ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
\"เมืองคาเนซัส\" เมืองแห่งความสงบสุขมาช้านาน ตั้งอยู่บนยอดเขาอันสูงเสียดฟ้าซึ่งรายล้อมไปด้วยแม่น้ำอันศักสิทธิ์ แม่น้ำศักสิทธิ์แห่งนี้เป็นแหล่งน้ำที่มีสัตว์วิเศษอาศัยอยู่มากมายหลายชนิดให้น่าตื่นตาตื่นใจ เหล่านางเงือกอันงดงามว่ายน้ำเวียนวนบนผืนน้ำอันใสอะอาดแห่งนี้อยู่เสมอ แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์จะมีเหล่านางฟ้าอันงามสง่าอ่อนช้อยคอยปกปักษ์รักษาดูแลความสงบสุขอยู่เรื่อยมา ผู้คนเมืองคาเนซัสต่างก็มีจิตใจโอบอ้อมอารี แบ่งปันกันเหมือนพี่เหมือนน้อง จนสามารถที่จะกล่าวได้ว่าพวกเขาคือครอบครัวเดียวกันเลยก็ได้ด้วยซ้ำ ผืนแผ่นดินของเมืองคาเนซัสเต็มเปี่ยมไปด้วยทรัพยากรอันสมบูรณ์งดงามยิ่งกว่าเมืองอื่นใดๆเลยก็ว่าได้ มีต้นไม้เขียวขจีรอบๆเมืองอยู่เต็มไปหมด บรรยากาศเมืองนี้ช่างสดใสสวยงามเสียจริงๆ มีสัตว์เล็กๆน้อยๆรวมไปถึงสัตว์ป่าใหญ่ๆอาศัยอยู่กันอย่างมากมาย ผู้คนที่เมืองแห่งนี้ต่างก็รู้ผิดชอบชั่วดีกันทั้งนั้น เพราะพวกเขาต่างก็รู้ว่าอะไรควรหรืออะไรไม่ควร เมืองแห่งนี้แทบจะไม่มีผู้ที่ทำผิดกฎระเบียบของเมืองเลย และถ้าเกิดฝ่าฝืนพวกเขาจะต้องรับโทษอย่างสาสม... เมืองคาเนซัสตั้งอยู่ทางตะวันออกของดินแดนมหัศจรรย์อันยิ่งใหญ่แห่งนี้ เนื้อที่ของคาเนซัสมีขนาดกว้างขวางมากเหลือล้น รอบๆเมืองคาเนซัสมีกำแพงเวทมนต์ที่หนาแน่นล้อมรอบเมืองอยู่อย่างสง่างามและโดดเด่นเพื่อคอยปกป้องรักษาความปลอดภัยให้เมืองแห่งนี้
เมืองคาเนซัสนี้ก่อตั้งโดยนักรบชาวอังกฤษซึ่งอพยพจากทางตอนเหนือของประเทศ และเขาเป็นมนุษย์คนแรก ที่ได้เข้ามายังโลกมหัศจรรย์แห่งนี้ได้ นักรบท่านนี้ได้พบประตูมิติบานใหญ่ในระหว่างที่เขาหนีข้าศึกที่กำลังยกทัพมา ประตูแห่งมิติบานนี้เป็นประตูแห่งเดียวเท่านั้นที่จะเชื่อมต่อโลกมนุษย์กับดินแดนมหัศจรรย์ได้ และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครพบเห็บประตูมิติบานนี้อีกเลย บ้างก็ว่าในรอบพันปีมันจะเปิดเพียงหนึ่งครั้ง หรือบ้างก็ว่าต้องรอเป็นหมื่นๆปี... แต่จนมาถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถหยั่งรู้ได้ ว่าประตูมิติจะเปิดอีกเมื่อใด
