ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chaotic Chronicle of Laputa

    ลำดับตอนที่ #3 : สตรีม ไวรัส

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ย. 51


    ทุกอย่างยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม

    ลาพิวต้ายังคงใช้สตาร์สตรีมเป็นพลังงานหลัก ยังมีข่าวสัตว์กลายพันธุ์ออกอาละวาดอยู่เป็นระยะ ทีดัสได้เข้ารับการฝึกเพื่อเข้าประจำการในกองกำลังพิเศษ เขาได้รับการฝึกให้ใช้ปืนและอาวุธต่างๆ รวมทั้งอาวุธโบราณเช่นดาบและศิลปะการต่อสู้ ครูฝึกใหญ่ของเขาก็คือเบลมอทนั่นเอง รวมระยะเวลา 3เดือน เป็นระยะเวลาที่หฤโหดที่สุดที่ทีดัสเคยพานพบมา ที่นั่นเขาได้พบกับผู้คนต่างชาติต่างภาษามากมายมาจากทั่วทุกมุมโลกทำให้เขาพูดได้หลายภาษา และในเดือนที่สามของการฝึก เขาถูกส่งไปทำภารกิจสุดท้ายก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเข้ากองประจำการของหน่วยพิเศษ นั่นคือ การออกไปนำผู้คนจากแผ่นดินใหญ่มายังเกาะลาพิวต้า เบลมอทได้ส่งเขาไปยังประเทศอินเดีย

    ทีดัสอยู่บนยานลักษณะคล้ายกับยานที่เขามายังลาพิวต้าครั้งแรกขณะนี้เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เขาสวมเสื้อยืดสีแดงทับด้วยเสื้อหนังแขนยาวสีดำ กางเกงหนังสีดำ รองเท้าคอมแบท ยานกำลังลงจอดและเขากำลังเดินลงจากยานขณะที่ประตูกำลังทอดลงมา มองไปยังทะเลทรายอันมืดมิดเบื้องหน้า เพื่อนๆหน่วยพิเศษคนอื่นที่ถูกส่งมาฝึกครั้งสุดท้ายก็แยกย้ายกันลงจากยานเพื่อตามหาผู้คน แล้วเขาจะหาคนได้อย่างไร ทำไมเบลมอทไม่ส่งเขาไปที่นิวยอร์กอีกครั้งจะได้ช่วยคนที่เขารู้จักได้

    "

    ลีน่าต้องชอบงานนี้แน่ๆ" เขาบ่นพึมพำถึงลีน่า น้องสาวสุดที่รักของเขา แล้วจึงหยิบแว่นมาสวม มีหุ่นยนต์ตัวหนึ่งวิ่งลงมาจากยาน มันนำอาวุธมาให้ทีดัส ดาบคู่ใจของเขา กับปืนและเครื่องกระสุน ทีดัสหยิบปืนขึ้นมาตรวจสอบ แล้วสอดลงในซองปืนข้างเอว แล้วหยิบดาบขึ้นมาถือไว้ในมือ จากนั้นออกเดินไปบนทะเลทรายเบื้องหน้า ทีดัสเดินมาจนถึงซากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขาคาดว่าไม่น่าจะมีคนอยู่ แต่ในที่สุดเขาก็พบบ้านหลังหนึ่งที่มีควันขึ้นจากปล่องไฟบนหลังคา ทีดัสเคาะประตูแต่ไม่มีการตอบรับ ทีดัสจึงใช้เรดาห์สามมิติที่ข้อมือของเขาฉายภาพภายใน ก็เห็นเป็นรูปคนอยู่ภายในบ้านสี่คน ทีดัสจึงเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเด็กสามคนกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เธอคงเป็นแม่ของคนพวกนี้ พวกเขากำลังซุกตัวอยู่ใต้โต๊ะมีท่าทีหวาดกลัวต่อทีดัส

    "

