ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TVXQ FIC Miracle Love Yaoi [YunJae*YooSu]

    ลำดับตอนที่ #6 : chapter 5[rewrite]

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 52



          “เดี๋ยว !!!!”  ร้องห้ามก่อนจะคว้ามือเรียวของร่างบางเอาไว้
          
          “อะไร” ถามคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ
          
          “นายรู้ได้ไงว่าฉันผมสีน้ำตาล” ถามร่างบางอย่างแปลกใจ หรือว่ามองเห็นแล้ว
          
          “แหะๆๆๆ”  หัวเราะเบาๆแล้วยิ้มแห้งๆให้คนตรงหน้า
          
          “บอกมาซะดีๆ” เค้นร่างบางอีกครั้ง แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ซารังอีกครั้ง
          
          พอรู้สึกว่ายุนยุนกำลังใกล้เข้ามา หน้าเริ่มร้อนอีกครั้ง
          
          “แหะๆ ซารังถามพี่สาวเมื่อกี้น่ะ” พูดแล้วหัวเราะแหะอีกครั้ง
          
          เฮ้อ.....ไอเราก็นึกว่ามองเห็นแล้ว อุตส่าห์ดีใจ......
          
          “แล้วนายคิดว่ายุนยุนหล่อมั้ย”  ถามคนตรงหน้า
          
          “ไม่รุ แต่ว่าที่รู้นะ ยุนยุนเหมือนหมีนะ ไม่งั้นซารังไม่เรียกว่ายุนยุนหรอก
          เพราะว่า ‘ยุนยุน’ คนญี่ปุ่นไว้ใช้เรียกหมี” พูดรัวเร็ว ถึง ยุนยุน
          ที่เป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ว่าร่างสูงฟังไม่เข้าใจ
          
          “ซารัง ทำไม ถึงรู้ภาษาญี่ปุ่นได้ล่ะ”    ถามคนตรงหน้าอีกครั้ง
          ร่างบางเองก็เหมือนจะเพิ่งรู้ตัว ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป
          
          “เมื่อกี้ ฉันพูดภาษาญี่ปุ่นเหรอ ยุนยุน”
          
          “อือ อือ”
          
          “ฉันพูดได้ด้วยเหรอ” ร่างบางพูดออกมาอย่างไม่แน่ใจ เค้าไปรู้ภาษาญี่ปุ่นได้ยังไง        
          “ไม่รุสิ หรือว่า นาย...นายจะเป็นคนญี่ปุ่น?”  ยุนโฮพูดอย่างครุ่นคิด แต่ดูแล้วน่าจะเป็นคนเกาหลีมากกว่า 
    และถ้าเป็นหลายภาษาก็แสดงว่า ร่างบางนี่จะต้องเป็นลูกคนมีเงินแน่นอน ไม่งั้นไม่มีทางรู้ภาษามากขนาดนี้หรอก
           
          “ช่างมันเถอะ นี่ ยุนยุน สักวันที่ซารังตามองเห็นแล้วนะ
          ซารังอยากจะเห็นหน้าของยุนยุนเป็นคนแรกเลยนะ ......” 
          มือเรียวคว้าเอามือหยาบของร่างสูงมากุมไว้
          
          “มือนี่ที่คอยช่วยเหลือซารัง”
          
          มือเรียวเคลื่อนไปจับที่หน้าแทน
          
          “ใบหน้าที่น่าจะดูใจดีเวลาพูดกับซารัง”
          
          “ดวงตาเรียวที่คอยมองมาที่ซารัง”  มือหยาบเลื่อนไปสัมผัสดวงตาเรียวคมของยุนโฮ
          
          “ยุนยุนที่เป็นคนตั้งชื่อให้กับซารัง เป็นคนที่ดีกับซารังที่สุด”
          
          “............” ร่างสูงยังคงเงียบ รอฟังเสียงหวานของคนตรงหน้า
          ดวงตาเรียวคมมองไปที่แจจุง อย่างไม่ละสายตา
          รู้สึกดีใจมากๆที่ซารังแคร์เค้าขนาดนี้
          
