ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ SNSD | KyuSeo] OH! My Sweet Boy

    ลำดับตอนที่ #1 : OH! My Sweet Boy :: Intro

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 56


     

     

    Intro

     

     

     

    “แม่ว่าไงนะคะ?”

     

    เสียงของเพื่อนรักที่กำลังทำหน้าเครียดคุยโทรศัพท์อยู่เรียกให้ซอฮยอนที่ก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาตัวยาวข้างๆกันเงยขึ้นไปเหลือบมองอย่างสงสัย  หลังจากทานอาหารค่ำเสร็จแล้วพวกเธอก็มักจะมาดูทีวีที่ห้องนั่งเล่นนี้เป็นประจำ  วันนี้ก็เช่นกัน

     

    “แล้วพ่อกับแม่จะทิ้งให้น้องอยู่ที่นี่คนเดียวได้ยังไงกัน”

     

    [ก็แม่ถึงได้บอกให้เรากลับมาอยู่กับน้องยังไงล่ะ]

     

    “ไม่ได้หรอกค่ะแม่  บ้านเราห่างจากที่ทำงานหนูตั้งไกล  มันไม่สะดวกแม่ก็รู้อ่ะ”

     

    [ถ้าอย่างนั้นจะทำยังไงล่ะ  ก็คงต้องปล่อยให้น้องอยู่บ้านคนเดียวงั้นซิ]

     

    “ไม่ได้ๆ  ไม่ได้ค่ะ  ขืนปล่อยให้อยู่คนเดียวล่ะก็  เจ้าตัวดีมีหวังเตลิดเปิดเปิงไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องแน่”

     

    [แล้วลูกจะเอายังไงล่ะ  โน้นก็ไม่ได้  นี่ก็ไม่ได้  มันก็เหลือทางสุดท้ายแค่นี้แหละ]

     

    “อืม  แล้วพ่อกับแม่จะไปนานแค่ไหนคะ?”

     

    [แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน  อาคารเพิ่งจะสร้างเสร็จก็คงต้องไปดูแลเรื่องการตกแต่งอีก  กว่าจะเปิดโรงเรียนได้ก็คงหลายเดือนอยู่เหมือนกันนะ]

     

    “ให้พ่อไปเองคนเดียวไม่ได้หรอคะ”

     

    [พูดเป็นหนังการ์ตูนไปได้  ถ้าแม่ไม่ไปด้วยคิดเหรอว่าพ่อเราจะยอมขึ้นเครื่องน่ะ  ก็รู้อยู่แล้วว่าพ่อเรากลัวการขึ้นเครื่องบินแค่ไหน  แล้วก็เลิกคิดเรื่องให้บินไปบินกลับได้เลย  นอกจากจะยากเรื่องพ่อเราแล้วมันมันเปลืองเงินด้วยเข้าใจไหม?]

     

    “โห่..แม่อ่ะ”

     

    [ถ้าไม่ยอมกลับมาอยู่บ้าน  ก็เอาน้องไปอยู่ด้วยเลยนะ]

     

    “อ๊ายยย  ได้ไงกันคะ?  หนูไม่ได้อยู่คนเดียวนะแม่  แค่มาอยู่บ้านเขาก็เกรงใจซอฮยอนจะแย่อยู่แล้ว  นี่ยังจะให้เอาเจ้าตัวยุ่งมาด้วยอีก  ไม่เอาอ่ะ”

     

    [อะไรกันล่ะ  ซอฮยอนน่ะก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลซักหน่อย  ใช่ว่าจะไม่รู้จักเจ้าตัวยุ่งเสียเมื่อไหร่แถมยังเป็นคนช่วยเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดด้วยซ้ำ  ดีไม่ดีน้องจะติดซอฮยอนมากกว่าลูกซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆซะอีก]

     

    “แม่อ่า..”

