ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ SNSD | KyuSeo] OH! My Sweet Boy

    ลำดับตอนที่ #3 : OH! My Sweet Boy – Chapter 2 :: วันอาทิตย์

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.พ. 56


     

     

    Chapter 2

    ...วันอาทิตย์...

     

     

     

    ซอฮยอนลุกขึ้นไปส่งอาร่าที่สถานีโทรทัศน์ตั้งแต่เช้า  อาร่าที่ยังคงงัวเงียง่วงนอนงอแงเอาเรื่องอยู่เหมือนกันแต่ซอฮยอนก็จัดการจับแม่เพื่อนตัวดียัดเข้ารถแล้วขับไปส่งทั้งที่ตายังปรือกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่แบบนั้นแหละ

     

    กลับเข้าบ้านมาอีกทีก็เกือบเจ็ดโมงเช้าแล้ว  ซอฮยอนเดินตรงไปที่ห้องครัวเพื่อหานมอุ่นๆให้ตัวเองแล้วก็ทำอาหารเช้าให้คยูฮยอน  แต่ยังไม่ทันที่เธอจะทำอะไรดูเหมือนเจ้าตัวยุ่งจะเดินลงบันไดมาเสียแล้ว

     

    “อรุณสวัสดิ์จ๊ะคยูฮยอน” ซอฮยอนเอ่ยทักเสียงใส

     

    “อรุณสวัสดิ์ครับพี่ซอฮยอน” เด็กหนุ่มตอบไม่เต็มเสียงคล้ายจะงัวเงียเสียมากกว่า

     

    “ทำไมตื่นเร็วจังเลยล่ะ  นอนไม่หลับเหรอ?”

     

    “เปล่าหรอกครับ  ผมตื่นเพราะพี่อาร่านั่นแหละ” คำตอบของคยูฮยอนทำให้ซอฮยอนเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

     

    “ทำไมเหรอ?”

     

    “ผมคิดว่าด้วยการปลุกแบบนั้นผู้คนในละแวกนี้จะต้องตื่นกันหมดอย่างแน่นอน  มีแต่พี่สาวผมนั่นแหละที่หลับไม่รู้เรื่องอะไรบ้างเลย”

     

    ซอฮยอนหลุดหัวเราะออกมาทันที “แย่ขนาดนั้นเชียว  พี่ขอโทษแล้วกันนะที่ทำให้เราต้องตื่นเร็วทั้งที่เป็นวันอาทิตย์แบบนี้”

     

    เด็กหนุ่มเลื่อนเก้าอี้ออกก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง  มือเรียวขยี้ตาตัวเองด้วยความเคยชินขณะนั่งรอซอฮยอนยกนมอุ่นๆมาให้

     

    “ขอบคุณครับ”

     

    “ชอบนมแบบไหนเป็นพิเศษก็บอกพี่ได้นะ  หรือว่าชอบดื่มกาแฟเหมือนอาร่า”

     

    “ไม่ครับ  ผมไม่ดื่มกาแฟ”

     

    “ดีแล้วล่ะ  อย่าดื้อเหมือนพี่เราเลย  พี่บอกตั้งหลายครั้งแล้วว่ามาดื่มกาแฟให้มากนัก  รายนั้นน่ะเคยฟังพี่ที่ไหน  วันนึงๆกินกาแฟเข้าไปแทนน้ำเปล่าเลยล่ะมั้ง”

     

    “แม่ก็บ่นพี่หลายครั้งแล้วเหมือนกันครับ”

     

    “นั่นซินะ  ดื้อจริงๆ” ซอฮยอนเงียบเสียงลงเมื่อถูกสายตาของคยูฮยอนจับจ้องไม่กระพริบ  “มีอะไรเลอะหน้าพี่หรือเปล่า”

     

    คยูฮยอนส่ายหน้าช้าๆแทนคำตอบ  จากนั้นพวกเขาก็เอาแต่นั่งเงียบโดยไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาอีก  หลายนาทีที่ผ่านไปอย่างเชื่องช้าจนซอฮยอนทนความอึดอัดนั้นไม่ไหว

     

    “ยังเช้าอยู่เลย  ไปออกกำลังกายกันดีกว่า”

     

    “แต่ว่า....”

     

    “ทำไมเหรอ?”

     

    “ผมไม่มีรองเท้า”

     

    “ของพ่อพี่น่าจะพอใส่ได้นะ  อาจจะหลวมไปหน่อยแต่ก็ทนใส่ไปก่อนแล้วกัน”

     

    “แต่ผม...”

