ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BTS X YOU 18+ Both Love Both Hate {ทั้งรักทั้งเกลียด}

    ลำดับตอนที่ #6 : EP 6 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 61








     "จะกลับตอนไหน มันดึกแล้วนะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง"



    คุณหมอคิม ที่เวลางานหมดแล้ว กำลังถามน้องสาว ที่เอาแต่นั่งจ้องคนป่วยบนเตียงทั้งวันไม่ยอมพูดจาอะไร  ไม่ยอมลุกไปไหนอีกต่างหาก 



    "หิวข้าวมั้ย? จะทุ่มแล้วนะ  เด็กสองคนนั้นก็กลับไปแล้ว"



    ก็อย่างเคยเธอไม่ตอบอะไร  แต่ดูเหมือนว่า คุณหมอคิม จะใส่ใจน้องสาวมากกว่าปกตินะ หากคนอื่นมาเห็นคงลดทิฐิเรื่องที่ว่าหมอเย็นชาก็เป็นได้

    คนป่วยที่นอนอยู่บนเตียงก็หลับทั้งวัน หลังจากไม่มีใครตอบรับคำพูด 
    ส่วนเธอก็สามารถเงียบได้ทั้งวันเช่นกัน



    "เค้ายังไม่ได้กินข้าวเลย"


      
    เธอคงเป็นห่วงเขามากแน่ๆ ถึงขั้นไม่ยอมไปไหนเพราะเขาไม่ตื่นขึ้นมาทานข้าว



    "ดูเธอจะห่วงเค้ามากเลยนะ  แฟนเหรอ  ตั้งแต่วันก่อนแล้ว"



    เธอตอบเรื่องสถานะได้นะ  แต่ความรู้สึกที่มีเธอตอบไม่ได้  ก็ทำเป็นนิ่งไป ทั้งที่คำถามจากพี่ชายกวนใจเธอมากในตอนนี้



    "กลับเถอะ  เค้าไม่เป็นไรหรอก  พี่ให้พยาบาลพิเศษมาเฝ้า  เธอยิ่งทำแบบนี้เค้ายิ่งอันตรายนะ"



    นั่นนะสิ ที่ต้องมานั่งรู้สึกผิด ก็เพราะตัวเองเป็นต้นเหตุ  หากไม่ยุ่งเรื่องของคนอื่น ก็ไม่ต้องมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้  เธอควรจะอยู่เป็นหนังหุ้มกระดูกเดินได้อย่างเคยละดีแล้ว นั่นคือสิ่งที่เธอกำลังคิด 
    ยุนกิโหดร้ายเกินไปสำหรับคนอื่น ข้อมือที่เคล็ดก็ยังไม่หายดี เจ็บจากน้องไม่พอยังมาเจอพี่ซ้ำ








    "จะไปไหน"



    หมอคิมเอ่ยทักคนที่อยู่ดีๆก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปทางประตูไม่บอกไม่กล่าว 



    "เห้อ!เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยแบบนี้สักทีนะ ยุนนา"



    คุณหมอคิมสายหัวให้กับอารมณ์ขึ้นๆลงๆของน้องสาวที่เงียบจนเดาอารมณ์ไม่ถูก 
    จะทำไงได้ก็ต้องเดินตามออกไปนะสิ





    --------------------------------------






    "จะเอาจริงๆเหรอ"



    เสียงเล็ดลอดออกมาจากใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ภาพที่เห็นตอนนี้ผ้าห่มกำลังกระดุกกระดิกไปด้วย 


    "อืม"


    มีอีกน้ำเสียงที่ฟังดูเศร้าตอบกลับเสียงแรก 


    "โอเค. เอาที่คุณสบายใจแล้วกัน"


    สิ้นคำพูดก็เลิกผ้าห่มที่คุมโปรงออก ลดลงไว้ที่หน้าอกของตน และอีกคนที่นอนข้างๆทำตาม 
     

    "ผมไม่ว่าอะไรหรอกนะ  แต่ผมขอร้องละ  คุณไปอาบน้ำก่อนเถอะโคตรเหม็นเลย"


    ไม่พูดเปล่า ใช้มือดันคนนอนข้างๆให้ออกห่าง



    "ผมไม่ได้รังเกลียดเพื่อนหรอกนะ ถ้าจะมานอนค้างด้วย แต่ผมว่าคุณควรไปชำระร่างกายของคุณซะหน่อยนะคุณโฮซอก"



    โฮซอกจริงๆเลย เหงื่อท่วมตัวมาทั้งวันยังมีหน้ามาหมกในผ้าห่มคนอื่นอีก จองกุกไม่ได้อะไรหรอก  แต่กลิ่นแค่ไม่ไหว 



    "เจ้  ไม่อาบฉันก็ไม่อาบหรอกจองกุก"



    น้ำเสียงมีสั่นเครือเล็กน้อย  และไปรู้ได้ไงว่าคนอื่นจะสกปรกเหมือนกับตัวเอง
    จองกุกละปวดหัวจริงๆ  อินมากเกินไปแล้วจองโฮซอก  เอือมจนไม่มีคำบรรยาย  