     

    [เอาล่ะๆ  ลองถามซอฮยอนดูก่อนก็ได้  ถ้าซอฮยอนไม่อนุญาตก็คงต้องให้น้องอยู่บ้านคนเดียวแล้วล่ะ]

     

    “ก็ได้ค่ะขอหนูถามเพื่อนก่อนแล้วกัน  แล้วนี่แม่กับพ่อจะเดินทางวันไหนคะ?”

     

    [วันเสาร์นี้เลย]

     

    “ทำไมกะทันหันแบบนี้ล่ะคะ  อีกแค่สองวันเองนะ”

     

    [ก็มันไม่มีเวลาแล้วนี่นา  เอาล่ะเดี๋ยวแม่ต้องไปจัดกระเป๋าต่อแล้ว  ยังไงลองถามซอฮยอนดูก่อนแล้วกัน  ได้ความว่ายังไงก็โทรมาบอกแม่ด้วยล่ะ]

     

    “ค่ะๆ  ได้ค่ะ  เดี๋ยวหนูโทรกลับนะคะ  รักแม่ค่ะ...บาย”

     

    “มีอะไรหรือเปล่า?” ซอฮยอนเอ่ยถามทันทีหลังจากเห็นเพื่อนสนิทถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เหมือนมีเรื่องบางอย่างกวนใจอยู่

     

    “นี่ซอฮยอน  แม่กับพ่อจะบินไปไต้หวันวันเสาร์นี้ล่ะ”

     

    “เรื่องเปิดสถาบันกวดวิชาที่นั่นใช่หรือเปล่า?”

     

    “อื้อ”

     

    “ไปกันแค่สองคนเหรอ  แล้วคยูฮยอนล่ะ?” ซอฮยอนถามอย่างแปลกใจ  เธอรู้จักครอบครัวนี้เป็นอย่างดีจนแทบเรียกได้ว่าเป็นครอบครัวที่สองของเธอด้วยซ้ำ

     

    “ก็นั่นแหละปัญหาที่คิดไม่ตกอยู่ตอนนี้อ่ะ  แม่บอกให้ฉันกลับไปอยู่บ้านเป็นเพื่อนเจ้าตัวยุ่ง  จะบ้าหรือไง?  บ้านฉันอยู่ห่างจากสถานีตั้งไกล  ฉันไม่ยอมตื่นแต่ตีห้าเพื่อขับรถมาทำงานก่อนที่รถจะติดแน่”

     

    “แล้วแม่จะทิ้งน้องไว้ที่บ้านคนเดียวงั้นเหรอ?  คงเข้าทางคยูฮยอนน่าดูเลยล่ะซิ”  ซอฮยอนหัวเราะร่วนเพราะรู้จักนิสัยของน้องชายเพื่อนรักเป็นอย่างดี  ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เจอคยูฮยอนมาซัก...อืม...เกือบเจ็ดปีแล้วเห็นจะได้  ตั้งแต่เธอเรียนจบมหาวิทยาลัยนู้นเลยทีเดียว

     

    “ก็ถ้าไม่มีทางอื่นก็คงต้องเอางั้นล่ะนะ” โจวอาร่าขยี้ผมของตัวเองจนยุ่งเหยิงอย่างหมดปัญญา “ถ้าไปจะหลายเดือนขนาดนั้นทำไมไม่ย้ายเจ้าตัวยุ่งไปเรียนที่นั่นด้วยเลยนะ”

     

    “ไร้สาระน่า” ซอฮยอนปรามเพื่อนรักที่สนิทกันเพราะเรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถมหนึ่งจนกระทั่งเรียนมหาวิทยาลัยทั้งคู่ก็ยังเลือกที่เดียวกัน  เรียกได้ว่ารู้ใจกันหมดทุกอย่าง

     

    “แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงล่ะ?”