     

    ไม่รอให้คยูฮยอนเอ่ยปฏิเสธ  ซอฮยอนรีบฉุดเด็กหนุ่มขึ้นบันไดก่อนจะผลักเข้าห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า  สำทับไว้ว่าอีกห้านาทีเจอกันก่อนที่เธอจะหนีเข้ามาเปลี่ยนชุดในห้องของตัวเองโดยไม่ฟังคำคัดค้านใดๆทั้งนั้น

     

    ถึงแม้จะอิดออดไม่อยากไปแต่ซอฮยอนก็พบว่าคยูฮยอนเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ชุดวอร์มยืนรอเธอที่หน้าห้องเรียบร้อยแล้ว

     

    “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคยูฮยอน”

     

    “ต้องไปออกกำลังกายวันนี้ด้วยเหรอครับ?  มันหนาวนะ”  อากาศปลายเดือนกุมภาพันธ์ยังคงหนาวเย็นอยู่ถึงแม้จะไม่หนาวจัดเหมือนช่วงปีใหม่แต่ก็มากพอที่จะทำให้ไม่อยากออกไปจากบ้านได้เหมือนกัน

     

    “อืม  งั้นรอพี่เดี๋ยวนึงนะ”  ซอฮยอนกลับเข้าไปในห้องนอนครู่หนึ่งก่อนที่ร่างบอบบางจะเดินออกมาหาเขาพร้อมกับหมวกไหมพรม  ผ้าพันคอและถุงมือ “แบบนี้ก็อุ่นแล้วซินะ”

     

    จับเด็กน้อยขี้งอแงแต่งตัวแล้วซอฮยอนก็ลากคยูฮยอนไปขึ้นรถมุ่งหน้าสู่สวนสาธารณะที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก  สภาพอากาศวันนี้ถึงจะเย็นไปนิดแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทีเดียว  แดดอ่อนๆตอนเช้าให้ความรู้สึกดีไม่น้อย

     

    คยูฮยอนคงไม่ชอบการออกกำลังกายจริงๆนั่นแหละ  ชวนไปวิ่งก็โดนปฏิเสธ  ชวนไปรำไม้กระบองก็บอกว่าเป็นเรื่องของคนแก่  ชวนไปเล่นบาสก็บอกว่าไม่ชอบ  สุดท้ายเด็กหนุ่มก็โดนซอฮยอนจับขึ้นรถจักรยานแล้วพาปั่นไปรอบๆซะเลย

     

    แต่เด็กวัยกำลังกินกำลังนอนอย่างคยูฮยอนน่ะน้ำหนักตัวน้อยๆซะที่ไหน

     

    ปั่นไปได้เกือบสิบนาทีซอฮยอนก็เหนื่อยหอบซะแล้วจนคยูฮยอนได้แต่กลั้นขำกับตัวเอง  ขืนหัวเราะออกไปเสียงดังมีหวังคงโดนเอ็ดอีก

     

    “เอาขาขึ้นซิครับ”

     

    “เอ๋?”

     

    “เดี๋ยวผมปั่นให้  พี่เหนื่อยแล้วไม่ใช่เหรอ?”

     

    ซอฮยอนทำตามคำของคยูฮยอนอย่างว่าง่าย  วางเท้าไว้บนตัวรถจักรยานในขณะที่คยูฮยอนซึ่งเป็นคนนั่งซ้อนยื่นเท้ามาปั่นให้

     

    “ว้าว  สนุกจังแถมพี่ไม่ต้องเหนื่อยอีกต่างหาก” ซอฮยอนหัวเราะร่วนอย่างชอบใจ  เพราะอยู่ในตำแหน่งคนปั่นทำให้เธอมองไม่เห็นว่าคยูฮยอนเองก็ลอบยิ้มกว้างเช่นเดียวกัน

     

    มือเรียวเอื้อมขึ้นมาจับชายเสื้อโค้ทของซอฮยอนไว้หลวมๆทำให้เธอหันกลับมามองเขาอย่างงงๆ

     

    “ผมกลัวตก  ขอจับพี่ไว้ได้ไหมครับ?”

     

    หน้าตาแบบนั้น  น้ำเสียงอ้อนๆแบบนั้น  ใครที่ไหนจะไม่ยอมกันล่ะ

     

    “ดะ..ได้ซิ  ถ้ากลัวก็จับพี่ไว้แน่นๆแล้วกัน” เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของแล้ว  มือเรียวทั้งสองข้างก็เลื่อนขึ้นจับตรงเอวของอีกฝ่ายไว้  ก่อนจะปั่นไปรอบๆสวนสาธารณะอย่างสนุกสนาน

     

    พอคยูฮยอนเหนื่อยซอฮยอนก็ปั่นต่อ  พอซอฮยอนเหนื่อยก็เปลี่ยนให้คยูฮยอนปั่นแทน  ทั้งคู่พากันปั่นจักรยานเล่นจนร่างกายรู้สึกชื้นเหงื่อ  ประมาณสามโมงเช้าซอฮยอนก็เอารถจักรยานที่เช่ามาไปคืนและขับรถพาคยูฮยอนไปหาอาหารเช้าทานก่อนกลับเข้าบ้าน

     

