คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 ประชุม+โต้แย้ง
“แต่ฉันมีเรื่องสงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง”ทุกคนหันไปมองต้นเสียงซึ่งก็คือเฮลเธอร์ที่นั่งอยู่ข้างเทรน
“เชิญ”เฟรย์เอ่ยพลางพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
“ทำไมพวกคิงทั้งหลายถึงเจาะจงว่าจะต้องเป็นพวกเราปี 2 ล่ะ ทั้งที่พวกมืออาชีพก็มีถมไป” เขาถามออกไปเพื่อให้ใครสักคนช่วยตอบให้หายข้องใจ เฟาน์พยักหน้าเห็นด้วยกับเฮลเธอร์ตามเคยคู่นี้นับวันยิ่งเหมือนกันไปหมด
“ไอ้หัวแดงแกคิดว่าความสามารถของพวกเรามีไม่พอรึไง!?”ซางฮีที่นั่งเงียบมาตลอดพูดขึ้นด้วยแววตาน่ากลัวสำหรับบางคน หากแต่คนๆนั้นไม่ใช่เฮลเธอร์
“ถ้าฉันคิดอย่างนั้นก็หมายถึงแกคนเดียวนั่นแหล่ะ!”เฮลเธอร์สวนกลับด้วยน้ำเสียงตะคอกพลางทำท่าจะลุกไปหาเรื่องซางฮีที่นั่งฝั่งตรงข้ามติดกับรีไนล์
“ซางฮีเขาไม่ได้หมายถึงอย่างนั้นหรอกค่ะ นั่งลงเถอะซางฮี”รีไนล์ดึงแขนซางฮีให้นั่งลง ในขณะเดียวกันเทรนก็ดึงเฮลเธอร์ให้นั่งลงที่เดิมพลางกระซิบเบาๆ ว่า
“ถ้าเจ้าอยากมีเรื่องกับมันก็เอาดิข้าจะช่วยเอง แต่ไม่ใช่ในห้องนี้”
“กลับมาประเด็นเดิมที่เฮลเธอร์ถามก่อนละกันนะครับ”เจฟฟี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่พวหเขาจะประชุมโดยไม่มีการทะเลาะเกิดขึ้น
“ที่เขาไม่จ้างพวกมืออาชีพไปก็เพราะความไม่ไว้ใจไงละครับ พวกนั้นแค่มีเงินมากๆ มาล่อก็หักหลังพวกเดียวกันได้ และเหตุผลสำคัญที่เขาเจาะจงปีสองก็เพราะในหมู่พวกเรามีรัชทายาทของทั้งสามประเทศอยู่ไงล่ะครับ งานนี้เป็นงานสำคัญมากๆ เขาจึงตัดสินใจเลือกคนที่ไว้วางใจมากกว่าจะวัดกันที่ฝีมือ”เจฟอธิบายเหมือนตัวเองกลายเป็นคนออกคำสั่งซะเอง เขาได้จุดเทียนในห้องมืดทำให้เพื่อนๆ เริ่มหายงง
“เรโมสที่เหลือฝากด้วยนะ”เฟรย์ลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องทันทีพร้อมกับฟาเรียร์กับเจฟฟี่โดยไม่รอให้เรโมสรับปากหรือแสดงอาการว่ารับรู้แล้ว เหมือนกับว่าเขาต้องรีบไปทำบางอย่างที่สำคัญมากกว่าการตามหาตัวเจ้าหญิง
เจ้าชายผมเงินยืนขึ้นเพื่ออธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม แต่เทรนก็พูดขัดขึ้นมาก่อน
“เรโมส นายจะให้ทริดมันอยู่เฉยๆ ที่นี่รึไง?”เทรนกล่าวพลางจ้องหน้าเรโมสเพื่อหาคำตอบ เจ้าชายแห่งโรมิวลูสวางกระดาษที่เต็มไปด้วยตัวหนังสือลงบนโต๊ะแล้วหันมาเผชิญหน้ากับเทรนตรงๆ
“มันก็ดีกับทริดไม่ใช่เหรอ หมอนั่นยังไม่พร้อมสำหรับงานครั้งนี้ อีกอย่างฉันเองก็ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจว่าจะให้ใครเข้าร่วมทีมในครั้งนี้”เรโมสใช้เหตุผลมาพูด เขาเองก็ไม่คิดหรอกว่าลิงจะฟังเหตุผลเป็น
“
”เทรนเงียบไป ในเมื่อสิ่งที่เรโมสพูดออกมาเมื่อกี้นี้ล้วนจริงทั้งสิ้นทริดในตอนนี้ก็เป็นเหมือนตุ๊กตา แม้หน้าตาจะยิ้มแย้มแต่ภายในกลับอาการหนักจนน่าเป็นห่วง
“ทริดไม่ใช่คนอ่อนแอหรอกค่ะ เขาเพียงแค่กำลังเศร้าสิ่งที่พวกเราทำได้ก็มีเพียงแค่รอ...รอให้เขากลับมาเป็นเหมือนเดิม”เสียงหวานจากคู่หมั้นของนายทริด เดอ ลาอู ดังขึ้นแล้วก็ยิ้มให้เทรนและเรโมส
“นั่นสินะครับ...”โรเซ็ตยิ้ม นี่ถ้าแฟนคลับของเขาอยู่ในกลุ่มด้วยละก็.....