    "ก่อนที่คุณจะเศร้า  คุณก็ไปซะ"


    โฮซอก หันมาเบะปากน้อยใจ กระพริบตาปริบปริบ ใส่จองกุกทันที



    "ไปอาบน้ำก่อนเถอะ  ผมขอร้อง"



    ยกมือไหว้อีกต่างหาก  สุดท้ายก็ยอมไปแต่โดยดี ไม่ไปดูสิ ไล่กลับบ้านอย่างเดียว





    --------------------------------------




    ในรถ 



    "จะไม่กลับจริงๆเหรอ  เดี๋ยวยุนกิก็พลิกแผ่นดินหาอีกหรอก"


    เขาไม่ได้ไล่ แค่เพียงควรทำสิ่งในที่ควร  ถ้าเป็นไปได้เขาอยากให้ยุนนา ไปอยู่กับเขาถาวรเลยด้วยซ้ำ  แต่ก็ไม่ได้  ปัญหามันต้องมากมายแน่นอน  เขาคงแก้ไม่ได้อีกตามเคย



    "พี่จะถามอีกครั้งนะ  ก่อนพี่จะเลี้ยวรถเข้าคอนโด  ไม่กลับจริงๆใช่มั้ย"


    ยุนนาเริ่มสับสน  เธอไม่รู้จะเลือกทางไหน  หากกลับ ก็ไม่อยากเห็นหน้า พี่ชายที่ไล่ตนออกมา แถมดูถูกไว้อีกเยอะ  แต่ถ้าหาก  ไปนอนค้างบ้านพี่ชายอีกคนก็ต้องเกิดเรื่องแน่ๆ  เขาสองคนถูกคอกันซะที่ไหน 

    แต่ความเกลียดมันมากกว่า ก็ช่วยไม่ได้


    "อืม!"

    เธอยังคงก้มหน้า และตอบตกลงเพียงคำสั้นๆ  หากเธอเลือกแล้ว ผู้เป็นพี่ก็ไม่อยากบังคับ  

    'เอาก็เอาเพื่อความสุขของน้อง'

    หมอคิมที่ตอนนี้กลายเป็นซอกจินคนธรรมดาทั่วไป ก็เลี้ยวหัวรถเข้าคอนโดหรูทันที 


    เเชะ! แชะ!


     



    -----------------------------------





    โรงพยาบาล มินอินเตอร์




    ห้องพิเศษ 

    ___วี




    "วันนี้คุณพยาบาล. มาเฝ้าผมทั้งวันเลยเหรอครับ"


    ฮึ! พยาบาลสาวเลิกคิ้วตกใจเล็กน้อย พร้อมลดลูกประคบที่ตาของคนถามลง 
    เธอทบทวนกับตัวเองสักพักก่อนจะตอบออกไป


    "อือ!ไม่นะคะ  ฉันเพิ่งมา  ฉันเข้าเวรกะดึกค่ะ  ทำไมหรอคะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า??"

    เธอตอบและอมยิ้มไปด้วย พลางนำลูกประคบประทับเปลือกตาแทฮยองไปด้วยอีกครั้ง
    พยาบาลตอบแบบนี้ ยิ่งทำให้เขาสงสัยหาคำตอบไม่ได้ แล้วใครละ  คนที่ดูแลเขาทั้งวันคือใคร  
     แต่ไม่เป็นไร อีกไม่นานตาของเขาต้องดีขึ้นแน่




    "คุณพยาบาลครับ  มีวิธีไหนมั้ยครับ. ที่ตาและร่างกายของผมจะหายเป็นปกติ"




    "เปลือกตา หากประคบบ่อยๆ พรุ่งนี้ก็พอมองเห็นได้แล้วละค่ะ แต่ เอ่อ!......รอยช้ำตามร่างกายคงอีกสองสามอาทิตย์เลยค่ะ  ดีนะคุณแค่ช้ำ. ไม่ถึงซี่โครงหัก. ถ้าเป็นแบบนั้น คุณคงคุยกับฉันไม่ได้แบบนี้หรอกค่ะ หึ!หึ!"


    "นั่นสิครับ. ขอบคุณมากนะครับ"



    แทฮยองยิ้มให้กับพยาบาล พยาบาลก็ยิ้มตอบ แทฮยองไม่เห็นหรอกแต่เขารับรู้ได้




    "ฉันว่า คุณควรจะไปขอบคุณ คุณหมอคิมมากกว่านะคะ  ฉันไม่เคยทำงานแผนกเดียวกันกับเค้าเลย ทุกวันฉันได้ยินแต่คนนินทาทั้งวัน  ไอ้ชาเย็น ไอ้หน้าตาย  หมอหมาบ้างละ ตอนแรกฉันก็คิดแบบนั้นนะคะ แต่พอคุณหมอมาขอให้ฉันดูแลคุณ ฉันก็เริ่ม เห็นอีกด้านที่ดีของเค้า"




    "คุณพูดแบบนี้ คุณชอบหมอเค้าใช่มั้ยละ ฮั่นแน่! ผมรู้นะ"


    แทฮยองเอ่ยแซวอย่างรู้ทัน  พยาบาลถึงกลับมือไม้อ่อนไปเลย ยืนตัวบิดไปบิดมา




    "ก็......คุณหมอคิมหล่อนิคะ  อิอิ!"



    แทฮยองฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม แต่ต้องซี๊ดปากอย่างเเรงด้วยความเจ็บ แผลมุมปากยังไม่หายเลย



    "เสร็จแล้วค่ะ. คุณพักผ่อนเถอะ ฉันขอตัวนะคะ"


    "ครับ"



    เมื่อทุกอย่างกลับมาเงียบสงบ แทฮยองก็กลับเข้าสู่พะวงอีกครั้ง 

    "เธอเป็นใครกันนะ  พรุ่งนี้เธอจะมามั้ย???"









    -------------------------------------








    Good morning

         (*^▽^*)





    ซอกจินที่นั่งจิบกาแฟ ในห้องครัวพลางมองน้องสาวด้วยความแปลกใจนิดๆ กับการแต่งตัวของเธอ




    "ไม่ไปโรงเรียนเหรอ"




    "ไป"



    เธอตอบหน้านิ่งๆ เหมือนไม่รู้สึกแปลกใจที่พี่ชายมองตั้งแต่หัวจรดเท้า 
    เธอเดินมานั่งเก้าอี้ตรงข้าม พร้อมกับเปิดฝาขวดนมออก และยกกระดกดื่ม

    ซอกจินถึงจะจิบกาแฟไม่เลิก แต่สายตาชวนสงสัยก็ยังมองน้องอยู่
    จนคนเป็นน้องเริ่มหงุดหงิด 



     (͡๏̯͡๏)??
     ‎
    "อะไร"



    "ชุดนักเรียนล่ะ"



    "ก็เมื่อวานมาชุดนี้ ก็ต้องใส่ชุดนี้สิ!"



    "เมื่อวานไม่อาบน้ำใช่มั้ย?"



    ซอกจินเริ่มมีสีหน้าแหยๆขึ้นมา  
    รู้ทันอีก ยุนนาถึงกับมองบน 



    "อืม"



    "ย่าห์  ที่นอนพี่ต้องเหม็นแน่ๆเลย  อุส่ายกห้องให้นอน  เธอจะสกปรกไปถึงไหน  ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เปลี่ยนเลย"


    หาได้สะทกสะท้าน  เธอไม่สนใจสักนิด จับขวดนม ยกกระดกอีกหน้าตาเฉย 



    "ไอ้เครื่องในเธอละอย่าบอกนะว่าไม่ได้ใส่"



    หยาบคายไม่ใส่ก็โล่งนะสิ 



    "ก็ตัวเมื่อวานนะแหละ"



    โอ้ย!ซอกจินอยากตาย  เป็นสาวเป็นแส้ทำไมไม่รู้จักรักษาความสะอาดตัวเองเลย 



    "หยุดมองได้แล้วน่า  ไปเรียนไปเอาความรู้ ไม่ได้ไปแต่งตัวแข่งใคร"



    "แล้วเมื่อเช้าอาบน้ำล้างหน้าแปลงฟันมั้ย"



    จนตอนนี้ก็ยังไม่หยุดยิงคำถาม  เห็นน้องเป็นคนยังไงเนี่ย


    "เลิกพล่ามดิ  รำคาญ เรียบร้อยแล้ว พูดมาก"


    ยุนนาตอบเสียงห้วนด้วยความรำคาญและอายนิดๆ ส่วนซอกจินยังคงทำหน้าแหยไม่เลิก  

    'น้องกูเหรอวะเนี่ย'







    --------------------------------------







    ฝั่งโฮซอกกับจองกุก



    "ผมว่า  คุณ........ ไปเปลี่ยนชุดดีมั้ย?"


    จองกุกมีสีหน้าเอือมหน่อยๆ ที่มองโฮซอก เห็นแล้วก็อยากมุดแผ่นดินหนี 
    คนทั้งโรงเรียนก็จับจ้องอีก บ้างก็แอบยิ้มขำ บ้างก็ทำหน้าเอือมเหมือนที่จองกุกทำ



    "ก็ฉันไม่ได้ซักชุดนักเรียนไง แค่ยืมสูทมาใส่หน่อยทำเป็นบ่น  โฮะ!!อะไรวะ"



    จองกุกจะไม่ว่าเลย หากใส่ไปออกงานสังสรรค์ รวมนักธุรกิจ แต่นี่มาโรงเรียน ดูยังกับมาเป็นครูสอนซะเอง 
     ดูท่าแล้วจะภูมิใจกับรัศมีตัวเองซะเหลือเกิน  ไอ้ดูดีก็ดูดี แต่ มันไม่ควรจะใช่ที่โรงเรียนปะวะ???