    อากาศเย็นๆทำให้ซอฮยอนเลือกเข้าร้านหม้อไฟเพื่อหาอะไรอุ่นๆทาน  เสียงหวานใสพูดเจื้อยแจ้วเหมือนไม่รู้จักเหนื่อยโดยมีคยูฮยอนเป็นฝ่ายรับฟังเสียมากกว่า  ผิดกับสมัยเป็นเด็กลิบลับ  ก็ตอนนั้นน่ะซอฮยอนยังต้องนอนฟังคยูฮยอนพูดตั้งแต่สองทุ่มยันหกโมงเช้าเลยทีเดียว  ส่วนอาร่าน่ะเหรอ  เปิดเพลงใส่หูฟังแล้วก็ชิ่งหลับไปตั้งแต่สามทุ่มแล้วล่ะ

     

    ตอนนั้นก็ยอมรับว่าออกจะรำคาญนิดๆแต่ถ้าเทียบกับตอนนี้ล่ะก็ซอฮยอนว่าคยูฮยอนตอนเด็กๆนั้นน่ารักกว่าตอนไม่พูดแบบนี้เป็นไหนๆ

     

    ซอฮยอนชวนคุยไปเรื่อยๆ  ได้รับคำตอบบ้างไม่ได้รับคำตอบบ้างปะปนกันไปแต่ครูอนุบาลอย่างซอฮยอนก็ใจเย็นพอที่จะค่อยๆให้เวลาคยูฮยอนเพื่อปรับตัวโดยที่ไม่พยายามเร่งรัดจนเกินไป

     

    ช่วงสายๆนั่นแหละที่พวกเขาพากันกลับถึงบ้าน  คยูฮยอนดูท่าทางจะเพลียอยู่ไม่น้อย  คาดว่าเมื่อคืนคงจะนอนดึกเพราะมัวแต่จัดของเข้าที่แถมยังต้องมาตื่นแต่เช้าเพราะพี่สาวขี้เซาอีก  เด็กหนุ่มถึงได้เดินขึ้นห้องนอนไปทันที  ซอฮยอนเองก็กลับเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะลงมานั่งเล่นอยู่บนโซฟาตัวยาวในห้องนั่งเล่น

     

    ตอนแรกก็นอนอ่านหนังสืออยู่ดีๆแต่เพราะอากาศที่เย็นสบายทำให้ซอฮยอนเผลอหลับบนโซฟาโดยไม่รู้ตัว  ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่โทรศัพท์ร้องเสียงดังเพราะมีคนโทรเข้านั่นแหละ

     

    “ว่าไงอาร่า  เดินทางปลอดภัยดีนะ”

     

    [เรียบร้อยดีมากจ๊ะ  แกล่ะเป็นไงบ้าง?  นี่เจ้าตัวยุ่งก่อเรื่องให้ปวดหัวยัง?]  ปลายสายเอ่ยถามเสียงทะเล้น  ดูเหมือนจะเป็นห่วงแต่ก็คล้ายจะล้อเลียนมากกว่า

     

    “อย่ากล่าวหาน้องแบบนั้นซิ”

     

    [จ้าๆ  น้องชายคนโปรดของเธอนี่นะ  แตะต้องไม่ได้เลยว่างั้น  บอกให้พ่อแม่เธอรับเป็นลูกบุญธรรมอีกคนเลยดีกว่า  ไหนๆอีน้องบ้ามันก็รักเธอมากกว่าฉันอยู่แล้วนี่]  อาร่าว่าเป็นเชิงติดตลกมากกว่าจะนึกน้อยใจขึ้นมาจริงๆ

     

    “บ้าแล้วแกน่ะ  แล้วนี่ถึงนานยัง?”

     

    [สักพักใหญ่ๆแล้วล่ะ  นี่ก็กำลังพักกองหาข้าวเที่ยงกิน  แล้วแกล่ะกินอะไรหรือยัง?]

     

    “ฮืม” ซอฮยอนเหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนัง  เกือบบ่ายโมงแล้วนี่นา  นี่เธอเผลอหลับไปนานขนาดนั้นเชียว “ยังเลย  ฉันก็เพิ่งตื่นตอนแกโทรมานี่แหละ”

     

    [งั้นเหรอ?  หาอะไรกินด้วยแล้วกัน  ฉันโทรมาเล่นด้วยเฉยๆ  เดี๋ยวค่ำๆจะโทรหาใหม่ก็แล้วกันนะซอฮยอน]

     

    “อื้ม” วางสายจากอาร่าแล้วซอฮยอนก็เดินตรงไปห้องครัวเพื่อทำอาหารเที่ยง  ตอนนี้คยูฮยอนคงยังไม่ตื่นล่ะซินะ  งั้นเอาไว้ทำกับข้าวเรียบร้อยแล้วค่อยไปปลุกน้องก็แล้วกัน

     

