้น
“เฮล...ถ้าฉันชนะนายต้องเลี้ยงโกโก้ฉัน 3 แก้วโอเคมั๊ย”ทริดยื่นของเสนอให้เฮลด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ตกลง”เฮล รู้สึกอารมณ์เสียเมื่อเห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของทริด แต่เขาก็ยังคงรักษาสีหน้าได้อย่างแนบเนียน
ทริดชักดาบสั้นออกมาจากฝักและใช้พลังสั่งให้มันยาวขึ้นเท่าดาบปกติ เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมและขู่คู่ต่อสู้ไปในตัว เฮลมองดาบของทริดอยู่สักพักแล้วจึงยื่นข้อเสนอว่า
“ถ้าฉันชนะนายต้องให้ดาบของนายกับฉัน ตกลงมั๊ยเจ้าชาย?”เฮลพูดเน้นที่ละคำ และจงใจกดเสียงหนักๆ ลงที่คำว่าให้
“ได้สิ! ถ้าชนะล่ะก็นะ”นิสัยเดิมของเจ้าชายเริ่มออกอาการอีกครั้ง เขายังคงยิ้มไม่มีอาการกลัวว่าจะต้องให้ของรักของหวงแก่อีกฝ่าย ฝ่ายคู่ต่อสู้เองก็ชักดาบยาวประดับด้วยคริสตัลสีน้ำเงินตรงกลางออกมาถือทั้งสองมือ
“เตรียมตัว! ระวัง! เริ่มได้!”เมื่อเสียงสัญญาณสิ้นสุดลง ดาบทั้งสองก็พุ่งเข้าปะทะกันด้วยความแรงไม่น้อยหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างก็เสมอกันไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร
แม้ว่าแรงของทั้งสองคนจะเสมอกัน แต่ความเร็วของทริดนั้นเหนือกว่ามากประธานสภาโกโก้ผลักดาบให้เฮลกระเด็นถอยไปก้าวหนึ่งแล้วอาศัยช่วงที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวกระโดดเข้าปะทะจากด้านบนใช้ทั้งน้ำหนักตัวและแรงดาบกดเฮลที่ยกดาบขึ้นรับแทบไม่ทัน พอเจ้าตัวดีเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มอ่อนแรงก็กระโดดเข้าปะทะจากด้านบนอีกครั้ง เฮลยกดาบขึ้นรับอย่างรวดเร็วแต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะอ่านการโจมตีของเขาออกทริดก็กระโดดตัวลอยอีกครั้ง เฮลรู้ทันรีบกระโดดขึ้นรับดาบของทริด ทว่าผิดคาดทริดกลับลงสู่พื้นแล้ววิ่งอ้อมหลังมาเตะเอาดื้อๆ เฮลล้มหน้าคว่ำลงกับพื้น เพื่อนๆ ตบมือพอเป็นมรรยาทแล้วทั้งสองก็เดินมาจับมือกันเป็นอันจบพิธี แต่ก่อนที่ทริดจะกลับไปนั่งที่ก็มีเสียงประกาศดังขึ้นซะก่อน
“ขออภัยอาจารย์ทุกท่านค่ะ เจ้าชายเทรด ฟอเรติเนีย คุณเทรน เมนยาร์ดปีสองพบรองผู้อำนวยการที่ห้องประชุมสภาผู้บริหารนักเรียนชั้นปีที่สองในเวลานี้ด้วยค่ะ”เสียงประกาศเรียกตัวทริดสร้างความฉงนให้เจ้าตัวเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายก็ขออนุญาตอาจารย์ทีอันม์ออกไปพร้อมกับเทรนทันทีที่ฟังประกาศจบ ทริดโผล่หัวเข้ามาในห้องอีกครั้งพลางตะโกนเรียกเฮล
“นายอย่าลืมสัญญานะ แต่ไม่เป็นไรฉันจะตามทวงเองจนกว่านายจะทำตามสัญญา!”แล้วรีบวิ่งตามเทรนออกไป เรียกเสียงฮาให้กับเพื่อนในห้องยกเว้นคนโดนทวงสัญญาทั้งที่มันไม่เห็นมีอะไรน่าตลกตรงไหน
“มีเรื่องอะไรกันอีกเนี่ย?”ทริดหันไปถามเทรนที่เดินอยู่ข้างๆ
“เดี๋ยวไปก็รู้เอง”เทรนตอบกำปั้นทุบดิน ทริดมองหน้าเพื่อนผู้ไม่เคยรู้เรื่องอะไรกับเขาเลยแล้วถอนหายใจอย่างปลงตก
