ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อยากบอกนายว่า "ไปตายซะน่อ!!!"

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 8 ความสามัคคีเป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จ แต่บางครั้งก็ก่อให้เกิดหายนะ

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 58


    บทที่ 8 ความสามัคคีเป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จ  แต่บางครั้งก็ก่อให้เกิดหายนะ


     

    ซินเซ็นงุมิและร้านรับจ้างสารพัดได้ออกมาซื้อของในร้านค้าย่านคาบูกิโจว  แต่ก็ต้องมาวิ่งไล่จับโจรวิ่งราวกระเป๋า  พวกเขาได้ไล่ตามโจรคนนั้นมาจนถึงตึกร้าง และได้แยกย้ายกันตามหา

    โซโกะเดินสำรวจดูห้องต่างๆภายในตึกร้างอย่างเหนื่อยหน่าย  เขาไม่มีกะจิตกะใจจะตามจับโจรเลยซักนิด  เขาอยากนอนอู้มากกว่า  แต่ถ้าจับโจรไม่ได้เขาคงไม่ได้กลับไปที่ซินเซ็นงุมิแน่

    “เฮ้อ! น่าเบื่อชะมัด” เขาสบถกับตัวเองเบาๆ

    เคร้ง!

    อยู่ๆโซโกะก็ได้ยินเสียงเหมือนเหล็กกระทบพื้นในห้องข้างหน้า  ทำให้เขามั่นใจว่ามีคนอยู่ในห้อง  โซโกะกำชับดาบในมือแน่นขึ้นแล้วเดินไปอย่างเบาๆเพื่อไม่ให้คนในห้องนั้นรู้ตัว เขาค่อยๆแง้มประตูออกและกระโจนเข้าไปในห้องทันที 

    “อยู่นี่นี่เอง...อะ..อ้าว...” 

    โซโกะชักดาบออกมาจ่อคนตรงหน้าแต่ก็ต้องหัวเสียเมื่อคนตรงหน้าไม่ใช่โจรวิ่งราวอย่างที่เขาคิด  แต่กลับเป็นหญิงสาวผู้มีผมสีส้มมวยเป็นลูกดังโงะสองข้าง  ซึ่งหญิงสาวก็หันปากกระบอกปืนจากร่มสีม่วงคู่ใจมาจ่อหน้าเขาไว้เช่นกัน

    “โผล่มาแบบนี้  อยากตายรึไงน่อ”  เธอพูดขึ้นโดยไม่ลดอาวุธลง

    “นึกว่าใครที่ไหน  ที่แท้ก็ยัยหมวยมหาประลัยนี่เอง” โซโกะลดดาบลงและใส่ไว้ในฝักตามเดิมทำให้สาวหมวยก็ลดอาวุธลงเช่นกัน

    “ตอนนี้อั้วไม่มีอารมณ์มาทะเลาะกับลื้อหรอกน่อ  อั้วหิวจะตายอยู่เลี่ยว”  คางุระพูดโดยหันหลังให้เขา   และตั้งหน้าตั้งตารื้อของตรงหน้า  ซึ่งโซโกะเองก็พอรู้ว่าเจ้าหล่อนหาอะไร

    “หล่อนคิดว่าในตึกร้างแบบนี้จะมีของให้กินรึไง” 

    “ลื้อคิดแบบนั้นมันไม่เจริญหรอกน่อ  พระผู้เป็นเจ้าไม่มีทางปล่อยให้สาวน้อยน่ารักแบบอั้วหิวตายแน่นอน”

    หญิงสาวยังคงตั้งหน้าตั้งตาควานหาของที่เรียกว่า  “อาหาร”  อย่างไม่ลดละความพยายาม  ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงถอนหายใจเบาๆแล้วล้วงไปหยิบซาลาเปาในเสื้อออกมา

    “อ่ะฉันมีแต่นี่  หล่อนจะกินมั้ย??”  โซโกะยื่นซาลาเปาให้คางุระ ทำให้หล่อนรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยที่คู่กัดอย่างเขาจะทำเรื่องแบบนี้

    “อาตี๋ลื้อโดนผีเข้าสิงรึไงน่อ”

    “พูดมากน่า  ที่ฉันให้ก็เพราะ.....”

    “เพราะอะไรน่อ?”