    ซอฮยอนทำผัดผักกับอาหารง่ายๆอีกสองอย่าง  จัดโต๊ะเรียบร้อยกำลังจะเดินขึ้นไปเรียกคยูฮยอนก็พบว่าเด็กหนุ่มเดินลงบันไดมาพอดี  ท่าทางงัวเงียแบบนั้นคงจะเพิ่งตื่นนอนเหมือนกันล่ะซิ

     

    “พี่กำลังจะขึ้นไปเรียกพอดีเลย  ลงมาทานข้าวก่อนซิคยูฮยอน”

     

    เด็กหนุ่มนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับซอฮยอนแล้วจึงเริ่มลงมือทานเงียบๆ  ในขณะที่ซอฮยอนจะชวนคุยบ้างเป็นบางครั้ง  พอจัดการอาหารเที่ยงเสร็จคยูฮยอนก็อาสาล้างจานให้เองแต่ซอฮยอนก็ส่ายหน้าดิกปฏิเสธ

     

    “ไม่ต้องหรอก  จานแค่นี้เองพี่ทำแปบเดียวก็เสร็จแล้ว”

     

    “จานแค่นี้ผมล้างแปบเดียวก็เสร็จเหมือนกันครับ” ถึงแม้น้ำเสียงจะเรียบนิ่งไปซักหน่อยแต่ก็ดื้อรั้นพอตัวอยู่เหมือนกัน

     

    “ไม่เป็นไรจริงๆ  เชื่อพี่เหอะน่า”

     

    “กลัวผมทำจานแตกเหรอครับ”

     

    “ไม่ได้คิดอย่างนั้นซักหน่อย”

     

    “แล้วทำไมไม่ให้ผมล้าง”

     

    “นี่มันงานของผู้หญิง  คยูฮยอนไม่ต้องมาช่วยพี่หรอก”

     

    “แต่ผมไม่อยากเอาเปรียบนี่ครับ  พี่เป็นคนทำกับข้าวให้ทานแล้วยังต้องมาล้างจานให้ผมอีก”

     

    “เป็นคนคิดมากแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันหื้มเรา”

     

    คยูฮยอนไม่ตอบอะไรอีกแต่กลับจ้องหน้าเธอเขม็ง  ซอฮยอนถอนหายใจเบาๆก่อนจะยอมถอยให้ก้าวนึง “ถ้างั้นก็ช่วยกันล้างแล้วกัน”

     

    คยูฮยอนพยักหน้ารับก่อนจะคว้าจานทั้งหมดมาถือไปวางไว้บนซิงค์น้ำ  มือเรียวล้างด้วยน้ำยาล้างจานจนสะอาดก่อนจะยื่นให้ซอฮยอนล้างน้ำเปล่าอีกรอบ

     

    Tttttttttt

     

    เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นทำให้ซอฮยอนต้องผละมือออกมารับโทรศัพท์ครู่หนึ่ง  เหลือเพียงคยูฮยอนคนเดียวที่ยังคงล้างจานอยู่ในห้องครัว

     

    เพล้ง!!!

     

    เสียงแก้วแตกทำให้ซอฮยอนซึ่งรับโทรศัพท์อยู่ห้องรับแขกสะดุ้งไปนิดก่อนจะหันขวับไปยังต้นเสียงทันที  เกิดอะไรขึ้นในห้องครัวหรือเปล่า?  ซอฮยอนบอกปลายสายว่าเดี๋ยวเธอจะโทรกลับทีหลังก่อนจะรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในครัวทันที

     

    จานกระเบื้องสีขาวแตกละเอียดอยู่บนพื้น  พร้อมกับเลือดสีแดงสดที่ไหลย้อยออกมาจากนิ้วเรียวยาวของคยูฮยอน

     

    “คยูฮยอน  เป็นอะไรหรือเปล่า?” ซอฮยอนตกใจที่เห็นรอยเลือดเป็นดวงบนพื้น  นึกเป็นห่วงคนดื้อรั้นที่ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมฟัง  เห็นไหมล่ะ  ได้เรื่องเจ็บตัวเข้าจนได้

     

    “ขอโทษครับ  ผมทำจานพี่แตกจนได้”

     

    “ยังจะมาขอโทษเรื่องนี้อีก  เป็นไงบ้างแสบหรือเปล่า?  ทำไมไม่รีบล้างฟองน้ำยาล้างจานออกจากมือก่อน” ซอฮยอนบ่น  จับมือน้องชายไปที่ซิงค์น้ำเพื่อล้างทำความสะอาด  คยูฮยอนยู่หน้าเพราะความแสบแต่ก็ไม่ได้ร้องออกมา

     

    “แสบแผลมากไหม?” ดวงตากลมใสช้อนขึ้นมองหน้าเขานิดในขณะที่เจ้าตัวกำลังวุ่นกับการดูบาดแผลของเขาอยู่ “เดี๋ยวพี่พาไปทำแผล”

