คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : OH! My Sweet Boy Chapter 4 :: ก่อกวน
Chapter 4
...ก่อกวน...
“สวัสดีครับ พวกเรามาหาคยูฮยอนครับ” เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคมคายรูปร่างสูงโปร่งที่สุดในกลุ่มร้องตอบ
“เป็นเพื่อนของคยูฮยอนเหรอจ๊ะ?” ซอฮยอนถามเสียงใสพร้อมกับส่งยิ้มบางๆให้อย่างเป็นมิตร
“ครับ คยูฮยอนอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ?” เด็กหนุ่มคนเดิมเอ่ยถามต่อ
“ยะ..อยู่จ๊ะ เข้ามาข้างในกันก่อนไหม? ข้างนอกคงหนาวน่าดู เข้าบ้านก่อนเดี๋ยวพี่หาอะไรอุ่นๆให้ดื่ม”
“ขอบคุณครับพี่สาว”
“เรียกว่าพี่ซอฮยอนก็ได้จ๊ะ”
“ครับพี่ซอฮยอน ผมชิมชางมิน ส่วนไอ้ตัวเล็กเนี่ยชื่อคิมรยออุคครับ” เด็กที่ชื่อชางมินผายมือไปหาเด็กหนุ่มตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูไม่หยอก
“สวัสดีครับพี่ซอฮยอน” รยออุคทักทายด้วยรอยยิ้มก่อนจะโค้งให้เธอ
“ส่วนไอ้หล่อๆแก้มบวมๆเนี่ยมันชื่อคิมคิบอมครับ” คิบอมไม่ได้พูดอะไรแต่ก็โค้งให้อย่างมีมารยาท
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ไป เข้าบ้านกันเถอะ” ซอฮยอนเดินนำเด็กหนุ่มทั้งสามคนเข้ามาในบ้าน หลังจากพาไปนั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นซักพักร่างบางก็เดินกลับมาพร้อมกับนมอุ่นๆสามแก้ว
“คยูฮยอนอยู่บนห้องจะขึ้นไปหาเลยไหมจ๊ะ?”
“อ่าครับ ว่าแต่...” ชางมินทำท่าเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างแต่ก็พะว้าพะวงไม่กล้าถาม
“ชางมินมีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ?”
“พี่ซอฮยอนเป็นเพื่อนของพี่อาร่าใช่ไหมครับ?”
“ใช่จ๊ะ ทำไมเหรอ?”
“ที่นี่มีป้าอายุสามสิบกำลังจะขึ้นคานเพราะหาสามีไม่ได้ ใส่แว่นหน้าเต๊อะแต่งตัวเฉิ่มๆ ยิ้มแต่ละทีมีแต่รอยตีนกาไหมครับ?” พอชางมินพูดจบก็ถูกรยออุคถองใส่สีข้างเต็มๆจนร่างสูงโอดโอยกุมท้องตัวเองเป็นพัลวัน คิบอมก็ส่ายหน้าหน่ายเหม็นเบื่อความปากหมาของเพื่อนตัวเองสุดๆ
ส่วนซอฮยอนรู้สึกราวกับว่าตัวเองถูกตีแสกหน้าด้วยไม้หน้าสามจนมึนหัวไปหมด ตาฝาดเห็นว่ามีดาวนับสิบดวงวิ่งวนอยู่รอบๆหัวเหมือนในการ์ตูนก็ไม่ปาน
“ม..ไม่มีหรอกจ๊ะ บ้านนี้มีแค่พี่กับอาร่าเท่านั้นแหละที่อยู่”
“ห๊าาาา” ----------> ชิมชางมิน
“ซวยแล้ว” ----------> คิมรยออุค
“....................”----------> คิมคิบอม
“ว๊ากกก ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นเลยนะครับ พอดีว่าไอ้คยู...” ในขณะที่ชางมินกำลังแทบสำลักคำพูดมากมายของตัวเอง คิบอมที่นั่งเงียบมานานก็จัดการปิดปากเพื่อนสนิทเสีย แต่ชางมินก็ดื้อได้ใจ ดิ้นขลุกขลักไม่เลิกจนคิบอมขู่เสียงเย็นว่าให้เงียบ ชางมินถึงนั่งนิ่งตัวหงอเหมือนรถหมดถ่าน
