คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : OH! My Sweet Boy Chapter 3 :: ไปโรงเรียนกันเถอะ
Chapter 3
...ไปโรงเรียนกันเถอะ...
ในที่สุดเช้าวันจันทร์ก็มาถึง
ซอฮยอนตื่นนอนตอนตีห้าสี่สิบห้า ใช้เวลาในการอาบน้ำแต่งตัวอยู่ประมาณยี่สิบนาทีร่างบางก็เดินลงมาห้องครัวด้านล่างเพื่อเตรียมอาหารเช้าง่ายๆไว้สำหรับเธอและคยูฮยอน
คยูฮยอนไม่ชอบดื่มกาแฟเช่นเดียวกับเธอ ซอฮยอนก็เลยอุ่นนมร้อนไว้สองแก้วพร้อมกับทำแซนวิชชิ้นพอดีคำเอาไว้ เกือบหกโมงครึ่งคยูฮยอนก็เดินลงมาในชุดเครื่องแบบนักเรียนเรียบร้อย
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
“อรุณสวัสดิ์จ๊ะ รีบมาทานนี่เร็วเข้า” ซอฮยอนส่งเสียงทักทายอย่างสดใสเช่นทุกที เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้และยกนมขึ้นดื่มทันที
ซอฮยอนทานอิ่มได้ซักพักแล้วและกำลังนั่งรอให้คยูฮยอนทานให้เสร็จ เขาเองก็เหมือนจะรู้ตัวว่าทำให้ผู้ใหญ่ต้องรอ ทานไปได้ไม่กี่คำเขาก็หยุด นั่นทำให้ซอฮยอนแปลกใจอยู่เหมือนกัน
“อิ่มแล้วเหรอจ๊ะ”
“ครับ”
“กินไปนิดเดียวเอง”
“ไม่หรอกครับ ปกติผมก็ไม่ค่อยทานอาหารเช้าอยู่แล้ว”
“ได้ยังไงกัน อาหารเช้าสำคัญมากนะรู้ไหม?”
“รู้ครับ แต่ผมตื่นสายเกินกว่าจะมีเวลาทานอาหารเช้า ไม่งั้นก็เข้าโรงเรียนไม่ทัน”
“รู้อย่างนั้นก็อย่าตื่นสายซิคะ” ซอฮยอนว่าขณะยกเอาจานและแก้วนมเปล่าไปเก็บ “ทิ้งเอาไว้ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวตอนเย็นค่อยกลับมาจัดการอีกที เราไปโรงเรียนกันเถอะคยูฮยอน”
พวกเขาออกจากบ้านตอนหกโมงสี่สิบ ใช้เวลาประมาณสามสิบนาทีก็ขับถึงโรงเรียนอนุบาลของซอฮยอนแล้ว แต่โรงเรียนมัธยมของคยูฮยอนนี่ซิอยู่ห่างออกไปพอสมควร
“วันนี้พี่ไปส่งเราก่อนดีไหม?” ซอฮยอนหันมาถามระหว่างขับรถไปโรงเรียน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ โรงเรียนของพี่ถึงก่อนโรงเรียนผม ถ้าพี่ไปส่งก็ต้องย้อนกลับไปกลับมา เสียเวลาแล้วรถก็คงติดใช่เล่น”
“แต่เราขึ้นรถประจำทางเป็นหรือไง?” ซอฮยอนสอบถามอย่างสงสัย ลูกคุณหนูที่มีแต่คนโอ๋ล้อมหน้าล้อมหลังมาตั้งแต่เด็ก เธอไม่แน่ใจนักว่าที่บ้านจะยอมให้คยูฮยอนขึ้นรถประจำทางมาโรงเรียนเองโดยเฉพาะเมื่อบ้านอยู่ไกลจากโรงเรียนแบบนั้น
“ก็พอขึ้นได้ครับ”
“จริงอ่ะ” ซอฮยอนเหลือบมองอย่างจับผิดแต่ก็ไม่เห็นท่าทีอะไรผิดแปลกไปแม้แต่น้อย
“ผมโตแล้วนะครับ เรื่องแบบนี้สบายมาก”
“ทำไมพี่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจยังไงไม่รู้ เหมือนนายมาอยู่กับพี่แล้วลำบากขึ้นเลยแหะ”
“เท่าที่จำได้ผมไม่เคยพูดว่าผมลำบากซักครั้งเลยนะครับ”
“ก็นั่นแหละ พี่นี่เป็นพี่ที่แย่จริงๆเลย”
“อย่าเอาแต่เป็นห่วงผมเลยครับ ผมโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว อีกอย่างถ้าหากพี่ไปส่งผมแล้วเด็กนักเรียนของพี่จะทำยังไงล่ะครับ จะไม่รอคุณครูประจำชั้นแย่หรอกเหรอ?”