    พวกคุณไม่ต้องกลัวผม ผมไม่ทำอะไรพวกคุณหรอก ผมมาพาพวกคุณไปจากที่นี่" ทีดัสบอกเป็นภาษาอินเดีย ทุกคนมองหน้ากันแล้วแม่เด็กก็ถามทีดัส

    "

    เธอเป็นมนุษย์หรือเปล่า" ทีดัสต้องแปลกใจกับคำถามนี้แล้วตอบออกไป

    "

    ผมเป็นมนุษย์โลกร้อยเปอร์เซ็นต์" ทีดัสเอื้อมมือไปให้เด็กคนชายคนหน้าจับไว้สุดแล้วดึงออกมาเบาๆ "ผมจะพาพวกคุณออกไปจากที่นี่และไปสู่ที่อยู่ใหม่ แล้วที่ถามเมื่อกี้มันหมายความว่ามีสิ่งที่หน้าตาเหมือนมนุษย์แต่ไม่ใช่มนุษย์หรือไง" ทีดัสส่งมือไปให้แม่ของเด็ก หญิงชาวอินเดียลังเลแล้วก็ส่งมือไปให้ทีดัส แล้วทุกคนก็ออกมาจากใต้โต๊ะ แม่ของเด็กหันไปพูดกับทีดัส

    "

    ใช่ มีสิ่งที่หน้าตาเหมือนมนุษย์ แต่ไม่ใช่มนุษย์ มันมากับแสงสีเขียว มันฆ่าและกินคนโดยไม่พูดไม่จาพวกมันฆ่าและกินอย่างเดียว" แววตาของทุกคนรวมทั้งเด็กบ่งบอกถึงความหวาดกลัว ทีดัสไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีสิ่งมีชีวิตประเภทนี้ด้วย

    "

    แสงสีเขียวหรือ ตอนกลางคืนหรือ ถึงได้เห็นว่าเป็นสีเขียว" ทีดัสถามต่อไป พร้อมเปิดประตูแล้วเรียกให้ทุกคนเดินตามมาแต่ทีดัสก็ต้องผลักพวกเขากลับไป ในบ้าน "อ๋อ...ฉันพอจะรู้แล้วล่ะ ตอนแรกมันมีแต่เสียงสีเขียวแล้วก่อร่างเป็นคนในชุดคลุมขาวใช่ไหม...พวกมันมากันแล้วล่ะ" ทีดัสหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาแล้วสื่อสารกับยานให้นำพาหนะมารับพวกเขา พร้อมกันนั้น แสงสีเขียวที่สามารถก่อร่างคล้ายมนุษย์ได้ ก็ได้เขาโจมตีทีดัส

