ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อยากบอกนายว่า "ไปตายซะน่อ!!!"

    ลำดับตอนที่ #28 : บทที่ 26 วันหยุดทั้งที จะมัวมาเล่นปาหี่อย่างเดียวมันไม่คุ้มนะเฮ้ย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 946
      31
      12 มี.ค. 59

    บทที่ 26 วันหยุดทั้งที จะมัวมาเล่นปาหี่อย่างเดียวมันไม่คุ้มนะเฮ้ย

                                                                                                                     


    “อากินจางงงงงงง ดูนี่สิน่อ อั้วสร้างปราสาททรายด้วยล่ะ”  สาวน้อยผมส้มในชุดกระโปรงยาวคลุมเข่าเอ่ยเรียกให้ตาลุงผมหงอกไม่ได้ความให้ดูผลงานสร้างปราสาททรายของตน วันนี้เจ้าหล่อนสวมหมวกปีกกว้างแทนการกางร่มเพราะมันไม่สะดวกต่อการเล่นก่อกองทราย

    “เฮ้อ ของแบบนั้นเขาเลิกทำไปนานแล้วนะคางุระ สมัยนี้มันต้องปืนใหญ่นีโออาร์มสตรองไซโคลนเจ็ตอาร์มสตรองแล้ว เธอนี้ล้าสมัยซะจริง อ้ามม!!”  กินโทกิพูดพลางตักพาเฟ่ต์คำโตเข้าปากภายใต้ร่มกันแดดคันใหญ่

    “ไอ้ของพรรค์นั้นมันก็แค่มุขทะลึ่งที่คุณใช้เล่นเมื่อตอนเทศกาลปั้นหิมะไม่ใช่รึไงครับคุณกิน  อย่าไปเสี้ยมอะไรที่มันไม่เหมาะสมให้คางุระจังสิครับ”

    “อะไรกันปาสซัง ไม่เหมาะสมยังไง ดูนั่นสิ”

    ชินปาจิมองตามมือที่กินโทกิชี้ไปก็เห็นว่าคางุระกับเจ้าหญิงโซโยะน้องสาวของท่านโชกุนกำลังช่วยกันปั้นปืนใหญ่นีโออาร์มสตรองไซโคลนเจ็ทอาร์มสตรองกันอยู่อย่างสนุกสนาน

    “แหม แค่แปปเดียวฝีมือก็พัฒนาไปไกลเลยนะเนี่ย สมแล้วที่เป็นลูกศิษย์ของฉัน”

    “ใช่ที่ไหนละครับคุณกิน  แล้วทำไมสาวน้อยผู้ใสซื่อบริสุทธิ์ถึงสองกันต้องทำสีหน้าเปี่ยมสุขในตอนที่ปั้นไอ้ของพรรค์นั้นด้วยเนี่ย  รับไม่ด้ายยยยยย” ชินปาจิร้องครวญครางกับภาพที่เห็น

      

    อีกด้านหนึ่ง.....

    “เฮ้อ ท่านโชกุนครับ จะมาพักร้อนที่ทะเลทั้งทีทำไมต้องพาเจ้าพวกตัวปัญหานั่นมาด้วยละครับ” ฮิจิคาตะในชุดลำลองกางเกงขาสั้นเอ่ยถามขึ้นในขณะที่นั่งอยู่ในร่มเป็นเพื่อนท่านโชกุน

    “โซโยะขอร้องมานะว่าอยากเล่นกับแม่หนูผมส้มคนนั้น  เราเองก็ไม่ได้ลำบากอะไร แต่มาหลายๆคนแบบนี้ดีซะด้วยซ้ำไป เราว่ามันสนุกดีออกนะ”

    วันนี้เป็นวันหยุดฤดูร้อนของซินเซ็นงุมิ ท่านโชกุนจึงมีคำสั่งให้คอนโด้ ฮิจิคาตะ โซโกะรวมถึงนักรับจ้างสารพัดทุกคนมาเที่ยวทะเลด้วยกันเป็นการคลายเครียด ซึ่งนักรับจ้างสารพัดทุกคนก็ตกลงในทันทีเพราะทั้งค่าที่พักและอาหารนั้นท่านโชกุนจะเป็นคนออกให้ทั้งหมด