“มันก็จริง แต่พี่อดเป็นห่วงไม่ได้นี่นา พี่รับปากพ่อกับแม่แล้วว่าจะดูแลเราให้ดี”
“พี่ก็ดูแลผมดีแล้วนี่ครับ ทำไมต้องคิดมากขนาดนั้น กลัวปล่อยให้ผมไปโรงเรียนเองแล้วจะไม่ถึงโรงเรียนหรือยังไงกันครับ” คยูฮยอนว่าติดตลก ซอฮยอนส่ายหน้าปฏิเสธหงึกงัก
“เปล่าซะหน่อย พี่รู้ว่าเราไม่ทำแบบนั้นหรอก คยูฮยอนน่ะเป็นเด็กดีจะตายไป”
“พูดแบบนี้กะดักทางผมหรือเปล่าครับ?”
“เปล่านะ หรือว่าเราคิดจะทำจริงๆกันล่ะ”
“ไม่ครับ”
“ใช่ไหมล่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นให้ผมไปโรงเรียนเองนะครับ นั่งรถประจำทางจากโรงเรียนพี่ไปถึงโรงเรียนผมใช้เวลาแค่สิบห้านาทีเอง พี่ก็จะได้ไม่ทำงานสาย ผมก็ยังไปโรงเรียนทันเวลา วินวินกันทั้งสองฝ่ายนะครับ”
“อืม” ซอฮยอนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีวิธีไหนดีไปกว่านี้แล้ว “ตกลงจ๊ะ แต่มีข้อแม้นะ”
“อะไรเหรอครับ?”
“ตอนเย็นคยูฮยอนต้องขึ้นรถประจำทางมารอกลับบ้านพร้อมพี่ที่โรงเรียนอนุบาลโอเค๊?”
“ตกลงครับ”
“งั้นก็ตามนั้นเลยจ๊ะ”
ซอฮยอนขับรถไปจอดไว้ที่โรงจอดรถของครู ขณะเดินไปส่งคยูฮยอนที่ป้ายรถเมล์ก็มีเด็กนักเรียนตัวน้อยแวะมาทักทายตลอดทาง ก็เด็กๆชอบคุณครูซอฮยอนที่ใจดีเหมือนนางฟ้านี่นะ
ซอฮยอนยืนรอรถประจำทางเป็นเพื่อนคยูฮยอนอยู่ครู่นึง เด็กหนุ่มโค้งลาเธอก่อนจะขึ้นรถไปโรงเรียน ซอฮยอนโบกไม้โบกมือลาด้วยรอยยิ้มอ่อนจางจนรถประจำทางขับแล่นออกไปจนลับตาเธอถึงได้เดินกลับเข้าไปในโรงเรียนอนุบาลอีกครั้ง
…OH! My Sweet Boy…
“เฮ้ยยย ท่านโจวมาโรงเรียนทันด้วยว่ะ สงสัยวันนี้โลกจะแตกซะแล้วมั้ง” ทันทีที่เดินไปถึงห้องเรียน กลุ่มเพื่อนสนิท (แต่ปากหมา) ของเขาก็ส่งเสียงดังทักทายคล้ายจะประหลาดใจเต็มที
“เงียบปากไปเลยไอ้ชางมิน”
“ผีเข้าเหรอ?” ----------> คิมคิบอม
“นายไข้ขึ้นหรือเปล่าคยู?” ----------> คิมรยออุค
เพื่อนเขาแต่ละคน เจริญๆกันทั้งนั้น