     

    ซอฮยอนกุมข้อมือคยูฮยอนไว้หลวมๆ  พาเดินมานั่งที่โซฟาห้องรับแขกก่อนที่เธอจะไปเอากล่องปฐมพยาบาลมา

     

    มือบางหยิบสำลีก้อนขึ้นมาและเทน้ำยาสีฟ้าสดของแอลกอฮอล์ลงไปจนชุ่ม  พอจะแตะเช็ดเท่านั้นแหละเด็กหนุ่มคนเก่งถึงกับชักแขนหนีเลยทีเดียว

     

    “อยู่นิ่งๆซิ  แบบนี้พี่ทำแผลให้ไม่ถนัดนะ”

     

    “ไม่ทำแล้วได้ไหมครับ?” คยูฮยอนถามเสียงอ่อย

     

    “ไม่ได้!  เดี๋ยวแผลติดเชื้อขึ้นมาจะทำยังไง” ซอฮยอนพยายามจะชักมือคยูฮยอนกลับแต่เด็กหนุ่มก็ยื้อเอาไว้จนสุดกำลังเหมือนกัน “คยูฮยอนอย่าดื้อซิ”

     

    “ก็มันเจ็บนี่นา”

     

    “เด็กน้อยเอ้ยย  ลูกศิษย์พี่ยังไม่งอแงเท่าเราเลยนะตอนวิ่งหกล้มจนเข่าถลอกปอกเปิกแล้วพี่ทำแผลให้น่ะ” คยูฮยอนนิ่งไปทันทีหลังจากที่ได้ยินซอฮยอนพูด  เด็กหนุ่มกำลังชั่งใจตัวเองอย่างหนักว่าควรทำยังไงดี “เอาไงล่ะคยูฮยอน  ถ้าไม่ยอมให้พี่ทำแผลให้ดีๆก็ไปโรงพยาบาลให้หมอทำให้”

     

    “ม่ะ..ไม่เอานะครับ” คยูฮยอนละล่ำละลักบอก  ก่อนจะค่อยๆยื่นมือไปให้ซอฮยอนทำแผลอย่างว่าง่าย (ด้วยความจำใจสุดๆ)

     

    “แสบนิดนึงนะ” ซอฮยอนบอกขณะที่เธอกำลังเช็ดสำลีแอลกอฮอล์ไปรอบๆปากแผลของคยูฮยอน  เด็กหนุ่มหลับตาปี๋เพราะความกลัวก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นเหล่มองทีละนิดเมื่อรู้สึกว่ามันไม่ได้แสบอย่างที่คิด

     

    “ไม่ต้องเอาแอลกอฮอล์ราดลงไปบนแผลเหรอครับ?”

     

    “จะบ้าเหรอ?  ใครบอกเราว่าต้องทำแบบนั้น”

     

    “ก็ผมเห็นในหนังเขาชอบทำแบบนั้นนี่นา  แล้วก็ต้องให้กัดผ้าเอาไว้กันเสียงร้องด้วย”

     

    “เหลวไหลใหญ่แล้ว  ทำแบบนั้นก็แสบตายพอดีกัน  หลังจากล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วก็แค่เอาแอลกอฮอล์เช็ดรอบๆแผลก็พอจ๊ะ  ปิดพลาสเตอร์กันน้ำก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว  นี่ไง  เสร็จล่ะ  ไม่เจ็บเลยใช่ไหมล่ะ?” ซอฮยอนยิ้มอ่อนโยนให้ยามเอ่ยถามเขา  คยูฮยอนพยักหน้ารับช้าๆ

     

    “พี่ซอฮยอนเป็นครูอนุบาลจริงๆเหรอครับ  ผมนึกว่าพี่เป็นพยาบาลซะอีก”

     

    “ถึงไม่ได้เป็นพยาบาลก็เหมือนเป็นล่ะจ๊ะ  นักเรียนของพี่น่ะซนใช่เล่น  ได้แผลกันไม่เว้นแต่ละวันจนพี่ทำแผลพวกนี้ได้คล่องยิ่งว่าสอนเด็กๆท่องเอถึงแซดอีก”

     

    “พี่ซอฮยอนมือเบาขนาดนี้  ถ้าพี่เป็นพยาบาลขึ้นมาจริงๆก็คงดีนะครับ  ผมจะได้ไม่ต้องกลัวการไปโรงพยาบาลอีก” คำพูดของคยูฮยอนทำให้ซฮฮยอนหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ

     

    “โตเป็นหนุ่มขนาดนี้แล้วยังกลัวคุณหมออยู่อีกเหรอเนี่ย?” ซอฮยอนวางมือบนกลุ่มผมหนานุ่มของเด็กหนุ่มก่อนจะลงมือขยี้เบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว  คยูฮยอนนั่งนิ่งอยู่บนโซฟาอย่างไม่มีอะไรทำระหว่างรอให้ซอฮยอนเอากล่องปฐมพยาบาลไปเก็บและจัดการเศษกระเบื้องกับจานชามที่ล้างค้างไว้อยู่