ชื่อเสียงความรุ่งเรืองและความสวยงามแห่งเมืองคาเนซัส ได้โด่งดังไปถึงแม่มดอันร้ายกาจซึ่งมีนามว่า\"เซอร์รีน่า\" แม่มดเซอร์รีน่าเป็นแม่มดที่ชั่วร้ายที่สุดในดินแดนมหัศจรรย์เลยก็ว่าได้ เธอไม่เคยทำความดีเรยซักครั้ง และดูเหมือนเธอจะภูมิใจยิ่งนักที่เธอเป็นแม่มดที่ชั่วร้ายที่สุด ว่ากันว่าแต่เดิมนั้นเธอมีหน้าตาที่อัปลักษณ์มาก แต่ด้วยเวทมนต์ของเธอจึงทำให้เธอนั้นมีหน้าตาที่สวยสง่าน่าเกรงขาม จมูกของเธอคุ้มคล้ายๆเหยี่ยว ตาของเธอดูดุดันเหมือนโกรธแค้นใครมาเป็นหมื่นๆปี เธอใส่ชุดสีแดงสดที่ย้อมจากเลือดของสัตว์วิเศษ จึงทำให้เสื้อของเธอนั้นแข็งแกร่งราวกับเหล็กหล่อหลอมรวมกันถึงสิบชั้นได้ เธอมีบริวารเป็นเหล่าภูตผีปีศาจอันหน้ากลัวมากมาย
เซอร์รีน่าพยายามหาทางยึดครองเมืองคาเนซัสมาตลอด แต่แล้วเธอไม่สามารถผ่านเข้าไปในกำแพงที่เหล่านางฟ้าที่คอยคุ้มครองเมืองคาเนซัสสร้างไว้ เพราะกำแพงแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยเวทมนต์วิเศษอย่างหนาแน่น เธอจึงพยายามหาทางทำลายกำแพงอันศักสิทธิ์ของเมืองคาเนซัสตลอดมา
\"โอ้ย...!!!กำแพงเวทมนตร์นี่มันหนาจริงๆ ข้าจะพังมันได้ยังไงนะ!!!\" เซอร์รีน่ากล่าว หน้าตาของเธอดูจะเคียดแค้นสุดๆ
\"นายท่าน ข้าเคยได้ยินมาว่า ในถ้ำใต้ดินที่อยู่ลึกลงไปจากพื้นดินมาก มีมังกรพ่นไฟที่มีพลังอันร้ายกาจมากมายเหลือล้น\" แบล๊คดาร์ค สมุนตัวเอกซึ่งเปรียบเสมือนมือขวาของเซอร์รีน่ากล่าวขึ้น
\"แล้วข้าจะสามารถจับมันมาได้ไงกันล่ะ มันมีพลังอันร้ายกาจมิชั่ยหรอ\" เซอร์รีน่าพูดอย่างหงุดหงิด
\"ไม่ต้องห่วงนายท่าน นายท่านมีลูกแก้วมังกรอยู่ในกำมือแล้ว ท่านจะไปกลัวมังกรทำไม\" แบล๊คดาร์คกล่าว
\"แล้วเจ้าจะมัวมายืนบื้ออยู่ทำไม!!! รีบไปดักจับมังกรไฟนั้นมาเดี๋ยวนี้!!!\"