“ทำไม? ท่านโจวคนนี้จะมาโรงเรียนแต่เช้าบ้างใครมีปัญหาอะไร” คยูฮยอนถามตาขวางอย่างเอาเรื่อง ชางมินกลั้นหัวเราะจนหน้าดำหน้าแดง คิบอมยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหันหน้าไปที่อื่น ส่วนเจ้าเพื่อนตัวเล็กอย่างรยออุคกลับกลอกตาลอกแลกไปมาจนน่าเวียนหัว
นี่ท่านโจวทนคบพวกมันเป็นเพื่อนมาได้ยังไงตั้งห้าปีวะเนี่ย
คยูฮยอนทำเป็นไม่ใส่ใจกับท่าทางพิลึกพิลั่นของเพื่อนๆ เด็กหนุ่มเปิดกระเป๋านักเรียนหยิบคู่มือพิชิตสตาร์คาร์ฟขึ้นมาอ่านเล่นฆ่าเวลาทันที (ทำตัวได้มีประโยชน์มาก) ฮึ๊ย! คิดแล้วก็อยากกลับบ้านไปจัดหนักเร็วๆ ตอนนี้คันไม้คันมืออย่างแรง
ในกลุ่มของคยูฮยอนไม่มีใครพูดว่าอะไรอีกจนกระทั่งอาจารย์เข้ามาสอบคาบแรกทำให้คยูฮยอนต้องเก็บหนังสือเกมส์ลงกระเป๋าไปโดยปริยาย
“ไอ้โย่ง เอาหนังสือเรียนมายืมดูหน่อยดิ๊” คยูฮยอนหันไปสะกิดชิมชางมินที่นั่งเรียนข้างเขามาตลอดห้าปี (โอ๊ย เบื่อขี้หน้ามันเหมือนกันแหละแต่แม่งดันได้เรียนห้องเดียวกันตลอด ท่านโจวโครตจะเซ็งจิตเหอะบอกตรงๆ)
“ไม่เอามาไง?”
“เออ”
“ตลอดเวลาอ่ะไอ้ท่านโจว” ชางมินตีสีหน้าเบื่อหน่ายเสียเต็มประดาแต่ก็เลื่อนหนังสือออกไปให้คยูฮยอนได้มองเห็นด้วย
อาจารย์เริ่มสอนได้ไม่ทันเท่าไหร่คยูฮยอนก็เริ่มทำความเคารพอาจารย์และลาไปเฝ้าพระอินทร์เป็นที่เรียบร้อย ชางมินที่กำลังตั้งใจเรียนอยู่ข้างๆไม่ได้สะกิดปลุกหรืออะไร
ก็นี่มันวิชาคณิตศาสตร์นี่นา ต่อให้เอาโจทย์ของม.ปลายปีสาม (ก็ม.หกนั่นแหละ) มาให้มันทำ ชางมินก็มั่นใจว่าหลับตาทำเดี๋ยวเดียวคยูฮยอนก็ทำเสร็จ ไอ้ท่านโจวมันเซียนวิชานี้ครับ มันเก่งอยู่สองวิชาคือคณิตศาสตร์กับฟิสิกส์ เรียกว่าเป็นระดับท็อปของโรงเรียนเลยก็ว่าได้ อาจารย์ประจำวิชาถึงได้แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นไปเวลามันแอบหลับ
แต่ถ้าเป็นวิชาอื่นน่ะเหรอครับ?