เมื่อทั้งสองมาถึงห้องประชุมก็พบว่าไลน์ มาร์ซาฟ กำลังนั่งรอพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว
“สวัสดีครับท่านรอง”ทั้งสองพูดพร้อมกัน
“ทริด เทรน”ชายหนุ่มเรียกชื่อทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความกดดัน
“พวกคุณคงจะรู้เรื่องงานในครั้งนี้แล้วใช่มั๊ย?”ไลน์ มองหน้าทั้งสองสลับกันไปมาจนทั้งสองเริ่มรู้สึกงง
“ครับ มีอะไรเหรอครับท่านรอง”ทริดเอ่ย
“ผมขอพูดในฐานะอาหลานละนะ”ไลน์ มาซาฟเอ่ยสีหน้าเคร่งเครียดไม่เหมือนตัวเขาที่ผ่านๆมา เทรนรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยกับคำว่าอาหลานดูเหมือนเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับเขามากเท่าไร
“การตามหาลอน่ามาเรียในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย พูดตามตรงผมไม่คิดว่าพวกเรโมสจะหาลอน่ามาเรียเจอ”ไลน์พูด ทริดกับเทรนไม่เคยคิดว่าไลน์จะพูดเหมือนคนขาดความมั่นใจมันออกจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เลยสำหรับคนอย่างไลน์
“พวกปีศาจคงไม่ยอมให้เราได้ตัวเธอมาง่ายๆ แน่นอนยกเว้นว่ามันจะมีเหตุผลอะไรซ่อนอยู่ การเดินทางครั้งนี้ต้องมีหลานไปด้วยทริด ไม่ว่าหลานจะพร้อมหรือไม่”ไลน์พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยเกินจะบรรยาย
“แต่ว่าถ้าให้ทริดไปในตอนนี้จะได้ประโยคอะไรขึ้นมาละครับท่านรอง ในเมื่อทริดน่ะยังทำใจไม่ได้ด้วยซ้ำท่านเองก็น่าจะทราบ”เทรนแย้งออกไปในทันที แต่ทริดก็หยุดเขาเอาด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ
“เทรน...ผิดแล้วล่ะเรื่องของลอน่าน่ะฉันทำใจได้ตั้งนานแล้ว”ทั้งเทรนและไลน์หันมามองหน้าทริดอย่างตกใจในคำพูดของเขา และยิ่งตกใจเมื่อได้ยินประโยคต่อไป
“ถ้าท่านรองไม่เรียกผมมาพูดเรื่องนี้ ผมว่าจะแอบไปช่วยลอน่าด้วยตัวเองอยู่แล้ว ผม...ผมไม่อยากเห็นลอน่าหายไปเหมือนคราวที่แล้วอีกโดยที่ผมช่วยอะไรไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมมีโอกาสได้ช่วยน้องสาวของผม ไม่ว่าใครจะว่ายังไงผมก็จะไปช่วยเธอครับ!”หลังจากที่ทริดพูดจบทั้งสองก็ได้รู้ว่าทริดนั้นได้โตขึ้นมาอีกขั้นแล้ว แต่ใครจะรู้ว่าตั้งแต่ทริดได้รู้ความจริงเขาได้เตรียมแผนการนี้มาตั้งนาน พร้อมทั้งพัฒนาฝีมือของตัวเองขึ้นทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยเหลือน้องสาวของเขาจากเงื้อมมือของปีศาจ เขาซ่อนพัฒนาการนั้นไว้ภายใต้หน้ากากที่แสนร่าเริงแจ่มใสเหมือนทริดคนเก่า
“ผมติดต่อไปบอกเรโมสให้รอพวกคุณอยู่ที่ชายแดนทางทิศเหนือของฟรอนโตร่าแล้ว ผมให้เวลาเตรียมตัวจนถึง 5 โมงเย็นวันนี้แล้วไปเจอกันที่ ประตูโรงเรียน ขอให้พวกคุณโชคดี”ไลน์ ปล่อยวางเรื่องทั้งหมดลงไปได้มากเมื่อได้เห็นความตั้งใจของหลานชาย ส่วนเทรนนั้นยิ่งด่าตัวเองว่าโง่ชะมัดที่หลงคิดว่ามันเป็นพวกเดียวกับที่อินกอทเล่า คนบ้าดีเดือดอย่างนี้เนี่ยนะจะฆ่าตัวตาย!
ความคิดเห็น