“...ฉันเคยอ่านเจออาการอย่างเดียวกันกับทริด มันเป็นหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาขั้นสูง หน้า 215 ย่อหน้าที่ 3 จากการสำรวจปรากฏว่า ผู้ป่วยทางจิตจำพวกนี้ในตอนแรกจะไม่ค่อยมีอาการให้เห็น สุดท้ายก็ฆ่าตัวตายจากบาดแผลในอดีต...”อินกอทชายหนุ่มผู้สามารถทำลายบรรยากาศอันสวยงามให้พังราบไปอย่างง่ายดายเอ่ยขึ้น ทุกคนล้วนเงียบและเปลี่ยนหัวข้อจาก ‘ลู่ทางเพื่อนำตัวเจ้าหญิงกลับมา’เป็น ‘ประชุมรักษาโรคใจของเจ้าชาย’แทน...
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ที่พักของเหล่าสภาชั้นปีที่สอง ทุกคนได้ทยอยลงมาจากห้องพักยกเว้นเหล่าคณะเดินทางที่ต้องไปปฏิบัติภารกิจที่นำโดยหัวหน้าคือเรโมสที่ออกเดินทางไปตั้งแต่รุ่งสร่าง
ห้องพักของเหล่าสมาชิกสภาเป็นห้องขนาดกำลังดีไม่เล็กเท่ารูหนู และไม่ใหญ่เท่าเรือรบ ภายในห้องจะมีข้าวของเครื่องใช้ที่โรงเรียนจัดไว้ให้แล้วอยู่ 4 เพียงอย่าง อย่างแรกเป็นตู้เสื้อผ้าธรรมดาๆ ที่ทำจากไม้เนื้อแข็งสีเข้มภายในจะมีชุดของสมาชิกสภาเวลาออกงานสำคัญๆ แถมให้ด้วย อย่างที่ 2 กระจก แต่ออกจะเป็นกระจกที่พิสดารนิดหน่อยคือ มันจะสะท้อนแต่ภาพด้านหลังแทนที่จะเป็นด้านหน้า...
อย่างที่ 3 แปลกประหลาดที่สุด คือ โต๊ะเขียนหนังสือมันไม่ใช่แค่โต๊ะ แต่ยังทำหน้าที่ได้หลายต่อหลายอย่างทั้งไปรษณีย์ ที่อัดเสียง แล้วยังเป็นเพื่อนคุยยามเหงา แถมบางทียังทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงอีกต่างหากจะพูดง่ายๆ ก็ ‘โต๊ะพูดได้นั่นแหล่ะ’จากที่ทริดเคยถามมันว่าทำไมมันถึงพูดได้ มันก็แนะนำตัวว่ามันชื่อดอนเน่ก่อนจะตอบว่าเป็นผลจากการลงอาคมเล่นๆ ก็เจ้านายคนก่อนมันก็เลยพูดได้อย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ แต่พอถามว่าเจ้านายคนก่อนที่ว่าเป็นใครมันก็มักจะแกล้งหลับเอาดื้อๆ ไม่พูดไม่จาจนกว่าจะแน่ใจว่าคนถามลืมไปแล้ว...