    “ก็เธอเป็นเพื่อนคนสำคัญของฉันคนหนึ่งนี่”

    โซโกะหันไปยิ้มอย่างอ่อนโยนให้คางุระ  ทำให้เธอรู้สึกใจเต้นผิดปกติ  คางุระรับซาลาปาในมือเขามาอย่างไม่คิดอะไร

    “ขอบใจมากน่อ”  ค างุระกล่าวขอบคุณโซโกะก่อนจะกินซาลาปาชิ้นนั้น  แต่อยู่ๆเธอก็ชะงัก  หน้าก็ขึ้นแดงเรื่อยๆ

    “..../////////////////.....”

    “เผ็ดว้อยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!”  คางุระตะโกนลั่นพร้อมเปาปากถี่ๆ และนอนลงไปชักดิ้นชักงออยู่กับพื้น

    “ฉันลืมบอกไปอย่างหนึ่ง.... นั่นน่ะเป็นซาลาเปาสูตรพิเศษที่ฉันสั่งให้ทางร้านทำโดยใช้ทาบาสโก้เป็นส่วนผสม”โซโกะเหยียดยิ้มซาดิสม์อย่างผู้ชนะ  เขามองเด็กสาวตรงหน้าแบบไม่ทีท่าว่าจะสำนึกผิดเลยซักนิด

    “อะ..ไอ้ตี๋โรคจิต...ฮู่..ฮ่า...น้ำ  น้ำอยู่ไหน?”  คางุระวิ่งไปรอบๆอย่างลนลานเพื่อหาน้ำ  แต่สิ่งที่ธอเห็นมีเพียงซากเฟอนิเจอร์เก่าๆเท่านั้น

    “อันที่จริง ฉันตั้งใจจะเอาไปให้คุณฮิจิคาตะกิน  แต่เห็นหล่อนหิวฉันเลยยกให้น่ะ  เหอๆๆๆๆ”

    “อั้วสาบานว่าถ้าจับโจรนั่นได้เมื่อไหร่  อั้วจะฆ่าลื้อให้ได้เล้ยยยย  โอ้ยยยย เผ็ดว้อยยยยย!!!!

    “เด็กอย่างหล่อนไม่มีปัญญาไปจับโจรได้หรอก  ยัยเตี้ย”

    “อั้วจะจับให้ลื้อดูเป็นขวัญตาเองน่อ  ฮึ่ย!

    “ฝันไปเถอะ  โจรนั่นน่ะฉันจะส่งมันไปเฝ้ายมบาลเอง”

    “งั้นมาพนันกันมั้ยน่อ  ถ้าใครจับโจรนั้นได้เป็นฝ่ายชนะ”

    “น่าสนุกดีนี่  แล้วหล่อนจะต้องเสียใจที่กล้าท้าฉัน  ถ้าหล่อนแพ้หล่อนต้องใส่ปลอกคอเห่าโฮ่งๆไปตลอดชีวิตซะ”

    “ได้เลย  งั้นถ้าลื้อแพ้ลื้อต้องจื๋อน****ของลื้อให้เป็ดกินซะน่อ”

    “ก็ได้”

    ทั้งคู่ส่งคู่ส่งสายตาอาฆาตเป็นสารท้าประลองก่อนจะพากันวิ่งออกจากห้องนั้นไปอย่างรวดเร็ว  เพิ่อตามหาเหยื่อที่พวกเขาหมายหัวไว้เ

     

    อีกด้านหนึ่ง.....

    “เฮ้อ! เจ้ารถบรรทุกบ้านั่นเล่นเราเกือบตายเลยแฮะ  แล้วพวกโทชิหายไปไหนแล้วล่ะเนี่ย  รู้สึกว่าจะเข้ามาในตึกร้างนี่น๊า” 

    คอนโด้ที่เพิ่งฟื้นจากการโดนรถชนก็รีบตามคนที่เหลือมาที่ตึกร้างทันที  แต่ก็ไม่เจอใครในตึกร้างนี่จึงเดินสำรวจไปรอบๆ  แต่จู่ๆเข้าก็เริ่มรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนขึ้นมา

    “ชะอุ๋ย!  แย่ล่ะสิ  ข้าศึกบุกซะได้ ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยเนี่ย   แล้วห้องน้ำมันอยู่ไหน? อ่ะ นั่นไง”