    "ใส่มาแล้วจะให้ทำไงวะ  นายต้องเข้าใจว่านายมีเพื่อนหล่อ"



    พูดไม่อายเลย หลงตัวเองชะมัด  และทั้งสองก็ยืนรอยุนนาที่หน้าโรงเรียนต่อ 
    ผ่านไปสิบกว่านาที ดูเหมือนว่ารถที่มาส่งพวกเขาหน้าโรงเรียนเมื่อวานตอนเลิกเรียน กำลังจอดให้ใครบางคนลงมา 
    และก็เป็นยุนนาที่เปิดประตูแล้วเดินลงมา 
    จองกุกเห็นก็เข้าใจในทันที  เมื่อเห็นชุดที่ยุนนาใส่ จงรักภัคดีมากจองโฮซอก 



    "เหมือนกัน วจริงๆ   นัดกันไว้ละสิ คุณคงจะชอบคุณยุนนามาก  ผมขอกลับคำพูดเมื่อคืนด้วย"



    จองกุกเหมือนพูดอยู่คนเดียว เพราะโฮซอกยิ้มหน้าบานให้กับยุนนาโดยไม่สนใจเขา 
    แถมเดินเข้าไปในโรงเรียนไม่เรียกจองกุกอีกต่างหาก 
    โฮซอกก็เดินตามหลังเหมือนหมาตามเจ้านายไม่มีผิด






    -----------------------------------






    แผนกฉุกเฉินและอุบัติเหตุ
    (Emergency room)




    "อะไรนะ  คุณพูดใหม่สิ คุณหมอซง"




    หมอคิมถึงกับตะคอกถาม เสียงดังลั่นทั่วห้องฉุกเฉิน ด้วยความโมโห ให้กับหมออีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขามองกลับมาหาหมอคิมด้วยสายตากวนๆ



    "ก็ผมนอนอยู่  ผมเลยรักษาให้ไม่ทัน  คุณจะโวยวายอะไร ทุกคนมองอยู่คุณไม่เห็นเหรอ"



    เขาเถียงอย่างไม่มีความสำนึกผิด คุณหมอซง เป็นหมอใหญ่คนละกะกับหมอคิม และเมื่อคืนเขาก็ทำเรื่องที่ผิดจรรยาบรรณ เป็นความผิดที่ไม่อาจให้อภัยได้ บุรุษพยาบาลและพยาบาลก็ต่างไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติหน้าที่ของเขา 



    "คุณจะนอนอะไรนักหนา  ตอนเช้าเลิกงานคุณไม่หลับไม่นอนเลยรึไง  คุณเคยถามตัวเองมั้ยว่ามาเป็นหมอทำไม"




    "ย่าห์! ยังไงเค้าก็ตายไปแล้วคุณจะเอาอะไรกับผมนักหนา"



    ทุกคนที่ได้ยินเอือมละอากับคำตอบของเขาจริงๆ  คิดว่าพ่อแม่ถือหุ้นอยู่ในโรงพยาบาลด้วยจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ



    "ผมจะไม่ไหวกับคุณแล้วนะ  คุณไปลาออกเถอะ. โรงพยาบาลจะได้เจริญขึ้น"



    หมอคิมหมดคำพูดแล้วจริงๆ มันหลายครั้งแล้ว เขาพลางชี้นิ้วไปทางประตูด้วย 
    แต่หมอซง กลับไม่ได้รู้สึกกลัวหรือกังวนอะไรเลย เขาก็รู้คนทั้งโรงพยาบาลก็รู้ว่าหมอคิม เป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาล 



    "โถ่! ไอ้ลูกเมียน้อย"


    ผลั้ว!

    หมอคิมง้างหมัดซัดเข้าไปที่ปากของคนว่าตนทันที เพียงแค่หมัดเดียวทั้งสองก็กู่เข้าหากัน เกิดการต่อสู้ตัวต่อตัวทันใด ทุกคนในห้องต่างยืนมองด้วยความตกใจ  หมอคิมใส่ไม่ยั้ง จนหมอซงต้องเสียหลักนอนหงายราบไปกองที่พื้น หมอคิมผู้ได้เปรียบนั่งค่อมที่อกของหมอซง เขารัวหมัดไม่ยั้งเข้าไปที่หน้าอีกหลายครั้ง
    ด่าเขาได้แต่อย่าถึงบุพการี ไม่มีใครกล้าห้าม จนตอนนี้หน้าของหมอซงอาบไปด้วยน้ำสีแดงที่ซึมออกมาตามผิวหนังและย้อยออกมาทางปาก

    เขาระบายจนสมใจแล้วจึงลุกขึ้นออกจากอกที่ไม่มีหัวใจนั่น 
    เขาใช้นิ้วชี้ ชี้ไปที่หน้าของคนที่นอนจมอยู่กับเลือดด้วยความเจ็บปวด



    "คุณจำไว้นะ  ผมไม่ใช่ลูกเมียน้อย  แม่ผมไม่เคยไปแย่งของๆใคร ออกจากโรงพยาบาลของผมไปด้วย"