     

    เกือบสิบนาทีซอฮยอนก็เดินกลับเข้ามาในห้องรับแขก  เห็นคยูฮยอนยังคงนั่งนิ่งอยู่บนโซฟาตัวยาวในตำแหน่งเดิมโดยแทบจะไม่ขยับตัว  มือบางกดเปิดโทรทัศน์ขึ้นมาดีกว่าให้นั่งเงียบจ้องหน้าไม่มีอะไรทำกันอยู่สองคน

     

    “คยูฮยอนอยากกินผลไม้ไหมจ๊ะ  เดี๋ยวพี่ไปปอกมาให้”

     

    “ไม่เป็นไรครับ  พี่เพิ่งกลับมานั่งเอง”

     

    “ไม่เป็นไร  คอยเดี๋ยวนึงนะ” พูดจบซอฮยอนก็เดินหายกลับเข้าห้องครัวไปอีกครั้ง  ปล่อยทิ้งคยูฮยอนให้อยู่กับเจ้าหน้าจอยักษ์  มือเรียวกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆอย่างไม่มีอะไรทำก่อนจะหยุดที่ซีรี่ย์เรื่องดังที่เอามาฉายซ้ำเพราะเรตติ้งดีเหลือเกินและที่สำคัญคือเขากำลังติดงอมแงม

     

    ให้ตายเหอะ  คนอย่างท่านโจวลืมได้ยังไงวะ

     

    เพราะมัวแต่สนใจภาพบนหน้าจอจนทำให้ไม่รู้ตัวเลยว่าซอฮยอนกลับมานั่งบนโซฟาเดียวกับเขาเมื่อไหร่

     

    “ติดเรื่องนี้เหมือนกันเหรอเรา  พี่เองก็ชอบมากเหมือนกัน  พระเอกเรื่องนี้เท่ห์สุดๆไปเลย” ซอฮยอนว่าพลางหยิบแอปเปิ้ลที่เพิ่งปอกเสร็จเข้าปาก

     

    “นางเอกที่เป็นเจ้าหญิงรัชทายาทต่างหากล่ะครับที่เด่นที่สุด  ฉลาดแล้วก็เก่งรอบด้านอีกต่างหาก” คยูฮยอนเถียงเบาๆขณะที่ตัวเองก็เอื้อมหยิบผลไม้เข้าปากเหมือนกัน

     

    สุดท้ายทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก  ต่างฝ่ายต่างก็นั่งดูซีรี่ย์เงียบๆด้วยความตั้งใจจนกระทั่งละครจบลงก็เกือบสี่โมงเย็นพอดี

     

    ซอฮยอนลุกเอาจานผลไม้ไปเก็บ  เดินขึ้นไปบนห้องหยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถได้ก็เดินลงมาด้านล่างสั่งความกับคยูฮยอนสั้นๆ “พี่จะไปซุปเปอร์มาร์เกตซักหน่อย  เราอยู่บ้านคนเดียวได้ใช่ไหม?”

     

    “...................” คยูฮยอนไม่ตอบแต่กลับจ้องตาไม่กระพริบ

     

    “หรือว่าอยากไปด้วย?” ซอฮยอนถามอย่างไม่แน่ใจ  คยูฮยอนจึงพยักหน้ารับช้าๆ “งั้นก็มาซิ”

     

    เด็กหนุ่มกดเปิดโทรทัศน์ทันทีพร้อมกับเดินเข้ามาหาซอฮยอนที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว  พวกเขาขับรถออกไปไม่ไกลนักก็ถึงซุปเปอร์มาร์เกตเล็กๆแห่งหนึ่ง 

     

    “วันนี้อยากกินอะไรคยูฮยอน?”

     

    “อะไรก็ได้ครับ”

     

    “ไม่เอาซิ  แบบนั้นพี่ไม่รู้หรอกนะว่าเราชอบไม่ชอบกินอะไร  เลือกมาซักเมนูเร็วๆเข้า”

     

    “ถ้าอย่างนั้นสปาเกตตี้ก็ได้ครับ”

     

    “ชอบกินเหรอ?”