          “ยุนยุนเป็นผู้มีพระคุณของซารังเลยนะ”
          
          “ซารังจะไม่มีวันลืมยุนยุนนะ ไม่ว่าจะยังไง ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็น
          แต่ว่า....จำได้..เพราะ...” คำสุดท้าย เสียงหวานก็ถูกกลืนหายไป
          เพราะเสียงคนเข้ามา ทั้งสองคนชะงักก่อนจะผละออกจากกันทันที
          “ยูชอน” ยุนโฮเรียกชื่อคนที่เข้ามาใหม่....ทำไมวันนี้มาตรวจเร็วจัง
          เพิ่งจะแปดโมงครึ่งเองนะ....
          
          “ใครเหรอ ยุนยุน”  ร่างบางหันหน้าไปหายุนโฮแล้วถาม
          
          ....นี่ไม่เคยจำฉันได้เลยเหรอ  ซารัง ทำไมนะ.......
          
          “คุณหมอไง มาตรวจซารังแล้วไงล่ะ” ยุนโฮพูดกับยิ้มน้อยๆไปให้
          ......ทำอย่างกับมองเห็น.......
          
          “(- -  ) ( - -) (- -  ) ( - -)” ดวงหน้าหวานของแจจุงส่ายไปมาอย่างรุนแรง
          
          “ซารัง ให้คุณหมอตรวจหน่อยนะครับ”  ยูชอนพยายามพูดกล่อมร่างบาง
          พยายามสะกดความน้อยใจของตัวเองไว้
          
          “(- -  ) ( - -) (- -  ) ( - -)”          แจจุงส่ายหัวอีกครั้ง ก็ไม่อยากตรวจแล้วนี่ ตรวจไปก็เหมือนเดิม

           "ก็ซารางไม่อยากตรวจนี่....ตรวจไปก็เหมือนเดิม....'ไม่มีอะไรมากแล้วล่ะครับ ยังไงก็ต้องขอดูอาการอีกที'
      
            ร่างบางพูดล้อเลียนยูชอน 
           
          “ซารัง” ยุนโฮพูดเสียงเข้ม ปรามร่างบางตรงหน้าเล็กน้อย
          
          “ก็ซารังไม่อยากตรวจนี่” พูดเสียงงอนๆ
          
          “ ซารังไม่อยากเห็นหน้ายุนโฮแล้วเหรอ”  ยุนโฮงัดมุกเด็ดมาใช้
          รับรองซารังก็ซารังเถ้อะ เสร็จแน่!!!
          
          “อยากสิ!!!” ร่างบางพูดแล้วพยักหน้ารับอีกครั้ง    น้ำเสียงแสดงความตื่นเต้น
          
          “งั้น....ก็ต้องให้คุณหมอตรวจนะครับ...คนดี” ยุนโฮพูดเสียงอ่อนโยน
          
          “....” ยูชอนมองทั้งสองคนด้วยสายตาเจ็บปวด.....
          
          “เอ่อ งั้นฉันฝากด้วยนะ” เหมือนจะเพิ่งรับรู้ว่า ยูชอนยังอยู่
          หันมาพูดกับยูชอนแล้วเตรียมจะลุกออกไปรอข้างนอก
          
          “อื้อ ยุนยุน” ร่างบางร้องเสียงหลงแล้วควานหาร่างสูง
          ยุนโฮรีบเอามือให้ร่างบางทันที
          
          .....อะไรกัน...ยังไม่ทันออกไปไหนเลยนะ ติดกันขนาดนั้นเลยเหรอ ......

    ดีล่ะ  จุงยุนโฮ นายทำให้ฉันไม่มีทางเลือก
          ฉันจะต้องทำให้นายกับซารังห่างกันให้ได้.....ความเป็นเพื่อนของเรา...คงต้องจบลงกันวันนี้!!!!......ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป...เราจะเป็น....คู่แข่งกัน!!!.........
          