และในที่สุดแม่มดเซอร์รีน่า ก็ได้ค้นพบวิธีที่จะทำลายกำแพงอันหนาแน่นไปด้วยเวทมนต์แห่งนั้น นั่นคือต้องไปตามหามังกรไฟซึ่งมีพลังอันร้ายกาจมาให้ได้ มังกรไฟตัวนี้อาศัยอยู่ในถ้ำใต้ดินซึ่งลึกจากพื้นแผ่นดินมาก และในเวลาสิบปี มังกรตัวนี้จะออกหากินเพียงหนึ่งครั้ง เมื่อถึงกำหนดที่มังกรไฟออกมาหากิน แม่มดเซอร์รีน่าจึงให้แบล๊คดาร์คสมุนเอกของเธอ ออกไปดักรอปากถ้ำของเจ้ามังกรไฟตัวนั้น... และก่อนที่แบล๊คดาร์คจะไปดักรอเจ้ามังกรไฟนั้น เซอร์รีน่าก็ได้หยิบลูกแก้วมังกรที่เธอเก็บรักษาไว้เป็นพันๆปีออกมาให้กับเขา ลูกแก้วมังกรสีใสๆนั้นมีขนาดใหญ่ประมาณหนึ่งถึงสองกำมือได้ มันช่างดูเก่าเสียจริงๆ และเมื่อเจ้ามังกรไฟได้ออกมาหากินนอกถ้ำ มันก็ได้ปะทะกับแบล๊คดาร์ค สมุนของเซอร์รีน่าอยู่พักใหญ่
\"ฟู่... ฟู่... !!!\"เสียงพ่นไฟของเจ้ามังกรไปพ่นอย่างไม่หยุดยั้ง
\"ฮ่า ฮ่า !!! เจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอก ฮ่าๆๆ!!!\"
แต่แล้วเจ้ามังกรไฟมันก็ไม่สามารถต้านกับแรงลูกแก้วมังกรได้ มันจึงต้องยอมมาเป็นสมุนของแม่มดเซอร์รีน่าแต่โดยดี มันต้องจำใจที่จะทำตามคำสั่งของเซอร์รีน่า เพราะมันไม่สามารถขัดขืนคำสั่งได้เลย
ราตรีพร่างพราย ดาวเต็มท้องฟ้า ผู้คนต่างก็หลับไหลอย่างไม่รู้ตัว ว่าหายนะอันร้ายแรงที่สุดของเมืองคาเนซัสกำลังจะมาถึง แต่ในระหว่างที่ท้องฟ้ามืดสนิทอยู่นั่นเอง
\"ฟู่วววววว!!!!! ฟู่วววววว!!!!!!\" เสียงเจ้ามังกรไฟพ่นไฟอีกครั้ง จากท้องฟ้าที่มืดสนิทยามค่ำคืน บัดนี้ท้องฟ้ากลับกลายเป็นสีส้มแดงไปแล้ว มันช่วงดูน่ากลัวเสียจริงๆ ผู้คนต่างก็โกลาหลกันทั่งเมือง พวกเขาทำอะไรไม่ถูกเลย ต่างก็วิ่งพล่านกันทั่วเมืองจนเหล่านางฟ้าผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองนี้ต้องออกมาปราศรัยกับประชาชนเมืองให้เลิกแตกตื่น
\"พวกเราตั้งสติกันไว้สิ!!!\" นางฟ้าตนหนึ่งเอ่ยขึ้น
\"ใช่!!! พวกเราอย่าแตกตื่นกันนะ จะทำให้เมืองเราเกิดปัญหาหนักขึ้นกันไปใหญ่\" นางฟ้าอีกตนหนึ่งซึ่งดูเธอจะอ่อนเยาว์ที่สุดในบรรดาเหล่านางฟ้าได้กล่าวขอร้องประชาชนเมือง
เหล่านางฟ้าและผู้คนในเมืองทุกคนต่างตื่นตระหนก นางฟ้าทุกตนพยายามยื้อกำแพงเมืองแห่งนี้ไว้ด้วยพลังของเธอทั้งหมด แต่พวกเธอก็สามารถยื้อกำแพงไว้ได้ไม่เกินหนึ่งปีเท่านั้น และมีหนทางเดียวเท่านั้นที่จะช่วยเหลือเมืองคาเนซัสไว้ได้... นั่นคือต้องไปยังวงแหวนดราคาฟ เพื่อนำ\"ไม้คฑาของพ่อมดโคโรครอฟ\"ในตำนานกลับมา!!!