    พวกชุดขาวคนหนึ่งกระโจนเข้ามาจะฟันทีดัส

    ทีดัสชักปืนออกมาจากซองแล้วยิงไปยังพวกมันหลายนัดแต่ก็ไม่ได้ผล ทีดัสบอกให้ทุกคนวิ่งไปก่อน เขาจะถ่วงพวกมันไว้ ทีดัสชักดาบยาวของเขาออกจากฝัก ยืนหยัดอยู่กับที่ แล้วพวกมันทั้งห้าตนก็กระโจนเข้ามาพร้อมกันจากด้านหน้า ทีดัสเหวี่ยงตัวหลบไปทางซ้าย พร้อมกับฟันหัวคนชุดขาวขาดกระเด็นไปกลายเป็นแสงสีเขียวเข้มลอยไปบนอากาศ พวกมันที่เหลือก็ชักดาบออกมาบ้าง ทีดัสพุ่งเข้าไปเสียบคนหน้าสุดแล้วฟันกับคนที่เหลืออย่างรวดเร็ว ทีดัสกดดาบคนทางซ้ายลงพื้นจากนั้นฟันหัวกระเด็นไปแล้วม้วนหน้าหลบดาบที่มาจากด้านขวา แล้วทีดัสก็รีบวิ่งตามคนอื่นๆไป ทีดัสเห็นพวกเขาอยู่ห่างออกไปด้านหน้า และพวกมันก็กำลังวิ่งไล่หลังเขามาอย่างกระชั้นชิด ทีดัสไม่ได้นำระเบิดมือมาด้วย มีแต่เพียงปืนหนึ่งกระบอกกับดาบในมือเขาเท่านั้นที่เป็นอาวุธได้ เขาจึงหยุดพร้อมหมุนตัวกับฟันขาสองข้างขาด ทีดัสเพิ่งสังเกตว่ามันก็มีเลือดเหมือนกัน เพียงแต่เป็นสีเขียวเข้ม และผมของมันก็เป็นสีขาว ทีดัสนึกถึงสตาร์สตรีม สีของมันคล้ายกันมาก แล้วทีดัสก็ต้องกระเด็นบ้าง ปิศาจชุดขาวมาถึงตัวทีดัสและถีบทีดัสกระเด็นไป ทีดัสลุกขึ้น ทั้งสองฝ่ายหยุดเคลื่อนไหว มีเสียงยานสามลำมาจากด้านหลัง เสียงยานลำใหญ่จอดลง แล้วเจ้าหน้าที่ก็พาครอบครัวที่ทีดัสช่วยมาขึ้นไปบนยาน อีกสองลำแล่นมาทางเขา ทีดัสพุ่งเขาไปปะทะกับอีกสองตนที่เหลือ วาดดาบซ้ายขวาว่องไว คนหนึ่งฟันสวนกลับจากด้านบน ทีดัสก็ทำทีเป็นหงายดาบขึ้นปะทะ แล้วพลิกตบดาบของคู่ต่อสู้ลง แล้วฟันหัวขาดกระเด็นไป พร้อมกับถีบตัวจากร่างที่หัวขาดไปแล้วนั้นลอยกลางอากาศพุ่งไปเสียบหน้าอกอีกตัวที่เหลือ ดาบทะลุออกด้านหลัง ร่างสลายเป็นแสงสีเขียวลอยไปในอากาศและหายไปในที่สุด ยานสองลำที่เหลือมาจอดด้านหลังทีดัส ทีดัสหันหลังกลับมาเห็นยานรูปทรงจักรยานยนต์ที่ลอยได้ด้วยพลังงานสตาร์สตรีมเป็นตัวขับดัน ดูเป็นเครื่องเจ็ทไฟสีเขียว ผู้ที่ขับมาคือเพื่อนในกลุ่มกองกำลังพิเศษนั่นเอง

    "

    เรื่องใหญ่แน่ๆ พวกเราต้องรายงานหัวหน้าเบลมอท" เขาบอกทีดัส ทีดัสเก็บดาบเข้าฝักแล้วเดินมานั่งบนยานอีกลำที่ไม่มีคนขับ กดปุ่มเปลี่ยนระบบจากขับเคลื่อนอัตโนมัติเป็นขับเคลื่อนด้วยคน

    "

    แน่นอน เราต้องเรารายงานเขาแน่...พวกเราต้องกระจายกำลังกันออกค้นหาผู้รอดชีวิต" ทีดัสเร่งเครื่องออกไปอย่างรวดเร็ว เพื่อนของเขารีบขับตามไปจนกระทั่งมาถึงยานแม่

    ทุกคนมาประชุมกันพร้อมหน้าเรื่องแสงสีเขียวประหลาดที่ก่อตัวเป็นร่างมนุษย์ พวกเขาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกนั้นไม่สามารถจัดการได้ด้วยปืน ต้องใช้ดาบในการฆ่ามันเท่านั้น ทีดัสเสนอให้ทุกคนใช้ระเบิดแบบดั้งเดิม เพราะทีดัสคิดว่าระเบิดแบบใหม่ สตรีม เบิร์สต์ (Stream busrt) จะไม่สามารถทำอะไรพวกร่างแปลงได้เพราะทั้งสองน่าจะเป็นสสารที่มีลักษณะคล้ายกัน และเสนอให้พยายามค้นหาผู้รอดชีวิตต่อไป จากนั้นทีดัสก็เข้ามาพบกับคอบครัวที่เขาเพิ่งช่วยจากการตามล่าของสิ่งมีชีวิตจากสตาร์สตรีม ทีดัสนึกถึงเมืองลาพิวต้า นึกถึงปล่องยักษ์ที่ปล่อยแสงสีเขียวให้พุ่งขึ้นไปบนฟ้า และคำพูดของนักวิทยาศาสตร์คนที่พูดในสภาวันที่กบยักษ์อาละวาด