    เขาเตือนด้วยเสียงที่อ่อนล้า ก่อนจะเดินออกจากห้องฉุกเฉินไป ได้ยินคนพูดถึงแม่ทีไรแขนขาของเขาแทบจะไม่มีแรง เขารู้สึกเคว้งคว้าง ไร้ซึ่งทางออก เขาจะแก้คำครหาเรื่องนี้ให้แม่ได้ยังไง  ทุกคนคิดว่าแม่ของเขาเป็นคนไม่ดีไปแล้ว  



    "มุงอะไร ไปทำงานสิวะ "



    หมอซงที่นอนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย เมื่อพยุงตัวขึ้นได้ก็แหกปากไล่ทุกคนไป  เพราะเขาอายมาก อายที่โดนหมอคิมต่อย 
    สายตาของเขาที่มองตามหลังหมอคิมก็เต็มไปด้วยความแค้น



    "มึง............ได้เจอกับกูแน่ คิมซอกจิน"


                            70%

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ..
    .
    .
    .
    .


    หมอคิมเดินหนีออกจากตรงนั้นให้ไวที่สุดเท่าที่ขาจะเร่งได้ หากอยู่นานกว่านี้เขาต้องฆ่า ไอ้หมอซงตายแน่นอน อย่าลืมนะว่าเขาลูกใคร  
    เขาเดินหัวเสียมาหน้าลิฟต์ ก่อนจะกดหมายเลขชั้นที่ต้องการ รอสักพักลิฟต์ก็เปิด  




    ห้องพิเศษ

    ___วี


    เสียงเปิดประตูเข้ามาทำให้ผู้ป่วยที่นอนเปิดทีวีดูสะดุ้งตกใจเล็กน้อย
    เปลือกตาของเขายุบลงมาก รอยช้ำแทบมองไม่เห็น ก็เขาพยายามอย่างมาก ตลอดทั้งคืน เขาขอให้พยาบาลนำลูกประคบมาให้ แทฮยองนั่งประคบทั้งคืนจนหายเกือบดี 

    เมื่อเห็นหมอเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆเขาก็รีบเด้งตัวขึ้นและวางรีโมทลง แทฮยองสังเกตเห็นสีหน้าหมอ ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ เลยทำตัวเกร็งหน่อยนึง


    "ทำไมวันนี้มาหาผมแต่เช้าเลยละครับ"


    คุณหมอคิมไม่ตอบอะไร แต่เขาเช็คแผลของแทฮยองแทน 


    "ใบหน้าคุณตอนนี้ก็โอเคขึ้นแล้วนะ เรื่องช้ำในก็ค่อยๆรักษาไปแล้วกันนะครับ อาจจะใช้เวลาก็ทนหน่อยน่ะครับ "


    แทฮยองพยักหน้ายิ้มรับ แต่คุณหมอทำไมไม่ยิ้มดีใจกับคนป่วยของตัวเองเลยละ


    "เอ่อ!หมอครับ ผมจะได้ออกจากโรงพยาบาลวันไหนครับ"



    "เมื่อคุณต้องการ"


    "งั้น..........ผมขอออกวันนี้เลยได้มั้ยครับ"


    "คุณไหวเหรอ คุณพึ่งพักฟื้นได้สองสามวันเองนะครับ ผมไม่อนุญาติ"


    "ผมต้องทำงานนะครับหมอ"

    แทฮยองมีสีหน้ากังวน เพราะเขาไม่ได้หาเงินมาหลายวัน โทรศัพท์แบตก็หมด  หมดตั้งแต่ให้หมอกดโทรหาคนชื่อม่อนเมื่อวันก่อนที่มาโรงพยาบาล




    "ฉันรู้นะ นายทำงานอะไร"



    แทฮยองตกใจ ทำตัวลนลานอย่างเห็นได้ชัด ต่อหน้าหมอคิม ที่ยืนจ้องอยู่ 



    "นายออกมาตอนนี้ก็ยังไม่สาย ผู้ชายคนนั้นที่นายเรียกว่าพี่ม่อน เขาไม่ได้เป็นเอเย่นอย่างที่นายคิดหรอก นายระวังตัวไว้ด้วย"



    ม่อนที่ว่าก็คือนัมจุนน้องชายเขาเองนั้นแหละ  หมอคิมรู้ทุกอย่างในสิ่งที่คนเป็นพ่อทำร่วมกับน้องชาย เขาขอไม่ยุ่งเลยกลายเป็นคนทรยศไปโดยปริยาย 


    "นายควรหางานสุจริตทำ  ฉันเสียดายน่าตาของนาย"

    พูดแบบนี้แทฮยองก็เขินนะสิ


    "หมอคิดอะไรกับผมปะเนี่ย"


    "ฉันเพื่อนเล่นนายหรือไง"


    "อุ้ย!!ขอโทษครับ"








