ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Mission 1 {-NIGHTMARE-}
“พ่อฮะ แม่ฮะ ทุกคน!”
“มีใครอยู่บ้าง ตอบหน่อยสิฮะ”
“พี่ฮะ......”
เสียงนี้อีกแล้ว....เด็กคนนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เจอใครซักคนที่เขากำลังตามหา ความฝันเรื่องเดิมตั้งแต่ตอนที่ฉันยังเป็นเด็กทั้งที่ไม่ได้ฝันถึงเด็กผู้ชายคนนี้มานานมากแล้ว ทำไมเราถึงได้ฝันถึงเขาอีกนะ
“พ่อ แม่!!!” เด็กคนนั้นร้องเรียกบุคคลอันเป็นที่รักของตนสุดเสียง แต่...เมื่อไรที่ฉันเห็นภาพเด็กคนนี้ในความฝันไม่มีเลยซักครั้งที่มันจะเป็นฝันดี และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน
เด็กชายเดินไปพลางตะโกนเรียกชื่อสมาชิกในครอบครัวซ้ำไปมา เขาเดินต่อไป แล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดพัก ขาเล็กๆที่ดูผอมบางคู่นั้นยังคงก้าวต่อไปข้างหน้าก่อนจะเซถลาล้มลง ภาพเหล่านี้ชวนให้ฉันที่เฝ้ามองอยู่เฉยๆ อดรู้สึกสงสารไม่ได้ รอบๆตัวของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความมืด มีแต่เพียงเขาเท่านั้นที่ดูเด่นออกมาจากความมืดที่ชวนให้หดหู่นี้ ดวงตาสีแดงดั่งเลือดคู่นั้นฉายประกายแห่งความหวัง เขาใช้มือทั้งสองข้างช่วยดันร่างผอมบางของตนขึ้นจากพื้น
แทบจะในทันทีที่เด็กชายลุกขึ้นยืนได้สำเร็จแสงสว่างก็แทรกเข้ามาตรงรอยแยกของมิติแห่งความมืดนี้ นัยต์ตาสีแดงจ้องมองแสงนั้นก่อนจะเผยยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก นี่สินะตอนจบของความฝันในที่สุดเขาก็ได้พบกับทางออกจากฝันร้ายในครั้งนี้ เด็กชายออกแรงวิ่งสุดกำลังความอิดโรยได้เลือนหายไปจากดวงตาคู่นั้น ความหวังเริ่มเข้ามาแทนที่อีกครั้ง แต่....ความรู้สึกแปลกๆนี่คืออะไรกัน?
อันตราย อย่าไปทางนั้นซาร์ต!!!
ซาร์ตตต! ซาร์ตตตตตตต!
เสียงผู้หญิงดังก้องอยู่ในหัวของฉัน เธอทั้งกรีดร้องทั้งเรียกชื่อของเด็กชายเพื่อดึงไม่ให้เขาวิ่งเข้าไปที่แสงสว่างนั้น แต่มันสายเกินไปแล้วเด็กชายได้ก้าวเข้าไปในแสงสว่างนั้นโดยไม่ลังเลราวกับว่าเขาไม่ได้ยินเสียงของผู้หญิงที่กำลังตะโกนเรียกชื่อของเขาอย่างสุดกำลัง น่าแปลกที่ฉันไม่สามารถมองเห็นผู้หญิงคนนี้ได้มีแต่เสียงของเธอเท่านั้นที่ส่งมาถึงฉัน
ได้โปรดอย่าทำร้ายเขาอีกเลย! เขาฝันร้ายมามากเกินพอแล้ว!!!
เธอเปล่งน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกขอร้องและโกรธแค้นไปพร้อมๆกัน
แล้วทรรศนะวิสัยก็มืดลงอีกครั้ง ตอนนี้ฉันมองไม่เห็นแล้วก็ไม่ได้ยินเสียงของเธอคนนั้นอีกแล้ว ทุกอย่างกลับสู่ความว่างเปล่าอีกครั้ง
“...ที่นี่...”เสียงของเด็กชายดังขึ้นอีกครั้ง
คราวนี้ภาพต่างๆ ค่อยๆ ปรากฎขึ้นช้าๆ ถึงแม้ว่าฉันจะมองเห็นไม่ค่อยชัดนัก แต่ก็พอจะบอกได้ว่าเขากำลังยืนอยู่หน้าประตูรูปร่างแปลกๆ บานหนึ่งพอมาถึงตรงนี้ภาพที่ฉันมองเห็นก็เริ่มเลือนลางเหมือนมีคลื่นรบกวน แต่ว่าคลื่นรบกวนในความฝันเนี่ยนะ ฉันคิดก่อนจะรีบมุ่งความสนใจกลับไปที่เด็กคนนั้นอีกครั้ง เขากำลังกำลูกบิดประตูแน่นเหมือนกับกำลังช่างใจ
แล้วฉันก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่แผ่ออกมาจากประตูบานนั้น ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรแต่มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
อย่าเปิดมันนะ!!!
