ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : สู่โลกใหม่
ค
.ศ.2112 นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกาขณะนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว่าๆ เด็กชายอายุ17ปีผมทอง สวมเสื้อยืดและกางเกงยีนเก่าๆเนื้อตัวมอมแมมกำลังเดินอยู่บนถนนในนิวยอร์กซึ่งกลายเป็นซากปรักหักพังตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่3 ยุติลง เขาอาศัยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด พ่อของเขาตายในสงคราม ตอนนี้เขาอยู่กับแม่และน้องสาวอีกหนึ่งคน เขากำลังเดินไปยังร้านสะดวกซื้อที่ห่างจากบ้านไม่มากนัก เพื่อมาซื้ออาหารไปให้ที่บ้าน ร้านสะดวกซื้อร้านนี้เป็นร้านเดียวที่ยังเปิดอยู่ในแถบนี้นับตั้งแต่เกิดสงคราม ร้านอื่นๆหลายร้านได้ปิดกิจการลงเพราะไม่สามารถทนต่อภาวะเศรษฐกิจอันย่ำแย่ได้เขาเดินผ่านซากตึกจนมาถึงร้านสะดวกซื้อ เขาผลักประตูเขาไป เดินไปหยิบขนมปังสี่ก้อนและอาหารกระป๋องอีกสามกระป๋อง จากนั้นเดินมาจ่ายเงินให้กับคนขายที่โต๊ะคิดเงิน และกลับออกมา ระหว่างที่เขากำลังเดินอยู่นั้น มีรถจักรยานยนต์คันใหญ่ลักษณะสวยงามสีดำเป็นมันเงา ขับมาตรงจอดขวางหน้าเขา เขาตกใจกลัว ผู้ที่ขับมาสวมชุดหนังสีดำกลืนกับสีรถ ถอดหมวกนิรภัยออก เผยให้เห็นผมสีแดงยาวสยายถึงหลัง ใบหน้ารูปไข่งดงามแบบคนเอเชีย ดวงตาคมโต ปากสีแดงชาด หน้าตายังสาวอยู่แต่ดูอายุมากกว่าเขา หล่อนหันหน้ามาถามเขา"
ทีดัสขึ้นซ้อนรถของหล่อน
"
คุณต้องการอะไร ทำไมต้องขับรถขวางผม" เขารวบรวมความกล้าถามกลับไป เธอยิ้มแล้วตอบกลับมา"
ฉันต้องการจะรู้ชื่อเธอ ที่ฉันต้องขับรถขวางเธอเพราะว่าจะกันเธอไม่ให้ไป และที่ฉันต้องทำอย่างนี้เพราะว่าฉันจะพาเธอไปยังโลกใหม่ที่จะทำให้เธอและญาติของเธอมีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายขึ้น ถ้าเธออยากจะรู้" เด็กผมทองสนใจถึงเรื่องโลกใหม่ เพราะเธอบอกว่าจะทำให้ชีวิตของเขากับแม่และน้องดีขึ้นจึงได้พลังปากไป"
โลกใหม่หรือ ขอไปด้วยคนสิ" หล่อนโบกมือปฏิเสธ"
ฉันถามชื่อนายและนายยังไม่ได้ตอบฉัน" เด็กชายอ้าปากค้างและตอบกลับไป"
"
"
ผมชื่อ ทีดัส แครอล (Tidus Carol)เขายื่นมือไปให้เธอจับ "แล้วชื่อของคุณล่ะ"เรียกฉันว่า เบลมอท (Vermouth) แล้วกันนะ" หล่อนยิ้มและจับมือเขาตอบ "ฉันกำลังจะพาเธอไปจากที่นี่ ฉันต้องการรู้ว่าเธอมีญาติพี่น้องกี่คน ฉันจะได้เตรียมพาหนะได้เพียงพอ"ผมจะเชื่อคุณได้อย่างไรล่ะในเมื่อผมเพิ่งเจอคุณครั้งแรก" หล่อนยิ้มอีกครั้งและตอบคำถามของทีดัส"