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ” ซอฮยอนยิ้มเจื่อนๆ บรรยากาศดูแย่ลงไปถนัดตา
“แล้วนี่พี่อาร่าไม่อยู่เหรอครับ?” คิบอมแกล้งถามทั้งที่ตัวเองรู้มาจากคยูฮยอนแล้วว่าพี่อาร่าไปทำงานที่คังวอนโด
“ไม่อยู่หรอกจ๊ะ ไปคังวอนโดน่ะ”
“แบบนี้พวกเราคงมากวนแย่เลยนะครับ” รยออุคถามหน้าสลด ซอฮยอนจึงรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที
“ไม่หรอกจ๊ะ ไม่ได้กวนอะไรหรอก ไหนๆก็มากันถึงนี่แล้วอยู่ทานข้าวเย็นก่อนแล้วค่อยกลับนะ” ซอฮยอนชวน รยออุคดูจะกระตือรือร้นสุดๆเมื่อพูดเรื่องของกิน
“ว้าว ขอบคุณครับ”
“แต่ต้องรอหน่อยนะเพราะว่าพี่ยังไม่ได้ลงมือทำเลย ไปเล่นกับคยูฮยอนก่อนก็ได้จ๊ะ ถ้าทำเสร็จแล้วพี่จะขึ้นไปเรียก”
“ให้ผมช่วยนะครับ?” ดวงตากลมแป๋วของเด็กหนุ่มตัวน้อยมองจ้องเธออย่างมีความหวัง ซอฮยอนหัวเราะเบาๆกับท่าทางน่าเอ็นดูนั่น
“ช่วยหน่อยนะจ๊ะ” ร่างบางยิ้มหวานพร้อมกับลุกขึ้นเดินนำไปห้องครัว รยออุครีบวิ่งแจ้นตามไปด้วยความดี๊ด๊าสุดๆ ชางมินกับคิบอมรู้สึกเหมือนมีหางส่ายดิ๊กๆงอกออกมาจากกางเกงไอ้เด็กคนนั้น
“เอาอือออกอ้ายอัง?” (เอามือออกได้ยัง?)
“นึกว่าพิศวาสมากนักหรือไง?” คิบอมชักสีหน้ารังเกียจใส่ก่อนจะเช็ดมือตัวเองกับเสื้อนักเรียนของชางมิน ก็มีแต่คราบน้ำลายของมันเองนี่หว่า
“คิบอม ฉันว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลกๆว่ะ?”
“ฉันก็ว่างั้น”
“ทำไมไอ้ท่านโจวมันต้องโกหกเราด้วย? บอกว่าเพื่อนพี่สาวเป็นหญิงแก่ขี้บ่นกำลังจะขึ้นคาน ไหงกลับกลายมาเป็นสาวสวยเหมือนนางฟ้าแบบนี้ได้วะ?”
“มีเหตุผลไม่กี่อย่างหรอกที่ทำให้คนอย่างมันต้องโกหก”
“อะไรอ่ะ รู้อะไร บอกมั่งดิ๊”
“สู่รู้” คิบอมว่าก่อนจะลุกเดินหนีขึ้นบันไดไปหาไอ้ตัวต้นเรื่องทันที
“เฮ้ย ไอ้บวมรอด้วย!!”
…OH! My Sweet Boy…
‘ห้องของคิยู’
ชางมินกับคิบอมเกือบขาดใจตายเพราะหัวเราะมากเกินไปจนหายใจไม่ทัน เสียงหัวเราะดังลั่นบ้านแบบนั้นเรียกให้เจ้าของห้องเปิดประตูออกด้วยสีหน้าบึ้งตึง คยูฮยอนแทบช็อคเมื่อเห็นว่าเป็นใครมายืนเสล่ออยู่หน้าห้องของเขา
เย่-เข็ด
“สวัสดีน้องคิยู” ชางมินกลั้นขำเรียกชื่อเขาพร้อมกับยกมือขึ้นโบกนิดๆอย่างน่าหมั่นไส้
ชีวิตของท่านโจวคงจบแห่ลงตรงนี้แล้วซินะ
“มาได้ยังไง?” คยูฮยอนกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก เสียงที่เอ่ยถามก็แหบแห้งเต็มทน
“นั่งรถแท็กซี่ตามมา” คำตอบของคิบอมทำเอาคยูฮยอนอยากทิ้งดิ่งตัวเองลงสู่พื้นดินเสียเหลือเกิน แล้วเมื่อตอนเย็นปล่อยให้เขาวิ่งซอกแซกหลบหน้าระแวงหลังเหมือนหมาบ้านั้น
กูทำไปเพื่ออาร้ายยย?