\"มีใครจะอาสาไปวงแหวนดราคราฟบ้างไหม\" เมื่อนางฟ้าตนหนึ่งกล่าวจบ ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากผู้ใดทั้งสิ้น ในช่วงเวลานั้นราวกับว่าไม่มีคนอยู่ในที่นั้นเรย
\"ความจริงเราก็อยากอาสาไปนะท่าน แต่การไปวงแหวนดราคราฟมันช่างยากเย็นมากมายเหลือล้น คนธรรมดาอย่างพวกเราไม่เคยมีใครไปได้เลยนะท่าน\" ชาวเมืองผู้หนึ่งกล่าวขึ้น
(วงแหวนดราคราฟนั้น มีลัษณะเป็นวงกลมใหญ่ยักษ์ซึ่งล้อมรอบหอคอยของพ่อมดโคโรครอฟในตำนานนั่นเอง วงแหวนนี้ล้อมรอบราวๆกลับว่าเป็นบริวารของหอคอยของโคโรครอฟ ผู้ใดที่สามารถพังทำลายวงแหวนนี้ไปได้ก็จะได้พบกับของวิเศษมากมายและมีค่าเหลือล้น วงแหวนดราคราฟเกิดจากเวทมนต์อันยิ่งใหญ่ของพ่อมดโคโรครอฟ เมื่อพ่อมดอันยิ่งใหญ่ท่านนี้ได้สร้างวงแหวนล้อมรอบหอคอยของท่านได้ไม่นาน อยู่ๆท่านก็หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย และยังคงเป็นปริศนากับดินแทนมหัศจรรย์อยู่ทุกวันนี้ว่าท่านนั้นหายไปไหน... และหายไปได้อย่างไร...)
การจะหาตัวแทนไปยังวงแหวนดราคราฟช่างยากนัก เพราะทางไปวงแหวนดราคาฟนั้นเต็มไปด้วยอันตรายต่างๆมากมายนับไม่ถ้วน มีเหล่าภูตผีปีศาจอาศัยอยู่ พืชยักษ์กินคน และป่าดงดิบอีกมากมายก่ายกอง จึงทำให้เหล่าบรรดานางฟ้าที่คอยดูแลเมืองคาเนซัสต่างก็เริ่มท้อใจ
\"ข้าจะทำอย่างไรดี ไม่มีใครอาสาไปเลย นี่จะเป็นจุดจบของเมืองคาเนซัสแล้วใช่ไหม!!!\" นางฟ้าตนหนึ่งพูดอย่างท้อใจ
ระหว่างที่นางฟ้ากำลังกลุ้มใจอยู่นั้นก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าวขึ้น....
\"ข้าจะอาสาไปเอง!!!\" เด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าวขึ้น
\"จะ..จะ..เจ้าแน่ใจหรอ?? เจ้าไม่ได้ล้อเล่นกับข้าใช่ไหม?? หนทางอันยาวไกลที่จะไปวงแหวนดราคราฟไม่ใช่จะไปกันได้ง่ายๆนะ\" นางฟ้ากล่าวขึ้นอย่างมีความหวัง
\"ข้าแน่ใจ!!! เซอร์รีน่าเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของข้า... แล้วนี่จะมาทำลายเมืองเกิดของข้าอีก ข้ายอมไม่ได้หรอกท่าน!!!\" เด็กหนุ่มคนนั้นพูดด้วยความโกรธแค้น
\"เจ้าดูมีความกล้าหาญมาก ข้าคิดว่าเจ้าจะต้องนำคฑาของพ่อมดโคโรครอฟกลับมาได้แน่ ขอบใจเจ้ามาก... ข้าขอขอบใจเจ้าจริงๆ ความหวังของเมืองเราอยู่ที่ท่านแล้วนะ\" นางฟ้ากล่าวอย่างดีใจราวกับยกภูเขาออกจากอก
ผู้อาสาสมัครเดินทางไปนั้นก็คือ\"อลัน\"เด็กหนุ่มกำพร้าพ่อแม่ เนื่องจากครอบครัวของเขาถูกแม่มดเซอร์รีน่าฆ่าตาย เขาจึงอาสาเพื่อที่จะไปยังวงแหวนดราคราฟด้วยตนเอง และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางอันแสนยาวไกลของเขา...
\"เมืองคาเนซัส\" เมืองแห่งความสงบสุขมาช้านาน ตั้งอยู่บนยอดเขาอันสูงเสียดฟ้าซึ่งรายล้อมไปด้วยแม่น้ำอันศักสิทธิ์ แม่น้ำศักสิทธิ์แห่งนี้เป็นแหล่งน้ำที่มีสัตว์วิเศษอาศัยอยู่มากมายหลายชนิดให้น่าตื่นตาตื่นใจ เหล่านางเงือกอันงดงามว่ายน้ำเวียนวนบนผืนน้ำอันใสอะอาดแห่งนี้อยู่เสมอ แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์จะมีเหล่านางฟ้าอันงามสง่าอ่อนช้อยคอยปกปักษ์รักษาดูแลความสงบสุขอยู่เรื่อยมา ผู้คนเมืองคาเนซัสต่างก็มีจิตใจโอบอ้อมอารี แบ่งปันกันเหมือนพี่เหมือนน้อง จนสามารถที่จะกล่าวได้ว่าพวกเขาคือครอบครัวเดียวกันเลยก็ได้ด้วยซ้ำ ผืนแผ่นดินของเมืองคาเนซัสเต็มเปี่ยมไปด้วยทรัพยากรอันสมบูรณ์งดงามยิ่งกว่าเมืองอื่นใดๆเลยก็ว่าได้ มีต้นไม้เขียวขจีรอบๆเมืองอยู่เต็มไปหมด บรรยากาศเมืองนี้ช่างสดใสสวยงามเสียจริงๆ มีสัตว์เล็กๆน้อยๆรวมไปถึงสัตว์ป่าใหญ่ๆอาศัยอยู่กันอย่างมากมาย ผู้คนที่เมืองแห่งนี้ต่างก็รู้ผิดชอบชั่วดีกันทั้งนั้น เพราะพวกเขาต่างก็รู้ว่าอะไรควรหรืออะไรไม่ควร เมืองแห่งนี้แทบจะไม่มีผู้ที่ทำผิดกฎระเบียบของเมืองเลย และถ้าเกิดฝ่าฝืนพวกเขาจะต้องรับโทษอย่างสาสม... เมืองคาเนซัสตั้งอยู่ทางตะวันออกของดินแดนมหัศจรรย์อันยิ่งใหญ่แห่งนี้ เนื้อที่ของคาเนซัสมีขนาดกว้างขวางมากเหลือล้น รอบๆเมืองคาเนซัสมีกำแพงเวทมนต์ที่หนาแน่นล้อมรอบเมืองอยู่อย่างสง่างามและโดดเด่นเพื่อคอยปกป้องรักษาความปลอดภัยให้เมืองแห่งนี้
เมืองคาเนซัสนี้ก่อตั้งโดยนักรบชาวอังกฤษซึ่งอพยพจากทางตอนเหนือของประเทศ และเขาเป็นมนุษย์คนแรก ที่ได้เข้ามายังโลกมหัศจรรย์แห่งนี้ได้ นักรบท่านนี้ได้พบประตูมิติบานใหญ่ในระหว่างที่เขาหนีข้าศึกที่กำลังยกทัพมา ประตูแห่งมิติบานนี้เป็นประตูแห่งเดียวเท่านั้นที่จะเชื่อมต่อโลกมนุษย์กับดินแดนมหัศจรรย์ได้ และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครพบเห็บประตูมิติบานนี้อีกเลย บ้างก็ว่าในรอบพันปีมันจะเปิดเพียงหนึ่งครั้ง หรือบ้างก็ว่าต้องรอเป็นหมื่นๆปี... แต่จนมาถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถหยั่งรู้ได้ ว่าประตูมิติจะเปิดอีกเมื่อใด
