ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อยากบอกนายว่า "ไปตายซะน่อ!!!"

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 เรื่องกลิ่นปากเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดต่อหน้าศัตรู

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 58


    บทที่  4 เรื่องกลิ่นปากเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดต่อหน้าศัตรู

     
     

                    หลังจากที่คางุระเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น  หล่อนก็เดินมองหาห้องที่คิดว่าตัวเองชอบ  และแล้วก็ไปสะดุดตากับห้องๆหนึ่ง  เป็นห้องแบบญี่ปุ่นที่กว้างพอควร  ข้าวของข้างในถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ บรรยากาศภายในห้องก็เหมาะแก่การนอนกลางวันเป็นอย่างมาก  เมื่อเปิดประตูด้านหลังก็จะมีสวนขนาดเล็กอยู่  ซึ่งเจ้าหล่อนก็คิดว่าจะให้ซาดาฮารุเล่นอยู่ที่สวนนั้น  หล่อนจึงเลือกห้องๆนี้  แต่หารู้ไม่เจ้าของห้องนั้นจะกลายเป็นคนที่เธอคาดไม่ถึง

                    “ฮ๊า  ห้องนี้ละกันน่อ” คางุระสาวเท้าเข้าไปข้างในแล้วจัดแจงสัมภาระตนใส่ตู้เสื้อผ้า

                    “อ่ะ  ห้องนี้มีเจ้าของแล้วสิน่อ  ไม่เป็นไรนอนกับอีเลยก็แล้วกัน  ก็แค่พวกโจรขโมยภาษี  ฮิฮิ” คางุระนำเสื้อผ้าของตัวเองเอาไปไว้รวมกับเสื้อผ้าของเจ้าของห้อง  จากนั้นหล่อนจึงดึงเอาฟูกนอนออกมาปู แล้วล้มตัวนอนอย่างสบายอารมณ์

                    “เหนื่อยชะมัด  งีบซักหน่อยก็เลี้ยวกันน่อ”

                    ครืดดดดดด!!! 

    ไม่ทันจะได้หลับ จู่ๆประตูห้องก็ถูกเปิดขึ้นปรากฏร่างของหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนผู้เป็นเจ้าของห้องที่คางุระนอนอยู่  ทำเอาทั้งคู่ทำหน้าเหวอไปตามๆกัน

    ฮ้าวววววว...อะ..ยัยหมวย!!”

                    เฮ้ย!  อาตี๋หน้าม่อ!!” คางุระรีบสะดุ้งลุกขึ้นมาชี้หน้าโซโกะทันทีที่เห็นหน้าเขา

                    “นี่หล่อนมาทำอะไรในห้องของคนอื่นกันเนี่ย”

                    “ลื้อนั่นแหละมาทำอะไร  หรือว่าลื้อเดินตามอั้วมาน่อ”

                    “ฉันไม่เอาเวลาอันมีค่าของฉันไปเดินตามหล่อนหรอก  แล้วนี่มันห้องของฉันนะ” โซโกะปิดประตูห้องแล้วเดินเข้ามายืนอยู่หน้าเด็กสาวผมส้ม

                    “อย่ามาซี๊ซั๊วน่อ ห้องสะอาดๆ ข้าวของถูกจัดเก็บเรียบร้อยแบบนี้  ไม่มีทางเป็นห้องของคนโรคจิตอย่างลื้อหรอกน่อ”

                    “ก็แล้วคนอย่างฉันจะจัดห้องให้ดูดี มันผิดรึไง  แล้วหล่อนกล้าดียังไงถึงเอาฟูกนอนของคนอื่นออกมาใช้โดยพลการ  ทั้งๆที่เจ้าของเขาไม่อนุญาต”

                    “เรื่องของอั้วน่อ  ยี้...” คางุระแยกเขี้ยวใส่โซโกะก่อนจะล้มตัวนอนหันไปหน้าอีกฝั่งโดยไม่สนใจคนที่ยืนอยู่

                    “ไร้มารยาท”