    "

    "

    ทีดัส เรารายงานหัวหน้าแล้ว" เพื่อนกองกำลังพิเศษผมสั้นสีดำตัวใหญ่ผิวเข้มสวมเกราะแขนเหล็กกล้าที่ข้างซ้ายเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ ทีดัสตั้งใจฟัง "พวกมันมีชื่อเรียกว่า สตรีมไวรัส เป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่อาศัยอยู่ในแหล่งพลังงานสตาร์สตรีม พวกมันสามารถรวมตัวกันเพื่อสร้างรูปร่างของพวกมันให้กลายเป็นสิ่งที่พวกมันรู้จัก ในที่นี้คือมนุษย์ แต่ฉันไม่เข้าใจนะว่าทำไมจะต้องชุดขาวผมขาวด้วย"แล้วการกำจัดพวกมันล่ะ ให้ทำอย่างไร" ทีดัสถามกลับไป เขาส่ายหน้าแล้วตอบกลับมา

    "

    ดาบนั่นแหละเพราะปืนคงใช้ไม่ได้ผล ทั้งๆที่ฉันคิดว่าปืนน่าจะเป็นอาวุธที่ดีที่สุด" ทีดัสยิ้มออก

    "

    คงจะต้องใช้ปืนเลเซอร์เหมือนในหนังมั้ง" ทั้งสองหัวเราะ แล้วนายผิวเข้มก็พูดกลับมา

    "

    "

    "

    ถ้ามีก็ดี คงมันน่าดูเลย...อ้อ จริงสิ นายต้องระวังด้วย เพราะเลือดของมันมีเชื้อสตรีมไวรัสอยู่ เราสามารถติดเชื้อได้ทางแผล" ทีดัสตกใจ นายเข้มเองยังยิ้มได้ "ผลของมันก็คือนายจะกลายเป็น..."สัตว์ประหลาด" ทีดัสพูดแทรกขึ้นมา "ฉันอยู่ด้วย ตอนที่มีกบยักษ์มีหนามเหมือนเม่นออกอาละวาดที่ลาพิวต้า เจ้ากบนั่นก็คงมีบาดแผลอยู่เดิม แล้วไปติดเชื้อสตรีมไวรัสเข้า จึงเกิดการกลายพันธุ์"พูดจริงๆนะ...ตั้งแต่ไอ้ ไมเคิล ครัชเชอร์ คนนี้เกิดมา ยังไม่เคยเห็นใครเดาเก่งเท่านาย...ถูกแล้ว ไวรัสนี้เมื่อติดเชื้อจะเข้าไปยังสมองผ่านกระแสเลือด มีฤทธิ์กระตุ้นการแยกเซลล์และบิดเบือนDNAดั้งเดิม...ยังไม่หมดเท่านั้น ไวรัสนี้สามารถแทรกซึมอยู่ในเนื้อสัตว์ที่บริโภคได้ ถ้าหากบริเวณนั้นมีสตาร์สตรีมมากพอจนมีอิทธิพลกระจายไวรัส" เมื่อได้ยินคำพูดนี้ทีดัสก็หัวเราะลั่น แล้วหันไปบอกเพื่อนตาย

    "