ชื่อเสียงความรุ่งเรืองและความสวยงามแห่งเมืองคาเนซัส ได้โด่งดังไปถึงแม่มดอันร้ายกาจซึ่งมีนามว่า\"เซอร์รีน่า\" แม่มดเซอร์รีน่าเป็นแม่มดที่ชั่วร้ายที่สุดในดินแดนมหัศจรรย์เลยก็ว่าได้ เธอไม่เคยทำความดีเรยซักครั้ง และดูเหมือนเธอจะภูมิใจยิ่งนักที่เธอเป็นแม่มดที่ชั่วร้ายที่สุด ว่ากันว่าแต่เดิมนั้นเธอมีหน้าตาที่อัปลักษณ์มาก แต่ด้วยเวทมนต์ของเธอจึงทำให้เธอนั้นมีหน้าตาที่สวยสง่าน่าเกรงขาม จมูกของเธอคุ้มคล้ายๆเหยี่ยว ตาของเธอดูดุดันเหมือนโกรธแค้นใครมาเป็นหมื่นๆปี เธอใส่ชุดสีแดงสดที่ย้อมจากเลือดของสัตว์วิเศษ จึงทำให้เสื้อของเธอนั้นแข็งแกร่งราวกับเหล็กหล่อหลอมรวมกันถึงสิบชั้นได้ เธอมีบริวารเป็นเหล่าภูตผีปีศาจอันหน้ากลัวมากมาย
เซอร์รีน่าพยายามหาทางยึดครองเมืองคาเนซัสมาตลอด แต่แล้วเธอไม่สามารถผ่านเข้าไปในกำแพงที่เหล่านางฟ้าที่คอยคุ้มครองเมืองคาเนซัสสร้างไว้ เพราะกำแพงแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยเวทมนต์วิเศษอย่างหนาแน่น เธอจึงพยายามหาทางทำลายกำแพงอันศักสิทธิ์ของเมืองคาเนซัสตลอดมา
\"โอ้ย...!!!กำแพงเวทมนตร์นี่มันหนาจริงๆ ข้าจะพังมันได้ยังไงนะ!!!\" เซอร์รีน่ากล่าว หน้าตาของเธอดูจะเคียดแค้นสุดๆ
\"นายท่าน ข้าเคยได้ยินมาว่า ในถ้ำใต้ดินที่อยู่ลึกลงไปจากพื้นดินมาก มีมังกรพ่นไฟที่มีพลังอันร้ายกาจมากมายเหลือล้น\" แบล๊คดาร์ค สมุนตัวเอกซึ่งเปรียบเสมือนมือขวาของเซอร์รีน่ากล่าวขึ้น
\"แล้วข้าจะสามารถจับมันมาได้ไงกันล่ะ มันมีพลังอันร้ายกาจมิชั่ยหรอ\" เซอร์รีน่าพูดอย่างหงุดหงิด
\"ไม่ต้องห่วงนายท่าน นายท่านมีลูกแก้วมังกรอยู่ในกำมือแล้ว ท่านจะไปกลัวมังกรทำไม\" แบล๊คดาร์คกล่าว
\"แล้วเจ้าจะมัวมายืนบื้ออยู่ทำไม!!! รีบไปดักจับมังกรไฟนั้นมาเดี๋ยวนี้!!!\"
และในที่สุดแม่มดเซอร์รีน่า ก็ได้ค้นพบวิธีที่จะทำลายกำแพงอันหนาแน่นไปด้วยเวทมนต์แห่งนั้น นั่นคือต้องไปตามหามังกรไฟซึ่งมีพลังอันร้ายกาจมาให้ได้ มังกรไฟตัวนี้อาศัยอยู่ในถ้ำใต้ดินซึ่งลึกจากพื้นแผ่นดินมาก และในเวลาสิบปี มังกรตัวนี้จะออกหากินเพียงหนึ่งครั้ง เมื่อถึงกำหนดที่มังกรไฟออกมาหากิน