     

    “ถ้าแกไม่อยากกลับไปอยู่บ้าน  ให้น้องมาอยู่ที่นี่กับเราก็ได้นี่นา”

     

    “จริงเหรอซออยอน?” อาร่าทำตาโตเป็นประกายทันทีที่ได้ยินเพื่อนพูด  เธอจ้องมองซอฮยอนอย่างมีความหวัง “ได้จริงอ่ะ”

     

    “ได้ซิ  บ้านก็ออกจะใหญ่  ห้องนอนก็มี  แถมเรายังอยู่กันแค่สองคนอีกต่างหาก  มีผู้ชายเพิ่มมาในบ้านอีกซักคนก็คงดี  อีกอย่างนะคยูฮยอนน่ะก็เหมือนน้องชายแท้ๆของฉันเหมือนกันนั่นแหละ”

     

    “ขอบใจน้าเพื่อนรัก  ฉันรักแกที่สุดเลยว่ะ” อาร่าโถมตัวเข้าหาซอฮยอนทันทีก่อนจะระดมจูบไปที่แก้มเนียนใสของอีกฝ่ายไม่ยั้ง  ซอฮยอนได้แต่หัวเราะออกมาอย่างหนักเพราะรู้สึกจั๊กจี้

     

    “ฮ่าๆๆ  พอได้แล้ว  แก้มฉันช้ำหมดเพราะแกนี่แหละ”

     

    “จูฮยอนของฉันน่ารักที่สุดเลย  งั้นเดี๋ยวฉันโทรไปบอกแม่ก่อนแล้วกันว่าเธออนุญาตแล้ว  รอแปบนึงนะจ๊ะที่รัก” พูดจบอาร่าก็คว้าโทรศัพท์มือถือวิ่งขึ้นบันไดไปห้องนอนของตัวเองทันที  ซอฮยอนยันตัวขึ้นนั่งหลังจากโดนจู่โจมเมื่อซักครู่  มือบางจัดการทรงผมที่ฟูฟ่องของตัวเองให้เข้าที่  ได้แต่อมยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าน้อยๆตามหลังอาร่าไป

     

    รู้จักกันมายี่สิบกว่าปีอาร่าไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนับแต่ตั้งวันแรกที่พบกัน  ซอฮยอนยังนึกขอบคุณทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องราวของวันเก่าๆ  ถ้าหากอาร่าไม่เป็นฝ่ายเดินเข้ามาขอนั่งเรียนโต๊ะข้างๆกัน  ซอฮยอนก็ไม่คิดว่าเธอจะสนิทกับอาร่าได้เพราะตอนเป็นเด็กเธอขี้อายมากและค่อนข้างเก็บตัว  แต่ด้วยความที่อาร่าเป็นคนอัธยาศัยดีจึงทำให้เธอเปิดใจกับอาร่าในเวลาไม่นานและกลายเป็นเพื่อนรักกันในที่สุด

     

    ร่างบางอมยิ้มกับตัวเองคนเดียวเมื่อครุ่นคิดถึงวันเก่าๆที่เต็มไปด้วยความหลัง  ผ่านไปซักพักใหญ่ๆซอฮยอนก็ได้ยินเสียงตึงตังที่บันได  จะมีใครซะอีกล่ะนอกจากเพื่อนรักของเธอ  บอกตั้งแต่เป็นเด็กจนโตจะขึ้นคานไปพร้อมกันอยู่แล้วว่าอย่าวิ่งลงบันได  เคยฟังซะที่ไหนล่ะ

     

    “ซอฮยอน  ฉันบอกแม่แล้วล่ะ  แม่โอเคเลย” อาร่าทิ้งตัวบนโซฟานุ่มตัวยาวก่อนจะล้มตัวลงนอนหนุนตักของเพื่อนอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ

     

    “แล้วแม่จะให้ไปรับน้องวันไหนล่ะ”

     

    “วันเสาร์นั่นแหละ  เจ้าตัวยุ่งจะได้มีเวลาเก็บของด้วย”

     

    “ก็ดีเหมือนกัน  ฉันจะได้เตรียมทำความสะอาดห้องเอาไว้รอ”

     