สุนัขไม่รับประทานหรอก ฮ่าๆๆๆๆๆ
โชคดีของคยูฮยอนจริงๆที่สามารถหลับได้สบายตลอดช่วงเช้าเพราะมีเรียนคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ต่อกัน อันที่จริงก็มีนักเรียนหลายคนบ่นเหมือนกันแหละกับตารางเรียนแบบนี้ ก็เล่นจัดหนักวิชาน่าปวดหัวให้เรียนต่อเนื่องกันในช่วงเช้าเล่นเอาบางคนถึงกับเบลอไปเลยตลอดวิชาในคาบบ่าย
“ท่านโจว”
“อะไร” คยูฮยอนถามเสียงห้วนอย่างรำคาญ คนจะหลับจะนอนมารบกวนอะไรตอนนี้ไม่รู้เรื่อง
“พักเที่ยงแล้วแกจะนอนให้หนอนแทะอยู่นี่หรือไง” ชางมินกำลังเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมตัวไปหาอะไรกินเต็มที่เพราะท้องร้องโครกครากมาตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว
“หมดคาบแล้วเหรอ?”
“เออดิ หลับไม่ลืมหูลืมตาก็เงี้ย”
“ไปกินข้าวเหอะ หิวแล้วว่ะ” คยูฮยอนอ้าปากหาวหวอดก่อนชวนเพื่อนไปหาข้าวเที่ยงกิน
“หลับตลอดสี่ชั่วโมงนี่นายยังหิวอยู่อีกเหรอคยู” รยออุคที่นั่งอยู่โต๊ะหน้าเขาหันขวับมาถามอย่างสงสัย
“ชีวิตแกนี่โคตรจะเจริญจริงๆไอ้ท่านโจว” ชางมินหันมาตบไหล่เขาปุๆแล้วไอ้เพื่อนสามคนตัวดีก็เดินหนีออกไปนอกห้องเฉย เฮ้ย! ไม่คิดจะรอท่านโจวหรือไง
คยูฮยอนรีบลุกเก็บข้าวของแล้ววิ่งเปี้ยวตามเพื่อนไปทันที ตอนนี้กระเพาะน้อยๆของเขามันเริ่มจะกระทำการย่อยสลายเซลล์ตัวมันเองแล้ว
พอกินข้าวกลางวันเสร็จคยูฮยอนกับเพื่อนก็พากันไปเล่นบาสที่สนาม อันที่จริงเขาคยูฮยอนไม่ได้ไปเล่นเองหรอก เขากับรยออุคเป็นฝ่ายนั่งดูชางมินกับคิบอมมันเล่นมากกว่า ก็บอกแล้วว่าท่านโจวไม่ชอบให้เหงื่อออกและเกลียดการออกกำลังกายทุกชนิด ถามว่าอยากมานั่งแกร่วอยู่ตรงนี้ไหม? คำตอบก็คือไม่ แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ อยู่ใกล้ๆพวกชมรมบาสแล้วสาวๆก็พากันมากริ๊ดกร๊าดใส่ แค่นั่งเท่ห์เก็กหล่อก็เรียกเรทติ้งได้แล้ว ดีกว่าไปออกกำลังให้มันเปลืองแรงแบบไอ้เพื่อนกระทิงโทนสองตัวของเขาเป็นไหนๆ
หลังจากการหลับสบายไปตลอดช่วงเช้า คยูฮยอนก็กลับไปเรียนช่วงบ่ายอย่างสดชื่น (ล่ะมั้ง?) เขาพยายามอ่านและทำความเข้าใจไอ้ประวัติศาสตร์โลกที่อาจารย์ป้าหน้าห้องบ่นงึมงำเล่าให้ฟัง เพราะเป็นช่วงบ่ายที่อากาศกำลังอุ่นพอดีบวกกับหนังท้องที่ตึงมาตั้งแต่ตอนเที่ยงทำให้นักเรียนมากกว่าครึ่งสัปหงกกันเป็นว่าเล่นโดยที่อาจารย์ป้าแกไม่เงยหน้าจากหนังสือในมือขึ้นมาสนใจเลยซักนิด ใครใคร่ฟังก็ฟัง ใครไม่ใคร่ฟังก็หลับไปว่างั้น กว่าจะหมดวิชาป้าแกได้เล่นเอาท่านโจวคนนี้เกือบกระอักความหงุดหงิดตาย ยังแอบพูดกับไอ้ชางมินตั้งหลายครั้งว่าเมื่อไหร่ป้าแกจะเกษียณกลับไปเลี้ยงหลานอยู่บ้านซักที
เสียงออดดังตอนสี่โมงเย็นนี่เป็นยิ่งกว่าเสียงสวรรค์สำหรับพวกผมซะอีก
ในที่สุดหลังจากตั้งหน้าตั้งตาเรียนมาตั้งแต่เช้า (ฮื้ม?) ก็ถึงเวลาที่ท่านโจวคนนี้จะได้กลับบ้านไปหาสุดที่รักเสียที โอ๊ย อยากจะเจอหน้าเร็วๆให้หายคิดถึงจริงๆเลยท่านเทพสตาร์คาร์ฟ
“ไอ้ท่านโจววันนี้แกกลับบ้านยังไงวะ? ไหนพ่อแม่ทิ้งแกแล้ว?” ชางมินถามระหว่างที่เขากำลังเก็บกระเป๋ากลับบ้านเพราะเพิ่งจะนึกขึ้นได้
“ไม่ได้อยู่บ้านแล้วเว้ย”
“อ้าว ไอ้เด็กบ้านแตก นอนสะพานลอยไง?”