                    “ลื้อว่าไงน่ะ” คำพูดที่เขาพูดมาสั้นๆแต่ก็เข้าหูคางุระเต็มๆ  ทำให้หล่อนเด้งตัวลุกมามองหน้าเขาอีกครั้ง 

                    “ไม่สวยแล้วยังหูตึงอีก”  โซโกะพูดพลางยักยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะที่ทำให้คนตรงหน้าหัวเสียได้

                    ได้ยินดั้งนั้น  คางุระถึงกับปรี้ดแตก  หล่อนลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย  แต่โซโกะก็ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาว่าเกรงกลัวเธอเลยแม้แต่น้อย  แต่กลับยิ้มอย่างใจเย็น  ทำเอาคางุระคลั่งมากกว่าเดิม

                    “ลื้อมีอะไรจะสั่งเสียก่อนตายมั้ยน่อ?!

                    “ตราบใดที่ยังฆ่าคุณฮิจิคาตะไม่สำเร็จ  ฉันก็จะไม่ยอมตายเด็ดขาด”

                    “เดี๋ยวอั้วฆ่าอีตามายองเลอร์ให้ลื้อเอง  เพราะงั้นลื้อตายซ๊าาา า!!!” คางุระใช้มืออีกข้างปล่อยหมัดหมายให้โดนคนตรงหน้าเข้าอย่างจัง

                    หมับ!

                    “ยังอ่อนไปนะน้องสาว”  ทั้งๆที่คางุระปล่อยหมัดออกมาอย่างรวดเร็ว  แต่โซโกะก็หยุดหมัดนั้นได้มือข้างเดียวอย่างสบายๆ

                    “ใครน้องสาวลื้อไม่ทราบย๊าาาา!!” คางุระปล่อยมือที่จับคอเสื้อชายหนุ่มแล้วปล่อยหมัดพุ่งเข้าใส่ทันที  แต่ก็โดนเขารับได้อีกครั้ง  ยิ่งทำให้คางุระหงุดหงิดมากกว่าเดิม

                    “ไง  ไหนบอกว่าจะฆ่าฉันไง มีปัญญาทำได้แค่นี้หรอ  ” โซโกะยักยิ้มพลางจับมือทั้งสองข้างของคางุระไว้อย่างเหนียวแน่นแม้ว่าเจ้าหล่อนจะพยายามดึงมือกลับมาก็ไม่เป็นผล

                    “อย่ามาดูถูกอั้วน่อ  อั้วแค่กลัวศพลื้อไม่สวยเลยออมแรงไว้แค่นั้นเองน่อ” ถึงจะพูดไปอย่างนั้นแต่คางุระก็รู้ดีว่าเมื่อกี้เธอใช้กำลังทั้งหมดกะจะฆ่าเขาให้ตายจริงๆ

                    “เห  โกหกสินะ  ดูยังไงเมื่อกี้หล่อนก็กะจะฆ่าฉันจริงๆเลยไม่ใช่รึไง”  โ.ซโกะพูดอย่างรู้ทันความคิดของคางุระ  นั่นจึงทำให้เธอเกิดอาการหน้าแตกขึ้นจนเขาสังเกตุเห็นได้

                    “แต่ว่าเธอลืมอะไรไปรึเปล่า??”

                    “อะไร!?”  จู่ๆเขาก็ถามมาอย่างนั้นทำเอาคางุระอดสงสัยไปไม่ได้

                    “เธออยู่ในห้องสองต่อสองกับฉันอยู่น่ะ”

                    “แล้ว....?” เด็กสาวเอียงคอถามด้วยความงุนงง เพราะว่ายังเด็กและไร้เดียงสา  คางุระจึงไม่เข้าในสิ่งที่โซโกะพูด

                    “ตอนนี้ฉันก็จับมือเธออยู่ด้วย”

                    “แล้วไงน่อ??”