          “มีอะไ....” ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะพูดจบ
          มือเรียวก็คว้าหน้าของยุนโฮเข้ามาใกล้ แล้วเอาหน้าตัวเองเข้าไป
          จมูกของแจจุงสัมผัสกับจมูกของยุนโฮแล้วส่ายไป ส่ายมาน้อยๆ
          รอยยิ้มของยุนโฮปรากฏขึ้นมา ร่างบางผละออกจากยุนโฮแล้วเอ่ยขึ้นมา
          ยูชอนมองภาพตรงหน้าอย่างเหฃืออด...มือหนากำมือแน่นเพื่อสะกดอารมณ์
          
          “ลากันก่อนจิ ยุนยุน....เด๋วเจอกันนะ”
          
          “อือ อย่าซนล่ะ” สั่งเสียงดุน้อยๆแล้วเดินออกมาจากห้องนั้น
          ยูชอนมองตามหลังของยุนโฮที่เดินออกไปแล้ว จึงหันมาหาร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง
          ขายาวก้าวเข้าไปใกล้ๆกับร่างบางอีก
          
          “นี่ ซารังให้หมอตรวจหน่อยนะ”  พูดเสียงนุ่ม
          
          “อือ”  รับคำแล้วอยู่นิ่งๆ รอยยิ้มของแจจุงหายไปแล้ว หลังจากที่ยุนโฮออกไป
          
          “แปบเดียวนะครับ” พูดเสียงหวานอีกครั้ง ....อยากกระชับความสัมพันธ์
          
          “อือ เร็วเถอะฮะหมอ” เร่งยูชอนอีกครั้ง
          ...เมื่อไหร่จะตรวจสักที..อยากเจอยุนยุนจะแย่
          
          “คะ ครับ” รับคำแล้วลงมือตรวจเงียบๆ ...ทำไมอยากเจอไอ้ยุนมันมากนักรึไง
          
          “เป็นยังไงบ้างครับ เบื่อรึปล่าว” ไม่ได้เราต้องพยายาม อย่ายอมแพ้ยุนโฮ
          
          “ก็ดีฮะ สนุกดี อยู่โรงบาล มองไม่เห็น ความจำเสื่อมสบายดี” ตอบมาอย่างกวนๆ
          
          “หะ หา!!! ว่าไงนะครับ”
          
          “ช่างเถอะ” พูดอย่างรำคาญ ...ทำไมเวลาอยู่กับไอยุนน่ารักจัง
          แต่ทำไมเวลาอยู่กับฉันเป็นอย่างนี้นะ
          “เสร็จรึยังฮะคุณหมอ” 
          
          ...ทำไมไม่เรียกชื่อฉัน.....ทำไมยังเรียกฉันว่า คุณหมออีก
          ทำไมไม่สนิทกับฉันเหมือนกับที่สนิทกับไอยุนมันบ้าง...อยากได้....อยากได้บ้าง
          ฉันอยากได้แบบนั้นบ้าง.....
          
          “เสร็จแล้วคับ”
          
          “เย้ วานคุณหมอเรียกยุนยุนให้ทีนะฮะ บอกให้เข้ามาเร็วๆด้วย ไม่งั้นมีงอน”
          พุดแล้วล้มตัวลงนอนทันที เค้ากำลังจะแกล้งยุนยุน
          
          “นี่ ซารังคับ” เรียดร่างบางอีกครั้ง...อย่าทำท่าร่าเริงอย่างนี้ได้มั้ย
          
          “อ่าว ยังไม่ออกอีกเหรอฮะ” พูดแล้ว โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม
          
          “เอ่อ ต่อไป เรียกชื่อของหมอได้มั้ย” พูดออกมา
          เค้าอยากได้ยินเสียงหวานๆแบบนั้นเรียกชื่อเค้าบ้าง
          
          “แล้วหมอชื่อไรอ่ะ” ถามออกมาอีก ...จะให้เรียกชื่อแล้วทำไมไม่บอกชื่อมา
          
          “ยู...ยูชอน”..ไม่คิดจะจำชื่อฉันเลยสินะ...ไม่นาน ฉันจะให้นายจำฉันให้ได้
          
          “ยุชอน? ชื่อแปลกจัง” พูดเสียงร่าเริงแต่ก้อยอมเรียกโดยดี
          
          “ครับ งั้นยุชอนช่วยเรียกยุนยุนให้ทีนะฮะ” ว่าแล้วก็เข้าไปในผ้าห่มอีกครั้ง
          ยูชอนถอนหายใจออกมาอีกครั้งแล้วเดินออกจากห้องไป
          