ร่างสูงของเด็กหนุ่ม (ไม่ได้รับเชิญ) ทั้งสองผลักเจ้าของห้องให้ถอยห่างออกจากประตู ก่อนจะแทรกตัวผ่านเข้าไปด้านในทันที คยูฮยอนปิดประตูอย่างแรงเมื่อตั้งหลักได้ ล็อคกลอนอย่างแน่นหนา อย่างน้อยๆหากเกิดคดีอุกฉกรรจ์ขึ้นมาข้างในก็อย่าหวังว่าจะมีใครเล็ดรอดออกไปได้
“พวกแกสองคนมาที่นี่ทำไม?”
“ปล๊าวว ไม่ได้มากันสองคน ไอ้อุคอยู่กับพี่ซอฮยอนข้างล่าง”
แหม มาถึงไม่ทันเท่าไหร่เรียกซะสนิทสนมเชียวนะพวกเอ็ง
“อย่าบ่ายเบี่ยง ตอบมาตามตรงว่าพวกแกมาทำสันขวานอะไรที่นี่ เร็วๆอย่าให้ท่านโจวทรงกริ้วนะขอบอก” คยูฮยอนกอดอกฉับ หรี่ตามองเพื่อนทั้งสองอย่างจับสังเกต อย่าได้คิดโกหกคนอย่างโจวคยูฮยอนเชียว
“เพื่อนอยากมาหาเฉยๆไม่ได้หรือไงครับ”
“อย่ามาตอแหลไอ้โย่ง แกกับฉันรู้จักกันหมดไส้หมดพุงอยู่แล้ว ถ้าฉันเชื่อแกก็คงต้องหาฟางมากินแทนข้าวแล้วล่ะ”
“โห่ ท่านโจวครับ หัดมองเพื่อนในแง่ดีซะบ้างเซ่”
“บอกมา!!”
“อยากเห็นหน้าเพื่อนพี่อาร่า”
ไอ้คนที่ยืนเงียบแบบเสมอต้นเสมอปลายเอ่ยขึ้นมากลางอากาศเหมือนพูดลอยๆกับตัวเอง คยูฮยอนถลึงตาใส่อย่างเอาเรื่องแต่แทนที่คิบอมจะหวั่นเกรง เขากลับไหวไหล่อย่างไม่แคร์ก่อนจะโยกย้ายตัวเองไปนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ไอ้เจ้าของห้องเล่นเกมส์สตาร์คาร์ฟค้างเอาไว้
“แกจะอยากเห็นทำไม”
“ก็แค่อยากรู้ว่าจะมีคนรูปร่างหน้าตาเหมือนอย่างที่แกพูดอยู่จริงๆไหมเท่านั้นแหละ” คิบอมตอบโดยไม่หันกลับมามองคยูฮยอนที่ยืนเดือดเป็นไฟอยู่ข้างหลัง
“เห็นแล้วก็กลับไปซะซิ”
“แกมันเด็กเลี้ยงแกะ”
“วะ..ว่าไงนะคิมคิบอม!!!” คยูฮยอนขึ้นเสียงใส่ด้วยความลืมตัว ชางมินที่ยืนอยู่ใกล้ๆรีบเข้ามาปิดปากเขาไว้อย่างรวดเร็ว ปกติก็พูดคุยกันแบบนี้อยู่แล้วจนเป็นเรื่องธรรมดาแต่ชางมินเห็นว่ามันไม่ได้มีความเป็นส่วนตัวถึงขนาดที่พวกเขาจะบวกกันในบ้านหลังนี้ บ้านที่มีพี่นางฟ้าซอฮยอนคนสวยเป็นเจ้าของ
“หรือไม่จริง?”
หน็อย...
“แกกำลังปิดบังอะไรพวกฉันอยู่ ถึงได้โกหกเรื่องพี่ซอฮยอนขึ้นมา” คิบอมค่อยๆหันหน้าออกจากจอคอมพ์ช้าๆ ริมฝีปากหยักได้รูปเหยียดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่คยูฮยอนเห็นแล้วหงุดหงิดดีเป็นบ้า
“ฉันแค่ไม่อยากให้พวกแกมาวุ่นวายที่นี่เท่านั้นแหละ ก็ถ้าพวกแกรู้..พวกแกก็จะเป็นแบบนี้ไง ฉันถึงได้ไม่อยากบอก” คยูฮยอนแกะมือกาวของชางมินออกจากปากของตัวเอง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูจองหองดีพิลึกจนคนฟังอดหมั่นหน้ามันไม่ได้
“งั้นเหรอ?”