    ในระหว่างที่กำลังกระวนกระวายอยู่นั้น  เขาก็เหลือบไปเห็นห้องน้ำโทรมๆห้องหนึ่ง  คอนโด้จึงรีบวิ่งไปเข้าทันที

    “ฮ้า  ในที่สุดก็เจอ....หา  นี่แก”

    ไม่ทันจะได้เข้า  เขาก็เห็นคนอยู่ในนั้น  และเป็นคนที่พวกเขาตามหาอยู่ด้วย  ทันทีที่โจรนั่นรู้ว่าถูกเจอตัวเข้าแล้วจึงผลักคอนโด้ออกมาแล้ววิ่งขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว  ทำให้คอนโด้ต้องวิ่งตามไปโดยที่ยังไม่ได้เข้าห้องน้ำ

    “เฮ้  หยุดเดี๋ยวนี้น่ะแก  อู้ยปวดอึจุงเบย” 

    “ไม่มีทางเฟ้ย  แกปวดอึไม่ใช่เรอะ  งั้นก็ไปเข้าห้องน้ำซะเซ่  ไอ้ตำรวจหน้าโง่”

    “อย่ามาดูถูกฉันน่ะเฟ้ย  อุปสรรคแค่นี้ไม่ทำให้ฉันทิ้งหน้าที่หรอก  อู้ยๆๆ”

    “แต่ดูท่าแกจะไม่ไหวแล้วน่ะ  ฮ่าๆๆๆๆๆ  โอ้ย”  จู่ๆก็มีชายผมหยักศกสีเงินเปิดประตูมาชนกับโจรคนนั้น  จนล้มไป

    “เห  อาฮ้า  นี่แกเจอตัวจนได้ ยอมให้จับซะดีๆน่ะเฟ้ย ”

    “แย่ล่ะสิ  โกยสิครับงานนี้”   เมื่อยืนขึ้นได้โจรวิ่งราวจึงวิ่งต่อไปข้างหน้าอย่างไม่เหลียวหลัง  โดยมีคอนโด้กับกินโทกิวิ่งตาม  พอดีที่ฮิจิคาตะและชินปาจิผ่านมาเห็นเข้า

    “อ่ะ  เจอตัวแล้วครับคุณฮิจิคาตะ”

    “เห็นแล้วๆ  จับตัวมันให้ได้”

    โจรเห็นดังนั้นจึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น  และยังทิ้งห่างจากพวกกินโทกิอยู่มาก 

    “นี่พวกแกทำไมวิ่งช้ากันนักฟร่ะ”  ฮิจิคาตะที่วิ่งตามหลังมาจนทันพวกกินโทกิก็ร้องทักขึ้น

    “หนวกหูเฟ้ย  แกวิ่งเร็วแกก็วิ่งไปตามจับมันเซ่”

    “ก็แล้วพวกแกมาทำอะไรกันแน่ฟ่ะ  จะมาช่วยฉันจับโจรไม่ใช่รึไง”

    “ตูแค่โดนอีหมวยมันลากมาด้วยเฉยๆเฟ้ย”

    “นี่พวกคุณ  อย่ามัวแต่ทะเลาะกันสิครับ  โจรนั่นมันทิ้งห่างไปขนาดนั้นแล้วน่ะครับ” ชินปาจิรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับคนพวกนี้จึงตะโกนขึ้น

    “รู้แล้วน่า  แต่โจรนั่นมันเร็วชะมัด  สงสัยเราต้องรวมมือกันซะแล้ว” ฮิจิคาตะเอ่ยขึ้น

    “คราวนี้ฉันเห็นด้วยกะแกว่ะไอ้มายองเลอร์  เพราะฉะนั้น....”