                    โซโกะเหมือนจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนพูด  เพราะเธอยังเอียงคอมองเขาตาแป๋วแบบไม่มีทีท่าว่าจะเขินอายหรือกลัวอะไรเลย  เขาจึงตะหงิดๆหน่อยๆเพราะแกล้งคางุระไม่สำเร็จ  แล้วจู่ๆเขาก็ยิ้มกรุ่มกริ่มเหมือนคิดอะไรออก  โซโกะค่อยโน้มตัวลงไปหาคางุระ

                    “ทำอะไรอ่ะน่อ “  แต่คางุระก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเขาจะทำอะไร

                    “แล้วเธอคิดว่าฉันจะทำอะไรกันล่ะ”

    “อั้วจะไปรู้ได้ไงเล่า”

    “นี่เธอไม่รู้จริงๆหรอ”

    “ถ้าอั้วรู้แล้วอั้วจะถามลื้อมั้ยห๊า??!!

    เมื่อเห็นคนตรงหน้าเริ่มหงุดหงิด  เขาจึงโน้มตัวเข้าหาคางุระใกล้ขึ้น..

    .ใกล้..ขึ้น......

    ใกล้.......ขึ้..น............

    ใกล้...........ขึ้...น.................และ....

     

     

    “จ๊อกกกก..กก..ก!!

     

    อยู่ๆเสียงไม่พึงประสงค์ดังขึ้นจากเด็กสาวผมส้ม  ทำให้โซโกะต้องหยุดชะงักการกระทำตรงหน้าอย่างลืมตัว  ทั้งๆที่ตอนนี้หน้าเขากับเธอห่างกันแค่มดแดงตัวเดียว

    “ไอหยา  ท้องร้องซะเลี้ยวว”

    “นี่เธอ!  หัดมีความเป็นกุลสตรีซะบ้างสิ”

    “อี๋ ลื้อเอาหน้าของลื้อออกไปห่างๆจากอั้วเลย ปากลื้อมันเหม็นมากอ่ะน่อ” คางุระเบ๊หน้าไปข้างๆพลางทำจมูกย่น

                    “งั้นหรอ  งั้นก็ดมไปให้ลงแดงตายเลย  ฟู่ๆๆๆ”  โซโกะได้ทีจึงเป่าลมใส่หน้าคางุระถี่ๆ

                    “หยุดเลยน่อ  ไอ้ตี๋ขี้เหร่” 

    “นี่หล่อนว่า...อุก!”  ไม่ทันได้พูดสวนคืน  โซโกะก็โดนสาวหมวยใช้เข่าทะลวงไปที่อวัยวะใต้หว่างขาอย่างเต็มแรง

    โซโกะเริ่มจุกจนหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว  เขาปล่อยมือสาวหมวยตรงหน้าแล้วมากุมตรงจุดสำคัญที่โดนทารุณ  แล้วล้มตัวลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้น

                    “จ๊ากกกกกกกกกกกกกกก   ช้างน้อยลูกพ่อ!!  โอ้ยยยยๆๆๆ  ทำบ้าอะไรของหล่อนเนี่ย   คิดจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ฉันรึไง!!”  เขาโพล่งออกมาด้วยความเจ็บปวดถึงขีดสุด 

    หากเป็นแค่แรงเด็กผู้หญิงธรรมดาเขาคงไม่เป็นไรมาก  แต่นี่เป็นอีหมวยเผ่ายาโตะที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล  เรื่องพลกำลังเนี่ยมหาศาลจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้เลย

                    “ก็ปากลื้อมันเหม็นจนอั้วทนไม่ได้อ่ะน่อ”  

                    “นี่แก......”

                    ครืดดดด!! 

    “ตอนนี้อั้วหิวมาก  จะปล่อยลื้อไปก่อนละกันน่อ”  คางุระเดินไปเปิดประตูห้องก่อนจะเดินออกไปโดยที่ไม่สนใจชายหนุ่มเลย

    “ชิ...อีกนิดเดียวเองแท้ๆ” หลังจากที่คางุระเดินออกไปจนพ้นสายตาเขา  โซโกะจึงสบถกับตัวเองเบาๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×