“ก็เออดิวะ”
“งั้นก็แย่หน่อยนะที่พวกฉันดันรู้ขึ้นมาแล้ว และที่สำคัญ...”
อะ..อะไร ที่สำคัญอะไร
“ฉันคิดว่าฉันชอบพี่ซอฮยอนเข้าแล้วว่ะ”
( *[ ]* ) ---- คยูฮยอน
( - - ‘ ) ---- ชางมิน
( ^__^ ) ---- คิมคิบอม Knock Out
…OH! My Sweet Boy…
“พี่ซอฮยอนทานเยอะๆซิครับ” คิบอมที่ถือสิทธิ์นั่งข้างซอฮยอนแต่เพียงผู้เดียวอย่างหน้าตาเฉยบอกพร้อมกับตักซุปเต้าเจี้ยวใส่จานให้ร่างบาง ยกมุมปากขึ้นนิดๆเป็นรอยยิ้มชวนหลงใหล
แม่งเอ้ยย..ท่านโจวเห็นแล้วขึ้น
“พี่ซอฮยอนทานอันนี้ด้วยซิครับ” ชางมินก็ไม่น้อยหน้า ตักผัดผักหลากสีใส่จานให้พร้อมกับยกยิ้มแป้นแล้น คิดว่าทำหน้าแบบนั้นมันมันน่ารักหรือยังไงวะ?
“มัวแต่ตักให้พี่เดี๋ยวก็ไม่ได้ทานหรอกทั้งสองคน” ซอฮยอนหัวเราะน้อยๆแต่ก็ยอมทานทุกอย่างที่ไอ้พวกนั้นตักให้จนหมด “เป็นไงบ้างจ๊ะรยออุค? ฝีมือพี่พอทานได้หรือเปล่า”
“พี่ซอฮยอนทำอาหารอร่อยมากเลยครับ ผมอยากมาช่วยทำทุกวันเลยอ่ะจะได้ทำอาหารเก่งๆเหมือนพี่” เดี๋ยวนะ..ไอ้อุค พูดงี้หมายความว่าไง?
“ก็มาซิจ๊ะ ดีซะอีกพี่จะได้มีเพื่อนทำกับข้าว อยู่กับพวกเราแล้วพี่สนุกมากเลย เหมือนตัวเองกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง”
เข้าทางเลยซินะไอ้พวกแสบเอ้ยย
“พี่ซอฮยอนก็ยังน่ารักเหมือนเด็กวัยรุ่นนี่ครับ พี่น่ะหน้าอ่อนกว่าเพื่อนผมบางคนด้วยซ้ำ ใครจะรู้ว่าพี่อายุสามสิบแล้ว” ชางมินยิ้มประจบประแจงอย่างออกหน้าออกตา คยูฮยอนล่ะอยากอัพปะคัทมันซักดอกสองดอก
“ไม่หรอกจ๊ะ พูดแบบนี้คิดจะหลอกคนแก่ให้ดีใจเล่นหรือยังไงกัน?”
“ผมพูดเรื่องจริงนะครับ”
เชี่ยเอ้ยย อยากจะอ้วกใส่หน้ามันจริงๆ
“รีบกินข้าวต่อเถอะ เดี๋ยวกับข้าวจะเย็นซะก่อน” ซอฮยอนยิ้มน้อยๆก่อนจะตักอาหารให้รยออุคซึ่งก้มหน้าก้มตากินเต็มที่ (ไอ้เตี้ยนี่มันไปตายอดตายอยากมาจากที่ไหนวะ – คยูฮยอน)
“พี่ซอฮยอนครับ...” เสียงทุ้มของเด็กหนุ่มที่นั่งข้างๆเอ่ยเรียก ซอฮยอนหันหน้าไปมองช้าๆพร้อมกับยกคิ้วขึ้นเป็นเชิงสงสัย มือแกร่งของคิบอมค่อยๆเลื่อนขึ้นไปตรงหน้าหญิงสาว ไล้ข้อนิ้วลงบนริมฝีปากอิ่มแผ่วเบา “เม็ดข้าวติดมุมปากพี่น่ะครับ”
ไอ้คิบอม ไอ้สตรอเบอร์รี่ตัวพ่อ ไม่มีอะไรติดอยู่ซักหน่อย ท่านโจวเห็นนะ!!