    “ถึงอย่างนั้นก็เถอะครับ ว่าแต่ทำไมท่านโชกุนต้องสวมแต่กางเกงในตัวเดียวกับแว่นกันแดดด้วยครับ  กระผมหาความเข้ากันไม่ได้เลยครับ” ฮิจิคาตะปรายตามองท่านโชกุนเล็กน้อยก่อนจะทำสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจ

    “สำหรับเราแล้วการใส่กางเกงในตัวเดียวสื่อถึงการเป็นคนเรียบง่าย  เปิดเผย  ไม่เมินเฉยต่อประชาชน  ทุกคนจะได้สามารถเข้าหาเราได้ตลอดไงละ”

    “ผมว่ามันจะทำให้คนอื่นเขาตีตัวออกห่างมากกว่านะครับ”

    ชายหนุ่มผมดำมองดูคนรอบๆที่เหล่ตามามองทางท่านโชกุนด้วยท่าทางรังเกียจ บ้างก็นินทากระซิบกระซาบบอกลูกหลานเป็นเชิงประมาณว่า อย่าไปทำตามคนแบบนั้นนะลูก อะไรทำนองนั้น เนื่องจากท่านโชกุนใส่แว่นกันแดดไว้จึงไม่มีใครจำหน้าท่านได้

    “จะว่าไป เราไม่เห็นคุณคอนโด้กับโอคิตะคุงมาซักพักแล้วนะ ทั้งสองคนนั้นไปไหนกันรึ”

    “เจ้าโซโกะน่ะผมไม่รู้หรอก แต่ถ้าคุณคอนโด้ละก็ ทางนู้นครับ...”

    ฮิจิคาตะผายมือไปทางอีกฟากของชายหาดที่กำลังมีหญิงสาวผมสีน้ำตาลในชุดบิกินีวันพีชสีชมพูอ่อนกำลังตบตีกอริลล่าอย่างมันส์มือกลางชายหาดท่ามกลางสายตาของผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ

    “หน็อย  เจ้ากอริลล่าสโต๊กเกอร์ กล้าดียังไงมาแอบดูฉันเปลี่ยนเสื้อผ้ากันย๊าาาา!!

    “มะ..ไม่ใช่นะครับคุณโอทาเอะ ผมก็แค่จะไปดูแลความปลอดภัยให้คุณโอทาเอะจากพวกสโต๊กเกอร์โรคจิตนะครับ อึก!

    “ไอ้สโต๊กเกอร์โรคจิตที่ว่ามันแกเองไม่ใช่รึไงกันยะ นี่แน่ะ!!

    “อ๊ากกกก...คุณโอทาเอ้อ้เอ้เอ้เอ้เอ้....”

     

                    “เฮ้อ...ถ้างั้น ผมก็ตัวไปเอากอริลล่าปล่อยคืนสู่ป่าก่อนนะครับ” ว่าแล้วฮิจิคาตะจึงเดินออกมาจากตรงนั้นทันที แต่ทว่า.....

                    ตูม!!!!!

                    “อันตรายนะครับคุณฮิจิคาตะ อย่าเดินเพ่นพ่านไปมาคนเดียวแบบนี้สิครับ”

                    “นี่แก ทำบ้าอะไรของแกฟ่ะโซโกะ คิดจะฆ่ากันเลยรึไง” ฮิจิคาตะที่รอดลูกกระสุนบาซูก้ามาได้อย่างหวุดหวิดลุกขึ้นมาชี้หน้าต่อว่าชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างโมโห

                    “ก็แหม เรามาในฐานะคนคุ้มครองของท่านโชกุนไม่ใช่หรอครับ ผมก็แค่เคร่งในหน้าที่มันผิดตรงไหนกัน”

                    “เคร่งในหน้าที่ผิดเวลาไปแล้วเฟ้ย ปกติแล้วเขาพกของแบบนั้นมาเที่ยวทะเลด้วยหรอฟ่ะ”