    “เฮ้ยไม่ต้อง  ให้เจ้าตัวยุ่งมานอนห้องฉันนี่แหละ  ตอนนี้ห้องที่ว่างก็เหลือแต่ห้องพ่อกับแม่แก  ไม่เอาอ่ะ  ให้มานอนกับฉันก็ได้”

     

    “จะบ้าเหรอ  ถึงแกสองคนจะเป็นพี่น้องกันก็จริงแต่น้องชายแกกำลังเป็นวัยรุ่นนะยะ  เขาก็ต้องการเวลาส่วนตัวบ้างซิ  ยิ่งเป็นผู้ชายอีกต่างหาก  แกไม่อายน้องแกก็คิดว่าน้องจะอายบ้าง”

     

    “ฉันรู้  แต่ฉันก็เกรงใจแกไง  นั่นมันห้องพ่อแม่แกเลยนะเว้ย”

     

    “ไม่เห็นเป็นไรเลย  ยังไงพวกท่านก็คงไม่กลับมาอยู่ที่โซลแล้ว  แกไม่ต้องคิดมากนักหรอก”

     

    “ถึงพวกท่านจะกลับไปอยู่บ้านที่เกาะเชจูก็จริง  แต่เวลาพวกท่านกลับมาเยี่ยมแกล่ะจะทำยังไง  ให้มานอนกับฉันน่ะดีแล้ว”

     

    “คิดมากไปแล้วอาร่า  คยูฮยอนมาอยู่ชั่วคราวเองไม่ใช่เหรอไง”

     

    “แต่ว่า...”

     

    “ฉันว่าเราสองคนเลิกเถียงกันแล้วไปช่วยกันทำความสะอาดห้องรอน้องดีกว่านะ  ว่าไง?”

     

    “อืม  ก็ได้” หลังจากครุ่นคิดอยู่พักนึงอาร่าถึงก็ตอบตกลง  ถึงแม้จะยังรู้สึกเกรงใจเพื่อนอยู่ก็ตาม  แต่เถียงไปก็เท่านั้นแหละ  เห็นซอฮยอนเรียบร้อยๆดูอ่อนหวานแบบนั้นน่ะ  บทจะรั้นก็ดื้อยิ่งกว่าใครเสียอีก  อาร่ารู้จักเพื่อนคนนี้ดียิ่งกว่าใคร

     

    “จะไปก็ลุกขึ้นซิคะ” ซอฮยอนที่ลุกยืนขึ้นแล้วกำลังฉุดเพื่อนรักที่ล้มตัวนอนแผ่อยู่บนโซฟาไม่เลิก

     

    “ซอฮยอนอา...”

     

    “ว่าไง”

     

    “ขอบใจมากนะ”

     

    “เลิกคิดอะไรไร้สาระทำนองว่าแกกับน้องมาเป็นภาระให้ฉันหน่อยเลยน่า  ตั้งแต่รู้จักกันมาแกก็รู้ว่าฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลยซักครั้ง  แล้วก็อย่างที่ฉันบอกไปคยูฮยอนน่ะก็น้องฉันเหมือนกัน  ขืนปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียวฉันก็คงอดเป็นห่วงไม่ได้เหมือนกัน  พวกเราน่ะ..ครอบครัวเดียวกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือยังไง”

     

    “ฉันรักแกที่สุดเลยอ่ะ” อาร่าลุกขึ้นกระโดดกอดซอฮยอนจนทั้งคู่เกือบจะล้มลงไปด้วยกัน  ยังดีที่ซอฮยอนคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้วทำให้เธอตั้งรับได้ทัน

     

    “รู้แล้ว  รีบไปกันเถอะเกือบสองทุ่มแล้ว  ฉันต้องรีบตื่นแต่เช้านะจ๊ะ”

     

    “ค่าคุณครูอนุบาลซอฮยอนผู้ใจดีและมีรอยยิ้มอ่อนหวานประทับใจคุณพ่อของเด็กแทบทุกคน”