ฉันร้องห้าม น่าแปลกแต่เหมือนกับว่าเขาจะได้ยินเสียงของฉัน
“เธอเป็นใครน่ะ!? มีคนอื่นอยู่ที่นี่นอกจากฉันงั้นเหรอ?”เด็กชายชักมือกลับ แล้วหันไปรอบๆ แต่เขาก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่พบใครเลย
ฉันจะเป็นใครไม่สำคัญ แต่ว่าเธอน่ะไม่ได้อยู่คนเดียวนะ
รอก่อนนะ ฉันจะ...ไปหาเธอเอง
“มาหาผมงั้นเหรอ?”เขาพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ค่อยมั่นใจ เขานิ่งไปสักพักก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วอยู่ๆ ฉันก็เหมือนจะเห็นเงาของใครบางคนซ้อนทับกับเด็กคนนี้
ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร ไม่ว่าเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ผมจะรออยู่ที่นี่ จนกระทั่งวันที่เราจะได้พบกัน...อีกครั้ง...
เสียงห้าวทอดเสียงอย่างนุ่มนวล เสียงของใครกันไม่ใช่เสียงของเด็กคนนี้นี่...
ชั่ววินาทีที่น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปฉันกลับรู้คุ้นเคยกับมันอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าฉันกำลังคิดถึงเสียงของเขาทั้งที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร น่าแปลกที่ฉันรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เข้าใจความหมายของมันเลย....ไม่ว่าจะคำพูดของเขาหรือเหตุผลที่น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด...ทุกอย่างล้วนเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจทั้งสิ้น
“คุณหนู! คุณหนู! เป็นอะไรไปครับ”
ใครกันมาเรียกฉันว่าคุณหนู ตอนนี้ชักจะสับสนไปหมดแล้วว่าอันไหนคือความฝันอันไหนคือความจริง
“ลืมตาสิครับ!!!”
“นายเป็นใครน่ะ!”ฉันตะโกนออกไป ก่อนจะค่อยๆหรี่ตาเพราะแสงสว่างของพระอาทิตย์ยามเช้า
“ผมก็สเวนนนไงครับคุณหนู จำผมไม่ได้จริงๆ เหรอครับ!?”เค้าออกเสียงชื่อตัวเองเสียงยาน เมื่อตาเริ่มจะชินกับแสงฉันก็ค่อยๆ มองไปรอบๆ เหมือนจะมีอะไรบางอย่างพุ่งตรงมาแล้วก็
ปึก!