“เดี๋ยวถีบฟันร่วงไอ้โย่ง ฉันก็ไปอยู่กับพี่สาวฉันไง”
“กัดกันตลอดแบบนั้นยังหน้าด้านไปขอเขาอยู่อีกเหรอ?” ----------> คิมรยออุค
“มันคงจนตรอกจริงๆซินะ” ----------> คิมคิบอม
เพื่อนๆของท่านโจวนี่มีแต่คนรักและหวังดีกับเขาจริงๆ (กูประโช๊ดดด)
“แน่ใจนะว่าไม่ได้ไปเป็นภาระให้พี่อาร่าน่ะ” ชิมชางมินเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงอย่างถึงที่สุด ดูเหมือนว่าคิมคิมบอมกับรยออุคเองก็มีความคิดเห็นที่ไม่แตกต่างกัน
“เหอะ ภาระเหรอ? ยัยพี่มนุษย์ต่างดาวหนีไปทำงานที่คังวอนโดตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ลืมเรื่องดูแลท่านโจวคนนี้ไปได้เลย แค่เอาตัวเองให้รอดอยู่บนคานทองคุณป้าเองก็ลำบากลำบนเต็มกลืนและ”
“อ้าว ถ้าพี่อาร่าไม่มาส่งนาย เมื่อเช้ามาโรงเรียนยังไงอ่ะ”
“พอดีมีพี่สาวเพื่อนสนิทของพี่อาร่ามาส่งน่ะ”
“ใครว่ะ?” ----------> ชิมชางมิน
“พวกเรารู้จักหรือเปล่า?” ----------> คิมรยออุค
“พวกแกไม่รู้จักหรอก แล้วก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องรู้จักด้วย” คยูฮยอนตะโกนบอกเพื่อนทั้งสามคนด้วยเสียงที่ดังเกินความจำเป็นไปนิด คิบอมกระตุกยิ้มร้ายอย่างที่ทำให้คยูฮยอนเสียวสันหลังวาบไปถึงขั้วกระดูก ก่อนจะเอ่ยประโยคที่แทงใจดำคนฟังอย่างแรง
“หวงก้างเหรอไอ้ท่านโจว?”
“หมายความว่ายังไงไอ้บวม” ชางมินคะยั้นคะยอถามเพื่อนอย่างใคร่รู้สุดๆ ยิ่งเห็นรอยยิ้มของคิบอมแบบนั้น ชางมินก็ยิ่งแน่ใจว่าคิบอมมันต้องรู้อะไรดีๆอยู่แน่ๆ
“ก็หมายความว่า...”
“มะ..ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันเห็นว่ามันไม่สำคัญถึงขนาดต้องแนะนำให้พวกแกรู้จัก อีกอย่างฉันก็คงอยู่ที่นั่นชั่วคราวเท่านั้น พอพ่อแม่ฉันกลับมาจากไต้หวัน ฉันก็กลับไปอยู่บ้านเหมือนเดิม แค่นั้น..จบป่ะ”
“ลนลานแบบนี้ยิ่งน่าสงสัยนะ”
มึงจะสงสัยอะไรนักหนาไอ้แก้มบ๊วมมมม
“พี่เขาสวยหรือเปล่า?”