                    “คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้นี่ครับ เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ ถ้าเจอคนน่าสงสัยเราก็เล็งปุ๊บ ดับปั๊บ ง่ายสบายปรื๋อ”

                    “ง่ายไปแล้วเฟ้ย แบบนี้คนก็แตกตื่นกันหมดนะสิ”

                    “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับ เพราะทุกคนวิ่งหนีเตลิดไปกันหมดตั้งแต่ตูมแรกแล้วครับ”  ฮิจิคาตะมองไปรอบๆชายหาดก็พบว่าไม่มีใครเลยจากพวกเขา

                    “นี่แก แบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกก่อการร้า...อุ่ก!!

                    จู่ๆก็มีจานบินลอยมากระทบกับศีรษะของท่านรองเข้าอย่างจังทำให้ชายหนุ่มล้มหน้าคะมำลงกับพื้นทราย

                    “อูย เจ็บๆๆ จานบินลอยมาจากไหนกันเนี่ย” เมื่อมองจากทิศทางที่จานบินลอยมาก็พบว่าคางุระกับเจ้าหญิงโซโยะกำลังเล่นขว้างจานบินอยู่

    “อ๋า ไม่ได้น่อโซโยะจัง ขว้างเบาแบบนั้นมันใช้ไม่ได้น่อ”

    “เอ๋ จริงหรือเจ้าคะ แต่ดิฉันก็ปาสุดแรงเกิดเลยนะเจ้าคะ”

    “ช่วยไม่ได้น่อ งั้นเดี๋ยวอั้วจะทำให้ดูเป็นตัวอย่างน่อ”

    คางุระหยิบจานบินขึ้นมาหนึ่งอันก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆจากนั้นจึงตั้งท่าเหมือนนักเบสบอลเตรียมขว้างลูก

    “ฮึ่ย ย๊าาาาา”

    สาวน้อยขว้างจานบินไปข้างหน้าสุดแรงเกิด เนื่องด้วยแรงธรรมดาของเธอก็ล้นเหลืออยู่แล้ว แต่คราวนี้เธอใส่กำลังลงไปเต็มที่จึงส่งผลให้จานบินเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วและความแรงที่มากขึ้นเกือบ 20 เท่า ซึ่งมันก็พอดีที่ฮิจิคาตะกำลังลุกขึ้นมาจากการโดนจานบินสอยร่วงไปเมื่อครั้งแรก

    “คะ...คุณฮิจิคาตะ ระวังคร๊าบบบ!!!” ชินปาจิเห็นว่าจานบินจะลอยไปกระทบกับฮิจิคาตะแน่นอน จึงร้องตะโกนเตือนด้วยความตกใจ แต่ทว่า.....

    ตูมมมม!!!!

    จานบินที่คางุระขว้างมากลายเป็นอาวุธทำลายล้างพลังมหาศาลที่ส่งท่านรองปีศาจลอยกระเด็นไปไกลเกือบ 500 เมตรได้ ทุกคนเห็นดังนั้นจึงวิ่งตามไปดูก็พบว่าฮิจิคาตะนอนแอ้งแม้งไม่ขยับเขยื้อนแต่อย่างใด

    “คุณฮิจิคาตะตายรึยังครับ” โซโกะพูดพลางเอาไม้เขี่ยๆดู

    “เฮ้! ไอ้ปีศาจนิโคติน ตายแล้วหรอฟ่ะ เฮ้ย! คางุระ เรียกรถพยาบาลทีซิ”

    “รถพยาบาลลลลลลลลลลลลลลลลลล!!!!” เด็กสาวเอามือป้องปากแล้วตะโกนเรียกอย่างสุดเสียง

    “ใครสั่งใครสอนให้เรียกรถพยาบาลแบบไร้อารยธรรมแบบนั้นฟ่ะ การเรียกรถพยาบาลเขาทำกันแบบนี้ต่างหาก”

    ชายหนุ่มผมหยักศกยิงเครื่องหมายขอความช่วยเหลือขึ้นบนฟ้าคล้ายการขอความช่วยเหลือแบบแบทแมนแต่เป็นสัญลักษณ์ของโรงพยาบาล