     

    “เว่อร์ไปแล้วจ๊ะ”

     

    “เว่อร์ที่ไหนกัน  ฉันเห็นนะเวลาไปหาแกที่โรงเรียนอนุบาลน่ะ  พวกคุณพ่อมองแกตางี้แทบไม่กระพริบเลย  โถๆๆๆ  ซอฮยอนที่น่าสงสาร  ฉันบอกแล้วไม่เชื่อว่าอย่าไปเป็นครูอนุบาลน่ะ  แกจะได้เจอแต่ผู้ชายที่มีเจ้าของแล้วทั้งนั้น  ถ้าแกเชื่อฉันตั้งแต่แรกนะคงไม่ต้องมาเกาะคานทองแน่นอยู่แบบนี้หรอกทั้งที่หน้าตาออกจะสวยจนเป็นนางเอกซีรี่ย์ได้แท้ๆ”

     

    “ก็ฉันชอบเด็กๆนี่นา  บอกไปตั้งหลายรอบแล้ว”

     

    “นอกจากจะเป็นนางเอกแล้วแถมยังเป็นนางงามอีกต่างหากเพื่อนฉัน  รักเด็กแล้วรักพ่อเด็กด้วยหรือเปล่าจ๊ะ” อาร่ายิ้มกรุ่มกริ่ม  ซอฮยอนจึงตีเพี๊ยะเข้าที่ต้นแขนของอีกฝ่ายเบาๆข้อหาล้อเล่นไม่เลิก

     

    “บ้าน่า  รีบไปกันได้แล้ว  ไม่งั้นฉันจะปล่อยแกทิ้งไว้นี่คนเดียวแล้วนะ” พูดจบซอฮยอนก็หันหลังเดินหนีขึ้นชั้นสองไปทันที  แต่อาร่ายังคงส่งเสียงแซวตามหลังมาอีก

     

    “ฉันพูดแทงใจดำล่ะซี้ถึงได้เดินหนีไปแบบนี้น่ะ  บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าใครสามารถเขย่าหัวใจของซอฮยอนผู้ไม่สนใจในตัวผู้ชายได้  บอกมาน้าาาา”

     

    “บ้า!!

     

    อาร่าได้ยินเสียงของเพื่อนดังมาจากไกลๆ  ก็ยังอุตส่าห์ได้ยินที่เธอแซวอีกอ่ะนะ  อาร่าฉีกยิ้มกว้างกับตัวเอง  ซอฮยอนเป็นเพื่อนที่เธอรักมากที่สุดและเธอก็รู้ว่าซอฮยอนรักและหวังดีกับเธอมากที่สุดเหมือนกัน  ทุกวันนี้อาร่าถึงได้เป็นห่วงและกังวลอยู่เสมอว่าซอฮยอนจะได้นั่งบนคานไปตลอดชีวิต  เธออยากให้มีผู้ชายดีๆซักคนมาคอยดูแลเพื่อนเสียที  ก็อย่างว่าล่ะนะพวกเธอสองคนอายุสามสิบกันแล้วนี่  ถ้าไม่รีบหาเร็วๆนี้คิดว่าน่าจะได้อยู่บนนั้นเป็นเพื่อนกันไปจนแก่แล้วล่ะ

     

    ผู้ชายแบบไหนน้าจะสามารถพิชิตใจซอจูฮยอนได้  เธอล่ะอยากเห็นเร็วๆจนแทบอดใจรอไม่ไหวแล้ว  แค่คิดก็สนุกสุดๆเลย (หัวเราะ)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk

    เปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว..จะบ้าตาย

    เรื่องเก่ายังไม่ทันเคลียร์เบย

    ป้าหมีเบื่อจะเขียนมาม่าอ่ะ 

    ไม่ได้แต่งฟิคสนุกๆตั้งนาน  ไม่มั่นใจในฝีมือ เฮ้อ...

     

     

     

     

     

    B B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×