แม่มดเซอร์รีน่าจึงให้แบล๊คดาร์คสมุนเอกของเธอ ออกไปดักรอปากถ้ำของเจ้ามังกรไฟตัวนั้น... และก่อนที่แบล๊คดาร์คจะไปดักรอเจ้ามังกรไฟนั้น เซอร์รีน่าก็ได้หยิบลูกแก้วมังกรที่เธอเก็บรักษาไว้เป็นพันๆปีออกมาให้กับเขา ลูกแก้วมังกรสีใสๆนั้นมีขนาดใหญ่ประมาณหนึ่งถึงสองกำมือได้ มันช่างดูเก่าเสียจริงๆ และเมื่อเจ้ามังกรไฟได้ออกมาหากินนอกถ้ำ มันก็ได้ปะทะกับแบล๊คดาร์ค สมุนของเซอร์รีน่าอยู่พักใหญ่
\"ฟู่... ฟู่... !!!\"เสียงพ่นไฟของเจ้ามังกรไปพ่นอย่างไม่หยุดยั้ง
\"ฮ่า ฮ่า !!! เจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอก ฮ่าๆๆ!!!\"
แต่แล้วเจ้ามังกรไฟมันก็ไม่สามารถต้านกับแรงลูกแก้วมังกรได้ มันจึงต้องยอมมาเป็นสมุนของแม่มดเซอร์รีน่าแต่โดยดี มันต้องจำใจที่จะทำตามคำสั่งของเซอร์รีน่า เพราะมันไม่สามารถขัดขืนคำสั่งได้เลย
ราตรีพร่างพราย ดาวเต็มท้องฟ้า ผู้คนต่างก็หลับไหลอย่างไม่รู้ตัว ว่าหายนะอันร้ายแรงที่สุดของเมืองคาเนซัสกำลังจะมาถึง แต่ในระหว่างที่ท้องฟ้ามืดสนิทอยู่นั่นเอง
\"ฟู่วววววว!!!!! ฟู่วววววว!!!!!!\" เสียงเจ้ามังกรไฟพ่นไฟอีกครั้ง จากท้องฟ้าที่มืดสนิทยามค่ำคืน บัดนี้ท้องฟ้ากลับกลายเป็นสีส้มแดงไปแล้ว มันช่วงดูน่ากลัวเสียจริงๆ ผู้คนต่างก็โกลาหลกันทั่งเมือง พวกเขาทำอะไรไม่ถูกเลย ต่างก็วิ่งพล่านกันทั่วเมืองจนเหล่านางฟ้าผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองนี้ต้องออกมาปราศรัยกับประชาชนเมืองให้เลิกแตกตื่น
\"พวกเราตั้งสติกันไว้สิ!!!\" นางฟ้าตนหนึ่งเอ่ยขึ้น
\"ใช่!!! พวกเราอย่าแตกตื่นกันนะ จะทำให้เมืองเราเกิดปัญหาหนักขึ้นกันไปใหญ่\" นางฟ้าอีกตนหนึ่งซึ่งดูเธอจะอ่อนเยาว์ที่สุดในบรรดาเหล่านางฟ้าได้กล่าวขอร้องประชาชนเมือง
เหล่านางฟ้าและผู้คนในเมืองทุกคนต่างตื่นตระหนก นางฟ้าทุกตนพยายามยื้อกำแพงเมืองแห่งนี้ไว้ด้วยพลังของเธอทั้งหมด แต่พวกเธอก็สามารถยื้อกำแพงไว้ได้ไม่เกินหนึ่งปีเท่านั้น และมีหนทางเดียวเท่านั้นที่จะช่วยเหลือเมืองคาเนซัสไว้ได้... นั่นคือต้องไปยังวงแหวนดราคาฟ เพื่อนำ\"ไม้คฑาของพ่อมดโคโรครอฟ\"ในตำนานกลับมา!!!