          เห็นร่างสูงกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าห้อง มือหนาสองข้างกุมกันไว้
          เค้ากลัวว่าทำไมยูชอนถึงตรวจซารังนาน
          
          “ยูชอนเป็นยังไงบ้าง ทำไมตรวจนาน ซารังเป็นอะไรรึปล่าว”
          ถามคนที่เพิ่งออกมาจากห้องอย่างร้อนรน เค้าห่วงมาก ทำไมถึงตรวจนาน
          
          “ปล่าวหรอก คุยกันนิดหน่อยน่ะ” พุดแล้วเดินผ่านร่างสูงไป
          
          “เฮ้อ ค่อยยังชั่ว” ยุนโฮเดินไปที่ประตู มือหยาบเลื่อนไปเปิดประตู
          แล้วก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงหนึ่งเรียกเค้าเอาไว้
          
          “เดี๋ยวก่อน จุงยุนโฮ ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย ตามมาคุยกับฉันหน่อยสิ”
          
          “อือ” ว่าแล้วเดินตามร่างสูงของยูชอนไป......
          
          มีเรื่องอะไรนะ.....ร้ายแรงรึไง........ถึงทำหน้าซีเรียสขนาดนั้น
          
          ยุนโฮเดินตามยูชอนไปในขณะที่คนในห้องกำลังจะหาทางเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้า
          เค้าต้องใช้เวลานานมาก
          แจจุงคลำทางไปเรื่อยๆโดยที่ไม่รู้เลยว่าเดินไปถึงไปไหนแล้ว
          ร่างบางเดินออกมาจากห้องอย่างไม่รู้รู้ เพราะยุนโฮเปิดประตูค้างไว้
          แจจุงเลยเดินออกมาจากห้อง ร่างบางคลำไปเรื่อยๆรู้สึกว่าเจอตู้หนึ่ง
          มือเรียวคลำหากลอนแล้วเปิด ค่อยๆก้าวเข้าไปในตู้
          โดยไม่รู้เลยสักนิดว่าในนั้นมีคนอยู่!!!!และไม่ใช่คนธรรมดา
          เค้ากำลังหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังจะจับเค้าตอนนี้ใจในของแจจุงคิดอยู่อย่างเดียว..

    .....เค้าอยากแกล้งยุนโฮ.......นึกแล้วก็ยิ่งสนุก.......คิดอย่างคึกคะนองโดยไม่รู้เลยว่ามีตัวอันตรายอยู่!!!!!

     
          “เอ๊ะ !! .ในนี้มีตุ๊กตาด้วยเหรอ” มือเรียวคลำจับไปทั่วใบหน้าของ
          คนที่อยู่ข้างหน้า
          
          “น่ารักดีนะ เหมือนคนจริงเลย”  แจจุงพูดออกมาแล้วยิ้ม 
          +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
                          พอได้ยินเสียงตะกุกตะกักทางด้านนอก ซีวอนก็ตกใจเล็กน้อย
          นึกว่าจะมีคนจับได้ ระหว่างที่เค้ากำลังมีเรื่องกับคู่อริอยู่นั้น
          อยู่ดีๆก็มีตำรวจโผล่มา เค้าเลยต้องรีบเผ่น
          แล้วเข้ามาแอบในโรงพยาบาลไม่รู้ว่าเพื่อนเค้าจะเป็นยังไงบ้าง 
          ร่างสูงที่ขดอยู่ในตู้หลับตาแน่นเมื่อรู้สึกว่าคนด้านนอกกำลังจะเปิดประตู
          แต่พอได้ยินเสียงคิกคักก็หรี่ตามองดู........
          
          ......ผู้หญิงที่ไหนเนี่ย....บ้ารึไง...อยู่ดีๆมาอยู่ในตู้
          แถมยังหัวเราะคนเดียวอีก.....ท่าจะบ้าจริงๆ......
          