คยูฮยอนที่นั่งทานเงียบๆอยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังกรีดร้องอยู่ในใจ แล้วก็ยิ่งขัดตาเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นว่าพี่ซอฮยอน...
ดวงหน้าหวานขึ้นสีชมพูระเรื่อชวนมอง ซอฮยอนยิ้มอย่างขัดเขินที่จู่ๆก็ถูกทำอะไรแบบนั้นโดยไม่ทันตั้งตัว “ขะ..ขอบใจจ๊ะ”
“ด้วยความยินดีครับ” คิบอมยิ้มทั้งตาทั้งปากจนคนมองต้องรีบก้มหน้าทานข้าวในจานตัวเองต่อ รอยยิ้มแบบนั้นคงไม่มีใครมองแล้วไม่รู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาได้หรอก
“ผมอิ่มแล้วครับ” คยูฮยอนรวบช้อนส้อมในมือก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแล้ว
“อิ่มแล้วเหรอจ๊ะ? กับข้าวไม่ถูกปากหรือเปล่า?” ซอฮยอนถามไถ่อย่างเป็นกังวล เธอพอจะรู้ว่าคยูฮยอนค่อนข้างทานเยอะพอสมควร แต่นี่ทานเข้าไปได้ไม่ถึงครึ่งจานด้วยซ้ำ
“ปล่อยมันไปเหอะครับพี่ซอฮยอน ‘น้องคิยู’ คงต้องรีบไปวางแผนการรบ เอ้ย ทำการบ้านต่อน่ะครับ” ชางมินบอกอย่างไม่ยี่หระพร้อมกับตักข้าวกินอย่างเอร็ดอร่อย
“งั้นเหรอจ๊ะ?” ซอฮยอนถามเสียงอ่อย นัยน์ตากลมโตดูผิดหวังนิดๆ
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รีบขนาดนั้น” ตอนแรกกะว่าจะเดินหนีขึ้นห้องอยู่แล้วเชียวแต่คยูฮยอนก็หย่อนก้นลงนั่งเก้าอี้เหมือนเดิม ชางมินชำเลืองมองมาทางเขาก่อนจะบุ้ยหน้าไปทางบันไดเป็นเชิงขับไล่
เรื่องดิ ต่อให้เอาข้าวสารเสกมาสาดใส่ท่านโจวคนนี้ก็จะไม่ยอมลุกไปไหนทั้งนั้นล่ะเว้ย
คยูฮยอน ชางมิน คิบอมต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่กอยู่ตรงซิงค์น้ำ เป็นไงล่ะ?...แต่ละคนเสนอตัวจะมาช่วยพี่นางฟ้าซอฮยอนล้างจาน สุดท้ายก็กลายเป็นว่าพวกเขาสามคนต้องมาจุ้มหัวกันอยู่ตรงนี้แล้วปล่อยพี่ซอฮยอนไปนั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่นกับไอ้เตี้ยรยออุคเฉยเลย
“ฉันกับพี่ซอฮยอนทำกับข้าวให้ทานแล้ว ถึงตาพวกนายทำงานบ้างแล้วล่ะ”
ซอฮยอนพยายามจะปฏิเสธความเห็นนี้แต่เธอก็ทนความเซ้าซี้ (โธ่เว้ย!! ความโมเอ้ก็ได้วะ) ของรยออุคไม่ไหว ร่างบางจึงต้องเดินตามแรงดึงที่ข้อมือจากน้องชายตัวเล็กไปอย่างไม่อาจขัดขืนแต่ก็ยังไม่วายส่งสายตาเห็นใจมาให้อีก
“เอาไง?”
“เอาไงล่ะ?”
“พวกแกสองคนนั่นแหละเป็นล้าง เดี๋ยวฉันจะไปนั่งรออยู่กับไอ้อุค” คยูฮยอนตัดสินใจเองเสร็จสรรพก่อนทำท่าจะเดินหนีไปจริงๆ ยังดีที่ชางมินคว้าข้อมือเอาไว้ได้ทัน
“อย่ามาเนียนไอ้ท่านโจว”
“อาร้าย เนียนอาร้ายยย...”