“อะไรน่ะ!!!!!”คุณพ่อบ้านสเวนทำท่าจะกระโดดเข้ามากัน แต่โชคดีที่อะไรบางอย่างนั้นถูกใครอีกคนขว้าเอาไว้ได้ทัน
“คุณหนูคานนเล่นแบบนี้อันตรายนะครับ”ผู้ชายผิวซีดที่เข้ามาในห้องนอนของเธอตอนไหนไม่ทราบพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจพลางขยับแว่นของตนให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะส่งปิ่นปักผมอันใหญ่ที่ปักด้วยกระดิ่งลมสีฟ้าใสคืนให้เจ้าของ
ฉันหันไปมองของกลางในมือของคัลวิกหัวหน้าพ่อบ้านที่คอยดูแลเรื่องต่างๆ ในบ้าน แล้วหันไปดุเพื่อนสมัยเด็กของฉัน
“เธอคืดจะฆ่าฉันรึไง”
“ขอโทษน้าเรน คานนไม่ได้ตั้งใจอย่างโกรธคานนเลยนะ”เอาอีกแล้วนิสัยเสียของยัยนี่ ถ้าไม่ได้ตั้งใจแล้วจิตสังหารเมื่อกี้มันอะไรกันย่ะ
“นี่เรนค่ะ ทำไมคนรับใช้ของเธอถึงได้ดูไม่เรียบร้อยยังงี้ล่ะค่ะ รีนเห็นแล้วไม่ปลื้ม! น่าจับไปร้านตัดผมของท่านหญิงแม่ของรีนที่แพรีส”แล้วไอ้ลิปสติกสีม่วงอมน้ำเงิน ผมดำโกลกสีแดงเป็นย่อมๆ เปลือกตาทาอายแชโดว์สีน้ำเงินฟ้า สีเดียวกับนัยต์แถมยังใส่เสื้อสีดำทำด้วยผ้าลูกไม้ กับปกเสื้อที่จงใจให้ตั้งขึ้น แล้วยังเสื้อคอวีผ่าลงไปถึงบริเวณเหนือสะดือนั่นอีก อ๊ะ...ปลายเสื้อก็เป็นตูดตั๊กแตน กางขากระดิ่ง ดูยังไงเซนส์ยัยนี่ต่างหากที่ผิดปรกติ
“อืมแปลก...”เรน(ฉันเอง)ก็มองหน้าคนรับใช้สองคนที่เอาแต่ยืนแข็งเป็นตอไม้ข้างเตียงสลับกับเพื่อนสาวทั้งสอง?
แต่ว่าทางฝ่ายเราก็ทรงผมแปลกจริงๆ ด้วยคัลวิกแค่ผมรุ่ยร่ายน่ารำคาญแต่ก็พอรับไหว แต่ว่าสเวนนนี่(ขนาดในความคิดยังลากเสียงยาว)
“สเวนไม่คิดจะตัดหน้าม้าบ้างเหรอ”ฉันพูดพลางชี้หน้าม้าของตัวเองที่ความยาวเท่ากันทุกเส้นแต่ไม่ยาวจนปิดตาเหมือนของสเวนนน
“ผมก็ว่ามันยาวไปนะครับ”คัลวิกพูดพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วยเต็มที่
“เห็นมั้ย!”
“อืมๆ”
ทั้งสอง? สาวพากันสนับสนุนเต็มที่จนเจ้าตัวที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาเริ่มจะขาดความมั่นใจ
“ถ้าทุกคนอยากให้ตัดผมก็จะตัดครับ”สเวนก้มหน้าพูดเสียงอ่อยแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง
“ถ้านายไม่อยากตัดก็ไม่เป็นไรหรอก ฉันแค่พูดลอยๆ”เรนพูดสีหน้าเฉยเมย
“แต่ว่าถ้าทุกคนต้องการผมตัดก็ได้นะครับ”สเวนเงยหน้าขึ้นมาสบตาทุกคนพลางกำมือแล้วมองขึ้นไปบนฟ้าอย่างมุ่งมั่น
“เอาน่าๆ ผมผิดเองล่ะที่ทำให้นายไม่สบายใจแบบนี้ เอาเป็นว่าถ้าเจ้าตัวสบายใจก็เอาไว้เถอะครับ นี่ก็ใกล้เวลาที่นัดกับคุณลูกค้าไว้แล้วด้วยทุกคนไปเตรียมตัวได้แล้วล่ะครับ”
“ลูกค้าเหรอ? คราวนี้จะเป็นเรื่องแบบไหนกันนะเรน คานนอยากเจอคุณลูกค้าเร็วๆ จัง”
“ฮึ! หวังว่าจะไม่ใช่ 'ได้โปรดช่วยหาตัวตนที่แท้จริงของยูเอฟโอให้หน่อยครับ' เหมือนคราวที่แล้วหรอกนะค่ะ ถ้าเคสนั้นล่ะก็รีนของตัว”เรซารีน บลันเดียร์ดัดเสียงแล้วเลียนแบบท่าทางอ้อนวอนของลูกค้าคนก่อนซะเหมือนจนน่าเตะ
“ฉันสังหรณ์ใจว่าคราวนี้งานของเราจะไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านๆ มาน่ะสิ”
“โอ๊ะ! ลางสังหรณ์ของคุณหนูงั้นเหรอครับ”สเวนทำหน้าตกใจ
“เอาน่าๆ คุณหนูยังมีพวกผมอยู่ด้วยนะครับ”หนุ่มแว่นพูดยิ้มๆ
To Be Continue....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น