เธอไม่จำเป็นจะต้องเชื่อฉัน แต่เธอจำเป็นจะต้องเชื่อในโลกใหม่ ถ้าหากว่าเธอต้องการจะมีชีวิตที่ดีกว่าที่นี่ และไม่อยากจะให้ครอบครัวของเธอต้องลำบากอีกต่อไป"ทีดัสคิดอยู่อึดใจ
"
"ตกลง ผมจะเชื่อคุณ แล้วโลกใหม่ที่คุณว่านั้นคือที่ไหนล่ะ"อืม...ฉันขอไปเยี่ยมบ้านเธอหน่อยได้ไหม จะได้บอกกับญาติของเธอด้วยถ้าเธอมีนะ เพราะเธอไม่ยอมบอกฉันซะที" หล่อนทำหน้าเซ็งๆ และกวักมือเรียกทีดัสขึ้นรถ จากนั้นไม่กี่อึดใจรถก็มาจอดหน้าบ้านของทีดัส ทั้งสองลงจากรถและเดินเข้าไปในบ้าน ทีดัสแนะนำเบลมอทให้แม่และน้องรู้จัก ทั้งสี่ร่วมทานอาหารค่ำด้วยกันและจึงพูดถึงเรื่องการไปจากที่นี่และโลกใหม่ที่พวกเขาจะไป"
"
ฉันขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมไว้นะ พรุ่งนี้ฉันจะมารับแต่เช้า" หล่อนพูดขณะที่เดินถือหมวกนิรภัยออกมาจากประตูบ้านมายังถนนที่รถของเธอจอดอยู่ แล้วหันมาที่ทีดัส "นายจะต้องดูแลแม่และน้องของนายให้ดีที่สุดจนกว่าฉันจะกลับมาอีกครั้ง"ครับ ผมจะดูแลแม่กับน้องเป็นอย่างดีจนกว่าคุณจะกลับมา เบลมอท"หล่อนยิ้มให้กับทีดัส
"
แล้วสวมหมวกนิรภัยแล้วออกรถไปจนลับสายตาของทีดัส ทีดัสกลับเข้ามาในบ้าน แม่และน้องของเขากำลังเก็บกวาดถ้วยชาม เจาจึงเดินไปเพื่อเก็บสัมภาระของทุกคน จากนั้นทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่น พูดคุยกันถึงโลกใหม่ในความคิดของแต่ละคน มีเพียงลีน่า (Lina Carol) น้องสาวสุดที่รักของทีดัส ถามขึ้นมาว่า "แล้วคนอื่นๆล่ะคะ ไม่ไปกับพวกเราด้วยหรือ"แม่ไม่รู้ คุณเบลมอทเองก็ไม่ได้บอกว่าจะพาคนอื่นๆไปกับพวกเราด้วย" คุณแม่ลุกมานั่งข้างๆลีน่าและกอดเธอไว้ "เราคงได้แต่หวังว่าพวกเราจะได้เจอพวกเขาอีกครั้งที่โลกใหม่...เอาล่ะ นี่ก็ได้เวลาเข้านอนแล้ว พวกเราจะต้องพักผ่อนเอาแรง...ไปนอนกันเถอะ" พวกเขาทั้งสามเดินขึ้นไปชั้นสอง กล่าวราตรีสวัสดิ์แล้วแยกย้ายกันไปยังห้องของแต่ละคน และนี่คงเป็นคืนสุดท้ายที่พวกเขาจะได้นอนอยู่ที่บ้านหลังนี้เช้าวันต่อมาทุกคนตื่นขึ้น ทานอาหารเช้าและเตรียมตัวสำหรับการเดินทาง จากนั้นจึงมานั่งคอยเบลมอทที่ห้องนั่งเล่น 7.15น.มีเสียงรถคันหนึ่งแล่นมาหยุดที่หน้าบ้าน ทีดัสลุกขึ้นไปเปิดประตู ก็พบว่าเป็นเบลมอทนั่นเอง เพียงแต่รถที่เธอนำมาเป็นรถยนต์ ไม่ใช่จักรยานยนต์ของเธอ ทีดัสเดินไปเปิดประตูให้เบลมอท เบลมอทลงมาจากรถ ทักทายทีดัสและเดินเข้ามาในบ้าน จากนั้นทุกคนก็ไปขึ้นรถ แล้วการเดินทางสู่โลกใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น ระหว่างทางทีดัสสังเกตเห็นสายตาของผู้คนจากในบ้านมองมายังพวกเขา เบลมอทบอกว่าไม่ต้องไปสนใจ หากพวกเขาโชคดี ก็คงได้ไปเจอะกันที่โลกใหม่พวกเรามาจนถึงชายทะเล