ชางมินสาบานด้วยเกียรติของลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่เลยว่าไอ้ท่าทางลอยหน้าลอยตา เอียงคอทำองศานิดๆ ร้องเสียงสูงขึ้นจมูกหน่อยๆแบบนั้นน่ะ...มันวอนตีนดีชะมัด ให้ตายคากระทะกล้วยทอดเหอะ!!
“ถ้างั้นก็เป่ายิ้งฉุบ” คิบอมเสนอเมื่อเห็นว่าตกลงกันไม่ได้ซักที
“อนุบาลว่ะ” คยูฮยอนยกยิ้มเหยียดแต่แทนที่คนถูกเสียดสีจะโกรธ มันกลับกระตุกยิ้มชั่วร้ายขึ้นมาแทน
“ป็อดเหรอท่านโจว?”
อย่ามาหยามหมิ่นศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของท่านโจวคนนี้นะเว้ยครับ
“ได้ แล้วพวกแกอย่ามาร้องครวญครางว่าฉันเอาเปรียบก็แล้วกัน” โด่เอ้ยย ไอ้พวกอ่อนหัด คิดจะเล่นเกมส์กับท่านโจวเหรอ? เร็วไปสิบปีนะครับ (หัวเราะสะใจ)
และในท้ายที่สุด...
คยูฮยอนก็ได้เรียนรู้ว่าความรู้สึกเหมือนโลกกำลังจะวินาศในชั่วพริบตามันเป็นยังไง
“อย่าทำจานแตกนะคิยู” ชางมินโบกมือหยอยๆแล้วเดินจากไปเป็นคนแรก
“พยายามเข้าล่ะ เพราะฉันเองก็จะพยายามเรื่องพี่ซอฮยอนเหมือนกัน” คิบอมตบไหล่เขาปุๆสองทีแล้วก็เดินหนีตามตูดไอ้ชางมินออกไป ปล่อยให้คยูฮยอนยืนนิ่งค้างอยู่หน้าซิงค์ล้างจานอย่างไร้วิญญาณ
แว้กกกก ทำไมชีวิตท่านโจวจึงได้ตกต่ำถึงเพียงนี้
“อ้าว ชางมิน คิบอม แล้วคยูฮยอนไปไหนล่ะจ๊ะ?” ซอฮยอนเอ่ยถามเสียงใสหลังจากเห็นเด็กหนุ่มรุ่นน้องเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นกันเพียงแค่สองคน
“คยูฮยอนเขาอาสาล้างเองน่ะครับ” ชางมินตอบด้วยรอยยิ้มจนตาแทบปิด เด็กหนุ่มทั้งสองนั่งลงบนพื้นพรมสีฟ้านุ่มนิ่มใกล้ๆกับโซฟาตัวยาวที่ซอฮยอนและรยออุคนั่งเล่น
“แต่ว่า...” ซอฮยอนนึกเป็นห่วง แผลที่โดนเศษกระเบื้องกับมีดบาดยังไม่หายดีเลยนี่นา ไปล้างจานแบบนั้นเดี๋ยวก็อักเสบกันพอดี
“พี่ซอฮยอนจะไปไหนครับ?” ชางมินเอ่ยถามอย่างสงสัย
“พี่จะเข้าไปดูคยูฮยอนซักหน่อยน่ะจ๊ะ”
เพล้งงง!!!!
“เสียงนั่น จากในครัวนี่นา” พูดจบร่างบางก็รีบวิ่งออกไปจากห้องนั่งเล่นทันที ชางมินทำท่าจะลุกขึ้นตามไปแต่คิบอมก็คว้ามือเขาเอาไว้เสียก่อน
“แกจะไปทำไม?”
“ใช่ๆ นั่งดูทีวีอยู่ตรงนี้ดีกว่าตั้งเยอะ” รยออุคเริ่มลากเลื้อยตัวเองเข้ากับโซฟาอนึ่งชาติที่แล้วเกิดเป็นงูเขียวน้อย ตอนนี้กำลังอิ่มพอดี หนังท้องตึงแล้วทำไมหนังตาถึงจะไม่หย่อนล่ะ ฮ้าวว..ง่วงชะมัด
ถึงจะถูกกักกันเอาไว้ในห้องนั่งเล่นนี้แต่ชางมินก็ส่งแรงใจไปช่วยนางฟ้าของเขาจนสุดกำลัง
พี่นางฟ้าซอฮยอน..อย่าตกอยู่ในอันตรายนะครับ
สิ่งที่ชิมชางมินทำได้ก็มีแต่ภาวนากับพระเจ้าเท่านั้นล่ะซินะ อาเมน..