“ขี้เหร่ เป็นหญิงแก่วัยสามสิบที่กำลังขึ้นคานเพราะไม่มีผู้ชายมาขอเป็นแฟน ใส่แว่นตาหนาเต๊อะเหมือนอาจารย์ป้าสอนวิชาประวัติศาสตร์โลก แต่งตัวเชยๆเหมือนหลุดออกมาจากยุคแปดสิบ จู้จี้ขี้บ่นเหมือนมียัยพี่อาร่าซักสิบคนอยู่ในร่างเดียว เวลายิ้มแต่ละทีก็มีแต่รอยตีนเกาเกาะเต็มหน้า สรุปว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ โอเค๊?”
“โห่ จริงอ่ะ” ชางมินร้องครวญเหมือนผิดหวังเสียเต็มประดา ผิดกับคิบอมที่แอบอมยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่คนเดียวโดยไม่ได้ปริปากถามอะไรออกไปอีก ก็นั่นแหละ..ถามไปก็เท่านั้น จำเลยปฏิเสธเสียงแข็งซะขนาดนี้ ถ้าจับไม่ได้ไล่ไม่ทันคนอย่างโจวคยูฮยอนไม่มีวันยอมรับหรอก
“เออ เท่านี้ก็เลิกสนใจเรื่องนี้กันได้แล้ว” คยูฮยอนรีบเก็บของใส่กระเป๋าตัวเองอย่างรวดเร็ว กลัวว่าเพื่อนมันจะสงสัยและถามอะไรงี่เง่าออกมาอีก “ฉันกลับก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้บ๊ายบาย”
พอตัดบทเสร็จคยูฮยอนก็วิ่งปรู๊ดออกจากห้องเรียนทันทีด้วยความเร็วเหนือแสง ทิ้งให้ชางมินที่กำลังสงสัยได้ที่พูดคุยอยู่กับอากาศเหมือนคนประสาทไม่เต็ม
“เฮ้ย เดี๋ยวก่อน ไอ้ท่านโจ๊ววว!!!”
แม่ง..วิ่งเร็วจริงนะ
…OH! My Sweet Boy…
คยูฮยอนกระหืดกระหอบด้วยความเหนื่อยเต็มกลืน พอมาถึงโรงเรียนอนุบาลเด็กหนุ่มก็หอบแฮ่กเหมือนหมาหอบแดดแถมยังกระหายน้ำเหมือนลำคอกลายเป็นฝุ่นผงไปแล้วอีกต่างหาก กว่าจะวิ่งหนีสายตาเรด้าห์ของเจ้าพวกนั้นมาได้ท่านโจวคนนี้เกือบเอาชีวิตไม่รอด
คิดแล้วก็แค้นไอ้พวกเพื่อนนิสัยเสีย คอยดูนะท่านโจวคนนี้จะต้องเอาคืนอย่างสาสม
“คยูฮยอน” ในขณะที่กำลังคาดโทษเพื่อนสนิทอยู่ในใจด้วยความคับแค้น เสียงหวานคุ้นหูที่ดังอยู่ไม่ห่างออกไปนักก็เรียกความสนใจทุกอย่างของเขาไปจนหมดสิ้น
“พี่ซอฮยอน” คยูฮยอนยิ้มบางๆก่อนจะเดินเข้าไปหาคุณครูอนุบาลที่ยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนเพื่อรอส่งเด็กในความปกครองกลับบ้าน
“มาถึงนานหรือยังจ๊ะ?”