ที่จริงแล้วที่ตรงนี้ไม่ใช่ทะเล แต่ผลของสงครามทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจนท่วมเข้ามาในเมือง และเราก็ได้เห็นกับยานรูปทรงคล้ายกับรองเท้าผ้าใบ ด้านหน้าเป็นกระจกบานใหญ่ เข้าใจว่าคงเป็นห้องพลขับ มีประตูบานหนึ่งทอดลงมาเป็นทางขึ้น เบลมอทขับรถขึ้นไปตามทางลาดนั้น และจอดรถดับเครื่องยนต์ ประตูทางลาดก็เลื่อนขึ้นมาปิด ทุกคนลงจากรถ และออกเดินตามเบลมอทโดยไม่ได้พูดอะไร ช่องประตูสีขาวเลื่อนออกอัตโนมัติเมื่อเบลมอทและพวกเราเดินมาถึงหน้ามัน พวกเราจึงได้เห็นความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของโลกใหม่ ภายในยานมีผู้คนในเครื่องแบบชุดเกราะผ้านาโนหนาเฉพาะพิเศษสีขาวเกลี้ยง เบลมอท บอกว่านี้เป็นกองทหารของโลกใหม่มีชื่อว่าโซลเยอร์ (Soldier) มีทหารนายหนึ่งที่มีเครื่องแบบคล้ายๆกันแต่มีเกราะแขนสีน้ำเงินและเกราะหนากว่าเข้ามาพดคุยกับเบลมอทสองสามคำและแบมือมาที่พวกเรา นายทหารนายนั้นจึงออกเดินนำพวกเราไปเดินต่อไป เราได้เห็นกับระบบการแสดงภาพสามมิติ Hologram ที่ไม่ได้มีอะไรเป็นฉาก แต่ปรากฏขึ้นบนอากาศ และยังสามารถกดเป็นปุ่มสั่งการได้จากภาพสามมิตินั้นโดยตรงโดยไม่ต้องมีแป้นพิมพ์ควบคุมเหมือนคอมพิวเตอร์ที่ถือว่าโบราณไปเสีย แล้วพวกเราเดินตามทหารนายนั้นมาเรื่อย ผ่านประตูอัตโนมัติบานแล้วบานเล่ามองไปที่เบลมอท
แล้วเราก็มาถึงห้องหนึ่ง ประตูอัตโนมัติเลื่อนขึ้นไปแล้วเราก็เดินลอดเข้ามา ในห้องนี้มีโต๊ะกลมตัวใหญ่อยู่ตรงกลางมีเก้าอี้เหล็กล้อมรอบโต๊ะ เบลมอทเชิญให้พวกเรานั่งส่วนเธอก็เดินออกไปพร้อมกับทหารนายนั้น จากนั้นพวกเราก็สนทนากันภายในห้องจนกระทั่งเรารู้สึกหิว ประตูกลจึงเปิดขึ้นแล้วเบลมอทก็เดินเข้ามา เธอบอกให้พวกเรากดปุ่มที่อยู่ข้างๆที่เท้าแขนของเก้าอี้ แล้วโต๊ะก็เกิดการเคลื่อนไหว แผ่นโต๊ะด้านบนของแต่ละคนแยกออกและระบบเครื่องจักรก็ยกเอาอาหารขึ้นมาให้แล้วโต๊ะก็ปิดลงตามเดิม ขณะนี้ทุกคนก็มีอาหารวางอยู่เบื้องหน้าแล้ว ทีดัส เขารู้สึกแปลกๆกับเธอ เธอยิ้มให้แต่ไม่พูดอะไร แล้วก็เดินออกไปอีกครั้งหลังจากที่ทานอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลีน่าเดินมาที่ประตูห้องมองลอดกระจกออกไป เธอเห็นเหล่าเจ้าหน้าที่กำลังบังคับยานอยู่ แต่เธอกลับไม่รู้สึกเลยสักนิดว่ายานกำลังเคลื่อนตัวออกไป เบลมอทกลับเข้ามาอีกครั้ง เธอถามถึงอาหารเที่ยงว่าเป็นอย่างไร จากนั้นเธอก็พาพวกเราเดินเที่ยวชมยานลำนี้"
มันอีกไม่ไกลหรอกลีน่า เราใกล้จะถึงแล้ว" เบลมอทบอกเธอ พร้อมเดินไปคุกเข่าลงเบื้องหน้าเธอ"
