ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภาคินพ่ายรัก ( ภาคิน+อิงค์วรินทร์ )

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 คู่หมั้นคุณภาคิน

    • อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 67


    บนรถ

    " ไม่ต้องกลัวนะคะน้องอิ๊งค์ ไปอยู่กับมี๊นะคะถ้าหนูไม่โอเคจริงๆอยากกลับบ้านก็บอกมี๊ได้ตลอดเลยค่ะ "


    พิมพ์ลดาพูดด้วยน้ำเสียงใจดีและลูบบนศรีษะเล็กของสาวน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างเอ็นดู ทำเอาใจดวงน้อยที่ไม่ได้รับสัมผัสที่แสนอบอุ่นแบบนี้ตั้งแต่มารดาจากไปถึงกับอุ่นวาบน้ำตาปริ่มเจียนจะหยดออกจากดวงตาคู่สวยอยู่รอมร่อ


    " อึก น้องอิ๊งค์ไม่อยากกลับบ้านค่ะ น้องอิ๊งค์ไม่อยากอยู่กับพวกคนใจร้าย " น้ำเสียงสั่นเครือจนคนฟังใจสะท้านรู้สึกเวทนาและโกรธแค้นแทนเพื่อนของเธอที่ตายไป คนบ้านนั้นมันกล้าดียังไงถึงได้มารังแกว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ " มี๊พิมพ์ให้น้องอิ๊งค์ไปอยู่ด้วยนะคะ ฮึก "


    " ไปสิคะลูก ไปอยู่กับมี๊ ไปเป็นลูกสะใภ้มี๊นะคะลูก "


    " สะ สะใภ้เหรอคะ "


    " ใช่ค่ะกับพี่ภาคินที่มี๊บอกไงคะ แต่ถ้าหนูสองคนไม่ได้รักไม่ได้ชอบกันจริงๆมี๊ก็ไม่บังคับ แต่มี๊ก็คงต้องส่งน้องอิ๊งค์กลับมาให้คนใจร้ายนี่สิ "


    ขู่เด็กไปงั้นแหละ ถึงไม่ลงเอยกับลูกชายเธอ เธอก็จะหาทางเอาน้องอิ๊งค์มาดูแลเองอยู่ดี ไม่มีทางปล่อยไว้กับคนพวกนั้นแน่ๆ แต่แค่คิดว่าถ้าในวันหน้ามีหลานตัวน้อยที่หน้าตาน่ารักแบบน้องอิ๊งค์อีกสักคนคงดีไม่น้อย 


    ได้ผลคำพูดของเธอทำให้แววตาคนตัวเล็กข้างๆเปลี่ยนไปก่อนที่เสียงใสจะเอ่ยกับเธออย่างมุ่งมั่น


    " น้องอิ๊งค์อยากอยู่กับมี๊ น้องอิ๊งค์จะเป็นลูกสะใภ้ให้มี๊ค่ะ " ว่าพลางบีบมือเธอที่กุมอยู่เบาๆ


    " อร๊าย เก่งมากค่ะมี๊ชอบบ "


    หยิกแก้มป่องเบาๆอย่างมันเขี้ยวจนคนตัวเล็กยิ้มแฉ่งใส่ดูสดใสกว่าตอนออกมามากโข พิมพ์ลดาลูบไปตามเรียวแขนเล็กอย่างทนุถนอม เสื้อผ้าเก่าๆที่คนตัวเล็กใส่อยู่ตอนนี้ไม่ได้ทำให้ความสวย ความน่ารักของคนตรงหน้าลดลงแม้แต่น้อย กลับกันยิ่งเพิ่มความน่าสงสารในใจเธอไปใหญ่ เธอไม่น่ากลับมาช้าเลยแม้แต่เพื่อนรักอย่างอิงดาวเธอก็มาไม่ทันได้ดูใจ


    ผ่านมาเป็นปีแล้วเพิ่งได้มารู้ข่าวในตอนที่กลับมาถึงไทย ไม่อยากจะคิดเลยหากมาช้ากว่านี้เด็กตัวเล็กแค่นี้ต้องเจออะไรบ้าง ต่อไปนี้เธอสัญญาจะดูแลและปกป้องน้องอิ๊งค์ให้ดีให้สมกับที่เพื่อนรักคนเดียวของเธอฝากฝังเอาไว้


    ลูกสะใภ้คนนี้เธอจองมาตั้งแต่ลืมตาดูโลกได้วันเดียวใครกล้ามาแตะต้องว่าที่สะใภ้ตระกูลพอลสันเธอไม่เก็บไว้แน่




    รถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้ามาภายในคฤหาสน์ของตระกูลพอลสันพื้นที่กว้างขวางภายนอกตกแต่งดูสวยงาม บริเวรต่างๆโดยรอบมีบอดี้การ์ดยืนคุมความปลอดภัยอยู่ทุกจุดเพื่อความปลอดภัย