    พรึ่บ  จู่ๆกินโทกิก็กระโดดขึ้นหลังฮิจิคาตะน่าตาเฉย

    “นี่แกทำอะไรของแกว่ะเนี่ย  กระโดดขึ้นมาขี่หลังฉันทำไมมิทราบ” ฮิจิคาตะบ่นไปวิ่งไปทั้งๆที่ยังแบกกินโทกิไว้บนหลัง

    “ก็รวมมือกันไง จะพูดให้ถูกก็คือรวมร่าง เหมือนพวกขบวนการเรนเจอร์ห้าสีน่ะ”

    “มันไม่เหมือนกันเฟ้ย  รีบลงไปได้แล้ว”

    พรึ่บ

    “เฮ้ย! เจ้ากอริลล่า  ไหงแกถึงมาขึ้นบนหลังฉันฟร่ะ”  จู่ๆคอนโด้ก็กระโดดขี่หลังกินโทกิที่ตอนนี้ขี่หลังฮิจิคาตะอยู่

    “ก็สองหัวดีกว่าหัวเดียว  และสามหัวก็ย่อมดีกว่าสองหัวแน่นอน”  กอริลล่าพูด

    “กอริลล่าอย่างแกตูไม่เอาเฟ้ย  รีบลงไปเดียวนี้เลย”

    “พวกแกนั่นแหละรีบลงไปจากหลังฉันเลย  มันหนักน่ะเฟ้ย”  ตอนนี้กลายเป็นว่าฮิจิคาตะต้องแบกกินโทกิที่แบกกอริลล่าอยู่  ทำให้วิ่งช้าลง

    “นี่พวกคุณทำบ้าอะไรกันเนี่ย  อีแบบนี้มันจะไปจับโจรได้ไงกันเล่า”  ชินปาจิตวาดลั่นให้กับความงี่เง่าของผู้ใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า

    “พูดอะไรกันน่ะ  ชินปาจิคุง  ในสถานการณ์แบบนี้เราต้องรวมพลังกันสิ  มันถึงจะจับโจรได้ง่าย”

    “รวมพลังโง่ล่ะสิไม่ว่า  ประเทศชาติจะล่มจมก็เพราะพวกคุณทำตัวแบบนี้นั่นแหละ”

    “จะยังไงก็ช่างพวกแกรีบลงไปจากหลังฉันซักทีสิโว้ยยยย”

    ในระหว่างที่ทั้งสี่คนกำลังทะเลาะกันอยู่  ก็หารู้ไม่ว่าพฤติกรรมของพวกเขาสร้างความเอือมระอาให้กับโจรวิ่งราวเป็นอย่างมาก

    “ฮ่าๆๆๆ  ไอ้พวกตำรวจหน้าโง่   มีกันตั้งหลายคนแต่จับฉันคนเดียวไม่ได้  น่าขำสิ้นดี”

    ด้วยความประมาทจึงทำให้ไม่รู้ว่ามีสายตาสองคู่จับจ้องมาที่เขาอยู่เบื้องหน้า  แต่เพราะมัวหันไปหัวเราะเยาะพวกกินโทกิอยู่จึงไม่ได้มองคนที่ยืนรออยู่

     

    “เจอ..ตัว”

    “แล้วน่อ”

    เสียงของคนสองคนพูดขึ้นทำให้โจรหันมามองและหยุดวิ่งกะทันหัน  ทำให้พวกกินโทกิวิ่งไล่ตามทัน

    “ดีมากเลย  คางุระ  โซโกะ  คราวนี้แกหมดทางหนีแล้ว”  กินโทกิกล่าวขึ้น

    “ฉัน/อั้ว...เป็นฝ่ายชนะ” คางุระกับโซโกะพูดขึ้นพร้อมกันก่อนจะเล็งบาซูก้าและปืนร่มมาทางโจรโดยไม่สนคนข้างหลัง

    “ตายซร๊าาาาา  ย๊าาา”

    “เดี๋ยวสิคางุระจัง  คุณโอคิตะ พวกเรายังอยู่ตรงนี้อยู่เลยน่ะครับ  อ่ะจ๊ากกก!!

    ตูม

     

                    ในเวลาต่อมา

                    “นี่ครับ  คุณผู้หญิง  กระเป๋าของคุณ” ฮิจิคาตะยื่นกระเป๋าที่ถูกขโมยไปคืนให้หญิงวัยกลางคนผู้เป็นเจ้าของ

                    “ขอบคุณค่ะ  แต่ว่านะค่ะคุณตำรวจ  ทรงผมของพวกคุณ......” หญิงสาวมองสภาพของแต่ละคนที่ตอนนี้อยู่ในสภาพไหม้เกรียม  ผมเผ้ายุ่งเหยิง จนไม่เหลือเค้าเดิม

                    “นี่น่ะหรอ....”

    “ ผมทรงอาฟโร่ไงครับ”

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×