    พวกเราต้องกลับลาพิวต้าเดี๋ยวนี้ !!"ไมเคิลรีบประกาศให้ทุกคนใช้เครื่องย้ายมวลสารเพื่อกลับไปยังลาพิวต้า ทีดัสมาถึงพร้อมๆกันกับทุกๆคน ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ลาพิวต้าทาวเวอร์ชั้นห้าสิบ ยานของพวกเขาจะมาทีหลัง แต่พวกเขาก็มาช้าไป ทีดัสมองออกไปนอกตึก ข้างล่างกำลังเกิดความโกลาหล คนหลายร้อยคนกลายพันธุ์เป็นสิ่งน่าเกลียดน่ากลัว ผิวหนังเป็นแผลเหวอะหวะดูคล้ายซากศพเดินได้ ไล่กัดกินผู้คนหรือไม่ก็กินพวกมันที่อ่อนแอ และยังมีสัตว์ยักษ์คล้ายกับเจ้ากบเม่นยักษ์ตัวที่ทีดัสยิง ทุกคนช้าไม่ได้อีกต่อไป พวกเขาใช้เครื่องย้ายมวลสารลงไปยังจุดรับชั้นล่างสุด

    "

    ช่วยคนที่ยังไม่ได้กลายพันธุ์ให้เข้ามาที่นี่" ไมเคิลตะโกนบอก ทุกคนวิ่งแยกย้ายกันไป จากนั้นนำวิทยุสื่อสารขึ้นมา "ขอกำลังเสริมคุ้มกันที่จุดรับมวลสารชั้นหนึ่ง ตัวที่ 35 เอ"