    --------------------------------------





    วันนี้โรงเรียนเงียบเป็นป่าช้าอีกแล้ว ทุกคนทำเหมือนกับไว้อาลัยทำใจสงบ  แต่ โฮซอกกลับดูร่าเริงและตั้งใจเรียนมากกว่าปกติ  ส่วนยุนนาของเราก็เหมือนเคยฟุ๊ปหน้าบนโต๊ะหลับไม่หลับหารู้ได้  



    PART YOONNA 

    สมองและหัวใจฉันมันรวนไปหมด มีหลายคำถามที่หาคำตอบไม่ได้สักที เรื่องราวต่างๆในชีวิตของฉันมันยุ่งเหยินจนหาทางออกไม่เจอ ยิ่งฉันย่างก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งวุ่นวาย นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ฉันไม่ยอมเรียนให้มันจบๆ ฉันไม่อยากเป็นผู้ใหญ่  โลกของคนโต มีแต่ความหลอกลวง ไม่มีความจริงใจ ทุกสิ่งทุกอย่างคือธุรกิจ แม้แต่ตัวฉันเอง  
    ฉันเบื่อประเทศนี้ ฉันไม่อยากแข่งขันกับใคร 

    รู้สึกเหมือนว่า ตอนนี้ในห้องจะเงียบกว่าปกตินะ ฉันเลยมองนาฬิกาที่ข้อมือ ก็เห็นว่าเข็มยาวกับเข็มสั้น มันหยุดที่เลขสิบสอง ทุกคนคงออกไปพักกลางวันกันแล้ว  ฉันหิวนะแต่ไม่อยากไปที่โรงอาหารเลย ฉันไม่ชอบที่ทุกคนก้มหัวให้ฉันทั้งๆที่ฉันมันไม่มีความหน้าเคารพและเกียรตินั่นเลย ฉันไม่ได้ต้องการให้ใครอึดอัด รวมถึงตัวฉันด้วย แต่ถ้าจองกุกมาพูดก่อกวนฉันก็ต้องไปใช่มั้ย??

    มีอีกคนที่ฉันยอมรับใจเค้ามากๆ ก็คือโฮซอก ไม่ว่าฉันจะทำอะไร เค้าคือคนแรกที่สนับสนุนฉัน และคอยอยู่เคียงข้างไม่ไปไหน เค้ามีแต่เสียงหัวเราะให้กับฉันเสมอ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ฉีกปากด้วยก็ตาม  



    "คุณโฮซอก พี่ยุนนาเราไปกินข้าวเถอะครับ"



    มาแล้วเด็กน้อยจองกุก ฉันจึงเงยหน้าขึ้นมาและลุกเดินออกไป ถ้าฉันยังมัวฟุ๊ปอยู่แบบนั้นเค้าต้องหาคำมาว่าฉันแน่นอน โฮซอกรีบวิ่งตามหลังฉันมาทันที วิ่งทำไมก็ไม่รู้ ฉันไม่หนีไปไหนหรอก ยังอยู่ให้นายเห็นอีกนาน 

    เราใช้เวลาทานข้าวไปแค่สิบห้านาทีแล้วเราทั้งสามคน ก็มานั่งที่ประจำเวลาพักกลางวัน  ตาของฉันไม่ชอบอยู่นิ่งเหมือนกับหน้าของฉัน มันนำพาให้ฉันมองไปที่กำแพงตรงนั้น ตรงที่ฉันปีนออกไป
     รู้สึกผิด
     ‎ ฉันรู้สึกแบบนั้น ถ้าฉันแค่นั่งและมองมันเฉยๆในวันนั้น  วันนี้ผู้ชายที่ชื่อวีคงไม่ต้องไปนอนที่โรงพยาบาล แล้วตอนนี้พี่ยุนกิกำลังทำอะไรอยู่นะ ถึงไม่โทรตาม ไม่ออกตามหาเหมือนอย่างเคย ฉันคงไม่มีประโยชน์กับเค้าแล้วสินะ 
    ขณะที่คิด ฉันรู้สึกได้กลิ่นตุๆมาจากตัวเอง ให้ตายเถอะ โครตเน่าเลยกู  โฮซอกมันทนนั่งดมได้ไงวะ แหวะ จะอ้วก

    END YOONNA






    "พี่"


    จองกุกเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ โฮซอกกับยุนนาหันไปมองหน้าจองกุกพร้อมๆกัน



    "เรื่องเมื่อวาน ผมไม่บอกใคร ผมจะทำเป็นเหมือนกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น พี่ไม่ต้องห่วง"



     โฮซอกที่เห็นด้วยก็หันกลับมามองยุนนา ที่นั่งหน้านิ่ง


    "ผมด้วย ผมไม่สนใจหรอก พี่ดีที่สุดสำหรับผม"



    โฮซอกคงเป็นคนเดียวจริงๆ ที่ชมเธอตลอด และให้กำลังใจตลอด 
    เธอถึงกับทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะตอบแทนคำดีๆจากโฮซอกได้ยังไง
    เธอยกมือขึ้นเก้ๆกัง  ทำตาหลอกเเลก   จะตีโฮซอกหรอ 
    ไม่นะ โฮซอกหลับตาปี๋ยอมรับความเจ็บที่กำลังจะได้เจอ เธอเรื่อยมือมาแบบสโล

    ตึ๊ก!ตั๊ก!