          “เฮ้ยย!!!!” ซีวอนร้องเสียงหลงเมื่อมือเรียวมาคลำที่หน้าเค้า
          เพราะในตู้มันมืดมาก เค้าเลยมองไม่เห็นคนตรงหน้า
          
          “โหวววว ตุ๊กตาร้องได้ด้วยเหรอ” แจจุงพูด ดวงตาเป็นประกาย
          มือเรียวเริ่มคลำต่ำลงมาเรื่อยๆ
          
          “จะ....จะ..ทำอะไรน่ะ”  ซีวอนหน้าแดงแปรด คนตรงหน้ากำลังจับหน้าอกของเค้า
          
          “โหห พูดได้ด้วยเหรอเนี่ย” ร่างบางส่งเสียงร้องออกมาอีก
          
          มือหยาบคว้าเข้าที่ต้นคอ แล้วอ้อมมาปิดปากแจจุงเอาไว้
          
          “ชู่วววว เงียบๆสิเธอ”  ซีวอนพูดออกมา แล้วมองหน้าคนในอ้อมกอด
          .......สวนนี่นา......ถึงจะมืดก็เถอะ......
          
          “อื้อ อู้ แอ้ว อ่อย ไอ้ อัง(รู้แล้วปล่อยได้ยัง)”
          ร่างบางพูดออกมาไม่เป็นคำก่อนที่มือเรยวจะจับมือของคนที่ปิดปากตัวเองอยู่ออก
          
          “.....”  ซีวอนค่อยๆปล่อยมือออกจากคนตรงหน้า
          
          “ไม่ใช่ตุ๊กตาหรอกหรอ”  พอฟังเสียงหวานๆของคนตรงหน้าแล้ว
          ซีวอนอยากจะออกไปหาคนที่กำลังตามจับเค้า
          ให้ช่วยเอาตัวเค้าไปเลยซะให้รู้แล้วรู้รอด
          0......อยากจะบ้าตาย....สวยแต่กวนประสาท....
          
          “จะบ้ารึไงฉันไม่ได้เป็นตุ๊กตานะ
          คนน่ะคน.!!!แล้วทำไมไม่แหกตาดูก่อนว่ามีคนอยู่ ทะเล่อทะล่าเข้ามา!!!
          ตาบอดรึไง!!!!”  ตะคอกคนตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัว
          ตุ๊กตาอะไรนั่นมันไม่ใช่เค้าเลย เขาไม่เหมาะกับของน่ารักอย่างนั้นหรอก
          มันเหมาะกับอีกคนมากกว่า......ฮีซอล......ตะคอกออกไปโดยไม่รู้เลยว่าคำพูดที่ไม่ทันได้คิดของเค้าทำร้ายจิตใจของแจจุงขนาดไหน

          
          ร่างบางชะงัก แน่นิ่งไปทันที ดวงตาสีนิลหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด
          ร่างบางนิ่งเงียบไม่พูดอะไรอีก
          ......นั่นสินะ
          คนตาบอดอย่างฉันจะทำอะไรได้.....ได้สร้างความเดือดร้อนไห้คนอื่น ....
          ได้แต่เป็นภาระให้ยุนโฮ.....ไหล่บางๆสั่นไหวเล็กน้อย
          น้ำตาไหลออกมาจากดวงตากลมโต
          
          ภาระ.......ภาระ.......ภาระ.......ภาระ.......นายมันเป็นภาระ....
          
          +++++++++++++++++++++++++++++++++
          
          “มีเรื่องอะไรงั้นเหรอยูชอน ทำยังกับจะบอกรักฉันยังงั้นแหละ” ยุนโฮพูดติดตลก
          หัวเราะในลำคอน้อย ตั้งแต่เข้ามา ก็เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดอะไรสักที
          
          “ฉันมีอะไรอยากจะขอร้องนาย” ในที่สุดยูชอนก็ยอมเปิดปากพูด
          
          “อะไรเหรอ บอกมาสิ นายช่วยฉันเรื่องซารัง งั้นฉันต้องตอบแทนนาย”
          ยุนโฮพูดแล้วมองหน้ายูชอน
          
          “ฉันชอบซารัง”
          
          “.................” คำพูดของร่างสูงทำเอายุนโฮใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม
          ดวงคมมองร่างสูงตรงหน้าไม่วางตา ชอบซารังงั้นเหรอ.....
          