“ไม่ครับ”
“ทำไมดูหน้าซีดจังเลย ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าเรา”
“ผมสบายดีครับ”
“ไปนั่งรอที่ห้องเรียนของพี่ก่อนก็ได้นะ อนุบาลสองห้องกระต่าย เดินตรงไปที่โถงทางเดินนั่นเลยจ๊ะ หาไม่ยากหรอก เดี๋ยวพี่ส่งนักเรียนกลับบ้านเรียบร้อยแล้วจะตามไปนะ”
“ครับ” คยูฮยอนรับคำส่วนซอฮยอนก็หันไปโบกมือลาให้นักเรียนที่กำลังจะกลับบ้านกับผู้ปกครองแล้ว เด็กหนุ่มไหวไหล่น้อยๆก่อนจะเดินไปหาห้องเรียนของซอฮยอนเพื่อนั่งพักและหาน้ำดื่มดับกระหายเสียที
คยูฮยอนถึงตัวลงนั่งบนพื้นลายการ์ตูนน่ารักสีสันบาดตา (ห้องเด็กอนุบาลก็เงี้ย) ระหว่างทางมานี่ก็พยายามหาตู้น้ำหรืออะไรที่พอจะดื่มได้บ้าง แต่เขาก็พบว่า..ไม่มี..
นั่งแกร่วเป็นแมวง่วงอยู่นานเท่าไหร่ไม่รู้ ตาคู่คมที่กลมโตดีชะมัดกำลังปรือลงอย่างช้าๆเพราะเจ้าตัวกำลังเริ่มจะง่วงนอนเต็มที ค่อยๆไหลตัวเองไปกับพื้นโดยไม่สนว่ามันจะสะอาดหรือเปล่า เอาน่า มันต้องเป็นพื้นที่ให้เด็กๆนอนกลางวันเหมือนกัน ก็ต้องสะอาดในระดับหนึ่งล่ะ
แล้วเด็กหนุ่มก็เข้าหลุดเข้าห้วงนิทราไปตอนไหนไม่รู้เหมือนกัน
อืม...
อะไรน่ะ
อย่ามากวนน่าคนกำลังนอนสบาย
คยูฮยอนดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาอย่างนึกรำคาญ อะไรวะอุ่นๆทาบลงมาบนแก้มเขาเนี่ย พวกไอ้โย่งชางมินหรือเปล่า? แม่งแกล้งไม่รู้จักดูเวล่ำเวลา ไม่เห็นไงว่าท่านโจวกำลังพักผ่อน
“ไอ้เช...” กำลังจะหลุดปากด่าอยู่แล้วเชียว ถือว่าโชคยังดีที่คยูฮยอนยอมลืมตาขึ้นมาเสียก่อน พอเห็นว่าเป็นพี่ซอฮยอนกำลังเอาน้ำแอปเปิ้ลกระป๋องทาบแก้มเขาอยู่ คยูฮยอนก็กลืนคำพูดทุกอย่างลงคอตัวเองทันที
“พี่ซอฮยอน”
“หงุดหงิดขนาดนั้นเชียว” นางฟ้าหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ร่างบางนั่งบนพื้นใกล้ๆกับตำแหน่งที่คยูฮยอนนอนอยู่ เด็กหนุ่มลุกพรวดชันตัวขึ้นนั่งในเสี้ยววินาที “ดื่มไหม?”
มือเรียวยื่นออกไปรับน้ำแอปเปิ้ลมาจากซอฮยอน เขาบอกขอบคุณพร้อมกับเปิดฝายกกระป๋องขึ้นดื่มเหมือนคนอดอยากปากแห้งขาดน้ำมาหลายวัน
“พี่เสร็จแล้วเหรอครับ?” คยูฮยอนถามอย่างสงสัย เสียงดังเจี้ยวจ้าวด้านนอกเงียบลงไปแล้ว เงียบมากซะจนได้ยินเสียงนกร้องคลอเบาๆจากด้านนอก
“จ๊ะ เราจะกลับกันเลยไหม?”