ข้างหน้าคือชีวิตใหม่ของเธอ และเราเดินทางมาหามันแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่เราจะคิดถึงเรื่องข้างหลัง"ครู่หนึ่งเราก็มองเห็นเกาะอยู่เบื้องหน้า
ตึกสูงใหญ่อยู่ตรงใจกลางเกาะ ทำให้ทุกคนตื่นเต้น เบลมอทนำทุกคนกลับไปที่ห้องเพื่อไปเอาสัมภาระเบลมอทนำทุกคนไปยังอีกห้องเพื่อเตรียมออกจากยาน ทีดัสกับลีน่ามองไปนอกยาน เห็นยานมุ่งตรงไปยังตึกสูงใหญ่ใจกลางเกาะ ยานกำลังลงจอดบนลานจอดยานที่มียานลำอื่นจอดอยู่เรียงราย มีหุ่นยนต์สามตัวกำลังช่วยกันลากสายสีดำออกมาจากขดของมันและเอามาต่อกับตัวยาน ทีดัสเดาว่าคงเป็นการเติมพลังงานสตาร์สตรีมเบลมอทพาทุกคนเดินออกจากห้องมาถึงทางออกของยานที่กำลังเปิดทอดลงไปเป็นทางลาดลง
ทุกคนเดินลงมาจากยาน ขณะที่มาถึงก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว ไฟฟ้าหลายดวงถูกเปิดสว่างไหวในแสงอาทิตย์สนธยา พื้นของลานจอดยานทำด้วยปูนซีเมนต์ พวกเขาเดินเข้าตึก เมื่อถึงประตูกระจกมันก็เปิดออกอัตโนมัติ แล้วพวกเขาก็ได้เห็นภายในของตึกนี้ เป็นที่ๆมหัศจรรย์จริงๆ ห้องโถงโอ่อ่าเพดานสูง ทุกอย่างมีหุ่นยนต์ทำแทนมนุษย์ ผู้คนภายในตึกนี้ดูก็รู้ว่าเป็นคนระดับผู้นำ ถ้าอย่างนั้นที่นี่ก็ต้องเป็นตึกกองบัญชาการของเกาะแห่งนี้"
เบลมอท เกาะนี้มีชื่อว่าอะไร" ทีดัสถามเบลมอทพร้อมเอามือสะกิดหล่อน อีกมือหนึ่งกุมมือของลีน่าเอาไว้แน่น"
เกาะนี้ชื่อ ลาพิวต้า มีเมืองเดียว ศูนย์กลางการปกครองก็คือที่อาคารนี้ ลาพิวต้า ทาวเวอร์" หล่อนตอบทีดัสพร้อมกับรวบผมยาวสีแดงของเธอมัดหางม้าสูง "ฉันจะพาทุกคนไปพบกับผู้ปกครองที่นี่"ทุกคนเดินตามหล่อนขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดของตึกนี้ ทุกคนเห็นรูปทรงของตึกนี้จากภายในลิฟต์ที่เป็นกระจก เป็นตึกรูปทรงกรวยฐานกว้าง สี่ทิศของตึกนี้มีเตาพลังงานใหญ่ที่ปล่อยลำแสงสีเขียวสูงจนทะลุฟ้าสีดำ และยังมองเห็นทัศนียภาพรอบเมืองลาพิวต้า เมื่อทุกคนมาถึงชั้นทีอยู่ยอดตึก ประตูลิฟต์เปิดออก แล้วก็พบกับห้องประชุมใหญ่ มีเก้าอี้ขึ้นไปเหมือนอัฒจันท์คล้ายกับสนามฟุตบอลกับสนามฟุตบอล ตรงกลางเป็นเวทีใหญ่ มีคนอยู่เพียงไม่กี่คน สวมชุดทหารธรรมดาไม่ใช่ชุดเกราะ พวกเขาหันมาและเดินเข้ามาหาพวกทีดัส"
ยินดีต้อนรับสู่ลาพิวต้า ทางเราจะจัดหาที่บ้านให้จากนั้นพวกคุณต้องลงทะเบียนประชากร แล้วเราจะจัดหาอาชีพให้ หรือว่าพวกคุณอยากจะทำอาชีพของคุณเองก็แล้วแต่...เชิญพวกคุณทางนี้เลยครับ" ชายร่างใหญ่ผิวขาวผมดำสั้นอยู่ในเครื่องแบบทหาร บอกสิ่งที่เราจะต้องทำ แล้วพวกเราก็เดินตามเขาไปยังที่ๆเขาจะให้พวกเราอยู่เป็นบ้าน..."เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น