          “ฉันชอบเค้าจริงนะ นายช่วยฉันได้มั้ย”  ยูชอนพูดออกมาอีกครั้ง
          พูดทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่ายุนโฮเองก็รู้สึกเหมือนกัน
          ...บอกแล้วไงว่าความเป็นเพื่อนของเรามันจบลงแล้ว!!
          
          “........”  ช่วยเหรอ ฉันจะช่วยนายได้ยังไง ในเมื่อฉันก็ชอบซารังเหมือนกันนะ
          ยังไม่ทันจะบอกออกไปเลยนะ
          แต่ว่ามันเป็นบุญคุณที่ฉันต้องตอบแทนนายสินะ.......คงต้องตัดใจ....
          
          “อือ ก็ได้”  รับคำออกมาแล้วก้มหน้า มือหยาบบีบมือกันแน่น
          
          “อือ ขอบใจนะ”
          ....ฉันจะเอาให้นายดิ้นไม่หลุดเลยยุนโฮ.......
          
          ปากหนาพูดออกมาอีกครั้ง
          
          “ฉันว่าจะบอกนายหลายครั้งแต่ลืม จุนซูน่ะ....เค้าชอบนายนะ”
          
          “!!!!”
          +++++++++++++++++++++++
          
          “อะไรน่ะ”  เมื่อเห็นว่า คนข้างๆของตัวเองเงียบไป ซีวอนหันไปมอง
          เห็นไหล่บางของคนข้างกำลังสั่นเทิ้มอยู่......นี่เราทำผู้หญิงร้องไห้หรือเนี่ย.....บ้าชะมัด....
          
          “นี่เป็นอะไร”  หันไปสะกิดคนข้างๆ
          
          มือหยาบเชยคางของคนข้างขึ้นมา
          แสงน้อยๆลอดผ่านช่องโหว่ของประตูเผยให้เห็นใบหน้าสวยหวานชัดเจนขึ้น
          น้ำตายังคงติดอยู่ที่หางตาของร่างบาง
          
          “ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” พูดเบาแล้วเช็ดน้ำตาให้คนตรงหน้าอย่างเบามือ
          
          “อย่ามาจับฉันนะ คนบ้า!!”
          แจจุงดิ้นแล้วตั้งใจจะฟาดมือเรียวๆไปที่หน้าของคนหยาบคาย
          แต่ดันไปฟาดโดนประตูตู้แทน
          
          “โอ๊ย!!” ร้องออกมา แล้วสะบัดมือไปมาด้วยความเจ็บ
          “เป็นอะไรทำไมถึงเอามือไปฟาดตู้” ซีวอนถามออกมา 
          แปลกใจ...ทำไมทำยังกับคนตาบอด...รึว่า!!!
          
          “เธอตาบอ....มองไม่เห็นเหรอ” ถามร่างบางข้างๆ ที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่
          ความสงสารเข้ามาเกาะกุมใจของเขา...รู้ดีว่าคนป่วยต้องใช้กำลังใจขนาดไหน
          แล้วนี่เค้ากลับทำลายมันเพราะคำพูดสั่วๆของตัวเอง......
          