     

    “ครับ”

     

    “งั้นก็ทำสปาเกตตี้กันเถอะ”

     

    ซอฮยอนเลือกของใส่รถโดยที่มีคยูฮยอนเข็นตามหลังอยู่ไม่ห่าง  มีบ้างบางครั้งที่เธอหันมาถามว่าเขาชอบกินอันนี้ไหมหรือชอบกินแบบไหนมากกว่ากัน  จนกระทั่งได้ของครบตามก็ต้องการก็กินเวลาไปห้าโมงเย็นกว่าๆแล้ว

     

    พอกลับถึงบ้านคยูฮยอนอาสาถือของไปให้ในครัวให้  แถมยังดึงดันจะช่วยซอฮยอนทำให้ได้ทั้งที่บอกแล้วว่าตัวเองน่ะเจ็บมืออยู่  สุดท้ายซอฮยอนครูอนุบาลผู้ใจดีก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความเอาแต่ใจของเด็กหนุ่มรุ่นน้องซึ่งมีอายุห่างกันถึงสิบสองปีจนได้

     

    แต่ถึงอย่างนั้นซอฮยอนก็ชอบใจไม่หยอกตอนจับคยูฮยอนใส่ผ้ากันเปื้อนลายน้องหมีสีชมพูของอาร่า  ร่างบางหัวเราะคิกคักกับตัวเองจนคนถูกมองหน้ามุ่ย  ก็เลยต้องกลั้นขำจนตัวสั่นงันงกไปหมด  โจวคยูฮยอนก็ดูอารมณ์เสียกว่าเดิมอีก

     

    “ไปล้างผักกับกุ้งให้พี่ก่อนแล้วกัน” พอทำใจให้หยุดหัวเราะได้ซอฮยอนก็ออกปากบอกคยูฮยอนที่ยืนมองหน้าเธอนิ่งเพราะไม่รู้จะเริ่มทำอะไรก่อนหลังดี

     

    “ครับ”

     

    “อ้อ!

     

    “ครับ?”

     

    “ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำนะ  เดี๋ยวอักเสบขึ้นมาล่ะเป็นเรื่องเลย” ซอฮยอนบอกอย่างเป็นห่วง  คยูฮยอนพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้แล้วเขาก็หันไปให้ความสนใจกับผักและกุ้งตรงหน้าต่อ

     

    ซอฮยอนต้มน้ำจนเดือดก่อนจะใส่เส้นสปาเกตตี้ลงไปลวก  คยูฮยอนเห็นเธอทำท่าทางแปลกๆก็อดถามด้วยความสงสัยไม่ได้ (ต้องเข้าใจนะว่าคุณชายเธอไม่เคยลงมือทำกับข้าวเองเลยซักครั้ง)

     

    “พี่ทำอะไรอยู่ครับ?”

     

    “ทดสอบไงจ๊ะ”

     

    “ด้วยการปาเส้นสปาเกตตี้ใส่ผนังเนี่ยเหรอครับ?”

     

    “ใช่แล้วล่ะ  ถ้าเส้นมันสุกพอดีแล้วมันจะติดกับฝาผนังยังไงล่ะ  เห็นไหม  ตอนนี้เราก็เอาเส้นลงได้แล้วล่ะนะ” ซอฮยอนว่าพร้อมกับคีบสปาเกตตี้ใส่ชามใบใหญ่แล้วจึงค่อยลงมือทำซอสราดสปาเกตตี้

     

    “ล้างเท่านี้พอหรือยังครับ”

     

    “พอแล้วล่ะคยูฮยอน  ทีนี้ก็เอามาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆนะ  ไหวไหม?” ซอฮยอนมองเด็กหนุ่มอย่างประเมิน  (คนอย่างท่านโจวน่ะใครก็ห้ามดูถูกนะจะบอกให้)  คยูฮยอนรีบเอาผักที่ตัวเองเพิ่งล้างเสร็จขึ้นมาหั่นทันที

     

    “ระวังมีดด้วยนะ”

     

    “โอ้ย!!” พูดไม่ทันขาดคำนิ้วเรียวก็ถูกคมมีดบาดเนื้อเข้าจริงๆ  ซอฮยอนปิดเตาแก็สลงแล้วรีบวิ่งมาดูทันที  เห็นเด็กหนุ่มซี้ดปากแล้วอดเหนื่อยใจไม่ได้  ก็เพิ่งบอกไปหยกๆ

     

    “ไม่ต้องทำแล้ว  เดี๋ยวเย็นนี้ก็ได้กินสปาเกตตี้ซอสเลือดพอดีกัน  พี่ว่าเราไปทำแผลแล้วนั่งรอพี่ที่โต๊ะทานข้าวดีกว่านะ”

     

    “ผมอยากช่วย”

     

    “เจ็บตัวแล้วยังจะดื้ออีกนะเรา” ซอฮยอนเผลอหยิกแก้มนุ่มของคยูฮยอนเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว  เห็นว่าขัดใจคนเป็นพี่ไม่ได้เด็กหนุ่มจึงเดินหน้ามุ่ยไปทำแผลให้ตัวเองและกลับมานั่งรอที่โต๊ะอย่างว่าง่ายทันที

     

    “คยูฮยอนชอบกินกุ้งไหมจ๊ะ?”

     

    “ครับ”

     

    “งั้นพี่ใส่ลงไปเยอะๆเลยแล้วกัน”

     

    “แล้วผักล่ะ?”