“ก็ดีครับ”
มือบางเอื้อมจับมือเรียวที่ใหญ่กว่าของตัวเองเป็นเท่าตัว ซอฮยอนลุกขึ้นก่อนจะฉุดน้องชายตัวโตให้ลุกยืนขึ้นตาม
“พี่ไปหยิบกระเป๋าก่อนนะ”
“ครับ”
บนยานพาหนะขับเคลื่อนสี่ล้อ ซอฮยอนก็ยังเป็นฝ่ายชวนคุยโน่นนี่ไม่หยุด แม้ว่าคยูฮยอนจะตอบคำถามเธอเพียงแค่ประโยคสั้นๆเหมือนโดนบังคับก็ตามแต่ ร่างบางก็ยังถือว่าตัวเองประสบความสำเร็จในการสร้างความคุ้นเคยกับคยูฮยอนอยู่ดี
“ใกล้สอบปลายภาคแล้วนี่นา ช่วงนี้คยูฮยอนคงอ่านหนังสือหนักน่าดู”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ”
“พี่ได้ยินจากอาร่าว่าคยูฮยอนท็อปคณิตกับฟิสิกส์นี่นา เก่งเหมือนกันนี่เรา”
“แล้วพี่อาร่าไม่ได้บอกพี่ซอฮยอนด้วยเหรอครับว่านอกจากสองวิชานี้แล้ววิชาอื่นผมเกือบตกทั้งหมด”
“เอ๋? ทำไมล่ะ คยูฮยอนไม่ชอบวิชาอื่นเหรอจ๊ะ?”
“มั้งครับ ผมจะตั้งใจเรียนเฉพาะวิชาที่ผมชอบน่ะ”
“ยังไงก็เถอะ วิชาอื่นก็สำคัญเหมือนกันนะคยูฮยอน”
“ครับ” คำตอบรับที่ไม่บ่งบอกสถานะความรู้สึกเลยซักนิดสร้างความลำบากใจให้กับซอฮยอนไม่น้อย เธออยากพังกำแพงที่กั้นระหว่างเธอกับคยูฮยอนเอาไว้แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ให้ความร่วมมือใดๆเลยซักนิด
สุดท้ายซอฮยอนก็ตั้งใจขับรถกลับบ้านอย่างเดียวโดยที่ไม่เอ่ยปากว่าอะไรออกมาอีก ส่วนคยูฮยอน..รายนั้นไม่ปริปากพูดก่อนอยู่แล้วถ้าเธอไม่เป็นฝ่ายชวนคุย
พอขับรถมาถึงบ้านคยูฮยอนก็ขอตัวขึ้นไปบนห้องทันที ยังไม่ทันที่ซอฮยอนจะทักท้วงอะไร เด็กหนุ่มก็เดินขึ้นบันไดไปชั้นสองเสียแล้ว ร่างบางถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน คยูฮยอนคนนั้นถ้ากลับกลายเป็นเด็กช่างจ้อได้เหมือนเดิมก็คงดี ตอนนี้เธอคาดเดาอารมณ์ความรู้สึกของน้องชายเพื่อนไม่ได้เลย บางครั้งก็เหมือนจะเปิดใจแต่อีกซักพักก็กลับไปปิดกั้นตัวเองเอาไว้เหมือนเดิม
เมื่อไหร่ที่เธอกับคยูฮยอนจะเปิดปากคุยกันได้อย่างสนิทใจซักทีนะ?
ซอฮยอนยืนคิดอะไรอยู่กับตัวเองซักพัก กะว่าจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัวแล้วค่อยลงมาทำอาหารเย็นทาน แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะก้าวขึ้นบันได เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดึงความสนใจของเธอไปเสียก่อน
ใครมา?
ร่างบอบบางเดินไปตามพื้นหินขัดที่ปูไว้เป็นระยะบนพื้นหญ้า เห็นแขกผู้มาเยือนแล้วก็ต้องขมวดคิ้วอย่างฉงน ถึงอย่างนั้นเธอก็เดินไปถึงประตูรั้วหน้าบ้านพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานไปให้ก่อนเอ่ยถามอย่างใจดี
“สวัสดีจ๊ะ มาหาใครเหรอ?”
“สวัสดีครับ พวกเรามาหาคยูฮยอนครับ”
Talk
ใครมาหาน้องคิยูว้า?
ความคิดเห็น