          “ฮือ....ไอบ้าทำไมต้องว่ากันด้วย!!! รู้ว่าตาบอดแล้วทำไมล่ะ!!!
          ฉันไม่อยากจะเป็นสักหน่อย!!!ไม่อยากเป็น....ไม่....ไม่อยากเป็นภาระให้ยุนโฮ.....ฮือๆๆ”
          ร่างบางพูดออกมา ไหล่เล็กๆสั่นเทิ้มกว่าเดิมหลายเท่า
          
          “ขอโทษนะ ฉันมาได้ตั้งใจจะว่าเธอ ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นจริงนี่” 
          พูดปลอบใจคนข้างๆมือหยาบยกขึ้นลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ
          ปากเรียวเริ่มพูดกับร่างบางอีกครั้ง
          
          “ขอโทษจริงนะ อย่าร้องไห้นะคนดี”
          น้ำเสียงอบอุ่นของคนตรงหน้าทำให้ร่างบางฉุกคิดขึ้นมา
          เสียงสะอื้นทั้งหมดหายไปทันที ความสงสัยทำให้แจจุงลืมเรื่องทั้งหมดไป
          
          “แล้วทำไมนายถึงเข้ามาในห้องของฉันล่ะ”  แจจุงถามคนข้างๆที่คุยกันมาตั้งนาน
          ยังไม่รู้แม้กระทั่งชื่อ
          
          “อะไร นี่มันห้องเก็บของนะ เธอนั่นแหละเข้ามาที่นี่ได้ยังไง”
          ซีวอนย้อนถามกลับไปอีก
          
          “ฉันเข้ามาแอบในตู้...ในห้องฉันนี่นา”  แจจุงพูดแล้วทำท่าคิด
          ...น่ารักจนจับใจ ถ้าเค้ายังไม่มีคนที่ชอบอยู่ เค้าคงจะตกหลุมรักเธอแน่ๆ.....
          
          “บ้ารึปล่าว นายไม่ได้อยู่ในห้องพักคนไข้นะ” 
          
          “ว่าไงนะ!!!”
          
          +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
          
          “เฮ้อ”  ยุนโฮถอนหายใจออกมาแล้วทำหน้าให้สดใส ปากหยักคลี่ยิ้มออกมา
          ก่อนมือหยาบจะเอื้อมไปเปิดประตูห้องพักของแจจุง
          “ซารังฉันมาแล้ววว!!!!” พูดด้วยน้ำเสียงสดใส
          แต่ทันทีที่สายตาคมมองไม่เห็นร่างบางอยู่ในห้อง
          
          “ซารัง!!!”   ตะโกนเรียกชื่อ คนที่ตัวเองกำลังตามหา
          
          “ซารังอยู่ห้องน้ำเหรอ” ถามไปพลาง ขายาวเดินไปทางห้องน้ำ
          มือหยาบผลักประตูเข้าไปเบาๆ
          
          ไม่มี....ซารังนายอยู่ไหนกันแน่!!! อย่าเล่นแบบนี้นะ......
          
          “ซารัง!!!” ตะโกนเรียกสุดเสียง ขาเรียวออกวิ่งตามหาทั่ว แต่ก็ยังไม่พบ
          ร่างสูงยังไม่ละความพยายาม หัวใจของเค้าร้อนรุ่มไปหมด.....
          
          ....ซารัง นายอยู่ไหนกันแน่ นายทำให้ฉันเป็นห่วงรู้มั้ย
          อย่าหายไปอย่างนี้สิ...ฉันเจ็บปวดนะ...กลัวด้วย....
          ร่างสูงยังคงตามหาร่างบางต่อ อย่างไม่ละความพยายาม
          และเรื่องนี้ทำให้เค้ารู้ว่า ทั้งหัวใจของเค้ามีแต่ชื่อของซารังเต็มไปหมด
          เค้าไม่สามารถทำตามที่พูดไว้ได้อีกแล้ว...ถึงจะกลายเป็นคนทรยศคนก็ตาม...เค้าไม่อาจจะช่วยยูชอนได้....ตราบใดที่ร่างบางไม่เลือกที่จะไปกับยูชอน
          เค้าก็คงทำอะไรไม่ได้......เค้ารักซารัง!!!!
          
          ซารัง นายเป็นความรักของฉันนะ...นายเป็น...เหมือนหัวใจของฉันนะ 
        
      แล้วนายหายไปอย่างนี้ 
          
    ฉันจะทำยังไงถ้าหัวใจของฉันหายไป....ฉันจะอยู่ได้เหรอซารัง...ได้โปรด กลับมาหาฉัน!!!.....
          
          

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×