ตัดภาพมาอีกที
“คยูฮยอนเป็นอะไรหรือเปล่า? พี่ได้ยินเสียงเหมือนอะไรตกแตก”
“ไม่ครับ” ปฏิกิริยาตอบรับจากคำตอบของเด็กหนุ่มก็คือร่างบางหมุนตัวเขาไปหาเหมือนจะหาร่องรอยของบาดแผลอะไรทำนองนั้น
“โดนบาดอีกหรือเปล่าจ๊ะ” ซอฮยอนถามอย่างร้อนรน มือบางเอื้อมจับมือเรียวของเขาขึ้นดู พลิกซ้ายพลิกขวาจนพอใจเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างที่พูดจริงๆ “พี่ไม่น่าปล่อยให้เราล้างจานเลยจริงๆ”
“ขอโทษครับผมทำแก้วพี่แตกอีกแล้ว”
“อย่าพูดแบบนั้นซิ เราไม่เจ็บตรงไหนพี่ก็ดีใจแล้ว”
เป็นคำพูดที่ชวนให้คนฟังรู้สึกเหมือนตัวจะลอยได้จริงๆนะ
“ไปนั่งกับพวกเพื่อนๆเถอะ จานพวกนี้เดี๋ยวพี่จัดการเอง”
“ไม่เอาครับ เดี๋ยวผมช่วย”
“อย่าดื้อน่าคยูฮยอน”
“ผมอยากช่วยจริงๆนี่ครับ”
“แผลยังไม่หายดีไม่ใช่หรือไงเรา?”
“แผลเล็กนิดเดียวเองครับ”
“เด็กดื้อ” ซอฮยอนนึกหมั่นเขี้ยวเด็กน้อยขึ้นมาตงิดๆ มือบางเอื้อมจับแก้มเนียนนุ่มของคยูฮยอนไว้ก่อนจะออกแรงยืดมันออกเบาๆ
“โอ๊ย” ไม่ได้เจ็บอะไรหรอก แต่ก็อยากสำออยเพื่ออ้อนคนบางคนซักนิด
“ถ้างั้นก็คอยเช็ดจานแล้วใส่ชั้นวางข้างบนก็แล้วกัน แต่ตอนนี้ต้องยืนอยู่เฉยๆก่อนนะคะ พี่ไปเอาไม้กวาดมาเก็บเศษแก้วก่อน เดี๋ยวเด็กน้อยเดินเหยียบเป็นแผลขึ้นมาอีกคราวนี้ล่ะแย่แน่เลย”
“ผมจะยืนนิ่งเป็นรูปปั้นเลยครับ”
ซอฮยอนหัวเราะคิกคักออกมาเบาๆ ก่อนที่ร่างบอบบางจะเดินหายออกไปจากห้องครัว ร่างสูงของเด็กหนุ่มภายในห้องจึงกระตุกยิ้มกว้างที่แลดูราวกับเป็นผู้ชนะ
เคยมีคนบอกว่า..เหนือฟ้ายังมีฟ้า
เหนือคนก่อกวนก็ยังมีคนที่เล่ห์เหลี่ยมจัดจ้านกว่า
คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าท่านโจวคนนี้อยู่ในระดับไหน ฮึๆ ชั้นเชิงมันต่างกันน่ะนะชิมชางมิน คิมคิบอมเพื่อนรัก นี่เขาต้องขอบคุณแก้วและจานพวกนั้นซินะใช่ไหม? ที่หยิบยื่นชัยชนะให้อย่างสวยงามและง่ายดายขนาดนี้
แต่จะว่าไปแล้วก็เริ่มจะรู้สึกผิดเหมือนกันแหะ พรุ่งนี้ไปซื้อแก้วกับจานที่ตั้งใจทำหล่นแตกมาคืนพี่ซอฮยอนดีกว่า (หัวเราะ)
Talk
เจอเพื่อนแสบแล้ว แต่คิยูมันแสบกว่าว่ะ (ฮ่าๆๆๆ)
ความคิดเห็น