    แม่บ้านต่างรีบกุลีกุจอมายืนต้อนรับเมื่อเห็นว่าเป็นรถของใครที่ขับเข้ามาจอดอยู่บริเวรทางเข้า ประตูรถเปิดออกพร้อมกับร่างระหงของมาดามพิมพ์ลงมาจากรถก่อนจะมีร่างเล็กไม่คุ้นตาก้าวตามลงมายืนทำตัวลีบๆอยู่ข้างหลังพิมพ์ลดา จนเธอต้องจับมายืนอยู่ข้างตัว


    สายตาของเหล่าแม่บ้านและการ์ดที่มารอรับต่างมีจุดหมายเดียวกันคือสาวน้อยร่างอ้อนแอ้นบอบบางหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราดูดวงตากลมโตเลิ่กลั่กมองคนนั้นทีคนนี้ทีน่าเอ็นดู ผมยาวดำขลับปล่อยไว้กลางหลังยิ่งดูตัวเล็กไปใหญ่ ผิวกายขาวเนียนละเอียดราวกับลูกคุณหนูแต่เสื้อผ้าที่ใส่กับมีสีซีดและดูเก่าไม่น้อย 


    ท่าทีที่มาดามของบ้านปฏิบัติต่อสาวน้อยคนนี้ทำให้พวกเธอรู้ได้วนทันทีว่าสาวน้อยน่ารักตรงหน้ามีฐานะที่ไม่ธรรมดาแต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้ยินสิ่งนี้ออกมาจากปากมาดามพิมพ์ลดา


    " นี่น้องอิ๊งค์ ต่อไปนี้เธอจะมาอยู่ที่นี่ขอให้ทุกคนปฏิบัติต่อเธอเหมือนที่ทำกับฉัน น้องอิ๊งค์จะมาอยู่ที่นี่ในฐานะคู่หมั้นของภาคิน พอลสัน "


    คู่หมั้นคุณภาคิน!


    ไม่บ้านภายในคฤหาสน์หลังใหญ่โตข่าวการมาของคู่หมั้นของนายใหญ่ที่นี่ก็แพร่กระจายไปทั่วภายในเวลาไม่ถึงวัน



    ตระกูลพอลสันเป็นตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียงไม่ว่าใครได้ยินก็ต้องให้ความเคารพยำเกรง ความดุดันถูกส่งต่อมารุ่นต่อรุ่นจนมาถึงรุ่นของภาคิน พอลสัน ผู้เป็นนายใหญ่คนก่อนหรือเมฆิน พอลสัน เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกเสียชีวิตในสองปีก่อนทิ้งสมบัติมหาศาลและธุรกิจไว้กับภรรยาอย่างมาดามพิมพ์ลดาและลูกชาย นั่นจึงทำให้ภาคินต้องเที่ยวไปมาที่ไทยและเมืองนอกเป็นว่าเล่น ขึ้นบริหารคุมทุกอย่างแทนบิดา


    เบื้องหน้าคือนักธุรกิจมือขาวสะอาดเบื้องหลังคือตระกูลมาเฟียใหญ่ส่งออกอาวุธซึ่งทำส่งต่อมากันมาหลายรุ่นจนถึงตอนนี้ ภาคินมีความคิดและเตรียมพร้อมที่จะเลิกทำการส่งออกอาวุธไว้แล้วเพียงแต่แค่รอเวลาเท่านั้น


    ก๊อก ก๊อก ก๊อก


    เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำลายความเงียบภายในห้องทำงานที่อยู่บนชั้นสูงสุดใจกลางเมืองมองเห็นทิวทัศน์ยามเย็นได้อย่างดี


    ร่างสูงที่นั่งหลับตาคลึงขมับคลายความตึงเครียดหลังออกจากห้องประชุมมาได้ไม่นานลืมตาขึ้นก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ


    " เข้ามา "


    บานประตูเปิดออกพร้อมกับร่างสูงชุดดำของลูกน้องเขาเดินเข้ามา


    " นายครับ มาดามโทรมาตามบอกให้กลับไปให้ทันอาหารเย็นครับ " 


    วศินเอ่ยบอกเจ้านายตนเองที่นั่งทำหน้านิ่งอยู่ที่เดิม


    " อือ "


    " เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงครับ "


    เอ่ยเตือนขึ้นอีกครั้งเมื่อไม่เห็นภาคินขยับลุกออกมาจากโต๊ะทำงาน 


    แน่ละ เจ้านายเขาบ้างานอย่างกับอะไรดีฟ้าไม่มืด มาดามไม่โทรตามมีหรือจะย่างกรายออกจากห้องนี้ได้


    แต่ก็นั่นแหละ ใครใช้ให้ตระกูลดังธุรกิจหมื่นล้านมีทายาทออกมาเพียงคนเดียวล่ะ ทำงานหามรุ่งหามค่ำไม่เว้นวัน วศินคิดอย่างปลงๆไม่กล้าพูดออกไปก่อนจะได้ยินเสียงดุๆดังขึ้นทำให้หลุดออกจากภวังค์


    " ไปเตรียมรถ "


    " ครับ "

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×