    สิ้นเสียงคำสั่งทุกคนก็วิ่งฝ่าไปในวงล้อมปิศาจ

    ทีดัสกำลังเผ่นโผนอยู่บนดาดฟ้าตึก

    เสียงอึกทึกครึกโครมทั้งจากปืน ปืนยิงลูกระเบิด เสียงผู้คนกรีดร้อง และเสียงคำรามของปิศาจ ไมเคิลไม่เห็นใครเลยนอกจากปิศาจมากมายอยู่เบื้องหน้า เขากดปุ่มสีแดงที่เกราะแขนเหล็กของเขา มันก็กลายเป็นแขนกลมีลำกล้องปืนใหญ่ ไมเคิลเล็ง เกร็งตัวแล้วยิงออกไปเสียงกึกก้อง ปิศาจหลายตัวแหลกกระจายเป็นก้อนเนื้อเล็กๆ เลือดสีแดงสาดกระเซ็น ไมเคิลหยิบเอาเหล็กหนาที่ตกอยู่ข้างๆขึ้นมา แล้วแผดเสียงก่อนวิ่งเข้าไปปะทะกับกองทัพปิศาจหน้าเกลียดซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์อย่างบ้าคลั่ง เขากำลังไปทางบ้านของเขา เขาห่วงแม่กับลีน่า เขาหาทางไปเร็วกว่านี้ไม่ได้แล้ว เพราะเบื้องล่างเต็มไปด้วยกองทัพสัตว์ประหลาดมากมาย การวิ่งบนดาดฟ้าจึงเป็นทางเดียวที่จะไปหาแม่กับลีน่าได้เร็วที่สุด ทีดัสคว้าปืนยิงรอกขึ้นมาหยุดเล็งแล้วยิงออกไปยังยอดตึกที่สูงกว่า ทำให้เข้าเคลื่อนที่ข้ามตึกไปสี่ตึก จากนั้นยิงไปยังรถไฟลอยฟ้าที่ยังวิ่งอยู่ ทีดัสจึงห้อยโหนใกล้ตัวรถไฟจนที่สุดเขาอยู่บนหลังคา ทีดัสกระแทกหน้าต่างและเข้ามาในตัวรถ ตอนนั้นเองมีเด็กเขามากอดเขาเอาไว้ ลีน่านั้นเอง ทีดัสกอดเธอ แล้วพาเธอวิ่งไปตู้แรกของขบวนรถไฟ ไปยังห้องคนขับ บอกให้คนขับหลบไปแล้วลงมือขับเอง เขาเร่งความเร็วขีดสุดจนมาถึงเขตตะวันตกเฉียงก็หยุดรถ แต่ไม่ทันที่รถจะหยุดดีเขาก็กระจกหน้าต่างแตก ยิงปืนรอกออกไปที่เสาไฟฟ้าใกล้บ้าน ทีดัสโหนจากรถไฟต่ำลงจวนจึงพื้น เขาหยิบระเบิดเพลิงออกมา ใช้ฟันดึงสลักออก แล้วปาลงไปกลางกองทัพปิศาจเบื้องล่างเพื่อเปิดทาง มันระเบิดเสียงดังกึกก้อง กองทัพปิศาจถูกแหวกออกเป็นช่อง พื้นนองเลือดแดงฉาน เมื่อถึงพื้น ทีดัสชักดาบออกมาแล้วกระแทกท้ายด้ามดาบกับขาเพื่อกดปุ่มให้ดาบของเขาแยกออกจากกันแล้วปล่อยคมออกมา ทำให้ดาบกว้างขึ้นกลายเป็นดาบยักษ์ ทีดัสแผดเสียงลั่นแล้วโผเข้าฟาดฟันกองทัพปิศาจเบื้องหน้า เพียงดาบเดียวก็สามารถสังหารปิศาจไปได้สิบกว่าตัว ทีดัสเหวี่ยงดาบซ้ายขวาพร้อมกับวิ่งไปเบื้องหน้าเพื่อเปิดทางจนถึงบ้าน เขาพังประตู วิ่งเข้าไปในบ้านแล้วหันกลับมาปาระเบิดออกไปอีก พวกปิศาจที่กรูเข้ามาถูกระเบิดตายหลายตัว ทีดัสวิ่งเข้าไปในบ้าน พร้อมกับตะโกนเรียกแม่ แต่มีปิศาจตัวใหญ่ยักษ์รูปร่างเหมือนมนุษย์ลงมาจากด้านบนยืนอยู่เบื้องหน้าทีดัสพร้อมคำราม ทีดัสไม่หวั่นฟาดดาบแนวตั้งผ่าร่างของมันขาดครึ่ง แล้วค้นหาแม่ต่อมาที่ห้องหลบภัย เขาเปิดประตูออก เห็นแม่กำลังกอดเข่าอยู่กับเบลมอทที่กำลังเล็งปากกระบอกปืนใหญ่พกพาของเธอมาที่เขา ทีดัสดึงทั้งสองออกมาจากห้องหลบภัย บอกเบลมอทให้พาแม่ขึ้นไปบนดาดฟ้า แล้วพาแม่หนีไปรถไฟ เบลมอททำตาม ส่วนทีดัสหยิบระเบิดมือขว้างออกไปหน้าบ้านเพื่อเปิดทางแล้ววิ่งเข้าไปฟันถ่วงเวลา จนเขาสังเกตเห็นเบลมอทกับแม่อยู่บนรถไฟแล้วจึงฝ่าออกมาแล้วใช้ปืนรอกเพื่อตามขึ้นไปบนรถไฟ เบลมอทขับรถไฟออกไปทันที ทีดัสปาระเบิดซ้ำพวกปิศาจอีกลูกหนึ่ง แล้วบอกเบลมอทให้ไปที่ลาพิวต้าทาวเวอร์ ลีน่ากับแม่เข้าสวมกอดและร้องไห้ ส่วนทีดัสมองไปยังซากปิศาจที่ไม่มีความผิดเบื้องล่างด้วยจิตสงสาร เสียงวิทยุของทีดัสดังขึ้น เป็นเสียงไมเคิลนั่นเอง

    "

    ทีดัส พวกเราช่วยคนได้บางส่วน ตอนนี้อยู่ที่ทาวเวอร์ชั้นยี่สิบ ที่ยังไม่มาเหลือแต่นายเท่านั้น นายต้องรีบมาเดี๋ยวนี้ เพราะว่า พวกเขากำลังจะระเบิดตัวกำเนิดสตาร์สตรีมทิ้ง นายอาจจะซวยไปด้วยนะ"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×