    เสียงหัวใจเต้นแรงมากจนดังออกมาข้างนอก

    พลุ๊ม!!


    นุ่มนวล

     สำผัสนั้นมันช่างนุ่มนวล โฮซอกเบิกตากว้างทันทีด้วยหัวใจที่พองโต เธอไม่ได้ตีเขา แต่เธอแค่ค่อยๆปล่อยมือวางไปที่กลุ่มผมดำของโฮซอกต่างห่าง เธอลูบแค่สองสามครั้ง ก่อนจะชักมือคืนและเบือนน่าหนีเพราะเขินอาย ยุนนาไม่เคยให้สัมผัสที่อ่อนโยนแบบนี้กับใครมาก่อน แม้แต่ตัวเอง ใบหน้าของเธอเริ่มมีเลือดฝาดมากกว่าปกติ 
     ‎ส่วนโฮซอกยังคงอึ้งและค้างอยู่แบบนั้น มันไม่ใช่ความฝันใช่มั้ย? 
    จองกุกผู้เห็นทุกอย่าง ก็ยกยิ้มมุมปากทันที จองกุกมองตาเดียวก็รู้แล้ว ว่าเธอใจดีจะตาย เขาก็เห็นเธอเหมือนกับที่โฮซอกเห็นนั่นแหละ ไม่งั้นคงไม่เลือกที่จะพากันเข้าหาเธอหรอก 






    __________________________








    เวลาช่างผ่านไปเร็ว ตอนนี้ก็เป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว ยุนนาก็กำลังยืนรอรถที่จะมารับ แต่ก็นานเกิน ยังไม่มีใครมารับเลย

    จองกุกคงยืนรอเป็นเพื่อนนานกว่านี้ไม่ได้ เพราะต้องไปเรียนพิเศษต่อ

    "ผมกลับก่อนนะ โฮซอกผมไปก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน"


    "อืม! จองกุก ซักชุดนักเรียนให้ด้วย"


    ให้ตายเถอะ จองโฮซอกนี่มันจริงๆเลย จองกุกละเหนื่อยใจ



    ผ่านไป5นาที


    10นาที


    20นาที

    จนตอนนี้รั้วโรงเรียนปิดแล้วเรียบร้อย ถนนก็เริ่มแออัดเพราะรถติด มันเป็นเวลาเลิกงานเลิกเรียนแล้วนะสิ 
    โฮซอกยังยืนมองซ้ายแลขวาเป็นเพื่อนยุนนาไม่ยอมไปไหน 


    "กลับเถอะ"

    ยุนนาเอ่ยเสียงเรียบ


    "พี่อย่าไล่ผมเลย ผมยืนรอเป็นเพื่อนได้ ผมนอนไม่หลับแน่ๆถ้าไม่ได้ส่งพี่ขึ้นรถ"

    ยุนนาซึ้งใจโฮซอกจริงๆ  เธอไม่อยากให้คนอื่นมาลำบากเพราะเธอเลย 
    แต่ก็ไม่นานรถของหมอคิมที่มาส่งเธอเมื่อเช้าก็มารับ 
    โฮซอกยิ้มออกทันทีและเดินดิ่งไปเปิดประตูให้ยุนนาเข้าไปนั่งอย่างรู้งาน
    โฮซอกโบกมือให้ก่อนจะปิดประตูไว้อย่างเดิม 
    แค่นี้แหละก็สุขใจแล้ว โฮซอกรีบเดินไปที่รถหรูคันสีดำที่จอดรอตนนานแล้ว ทันทีและเปิดประตูเข้าไปนั่ง

    "ไปเลยครับ"


    "ครับคุณหนู"


    โฮซอกนั่งเบาะหลัง พลางนึกถึงตอนกลาววัน เขาก็เผอเอามือลูบหัวตัวเองปอยๆแอบอมยิ้มไปด้วย 
    ดูน่ารักมากเลยละ แต่จะเหมือนคนบ้าในสายตาคนอื่น คนขับรถที่เห็นผ่านกระจกมองหลังก็แอบขำตาม 
    เขาเห็นช่วงนี้คุณหนูเป็นแบบนี้ทุกวัน หลังเลิกเรียน เพราะคุณหนูมินแน่ๆ






    "พี่เคลียคนไข้อยู่ พอดี มีอุบัติเหตุมากระทันหัน พี่เลยต้องรักษาพวกเขาก่อน"


    ไม่มีใครถามหรอก แค่อยากอธิบาย ซอกจินกลัวว่ายุนนาจะโกรธ แต่เธอก็ไม่ได้โกรธ เธอก็ทำเหมือนอย่างเคยนั่งนิ่งๆไป 


    "ไปห้างก่อนมั้ย? พี่จะพาไปซื้อเสื้อผ้า ถ้าใส่ชุดเดิมอยู่แบบนี้เน่าแน่ๆ"


    ยุนนาอยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่ทันแล้วแหละ มันเน่าทั้งวัน


    เธอไม่ต้องจ่ายตังแม้แต่บาทเดียว เพราะห้างนี้ก็เป็นของตระกูลมิน 
    เมื่อได้ชุดตามต้องการทั้งสองคนก็เดินไปหาร้านอาหารเพื่อทานมื่อค่ำกัน

    เเชะ!แชะ!