    “แล้วเพ่จะยิงลำแสงเหมือนขอความช่วยเหลือจากแบทแมนทำมะเขืออะไรกันครับ คิดว่าคุณหมอ คุณพยาบาลจะใส่ผ้าคลุมแล้วเหาะมารับผู้บาดเจ็บรึไง” ชินปาจิตวาดให้กับความไร้สาระของกินโทกิ

    “ก็แหม เราอยู่ทะเลนี่น่า แถมห่างไกลจากตัวเมืองอีก กว่าจะติดต่อกับพวกคุณหมอได้ก็ลำบาก วิธีนี้แหละเร็วที่สุดแล้ว” กินโทกิพูดพลางแคะขี้มูกดีดทิ้งตามนิสัยตน

    “เกิดอะไรขึ้น หา!! โทชิ ทำไมโทชิถึงกลายเป็นแบบนี้”

    “ตายจริง เกิดอะไรขึ้นกับคุณฮิจิคาตะหรอคะ”

    คอนโด้ โอทาเอะ และท่านโชกุนที่เจ้าหญิงโซโยะไปตามมาสมทบก็แสดงสีหน้าตกใจกันไม่น้อย

    “คุณฮิจิคาตะไม่เป็นไรหรอกครับคุณคอนโด้ แค่จมน้ำนิดหน่อย แต่ต้องการการผายปอดอย่างเร่งด่วนครับ” หนุ่มเอสโกหกอย่างหน้าตาเฉยเพื่อให้เกิดฉากอุบาทย์ที่สุดกับท่านรองปีศาจในวงการพระรองของโลกอนิเมะ

    “ช่วยไม่ได้น่อ ถ้าอย่างนั้นปล่อยเป็นหน้าที่ของอั๊วเอง เพราะอั๊วเป็นคนทำให้อามายองเลอร์อยู่ในสภาพแบบนี้ อั๊วจะเป็นคนผายปอดให้อีเอง”

    จากที่หนุ่มเอสหวังให้คุณคอนโด้เสนอตัวเข้ามาผายปอดให้ท่านรองปีศาจซึ่งก็จะเข้าล็อคตามแผนเป๊ะๆ แต่มันก็ผิดคาดเมื่อสาวน้อยพลังช้างกลับเป็นฝ่ายเสนอตัวขึ้นมาก่อนโดยไม่เข้าใจว่าสิ่งที่โซโกะพูดนั้นเป็นแค่เรื่องโกหก

    เด็กสาวนั่งลงข้างๆตัวของท่านรองปีศาจแล้วสูดลมเข้าสู่ปอดก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลง ในตอนนั้นเองที่กินโทกิกับชินปาจิก็พยายามเข้ามาห้าม

    “เห้ย ไม่ได้น๊า คางุร้าาาา...”

    “หยุดเลยนะครับ คางุระจังยังเด็กอยู่เลยนะคร๊าบบบ”

    แต่ด้วยเหตุที่ว่าทั้งสองคนโผเข้ามาพร้อมกันจึงทำให้สะดุดขากันเองจนกินโทกิล้มคะมำไปข้างหน้าจนมือของเขาไปตีเอาอวัยวะส่วนหว่างขาของท่านรองปีศาจพอดิบพอดี จึงทำให้ท่านรองปีศาจเด้งตัวขึ้นนั่งอัตโนมัติ และ...

    จุ๊บ!

    ภาพที่ปรากฏต่อหน้าทุกคนในตอนนี้คือคางุระกำลังจูบกับฮิจิคาตะโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน ณ ที่นั้น โดยเฉพาะหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่ได้แต่เบิกตาค้างเหมือนคนสติหลุดลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

    ...ในตอนนี้เขารู้สึกปวดใจโดยไม่ทราบสาเหตุ สิ่งที่เขาเห็นทำให้เขาเกลียดผู้ชายที่ชื่อ “ฮิจิคาตะ” ขึ้นมาจริงๆ ทั้งที่ตัวเองไม่รู้ว่าทำไมและไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าเขาเองนั้น กำลัง “หึง” อยู่.....

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×