ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chaotic Chronicle of Laputa

    ลำดับตอนที่ #4 : กลับสู่ดาวดวงเดิม

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ย. 51


    ห้านาที

    กลายเป็นสีเขียวนั่นคือสตาร์สตรีมทั้งหมด

    พวกทีดัสก็มาถึงลาพิวต้าทาวเวอร์ชั้นยี่สิบ พวกไมเคิล กองกำลังพิเศษหน่วยอื่นๆกลับมาที่ลาพิวต้ากันหมดแล้ว มีผู้รอดชีวิตประมาณสองหมื่นกว่าคน ทหารคอยคุ้มกันอยู่ พวกเขาต่างหวาดกลัว ตอนนั้นเองประธานาธิบดีกับพวกนักวิทยาศาสตร์ก็ออกมาพร้อมกับถือกระเป๋าคนละสองใบ ส่งให้เบลมอท ผบ.กองทัพโซลเยอร์ ทีดัสและไมเคิลคนละใบโดยไม่พูดอะไร ทั้งสี่จึงใช้เครื่องย้ายมวลสารแยกย้ายกันไปยังเครื่องกำเนิดสตาร์สตรีมแต่ละเครื่อง พวกเขาติดตั้งระเบิดแล้วกลับมายังที่เดิม ทีดัสกอดแม่และน้องสาวเอาไว้ ประธานาธิบดีนำรีโมทออกมา ทีดัสหลับตาเพราะไม่อยากเห็นภาพตัวประหลาดที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์ ครั้งหนึ่งเขาเคยพูดคุยด้วยต้องตายต่อหน้าต่อตา เมื่อประธานาธิบดีกดปุ่มทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดตูมดังกึกก้อง ทีดัสกอดแม่และน้องแน่นขึ้นอีก สิ้นเสียงระเบิดอันสะเทือนเลื่อนลั่นทีดัสลืมตาขึ้น น้ำตาของเขาเริ่มไหลออกมา เขามองเห็นท้องฟ้าของลาพิวต้า จากนั้นพวกมันเริ่มก่อตัวกลายเป็นพายุหมุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พวกมันเหมือนกำลังถูกดูดไปบนอวกาศ

    "

    สตาร์สตรีม เป็นพลังงานชนิดหนึ่งที่อยู่บนดาวอังคาร เรานำมันมาใช้ได้โดยเครื่องดูดที่พวกเราระเบิดไปนั่นเอง พวกเราไม่ได้สร้างสตาร์สตรีมขึ้นมา" นักวิทยาศาสตร์ของลาพิวต้าบอกกับทุกคน

    ทีดัสปล่อยน้องกับแม่ แล้วเดินออกไปที่ด้านนอก เขาเห็นแสงสีเขียวลอยออกจากร่างของอมนุษย์แต่ละตนขึ้นไปรวมกับแสงข้างบน แล้วสิ่งที่ทีดัสหวังไว้ก็เกิดขึ้น เมื่อสตาร์สตรีมถูกดูดออกจากร่างกาย ปิศาจก็เริ่มกลายร่างกลับมาเป็นคนเช่นเดิม ทีดัสยิ้มกว้าง

    "

    พวกเขาไม่ตาย พวกเขากำลังคืนร่าง" ทีดัสร้องออกมาด้วยความดีใจ ดาบของเขาเองก็กำลังมีแสงสีเขียวออกมาเหมือนกัน เขาชักมันออกก็เห็นว่ามีแสงสีเขียวกำลังลอยออกจากดาบของเขาและของทุกๆคนก็เป็นเช่นกัน พายุแสงสตาร์สตรีมเร่งความเร็วของมันขึ้น ดูดตัวเองออกไปอย่างรวดเร็วมองเห็นเป็นเกลียวพายุสีเขียวสลับสีดำของท้องฟ้า เป็นภาพที่สวยงามตระการตาภาพหนึ่งที่มนุษยชาติพึงได้พบเห็น ทุกคนโห่ร้องแสดงความยินดี โบกมือและกระโดดด้วยความดีใจ ทีดัสโผเข้ากอดแม่และลีน่าอีกครั้งก่อนจะเข้าไปแสดงความยินดีกับเพื่อนๆกองกำลังพิเศษ ประธานาธิบดี นักวิทยาศาสตร์ และคนสุดท้ายที่เขาไปหาก็คือเบลมอท ถึงแม้ว่าหล่อนจะมีอายุมากกว่าเขา แต่เขาก็มีใจให้กับเธอ สาวสวยผมแดงเบลมอทได้ครอบครองใจหนุ่มผมทองทีดัสแล้ว

    "

    ขอบคุณนะครับที่ช่วยแม่ของผมเอาไว้ เบลมอท" ทีดัสพูดขอบคุณจากใจเบลมอทยิ้มเล็กน้อย เธอมองตาของทีดัสไม่กระพริบ เด็กคนที่หล่อนเคยช่วยชีวิตเขาและครอบครัวเขาเอาไว้ ทำให้หล่อนกำลังจะร้องไห้ ทีดัสจ้องตาเธอเช่นกัน แล้วทั้งสองก็กอดกัน เบลมอทร้องไห้ออกมา เธอเสียใจที่ปกปิดความรักนี้เอาไว้ไม่ได้บอกให้ทีดัสรู้เพราะหน้าที่ของเธอที่เป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษ แต่ตอนนี้เธอไม่สนอีกต่อไปแล้ว ทีดัสเองก็เช่นกัน เขาไม่เคยบอกความในใจของเขาให้เธอได้รู้ เพราะว่าหน้าที่ของเขาคือต้องฟังคำสั่งของเธอ ที่จริงแล้ว เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่ครั้งที่อยู่บนยานในวันที่เขาเดินทางมายังลาพิวต้า

    "

    ต่อไปนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่ดีกว่า" ทีดัสกระซิบข้างหูเบลมอท เธอดึงตัวออกมาให้มองเห็นหน้าของทีดัส กำลังจะเอื้อนปากพูดแต่เธอเปลี่ยนใจ เธอจูบทีดัสไว้นาน ทั้งๆที่เธอยังคงร้องไห้อยู่เช่นนั้น ทีดัสดึงตัวออกมา เอามือของเขาปาดน้ำตาเธอ ในตอนนี้พวกเขาได้กลายเป็นคู่รักกันแล้ว ท้องฟ้าดำที่ยังมีร่องรอยของสตาร์สตรีมอยู่เหมือนจะเป็นประจักษ์พยานในความรักของพวกเขา วันที่พวกเขาได้เปิดใจให้กันและกัน ละทิ้งความยึดติดในฐานะของพวกเขาสิ่งหนึ่งที่ชาวลาพิวต้าได้รู้ก็คือ ธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญ คือสิ่งที่จะกำหนดความเป็นอยู่ของพวกเขา มนุษย์ทุกคนไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้ สิ่งที่ปรุงแต่งขึ้นไม่สามารถคงทนได้นานนัก สักวันหนึ่งมันก็ต้องพังลง เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน มีแต่ธรรมชาติเท่านั้นที่เป็นความยั่งยืน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากธรรมชาติ คือสิ่งที่โลกเราเป็น ดังนั้น พวกเขายอมรับในสิ่งที่โลกเป็นและเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันและต้องไม่ทำลายมัน เพราะถ้าหากว่าไม่มีธรรมชาติ พวกเขาก็ไม่สามารถอยู่บนโลกนี้ได้...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×