\"มีใครจะอาสาไปวงแหวนดราคราฟบ้างไหม\" เมื่อนางฟ้าตนหนึ่งกล่าวจบ ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากผู้ใดทั้งสิ้น ในช่วงเวลานั้นราวกับว่าไม่มีคนอยู่ในที่นั้นเรย
\"ความจริงเราก็อยากอาสาไปนะท่าน แต่การไปวงแหวนดราคราฟมันช่างยากเย็นมากมายเหลือล้น คนธรรมดาอย่างพวกเราไม่เคยมีใครไปได้เลยนะท่าน\" ชาวเมืองผู้หนึ่งกล่าวขึ้น
(วงแหวนดราคราฟนั้น มีลัษณะเป็นวงกลมใหญ่ยักษ์ซึ่งล้อมรอบหอคอยของพ่อมดโคโรครอฟในตำนานนั่นเอง วงแหวนนี้ล้อมรอบราวๆกลับว่าเป็นบริวารของหอคอยของโคโรครอฟ ผู้ใดที่สามารถพังทำลายวงแหวนนี้ไปได้ก็จะได้พบกับของวิเศษมากมายและมีค่าเหลือล้น วงแหวนดราคราฟเกิดจากเวทมนต์อันยิ่งใหญ่ของพ่อมดโคโรครอฟ เมื่อพ่อมดอันยิ่งใหญ่ท่านนี้ได้สร้างวงแหวนล้อมรอบหอคอยของท่านได้ไม่นาน อยู่ๆท่านก็หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย และยังคงเป็นปริศนากับดินแทนมหัศจรรย์อยู่ทุกวันนี้ว่าท่านนั้นหายไปไหน... และหายไปได้อย่างไร...)
การจะหาตัวแทนไปยังวงแหวนดราคราฟช่างยากนัก เพราะทางไปวงแหวนดราคาฟนั้นเต็มไปด้วยอันตรายต่างๆมากมายนับไม่ถ้วน มีเหล่าภูตผีปีศาจอาศัยอยู่ พืชยักษ์กินคน และป่าดงดิบอีกมากมายก่ายกอง จึงทำให้เหล่าบรรดานางฟ้าที่คอยดูแลเมืองคาเนซัสต่างก็เริ่มท้อใจ
\"ข้าจะทำอย่างไรดี ไม่มีใครอาสาไปเลย นี่จะเป็นจุดจบของเมืองคาเนซัสแล้วใช่ไหม!!!\" นางฟ้าตนหนึ่งพูดอย่างท้อใจ
ระหว่างที่นางฟ้ากำลังกลุ้มใจอยู่นั้นก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าวขึ้น....
\"ข้าจะอาสาไปเอง!!!\" เด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าวขึ้น
\"จะ..จะ..เจ้าแน่ใจหรอ?? เจ้าไม่ได้ล้อเล่นกับข้าใช่ไหม?? หนทางอันยาวไกลที่จะไปวงแหวนดราคราฟไม่ใช่จะไปกันได้ง่ายๆนะ\" นางฟ้ากล่าวขึ้นอย่างมีความหวัง
\"ข้าแน่ใจ!!! เซอร์รีน่าเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของข้า... แล้วนี่จะมาทำลายเมืองเกิดของข้าอีก ข้ายอมไม่ได้หรอกท่าน!!!\" เด็กหนุ่มคนนั้นพูดด้วยความโกรธแค้น
\"เจ้าดูมีความกล้าหาญมาก ข้าคิดว่าเจ้าจะต้องนำคฑาของพ่อมดโคโรครอฟกลับมาได้แน่ ขอบใจเจ้ามาก... ข้าขอขอบใจเจ้าจริงๆ ความหวังของเมืองเราอยู่ที่ท่านแล้วนะ\" นางฟ้ากล่าวอย่างดีใจราวกับยกภูเขาออกจากอก
ผู้อาสาสมัครเดินทางไปนั้นก็คือ\"อลัน\"เด็กหนุ่มกำพร้าพ่อแม่ เนื่องจากครอบครัวของเขาถูกแม่มดเซอร์รีน่าฆ่าตาย เขาจึงอาสาเพื่อที่จะไปยังวงแหวนดราคราฟด้วยตนเอง และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางอันแสนยาวไกลของเขา...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น