    ร้านอาหารไทย

    ยุนนาเลือกที่จะเข้ามาร้านอาหารไทย เพราะอยากกินมาก หลังจากไปเรียนที่ไทยเธอเลยติดใจรสอาหารที่จัดจ้านของที่นั้น และพอกลับมาที่เกาหลี เธอแทบจะไม่ได้กลิ่นเลยด้วยซ้ำ 


    "เผ็ดนะ กินได้เหรอ"

    ที่ถามก็เผื่อตัวเองนั้นแหละ เขากินเผ็ดไม่ค่อยได้ และกลัวว่ายุนนาจะกินไม่ได้เช่นกัน

    "มีอะไรที่ไม่เผ็ดมั้ย? พี่ไม่อยากกินเผ็ด"

    ยุนนาจ้องหน้าพี่ชายที่แสนจะเลือกกิน ก่อนจะสั่งอาหารกับพนักงาน 


    "ข้าวผัดปูสองที่ค่ะ"


    ข้าวผัด ข้าวผัด  ถ้าจะกินแค่นี้ไปทำกินที่บ้านก็ได้มั้ง ยุนนาละเบื่อพี่ชายแต่ละคนจริง  คนโตก็กินเผ็ดไม่ได้ คนรองก็ดีแต่บงการชีวิต กับทำร้ายร่างกาย. ไอ้คนสุดท้าย ไม่เคยญาติดีกันเลยด้วยซ้ำ 

    แถมมีเสียงซุบซิบจากโต๊ะรอบด้านอีก สายตาที่มองมาก็เหมือนจะสงสัยเธอกับพี่ชายซะเหลือเกิน 
    ประโยคที่ได้ยินแล้วเจ็บแทนพี่ชายก็คำนี้แหละ


    "ลูกเมียน้อยกับลูกเมียหลวงมาแดกข้าวด้วยกันได้ไงวะ คุณยุนกิสุดเท่ห์ของฉันตัดขาดแล้วไม่ใช่เหรอ"


    "นั่นมันซอกจินลูกเมียน้อยปะวะ"

    "ช่างกล้ามากับคุณหนูยุนนา"

    เธอกับพี่ชายนั่ง ทนฟังคำพูดขยะพวกนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า 



    "ข้าวผัดปูได้แล้วค่ะ  อ้อ!ลืมเลยค่ะ  เจ้าของร้านบอกว่าไม่ต้องจ่ายตังนะคะ"


    พนักงานที่นำอาหารเสริฟ ยิ้มให้กับลูกค้าทั้งสองก่อนจะเดินละออกไป


    "คนพวกนี้เห็นพี่เป็นขอทานหรือไง"


    ยุนนาไม่สนใจอะไรแล้ว เธอตั้งหน้ากินข้าวผัดจืดๆให้หมดไวๆ จะได้ออกไปสักที เบื่อทั้งคนเบื่อทั้งอาหาร


    20นาทีผ่านไป



    ในรถ 



    "ขอบคุณ"


    อยู่ดีๆยุนนาก็พูดออกมา ซอกจินดีใจนะถึงแม้ว่าน้ำเสียงจะฟังดูไม่ค่อยลื่นหูสักเท่าไหร่


    "อื้ม!"


    "ดูแลผู้ชายคนนั้นให้ดีๆนะ  ทำให้เค้าหายเป็นปกติ ค่อยให้เค้าออกมา"


    "ห่วงเค้ามากละสิ ถ้าพี่ไม่โทรไปบอกจะเป็นยังไงนะ"


    "อย่าให้เค้าเป็นอะไรนะ  หากเค้าเป็นอะไร  คงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต"


    "พี่อยากไปเป็นผู้ชายคนนั้นจัง เป็นพี่ไม่ได้เหรอยุนนา"


    ซอกจินพูดด้วยความน้อยใจ ตลอดเวลาเค้าหลงรักน้องสาวคนนี้มาโดยตลอด และน้องยังมาย้ำให้ตัวเองดูแลผู้ชายคนนั้นให้ดีอีก


    "เรื่องระหว่างเรา มันไม่มีอะไรที่เป็นไปได้หรอกในตอนนี้  พี่ก็รู้นิ พี่ยุนกิยังต้องใช้ประโยชน์ในตัวฉันอยู่"



    ซอกจินรู้แล้วละ ว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ พี่กับน้องจะแต่งงานกันได้ยังไง 




     
    100%










    -มีใครเห็นถึงความน่ารักของโฮซอกกันบ้างคะ

    -ไรท์อยากได้ผู้ชายแบบโฮซอก >↓<























     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×