อย่างสุดท้ายก็คือเตียงนอนรูปร่างเหมือนฟัน ทริดเลยเรียกมันว่าเตียงฟันกระต่าย แต่ละเตียงจะห่างกันเหมือนร่องฟัน แล้วยังจัดเรียงเหมือนฟันกระต่าย 2 ซี่(เตียงใหญ่ 2 เตียง) ตรงกลาง ซี่ถัดจากฟันกระต่ายทั้งสองข้างเล็กกว่าเล็กน้อย ห้องๆ หนึ่งนอนได้ 4 คน ของทั้งหมดที่โรงเรียนจัดไว้ให้จึงมี 4 อย่างต่อคน ส่วนโต๊ะพูดได้นั้นอยู่ในอาณัติของเจ้าทริดไปเรียบร้อยโดยไม่มีใครอยากแย่ง เพราะว่ามัน...พูดมาก
สมาชิกในห้องมี ทริดแน่ละ เรโมส โรเซ็ต และเวนเฮล ในตอนแรกดอนเน่เคยเป็นของเรโมสมาก่อนที่เรโมสจะเป็นรองประธานเขามักจะจึงขอให้มันอยู่เงียบๆ แต่ดอนเน่ดันบ่นในขณะที่เจ้าชายผมเงินแววตาเหมือนมีด(โต๊ะเรียก)กำลังเขียนเรียงความที่ต้องใช้สมาธิอย่างสูงเลยโดนสาปให้แข็งเป็นโต๊ะหิน ตั้งแต่นั้นมันก็ไม่คิดจะพูดให้เรโมสได้ยินอีกเลย พอปีหนึ่งเทอม 2 ดอนเน่ก็ขอเรโมสเปลี่ยนไปอยู่กับเวนเฮลแทน แต่เจ้านี่ยิ่งกว่าเรโมสเวนเฮลมีนิสัยเสียอยู่อย่างที่ทริดเพิ่งจะมารู้ เขาชอบปักรูปโจรค่าหัวสูงๆไว้บนโต๊ะ ไอ้ที่ใช้ปักก็คือมีดสั้นเจ้าโต๊ะเลยต้องระหกระเหินไปอยู่กับโรเซ็ต มันคิดว่าเจ้านายคนนี้ดีที่สุดแล้ว นิสัยก็ดี หน้าตาก็ดี พอย้ายมาอยู่ด้วยอะไรๆ ก็ดี จนดีเกินไปมันเลยไม่ได้หยุดพักทั้งวันเพราะต้องรับทั้งจดหมายและของขวัญจากแฟนๆ ผู้คลั่งไคล้ดาราทั้งวัน.... ท้ายที่สุดทริดจึงอาสารับมันไปอยู่ด้วยทั้งโต๊ะทั้งเจ้านายต่างก็พูดมากทั้งสองคนจนเพื่อนคนอื่นเริ่มรำคาญ เรื่องอันน่าเศร้าของดอนเน่เลยจบลงอย่างมีความสุขด้วยประการฉะนี้
“นายต้องไปกับเขาด้วยไม่ใช่เหรอเทรน ทำไมนายถึงมานั่งกินแซนวิสอยู่นี่ได้ฟะเนี่ย!”เสียงทักยามเช้าจากเจ้าชายตัวแสบ ทริดถามทันทีที่เขาลงมาเห็นหน้าเทรน
“ฮ้าฮีฮานฮ้องฮำฮี่ฮี่”แปล ‘ข้ามีงานที่ต้องทำที่นี่’เทรนพูดทั้งที่แซนวิสยังเต็มปาก มีแต่คนที่มีนิสัยคล้ายกีนเท่านั้นที่จะฟังออก
“งานอะไรของนาย ที่แท้คงกลัวจนไม่กล้าไปอะดิ แหม!แกนี่..ขี้ขลาดชะมัด แล้วแฝดผู้น้องแกไปไหนวะ ไม่ยักเห็น”แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือนายทริด
“แกมันปากพล่อย รู้งี้ข้าไม่มาอยู่เป็นเพื่อน......”เทรนเพิ่งรู้ตัวว่าเกือบพูดเหตุผลบ้าๆ ที่เขายอมอยู่นี้เป็นเพื่อนเจ้าทริดเพราะกลัวมันฆ่าตัวตายออกไป เขารีบเปลี่ยนท่าทีเป็นยัดแซนวิสใส่ปากจะได้ไม่ต้องพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปอีกเลย..
ความคิดเห็น