     

    “ผมไม่ชอบกินผักครับ”

     

    “งั้นพี่ใส่ลงไปเยอะๆเลยแล้วกัน”

     

    อ้าว!!!

     

    นั่งแกร่วรอเพราะไม่มีอะไรทำอยู่ได้ไม่นานซอฮยอนก็ยกสปาเกตตี้กลิ่นหอมฉุยเข้ามาเสิร์ฟให้ถึงที่  คยูฮยอนจัดโต๊ะรอก่อนหน้านี้แล้ว  พวกเขาทั้งคู่จึงลงมือทานอาหารค่ำด้วยกันทันที

     

    “เป็นไงมั่ง” ซอฮยอนถามอย่างลุ้นๆตอนเห็นคยูฮยอนกินเข้าไปแล้วทำหน้าตาประหลาดๆใส่ “แย่ขนาดนั้นเชียว”

     

    “อร่อยดีต่างหากครับ” คยูฮยอนยิ้มแฉ่งออกมา  ส่วนซอฮยอนก็ตีเบาๆที่ต้นแขนเด็กหนุ่มข้อหาจงใจแกล้งให้เธอใจเสียเล่น  แทนที่จะสำนึกบ้างแต่คยูฮยอนกลับกลั้นยิ้มจนแก้มป่อง

     

    “งั้นก็ทานเยอะๆนะคะ”

     

    คยูฮยอนแอบเขี่ยผักไปไว้มุมจานเงียบๆแต่ก็ถูกสายตาอันเฉียบคมของครูอนูบาลผู้รู้ทันเพ่งเล็งเอาไว้อยู่แล้ว “คยูฮยอนทำไมไม่กินผัก”

     

    “ผมไม่ชอบนี่”

     

    “ผักมีประโยชน์นะรู้ไหม  เราต้องกินเยอะๆซิ  ยิ่งอยู่ช่วงวัยกำลังโตแบบนี้ด้วย”

     

    “ผมรู้แต่ผมไม่ชอบกินอยู่ดี”

     

    “ลองกินดูหน่อยนะรับรองไม่ขมหรอก  แครอทที่หั่นเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็กๆก่อนก็ได้” เพราะทนคำคะยั้นคะยอบวกกับสายตาวิบวับคู่นั้นไม่ได้  คยูฮยอนจึงจำใจต้องลงมือทานอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

     

    “โอ๊ะ”

     

    “เป็นไง  ไม่ขมเลยใช่ไหมล่ะ?”

     

    “พี่ทำได้ไงครับ”

     

    “อย่าลืมซิว่าพี่เป็นครูอนุบาลนะ  วิธีจัดการกับเด็กน้อยที่งอแงเพราะไม่ชอบกินผักแบบเราน่ะพี่มีอยู่เพียบเลยล่ะ”

     

    “ถ้าผมกินผักจนหมดจานนี่ต้องได้ดาวอะไรเทือกนั้นด้วยหรือเปล่าครับ” คยูฮยอนถามกลั้วหัวเราะ

     

    “คยูฮยอนอยากได้ดาวเหรอ?” ซอฮยอนถามหน้าซื่อตาใส

     

    ผมประชดครับ!!

     

    “ถ้าอยากได้ดาวก็ต้องกินให้หมดนะ  นักเรียนพี่ถ้าสะสมดาวได้ครบสิบดวงเขาจะได้ขนมเป็นรางวัลด้วยล่ะ”

     

    “แล้วถ้าผมได้ดาวครบสิบดวงผมจะได้รางวัลหรือเปล่าครับ?”

     

    “ฮื้อ?  อยากได้ขนมเหรอเรา?”

     

    “เปล่าครับ  ไม่ได้อยากได้ขนมแต่อยากได้รางวัล”

     

    “เด็กน้อยจริงๆ”

     

    “แล้วให้ได้หรือเปล่าล่ะครับ?”

     

    “ได้ซิ  คยูฮยอนอยากได้อะไรล่ะ”

     

    “เอาไว้ผมจะบอกทีหลังแล้วกันนะครับ” ซอฮยอนยิ้มบางพยักหน้ารับรู้ก่อนที่เธอจะก้มลงไปจัดการกับสปาเกตตี้เส้นหนานุ่มต่อโดยที่ไม่ทันเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเด็กหนุ่มที่นั่งทานอยู่ฝั่งตรงข้าม

     

    แล้วอย่ามานึกเสียใจที่จะให้รางวัลเด็กน้อยคนนี้ซะล่ะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk

    เอ๊ะ!  อิน้องคิยูนี่มันอะไรยังไง

    การกระทำและคำพูดแลดูทะแม่งๆ

    อยากรู้อ่ะดิ  ติดตามตอนต่อไปซิจ๊ะ

    คัมซานีดา  อันยอง (โบกมือรัวๆ)

     

     

     

     

    B B 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×